โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล 108

Now you are reading โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล Chapter 108 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

RC:บทที่ 108 มาโดยไม่มีบัตรเชิญ

หลังจากที่บริกรสาวเดินจากไป หลินเฟิงก็นั่งอยู่เพียงลำพังและรินน้ำชาดื่มท่ามกลางความเงียบ

“วันนี้สาขาใหญ่ของร้านอาหารมิตรภาพถูกเหมา ช่างดีอะไรเช่นนี้!” หลินเฟิงพูดขึ้น

สาขาใหญ่ของร้านอาหารมิตรภาพแห่งนี้มีถึงสามชั้น แต่ละชั้นนั้นสามารถตั้งโต๊ะได้ถึงสิบสองโต๊ะ และสามารถทำกำไรได้ทุกวันอย่างน้อยหนึ่งหมื่นหยวนและมากสุดถึงหนึ่งแสนหยวนต่อวัน

ซึ่งสาขาใหญ่นี้มันมีมูลค่าอย่างน้อยสองถึงสามแสนหยวนเท่าที่หลินเฟิงประมาณการ ดูเหมือนว่าคนในร้านนี้ก็ดูเป็นคนใจดีมากๆ

“โอ้ ยังไงซะ ซูหว่านเอ๋อนัดให้ผมมาที่นี่นะ เธอคงไม่ใช่คนที่กว้างขวาง ไร้สมอง ผู้ร่ำรวยที่ควรจะมาถึงที่นี่แล้วนะ!” หลินเฟินคิด

มันเป็นไปได้ว่าหลินเฟิงอาจจะซื้อมอเตอร์ไซค์ได้สักหมื่นคันเมื่อตอนที่เขาได้ช่วยชีวิตหญิงสาวคนนี้ไว้

“อ้า ก็แค่ทานข้าวล่ะนะ ซูหว่านเอ๋อคงไม่ชอบที่นี่นักหรอก ฉันหวังว่าคงไม่เป็นอย่างนั้น!” หลินเฟิงภาวนาในใจ เพราะว่าที่นี่นั้นมิดชิด และเงียบสงบโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชั้นหนึ่งนี้ นอกเหนือจากบริกรเพียงไม่กี่คนแล้วก็ไม่มีใครอีกเลย

“ต้องขอประทานโทษด้วยค่ะ วันนี้ร้านของเราถูกจองไว้แล้ว ท่านไม่สามารถเข้ามาได้หากไม่มีบัตรเชิญค่ะ!” ขณะที่หลินเฟิงกำลังเบื่อในการนั่งดื่มน้ำชา ทันใดนั้นเสียงเดิมๆ ก็ดังมาจากทางด้านหลังของเขา

“หลีกไป หลีกทางไปซะ นี่แกไม่รู้งั้นหรือว่าฉันเป็นใคร?” น้ำเสียงที่โกรธดังออกมา จากนั้นบริการชายที่เดินผ่านมาก็โฉบเข้าไป

“คุณ คุณ มีคนกำลังก่อความวุ่นวาย!” บริกรชายคนนั้นไม่ได้โง่เขาจึงตะโกนเสียงดัง

ทันใดนั้นเจ้าของร้านอาหารมิตรภาพก็ได้ยินเสียงนั้น ผู้จัดการร้านก็ลงมาชั้นที่สาม และเมื่อเขามาถึงเขาก็เห็นหลินเฟิงอยู่ที่นี่

“คุณหลิน คุณก็อยู่ที่นี่งั้นหรือ ผมขอไปจัดการธุระก่อนแล้วจะมานั่งกับคุณทีหลัง!” ผู้จัดการร้านกล่าว

ชายคนนี้รู้จักกับหลินเฟิง ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่หลินเฟิงมาที่นี่ส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนต้อนรับ แม้กระทั่งเวลาที่คนของหลินเฟิงมาส่งไก่ ก็เป็นเขาที่คอยรับไก่พวกนั้น งานเกือบทุกอย่างในร้านล้วนแล้วแต่เขาเป็นคนจัดการ

“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่รังเกียจ คุณไปจัดการธุระของคุณก่อนเถอะครับ?” หลินเฟิงจับมือกับเขาพร้อมกับกล่าวออกไป

ถึงแม้ว่าเสียงดังจากภายนอกนั้นจะค่อนข้างดังแต่หลินเฟิงเองก็ไม่ได้สนใจมันเลย เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยๆ หลายคนสร้างปัญหาถ้าหากว่าพวกเขาดื่มเหล้าจนเมาและไม่มีอะไรจะทำ

 

แต่ครั้งนี้นั้นดูแตกต่างออกไป เสียงดังจากภายนอกนั้นยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้หลินเฟิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาจึงหันหลังกลับไปมองดูด้านหลังของเขา

เนื่องจากเป็นระยะที่ค่อนข้างไกล หลินเฟิงเห็นเพียงคนสองสามคนและเสียงที่ดังมา

“แม่งเอ้ย ถ้าแกไม่หลีกทางไปนะ อย่าหาว่าฉันหยาบคายล่ะ!” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าว

“โอ้ นี่ใครกันล่ะ? นี่คือคุณจ้าวหลง ต้องขอโทษด้วยครับ วันนี้ร้านของเราถูกจองไว้แล้วครับ กรุณามาใหม่โอกาสหน้านะครับ!” ผู้จัดการร้านกล่าว

ถ้าหลินเฟิงได้เห็นสิ่งนี้เขาต้องประหลาดใจอย่างแน่นอนเพราะว่าผู้คนตรงหน้าของเขาและตัวเขาเองนั้นเป็นศัตรูกัน

“หลีกไปนะ ไม่มีที่จะยืนคุยกันหรือไง แกไม่คู่ควรที่จะมาคุยกับฉันหรอกนะ เรียกเจ้านายแกมา!” เสียงชายคนนั้นร้องออกมา

“ขอโทษนะครับ เจ้านายของพวกเรากำลังยุ่งอยู่ หากท่านต้องการอะไรได้โปรดแจ้งให้ผมทราบได้ครับ!” ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดขอบไม่ต้องการที่จะให้เจ้านายต้องมาจัดการเรื่องนี้จริงๆ

“บอกแกงั้นหรือ? แกคู่ควรงั้นหรือ? อย่าเอาเรื่องไร้สาระแบบนี้มาพูดกับฉัน หลีกไปให้พ้น ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะสร้างปัญหานะ ฉันมาเพื่อที่จะแสดงความยินดีกับคุณซูหว่านเอ๋อ!” ชายหนุ่มกล่าว

“ทำไมเสียงนี้มันถึงฟังดูคุ้นๆ เหมือนเสียงของจ้าวหลงเลยนะ?” หลินเฟิง ที่กำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่ที่ชั้นหนึ่ง รู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนั้น

หลินเฟิงกำลังที่จะเดินออกไปดู แต่เมื่อเขาลุกขึ้นยืน ก็มีคนสองคนเดินลงมาจากชั้นบน เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง หลินเฟิงนั้นรู้จักผู้ชาย เขาคือหวังฮ่าวหมิง(หวาง)​เป็นเจ้าของร้านอาหารมิตรภาพแห่งนี้ ส่วนผู้หญิงอีกคนนั้นหลินเฟิงจำไม่ได้ แต่เพียงครู่เดียวเขาก็รู้สึกคับคล้ายคับคลาเธอ เหมือนกันว่าเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน

“โอ้ เสี่ยวเฟิง ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ฉันเพิ่งจะคุยธุระกับแขกของฉันเสร็จ ฉันมาสาย ขอโทษนะ” คุณหวังกล่าว

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” หลินเฟิงตอบ

“คุณซู นี่เพื่อนของผมครับ หลินเฟิง! และเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของผมด้วย!” หวังฮ่าวหมิงแนะนำหลินเฟิง

“หลินเฟิงงั้นหรือ? อ้อ! หลินเฟิง คุณที่เจอกันคราวที่แล้ว!” เมื่อเถ้าแก่หวังแนะนำหลินเฟิงให้เธอรู้จัก หญิงสาวมองมาที่หลินเฟิงและพูดออกมาอย่างประหลาดใจ

“นี่คุณซูหว่านเอ๋องั้นหรือครับ?” หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่มั่นใจนัก

หลังจากที่พบกันมานานมากกว่าหนึ่งเดือน คนทั้งสองได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก พวกเขาจำกันและกันไม่ได้ในครั้งแรกที่เจอ

“ใช่ค่ะ! คุณดูหล่อมากเลยนะคะวันนี้ ฉันจำคุณแทบไม่ได้เลย!” ซูหว่านเอ๋กล่าวหลังจากที่มองดูหลินเฟิง

“ใช่ครับ วันนี้คุณเองก็สวยมากจนผมจำไม่ได้เลย!” หลินเฟิงตอบ

วันนี้ ซูหว่านเอ๋อสวมชุดกระโปรงสีชมพู ซึ่งไม่ยาวมาก เผยให้เห็นเรียวขาขาวเรียวยาวซึ่งทำให้ผู้คนถึงกับอื้ออึง

เมื่อเปรียบเทียบกับครั้งที่แล้ว เธอได้เปลี่ยนทรงผมของเธอ และดูน่ารักขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าของเธอนั้นก็แต่งแต้มสีสันไว้อย่างอ่อนๆ ซึ่งทำให้ยิ่งดูสวยงามมากขึ้น

ในตอนนี้ เมื่อหลินเฟิงมองเห็นเธอในครั้งแรก เขารู้สึกว่าเธอไม่เพียงแค่สวยเท่านั้น แต่สวยมาก

“ฉันจะพูดอีกครั้งนะ หลีกทางให้ฉันซะ หรือจะให้ฉันเริ่มก่อน!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงอื้ออึงดังมาจากด้านนอกประตู ซึ่งขัดจังหวะของหลินเฟิง

“ไปก่อนนะ แล้วดูว่าใครกันที่มาสร้างปัญหาที่นี่!” หวังฮ่าวหมิงพูดอย่างโกรธเคือง

เมื่อเห็นหวังฮ่าวหมิงโกรธ ซูหว่านเอ๋อและหลินเฟิงจึงตามเขาไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น

“นี่คุณเป็นใครกัน? กล้าดียังไงถึงได้มาก่อกวนที่ร้านอาหารมิตรภาพของผม?” หวังฮ่าวหมิงพูดเสียงดังขึ้นทันทีเมื่อเขาเดินออกมาถึง

ตรงหน้าของเขาเป็นชายหนุ่มที่มีจมูกและปากแหลมชี้ขึ้นบนฟ้า ตามมาด้วยชายวัยกลางคนอีกหนึ่งคน

หลินเฟิงเห็นคนทั้งสองคนนี้พากันตัวสั่น ไม่ใช่เพราะใครอื่น แต่เป็นเพราะสิ่งที่พวกเขาเห็น

นี่มันคือจ้าวหลงและหว่อหยูไม่ใช่หรือ?

เมื่อได้เห็นคนทั้งสองคน หลินเฟิงรู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีแต่ตอนนี้เขาอยู่ในร้านของเถ้าแก่หวัง ดังนั้นเขาจึงระงับความโกรธเอาไว้

“โอ้ เถ้าแก่หวัง ในที่สุดคุณก็มาจนได้ หมารับใช้ของคุณไม่ยอมให้ผมเข้าไป คุณจะลงโทษพวกเขายังไงกัน?” จ้าวหลงเชิดจมูกของเขาชึ้นและจ้องไปที่เถ้าแก่หวัง

“อ้อ ก็นึกว่าใคร? จ้าวหลงนี่เอง แล้วจ้าวหลงมาที่นี่ทำไมกัน? คงไม่ได้มาเพื่อทำลายร้านของฉันอีกหรอกนะ!” เถ้าแก่หวังพูดพร้อมกับยิ้มไปด้วย

“โธ่ เรื่องมันจบไปแล้ว ยิ่งไปกว่านี้พ่อของฉันก็จ่ายค่าตกแต่งให้คุณแล้วนี่? ลืมมันไปซะเถอะนะ!” จ้าวหลงกล่าวด้วยความละอาย

“ฮ่าฮ่า การมาเพียงชั่วเวลาสั้นๆ ของฉันกลับกลับเป็นแค้นที่น่าจดจำมาเป็นเวลานาน ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะถูกแก้ไขแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะลืมมันนะ!” เถ้าแก่หวังพูดออกไปไม่ดีนัก

“แม่งเอ้ย ถ้าพ่อแก่ๆ ของฉันไม่บังคับให้มา ฉันก็ไม่ต้องโดนทำโทษเพราะแกหรอก?” จ้าวหลงคิดในใจ

“เอาล่ะ ครั้งที่แล้วเป็นความผิดของผมเอง ผมต้องการขอโทษคุณในครั้งนี้ ผมเสียใจแต่ครั้งนี้ผมไม่ได้มาเพื่อสร้างปัญหานะ!” จ้าวหลงกล่าวออกมาท่ามกลางความเงียบ

“ฉันเองก็ไม่ได้ต้องการจะสร้างปัญหาอะไร คุณซูได้จองร้านของเราไว้แล้ว เราจึงไม่สามารถรับลูกค้าท่านอื่นได้ จึงทำได้แค่มาดูและส่งแขกเท่านั้น!” หวังฮ่าวหมิงกล่าว

“อ้อ เดี๋ยวก่อนนะ ฉันมาเพื่อที่จะแสดงความยินดีกับคุณซูนะ คุณซูอภัยให้ผมด้วยที่มาที่นี่โดยไม่ได้ถาม…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด