เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ 1245 ใต้เท้าซูได้โปรดสงสาร / 1246 เมื่อความงามลดลง ความรักก็จืดจาง

Now you are reading เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ Chapter 1245 ใต้เท้าซูได้โปรดสงสาร / 1246 เมื่อความงามลดลง ความรักก็จืดจาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1245 ใต้เท้าซูได้โปรดสงสาร

 

 

ซูหลีอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหัวเราะขึ้น

 

 

แน่นอนว่า นางถูกทำให้โมโหจนต้องหัวเราะออกมา

 

 

ตั้งแต่ชาติก่อนจนถึงชาตินี้ ในบรรดาสตรีที่นางคลุกคลีด้วยคนที่พูดจาตรงไปตรงมานั้น คนแรกคือเจียงโม่อวี้และคนที่สองคืออู๋โยวหราน!

 

 

สำหรับสตรีเช่นนี้ มีชื่อเรียกว่า ดอกบัวขาว!

 

 

ภายนอกดูน่าสงสารอ่อนแอ ทว่าเมื่อเปิดปากพูดกับร้องขอคำพูดเช่นนี้ออกมา

 

 

ใบหน้าของซูหลีเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน นางเดินเข้าไปใกล้อู๋โยวหรานสองก้าว มอบอย่างเฉยเมยแล้วเอ่ยว่า “แม่นางอู๋ ที่เจ้าเรียกข้ามาในวันนี้ก็เพื่อพูดเรื่องนี้หรือ”

 

 

เมื่ออู๋โยวหรานได้ยินน้ำเสียงที่มีความเย้ยหยัน ใบหน้าจึงเริ่มแดงก่ำ ทว่าซูหลีไม่ใช่อะไรก็รู้ทุกเรื่อง จึงไม่รู้ว่าท่าทางที่นางแสดงออกมานี้ เป็นความละอายใจหรือความโกรธกันแน่!

 

 

“ท่านพี่ซู!” เมื่อเห็นว่าใบหน้าของซูหลีเริ่มหมดความอดทน อาจถึงขั้นสาวเท้าออกจากที่นี่ได้ทุกเมื่อ อู๋โยวหรานอดกลั้นต่อไปไม่ไหว นางคลานเข้าไปหาซูหลี และเอ่ยด้วยใบหน้าที่น่าเวทนาว่า

 

 

“ข้าขอเอ่ยอย่างไม่ปิดบัง ที่โยวหรานมาพระราชวังในครานี้ เป็นผลจากการที่คนในครอบครัวได้ทำข้อตกลงกับไทเฮาเหนียงเหนียงแล้ว หากโยวหรานไม่อาจอยู่ข้างพระวรกายฮ่องเต้ได้ เกรงว่าแม้แต่บ้านก็คงจะกลับไปไม่ได้แล้ว! ท่านพี่ได้โปรดสงสารโยวหรานด้วยเถิด!”

 

 

ขณะที่อู๋โยวหรานพูด ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และถึงขั้นอดทนต่อไปไม่ไหวจนจะร้องไห้ออกมา

 

 

ซูหลีเห็นท่าทีที่นางแสดงออกมา ทว่าซูหลีไม่ได้พูดออกมาในทันที

 

 

ในโลกนี้มีหลายคนที่เป็นเช่นนี้ นางคิดว่าตนเองอ่อนแอ และความอ่อนแอนี้มีเหตุผลมากพอที่จะผู้ที่แข็งแกร่งกว่ายอมถอยให้แก่นาง!

 

 

“ทางด้านโยวหรานนั้น แค่คิดท่านพี่ก็พอจะเห็นแล้วว่า สกุลอู๋ก็แค่สกุลอู๋ ทว่าไม่ใช่สกุลจี้ที่มีชื่อเสียงขจรกว้างไกล ชีวิตของโยวหรานนั้นยากลำบากมาตั้งแต่เด็ก ในครอบครัวมีน้องๆ หลายคนในครอบครัว โยวหรานไม่อาจแบกรับภาระเหล่านี้ต่อไปได้! ขอเพียงแค่! ขอเพียงแค่โยวหรานสามารถอยู่ข้างพระวรกายฮ่องเต้ได้สำเร็จ เช่นนั้น…”

 

 

มีประกายแวววาวพาดผ่านในดวงตาของนาง ทันใดนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นมองซูหลีด้วยความคาดหวัง

 

 

“ท่านพี่ซูได้โปรดสงสารข้าเถิด ขอให้ข้าเข้าไปอยู่ในวังหลังเถิด! ท่านพี่ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ข้าสามารถเข้าไปอยู่ในวังหลวงแล้ว ต่อไปโยวหรานจะเป็นคนของท่านพี่ และจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านพี่ทุกอย่าง!”

 

 

เมื่อเห็นว่าซูหลีไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมา อู๋โยวหรานผู้นั้นก็ขาดเพียงตบอกตนเองเพื่อรับองกับซูหลีเท่านั้น

 

 

“มีเหนียงเหนียงหลายคนในวังหลวง โยวหรานไม่ขออะไรมากและไม่บังอาจที่จะคาดหวังตำแหน่งที่สูงเกินไป โยวหรานรู้ดีว่าการต่อสู้ในวังหลังนั้นรุนแรงดุเดือด และบัดนี้ท่านพี่ซูก็เป็นที่จับตามองมา ข้างกายก็ขาดผู้ช่วยอยู่เคียงข้าง! ท่านพี่ซู โยวหรานเต็มใจเจ้าค่ะ!”

 

 

“ขอเพียงแค่ท่านพี่ให้ห้โอกาสโยวหราน วันข้างหน้าโยวหรานจะไม่ลืมพระคุณที่ท่านพี่คอยสนับสนุนโยวหรานเป็นแน่!”

 

 

พูดจบนางก็ก้มศีรษะลง หมอบอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับตัว

 

 

ดูเหมือนว่า หากซูหลีจะไม่เห็นด้วยกับคำขอร้องของนาง นางก็ไม่มีวันจะลุกขึ้นมา

 

 

เดิมทีซูหลีคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ทว่าในเวลานี้กลับรู้สึกว่าน่าขันนัก

 

 

ใครบอกนางว่า ซูหลีต้องการความช่วยเหลือตอนนี้กัน? ใครบอกนางว่า ซูหลีจะเข้าวังหลังเพื่อต่อสู้กับสตรีกลุ่มนั้นกัน?

 

 

สตรีคนนี้คิดมากเกินไปแล้ว!

 

 

“แม่นางอู๋ รีบลุกขึ้นเถิด ข้าคงไม่สามารถช่วยเจ้าเรื่องนั้นได้” ซูหลีไม่ต้องการพูดอะไรกับนางให้มากความ คนที่มีความแตกต่างกัน ไม่อาจคบค้าสมาคมได้ สำหรับสตรีผู้นี้ นางไม่มีทางพูดคำพูดที่นางเคยพูดโน้มน้าวจิตใจที่นางเคยพูดกับเย่ว์ลั่วได้

 

 

สตรีผู้นี้มิเหมือนกับเย่ว์ลั่ว

 

 

ซูหลีไม่ใช่คนใจดี ที่จะมีใจคิดจะช่วยเหลือทุกคนที่นางพบเห็นไปทั่ว!

 

 

นางยุ่งมาก

 

 

หลังจากที่ซูหลีพูดจบก็ไม่อยากมองหน้าอู๋โยวหรานด้วยซ้ำ พร้อมเตรียมจะก้าวหน้าเดินออกไปจากที่นี่

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1246 เมื่อความงามลดลง ความรักก็จืดจาง

 

 

อู๋โยวหรานเห็นนางกำลังจะเดินออกไป ทันใดนั้นนางจึงกระโจนประชิดตัวด้านหน้าเหมือนคนบ้าเสียสติ ซูหลีถอยหลบออกมา ไม่ปล่อยให้อู๋โยวหรานรั้งตัวนางไว้ได้ และด้วยเพราะเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ นางจึงทรุดตัวนั่งยองลง

 

 

“ใต้เท้าซูคงจะไม่เชื่อใจโยวหรานใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นเอาเช่นนี้แล้วกัน โยวหรานได้ยินคนพูดกันว่า ท่านพี่มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม โยวหรานเต็มใจที่จะเป็นเครื่องมือของท่านพี่! ท่านพี่โปรดให้ยาแก่ข้าด้วยเถิด!”

 

 

ใบหน้านางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำพูดในช่วงท้ายสุดยังมีความมุ่งมั่น อีกทั้งนางยังจ้องมองไปที่ซูหลีโดยไม่หลบตา

 

 

ซูหลีหรี่ตาเล็กน้อย ในขณะนั้นนางยังไม่เข้าใจว่าอู๋โยวหรานพูดถึงสิ่งใดกัน

 

 

จากนั้นนางถึงได้มีท่าทีตอบสนอง ที่อู๋โยวหรานพูดมานั้นก็คือต้องการมอบยาให้นาง และใช้ยาตัวนี้ในการควบคุมอู๋โยวหรานผู้นี้ใช่หรือไม่

 

 

ซูหลีขมวดคิ้วแล้วจ้องไปที่อู๋โยวหราน ในเวลานี้นางไม่รู้ว่าตนควรจะพูดอะไรออกมาดี

 

 

“วิธีการนี้ ท่านพี่ซูคงจะวางใจแล้วใช่หรือไม่” อู๋โยวหรานเห็นซูหลีไม่ตอบ นางจึงกะพริบตาปริบๆ และมองไปทางซูหลีด้วยความจริงจัง

 

 

ซูหลีกวาดตามองนางปราดหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเฉยเมย ซูหลีพลันเอ่ยขึ้นว่า “เจ้ามีสิทธิ์อะไรคิดว่าเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคของเจ้า หรือเรื่องที่เจ้ารับปากว่าจะกระทำ แล้วข้าจะส่งเจ้าไปอยู่บนตักของบุรุษของข้า”

 

 

ซูหลีมักเป็นคนพูดตรงไปตรงมามาโดยตลอด เวลานี้ก็เช่นเดียวกัน

 

 

เมื่อถูกนางพูดตรอกหน้า ใบหน้าของอู๋โยวหรานก็พลันซีดขาวขึ้นทันใด

 

 

“ทะ ท่าน”

 

 

“อย่าเรียกข้าว่าพี่สาว โดยพื้นฐานแล้วข้ากับเจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย เจ้าเอ่ยคำว่าพี่สาวออกมาได้เต็มปากเต็มคำ ใครเป็นพี่สาวของเจ้ากัน” ซูหลีพูดขัดจังหวะนางอย่างไม่สบอารมณ์

 

 

เดิมทีนางไม่อยากพูดอะไรกับอู๋โยวหรานแล้ว ทว่าการกระทำของอู๋โยวหรานเช่นนี้ เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจโดยแท้

 

 

“การแก่งแย่งชิงดีกันในวังหลังจะเป็นอย่างไร ฮองเฮาในอนาคตจะเป็นใคร ข้าไม่สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย! เจ้าเห็นข้าเข้าไปเป็นสนมในวังหลังตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แม่นางอู๋ ไม่มีใครบอกเจ้าหรือว่าตำแหน่งของข้าคืออะไร”

 

 

ใบหน้าของอู๋โยวหรานซีดเผือด ทว่าซูหลีเหมือนกับไม่เห็นท่าทางของนางมิปาน นางสาวเท้าก้าวไปด้านหน้าหลายก้าว จากนั้นยืนค้ำศีรษะอู๋โยวหรานเอาไว้ แล้วพูดเน้นทีละคำว่า

 

 

“เจ้าฟังให้ดี ข้าคือทั่นฮวาหลางของราชวงศ์ต้าโจว เป็นไท่จื่อเซ่าซือที่ได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้!” พูดถึงตรงนี้จึงหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แสยะยิ้มแล้วเอ่ยว่า

 

 

“ตำแหน่งเหล่านี้ ข้าล้วนอาศัยน้ำพักน้ำแรงของข้าไขว่คว้ามา หาได้เกี่ยวข้องกับการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นในวังหลังเลยแม้แต่น้อย!”

 

 

“ตุบ!” อู๋โยวหรานทรุดตัวล้มลงบนพื้น ใบหน้าของนางซีดเผือดและมัวหมองลงไปอย่างเห็นชัด

 

 

ยามอยู่ต่อหน้าคนที่แข็งแกร่งอย่างซูหลี ยิ่งทำให้นางกลายเป็นคนที่พ่ายแพ้อย่างราบคาบโดยแท้จริง

 

 

เรื่องนี้จะโทษนางได้อย่างไร หากจะโทษก็ต้องโทษที่ซูหลีเป็นคนประหลาดเช่นนี้!

 

 

ในโลกใบนี้ล้วนสอนสตรีให้เป็นคนดีและสุภาพเชื่อฟัง งดงามมีมารยาท ทั้งยังสามารถทำให้บุรุษพึงพอใจนี่ถึงจะเป็นรากฐานของจุดยืนของพวกนาง

 

 

ทว่าซูหลีผู้นี้กลับมิได้อาศัยสิ่งใดทั้งสิ้น คนที่สามารถก้าวเดินไปสู่ตำแหน่งในปัจจุบันนี้ เกรงว่าราชวงศ์ต้าโจวจะหาคนที่สองไม่ได้แล้วกระมัง

 

 

อู๋โยวหรานไม่คิดว่าเรื่องที่ตนขอนั้นแปลกประหลาดนัก ถ้าจะโทษก็ต้องโทษซูหลีที่มีสายตาที่สูงส่งเกินไป มิได้เห็นผู้อื่นในสายตาหรอกกระมัง!

 

 

“แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ใต้เท้าซูรู้สึกว่าฮ่องเต้จะทรงโปรดปรานท่านเช่นนี้ตลอดไปหรือ บุรุษทุกคนบนโลกใบนี้ใครจะลิ้มลองของใหม่และรังเกียจของเก่า ใต้เท้าซูใกล้ชิดพระวรกายของฮ่องเต้ยังไม่นานนัก ท่านคิดว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดชีวิตหรือ”

 

 

เมื่อความงามของท่านลดลงความรักก็จืดจางลงไปด้วย อู๋โยวหรานรู้สึกว่าหลักการนี้ใช้ได้กับสตรีทุกคน จากที่นางดูแล้ว ที่ซูหลีมีความภาคภูมิใจในเวลานี้ ล้วนเป็นเพราะฉินเย่หานยอมที่จะโปรดปรานนาง รักนาง ถ้าหากวันหนึ่งความโปรดปรานเช่นนี้ไม่หลงเหลือแล้วเล่า

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ 1245 ใต้เท้าซูได้โปรดสงสาร / 1246 เมื่อความงามลดลง ความรักก็จืดจาง

Now you are reading เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ Chapter 1245 ใต้เท้าซูได้โปรดสงสาร / 1246 เมื่อความงามลดลง ความรักก็จืดจาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1245 ใต้เท้าซูได้โปรดสงสาร

 

 

ซูหลีอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหัวเราะขึ้น

 

 

แน่นอนว่า นางถูกทำให้โมโหจนต้องหัวเราะออกมา

 

 

ตั้งแต่ชาติก่อนจนถึงชาตินี้ ในบรรดาสตรีที่นางคลุกคลีด้วยคนที่พูดจาตรงไปตรงมานั้น คนแรกคือเจียงโม่อวี้และคนที่สองคืออู๋โยวหราน!

 

 

สำหรับสตรีเช่นนี้ มีชื่อเรียกว่า ดอกบัวขาว!

 

 

ภายนอกดูน่าสงสารอ่อนแอ ทว่าเมื่อเปิดปากพูดกับร้องขอคำพูดเช่นนี้ออกมา

 

 

ใบหน้าของซูหลีเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน นางเดินเข้าไปใกล้อู๋โยวหรานสองก้าว มอบอย่างเฉยเมยแล้วเอ่ยว่า “แม่นางอู๋ ที่เจ้าเรียกข้ามาในวันนี้ก็เพื่อพูดเรื่องนี้หรือ”

 

 

เมื่ออู๋โยวหรานได้ยินน้ำเสียงที่มีความเย้ยหยัน ใบหน้าจึงเริ่มแดงก่ำ ทว่าซูหลีไม่ใช่อะไรก็รู้ทุกเรื่อง จึงไม่รู้ว่าท่าทางที่นางแสดงออกมานี้ เป็นความละอายใจหรือความโกรธกันแน่!

 

 

“ท่านพี่ซู!” เมื่อเห็นว่าใบหน้าของซูหลีเริ่มหมดความอดทน อาจถึงขั้นสาวเท้าออกจากที่นี่ได้ทุกเมื่อ อู๋โยวหรานอดกลั้นต่อไปไม่ไหว นางคลานเข้าไปหาซูหลี และเอ่ยด้วยใบหน้าที่น่าเวทนาว่า

 

 

“ข้าขอเอ่ยอย่างไม่ปิดบัง ที่โยวหรานมาพระราชวังในครานี้ เป็นผลจากการที่คนในครอบครัวได้ทำข้อตกลงกับไทเฮาเหนียงเหนียงแล้ว หากโยวหรานไม่อาจอยู่ข้างพระวรกายฮ่องเต้ได้ เกรงว่าแม้แต่บ้านก็คงจะกลับไปไม่ได้แล้ว! ท่านพี่ได้โปรดสงสารโยวหรานด้วยเถิด!”

 

 

ขณะที่อู๋โยวหรานพูด ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และถึงขั้นอดทนต่อไปไม่ไหวจนจะร้องไห้ออกมา

 

 

ซูหลีเห็นท่าทีที่นางแสดงออกมา ทว่าซูหลีไม่ได้พูดออกมาในทันที

 

 

ในโลกนี้มีหลายคนที่เป็นเช่นนี้ นางคิดว่าตนเองอ่อนแอ และความอ่อนแอนี้มีเหตุผลมากพอที่จะผู้ที่แข็งแกร่งกว่ายอมถอยให้แก่นาง!

 

 

“ทางด้านโยวหรานนั้น แค่คิดท่านพี่ก็พอจะเห็นแล้วว่า สกุลอู๋ก็แค่สกุลอู๋ ทว่าไม่ใช่สกุลจี้ที่มีชื่อเสียงขจรกว้างไกล ชีวิตของโยวหรานนั้นยากลำบากมาตั้งแต่เด็ก ในครอบครัวมีน้องๆ หลายคนในครอบครัว โยวหรานไม่อาจแบกรับภาระเหล่านี้ต่อไปได้! ขอเพียงแค่! ขอเพียงแค่โยวหรานสามารถอยู่ข้างพระวรกายฮ่องเต้ได้สำเร็จ เช่นนั้น…”

 

 

มีประกายแวววาวพาดผ่านในดวงตาของนาง ทันใดนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นมองซูหลีด้วยความคาดหวัง

 

 

“ท่านพี่ซูได้โปรดสงสารข้าเถิด ขอให้ข้าเข้าไปอยู่ในวังหลังเถิด! ท่านพี่ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ข้าสามารถเข้าไปอยู่ในวังหลวงแล้ว ต่อไปโยวหรานจะเป็นคนของท่านพี่ และจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านพี่ทุกอย่าง!”

 

 

เมื่อเห็นว่าซูหลีไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมา อู๋โยวหรานผู้นั้นก็ขาดเพียงตบอกตนเองเพื่อรับองกับซูหลีเท่านั้น

 

 

“มีเหนียงเหนียงหลายคนในวังหลวง โยวหรานไม่ขออะไรมากและไม่บังอาจที่จะคาดหวังตำแหน่งที่สูงเกินไป โยวหรานรู้ดีว่าการต่อสู้ในวังหลังนั้นรุนแรงดุเดือด และบัดนี้ท่านพี่ซูก็เป็นที่จับตามองมา ข้างกายก็ขาดผู้ช่วยอยู่เคียงข้าง! ท่านพี่ซู โยวหรานเต็มใจเจ้าค่ะ!”

 

 

“ขอเพียงแค่ท่านพี่ให้ห้โอกาสโยวหราน วันข้างหน้าโยวหรานจะไม่ลืมพระคุณที่ท่านพี่คอยสนับสนุนโยวหรานเป็นแน่!”

 

 

พูดจบนางก็ก้มศีรษะลง หมอบอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับตัว

 

 

ดูเหมือนว่า หากซูหลีจะไม่เห็นด้วยกับคำขอร้องของนาง นางก็ไม่มีวันจะลุกขึ้นมา

 

 

เดิมทีซูหลีคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ทว่าในเวลานี้กลับรู้สึกว่าน่าขันนัก

 

 

ใครบอกนางว่า ซูหลีต้องการความช่วยเหลือตอนนี้กัน? ใครบอกนางว่า ซูหลีจะเข้าวังหลังเพื่อต่อสู้กับสตรีกลุ่มนั้นกัน?

 

 

สตรีคนนี้คิดมากเกินไปแล้ว!

 

 

“แม่นางอู๋ รีบลุกขึ้นเถิด ข้าคงไม่สามารถช่วยเจ้าเรื่องนั้นได้” ซูหลีไม่ต้องการพูดอะไรกับนางให้มากความ คนที่มีความแตกต่างกัน ไม่อาจคบค้าสมาคมได้ สำหรับสตรีผู้นี้ นางไม่มีทางพูดคำพูดที่นางเคยพูดโน้มน้าวจิตใจที่นางเคยพูดกับเย่ว์ลั่วได้

 

 

สตรีผู้นี้มิเหมือนกับเย่ว์ลั่ว

 

 

ซูหลีไม่ใช่คนใจดี ที่จะมีใจคิดจะช่วยเหลือทุกคนที่นางพบเห็นไปทั่ว!

 

 

นางยุ่งมาก

 

 

หลังจากที่ซูหลีพูดจบก็ไม่อยากมองหน้าอู๋โยวหรานด้วยซ้ำ พร้อมเตรียมจะก้าวหน้าเดินออกไปจากที่นี่

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1246 เมื่อความงามลดลง ความรักก็จืดจาง

 

 

อู๋โยวหรานเห็นนางกำลังจะเดินออกไป ทันใดนั้นนางจึงกระโจนประชิดตัวด้านหน้าเหมือนคนบ้าเสียสติ ซูหลีถอยหลบออกมา ไม่ปล่อยให้อู๋โยวหรานรั้งตัวนางไว้ได้ และด้วยเพราะเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ นางจึงทรุดตัวนั่งยองลง

 

 

“ใต้เท้าซูคงจะไม่เชื่อใจโยวหรานใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นเอาเช่นนี้แล้วกัน โยวหรานได้ยินคนพูดกันว่า ท่านพี่มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม โยวหรานเต็มใจที่จะเป็นเครื่องมือของท่านพี่! ท่านพี่โปรดให้ยาแก่ข้าด้วยเถิด!”

 

 

ใบหน้านางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำพูดในช่วงท้ายสุดยังมีความมุ่งมั่น อีกทั้งนางยังจ้องมองไปที่ซูหลีโดยไม่หลบตา

 

 

ซูหลีหรี่ตาเล็กน้อย ในขณะนั้นนางยังไม่เข้าใจว่าอู๋โยวหรานพูดถึงสิ่งใดกัน

 

 

จากนั้นนางถึงได้มีท่าทีตอบสนอง ที่อู๋โยวหรานพูดมานั้นก็คือต้องการมอบยาให้นาง และใช้ยาตัวนี้ในการควบคุมอู๋โยวหรานผู้นี้ใช่หรือไม่

 

 

ซูหลีขมวดคิ้วแล้วจ้องไปที่อู๋โยวหราน ในเวลานี้นางไม่รู้ว่าตนควรจะพูดอะไรออกมาดี

 

 

“วิธีการนี้ ท่านพี่ซูคงจะวางใจแล้วใช่หรือไม่” อู๋โยวหรานเห็นซูหลีไม่ตอบ นางจึงกะพริบตาปริบๆ และมองไปทางซูหลีด้วยความจริงจัง

 

 

ซูหลีกวาดตามองนางปราดหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเฉยเมย ซูหลีพลันเอ่ยขึ้นว่า “เจ้ามีสิทธิ์อะไรคิดว่าเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคของเจ้า หรือเรื่องที่เจ้ารับปากว่าจะกระทำ แล้วข้าจะส่งเจ้าไปอยู่บนตักของบุรุษของข้า”

 

 

ซูหลีมักเป็นคนพูดตรงไปตรงมามาโดยตลอด เวลานี้ก็เช่นเดียวกัน

 

 

เมื่อถูกนางพูดตรอกหน้า ใบหน้าของอู๋โยวหรานก็พลันซีดขาวขึ้นทันใด

 

 

“ทะ ท่าน”

 

 

“อย่าเรียกข้าว่าพี่สาว โดยพื้นฐานแล้วข้ากับเจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย เจ้าเอ่ยคำว่าพี่สาวออกมาได้เต็มปากเต็มคำ ใครเป็นพี่สาวของเจ้ากัน” ซูหลีพูดขัดจังหวะนางอย่างไม่สบอารมณ์

 

 

เดิมทีนางไม่อยากพูดอะไรกับอู๋โยวหรานแล้ว ทว่าการกระทำของอู๋โยวหรานเช่นนี้ เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจโดยแท้

 

 

“การแก่งแย่งชิงดีกันในวังหลังจะเป็นอย่างไร ฮองเฮาในอนาคตจะเป็นใคร ข้าไม่สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย! เจ้าเห็นข้าเข้าไปเป็นสนมในวังหลังตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แม่นางอู๋ ไม่มีใครบอกเจ้าหรือว่าตำแหน่งของข้าคืออะไร”

 

 

ใบหน้าของอู๋โยวหรานซีดเผือด ทว่าซูหลีเหมือนกับไม่เห็นท่าทางของนางมิปาน นางสาวเท้าก้าวไปด้านหน้าหลายก้าว จากนั้นยืนค้ำศีรษะอู๋โยวหรานเอาไว้ แล้วพูดเน้นทีละคำว่า

 

 

“เจ้าฟังให้ดี ข้าคือทั่นฮวาหลางของราชวงศ์ต้าโจว เป็นไท่จื่อเซ่าซือที่ได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้!” พูดถึงตรงนี้จึงหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แสยะยิ้มแล้วเอ่ยว่า

 

 

“ตำแหน่งเหล่านี้ ข้าล้วนอาศัยน้ำพักน้ำแรงของข้าไขว่คว้ามา หาได้เกี่ยวข้องกับการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นในวังหลังเลยแม้แต่น้อย!”

 

 

“ตุบ!” อู๋โยวหรานทรุดตัวล้มลงบนพื้น ใบหน้าของนางซีดเผือดและมัวหมองลงไปอย่างเห็นชัด

 

 

ยามอยู่ต่อหน้าคนที่แข็งแกร่งอย่างซูหลี ยิ่งทำให้นางกลายเป็นคนที่พ่ายแพ้อย่างราบคาบโดยแท้จริง

 

 

เรื่องนี้จะโทษนางได้อย่างไร หากจะโทษก็ต้องโทษที่ซูหลีเป็นคนประหลาดเช่นนี้!

 

 

ในโลกใบนี้ล้วนสอนสตรีให้เป็นคนดีและสุภาพเชื่อฟัง งดงามมีมารยาท ทั้งยังสามารถทำให้บุรุษพึงพอใจนี่ถึงจะเป็นรากฐานของจุดยืนของพวกนาง

 

 

ทว่าซูหลีผู้นี้กลับมิได้อาศัยสิ่งใดทั้งสิ้น คนที่สามารถก้าวเดินไปสู่ตำแหน่งในปัจจุบันนี้ เกรงว่าราชวงศ์ต้าโจวจะหาคนที่สองไม่ได้แล้วกระมัง

 

 

อู๋โยวหรานไม่คิดว่าเรื่องที่ตนขอนั้นแปลกประหลาดนัก ถ้าจะโทษก็ต้องโทษซูหลีที่มีสายตาที่สูงส่งเกินไป มิได้เห็นผู้อื่นในสายตาหรอกกระมัง!

 

 

“แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ใต้เท้าซูรู้สึกว่าฮ่องเต้จะทรงโปรดปรานท่านเช่นนี้ตลอดไปหรือ บุรุษทุกคนบนโลกใบนี้ใครจะลิ้มลองของใหม่และรังเกียจของเก่า ใต้เท้าซูใกล้ชิดพระวรกายของฮ่องเต้ยังไม่นานนัก ท่านคิดว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดชีวิตหรือ”

 

 

เมื่อความงามของท่านลดลงความรักก็จืดจางลงไปด้วย อู๋โยวหรานรู้สึกว่าหลักการนี้ใช้ได้กับสตรีทุกคน จากที่นางดูแล้ว ที่ซูหลีมีความภาคภูมิใจในเวลานี้ ล้วนเป็นเพราะฉินเย่หานยอมที่จะโปรดปรานนาง รักนาง ถ้าหากวันหนึ่งความโปรดปรานเช่นนี้ไม่หลงเหลือแล้วเล่า

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+