เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ 783 ปาน / 784 หมดสติ

Now you are reading เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ Chapter 783 ปาน / 784 หมดสติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 783 ปาน

 

 

ซูหลีมองดูซูไท่ที่กำลังเกรี้ยวกราด และยังมีหลี่ซื่อที่กำลังบ้าคลั่ง นางพลันเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยว่า

 

 

“อย่าเพิ่งรีบร้อน ชุยตาน…”

 

 

“ขอรับ!” ชุยตานคำนับรอฟังคำสั่ง

 

 

“มาจัดการฉีกเสื้อผ้าเขาออกซะ!” ซูหลีใช้พัดสีทองในมือชี้ไปที่พ่อบ้านคนนั้น

 

 

“ซูหลี นี่เจ้าจะกระทำสิ่งใด เจ้าอย่าลืมว่าเจ้าก็เป็นสตรี การกระทำที่กล้าบ้าบิ่นเช่นนี้…” ซูเนี่ยนเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างคล้ายกับจับพิรุธของซูหลีได้มิปาน นางส่งเสียงร้องขึ้นในทันที

 

 

ทว่าซูหลีกับชุยตาน นายบ่าวสองคนนี้ก็ไม่เสวนากับนางเลยแม้แต่น้อย

 

 

ทันใดชุยตานก็ยกมือขึ้น!

 

 

“แควก!” เสื้อของพ่อบ้านคนนั้นถูกฉีกขาดจนเกิดเสียง

 

 

“อ้าย!” ซูเนี่ยนเอ๋อร์ผู้ที่สนใจเรื่องธรรมเนียมและความเขินอายที่สุดถึงกับร้องเสียงแหลม จากนั้นจึงหันหลังกลับไป ไม่มองแขนเปลือยเปล่าของพ่อบ้านคนนั้น

 

 

“นายท่าน นายท่านโปรดให้อภัยข้าน้อยขอรับ!” ร่างของพ่อบ้านผู้นั้นสั่นเทิ้ม ทันทีที่เขาคุกเข่าลงก็เห็นปานรูปพระจันทร์เสี้ยวที่บ่าของเขา

 

 

“หลี่ชุ่ยหลาน อย่าหาว่าข้าใส่ร้ายเจ้า!” ซูหลีโบกพัดในมือเล่น นางกวาดตามองไปที่ปานพระจันทร์เสี้ยวแล้วเอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็นว่า

 

 

“ชุยตาน อุ้มคุณชายน้อยมา!”

 

 

“ขอรับ!”

 

 

“เจ้าจะทำอะไร!? อ้า!!! นายท่าน!” หลี่ซื่อเห็นชุยตานเดินเข้ามา ปากก็ร้องโหวกเหวกโวยวาย อุ้มเด็กคนนั้นถอยไปด้านหลังหลายก้าว

 

 

ทว่าไม่ว่านางจะเก่งกาจอย่างไร ก็เป็นเพียงแค่สตรีคนหนึ่งเท่านั้น ไฉนจะสู้แรงของชุยตานได้กัน ชุยตานเดินเข้ามา แม้แต่จะพูดก็ยังขี้เกียจพูดกับหลี่ซื่อผู้นี้ เขายื่นมือไปแย่งชิงเด็กที่นางกอดอยู่คนนั้น

 

 

“ซูหลี! นี่เจ้าทำอะไร หรือเจ้าจะลอบฆ่าน้องแท้ๆ ของตนเอง?” ผมที่ถักเป็นเปียยาวของนางเปลี่ยนเป็นกลุ่มเป็นก้อนยุ่งเหยิง ในขณะที่กำลังหุนหันพลันแล่นก็เอ่ยประโยคออกมา

 

 

“น้องแท้ๆ?” ซูหลีแค่นยิ้มเย็นออกมา ซูหลีตวัดสายตามองไปที่หลี่ซื่อปราดหนึ่ง “นี่จักต้องคลอดออกมาเองถึงจะเป็นไปได้!”

 

 

“เจ้าต้องการกระทำสิ่งใดกัน หากเจ้ากล้าทำร้ายเฉิงเกอเอ๋อร์ ข้า…” ในเวลานี้ซูไท่ก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขามองซูหลีด้วยความโมโห

 

 

“ชุยตาน…” ทว่าซูหลีกลับขี้เกียจเสวนากับเขา นางเพียงโบกมือ

 

 

“แอ้!” หลังจากเสียงนางดังขึ้น กลับได้ยินเสียงร้องของเด็กดังขึ้น จากนั้นชุยตานก็ค่อยไปเปิดผ้าอ้อมที่ห่อเด็กเอาไว้ออก

 

 

“พวกเจ้าจะทำอะไร เฉิงเกอเอ๋อร์เป็นเพียงเด็กเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น!” หลี่ซื่อยังอยากพุ่งตัวเข้ามาแย่งชิงเด็กคนนี้ไว้ ทว่ากลับถูกข้ารับใช้ที่ชุยตานนำมาด้วยเหนี่ยวรั้งเอาไว้

 

 

“คุณหนู เรียบร้อยแล้วขอรับ” ชุยตานเปิดแขนข้างซ้ายของเด็กคนนั้น จากนั้นจึงละมือออกมาเด็กคนนั้น

 

 

ซูหลีเห็นดังนั้นจึงแสยะยิ้ม นางเดินไปตรงหน้าชุยตาน จากนั้นค่อยๆ คว้าแขนเล็กของเด็กคนนั้น จากนั้นจึงหันศีรษะไปทางซูไท่แล้วเอ่ยว่า

 

 

“ท่านพ่อดูเองก็แล้วกัน” สีหน้าของซูไท่ไม่น่าดูเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าซูหลีหมายความว่าอย่างไรกันแน่ แต่กลับหันศีรษะไปมองครู่หนึ่ง

 

 

และทันทีที่เขาเห็น สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงโดยฉับพลัน!

 

 

แขนซ้ายของเด็กคนนั้นมีปานพระจันทร์เสี้ยวเล็กๆ ปรากฏอยู่

 

 

ทั้งตำแหน่ง ลักษณะต่างๆ เหมือนกันพ่อบ้านที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นราวกับแกะ!

 

 

“ท่านพ่อคงรู้สึกแปลกกระมัง ใต้หล้านี้จะมีเรื่องพิลึกเช่นนี้อยู่อีก บุตรของท่านพ่อกับมีปานเหมือนกับพ่อบ้านราวกับแกะ อีกทั้งยังเกิดในตำแหน่งเดียวกัน ท่านพ่อคิดว่านี่เป็นเพราะเหตุใดกัน”

 

 

ซูหลีมองซูไท่ด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม แล้วเอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็น

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 784 หมดสติ

 

 

“มะ ไม่มีทางเป็นไปได้!” ซูไท่ยังพูดไม่จบ หลี่ซื่อพลันมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างฉับไว นางร้องเสียงแหลมก้าวถอยไปด้านหลังก้าวหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

 

 

“ซูหลี! นี่เจ้าจักต้องเจตนาให้คนมาโกหก เป็นไปได้อย่างไร จะเป็นไปได้อย่างไรกัน!?” หลี่ซื่อเรียงลำดับคำพูดไม่ถูกแล้ว นางเพียงกัดฟันแล้วเอ่ยว่าซูหลีเป็นคนใส่ร้ายนาง

 

 

ซูหลีไม่ปริปากเพียงจ้องมองนางด้วยรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม จากนั้นจึงเลิกคิ้วมองซูไท่แล้วเอ่ย

 

 

“ท่านพ่อ ตั้งแต่เฉิงเกอเอ๋อร์เกิดจนถึงบัดนี้ ลูกนั้นไม่ได้อยู่บ้าน ลูกไม่เคยแม้แต่จะอุ้มเฉิงเกอเอ๋อร์ นับประสาอะไรกับจะพูดถึงเรื่องนี้ อีกทั้งลูกได้ยินมาว่า หลี่ชุ่ยหลานนั้นเลี้ยงดูเฉิงเกอเอ๋อร์ด้วยตนเองตลอดนี่นา…”

 

 

“บัดนี้กลับกล่าวว่าข้าใช้ลูกไม้ตบตา ข้าไม่ยอมรับ มิหนำซ้ำปานนี้ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ท่านพ่อเพียงไปตรวจสอบด้วยตนเองก็ทราบแล้ว!”

 

 

ขณะที่พูดนางก็ถือโอกาสถอยไปด้านหลัง ไม่แม้แต่จะรั้งทารกคนนั้นไว้ เพียงบอกให้ซูไท่ไปตรวจสอบ

 

 

ใบหน้าของซูไท่เปลี่ยนเป็นดำคล้ำ เขาทำจิตใจให้มั่นคง หายใจเข้าลึกเฮือกหนึ่ง จากนั้นจึงดูปานพระจันทร์อย่างถี่ถ้วน หลังจากจ้องมอง เขาก็เข้าไปหาพ่อบ้านที่กำลังคุกเข่าอยู่คนนั้น และมองดูอย่างถี่ถ้วน

 

 

“นะ นายท่านโปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยขอรับ!” ทว่าทันทีที่เขาเดินเข้าไป ทั้งร่างของพ่อบ้านกลับสั่นงกๆ กลิ่นเหม็นสาบลอยออกมาเกินครึ่งห้อง ซูหลีเงยหน้ามองปราดหนึ่ง และพบว่าพื้นที่พ่อบ้านคุกเข่าอยู่ด้วยเปียกชื้นไปหมดแล้ว

 

 

นางแค่นยิ้มเย็นอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ คนผู้นี้ยามปีนขึ้นเตียงนายหญิงก็มีสติที่ชัดแจ้ง เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงบัดนี้ เขาจึงจะรู้สึกกลัว?

 

 

ช่างน่าสนใจจริงๆ

 

 

จะว่าไป เรื่องปานที่เหมือนกัน ไม่มีทางที่ซูหลีจะรับรู้ ที่จริงแล้วเด็กคนนั้นเกิดหลังจากนางออกจากเมืองหลวง นางยิ่งไม่มีทางที่จะทราบเรื่องนี้ได้ ทว่าก่อนที่นางจะออกมาจากคุกหลวง ขันทีใต้อาณัติของฉินเย่หานคนหนึ่งมาเผยเรื่องนี้ให้กับนาง

 

 

เขามาปล่อยนางออกไป ทว่าหลังจากประตูคุกหลวงเปิดออก ขันทีผู้นั้นกลับกระซิบคำพูดประโยคนี้ใกล้ใบหูของนาง

 

 

“ปานของพ่อบ้านในจวน!”

 

 

เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ ทว่าซูหลีเป็นใครกัน นางสามารถเข้าใจในทันที

 

 

ก่อนหน้านี้บางครานางได้รับรู้ที่มาประหลาดของเด็กคนนี้ ทว่าในเวลานั้นนางต้องออกจากเมืองหลวงเพื่อไปเจียงซี จึงยังไม่ทันได้กลับมาพิสูจน์ให้กับซูไท่

 

 

อีกทั้งเรื่องประเภทนี้ ไม่ได้อยู่ยุคปัจจุบัน ไม่สามารถตรวจสอบ DNA นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะพิสูจน์ได้ง่ายๆ

 

 

ยามที่ซูหลีทราบเรื่องระยะเวลาในการตั้งครรภ์ของหลี่ซื่อ ก็รู้สึกว่าไม่ตรงกับเวลาที่ซูไท่อยู่บ้าน ทว่านางก็คิดไม่ถึง

 

 

เมื่อครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน นางก็ทราบถึงจุดที่น่าสะพรึงกลัวของฉินเย่หานผู้นี้แล้ว

 

 

แม้แต่เรื่องส่วนตัวของครอบครัวขุนนางเช่นนี้ เขาก็ยังทราบ…

 

 

“เพี๊ยะ!” รอบข้างเกิดเสียงดังขึ้น จึงเป็นการดึงสติของซูหลีกลับมาอย่างรวดเร็ว

 

 

นางเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าหลี่ซื่อผู้นั้นถูกซูไท่ตบหน้าจนล้มไปกองที่พื้น ใบหน้าครึ่งซีกของหลี่ซื่อบวมแดง จนสามารถรับรู้ได้ว่าซูไท่ออกแรงเยอะมาก

 

 

“จะ เจ้ามันนางแพศยา กลับกล้ามีชู้ลับหลังข้า! เจ้า…” ซูหลีไม่เคยเห็นท่าทางโมโหขนาดนี้ของซูไท่มาก่อน หลังจากพูดไม่ถึงสองประโยค แข้งขาก็อ่อนยวบ ร่างทั้งร่างพลันเอนได้หลังและหมดสติไป!

 

 

“นายท่าน!” เหล่าข้ารับใช้ส่งเสียงร้องเบาๆ และรีบเข้าไปประคองซูไท่ไว้!

 

 

ซูไท่ไม่รู้สึกตัวแล้ว ใบหน้ายังคงแดงก่ำ

 

 

ซูหลีเห็นดังนั้นจึงขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้

 

 

“นายท่าน! นายท่านเป็นอะไรเจ้าคะ!” หลี่ซื่อมีท่าทีตอบสนองและเตรียมจะเข้าไปคว้ามือของซูไท่เอาไว้

 

 

“จับตัวนางไว้!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด