โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล 712 จับตัว

Now you are reading โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล Chapter 712 จับตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 712 จับตัว

 

ตันหยุนระเบิดลมปราณของตัวเอง ทันใดนั้นก็มีลมรุนแรงหมุนอยู่รอบตัวเขา

 

ในเวลานี้ ดวงตาของหลินเฟิงก็ดูดุร้ายขึ้นเป็นพิเศษ ตันหยุนโจมตีใส่เขาตามคาดและโจมตีหลานหลิงโดยไม่คาดคิด

 

นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยแก่เขาอย่างแน่นอน!

 

เมื่อเห็นว่าตันหยุนกําลังจะจัดการกับหลินเฟิง เสิ้นฮุ่ยเป็นหญิงสาวผู้หนึ่งที่มักทําตามแบบอย่างของสามี พลังวิญญาณของเธอจึงแตกออกมาในทันที

 

สองดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับขั้นห้าสูงสุด หากลงมือก่อนหน้านี้โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหลานหลิง ความหวังที่จะชนะของเขาจะเหลือเพียงน้อยนิด

 

แต่ตอนนี้ ทุกอย่างต่างออกไป เช่นคู่ต่อสู้ผู้นี้ที่อาจไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอ!

 

เขาไม่รู้ว่าหลิวชางหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่

 

แต่หลินเฟิงไม่ได้คํานึงถึงสิ่งใดมากนัก และรวมร่างกับมังกรดําทันที

 

“ตายซะ!” ตันหยุนคํารามแล้วก้าวเข้าไปหาหลินเฟิง

 

เส้นฮุ่ยที่อยู่อีกด้าน คํารามเสียงดังแล้วเริ่มโจมตีซ้ําๆจากอีกมุมหนึ่ง

 

หลินเฟิงยังคงรักษาท่าที่สงบและหลบหลีกการโจมตีจากสองทิศทาง

 

หลังจากนั้น หลินเฟิงได้ต่อสู้กับคนสองคนที่รวมเป็นหนึ่งศัตรู

 

ทักษะของสองคนนี้ดีกว่านักดาบศิลาค่อนข้างมาก แม้หลินเฟิงจะมีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าต้องพยายามอยู่บ้าง

 

เขาถือหอกทองคํา ทุกครั้งที่เขาโบกมันได้สร้างเส้นโค้งสีทองที่คมชัดและงดงาม

 

ออร่าและลมรุนแรงพัดกระจายไปทั่วพื้นที่การต่อสู้ดูรุนแรงมาก

 

จิตใจของตันหยุนเกรี้ยวกราด เพราะแม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันกลับยังไม่สามารถบดขยี้หลินเฟิงได้ ทําให้เขารู้สึกราวกับโดนดูถูก

 

ชั่วขณะหนึ่ง เขากับเสิ่นฮุ่ยจึงใช้ทักษะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง

 

แต่หลินเฟิงกลับไม่กลัวว่าจะพ่ายแพ้เลย

 

ตันหยุนโกรธขึ้นมาเล็กน้อยทันที เสิ่นฮุ่ยได้ถอนตัวออกมา คนสองคนมองหน้ากันและผสานรอยนิ้วมือเข้าด้วยกัน

 

เมื่อรู้สึกได้ถึงสองลมปราณที่รวมเป็นหนึ่ง หลินเฟิงจึงรู้ได้ว่าทั้งสองใช้ทักษะวิญญาณคู่

 

ที่เรียกว่าทักษะวิญญาณคู่ก็เป็นไปตามชื่อนั้น มันเป็นทักษะวิญญาณที่คนสองคนสามารถใช้พลังของกันและกันได้

 

พลังของทักษะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้น่าทึ่งมาก หากหนึ่งในนั้นมีพลังมากเป็นพิเศษ แม้มีทักษะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางก็สามารถใช้พลังของทักษะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงได้

 

เมื่อเห็นลมปราณของสองคนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลินเฟิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ

 

ขณะพลังวิญญาณเกือบจะบรรจบกัน ดวงตาของพวกเขาดูหยิ่งทะนงและตะโกนออกมาพร้อมกัน: “ลมพัดพาและระเบิด!”

 

ทันใดนั้น พายุที่รุนแรงมากได้เข้าโจมตีหลินเฟิงทางด้านหลัง

 

หลินเฟิงไม่ได้มีความตั้งใจที่จะหลบหลีกจึงถูกปะทะอย่างจัง!

 

“ตายหรือไม่?” หลังจากใช้กระบวนท่านี้ ทั้งคู่จึงตกอยู่ในอาการอ่อนเพลีย

 

แต่เมื่อควันระเบิดจางหายไป พวกเขาก็ตกตะลึง

 

หลินเฟิงไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ และร่างกายของเขากลายเป็นดั่งเพชร!

 

ใช่แล้ว ในขณะนั้นหลินเฟิงสับเปลี่ยนร่างสัตว์ไปใช้งเพชรสะเก็ดดาว!

 

ตัวเขาเองก็ยังทิ้งกับความแข็งแกร่งแห่งการสร้างร่างกายและศิลปะการต่อสู้ของเขา

 

“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร… “ ตันหยุนและเส้นฮุ่ยหน้าซีดราวกับคนตาย

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงฟ้าร้องเกิดขึ้น จากนั้นคนทั้งสองที่กรีดร้องก็กลายเป็นเถ้าถ่านด้วยสายฟ้าและฟ้าผ่า!

 

หลินเฟิงตกตะลึงในทันที

 

เขามองไปที่ทางเข้าโดยไม่รู้ตัวและเห็นหลิวชางเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ดุร้าย

 

กระแสไฟฟ้ายังคงสั่นไหวอยู่ที่ปลายนิ้ว

 

“เจ้าลงมือ?” หลินเฟิงรู้สึกเหลือเชื่อ

 

หลิวชางไม่ตอบอะไรและพุ่งเข้าใส่หลินเฟิงอย่างรวดเร็ว

 

เขาฟาดมือใส่ทางด้านหลัง แต่ถูกหลินเฟิงรับไว้ได้

 

เขาจึงตระหนักได้ว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของหลินเฟิงแข็งแกร่งมากแม่แต่เหล็กแข็งก็ยังทําอะไรไม่ได้ เขาโบกมือขึ้นแล้วเชือกก็ลอยออกมาและมัดหลินเฟิงเอาไว้

 

ชั่วครู่นั้น หลินเฟิงจึงไม่สามารถขยับตัวได้

 

“เจ้ากําลังทําสิ่งใด?” หลินเฟิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย

 

หลิวชางหัวเราะเยาะและพูดว่า “เจ้ารู้ตัวช้ายิ่งนัก”

 

จากนั้น หลิวชางจึงพาหลินเฟิงไปยังห้องโถง

 

“ข้าเสาะหามันอยู่ครู่หนึ่ง และสุดท้ายก็พบมัน” หลิวชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ปรากฏว่าเขาเพิ่งไปทําบางสิ่งมา

 

“เจ้าต้องการอะไร?” หลินเฟิงกล่าวต่อ

 

หลิวชางตอบว่า: “เจ้าคงคิดว่าข้าช่างปฏิบัติต่อเจ้าดีนัก ตลกเหอะ ข้าแค่เห็นว่าเจ้ายังมีคุณค่าในการใช้งาน”

 

“ที่นี่มีสถานที่ที่ดูคลุมเครืออยู่เป็นจํานวนมาก มีคนกล่าวกันว่าจําเป็นต้องใช้ธาตุความร้อนสองคนเพื่อเปิดมัน”

 

“ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพราะเจ้ามีคุณสมบัติตรงตามข้อกําหนด”

 

“เกือบถึงเวลาที่เจ้าต้องนําคุณค่าของเจ้ามามีส่วนร่วมแล้ว”

 

ด้วยคําพูดเหม็นเน่านี้ จิตใจของหลินเฟิงจึงเริ่มก่อพายุ สําหรับความช่วยเหลือจากหลิวชาง เขามักรู้สึกสงสัยมาตลอด มักรู้สึกว่ามีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงอยู่เสมอ

 

แต่จากที่ร่วมทางมาเรื่อยๆ จึงค่อยๆ ลืมไปเช่นกัน

 

แต่เขากลับไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลิวชางจะมีแผนเช่นนี้อยู่ในใจ!

 

เขาดิ้นรนอย่างหนักถึงสองครั้ง แต่ก็หลุดออกมาไม่ได้

 

หลิวชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่าเปลืองแรงเจ้าเลย มันเปล่าประโยชน์”

 

“เจ้าสามารถเสียสละตัวเองได้”

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น

 

หลิวชางมองกลับไปและพบว่าอีกด้านคือหลีต้า

 

หลี่ต้าหัวเราะและพูดว่า “ข้าแค่เดินผ่านมา ไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องเช่นนี้ มันได้ถูกกําหนดไว้ล่วงหน้าแล้วสินะ!”

 

หลิวชางกล่าวอย่างมืดมน “เจ้าจะทําอะไร?”

 

หลี่ต้าหัวเราะและกล่าวว่า “ไม่มีอะไร ข้าจะไม่รบกวนเจ้า

 

เพียงแค่ว่าเจ้าต้องมอบครึ่งหนึ่งของสมบัติที่เจ้าจะได้รับในภายหลัง เป็นอย่างไรเล่า?”

 

หลิวชางพูดขึ้น “ผายลมเถอะ! ข้าจะมอบให้เจ้าได้อย่างไร?”

 

หลี่ต้าส่ายหัว: “งั้นหรือ? เช่นนั้นข้าคงปล่อยให้เจ้าทําสําเร็จไม่ได้”

 

“ข้ามีความไม่พอใจกับเจ้าหนุ่มนี่ ดังนั้นเจ้าควรทิ้งมันไว้กับข้าซะ”

 

ความแข็งแกร่งของหลี่ต้านั้นคล้ายคลึงกับหลิวชาง เมื่อเห็นว่าหลีต้าจะต้องขัดขวาง หลิวชางจึงไม่มีทางเลือก

 

เขาจําต้องสงบสติอารมณ์และพูดว่า “ตกลง ทําตามที่เจ้าเอ่ยก็แล้วกัน!”

 

มุมปากของหลี่ย้ายกขึ้น มือโอบที่หน้าอก: “เช่นนั้นก็หวังว่าเจ้าจะไม่ทําลายสัจจะ”

 

เมื่อเห็นว่าหลี่ต้าไม่ได้ต้องการที่จะเข้ามายุ่งย่ามอีก หลิวชางจึงย้ายสายตาไปยังหลินเฟิงอีกครั้ง

 

เขาโบกมือหนึ่งครั้ง เชือกจึงคลายตัวออกโดยอัตโนมัติ

 

ในเวลานี้ ดวงตาของหลินเฟิงดําดิ่ง เขาก้าวไปตามสายลมและเงา และรีบพุ่งออกไปทันที

 

“จะหนีหรือ?” หลีต้าโจมตีหลินเฟิงด้วยการเตะ

 

ด้วยความแข็งแกร่งของหลี่ต้า จึงไม่ยากที่จะไล่ตามลมได้ทัน

 

หลิวชางรวดเร็วราวกับสายฟ้า เขาคว้าคอของหลินเฟิงด้วยท่าทางดุร้าย

 

“เจ้าต้องการหนีไปงั้นหรือ?” หลิวชางเอ่ย “เป็นไปไม่ได้หรอกที่เจ้าจะหนีไปจากข้าในวันนี้!”

 

เขาชกหลินเฟิงเข้าที่ท้องอย่างแรง จากนั้นก็เหวี่ยงหลินเฟิงออกไป

 

หลินเฟิงเดินเซถอยหลังไปหลายก้าวแล้วหยุด

 

แต่เมื่อยามที่เขาเพิ่งทรงตัวได้ แสงมีดที่ส่องสว่างก็พุ่งเข้าหาเขา

 

เขารีบหันกายหลบ แต่ความเร็วในการโจมตีของหลิวชางนั้นเร็วมากจนถูกดาบฟันเข้าที่แขนของเขา

 

เลือดสีแดงสดก็พ่นกระเซ็นออกมาเปรอะเปื้อนกําแพงสูงด้านหลัง

 

บนผนังนั้นมีอักษรรูนอยู่เป็นจํานวนมาก ทันใดนั้นอักษรรูนก็สว่างขึ้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล 712 จับตัว

Now you are reading โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล Chapter 712 จับตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 712 จับตัว

 

ตันหยุนระเบิดลมปราณของตัวเอง ทันใดนั้นก็มีลมรุนแรงหมุนอยู่รอบตัวเขา

 

ในเวลานี้ ดวงตาของหลินเฟิงก็ดูดุร้ายขึ้นเป็นพิเศษ ตันหยุนโจมตีใส่เขาตามคาดและโจมตีหลานหลิงโดยไม่คาดคิด

 

นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยแก่เขาอย่างแน่นอน!

 

เมื่อเห็นว่าตันหยุนกําลังจะจัดการกับหลินเฟิง เสิ้นฮุ่ยเป็นหญิงสาวผู้หนึ่งที่มักทําตามแบบอย่างของสามี พลังวิญญาณของเธอจึงแตกออกมาในทันที

 

สองดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับขั้นห้าสูงสุด หากลงมือก่อนหน้านี้โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหลานหลิง ความหวังที่จะชนะของเขาจะเหลือเพียงน้อยนิด

 

แต่ตอนนี้ ทุกอย่างต่างออกไป เช่นคู่ต่อสู้ผู้นี้ที่อาจไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอ!

 

เขาไม่รู้ว่าหลิวชางหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่

 

แต่หลินเฟิงไม่ได้คํานึงถึงสิ่งใดมากนัก และรวมร่างกับมังกรดําทันที

 

“ตายซะ!” ตันหยุนคํารามแล้วก้าวเข้าไปหาหลินเฟิง

 

เส้นฮุ่ยที่อยู่อีกด้าน คํารามเสียงดังแล้วเริ่มโจมตีซ้ําๆจากอีกมุมหนึ่ง

 

หลินเฟิงยังคงรักษาท่าที่สงบและหลบหลีกการโจมตีจากสองทิศทาง

 

หลังจากนั้น หลินเฟิงได้ต่อสู้กับคนสองคนที่รวมเป็นหนึ่งศัตรู

 

ทักษะของสองคนนี้ดีกว่านักดาบศิลาค่อนข้างมาก แม้หลินเฟิงจะมีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าต้องพยายามอยู่บ้าง

 

เขาถือหอกทองคํา ทุกครั้งที่เขาโบกมันได้สร้างเส้นโค้งสีทองที่คมชัดและงดงาม

 

ออร่าและลมรุนแรงพัดกระจายไปทั่วพื้นที่การต่อสู้ดูรุนแรงมาก

 

จิตใจของตันหยุนเกรี้ยวกราด เพราะแม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันกลับยังไม่สามารถบดขยี้หลินเฟิงได้ ทําให้เขารู้สึกราวกับโดนดูถูก

 

ชั่วขณะหนึ่ง เขากับเสิ่นฮุ่ยจึงใช้ทักษะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง

 

แต่หลินเฟิงกลับไม่กลัวว่าจะพ่ายแพ้เลย

 

ตันหยุนโกรธขึ้นมาเล็กน้อยทันที เสิ่นฮุ่ยได้ถอนตัวออกมา คนสองคนมองหน้ากันและผสานรอยนิ้วมือเข้าด้วยกัน

 

เมื่อรู้สึกได้ถึงสองลมปราณที่รวมเป็นหนึ่ง หลินเฟิงจึงรู้ได้ว่าทั้งสองใช้ทักษะวิญญาณคู่

 

ที่เรียกว่าทักษะวิญญาณคู่ก็เป็นไปตามชื่อนั้น มันเป็นทักษะวิญญาณที่คนสองคนสามารถใช้พลังของกันและกันได้

 

พลังของทักษะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้น่าทึ่งมาก หากหนึ่งในนั้นมีพลังมากเป็นพิเศษ แม้มีทักษะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางก็สามารถใช้พลังของทักษะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงได้

 

เมื่อเห็นลมปราณของสองคนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลินเฟิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ

 

ขณะพลังวิญญาณเกือบจะบรรจบกัน ดวงตาของพวกเขาดูหยิ่งทะนงและตะโกนออกมาพร้อมกัน: “ลมพัดพาและระเบิด!”

 

ทันใดนั้น พายุที่รุนแรงมากได้เข้าโจมตีหลินเฟิงทางด้านหลัง

 

หลินเฟิงไม่ได้มีความตั้งใจที่จะหลบหลีกจึงถูกปะทะอย่างจัง!

 

“ตายหรือไม่?” หลังจากใช้กระบวนท่านี้ ทั้งคู่จึงตกอยู่ในอาการอ่อนเพลีย

 

แต่เมื่อควันระเบิดจางหายไป พวกเขาก็ตกตะลึง

 

หลินเฟิงไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ และร่างกายของเขากลายเป็นดั่งเพชร!

 

ใช่แล้ว ในขณะนั้นหลินเฟิงสับเปลี่ยนร่างสัตว์ไปใช้งเพชรสะเก็ดดาว!

 

ตัวเขาเองก็ยังทิ้งกับความแข็งแกร่งแห่งการสร้างร่างกายและศิลปะการต่อสู้ของเขา

 

“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร… “ ตันหยุนและเส้นฮุ่ยหน้าซีดราวกับคนตาย

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงฟ้าร้องเกิดขึ้น จากนั้นคนทั้งสองที่กรีดร้องก็กลายเป็นเถ้าถ่านด้วยสายฟ้าและฟ้าผ่า!

 

หลินเฟิงตกตะลึงในทันที

 

เขามองไปที่ทางเข้าโดยไม่รู้ตัวและเห็นหลิวชางเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ดุร้าย

 

กระแสไฟฟ้ายังคงสั่นไหวอยู่ที่ปลายนิ้ว

 

“เจ้าลงมือ?” หลินเฟิงรู้สึกเหลือเชื่อ

 

หลิวชางไม่ตอบอะไรและพุ่งเข้าใส่หลินเฟิงอย่างรวดเร็ว

 

เขาฟาดมือใส่ทางด้านหลัง แต่ถูกหลินเฟิงรับไว้ได้

 

เขาจึงตระหนักได้ว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของหลินเฟิงแข็งแกร่งมากแม่แต่เหล็กแข็งก็ยังทําอะไรไม่ได้ เขาโบกมือขึ้นแล้วเชือกก็ลอยออกมาและมัดหลินเฟิงเอาไว้

 

ชั่วครู่นั้น หลินเฟิงจึงไม่สามารถขยับตัวได้

 

“เจ้ากําลังทําสิ่งใด?” หลินเฟิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย

 

หลิวชางหัวเราะเยาะและพูดว่า “เจ้ารู้ตัวช้ายิ่งนัก”

 

จากนั้น หลิวชางจึงพาหลินเฟิงไปยังห้องโถง

 

“ข้าเสาะหามันอยู่ครู่หนึ่ง และสุดท้ายก็พบมัน” หลิวชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ปรากฏว่าเขาเพิ่งไปทําบางสิ่งมา

 

“เจ้าต้องการอะไร?” หลินเฟิงกล่าวต่อ

 

หลิวชางตอบว่า: “เจ้าคงคิดว่าข้าช่างปฏิบัติต่อเจ้าดีนัก ตลกเหอะ ข้าแค่เห็นว่าเจ้ายังมีคุณค่าในการใช้งาน”

 

“ที่นี่มีสถานที่ที่ดูคลุมเครืออยู่เป็นจํานวนมาก มีคนกล่าวกันว่าจําเป็นต้องใช้ธาตุความร้อนสองคนเพื่อเปิดมัน”

 

“ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพราะเจ้ามีคุณสมบัติตรงตามข้อกําหนด”

 

“เกือบถึงเวลาที่เจ้าต้องนําคุณค่าของเจ้ามามีส่วนร่วมแล้ว”

 

ด้วยคําพูดเหม็นเน่านี้ จิตใจของหลินเฟิงจึงเริ่มก่อพายุ สําหรับความช่วยเหลือจากหลิวชาง เขามักรู้สึกสงสัยมาตลอด มักรู้สึกว่ามีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงอยู่เสมอ

 

แต่จากที่ร่วมทางมาเรื่อยๆ จึงค่อยๆ ลืมไปเช่นกัน

 

แต่เขากลับไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลิวชางจะมีแผนเช่นนี้อยู่ในใจ!

 

เขาดิ้นรนอย่างหนักถึงสองครั้ง แต่ก็หลุดออกมาไม่ได้

 

หลิวชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่าเปลืองแรงเจ้าเลย มันเปล่าประโยชน์”

 

“เจ้าสามารถเสียสละตัวเองได้”

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น

 

หลิวชางมองกลับไปและพบว่าอีกด้านคือหลีต้า

 

หลี่ต้าหัวเราะและพูดว่า “ข้าแค่เดินผ่านมา ไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องเช่นนี้ มันได้ถูกกําหนดไว้ล่วงหน้าแล้วสินะ!”

 

หลิวชางกล่าวอย่างมืดมน “เจ้าจะทําอะไร?”

 

หลี่ต้าหัวเราะและกล่าวว่า “ไม่มีอะไร ข้าจะไม่รบกวนเจ้า

 

เพียงแค่ว่าเจ้าต้องมอบครึ่งหนึ่งของสมบัติที่เจ้าจะได้รับในภายหลัง เป็นอย่างไรเล่า?”

 

หลิวชางพูดขึ้น “ผายลมเถอะ! ข้าจะมอบให้เจ้าได้อย่างไร?”

 

หลี่ต้าส่ายหัว: “งั้นหรือ? เช่นนั้นข้าคงปล่อยให้เจ้าทําสําเร็จไม่ได้”

 

“ข้ามีความไม่พอใจกับเจ้าหนุ่มนี่ ดังนั้นเจ้าควรทิ้งมันไว้กับข้าซะ”

 

ความแข็งแกร่งของหลี่ต้านั้นคล้ายคลึงกับหลิวชาง เมื่อเห็นว่าหลีต้าจะต้องขัดขวาง หลิวชางจึงไม่มีทางเลือก

 

เขาจําต้องสงบสติอารมณ์และพูดว่า “ตกลง ทําตามที่เจ้าเอ่ยก็แล้วกัน!”

 

มุมปากของหลี่ย้ายกขึ้น มือโอบที่หน้าอก: “เช่นนั้นก็หวังว่าเจ้าจะไม่ทําลายสัจจะ”

 

เมื่อเห็นว่าหลี่ต้าไม่ได้ต้องการที่จะเข้ามายุ่งย่ามอีก หลิวชางจึงย้ายสายตาไปยังหลินเฟิงอีกครั้ง

 

เขาโบกมือหนึ่งครั้ง เชือกจึงคลายตัวออกโดยอัตโนมัติ

 

ในเวลานี้ ดวงตาของหลินเฟิงดําดิ่ง เขาก้าวไปตามสายลมและเงา และรีบพุ่งออกไปทันที

 

“จะหนีหรือ?” หลีต้าโจมตีหลินเฟิงด้วยการเตะ

 

ด้วยความแข็งแกร่งของหลี่ต้า จึงไม่ยากที่จะไล่ตามลมได้ทัน

 

หลิวชางรวดเร็วราวกับสายฟ้า เขาคว้าคอของหลินเฟิงด้วยท่าทางดุร้าย

 

“เจ้าต้องการหนีไปงั้นหรือ?” หลิวชางเอ่ย “เป็นไปไม่ได้หรอกที่เจ้าจะหนีไปจากข้าในวันนี้!”

 

เขาชกหลินเฟิงเข้าที่ท้องอย่างแรง จากนั้นก็เหวี่ยงหลินเฟิงออกไป

 

หลินเฟิงเดินเซถอยหลังไปหลายก้าวแล้วหยุด

 

แต่เมื่อยามที่เขาเพิ่งทรงตัวได้ แสงมีดที่ส่องสว่างก็พุ่งเข้าหาเขา

 

เขารีบหันกายหลบ แต่ความเร็วในการโจมตีของหลิวชางนั้นเร็วมากจนถูกดาบฟันเข้าที่แขนของเขา

 

เลือดสีแดงสดก็พ่นกระเซ็นออกมาเปรอะเปื้อนกําแพงสูงด้านหลัง

 

บนผนังนั้นมีอักษรรูนอยู่เป็นจํานวนมาก ทันใดนั้นอักษรรูนก็สว่างขึ้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+