โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล 147

Now you are reading โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล Chapter 147 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

RC:บทที่ 147 พลังของหลิน เฟิงและมังกรดำ

จู มู่และแรดเกราะเหล็กต่างเข้าโจมตีหลิน เฟิง จู มู่เองพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกระโดดลงจากแรดเกราะเหล็กและเข้าต่อยหลิน เฟิง

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง นอแรดขนาดใหญ่นั่นก็ส่องแสงสีขาววับวาวซึ่งทำให้ใครก็ตามที่ได้เห็นนั้นรู้สึกกลัวมาแต่ไกล

 

เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลิน เฟิงก็มีความรู้สึกเดจาวู เหมือนกับตอนที่เขากับตงฟางเสี่ยงสู้กันไปก่อนหน้านี้

ในตอนนั้น สัตว์คู่หูของตงฟาง เสี่ยงนั้นก็คือเสือเทียนเล่ย ได้ปลดปล่อยสายฟ้าพิโรธออกมาแล้วหลังจากนั้นตงฟาง เสี่ยงก็ตามมาโจมตีทีหลัง

 

สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ช่างคล้ายคลึงกับสถานการณ์นั่นเสียจริง สลับกันแค่ตำแหน่งแค่นั้น

แต่ทว่าในตอนนี้ หลิน เฟิงกลับไม่มีเวลาที่จะมาต่อกรกับแรดคลั่งนี่ เพราะการโจมตีของจู มู่นั้นเข้ามาถึงแล้ว

เจ้านั่นต่อยหลิน เฟิงเอาๆ แม้ว่าเขาจะตัวใหญ่ แต่ความเร็วก็ไม่ได้ลดลงเลย

และในขณะเดียวกัน หลิน เฟิงก็ยังใช้พลังวิญญาณปลดปล่อยหมัดเพลิงออกมาและกระโดดขึ้นไปอย่างว่องไว

ทั้งสองคนต่างต่อสู้กันบนกลางอากาศ เสียงดังลั่น

หลิน เฟิงชะงักถอยไป จู มู่จึงได้ที ลงมานั่งบนหลังแรดคลั่งเกราะเหล็กได้อย่างละม่อม แล้วในตอนนี้ ความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

 

ส่วนหลิน เฟิงที่เพิ่งจะดิ่งลงมา ก่อนที่เขาจะยืนได้อย่างมั่นคงนั้น เขาก็ได้เผชิญกับแรดตัวนี้เสียก่อน

ส่วนอีกฝั่งนั้น หยานจุนและสัตว์คู่กายของเขาอย่างสิงโตไฟนั้นก็กำลังเข้าต่อสู้กับมังกรดำ เมื่อหยานจุนมองไปที่มังกรดำ เขาก็รู้สึกเหมือนจะจำได้ช่วงตอนที่เขาอยู่ในอำเภอจิ้งเฟิง

ในตอนนั้น ราชาแมงมุมดำเข้าโจมตีหลิน เฟิง และเขาก็ได้เห็นเงาดำแวบๆพาดผ่านหว่างคิ้วของเขาไป แล้วจากนั้นสัตว์คู่กายของชายสวมหน้ากากอย่างแมงมุมดำนั่นก็ถูกเจาะรูใหญ่ขึ้นมา

 

ตอนนี้นั้น เขาคิดว่าเงาดำที่ว่าน่าจะเป็นมังกรดำ ดังนั้นหยานจุนจึงได้รู้ว่ามังกรดำนั้นทรงพลัง เขาพร้อมกับสิงโตเพลิงจึงไม่คิดออมมือกับมังกรดำตัวดังกล่าวนี้แม้แต่น้อย

“สิงโตเพลิง ใช้เพลิงคำราม” หยาน จุนรีบไปที่มังกรดำก่อนจะสั่งให้สิงโตเพลิงใช้พลังมาจากอีกด้าน

 

“โฮก!”

ทันทีที่สิงโตเพลิงคำรามออกมา ไฟก็ลามไปทั่วร่าง ลูกไฟดวงใหญ่พุ่งออกมาและตรงไปยังมังกรดำ

“เพลิงมังกรดำ!”

พลันเพลิงมังกรดำนั่นก็หลอมรวมเข้ากับลูกไฟจากมังกรเพลิงตัวดังกล่าว

สีของดวงไฟทั้งสองต่างปะทะกันกลางอากาศก่อนจะกลืนกินซึ่งกันและกัน

แต่ทว่าเพลิงสีดำกลับมีพลังมากกว่าจนกดลูกไฟของสิงโตเพลิงลงไป ยันพลังเพลิงของสิงโตไว้อยู่แบบนั้น

“กรงเล็บสิงโตเพลิง!”

ในขณะที่ลูกเพลิงสีดำของมังกรดำนั้นกำลังจะกลืนกินลูกไฟของสิงโตเพลิงอยู่นั้น หยาน จุนก็โจมตีเข้ามา

 

มีลูกไฟสีแดงลูกหนึ่งลุกไหม้ที่มือของหยาน จุน  และลูกไฟดวงที่สองจากสิงโตเพลิงก็กลายมาเป็นกรงเล็บสิงโต พวกเขาต่างเข้าโจมตีมังกรดำอย่างไร้ความปรานี

 

ในตอนนี้ มังกรดำก็คงยังสู้อยู่กับสิงโตเพลิง และแม้ว่ามังกรดำนั้นจะกำลังได้เปรียบอยู่ก็ตามที แต่เมื่อมันถอนตัวออกมาก่อน มันก็เจอเข้ากับการจู่โจมอันโหดเหี้ยมจากอีกฝั่ง

“ฮ่าๆ ตายซะเถอะ” หยาน จุนรีบเข้าไปที่ฝั่งมังกรดำก่อนจะเอ่ยอย่างดูถูก

“มังกรดำ ฟาดหาง”

ในขณะที่หยาน จุนคิดว่าตนเอาอยู่แน่ จู่ๆพลังจากมังกรยักษ์ก็พวยพุ่งเข้ามาก่อนจะพุ่งไปโดนที่บริเวณอกของหยาน จุน

ฟุ่บ!

หยาน จุนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง จากตอนแรกที่ซี่โครงหัก อาการบาดเจ็บไม่ใช่ย่อยๆเลยด้วย แล้วตอนนี้ก็มาโดนหางมังกรฟาดใส่อีก ไม่รู้ว่าจะมีหักเพิ่มอีกกี่จุด

อาการบาดเจ็บนั้นหนักขึ้นเรื่อยๆ พลังจากหางมังกรดำนั้นมีอานุภาพมากกว่าหมัดเพลิงของหลิน เฟิงมากกว่ามาก หยาน จุนที่โดนหางฟาดเข้าที่กำแพงนั้นถึงกับลุกขึ้นยืนไม่ได้ไปชั่วขณะเลยทีเดียว

 

นอกจากนี้ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ลูกเพลิงสีดำของมังกรดำและเพลิงคำรามจากสิงโตเพลิงนั้นในที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุด

“เปรี้ยง!”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามังกรดำจะมีพลังมากกว่า มันยิงตรงไปยังสิงโตเพลิงตัวนั้น ก่อนที่มันจะกระโดดเหย็งพลางร้องลั่น

แต่ก่อนที่จะจบลง ลูกไฟสีดำของมังกรดำก็กลายเป็นร่างซึ่งห่อหุ้มรอบๆตัวสิงโตเพลิงตัวนั้นก่อนจะแผดเผา

ลูกไฟเพลิงสีแดงบนร่างของสิงโตตัวนั้นก็ถูกดันกลับไปเป็นพลุ ก่อนที่มันจะร้องโหยหวนด้วยความทรมาน

“โฮก!”

สุดท้ายแล้ว สิงโตเพลิงก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะไล่เพลิงที่อยู่บนร่างของมันและห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดด้วยเพลิงของมันซึ่งจะกำจัดการลุกไหม้ของเพลิงมังกรดำนั้นไปในตัว

 

อีกฝั่งหนึ่งนั้น หลิน เฟิงก็เพิ่งจะลงมาถึง แรดเกราะเหล็กคลั่งนั้นไม่ต่างจากรถบรรทุกที่พุ่งชนยับ โดยหลังจากที่เร่งความเร็วมาเป็นเวลานาน ความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นมหาศาลจนเกินกว่าที่คนธรรมดาจะไหวตัวหลบทัน

“ฮึ่ม วิชาย่ำเงา”

ทันใดนั้นเอง เท้าของหลิน เฟิงก็ด้วยก้าวแปลกๆ ทั้งพลิ้วไหวและเงียบ หายไปพร้อมกับเงา

“เอ๊ะ หายไปไหนแล้ว เป็นไปไม่ได้” เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า จู มู่ก็ถึงกับเสียสติ

เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเขียนว่าถ้ามีใครโดนแรดคลั่งเกราะเหล็กนั่นโจมตีเข้าล่ะก็ คนๆนั้นคงไม่มีโอกาสหนีอีกแล้ว

แต่แล้วจู่ๆ หลิน เฟิงก็หายวับไปจากสายตาของเขา เหลือไว้แต่เพียงร่องรอยของเงาที่อยู่ตรงนั้น และยิ่งเป็นเวลามืดด้วยแล้ว ก็ยากที่จะบอกว่าเงาพวกนี้เป็นเงาของหลิน เฟิง

“ตูม!”

ในที่สุด แรดตัวนั้นก็ไม่สามารถหาเป้าหมายพบ รวมถึงไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเองได้ มันจึงขวิดเข้าที่กำแพงหินตรงหน้า เขย่ารูนั้นจนมีเศษก้อนกรวดตกลงมา

 

ยิ่งน้ำหนักเกราะเหล็กนั้นมากเท่าไหร่ แรงเฉื่อยก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น เราจะทำให้ความเร็วนี้ลดลงไปได้อย่างไร

เมื่อจู มู่เห็นแบบนี้ เขาจึงถอนหายใจ กระโดดลงมาก่อนที่แรดสุดโหดตัวนี้จะขวิดกำแพงหินนี่อีกโดยปล่อยให้มันยืนอยู่ที่กำแพงหินนั่นนิ่งๆ

แต่อย่างไรก็ตาม จู มู่ก็หยุดชะงัก แล้วทันใดนั้นเอง เขาก็สัมผัสได้ถึงลมที่ปะทะเข้าที่ด้านหลัง และเมื่อหันไปรอบๆ เขาก็เจอเข้ากับหมัดไฟเต็มๆ

เกิดเสียงปะทะดังขึ้น จู มู่ก็กระเด็นออกมา หน้าทั้งหน้าของเขาถึงกับบิดเบี้ยว ก่อนจะชนเข้ากับแรดเกราะเหล็กจอมคลั่งนั้นในที่สุด

 

ในตอนนี้ กลับกลายเป็นว่าหยาน จุนกับจู มู่นั้นต่างคนต่างไปอยู่ที่กำแพงอีกด้านหนึ่งของผนังถ้ำ โดยที่ทั้งคู่นั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส และประสิทธิภาพในการต่อสู้ก็กลายมาเป็นปัญหา

ไม่ใช่ว่าพวกเขาอ่อนแอเกินไป แต่พวกเขาไม่ได้ใช้พลังที่มีอยู่อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ใครจะไปคิดล่ะว่าหลิน เฟิงจะมาโจมตีพวกเขาที่นี่ พวกเขาบาดเจ็บหนักก่อนที่จะทันได้เคลื่อนไหวเสียด้วยซ้ำ และก็ไม่ได้ใช้พลังออกไปเต็มที่ด้วย

 

ในขณะที่หลิน เฟิงกับมังกรดำนั้นกำลังปะทะกับหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัวอยู่นั้น อีกฝั่งหนึ่งที่กำลังต่อสู้กันอยู่นั้น หนึ่งในที่ตรงนั้นก็คือที่ที่ญาติผู้น้องของเขาสู้อยู่ เพียงแต่ไม่สามารถมองเห็นได้

มังกรทองถูกเหยี่ยวดำของฟางหนิงจับตัวเอาไว้ได้ ก่อนจะถูกกดอย่างหมดรูป

แต่โชคยังดีที่มันมีพลังป้องกันอันแข็งแกร่งรวมถึงความสามารถในการบิน

ไม่เช่นนั้นแล้ว มันจะต้องพ่ายแพ้ให้กับกรงเล็บเหยี่ยวนั่นอย่างแน่นอน

 

หลิน เฟิงมองไปที่ญาติผู้น้องของเขา จื้อเฉิง หลังจากที่เขาจัดการจู มู่เสียจนเจ็บหนัก ปากของจื้อเฉิงก็มีเลือดกบปาก รวมถึงแมงป่องน้ำแข็งเองก็หมดแรง รวมทั้ง มังกรทองเองก็ถูกเหยี่ยวดำไล่ล่าจนต้องรีบบินหนีไปบนท้องฟ้า

ในขณะที่หลิน เฟิงมองไปยังบนนั้น ฟาง หนิง ผู้ซึ่งมีจมูกเหมือนเหยี่ยวก็มองไปบนนั้นอยู่เช่นกัน ต่างคนต่างมองไปบนฟ้า

”ไร้ประโยชน์จริงๆ” จากนั้นฟาง หนิงก็จ้องไปที่หยาน จุนกับจู มู่ก่อนจะตำหนิคนพวกนั้น

 

แล้วเขาก็หันกลับไปมองหลิน เฟิงอีกครั้ง พวกเขาต่างมองกันและกันอยู่เพียงแวบนึง บรรยากาศอันแสนกดดันที่มองไม่เห็นก็คืบคลานเข้ามา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด