Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1638–ชายชราหวังผู้ลึกลับ

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1638–ชายชราหวังผู้ลึกลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

AST
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับแฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
บทที่1638 –ชายชราหวังผู้ลึกลับ
ในตอนนี้หยินชารู้ดีว่าถ้าพ่อของเขาฟื้นความแข็งแกร่งได้กลับมาตระกูลหงจะไม่กล้าทำเรื่องอย่างนี้แน่นอน ตอนนี้ตระกูลหยินก็เหลือเพียงแม่ของเขาเท่านั้นที่มีความสามารถใกล้เคียงกับพ่อของเขา
เฟิงซี่ยิ้มออกมาและมองไปที่หยินเทียน“ ท่านคิดอย่างไร กับต่อสู้ครั้งนี้ เราควรมีแผนยังไงรึ?”
หยินเทียนยิ้มและพูดว่า“ข้าแน่ใจว่าเจ้าคิดออกแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองบอกข้าดูละ ว่าในตอนนี้สิ่งที่เจ้าคิดกับข้าคิดเหมือนกันหรือไม่?”
“เราจะทำการประลอง 10ต่อ10 “เฟิงซี่มองหยินเทียนและพูดด้วยรอยยิ้ม
หยินเทียนรู้ว่าเธอนั้นจะส่งชิงสุ่ยเข้าไปในการต่อสู้อย่างแน่นอนนอกจากนี้รวมถึงเธอและลูกชายของเขา
ในตอนนี้หยินชาไม่ค่อยเข้าใจมากนักเขานั้นไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับชิงสุ่ยมากนัก ในตอนนี้เขาเลือกที่จะอยู่เงียบๆ และฟังต่อไป เพราะเขาเชื่อมั่นในการตัดสินใจของพ่อและแม่เขาเสมอ
“แล้วเราจะส่งใครไปบ้าง?” หยินเทียนยิ้มและถาม
”ข้าชาเอ๋อ ชิงลุ่ย ชิงเฟิง,หมิงอวี้ และอาวุโสทั้งสอง” เฟิงซี่ยิ้มและตอบ (7 คน??)
หยินเทียนยิ้มและมองไปที่เฟิงซี่เขาไม่ได้แสดงความไม่เห็นเกี่ยวกับวิธีของเธอ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับแผนการของเธอในครั้งนี้
“มีอะไรรึ แผนของข้ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” เธอถามออกมาเมื่อเห็นร้อยยิ้มที่ผิดปกติของเขา
“เป็นเวลาหลายปีตระกูลหงได้วางแผนเอาไว้ โดยเฉพาะในครั้งนี้เราดันเป็นฝ่ายที่ติดกับพวกเขาเอง ดังนั้นข้าคิดว่าท่านอาวุโสทั้งสองคงไม่ช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน ดีกว่าสำหรับเราที่จะไม่หวังในตัวพวกเขามากนัก “หยินเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
เป็นอย่างที่หยินเทียนกล่าวเอาไว้เนื่องจากเรื่องราวในครั้งนี้เป็นฝ่ายตระกูลหยินที่ผิดพลาดจริงๆ นอกจากนี้ในช่วงเวลาที่หยินเทียนและเฟิงซี่ไม่อยู่อาวุโสทั้งสองก็ได้ออกรับหน้าและกำจัดอริมาโดยตลอด มันจึงทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บภายใน อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงสามเดือนในการฟื้นตัว
อย่างไรก็ตามเฟิงซี่ก็รู้ดีว่ามันคือข้าอ้างแม้พวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนพวกเขาก็ยังเป็นคนยังไงซะเขาก็ย่อมถูกกดดันจากตระกูลอื่นๆ หากทำเกินหน้าที่ของตน แต่ถึงอย่างไรเธอก็สงสัยว่าเป็นใครกันที่สามารถสร้างแรงกดดันให้ทั้งสองได้ เพราะพวกเขาเป็นคนที่จะไม่ยอมทรยศตระกูลหยิน แม้ว่าพวกเขาจะต้องตายแน่นอน นั้นหมายความว่าพวกเขาต้องถูกคุกคามโดยบุคคลหนึ่งที่มีผลต่อชีวิตของพวกเขา มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำเช่นนี้
แม้เฟิงซี่จะรู้สึกผิดหวังแต่ตระกูลหยินก็ไม่สามารถบีบบังคับพวกเขาได้ ชิงเฟิง หมิงอวี้ ทั้งสองเป็นสหายที่ดีของพวกเขา ซึ่งแน่นอนในครั้งพวกเขาย่อมให้ความช่วยเหลือตระกูลหยิน แต่นั้นก้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะตอบตกลง ยังไงซะพวกเขาก็ยังมีตระกูงของตัวเองที่ต้องดูแล แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้ถ้าพวกเขาเข้าร่วม จำนวนของผู้เขาร่วมเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
“แล้วเราจะทำอย่างไรดี” เฟิงซี่ถักคิ้วขึ้นแล้วถามออกมา หากปราศาจากอาวุโสทั้งสองหรือชิงเฟิง หมิงอวี้ แม้พวกเขาจะมีชิงสุ่ยนี่ก็ถือว่าเป็นงานที่ยากเอาการ
“ที่จริงแล้วเพียงแค่มีชิสุ่ยทางด้านข้างของเราก็ได้เปรียบมากแล้ว มันก็ไม่ได้แย่มากมายดังที่เจ้าคิดเอาไว้หลอก” หยินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้าแค่คิดเพื่อเรื่องไม่คาดฝันเอาไว้เท่านั้น ด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่าเราจะทำอย่างไร” เฟิงซี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่กังวล
“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกังวลหรอก ให้เราจะให้พ่อครัวหวังมีส่วนร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ ด้วยวิธีนี้เราควรจะสามารถชนะได้อย่างง่ายดาย” หยินเทียนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านหมายถึงท่านลุงหวัง ที่เป็นพ่อครัว ใช่ไหม” เฟิงซี่ถามด้วยความไม่เชื่อ
ในตอนนี้หยินชาเองก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินมาและหันไปมองพ่อของเขาในทัน
“ใช่ ก็มีเพียงแค่ท่านลุงหวังคนนั้นคนเดียวเท่านั้น” หยินเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของทั้งสองเขาจึงกล่าวต่อว่า“ อย่าได้กังวลท่านลุงหวังนั้นอ่อนแอกว่าข้าตอนที่สมบูรณ์ที่สุดเพียงเล็กน้อย แม้แต่ชิงเฟิงและหมิงอวี้ ร่วมกันสู้ก็ไม่อาจเทียบเท่าได้ ไม่ควรมีปัญหาใด ๆ หากเลือกเขาเข้าร่วมการประลองในครั้งนี้”
“แล้วท่านลุงหวังจะเข้าร่วมการประลองในครั้งนี้ด้วยหรือไม่?” หยินชาและเฟิงซี่ถามออกมา
ในที่สุดหยินชาก็สามารถเข้าใจบางสิ่งได้ในที่สุดเหตุผลที่เขาสามารถมีชีวิตรอดมาได้ในทุกๆวันนี้ไม่ใช่เพียงเพราะอาวุโสทั้งสองที่คอยดูแล ยังมีชายชราหวังผู้นี้ผู้แฝงตัวอยู่ในเงามืด และคอยช่วยเหลือเขาเอาไว้
“แน่นอนท่านลุงหวังผู้นี้คือคนที่ปกป้องเจ้ามาโดยตลอด เขาคือผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งอย่างมาก เหตุผลที่เขาได้เร้นกายไปก็เพราะเขาไม่สามารถปกป้องภรรยาของเขาได้ หลังจากที่แก้แค้นให้เธอสำเร็จเขาก็แทบไม่เคยแสดงความแข็งแกร่ง และหยุได้ระทิ้งเส้นทางแห่งการบ่มเพราะไป หากในตอนนี้เขายังคงบ้าคลั่งและฝึกฝนเหมือนดังเคย แม้แต่ข้าที่ร่างกายแข็งแรงดีก็ไม่ใช่คู่ต้อสู้ของเขา อาจกล่าวมีคนไม่กี่คนเท่านั้นที่จะพอรับมือเขาได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้จากไปไหนเขาได้มาอยู่กับข้าและได้หาความสุขจากการทำอาหาร แม้ว่าเขาจะไม่พรสวรรค์ในทางนี้ก็ตาม”
แม้แต่เฟิงซี่ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มากก่อนตลอดเวลานี้เธอมักคิดเสมอว่าเขาอยู่เพียงระดับเซียนเทียนเท่านั้น และไม่เคยคิดว่าเขานั้นแข็งแกร่งมากมายกว่าเธอขนาดนี้
ในตอนนี้ชายชราที่ได้เดินเข้าพร้อมกับจานที่เตรียมไว้เพื่อเสิร์ฟอาหารให้กับหยินเทียนและครอบครัวของเขา ตั้งแต่หยินชาเริ่มจำความได้ สิ่งที่เขารู้ก็มีเพียงว่าชายชราหวังนั้นเป็นพ่อครัวของตระกูลหยินเท่านั้น
รูปร่างของชายหวังไม่สูงมากนักยิ่งไปกว่านั้นเขาดูอ้วนเสียมากกว่า เขามีใบหน้าที่ใจดีและน่ารื่นรมย์ นอกจากนี้เขายังมีบุคลิกที่อบอุ่น เขาเข้ามาพร้อมกับอาหารที่เตรียมไว้ เมื่อก่อนนั้นหยินเทียนได้ช่วยเขาล้างแค้นให้กับผู้หญิงที่เขารัก เพราะเขานั้นไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ มันจึงทำให้ชายชราหวังรู้สึกติดหนี้บุญมหญ่หลวงกับหยินเทียน ในขณะเดียวกันเขาก็เบื่อหน่ายกับวิถีชีวิตของการห่าฟัน มันจึงทำให้เขาเดินออกมาจากเส้นทางแห่งนั้นและมาเป็นพ่อครัวให้กับหยินเทียน.ไอลีนโนเวล.
ชายชราหวังวางจานลงบนโต๊ะขณะที่เดินเขาเดินเข้าไปหาหยินเทียน แม้ว่าชายชราหวังอาจจะเป็นเหมือนคนรับใช้ของตระกูลหยิน แต่ตระกูลหยินไม่เคยปฏิบัติต่อเขาในฐานะคนนอก จากรูปร่างหน้าตาของเขาที่ดูแก่กว่าหยิน จึงทำให้หยินเทียนมักเรียกเขาว่าพี่หวังอยู่เสมอ แม้ว่าเขาจะเด็กกว่าหยินเทียนก็ตาม
“พี่หวังทำไมท่านไม่นั่งลงและกินด้วยกันกับเราละ!” หยินเทียนยิ้มและพูดว่า
ในอดีตชายชราหวังเคยกินอาหารร่วมกันกับทั้งสามคนแต่นี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปีที่เขาได้มีโอกาสทานอาหารเย็นร่วมกับพวกเขาอีกครั้ง เมื่อชายชราวังได้ยินคำเชิญของพวกเขา เขาก็ยินดีอย่างมาก เขาได้นั่งลงใกล้ๆหยินชาในตอนนี้
“ท่านลุงวัง!” หยินชาทักทายชายชราวัง
ชายชราวังยิ้มและกล่าวว่า“ในที่สุดพ่อและแม่ของเจ้ากลับมาแล้ว ตอนนี้เจ้ารู้สึกโล่งใจหรือยัง?”
“ใช่ก็ใช่ แต่ตอนนี้ตระกูลกำลังคิดจะจะกำจัดเราก่อนที่ท่านพ่อจะหายดี” หยินชากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
แม้ว่าเขาจะไม่สนใจการบ่มเพาะแต่สิ่งที่เขาทำอยู่ก็คือปกป้องตระกูลหยินและคอยคิดตามตระกูลอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาทำลายตระกูลหยิน
“น้องเทียนเจ้ามีแผนในครั้งนี้แล้วรึยัง ไม่ว่ายังไงก็ตามให้ข้าได้มีส่วนร่วมในการประลองในครั้งนี้ด้วยเถอะ หากเจ้ายังปกติดีอยู่ข้าเองก็คงไม่ยื่นมือเข้ามายุ่ง แต่ในครั้งนี้เจ้ายังไม่หายดี ปล่อยขยะพวกนั้นให้เป็นหน้าที่ของข้า”
“พวกเราจะส่งคนสิบคนลงไปในการต่อสู้ครั้งนี้” หยินเทียนยิ้มและกล่าว
“น้องเทียน เจ้าช่างเป็นคนใจกว้างจริงๆ” ชายชรารู้ดีว่าหยินเทียนจะไม่ส่งคนลงไปครบ10คนอย่างแน่นอน นั้นเพราะเขาไม่มีกำลังคนขนาดนั้น ฃ
ในความคิดของหยินเทียนแผนดั้งเดิมของเขาคือการส่งให้ชิงเฟิง หมิงอวี้ ชิงสุ่ย และชายชราหวัง เข้าร่วมการแข่งขัน ด้วยการประสานงานของชิงสุ่ย มันจะทำให้ที่นี้ไร้พ่ายอย่างแน่นอน
“ข้ากำลังจะตามหาท่าน ก็เป็นเพราะเหตุผลนี้ ในตอนนี้ข้านั้นไร้หนทางจริงๆ จึงต้องขอรบกวนท่านแล้ว เพราะท่านเพื่อนคนเดียวที่ข้ามีอยู่ในตอนนี้” หยินเทียนยิ้มและพูด ด้วยความแข็งแกร่งของเขาทำให้เขาสูญเสียเพื่อนไปมากมาย
ในโลกของผู้ฝึกตนหนทางที่เหลืออยู่ก็คนความเดียวดาย จึงมีคำพูดที่ว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว ในตอนนี้สหายที่สนิทสนมของเขาก็ได้ล้มตายไปเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นด้วยการต่อสู้ หรือหมดอายุไขก็ตาม
”เราเป็นพี่น้องกันที่นี่ก็คือครอบครัวของข้า ไม่ว่าอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะยังคงเหมือนเดิมตลอดไป” ชายชราหวังหัวเราะเบา ๆ
“ไปกันเถอะ ข้าจะแนะนำเจ้าให้รู้จักกับหมอที่น่าอัศจรรย์ที่ช่วยข้าไว้ นอกจากนี้เขายังมีพรสวรรค์ในการปรุงอาหารที่ไม่มีใครเทียบได้” หยินเทียนยิ้มและกล่าวว่า
“เยี่ยมข้าจะขอบคุณเขา ที่ช่วยทำให้เจ้าผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากตลอดหลายปีที่มาได้ มันเป็นเวลาที่โหดร้ายอย่างมากสำหรับพวกเจ้า เนื่องจากเขาเป็นคนที่ช่วยเจ้าไว้ นั่นก็หมายความว่าเขายังก็เป็นผู้มีพระคุณของของข้าอีกด้วย” ชายชราหวังยืนขึ้นและกำลังจะลุกออกไป
“ทำไมพวกท่านทั้งสองไม่นั่งลงและเพลิดเพลินกับมื้ออาหารของท่านก่อนที่จะไปที่นั่นละ” เฟิงซี่กล่าวอย่างรวดเร็ว
หยินเทียนมองไปรอบๆ และยิ้ม“ ถ้าอย่างนั้นทำไมเราไม่เชิญชิงสุ่ยและคนอื่นๆมาร่วมท่านอาหารกับเราละ”
หยินชายืนขึ้นอย่างรวดเร็ว“ท่านพ่อทำไม ท่านไม่ใช้นี้เวลาคุยกับท่านลุงหวังละ ในขณะที่ข้าไปจะเชิญพวกเขามาเอง”
เฟิงซี่พยักหน้า“เอาล่ะ เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าจะกลับมา”
ในตอนนี้หญิงสาวทั้งสองไม่ได้มากับชิงสุ่ยมีเพียงแค่เขาคนเดียวที่กลับมาพร้อมหยินชา นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกของชิงสุ่ยกับชายชราหวัง แม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถที่จะรู้สึกได้ว่าชายชราหวังทรงพลังขนาดไหน แม้ว่าเขาอาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าพลังที่แท้จริงของชายชราผู้นี้อยู่ในขั้นไหนกันแน่ แต่ความรู้สึกของเขาก็บอกเขาว่าเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าเฟิงซี่อย่างแน่นอน
ชายชราหวังเข้าหาเดินเข้าไปหาชิงสุ่ยอย่างมีความสุขทันทีที่เขาเห็นเขาชายชราก็ได้กล่าวว่า“ ข้าคือชายชราหวังต้องขอโทษจริงๆ ที่ข้าไม่สามารถแสดงความขอบคุณเจ้าได้ ที่เจ้าได้ช่วยชีวิตน้องชายของข้าเอาไว้ หากมีสิ่งใดที่จะให้ข้าช่วย ไม่ว่าจะอะไรก็ตามเจ้าสามารถบอกข้าได้เลย ข้าจะพยายามทำมันอย่างสุดความสามารถ”
ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวว่า“ท่านอาวุโสท่านพูดเป็นทางการกับข้ามากไปแล้ว ข้านั้นได้ถูกพามาที่นี่พร้อมกับท่านลุงและคนอื่นๆ และด้วยโชคชะตา ภรรยาของข้ายังได้กล่าวเป็นลูกบุญธรรมของท่านป้าเฟิงอีกด้วย ดังนั้นเราก็คือครอบครัวเดียวกัน”
“จริงรึ?ยอดเยี่ยมไปเลย ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าข้าจะมีครอบครัวที่ใหญ่โตขนาดนี้ เอาล่ะทำไมเราไม่นั่งลงกินอาหารและพูดคุยกันในเวลาเดียวกันล่ะ? โอ้ แล้วภรรยาของเจ้าอยู่ไหนกัน? “ชายชราหวังพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“พวกนางทานอาหารกันเสร็จแล้ว ดังนั้นพวกนางจึงตัดสินใจที่จะอยู่ในห้องแทนในเวลานี้”
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้ดีว่าสิ่งที่จะพูดหลังจากมืออาหารคืออะไรมันจึงเป็นเรื่องดีที่ทั้งสองคนจไม่เข้ามารับฟังในเวลานี้
“ชิงสุ่ย ป้าจะบอกความจริงกับเจ้า เราต้องการให้เจ้าเข้าร่วมการประลองเป็นตายในครั้งนี้” เฟิงซี่กล่าวขณะมองดูชิงสุ่ย
“แน่นอนท่านป้า เนื่องจากหลิงเยียนและฉินชิงเป็นคนที่ทำให้เกิดปัญหานี้ แม้ว่าท่านป้าเฟิง จะไม่ได้ขอร้องให้ข้าเข้าร่วมในการประลองครั้งนี้ ข้าก็จะอาสาเข้าทำมัน” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยความรวดเร็ว
เฟิงซี่ส่ายหน้าของเธอ“มันเป็นเรื่อยังเอิญ แม้ว่าจะไม่มีเรื่องนี้ ตระกูลหงคงพยายามาข้ออ้างอื่นในการจัดการกับเราอยู่ดี เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคือตระกูลหยินของข้า”
ชิงสุ่ยรู้ว่าเฟิงซี่กำลังพูดความจริงอยู่ หลังจากความคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ถามออกมาว่า“ ท่านป้าวางแผนที่จะต่อสู้ในสงครามนี้อย่างไรบ้าง?”
“ข้าวางแผนที่จะจบการแข่งขันในรอบเดียวโดยการประลองครั้งนี้เป็นการประลองแบบกลุ่ม โดยที่แต่ละฝั่งจะสามารถส่งคนออกมาได้ไม่เกิน10คน เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับกลยุทธ์ของเราบ้าง?” เธอถามออกมาหลังจากที่กล่าวจบ
“ท่านป้าเฟิง ท่านเป็นคนใจกว้างเกินไปแล้ว” ชิงสุ่ยยิ้มและพูดว่า
มันเหมือนกับสิ่งที่ชายชราวังพูดในก่อนหน้านี้ซึ่งชิงสุ่ยรู้ชัดเจนว่าเธอไม่ได้ใจดีอย่างนั้น เธอเพียงต้องการที่จะถอนรากถอนโคนตระกูลหงให้หมดไปในทีเดียว เช่นนั้นแล้วความแข็งแกร่งพวกเขาจะลดลงอย่างมาก และยากที่จะกลับมา
แน่นอนว่ามีเหตุผลที่ชิงสุ่ยชมเธอว่าเป็นคนใจกว้างเพราะพวกเขาสามารถต่อสู้ในการประลองเห็นตายได้ โดยที่แต่ละฝ่ายสามารถส่งตัวแทนออกมา5คน โดยแบ่งการประลองสองออกสองครั้ง ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะมีโอกาสที่จะชนะการประลองมากกว่า แต่ถึงอย่างไรเพราะเธอเชื่อมั่นในกลุ่มของเธอ และอยากรับจัดการเรื่องทั้งหมดลงเธอจึงได้ตัดสินใจเช่นนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1638–ชายชราหวังผู้ลึกลับ

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1638–ชายชราหวังผู้ลึกลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

AST
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับแฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
บทที่1638 –ชายชราหวังผู้ลึกลับ
ในตอนนี้หยินชารู้ดีว่าถ้าพ่อของเขาฟื้นความแข็งแกร่งได้กลับมาตระกูลหงจะไม่กล้าทำเรื่องอย่างนี้แน่นอน ตอนนี้ตระกูลหยินก็เหลือเพียงแม่ของเขาเท่านั้นที่มีความสามารถใกล้เคียงกับพ่อของเขา
เฟิงซี่ยิ้มออกมาและมองไปที่หยินเทียน“ ท่านคิดอย่างไร กับต่อสู้ครั้งนี้ เราควรมีแผนยังไงรึ?”
หยินเทียนยิ้มและพูดว่า“ข้าแน่ใจว่าเจ้าคิดออกแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองบอกข้าดูละ ว่าในตอนนี้สิ่งที่เจ้าคิดกับข้าคิดเหมือนกันหรือไม่?”
“เราจะทำการประลอง 10ต่อ10 “เฟิงซี่มองหยินเทียนและพูดด้วยรอยยิ้ม
หยินเทียนรู้ว่าเธอนั้นจะส่งชิงสุ่ยเข้าไปในการต่อสู้อย่างแน่นอนนอกจากนี้รวมถึงเธอและลูกชายของเขา
ในตอนนี้หยินชาไม่ค่อยเข้าใจมากนักเขานั้นไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับชิงสุ่ยมากนัก ในตอนนี้เขาเลือกที่จะอยู่เงียบๆ และฟังต่อไป เพราะเขาเชื่อมั่นในการตัดสินใจของพ่อและแม่เขาเสมอ
“แล้วเราจะส่งใครไปบ้าง?” หยินเทียนยิ้มและถาม
”ข้าชาเอ๋อ ชิงลุ่ย ชิงเฟิง,หมิงอวี้ และอาวุโสทั้งสอง” เฟิงซี่ยิ้มและตอบ (7 คน??)
หยินเทียนยิ้มและมองไปที่เฟิงซี่เขาไม่ได้แสดงความไม่เห็นเกี่ยวกับวิธีของเธอ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับแผนการของเธอในครั้งนี้
“มีอะไรรึ แผนของข้ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” เธอถามออกมาเมื่อเห็นร้อยยิ้มที่ผิดปกติของเขา
“เป็นเวลาหลายปีตระกูลหงได้วางแผนเอาไว้ โดยเฉพาะในครั้งนี้เราดันเป็นฝ่ายที่ติดกับพวกเขาเอง ดังนั้นข้าคิดว่าท่านอาวุโสทั้งสองคงไม่ช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน ดีกว่าสำหรับเราที่จะไม่หวังในตัวพวกเขามากนัก “หยินเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
เป็นอย่างที่หยินเทียนกล่าวเอาไว้เนื่องจากเรื่องราวในครั้งนี้เป็นฝ่ายตระกูลหยินที่ผิดพลาดจริงๆ นอกจากนี้ในช่วงเวลาที่หยินเทียนและเฟิงซี่ไม่อยู่อาวุโสทั้งสองก็ได้ออกรับหน้าและกำจัดอริมาโดยตลอด มันจึงทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บภายใน อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงสามเดือนในการฟื้นตัว
อย่างไรก็ตามเฟิงซี่ก็รู้ดีว่ามันคือข้าอ้างแม้พวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนพวกเขาก็ยังเป็นคนยังไงซะเขาก็ย่อมถูกกดดันจากตระกูลอื่นๆ หากทำเกินหน้าที่ของตน แต่ถึงอย่างไรเธอก็สงสัยว่าเป็นใครกันที่สามารถสร้างแรงกดดันให้ทั้งสองได้ เพราะพวกเขาเป็นคนที่จะไม่ยอมทรยศตระกูลหยิน แม้ว่าพวกเขาจะต้องตายแน่นอน นั้นหมายความว่าพวกเขาต้องถูกคุกคามโดยบุคคลหนึ่งที่มีผลต่อชีวิตของพวกเขา มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำเช่นนี้
แม้เฟิงซี่จะรู้สึกผิดหวังแต่ตระกูลหยินก็ไม่สามารถบีบบังคับพวกเขาได้ ชิงเฟิง หมิงอวี้ ทั้งสองเป็นสหายที่ดีของพวกเขา ซึ่งแน่นอนในครั้งพวกเขาย่อมให้ความช่วยเหลือตระกูลหยิน แต่นั้นก้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะตอบตกลง ยังไงซะพวกเขาก็ยังมีตระกูงของตัวเองที่ต้องดูแล แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้ถ้าพวกเขาเข้าร่วม จำนวนของผู้เขาร่วมเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
“แล้วเราจะทำอย่างไรดี” เฟิงซี่ถักคิ้วขึ้นแล้วถามออกมา หากปราศาจากอาวุโสทั้งสองหรือชิงเฟิง หมิงอวี้ แม้พวกเขาจะมีชิงสุ่ยนี่ก็ถือว่าเป็นงานที่ยากเอาการ
“ที่จริงแล้วเพียงแค่มีชิสุ่ยทางด้านข้างของเราก็ได้เปรียบมากแล้ว มันก็ไม่ได้แย่มากมายดังที่เจ้าคิดเอาไว้หลอก” หยินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้าแค่คิดเพื่อเรื่องไม่คาดฝันเอาไว้เท่านั้น ด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่าเราจะทำอย่างไร” เฟิงซี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่กังวล
“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกังวลหรอก ให้เราจะให้พ่อครัวหวังมีส่วนร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ ด้วยวิธีนี้เราควรจะสามารถชนะได้อย่างง่ายดาย” หยินเทียนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านหมายถึงท่านลุงหวัง ที่เป็นพ่อครัว ใช่ไหม” เฟิงซี่ถามด้วยความไม่เชื่อ
ในตอนนี้หยินชาเองก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินมาและหันไปมองพ่อของเขาในทัน
“ใช่ ก็มีเพียงแค่ท่านลุงหวังคนนั้นคนเดียวเท่านั้น” หยินเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของทั้งสองเขาจึงกล่าวต่อว่า“ อย่าได้กังวลท่านลุงหวังนั้นอ่อนแอกว่าข้าตอนที่สมบูรณ์ที่สุดเพียงเล็กน้อย แม้แต่ชิงเฟิงและหมิงอวี้ ร่วมกันสู้ก็ไม่อาจเทียบเท่าได้ ไม่ควรมีปัญหาใด ๆ หากเลือกเขาเข้าร่วมการประลองในครั้งนี้”
“แล้วท่านลุงหวังจะเข้าร่วมการประลองในครั้งนี้ด้วยหรือไม่?” หยินชาและเฟิงซี่ถามออกมา
ในที่สุดหยินชาก็สามารถเข้าใจบางสิ่งได้ในที่สุดเหตุผลที่เขาสามารถมีชีวิตรอดมาได้ในทุกๆวันนี้ไม่ใช่เพียงเพราะอาวุโสทั้งสองที่คอยดูแล ยังมีชายชราหวังผู้นี้ผู้แฝงตัวอยู่ในเงามืด และคอยช่วยเหลือเขาเอาไว้
“แน่นอนท่านลุงหวังผู้นี้คือคนที่ปกป้องเจ้ามาโดยตลอด เขาคือผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งอย่างมาก เหตุผลที่เขาได้เร้นกายไปก็เพราะเขาไม่สามารถปกป้องภรรยาของเขาได้ หลังจากที่แก้แค้นให้เธอสำเร็จเขาก็แทบไม่เคยแสดงความแข็งแกร่ง และหยุได้ระทิ้งเส้นทางแห่งการบ่มเพราะไป หากในตอนนี้เขายังคงบ้าคลั่งและฝึกฝนเหมือนดังเคย แม้แต่ข้าที่ร่างกายแข็งแรงดีก็ไม่ใช่คู่ต้อสู้ของเขา อาจกล่าวมีคนไม่กี่คนเท่านั้นที่จะพอรับมือเขาได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้จากไปไหนเขาได้มาอยู่กับข้าและได้หาความสุขจากการทำอาหาร แม้ว่าเขาจะไม่พรสวรรค์ในทางนี้ก็ตาม”
แม้แต่เฟิงซี่ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มากก่อนตลอดเวลานี้เธอมักคิดเสมอว่าเขาอยู่เพียงระดับเซียนเทียนเท่านั้น และไม่เคยคิดว่าเขานั้นแข็งแกร่งมากมายกว่าเธอขนาดนี้
ในตอนนี้ชายชราที่ได้เดินเข้าพร้อมกับจานที่เตรียมไว้เพื่อเสิร์ฟอาหารให้กับหยินเทียนและครอบครัวของเขา ตั้งแต่หยินชาเริ่มจำความได้ สิ่งที่เขารู้ก็มีเพียงว่าชายชราหวังนั้นเป็นพ่อครัวของตระกูลหยินเท่านั้น
รูปร่างของชายหวังไม่สูงมากนักยิ่งไปกว่านั้นเขาดูอ้วนเสียมากกว่า เขามีใบหน้าที่ใจดีและน่ารื่นรมย์ นอกจากนี้เขายังมีบุคลิกที่อบอุ่น เขาเข้ามาพร้อมกับอาหารที่เตรียมไว้ เมื่อก่อนนั้นหยินเทียนได้ช่วยเขาล้างแค้นให้กับผู้หญิงที่เขารัก เพราะเขานั้นไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ มันจึงทำให้ชายชราหวังรู้สึกติดหนี้บุญมหญ่หลวงกับหยินเทียน ในขณะเดียวกันเขาก็เบื่อหน่ายกับวิถีชีวิตของการห่าฟัน มันจึงทำให้เขาเดินออกมาจากเส้นทางแห่งนั้นและมาเป็นพ่อครัวให้กับหยินเทียน.ไอลีนโนเวล.
ชายชราหวังวางจานลงบนโต๊ะขณะที่เดินเขาเดินเข้าไปหาหยินเทียน แม้ว่าชายชราหวังอาจจะเป็นเหมือนคนรับใช้ของตระกูลหยิน แต่ตระกูลหยินไม่เคยปฏิบัติต่อเขาในฐานะคนนอก จากรูปร่างหน้าตาของเขาที่ดูแก่กว่าหยิน จึงทำให้หยินเทียนมักเรียกเขาว่าพี่หวังอยู่เสมอ แม้ว่าเขาจะเด็กกว่าหยินเทียนก็ตาม
“พี่หวังทำไมท่านไม่นั่งลงและกินด้วยกันกับเราละ!” หยินเทียนยิ้มและพูดว่า
ในอดีตชายชราหวังเคยกินอาหารร่วมกันกับทั้งสามคนแต่นี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปีที่เขาได้มีโอกาสทานอาหารเย็นร่วมกับพวกเขาอีกครั้ง เมื่อชายชราวังได้ยินคำเชิญของพวกเขา เขาก็ยินดีอย่างมาก เขาได้นั่งลงใกล้ๆหยินชาในตอนนี้
“ท่านลุงวัง!” หยินชาทักทายชายชราวัง
ชายชราวังยิ้มและกล่าวว่า“ในที่สุดพ่อและแม่ของเจ้ากลับมาแล้ว ตอนนี้เจ้ารู้สึกโล่งใจหรือยัง?”
“ใช่ก็ใช่ แต่ตอนนี้ตระกูลกำลังคิดจะจะกำจัดเราก่อนที่ท่านพ่อจะหายดี” หยินชากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
แม้ว่าเขาจะไม่สนใจการบ่มเพาะแต่สิ่งที่เขาทำอยู่ก็คือปกป้องตระกูลหยินและคอยคิดตามตระกูลอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาทำลายตระกูลหยิน
“น้องเทียนเจ้ามีแผนในครั้งนี้แล้วรึยัง ไม่ว่ายังไงก็ตามให้ข้าได้มีส่วนร่วมในการประลองในครั้งนี้ด้วยเถอะ หากเจ้ายังปกติดีอยู่ข้าเองก็คงไม่ยื่นมือเข้ามายุ่ง แต่ในครั้งนี้เจ้ายังไม่หายดี ปล่อยขยะพวกนั้นให้เป็นหน้าที่ของข้า”
“พวกเราจะส่งคนสิบคนลงไปในการต่อสู้ครั้งนี้” หยินเทียนยิ้มและกล่าว
“น้องเทียน เจ้าช่างเป็นคนใจกว้างจริงๆ” ชายชรารู้ดีว่าหยินเทียนจะไม่ส่งคนลงไปครบ10คนอย่างแน่นอน นั้นเพราะเขาไม่มีกำลังคนขนาดนั้น ฃ
ในความคิดของหยินเทียนแผนดั้งเดิมของเขาคือการส่งให้ชิงเฟิง หมิงอวี้ ชิงสุ่ย และชายชราหวัง เข้าร่วมการแข่งขัน ด้วยการประสานงานของชิงสุ่ย มันจะทำให้ที่นี้ไร้พ่ายอย่างแน่นอน
“ข้ากำลังจะตามหาท่าน ก็เป็นเพราะเหตุผลนี้ ในตอนนี้ข้านั้นไร้หนทางจริงๆ จึงต้องขอรบกวนท่านแล้ว เพราะท่านเพื่อนคนเดียวที่ข้ามีอยู่ในตอนนี้” หยินเทียนยิ้มและพูด ด้วยความแข็งแกร่งของเขาทำให้เขาสูญเสียเพื่อนไปมากมาย
ในโลกของผู้ฝึกตนหนทางที่เหลืออยู่ก็คนความเดียวดาย จึงมีคำพูดที่ว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว ในตอนนี้สหายที่สนิทสนมของเขาก็ได้ล้มตายไปเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นด้วยการต่อสู้ หรือหมดอายุไขก็ตาม
”เราเป็นพี่น้องกันที่นี่ก็คือครอบครัวของข้า ไม่ว่าอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะยังคงเหมือนเดิมตลอดไป” ชายชราหวังหัวเราะเบา ๆ
“ไปกันเถอะ ข้าจะแนะนำเจ้าให้รู้จักกับหมอที่น่าอัศจรรย์ที่ช่วยข้าไว้ นอกจากนี้เขายังมีพรสวรรค์ในการปรุงอาหารที่ไม่มีใครเทียบได้” หยินเทียนยิ้มและกล่าวว่า
“เยี่ยมข้าจะขอบคุณเขา ที่ช่วยทำให้เจ้าผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากตลอดหลายปีที่มาได้ มันเป็นเวลาที่โหดร้ายอย่างมากสำหรับพวกเจ้า เนื่องจากเขาเป็นคนที่ช่วยเจ้าไว้ นั่นก็หมายความว่าเขายังก็เป็นผู้มีพระคุณของของข้าอีกด้วย” ชายชราหวังยืนขึ้นและกำลังจะลุกออกไป
“ทำไมพวกท่านทั้งสองไม่นั่งลงและเพลิดเพลินกับมื้ออาหารของท่านก่อนที่จะไปที่นั่นละ” เฟิงซี่กล่าวอย่างรวดเร็ว
หยินเทียนมองไปรอบๆ และยิ้ม“ ถ้าอย่างนั้นทำไมเราไม่เชิญชิงสุ่ยและคนอื่นๆมาร่วมท่านอาหารกับเราละ”
หยินชายืนขึ้นอย่างรวดเร็ว“ท่านพ่อทำไม ท่านไม่ใช้นี้เวลาคุยกับท่านลุงหวังละ ในขณะที่ข้าไปจะเชิญพวกเขามาเอง”
เฟิงซี่พยักหน้า“เอาล่ะ เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าจะกลับมา”
ในตอนนี้หญิงสาวทั้งสองไม่ได้มากับชิงสุ่ยมีเพียงแค่เขาคนเดียวที่กลับมาพร้อมหยินชา นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกของชิงสุ่ยกับชายชราหวัง แม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถที่จะรู้สึกได้ว่าชายชราหวังทรงพลังขนาดไหน แม้ว่าเขาอาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าพลังที่แท้จริงของชายชราผู้นี้อยู่ในขั้นไหนกันแน่ แต่ความรู้สึกของเขาก็บอกเขาว่าเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าเฟิงซี่อย่างแน่นอน
ชายชราหวังเข้าหาเดินเข้าไปหาชิงสุ่ยอย่างมีความสุขทันทีที่เขาเห็นเขาชายชราก็ได้กล่าวว่า“ ข้าคือชายชราหวังต้องขอโทษจริงๆ ที่ข้าไม่สามารถแสดงความขอบคุณเจ้าได้ ที่เจ้าได้ช่วยชีวิตน้องชายของข้าเอาไว้ หากมีสิ่งใดที่จะให้ข้าช่วย ไม่ว่าจะอะไรก็ตามเจ้าสามารถบอกข้าได้เลย ข้าจะพยายามทำมันอย่างสุดความสามารถ”
ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวว่า“ท่านอาวุโสท่านพูดเป็นทางการกับข้ามากไปแล้ว ข้านั้นได้ถูกพามาที่นี่พร้อมกับท่านลุงและคนอื่นๆ และด้วยโชคชะตา ภรรยาของข้ายังได้กล่าวเป็นลูกบุญธรรมของท่านป้าเฟิงอีกด้วย ดังนั้นเราก็คือครอบครัวเดียวกัน”
“จริงรึ?ยอดเยี่ยมไปเลย ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าข้าจะมีครอบครัวที่ใหญ่โตขนาดนี้ เอาล่ะทำไมเราไม่นั่งลงกินอาหารและพูดคุยกันในเวลาเดียวกันล่ะ? โอ้ แล้วภรรยาของเจ้าอยู่ไหนกัน? “ชายชราหวังพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“พวกนางทานอาหารกันเสร็จแล้ว ดังนั้นพวกนางจึงตัดสินใจที่จะอยู่ในห้องแทนในเวลานี้”
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้ดีว่าสิ่งที่จะพูดหลังจากมืออาหารคืออะไรมันจึงเป็นเรื่องดีที่ทั้งสองคนจไม่เข้ามารับฟังในเวลานี้
“ชิงสุ่ย ป้าจะบอกความจริงกับเจ้า เราต้องการให้เจ้าเข้าร่วมการประลองเป็นตายในครั้งนี้” เฟิงซี่กล่าวขณะมองดูชิงสุ่ย
“แน่นอนท่านป้า เนื่องจากหลิงเยียนและฉินชิงเป็นคนที่ทำให้เกิดปัญหานี้ แม้ว่าท่านป้าเฟิง จะไม่ได้ขอร้องให้ข้าเข้าร่วมในการประลองครั้งนี้ ข้าก็จะอาสาเข้าทำมัน” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยความรวดเร็ว
เฟิงซี่ส่ายหน้าของเธอ“มันเป็นเรื่อยังเอิญ แม้ว่าจะไม่มีเรื่องนี้ ตระกูลหงคงพยายามาข้ออ้างอื่นในการจัดการกับเราอยู่ดี เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคือตระกูลหยินของข้า”
ชิงสุ่ยรู้ว่าเฟิงซี่กำลังพูดความจริงอยู่ หลังจากความคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ถามออกมาว่า“ ท่านป้าวางแผนที่จะต่อสู้ในสงครามนี้อย่างไรบ้าง?”
“ข้าวางแผนที่จะจบการแข่งขันในรอบเดียวโดยการประลองครั้งนี้เป็นการประลองแบบกลุ่ม โดยที่แต่ละฝั่งจะสามารถส่งคนออกมาได้ไม่เกิน10คน เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับกลยุทธ์ของเราบ้าง?” เธอถามออกมาหลังจากที่กล่าวจบ
“ท่านป้าเฟิง ท่านเป็นคนใจกว้างเกินไปแล้ว” ชิงสุ่ยยิ้มและพูดว่า
มันเหมือนกับสิ่งที่ชายชราวังพูดในก่อนหน้านี้ซึ่งชิงสุ่ยรู้ชัดเจนว่าเธอไม่ได้ใจดีอย่างนั้น เธอเพียงต้องการที่จะถอนรากถอนโคนตระกูลหงให้หมดไปในทีเดียว เช่นนั้นแล้วความแข็งแกร่งพวกเขาจะลดลงอย่างมาก และยากที่จะกลับมา
แน่นอนว่ามีเหตุผลที่ชิงสุ่ยชมเธอว่าเป็นคนใจกว้างเพราะพวกเขาสามารถต่อสู้ในการประลองเห็นตายได้ โดยที่แต่ละฝ่ายสามารถส่งตัวแทนออกมา5คน โดยแบ่งการประลองสองออกสองครั้ง ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะมีโอกาสที่จะชนะการประลองมากกว่า แต่ถึงอย่างไรเพราะเธอเชื่อมั่นในกลุ่มของเธอ และอยากรับจัดการเรื่องทั้งหมดลงเธอจึงได้ตัดสินใจเช่นนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+