โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล 106

Now you are reading โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล Chapter 106 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

RC:บทที่ 106 ช่างน่ารักเสียจริง

“สุภาพกับผู้หญิงหน่อยสิ รู้ไหม?” หลินเฟิงพูดพร้อมกับยกชายที่สวมหน้ากากขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียว

“นายท่าน!”

เมื่อเจ้าแมงมุมยักษ์สีดำเห็นดังนั้นมันจึงรีบปล่อยผีเสื้อสามสีให้เป็นอิสระและหันมาเผชิญหน้ากับหลินเฟิง

โฮก!

เพียงแค่ได้ยินเสียงคำราม จากนั้นเงาดำก็ปรากฏออกมาจากหว่างคิ้วของหลินเฟิง มันเข้าจู่โจมราชาแมงมุมสีดำ จากนั้นก็กลับมาที่หว่างคิ้วของหลินเฟิง

ความเร็วของเงานั้นเร็วมากจนไม่มีใครสามารถค้นหาได้ มีเพียงมู่ซินซินและชายที่สวมหน้ากากที่ถูกดึงคอขึ้นมาเท่านั้นที่สามารถเห็นได้

พวกเขาไม่เห็นว่ามันคือตัวอะไร

เมื่อเงานั้นวูบไป จากนั้นก็ปรากฏมีรูขนาดใหญ่ปรากฎอยู่บนอกของราชาแมงมุมสีดำของชายที่สวมหน้ากาก ราชาแมงมุมสีดำยืนอยู่สองวินาทีจากนั้นนอนราบกับพื้นโดยไม่มีลมหายใจ

จากนั้นราชาแมงมุมสีดำก็กลายเป็นแสงสีดำและบินกลับไปที่คิ้วของชายที่สวมหน้ากาก และชายที่สวมหน้ากากก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด

ผู้คนพากันตกตะลึงในสิ่งที่เห็น เพราะว่าหลินเฟิงนั้นก็ไม่ได้กระดิกตัวเลยสักนิด มันช่างน่าเหลือเชื่อเสียจริง

จากนั้นหลินเฟิงก็บีบมือเข้าช้าๆ ทำให้ชายที่สวมหน้ากากกำลังจะขาดอากาศหายใจ

หลินเฟิงไม่ได้คิดจะฆ่าเขา  เขาเพียงแค่ต้องการจับชายคนนี้ส่งให้กับตำรวจ ดังนั้นหลินเฟิงจึงเพียงแค่ทำให้เขาสลบ

“ราชาแมงมุมสีดำ!” เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงปราบชายที่สวมหน้ากากได้อย่างง่ายดายโจรอีกสองคนก็พากันตกใจทันที

ลักษณะของหลินเฟิงทำให้แผนการตั้งแต่ต้นของพวกเขาหยุดชะงัก และทั้งสองก็เริ่มตื่นตระหนก ในขณะนี้ผู้คนสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าที่หนักและเป็นระเบียบมุ่งมาที่นี่

ไม่จำเป็นต้องเดา มันเป็นการสนับสนุนของกองกำลังรักษาความปลอดภัยสาธารณะ ในเวลานี้โจรทั้งสองนั้นระมัดระวังมากขึ้น

“ไปสิ!” พวกเขามองหน้ากัน และหนีไปทางซ้ายและขวา

ด้วยการกระโดดเพียงเล็กน้อยต่อหน้าตำรวจ พวกเขาก็สามารถข้ามหลังคาบ้านทั้งสองด้านและหนีไปทั้งสองด้าน

“นี่คุณมัวแต่มองอะไรกันอยู่? ไล่ตามไปสิ! ทางนั้นของคุณนะ ส่วนทางด้านฉัน! เสี่ยวค่าย ตามฉันมา!” ตำรวจหญิงเห็นโจรทั้งสองหลบหนีและจึงพูดเร่งหลินเฟิง และเธอก็ไม่ลืมที่จะเรียกผีเสื้อสามสีของเธอไปด้วย

“โอ้!” หลินเฟิงรู้สึกไม่พอใจและวิ่งไล่ตามเจ้าโจรอีกคน เขาแค่กำลังจะไปซื้อของ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีเรื่องอะไรแบบนี้

ถึงจะไม่พอใจอย่างไรก็ตามโจรก็ยังคงต้องไล่จับให้ได้ หลินเฟิงจึงไปอีกด้านหนึ่งของการไล่ล่า ความเร็วของหลินเฟิงนั้นเร็วมากกว่าโจรที่หนีไปกว่ามาก

ต้องขอบคุณเจ้ามังกรดำ เนื่องจากงูหลามดำพัฒนาเป็นมังกรดำดังนั้นทุกแง่มุมของหลินเฟิงจึงทรงพลังอย่างยิ่ง

ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพนั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า และความแข็งแกร่งทางวิญญาณในร่างกายนั้นเพิ่มขึ้นอย่างกับแม่น้ำที่เต็มไปด้วยพลังงานมารวมกัน

ถ้าลมปราณของหลินเฟิงก่อนหน้านี้เปรียบเป็นลำธาร ตอนนี้ลมปราณของหลินเฟิงนั้นก็เปรียบได้กับแม่น้ำ มันไม่เพียงแค่เพิ่มปริมาณแต่ยังเพิ่มคุณภาพอีกด้วย

ตอนนี้ชายที่สวมหน้ากากเป็นผู้มีพลังระดับB และสัตว์วิญญาณของเขาก็คือ ราชาแมงมุมสีดำที่ถูกมังกรดำเจาะเข้าไปโดยตรงก็เป็นสัตว์วิญญาณระดับกลางอย่างแท้จริงเช่นกัน

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ การผสมผสานที่ทรงพลังดังกล่าวถูกปราบอย่างง่ายดายโดยหลินเฟิงและเจ้ามังกรดำ

ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีที่ทำโดยมังกรดำโดยการเจาะที่หน้าอกของราชาแมงมุมสีดำจนเป็นรูขนาดใหญ่ เป็นการโจมตีที่หลินเฟิงมองเห็นไม่ชัดเจนนัก

“ต้นกำเนิดของเสี่ยวหลงคืออะไรนะ?” หลินเฟิงประหลาดใจ แต่ตอนนี้เขายังรู้สึกเหลือเชื่อเมื่อมองย้อนกลับไป

แต่ทั้งหมดนี้เป็นผลดีสำหรับหลินเฟิง แม้ว่ามังกรดำปฏิเสธที่จะบอกเขาเกี่ยวกับอดีตของตัวเอง แต่หลินเฟิงเชื่อว่าเขาจะรู้สักวันหนึ่ง

หลินเฟิงเดินตามลมหายใจของโจรไป และในไม่ช้าก็เห็นร่างนั้นวิ่งด้านหน้า

“หยุดนะ!” หลินเฟิงตะโกน

เมื่อชายคนนั้นเห็นว่าหลินเฟิงกำลังไล่ตามจับเขา เขาก็ยิ่งเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อที่จะหนีให้ได้

แต่ความเร็วของเขานั้นไม่ได้รวดเร็วเท่ากับความเร็วของหลินเฟิง

หลินเฟิงเองก็เร่งฝีเท้า เขากำลังจะจับโจรได้ในเร็วๆ นี้

เมื่อหลินเฟิงเกือบที่จะจับโจรได้แล้วนั้น ทันใดนั้นมีสายฟ้ากระพริบ มีเสียงฟ้าร้องและสายฟ้าที่น่ากลัวก็โอบอยู่รอบแขนของเขาและก็ฟาดมาที่หลินเฟิง

“เอ๋? จู่โจมอย่างฉันพลันงั้นหรือ?” หลินเฟิงเองกำหมัดของเขาด้วยเหมือนกัน

“หมัดเพลิง!” หลินเฟิงใช้ทักษะการต่อสู้ของเขาอีกครั้ง จริงๆ แล้วหลินเฟิงไม่ได้เก่งในทักษะนี้แต่เพราะเขารู้จักมันดีที่สุด

กำปั้นสีแดงเพลิงปะทุออกมาจากกำปั้นของหลินเฟิง หมัดของชายทั้งสองคนปะทะกัน

“จัดการมันซะ!” เสียงเบาๆ ดังขึ้น

คลื่นพลังงานที่น่ากลัวแตกออกมา หลินเฟิงยังคงยืนนิ่ง แต่โจรที่ชื่อเล่ยหวังได้ถอยห่างออกไปหลายเมตร

และมือของเขาสั่นเทาราวกับกำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส และในไม่ช้าเลือดหยดหนึ่งก็หยดลงพื้น

“เฮ้อ เกลียดจริงเชียว! ออกมา”เล่ยหวังรีบเรียกสัตว์นักสู้ของเขาออกมา นั่นคือมิงค์สีขาวอมสีฟ้า แม้ว่ามันจะดูตัวเล็กมาก แต่มันก็ถูกรายล้อมไปด้วยสายฟ้าที่น่ากลัว

มิงค์ตัวนั้นจ้องมาที่หลินเฟิงอย่างระมัดระวัง มันกางอุ้งมือของมันและทันใดนั้นก็มีแสงวาบมาใส่หลินเฟิงและมีเสียงฟ้าร้องที่น่ากลัว

หลินเฟิงเองก็ต้อนรับมันด้วยหมัดเพลิง ช่วยไม่ได้เลยเพราะหลินเฟิงนั้นมีก็มีทักษะการต่อสู้แค่อย่างเดียวจนถึงตอนนี้

ในขณะที่กำลังจะสัมผัสกับกรงเล็บของมิงค์ตัวนั้นหลินเฟิงรู้สึกได้ถึงความรู้สึกน่าสะพรึงกลัวและแขนของเขาก็เป็นอัมพาต

หลินเฟิงรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว แต่เจ้ามิงค์เรืองแสงนั้นยิ่งเร่งมุ่งเข้ามาโจมตีหลินเฟิง

โฮก!

ในเวลาเดียวกัน มังกรดำได้คำรามและเกือบพุ่งออกมา แต่มันก็ถูกหลินเฟิงห้ามไว้

“ฉันยังไม่ต้องการให้เจ้าช่วย ฉันอยากจะฝึกฝนไปในตัว!” หลินเฟิงถูมือของเขาและหักข้อนิ้วดังลั่น

“ขอฉันลองอีกสักตั้งเถอะนะ! หมัดเพล​ิง!”

คราวนี้หลินเฟิงปล่อยหมัดเพลิงพร้อมด้วยกำลังทั้งหมดของเขา ร่างกายทั้งหมดเต็มไปด้วยเปลวไฟเช่นเดียวกับราชาที่อยู่ท่ามกลางกองไฟ เมื่อกำปั้นออกมาเจ้ามิงค์เรืองแสงก็รู้สึกว่าสู้ไม่ได้และถอยร่นไปอย่างรวดเร็ว

แต่หลินเฟิงนั้นไม่ได้ให้โอกาสมันได้หนีไป เขาคว้าตัวมันไว้อย่างรวดเร็วและระดมหมัดเพลิงใส่มัน

เห็นได้เพียงแสงสีน้ำตาลเข้มที่หลินเฟิงปล่อยออกมาและจากนั้นก็ได้ยินเสียงโหยหวนของเจ้ามิงค์เรืองแสง และมันก็บินกลับเข้าในที่หว่างคิ้วของเล่ยหวัง

เจ้ามิงค์ของเล่ยหวังได้รับบาดเจ็บ โจรที่ชื่อเล่ยหวังอาเจียนออกมาเป็นเลือด ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

เนื่องจากมิงค์ขอวเบ่ยหวัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส สิ่งนี้ส่งผลต่อวิญญาณเจ้าของ ปากของเจ้าโจรเต็มไปด้วยเลือดและหมด​สติลง

หลินเฟิงจึงพาชายคนนี้กลับไป และในไม่ช้าหลินเฟิงก็กลับไปที่เดิม

ในตอนนี้นั้น มู่ซินซินได้กลับมาแล้ว แต่ไม่มีใครกลับมาด้วยเลยเห็นได้ชัดว่าเธอจับโจรอีกคนไม่ได้

“เอาล่ะ นี่คือเจ้าโจรที่ฉันจับได้ มันอยู่ในอาการโคม่าแต่ก็ยังไม่ถึงกับตาย!” หลินเฟิงโยนเจ้าโจรไปให้ตำรวจอีกคน

“แล้วเจ้าโจรที่คุณไล่ตามไปล่ะ?” หลินเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม

“วิ่งสิ มันวิ่งหนีไปแล้ว!” ตำรวจหญิงตอบด้วยความไม่พอใจ

หลินเฟิงรู้ดีว่าถ้าเธอต้องตอบคำถามมากไปกว่านี้เธอจะต้องอับอาย

“ถ้างั้นผมก็ไปก่อนล่ะนะ ลาก่อนคนสวย” พอพูดจบหลินเฟิงก็พร้อมที่จะจากไป

“แต่ว่า ฉันลืมพูดไปอย่างหนึ่ง…ที่ฉันสัมผัส… มันรู้สึกดีจริงๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด