โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล 138

Now you are reading โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล Chapter 138 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

RC:บทที่ 138 น้ำแข็งปะทะไฟ 

แต่ทว่า หลิน เฟิงกลับไม่ขยับไปไหนเลย ยังคงยืนนิ่งอยู่แบบนั้น รอการโจมตี

จื้อเฉิงเองก็รู้ว่าหลิน เฟิงนั้นไม่ใช่คนโง่ พละกำลังของหลิน เฟิงนั้นสูงกว่าเขาหลายเท่า ด้วยเหตุนั้น เขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้หลิน เฟิงบาดเจ็บ ก่อนจะลงมืออย่างไม่ลังเล

เมื่อจื้อเฉิงพุ่งเข้ามาพร้อมด้วยพลังน้ำแข็งที่มีไอยะเยือกนั้นทำให้ความเร็วในพลังของเขานั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยพลังเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกสนุกไปด้วยมากๆ

“พลังน้ำแข็งงั้นหรือ ถ้างั้นเจอพลังจิตแห่งเพลิงฉันครอบงำหน่อยเป็นไง” หลิน เฟิงคิดในใจ

ไฟกับน้ำแข็งคือคุณลักษณะสองอย่างที่ขัดกันอยู่แล้ว จื้อเฉิงมีคุณลักษณะของน้ำแข็ง

และโดยปกตินั้น การใช้คุณลักษณะไฟของหลิน เฟิงนั้นเป็นสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุด

“พี่เฟิง ระวัง” จื้อเฉิงเร่งเข้ามาก่อนจะปล่อยหมัดใส่หลิน เฟิง

“ไม่ต้องห่วง เข้ามาเลย ทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องกลัวหรอกว่าฉันจะเจ็บ” เป็นเวลานานทีเดียวนับตั้งแต่ที่หลิน เฟิงกลายเป็นผู้มีพลังพิเศษ ความเข้าใจของเขาในเรื่องพลังวิญญาณและศิลปะการต่อสู้ก็เข้าขั้นสูง แต่ทว่าระดับที่ว่านั่นของเขายังคงเพิ่มได้ไม่เร็วพอ

ทันทีที่หลิน เฟิงพูดจบ ญาติคนดีของเขาก็เข้ามาถึงตัวให้โจมตีเขาจนได้ หมัดไอเย็นนั้นพุ่งเข้ามาที่ร่างของหลิน เฟิงอย่างรวดเร็วตรงที่อก

“ผัวะ!” เสียงๆหนึ่งดังขึ้น เขาชกเข้าที่หน้าอกของหลิน เฟิง

แต่อย่างไรก็ตาม หลิน เฟิงกลับไม่เป็นอะไรเลย ซ้ำยังส่งยิ้มมาก่อนจะมองมาที่จื้อเฉิง

“ถ้านายไม่ใช้แรงทั้งหมดที่นายมีล่ะก็ วันทั้งวันนายก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” หลิน เฟิงยื่นนิ้วหนึ่งไปข้างหน้าก่อนจะขยับมันไปมา

ในตอนแรก หลินเฟิงเองก็รู้ว่าแม้ตนจะบอกให้เขาใช้กำลังที่มีทั้งหมดโจมตีเข้ามา แต่ในใจของญาติผู้น้องก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้น ยิ่งไปกว่านั้น หลิน เฟิงเป็นเจ้านายของเขา สิ่งที่ต้องทำนั้นทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด

ดังนั้น สิ่งที่หลิน เฟิงต้องทำก็คือการทำให้เขาเชื่อจริงๆว่าตัวเขาไม่สามารถทำอันตรายอะไรให้หลิน เฟิงบาดเจ็บได้

ด้วยเหตุนั้นหลิน เฟิงจึงไม่ได้หลบไปไหนเลย เขารับหมัดของจื้อเฉิง แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อหลิน เฟิงได้กินผลฮั๋วหยางไปครั้งหนึ่งจนได้รับพลังวิญญาณมานั้น ร่างกายของเขาก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บง่ายๆ อย่างน้อยก็ไม่ใช่จากจื้อเฉิง

ในตอนนั้นเอง มีผลฮั่วหยางสองผลปรากฏขึ้นในวงแหวนอวกาศของหลิน เฟิง เขาวางแผนไว้ว่าจะยืดเส้นยืดสายสักวันสองวัน แล้วก็จะให้ญาติผู้น้องนี้ไปอีกผลหนึ่ง

ส่วนอีกผลนั้น เขาตั้งใจจะให้ตู๋กังผู้ซึ่งมีร่างกายที่แข็งแรงและประสบการณ์การต่อสู้ที่ช่ำชอง นี่ถ้าเมื่อใดที่เขากลายเป็นผู้ใช้พลังล่ะก็ ไม่อยากจะคาดคิดเลย

“อ่อนเกินไปแล้ว เข้ามา แล้วจำไว้ ใช้กำลังที่นายมีออกมาให้หมด” หลิน เฟิงตะโกน

“อ๊าก!”

จื้อเฉิงตะโกนก้อง ก่อนจะสวนหมัดใส่หลิน เฟิงเข้าไปอีก และในครั้งนี้ หลิน เฟิงก็ยังคงไม่หนี ยืนนิ่งอยู่อย่างงั้น

“ผัวะ!”

แต่ทว่า ในครั้งนี้ การโจมตีของจื้อเฉิงนั้นเข้าท่าและได้ผลขึ้นมาเล็กน้อย ทำเอาหลิน เฟิงถึงกับถอยไปก้าวหนึ่ง

“อะไรกัน นี่ผมออกแรงสุดๆแล้วนะเนี่ย พี่เฟิง มันทำให้พี่แค่ถอยเองหรือ” จื้อเฉิงกล่าวอย่างอึ้งๆ

“ฮ่าๆ ระวังหน่อย ฉันจะเอาจริงบ้างล่ะนะ” หลิน เฟิงว่าขึ้น ก่อนจะหายแวบไปจากตรงนั้น

เงาสีดำพุ่งเข้าใส่จื้อเฉิง ก่อนที่เขาจะรู้สึกเจ็บที่อก ร่างกายลอยขึ้นไปมาอย่างควบคุมไม่ได้

แล้วจากนั้น หลิน เฟิงจึงมายืนตรงที่เดิมซึ่งเคยเป็นที่ที่จื้อเฉิงเคยยืนอยู่

“ลุกขึ้นมา เข้ามาอีก นายอ่อนแอเกินไปแล้ว” หลิน เฟิงว่า

หลิน เฟิงเพียงแค่ดึงความแข็งแกร่งออกมาและไม่ได้ทำจื้อเฉิงจนบาดเจ็บ ยิ่งไปกว่านั้น จื้อเฉิงเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาๆอีกแล้ว ร่างกายของเขานั้นเจ็บไม่ได้ง่ายๆแน่

“อ๊าก!”

จื้อเฉิงร้องลั่น ก่อนจะรีบเร่งเข้ามาอีกครั้ง พลางใช้ทั้งหมัดและเท้าเข้าโจมตีหลิน เฟิงอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ต้องพลาดซ้ำสอง

เพราะทันทีที่หลิน เฟิงขยับหนี เขาก็เพิ่งจะโจมตีออกไป

หลิน เฟิงกับจื้อเฉิงฝึกฝนกันด้วยวิธีแบบนี้ ทุกๆครั้งที่จื้อเฉิงพุ่งตัวเข้ามาหา หลิน เฟิงก็จะหายไปได้ทันเสียทุกครั้ง

ครั้งที่หนึ่ง สอง สาม…สิบ ยี่สิบ

ในที่สุด หลังจากโจมตีพลาดไปมากกว่า 20 ครั้ง ญาติผู้น้องก็จำได้ขึ้นใจเสียที

เขาได้รู้ถึงวิธีหลบหลีก เข้าโจมตีมากกว่าที่จะเข้าโจมตีตรงๆทีเดียว ทุกอย่างนั้นเรียนรู้ผ่านการโดนเตะขึ้นลงไปมา

อีกฟากหนึ่งของสมรภูมิรบนั้นมีทั้งจ่าฝูงแมงป่องน้ำแข็งและซานหลง ทั้งสองตัวนี้เป็นสัตว์วิญญาณที่มีระดับเลือดสูง เมื่อพวกเขาสู้กันเสียงจึงดังไปทั่ว

ซานหลงกระพือปีกของมันต้านแมงป่องน้ำแข็งก่อนจะโจมตี แล้วการที่ซานหลงบินขึ้นไปบนอากาศได้ก็นับเป็นข้อได้เปรียบ

แต่ทว่าในตอนนี้ จู่ๆแมงป่องน้ำแข็งก็รวบรวบแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่มากมายก่อนจะเข้าโจมตีซานหลงที่อยู่บนท้องฟ้า

ในตอนนั้นเอง ซานหลงที่บินไปอย่างรวดเร็วนั้นก็คาดไม่ถึงว่าแมงป่องน้ำแข็งนั้นจะรวบรวมแท่งน้ำแข็งมากมายได้ในเวลาอันรวดเร็วแบบนั้น แต่กว่าจะหลบได้ก็คงจะช้าเกินไป แล้วมันก็คงจะโดนแท่งน้ำแข็งนั่นสอยร่วงเป็นแน่

แต่ในขณะเดียวกันนั้น ซานหลงก็หดตัวลงก่อนจะกอดตัวเองเป็นก้อนใหญ่เหมือนกับตัวนิ่มที่จะหดตัวเป็นก้อนในทันทียามที่เผชิญกับอันตราย อาจจะเป็นไปได้ว่า ซานหลงนั้นไม่เคยลืมว่าตนเคยเป็นตัวนิ่ม ทักษะการเอาตัวรอดเดิมยังคงมีผลอยู่อย่างน่าอัศจรรย์

แท่งน้ำแข็งพวกนั้นพุ่งเข้าโจมตีซานหลง แต่แล้วพวกมันก็แตกกระจายเป็นชิ้นๆ ก่อนร่วงลงพื้น

เนื่องจากร่างกายที่แข็งและหนาของซานหลงนั่นเอง และเหตุผลที่ว่าทำไมถึงเรียกซานหลงว่ามังกรเกราะนั่นก็คือความสามารถในการป้องกันตัวที่แข็งแกร่งของมันทั่วทุกส่วนของร่างกายนั่นเอง การที่สัตว์อื่นจะเข้ามาโจมตีจึงทำได้ยาก

เมื่อซานหลงร่อนลงมา มันไม่ได้รับความเสียหายใดๆ จากนั้นมันจึงเริ่มสู้กับแมงป่องน้ำแข็งต่อ

ด้วยปีกทั้งสองข้างที่อยู่ข้างหลัง จึงทำให้การโจมตีของมันเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก เพียงหลังจากลงมาที่พื้น มันก็เข้าโจมตีแมงป่องน้ำแข็งในทันที กรงเล็บมังกรยักษ์ทั้งสองสะท้อนแสงสีขาวก่อนจะส่องสู้กับแมงป่องน้ำแข็ง

ในตอนนั้นเอง แมงป่องน้ำแข็งจึงรีบถอยกรูดก่อนจะรวบรวมโล่น้ำแข็งไปด้วยในเวลาเดียวกัน กล่าวกันว่าแมงป่องน้ำแข็งนั้นควรค่าแก่การเป็นสัตว์วิญญาณเพราะมีเลือดระดับ S ความเร็วในการรวบรวมพลังน้ำแข็งนั้นไวมาก เกือบจะพริบตาเดียว และก่อนที่ซานหลงจะโจมตี โล่น้ำแข็งก็สร้างเสร็จเรียบร้อย

“โครม!”

“กริก กริก กริก!”

สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คืออุ้งมือของซานหลงนั้นปัดเอาโล่น้ำแข็งจนแตกกระจุย กำลังช่างแรงเหลือล้นจริงๆ

จากนั้นแมงป่องน้ำแข็งจึงไปโผล่อยู่ข้างหลังมัน ในขณะที่ซานหลงยังไม่หยุดโจมตี กรงเล็บของมังกรอีกข้างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นก่อนจะฟาดเข้าที่ร่างของแมงป่องน้ำแข็งตัวนั้นจนมันปลิวออกไป จากนั้นก็ร่วงหมดสติอยู่บนพื้น

ชัดเจนแล้วว่า ซานหลงนั้นมีพลังเหนือกว่าและเป็นผู้ได้รับชัยชนะในรอบสุดท้ายนี้ไป

อีกฝั่งหนึ่ง

“อืม ดีแล้วล่ะ แต่ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ” เมื่อได้เห็นความก้าวหน้าของญาติผู้น้อง หลิน เฟิงก็รู้สึกพอใจ

ชั่วโมงหนึ่งผ่านไป พลังวิญญาณในตัวจื้อเฉิงนั้นก็แทบจะหมด

ในตอนนี้ จื้อเฉิงยังคงวิ่งเข้าใส่หลิน เฟิงเหมือนก่อนหน้านี้ เมื่อเขาเห็นจื้อเฉิงกำลังวิ่งมา หลิน เฟิงก็คิดไว้แล้วว่าต่อจากนี้ก็แค่หลบไปข้างๆ

ขาข้างนี้ก้าวเข้ามาในเงาของหลิน เฟิง รวดเร็วจนน่ากลัว ทรงพลังและแทบจะมองไม่เห็น

ญาติผู้น้องโดนเตะไปเพราะการเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วก่อนหน้านี้ แต่ว่าตอนนี้ สถานการณ์กลับไม่เหมือนเดิม

เขาซ่อนตัวจากด้านหลัง แต่ทว่าตอนนี้ เมื่อหลิน เฟิงหันไปมองรอบๆ หลังเขาก็ชนเข้ากับจื้อเฉิง

จื้อเฉิงจึงฉวยโอกาสนี้ ใช้พลังวิญญาณที่เหลือน้อยนิดในร่างกายนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว

เขากำมือแน่น ก่อนจะต่อยเข้าที่หลังของหลิน เฟิง

“หมัดนรกเย็น”

เขาใช้หมัดนี้จู่โจมหลังของหลิน เฟิงเต็มๆ เพียงแค่ชั้นของความเย็นปรากฏขึ้นบนหลังของหลิน เฟิงก่อนจะกระจายไปทั่วนั้น ร่างของหลิน เฟิงจู่ๆก็ถูกแช่แข็งจนจับตัวเป็นก้อนไปในทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด