โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล 220

Now you are reading โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล Chapter 220 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

RC:บทที่ 220 ทีมตรวจสอบมาเยือน

หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว หลิน เฟิงก็มาอยู่หน้าประตูหมู่บ้าน และผู้ใหญ่บ้านก็กำลังรอเขาอยู่ตรงนั้น ตรงหน้าพวกเขา ชาวบ้านทุกคนสวมเสื้อทักซิโด้ซึ่งผู้ใหญ่บ้านเป็นคนจัดทำขึ้นมา

เพื่อต้อนรับผู้คนที่จะเข้ามาตรวจสอบและให้คะแนน

“ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ แล้วคนตรวจสอบมาถึงที่นี่แล้วหรือยัง” หลิน เฟิงถามขึ้น

“ยังไม่มา นี่แค่เก้าโมงห้าสิบห้านาที เดี๋ยวก็คงมาแล้วล่ะ” ผู้ใหญ่บ้านว่าขึ้นด้วยท่าทางที่ดูตื่นเต้น

“ผมล่ะสงสัย ว่าคุณตื่นเต้นอะไรมากขนาดนั้นน่ะครับ ก็แค่มาตรวจเอง” หลิน เฟิงว่าขึ้น

“นายน่ะไม่รู้อะไร ฉันจะบอกอะไรให้นะ เสี่ยวเฟิง ครั้งนี้นายต้องช่วยฉัน เพราะมีคนบอกมาว่าในเมืองน่ะมีตำแหน่งดีๆอยู่ ท่านผู้นำในเมืองนั้นอายุมากและกำลังจะเกษียณในเร็วๆนี้ เราทุกคนต่างรอคอยตำแหน่งนั้นนั่นล่ะ” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวอย่างตื่นเต้น

“อ๋อ เข้าใจแล้ว มิน่าล่ะคุณถึงได้ยึดติดกับการประเมินหมู่บ้านนี้นัก ที่แท้ก็คำนวณไว้แล้วนี่เอง” หลิน เฟิงเอ่ยขึ้นพลางบุ้ยปาก

“นี่ เสี่ยวเฟิง ถ้าฉันเข้าไปอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ นายคิดจะทำอะไรต่อไป มันก็สะดวกขึ้นไม่ใช่หรือ” ผู้ใหญ่บ้านเดินเข้ามาหาหลิน เฟิงก่อนจะกระซิบ

“อืม ก็จริงครับ แต่สงสัยจังว่าตำแหน่งผู้นำอาวุโสนั่นคือตำแหน่งอะไร ใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือครับ ยิ่งไปกว่านั้น คุณมีอำนาจในตำแหน่งราชการด้วยหรือ” หลิน เฟิงสงสัย

“นายก็แค่ช่วยฉันเรื่องประเมินหมู่บ้านนี่ไง ส่วนเรื่องอื่นน่ะไม่ต้องห่วง ฉันมีวิธีของฉัน” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวขึ้น

“นายก็รู้ว่าเดิมทีฉันไม่ได้เป็นคนในหมู่บ้านลั่วหยางอยู่แล้ว แต่ถูกย้ายมาตอนหลังต่างหาก จริงๆแล้วฉันเองก็เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในเมืองอยู่หลายปีนะ ตำแหน่งก็ไม่ได้เล็กไม่ได้ใหญ่อะไร แต่มาตอนหลังฉันทำเรื่องผิดพลาดขึ้นมาก็เลยโดนย้ายกลับมาที่นี่เพื่อให้เป็นเลขานุการของหมู่บ้านและผู้ใหญ่บ้านนี่ล่ะ รู้ไว้ซะด้วย” ผู้ใหญ่บ้านว่าขึ้นพลางขยิบตาให้กับหลิน เฟิง

“อ๋อ เข้าใจละ ดูเหมือนว่าช่องทางเครือข่ายของผู้ใหญ่บ้านนี่จะซับซ้อนพอดูนะครับ” หลิน เฟิงกล่าวพลางยิ้มๆ

ตอนที่หลิน เฟิงยังเด็กมากๆ เขารู้เพียงผู้ใหญ่บ้านคือผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลหมู่บ้าน

แต่เขาไม่รู้ว่าผู้ใหญ่บ้านยังทำหน้าที่เป็นเลขานุการประจำหมู่บ้านด้วย โดยเลขาประจำหมู่บ้านนั้นจะมีหน้าที่ดูแลไม่ใช่แค่หมู่บ้านลั่วหยางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหมู่บ้านข้างเคียงด้วย

เขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่ในเมือง แต่ทำอะไรผิดพลาดเลยถูกย้ายมาที่นี่ซึ่งเป็นที่รวมข้อมูลมากมาย

อย่างแรกเลย ถ้าคุณได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งใหญ่โตในเมือง ความเป็นมาของผู้ใหญ่บ้านคนก่อนจะต้องไม่ออกมาแย่ และถ้าไม่ทำเรื่องผิดพลาดรวมถึงไม่ได้ติดคุก คุณก็จะถูกย้ายมาที่นี่ในตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าที่มาของผู้ใหญ่บ้านคนนี้นั้นไม่ธรรมดา โดยทั่วไปแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ทำอะไรผิดจะต้องเข้าคุก และมีไม่กี่คนที่จะได้ออกมา

“ฮ่าๆ และหลักฐานที่นายสามารถยืนยันได้ว่าพวกเราจะเข้ารอบสามอันดับแรกของการประเมินหมู่บ้านในตอนนี้ อาจจะเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าฉันจะถูกย้ายกลับหรือไม่ด้วยก็ได้ นั่นคือเหตุผลที่ฉันทั้งตื่นเต้นและกระวนกระวายอยู่นี่ไง” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวขึ้น

“เอ่อ ผมเองก็ยืนยันไม่ได้ว่าจะได้ที่หนึ่งหรอกนะครับ แต่ถ้าเป็นสามอันดับแรกล่ะก็ได้แน่” หลิน เฟิงว่าขึ้น

ผู้คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านลั่วหยางมีนามสกุลหลิน นามสกุลของผู้ใหญ่บ้านก็คือหลิว หยวนจี้ เขาถูกย้ายมาตอนที่หลิน เฟิงอายุประมาณสิบขวบ ในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงยังเด็กอยู่เลยจำอะไรได้ไม่ดีนัก

ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่หลิว หยวนจี้พูด เมื่อเขาได้เข้าไปในเมือง เส้นทางสายอาชีพและช่องทางติดต่อสำหรับหลิน เฟิงก็จะกว้างขึ้นอีก

สังคมในทุกวันนี้ รัฐบาลกับธุรกิจไม่มีความสัมพันธ์กัน แม้ว่าจะมีสินค้าดีๆหรือให้บริการดีๆ คุณก็ไม่สามารถทำมันโดยไม่ต้องขอได้

จากระยะไกล กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินมาอย่างช้าๆ

“ว้าว ท่านผู้นำซ่ง หมู่บ้านนี้ต่างจากเดิมนิดหน่อยนะครับ เข้ามาแล้วรู้สึกผ่อนคลายและก็มีความสุขจังเลย” หนึ่งในกลุ่มคนที่เดินกันมาเรียงรายในฐานะผู้มาตรวจสอบคะแนน ว่าขึ้น

“ใช่ๆ ดูดอกไม้พวกนี้สิ ไหนจะพืช ไหนจะต้นไม้รอบๆอีก รู้สึกได้เลยว่าอากาศที่นี่สดชื่นมากเลย”

“ไม่ใช่แค่นั้นนะ ยังมีสัตว์เล็กๆอีกมากมายอย่างนก กระรอก ผีเสื้อ พวกมันกล้าเข้ามาใกล้เราด้วย พระเจ้า มันมหัศจรรย์จริงๆ” เด็กสาวตัวน้อยว่าขึ้น

คนที่เดินนำหน้าคือผู้นำสูงวัยชื่อซ่ง ซึ่งเป็นผู้นำชราที่เคยเข้ามาแบบกระทะหันเพื่อตรวจสอบเมื่อครั้งก่อน

“ใช่เลย ขอบอกเลยนะว่านี่เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ดีที่สุดในความเห็นของฉันเลย และต้องติดสิบอันดับแรกด้วย” ผู้นำซ่งเอ่ยชม

“นี่ ท่านผู้เฒ่า ดูท่านมั่นใจมากเลยนะครับ ในปีที่ผ่านมานี้ มีหลายหมู่บ้านที่เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องธรรมชาติแล้วล่ะครับ ทั้งการปลูกผลไม้ ดอกไม้ ในจังหวัดGของเรามีไปแล้วกี่หมู่บ้านล่ะแบบนั้น การติดสิบอันดับแรกน่ะไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ” ชายที่อยู่ใกล้เขาเอ่ยขึ้น

“ฉันไม่รู้จะพูดอะไรกับนายดีแล้วล่ะตอนนี้ ไว้เดี๋ยวนายก็จะรู้เอง ครั้งก่อนที่ฉันมาที่นี่ ฉันรู้สึกว่าหมู่บ้านนี้เป็นเหมือนสวรรค์เลยล่ะ พอเข้าไปในหมู่บ้านแล้วก็รู้สึกว่าร่างกายและจิตใจของฉันได้รับการชำระล้าง” ผู้ใหญ่บ้านสูงวัยว่าขึ้น

“ศักดิ์สิทธิ์ขนาดนั้นเชียวหรือครับ ทีหลังผมคงต้องขอไปดูให้ละเอียดสักหน่อย ” ชายคนดังกล่าวว่าขึ้น

“คุณปู่คะ หมู่บ้านที่อยู่ข้างหน้าเรานี่จะยืนยันเรื่องความเห็นของเราได้ใช่ไหมคะ” ในตอนนั้นเอง ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหลังก่อนจะพูดออกมา

ผู้หญิงคนนี้สวมหมวกกันแดดสีขาว ใบหน้าสวย สวมกระโปรงสั้น ผิวขาวของเธอชื้นเหงื่อเล็กน้อยเพราะเดินทางมาซึ่งนั่นยิ่งขับให้แดงเลือดฝาดและดูสวยขึ้นไปอีก

เธอเป็นหลานของผู้นำตระกูลซ่ง อายุ 18-19 ปี ยังสาวยังสวย แล้ววันนี้ เมื่อเห็นว่าท่านผู้นำตระกูลซ่งยืนกรานเรื่องความคิดเห็นของตนแล้วนั้น เธอจึงได้ตามมา

“ใช่แล้วล่ะ ปู่รู้สึกว่าหมู่บ้านนี้แตกต่างจากที่มาครั้งก่อนมาก จนปู่อยากใช้ชีวิตที่เหลือมาอยู่ที่นี่เลย” ซ่งว่าขึ้น

“ว้าว ชักอยากเห็นแล้วสิว่าหมู่บ้านนั้นจะเป็นยังไง ถึงได้ทำให้คุณปู่อารมณ์ดีได้มากขนาดนี้”

เด็กสาวตัวน้อยกล่าวอย่างมีความสุข พลางกระโดดไปมา โดยลืมความเหนื่อยล้าจากการมองเส้นทางไปเลย

“เฮ้อ มาถึงซักที”

“ดูนั่น พวกผู้ตรวจสอบมาถึงแล้ว”

“ดูนั่นสิๆ คนเยอะแยะเลยค่ะ น่าจะมากกว่า 100 คนเลยนะน่ะ” เด็กหญิงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาในชุดทักซิโด้เอ่ยกระซิบ

“เสี่ยวเฟิง ไปกันเถอะ ไปพบพวกเขากัน” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวขึ้นพลางนำหลิน เฟิงไป

“ยินดีต้อนรับค่ะๆ” เด็กสาวที่อยู่แถวหน้าใส่ชุดเดรส พลางโบกมือไปมาอย่างสดใส รวมถึงชาวบ้านที่อยู่ข้างหลังต่างก็ปรบมือเพื่อเป็นการต้อนรับพวกเขา

“ว้าว เป็นพิธีต้อนรับที่ยอดเยี่ยมอะไรแบบนี้ ชาวบ้านพวกนี้ดูกระตือรือร้นเสียจริง” บางคนเมื่อได้เห็นแบบนั้นก็พูดขึ้น

“ฮ่าๆ ครั้งนี้รู้สึกว่าที่หมู่บ้านนี้จะดูสวยขึ้นนะ ก่อนที่ฉันจะเข้าไป ก็รู้สึกผ่อนคลายสุดๆแล้ว เหมือนกับว่ารูขุมขนทั้งตัวกำลังขยายออกเลย” เพียงเข้ามาใกล้หมู่บ้าน ท่านผู้นำสูงวัยก็รู้สึกสบายใจสุดๆ

พวกเขาไม่เหมือนกับคนในหมู่บ้านลั่วหยางที่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแบบนี้มานาน และในตอนนี้ พวกเขาแต่ละคนต่างก็ตกตะลึง

“ยินดีต้อนรับครับ ท่านผู้นำอาวุโส” ในตอนนั้นเอง ผู้ใหญ่บ้านรวมถึงหลิน เฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นก่อนจะให้การต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น

เพียงแวบเดียว หลิน เฟิงก็เห็นว่ามีคนประมาณ 100 คน มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง คนสูงวัยและหนุ่มสาว คนพวกนั้นล้วนแต่งตัวกันดีและใช้ของที่น่าจะมียี่ห้อด้วย

“เอ่อ น้องหลิน เฟิง นายก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด