Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1527 –คฤหาสน์จอมฟ้าฉิน (ต่อ)

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1527 –คฤหาสน์จอมฟ้าฉิน (ต่อ) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉินชิงหัวเราะเมื่อได้คำพูดของชิงสุ่ย ก็และกล่าว “ข้าก็ไม่รู้ว่าท่านพ่อแข็งแกร่งขนาดไหน เพราะข้าเองก็ไม่เคยเห็นท่านนั้นไปต่อสู้กับใครที่ไหนเลย “

 

“ก็จริงของเจ้า การเป็นคนดีก็ไม่ได้หมายความว่าจะอ่อนแอ อย่างน้อยคนดีเข่นพ่อของเจ้านั้นก็แข็งแกร่งกว่าคนชั่วเช่นข้าอย่างมาก “ชิงสุ่ยหัวเราะออกมาเมื่อกล่าว

 

“ทำไมเจ้าถึงกล่าวเช่นนี้? ระวังพ่อของข้าได้จะยินเข้า เขาคงไม่ชอบที่เจ้าพูดเช่นนี้อย่างแน่นอน  “

 

“ฮ่าๆ หากเขาต้องการทำร้ายข้าจริงๆข้าจะไม่ตอบโต้ก็แล้วกัน” ชิงสุ่ยหัวเราะเบา ๆ

 

“เอาล่ะพอแล้ว เราเข้าไปกันดีกว่า “ฉินชิงได้เดินนำเข้าไปในคฤหาสน์

 

“คุณหนู ท่านกลับมาแล้ว” ทหารยามกล่าวทักทายฉินชิงอย่างสุภาพ จากการแสดงออกในตอนนี้ของเขา เธอนั้นต้องมีสถานะที่สูงส่งอย่างมากภายในตระกูลฉิน

 

“อะไรนะ น้องสาวตัวน้อยของข้ากลับมาแล้วรึ!” เสียงที่ดังขึ้นมาจากระยะใกล้ดังออกมา ก่อนที่จะมีชายหนุ่มรูปงามวิ่งมาทางชิงสุ่ยและฉินชิง

 

“พี่ใหญ่ นี่ท่านอยู่ที่บ้านรึ?!” ฉินชิงก็โผล่หัวเราะออกมาเมื่อเห็นเขา

 

ชิงสุ่ยรู้ได้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นค่อนข้าดีอย่างมากๆกว่าที่เขาคิดเอาไว้ในตอนแรกเสียงอีก เช่นเดียวกับในตอนนี้ พี่ชายของเธอที่มองดูอยู่สักพักก็ได้กล่าวออกมา “นี่เจ้าจะไม่แนะนำเพื่อนของเจ้าให้ข้ารู้จักรึ?”

 

“ใช่ๆข้าลืมไปเลย พี่ใหญ่นี่ชิงสุ่ย  ชิงสุ่ยนี่พี่ใหญ่ของข้าฉิน จวน! “

 

“ดีใจที่ได้พบท่านพี่ฉิน!” ในเมื่อในตอนนี้ชิงสุ่ยตั้งใจที่จะเปิดใจให้กับฉินชิง ดังนั้นเขาจึงตั้งใจที่จะเป็นมิตรกับพี่ชายของเธอ

 

“เช่นเดียวกัน ข้าก็ดีใจที่ได้พบเจ้า ชิงสุ่ยเจ้ารู้มั้ยมาตรฐานน้องสาวของข้านั้นสูงกว่าท้องฟ้าเสียอีก นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พาผู้ชายเข้ามาในบ้านแห่งนี้ “ฉินจวนกล่าวออกมาอย่างกระตือรือร้นและมองไปที่ชิงสุ่ย

 

 

จากคำพูดดังกล่าวนั้นทำให้ชิงสุ่ยรู้ว่าในตอนนี้ ฉินชิงนั้นยังคงบริสุทธิ์อยู่มันยิ่งทำให้เขานั้นอยากครอบครองเธอขึ้นไปอีก  “ฮ่าๆ พี่ใหญ่ช่างเป็นคนที่โดดเด่นจริงๆ นอกจากนี่ท่านยังเป็นคนหล่อที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมาอีกด้วย “ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“พอๆพวกเจ้าพอได้แล้ว  จริงสิพี่ใหญ่ ข้ามีเรื่องที่อยากจะคุยกับพี่สะใภ้ “ในขณะที่กล่าวเธอเหลือมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยสายตาประหลาด

 

“ถ้าเช่นนั้น ทำไมพวกเจ้าไม่มาพักทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ข้าจะได้ไปตามพวกนางมา”ฉินจวนหัวเราะอย่างงุ่มงามออกมา ก่อนที่จะเดินจากไป

 

“ไม่มีผู้ชายคนไหนที่เป็นคนดีจริงๆในโลกนี้หรอก” ฉินชิงถอนหายใจ

 

จากการสนทนาของพวกเขา มันทำให้ชิงสุ่ยร้ว่า ฉินจวนนั้นต้องมีผู้หญิงคนอื่นนอกเหนือจากภรรยาของเขาอย่างแน่นอน

 

“ถ้าเจ้าไม่ชอบเจ้าก็กำจัดพวกเขาไปให้หมดสิ และเหลือไว้เพียงแค่ข้าคนเดียว”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างไร้ยางอาย แต่นี้ก็คือวิธีการหยอกล้อของเขา

 

“เห้อ แล้วเจ้าละชิงสุ่ย เจ้าสามารถบอกข้าได้รึไม่ว่าเจ้านั้นมีภรรยาอยู่กี่คนกัน  ? “ฉินชิงยิ้มให้กับชิงสุ่ย

 

“เอิ่ม เกี่ยวกับเรื่องนี้ … ที่จริงแล้วความดีของมนุษย์เราไม่สามารถวัดได้ จากจำนวนของผู้หญิงที่เขามี อันที่จริงเจ้าต้องดูสิว่าทำไมผู้หญิงเหล่านั้นถึงหลงรักเขา หากเขาไม่ใช่คนดีจริงๆพวกนางคงไม่ยอมรีบเขาที่มีผู้หญิงคนอื่นๆอยู่ข้างๆหรอก ดี “ชิงสุ่ยตอบอย่างจริงจัง

 

“นี่ช่างเป็นเหตุผลที่ไร้สาระ นี่เจ้าจะบอกว่ายิ่งผู้ชายคนไหนที่มีหญิงสาวข้างกายมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นคนดีอย่างนั้นรึ? “ฉินชิงรู้สึกท้อแท้ เมื่อได้ยินคำตอบของเขา

 

“แน่นอนว่าไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่จริงเสียทั้งหมด….. “

 

ขณะที่คุยกันอยู่พวกเขาก็ได้เดินมาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ ตลอดเส้นทางที่ผ่านมาชิงสุ่ยได้พบเจอผู้คนมากมายของตระกูลฉิน และทุกๆคนนั้นก็ดูดีอย่างมาก มันทำให้เขาสามารถบอกได้เลยว่าที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของผู้คนที่หน้าตาดีที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมา

 

ชิงสุ่ยเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่หล่อเหล่าอยู่ระดับหนึ่ง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับชายหนุ่มจากตระกูลฉินแล้ว เขานั้นก็ด้อยกว่าเล็กน้อย มันแอบทำให้เขานั้นเสียความมั่นใจไปบางส่วน  แต่ชิงสุ่ยก็ยอมรับความจริงเรื่องนี้ได้ เพราะไม่ว่าใครๆรอบตัวเขาในตอนนี้ก็หน้าตาดีทั้งนั้น

 

แต่ถึงอย่างไรพวกเขานั้นก็ยังขาดเสน่ห์บางอย่างไป ซึ่งชิงสุ่ยไม่สามารถบอกได้ เช่นหญิงสาวที่อยู่ที่ระเบียงซ้ายมือของเขา ถึงแม้เธอนั้นจะมีใบหน้าที่งดงามใกล้เคียงกับจรู้ชิง แต่ถึงอย่างไรเธอนั้นก็ไม่มีเสน่ห์เหมือนกับที่เธอมี

 

ถึงแม้เขานั้นจะมองไปรอบๆแต่เขานั้นไม่เคยสามารถละสายตาของฉินชิงได้เลย รอยยิ้มของเธอ ดวงตาของเธอนั้นทำให้เขาถูกสะกดเอาไว้จนไปไหนไม่ได้

 

ในตอนนั้นเองชายหนุ่มคนหนึ่งที่หล่อเหล่าได้เดินออกมาจากประตูห้องโถง ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

 

“พี่หญิง ท่านกลับมารึ?” ความรู้สึกเศร้าหมองของชายหนุ่ม ถูกแทนที่ด้วยความสุขอย่างหนึ่งเมื่อเขาเห็นฉินชิงและเขาก็เริ่มเดินไปหาเธอ

 

“เกิดอะไรขึ้นฉินซาน? นี่เจ้าถูกท่านปู่ตำหนิอีกแล้วรึ? “ฉินชิงหัวเราะ

 

“ฮ่าๆ พี่สาว ใครว่าแบบนั้นกันละ?” หลังจากที่กล่าวจบ เขาได้หันไปมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่ดุดันและหึงหวง

 

“เจ้าเด็กโง่ ทำไมเจ้าถึงแสดงท่าทางแบบนั้นออกมา? นี่คือเพื่อนของข้า ชิงสุ่ย เขาเป็นหมอที่จะมาช่วยเรา “ฉินชิงแนะนำ

 

“จริงหรอพี่หญิง แต่ข้าดูแล้ว พวกท่านนั้นดูเหมือนคู่รักกันมากว่าเสียอีก” ฉินซานรีบวิ่งหนีออกไปในทันทีหลังจากที่กล่าวจบ แต่ก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้หันไปหาชิงสุ่ยและกล่าวว่า “คุณชายชิงข้าดีใจที่ได้พบท่าน อย่าลืมมาทานอาหารกลางวันด้วยกันละ ยิ่งไปกว่านั้นพี่สาวของข้านั้นเป็นที่ดีมาก เพราะฉะนั้นอย่างทำให้นางเสียใจละ! “

 

“ยินดีที่ได้พบเจ้าเช่นกัน ท่านเป็นคนที่หล่อเหล่าที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมาเลย “ชิงสุ่ยยิ้มและรีบตอบ

 

ฉินชิงรีบกล่าวมาต่อในทันที “เจ้าเด็กคนนี้! นอกจากนี้เจ้าก็เหมือนกัน ทำไมถึงไม่ได้ปฏิเสธไปละ ยิ่งกว่านั้นเจ้าจะไม่เปลี่ยนคำชมของเจ้าหน่อยหรอ ฮ่าๆ? ไหนบอกข้าสิ ตกลงใครหล่อกว่ากันพี่ชายช้ารึ น้องชายของข้า?”

 

“ฮ่าๆ จริงๆแล้วข้านั้นหล่อที่สุด” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยสีหน้ามั่นใจและหันไปยิ้มให้เธอ แต่ในตอนนี้ชิงสุ่ยแอบสงสัยเรื่องบางอย่างอยู่นั้นก็คือ ทำไมคนของตระกูลฉินถึงแสดงออกราวกับเธอนั้นแอบชอบเขาอยู่หรือพยายามยกเธอให้กับเขา?

 

ชิงสุ่ยนั้นไม่สามารถให้คำตอบในส่วนนี้ได้ เขาจึงได้กล่าวออกมา “นี่ใช่พี่น้องของเจ้าจริงๆรึไม่?”

 

“ทำไมเจ้าถึงถามเช่นนี้ออกมา พวกเขาพูดอะไรไม่ดีอย่างนั้นรึ หรือพวกเขาดูไม่ให้ความสำคัญกับข้าอย่างนั้นรึ?”ฉินชิงยิ้มออกมาและมองไปที่เขา

 

“ป่าวเลย ตรงกันข้ามเสียอีก พวกเขาดูให้ความสำคัญกับเจ้าอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขานั้นยังดูเป็นห่วงว่าเจ้า และกลัวว่าเจ้านั้นจะไม่ได้แต่งงาน และใช้ชีวิตคนเดียวลำพังไปตลอดมากกกว่า”

 

 

ฉินชิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยในคำตอบของเขา “ฮ่าๆ ข้าพอจะเข้าใจได้ในเรื่องนี้ นั่นเป็นพวกเขามีเหตุผลให้คิดเช่นนั้นอย่างไงละ ปกติข้านั้นไม่เคยพาใครเข้ามาในบ้าน เลยไม่ว่าจะชายหรือหญิง ยิ่งไปกว่านั้นชีวิตส่วนใหญ่ของข้าจะอาศัยอยู่เพียงในบ้านเท่านั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขานั้นกล่าวเช่นนั้นออกมา เจ้าไม่ต้องคิดมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอ ยิ่งไปกว่านั้นหากเจ้าชอบข้าจริงๆ หรืออยากให้ข้านั้นแต่งงานด้วย เจ้านั้นต้องแสดงแข็งแกร่งและมีความสามารถที่มากกว่าใครคนอื่นๆ นี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้ข้านั้นยอมรับเจ้าได้”

 

“ฮ่าๆ  แน่นอนข้านั้นเป็นคนมีความสามารถมากกว่าใครๆ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันเลย เจ้าต้องได้แต่งงานกับข้าแน่นอน “ชิงสุ่ยตอบกลับอย่างจริงจัง

 

ฉินชิงรู้สึกผิดพลาดอย่างมากที่กล่าวเช่นนี้ออกมา เธอรู้ดีว่าคำพูดของเขานั้นคือความจริง เขาเป็นคนที่มีความสามารถมากมายมากกว่าใครคนใดที่เธอเคยพบเจอมา มันจึงทำให้เธอนั้นไม่สามารถที่ตะโต้แย้งเขาได้เลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้เธอนั้นทำได้แค่ถอนหายใจและเดินเข้าไปในห้องโถงขนาดใหญ่

 

ชิงสุ่ยหัวเราะออกมาอีกครั้งก่อนที่จะตามเธอเข้าไป

 

 

มีผู้คนจำนวนไม่มากที่อาศัยอยู่ที่แห่งนี้  แม้จะมีคนรับใช้อยู่ แต่มันก็คือว่าน้อยอย่างมากเมื่อเทียบกับความใหญ่โตของที่แห่งนี้

 

ในตอนนี้ เมื่อเดินเข้าไปในห้องโถง ชิงสุ่ยกลับพบว่า ในห้องโถงนั้นว่างเปล่าอย่างมาก ไม่มีแม้แต่สิ่งประดับที่งดงาม มีเพียงเก้าอี้ไม่กี่ตัวเท่านั้นที่อยู่ในห้องแห่งนี้  ซึ่งมันชั่งดูแตกต่างกับภาพภายนอกของที่แห่งนี้อย่างมาก

 

เหตุผลที่ตระกูลฉินต้องตกแต่งข้างในให้หรูหรานั้นเพราะพวกเขาเป็นสมาชิกของจักรวรรดิฉิน ดังนั้นเพื่อรักษาหน้าเอาไว้พวกเขาจึงจำเป็นต้องทำเช่นนั้นออกมา

 

“ในที่สุด ลูกสาวของของข้าก็กลับมาแล้ว!” ชายคนหนึ่งกล่าวออกมามา ขณะมองไปที่เธอ

 

“ท่านพ่อ!”ฉินชิงตะโกนออกมาอย่างก็ตัวน้อยๆที่จากพ่อแม่ไปไกล ขณะที่เธอวิ่งไปกอดชายคนนั้นอย่างร่าเริง

 

ชิงสุ่ยไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่แข็งแกร่งเช่นเธอนั้นจะมุมที่เป็นเด็กน้อยเช่นนี้เหมือนกัน เมื่อเห็นด้านนี้ของเธอมันทำให้เขานั้นยิ่งตกหลุมรักเธอมากยิ่งขึ้น

 

“นี่ๆเรายังมีแขกยืนอยู่ที่นี่ เจ้าไม่อายบ้างหรอ?”ชายคนนั้นกล่าวมาด้วยรอยยิ้ม

 

“ไม่!”เธอนั้นหันไปยิ่มให้พ่อของเธอก่อนที่จะกอดเขาอีกครั้ง

“ฮ่าๆ ก็ได้ๆแล้วเจ้าจะไม่แนะนำเขาให้ข้ารู้จักหน่อยรึ?”ชายคนนั้นลูบไปที่หัวลูกสาวของเขาและมองไปที่ชิงสุ่ย

 

ในตอนนิ้ชิงสุ่ยมองลึกๆลงไปในดวงตาของเขา ในตอนนี้ชิงสุ่ยสัมผัสได้ถึงความสามารถที่หลบซ่อนอยู่ในตัวของเขามาก ยิ่งมองลึกลงไปเท่าไรชิงสุ่ยยิ้มสามารถเข้าใจได้ว่าเขานั้นเก่งกาจขนาดไหน

“นี่คือชิงสุ่ย แพทย์แห่งปาฏิหารย์”ฉินชิงหัวเราะและกล่าว

 

“แค่นั้นรี?” ชายคนนั้นหัวเราอีกครั้ง

 

“ท่านพ่อ มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด!”

 

 

“ฮ่า ๆ ข้าก็คิดว่าบางทีลูกสาวของข้านั้นจะเติบโตขึ้นมาอีกหน่อยเสียแล้ว มากพอที่จะพาลูกเขยกลับมาหาข้า” ชายคนนั้นหัวเราะออกมาขณะที่มองไปที่ชิงสุ่ย

 

“ยินดีที่ได้พบท่านหมอชิง  ข้าคือฉิน ป่ายฟง “เขากล่าวต้อนรับชิงสุ่ยด้วยรอยยิ้ม

 

ชิงสุ่ยรู้สึกตระหนกเล็กน้อยก่อน ก่อนที่จะกล่าวออกมา “ข้าน้อยชื่อชิงสุ่ย  ในตอนนี้ข้าน้อยพยายามอย่างมากที่จะไล่ตามท่านหญิงฉินชิง และตอนข้านั้นจะขอโอกาสให้ท่านสนับสนุนข้าน้อยสักครั้ง “

 

ชิงสุ่ยรู้สึกเขินอายอย่างมากที่กล่าวเช่นนี้ออกมา นอกจากนี้มันยังเป็นคำพูดที่ไร้สาระอย่างมากที่จะขอการสนับสนุนจากบิดาของคนที่เขาตามจีบ หากเป็นในอดีตเขาคงไม่กล่าวเช่นนี้ออกมา

 

“โอ้หนุ่มคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ ข้าชอบๆ  ข้าจะสนับสนุนเจ้า แต่เจ้าต้องห้ามกล้าแกล้งลูกสาวของข้านะ “ฉินป่ายฟงกล่าวออกมาพร้อมเสียหัวเราะ

 

“ข้านั้นไม่เคยเลยที่จะทำเช่นนั้น เป็นข้าเองมากกว่าที่ถูกท่านหญิงนั้นกลั่นแกล้ง “ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยความจริงใจ

 

“พอได้แล้ว ถ้าเจ้าไม่หยุดพูดเดี๋ยวนี้ จะเตะเจ้าออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้! นอกจากนี้ท่านพ่อ ทำไม่ท่านถึงทำเช่นนี้กับลูกสาวตัวเองได้? “ฉินชิงกล่าวออกมาด้วยความโมโหสลับกับยิ้มออกมา การแสดงออกของเธอมีความน่ารักที่ไม่สามารถสื่อความหมายออกมาได้ มันเป็นความน่ารักที่เป็นแบบฉบับเฉพาะเธอ

 

 

 

“จริงสิจารึกที่อยู่ที่ประตูทางเข้านั้น ท่านลุงเป็นคนเขียนมันขึ้นใช่รึไม่ มันช่างเป็นตัวอักษรที่งดงามอย่างมาก!”

 

“โอ้จริงรึ? แล้วมันงดงามยังไงละ? “ฉิน ป่ายฟงหัวเราะเบา ๆ

 

“มันเป็นตัวอักษรที่ถูกสร้างออกมาอย่างการประณีต เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบระหว่างความแข็งแกร่งและความอ่อนช้อย มีการลงน้ำหนักความแม่นยำและชำนาญบวกกับเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่ดูสง่างามตามธรรมชาติ นอกจากนี้มันยังแฝงเอาไว้ซึ่งตัวตนของผู้ที่เขียนอีกด้วย “ชิงสุ่ยกล่าวอธิบายออกมาขณะนึกถึงมัน

 

“ฮ่าฮ่า! ดูเหมือน ท่านหมอชิง จะมีความสามารถพิเศษในการประดิษฐ์ตัวอักษรเช่นเดียวกัน ทำไมท่านหมอไม่ลองเขียนมันดูบางล่ะ? “ฉินป่ายฟงหัวเราะ

 

“ข้าน้อยนั้นยังด้อยซึ่งความสามารถที่จะเขียนมัน” ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่สั่นศีรษะ

 

“เห้อ นี่เจ้าจะไม่เขียนมันหลังจากที่พูดออกมามากมายขนาดนี้จริงๆรึ? มันเป็นไปได้มั้ยที่เจ้านั้นเอาแต่เห่า แต่ไม่มีกัด? “ฉินชิงหัวเราะ

 

ชิงสุ่ยนั้นได้ลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะ “ถึงข้านั้นจะไม่มีความสามารถมากพอในการประดิษฐ์ตัวอักษร แต่ข้านั้นพอจะมีความสามารถในการวาดรูปอยู่ ดังนั้นข้าจะของวาดรูปของเจ้าก็แล้วกัน!”

 

ชิงสุ่ยได้สะบัดฟู่กันลงไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยความสามารถที่เขามีในตอนนี้ จากประสบการณ์ในการเขียนเครื่องรางมากมายมาย จึงไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะวาดภาพของเธอ ในตอนนี้เขานั้นจ้องไปที่ฉินชิงเป็นครั้งคราวก่อนและสะบัดฟู่กันอย่างต่อเนื่อง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด