Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1704 – การระเบิดของพลัง

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1704 – การระเบิดของพลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  บทที่1704 – การระเบิดของพลัง
  ยาที่เขาได้รับมาจากอาจารย์ของห่านอี่เป็นยาหยินหยาง เม็ดหยาง เขาจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณที่มหาศาลในการดูดซับมัน และจำเป็นต้องใช้สมาธิอย่างมาก ดังนั้นดินแดนหยกจึงเป็นที่เหมาะสมสำหรับเขาในเวลานี้
  ในตอนแรกอาจารย์ของห่านอี่ตั้งใจจะปกป้องเขาตอนชิงสุ่ยดูดกลืนยาชนิดนี้แต่ถูกชิงุส่ยปฏิเสธเอาไว้ เขาได้บอกเธอว่าเขามีหนทางที่ดีกว่าในการดูดซับมัน มันจึงทำให้เธอนั้นยอมปล่อยให้เขาออกมาเช่นเดียวกับชิงห่านอี่ที่กล่าวเอาไว้ ว่าหากเขาต้องการความช่วยเหลือ เธอจะเป็นคนปกป้องเขาเอง
  อย่างไรก็ตามสำหรับชิงสุ่ยแล้วไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยไปกว่าดินแดนหยกของเขา ไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปกว่าที่แห่งนี้อีกแล้ว มันปลอดภัยอย่างมาก และไม่มีใครที่สามารถทำอันตรายเขาได้ในดินแดนแห่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพลังวิญญาณในที่แห่งนี้ยังบริสุทธิ์อย่างมากเหมาะสำหรับให้เขาใช้ในการดูดซึมยาตัวนี้
  น้ำทิพย์ใบไม้ผลิแห่งชีวิต!
  ในเวลานี้ชิงุส่ยได้เตรียมพร้อมร่างกายของเขาเขาโคจรพลังของเขาทั้งหมดออกมาขณะที่ความแข็งแกร่งของเขาในเวลานี้ ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปถึง80000สุริยา ก่อนที่จะเพิ่มไปถึง1แสนสุริยาในที่สุด
  พลังในระดับนี้ถือว่าไม่ได้มากมายมากนักสำหรับผู้บ่มเพาะคนอื่นๆแต่ชิงสุ่ยยังมีทักษะเสริมการต่อสู้อีกมากมาย มันจึงทำให้ความแข็งแกร่งของเขาสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกหลายเท่า
  ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้รวบรวมสติของเขาเอาไว้ขณะที่เขาเริ่มทำจิตให้สงบ
  ตอนนี้ชิงห่านอี่ถือได้ว่าเป็นผู้หญิงของเขาแล้วนั้นเพราะใจของเธอย้อมรับเขาแล้ว ดังนั้นชิงสุ่ยจึงต้องปกป้องเธอให้ปลอดภัย
  เขาไม่ลังเลที่จะกินยาเม็ดหยินหยางลงไปในเวลานี้
  ก่อนที่จะตามด้วยน้ำทิพแห่งชีวิตเวลานี้เขาได้ดื่มมันลงไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลังเลใดๆ ขณะที่ได้ระเบิดพลังวิญญาณสีทองออกมา รัศมีสีทองได้ปกคลุมไปทั่วๆดินแดนหยก
  ปราณสีทองอร่ามให้หุ้มร่างกายชิงสุ่ยคล้ายกับรังไหมสีทองในเวลานี้อย่างไรก็ตามมันก็ดูเบาบางอย่างมากจนสามารถมองเห็นเขาได้ กลิ่นอายที่เขาปล่อยออกมาในเวลานี้ดูลึกลับและทรงพลังอย่างมาก
  ตอนนี้ร่างกายของชิงสุ่ยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่พลังที่รุนแรงอย่างยิ่งกำลังถาโถมเข้ามาในร่างกายของเขา แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะดูเหมือนเป็นไปได้ด้วยดีแต่มันก็เหมือนดาบสองคมหากเขาผิดพลาด มันนั้นก็หมายถึงชีวิตของเขา
  เวลานี้เสียงเส้นเลือดในร่างกายของเขาได้ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่องความเจ็บปวดที่มหาศาลได้กระจายไปทั่วร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็สามารถอดทนต่อมันได้ในเวลานี้ อย่างไรก็ตามความเจ็บปวดนี้ก็ได้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาที่ชิงสุ่ยเป็นกังวลในเวลานี้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเกรงว่าจะเป็นจิตใจของเขาที่ได้รับความเจ็บปวดก่อนร่างกายของเขา หากเป็นเช่นนั้นจริงๆมันจะส่งผลอย่างมากต่อเส้นทางการบ่มเพาะในอนาคตของเขา หากเป็นไปได้เขายินดีที่จะได้รับความบาดเจ็บโดยตรงผ่านร่างกายเสียมากกว่า
  ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้นึกถึงห่านอี่เขาสงสัยจริงๆว่าเธอผ่านเรื่องราวเช่นนี้ไปได้ยังไง เธอจะรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้นต่อที่เธอกินยาเม็ดนี้เข้าไป เธอนั้นก็ยังอ่อนแอกว่าเขาในตอนนี้หลายเท่า มันทำให้เขาได้แต่ตกตะลึงกับความแข็งแกร่งทางจิตใจของเธอ
  ในเวลานี้เม็ดสีทั้งเจ็ดในตันเถียนของเขาก็ได้หมุนวนอย่างรวดเร็วพลังงานธรรมชาติในรางกายของเขาก็ได้ไหลวนอย่างสายน้ำที่บ้าคลั่ง แม้แต่เส้นสมปราณของเขาก็ได้เปล่งประกายแสงสีทองออกมา  ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้ลืมตาขึ้นแสงสีทองอร่ามได้ประทุออกมาจากดวงตาทั้งสองของเขา รังไหมที่ห่อหุ่มเขาอยู่ได้ขยายตัวออกไปเป็นวงกว้าง ขณะที่มันสัมผัสกับสิ่งใด สิ่งของเขานั้นจะถูกทำลายจนไม่เหลือซากในพริบตา
  โชคดีที่ตอนนี้ชิงสุ่ยได้ฝึกฝนอยู่ในพื้นที่ๆว่างเปล่าในดินแดนหยกมิเช่นนั้นมันคงจะส่งผลต่อสมุนไพรนับหมื่นนับพันของเขา
  แกร๊ก!
  เสียงที่ฟังดูคล้ายเสียกระดูกแหลกละเอียดดังขึ้นจากตัวของเขา
  นี่คือเสียงกระดูกในร่างกายของเขาถูกทำลายพลังที่มหาศาลได้กระกดทับลงไปที่ร่างกายของเขาโดยตรงทำให้ร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่สามารถทนต่อมันได้ ในเวลานี้ซี่โครงทั้งสองข้างของชิงสุ่ยได้หักเป็นท่อนเรียบร้อยแล้ว
  การเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นในพริบตามนั้นก็เหมือนดาบสองคบหากสามารถผ่านเรื่องราวเลวร้ายเหล่านี้ไปได้ก็จะทำให้ตัวของเขาแข็งแกร่งขึ้น แต่หากเขาไม่สามารถก้าวข้ามมันไปได้นั้นก็หมายถึงชีวิตของเขา
  ตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นมีกายาเก้าหยางทองคำอยู่กับตัวและยังมีรูปแบบมังกรอยู่อีกด้วย ด้วยการผสานของพวกมันทำให้ชิงสุ่ยสามารถต้านทันพลังดังกล่าวเอาไว้ได้ในตอนนี้ หากมีใครคนอื่นๆที่ไม่พวกมัน พวกเขาคงถูกบดจนแหลกละเอียดไปแล้วในตอนนี้
  เม็ดสีทั้งเจ็ดยังคงหมดวนอย่างต่อเนื่องและทวีความเร็วขึ้น ขณะที่พวกมันได้เปล่งแสงที่สว่างออกมามากกว่าที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด
  ฟิ้ง!
  ในเวลานี้ขนาดของพวกมันไม่ได้ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเก่าแต่พวกมันกลับหดตัวเล็กลงจะเหมือนลูกปัดเม็ดเล็ก แต่สีสันของพวกมันกลับสดใสมากว่าที่เคยเป็นมา พวกมันดูคล้ายกับไข่มุกหลากสีในเวลานี้
  ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เข้มข้นที่พวกมันบรรจุเอาไว้อย่างไรก็ตามในเวลานี้มันก็ยังไม่ได้มีทีท่าที่จะหยุดหมุนเลยขณะนี้ เช่นเดียวกับเส้นลมปราณของเขาที่ได้รับการเปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามมันนั้นดูแข็งแรงและทนทานมากกว่าเก่า แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้เท่านั้น Aileen-novel
  หลังจากที่พลังอันมหาศาลได้ทะยานไปสู่จุดสูงสุดมันก็ค่อยๆลดลงอย่างช้าๆ ก่อนที่จะซึมซับเข้าไปตามเส้นลมปราณทั่วๆร่างกายของเขา
  เมื่อทุกอย่างสงบลงมันก็ได้ผ่านไปเก้าวันแล้วในดินแดนหยก ดูเหมือนว่ามันจะไม่นานดังที่ชิงสุ่ยคาดการณ์เอาไว้ แต่มันก็ถือว่าไม่ได้เร็วมากนัก สำหรับคนอื่นๆนี้อาจถือได้ว่าเป็นเวลาที่พอสมควรสำหรับพวกเขา
  ในตอนนี้แม้ว่ากระดูกของชิงสุ่ยจะหักแต่ด้วยความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของเขา มันทำให้เขาสามารถรักษาพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว หลักการรักษาชิงสุ่ยสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยของเสียมากมาย ที่สงกลิ่นไม่ดีออกมา มันจึงทำให้เขาตัดสินใจที่ชำระล้างการของเขาก่อนในตอนนี้
  หลังการชำระสิ่งสกปรกมันก็ถึงงเวลาที่เขาจะสำรวจว่าร่างกายของเขานั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นไรบ้าง
  ในตอนนี้ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาทำให้ของชิงสุ่ยได้เพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวนมากมากถึง 150,000 สุริยา มันเพิ่มขึ้นถึง50000สริยาในตอนนี้ นอกจากนี้เม็ดสีทั้ง7ของเขาก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเดิมทีมันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาได้เพียงแค่ 50 เท่าๆนั้น แต่ตอนนี้มันสามารถเพิ่มพลังให้เขาได้ถึง60เท่า สำหรับเส้นลมปราณวชิระในร่างกายของเขาได้ยกระดับขึ้นจาก60เท่าเปลี่ยนเป็น70เท่าในตอนนี้
  ในตอนนี้เมื่อชิงสุ่ยใช้ทักษะทั้งหมดออกมาความแข็งแกร่งของเขาจะทะยานไปถึง 8315เต๋าเลยที่เดียว ซึ่งมันได้เพิ่มขึ้นจากเก่ามากถึง4000เต๋า  ในเวลานี้ชิงสุ่ยสัมผัสได้ถึงพลังที่มหาศาลในร่างกายของเขามันทำให้เขาอดใจไม่ได้ที่จะใช้เพลงหมัดไทเก๊ก ออกมาในตอนนี้ โดยไม่หยุดยั้งเขาหยิบค้อนออกมาพร้อมกับได้ใช้ทักษะเพลงค้อนออกมา ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นทักษะเพลงกระบี่พื้นฐานอย่างต่อเนื่อง
  ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ลืมทุกๆสิ่งรอบตัวของเขาไปขณะที่สมาธิทั้งหมดของเขาได้จดจ่ออยู่กับฝึกฝนของเขาเท่านั้น
  หลังจากที่เขาได้สติกลับมามันก็ถึงเวลาที่เขาถูกไล่ออกมาจากดินแดนหยกเสียแล้ว ในตอนนี้ชิงสุ่ยเต็มไปด้วยความหิวโหยอย่างมาก ตลอดเวลาที่อยู่ในตอนแดนหยกในครั้งเขานั้นยังไม่ได้รับประทานอาหารเลยสักมื้อ
  แม้ว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งขนาดไหนพวกเขาก็ยังคงต้องกินอาหารอยู่ดีเพียงแค่พวกเขาจะมีความต้องการอาหารที่ต่ำกว่าคนอื่นๆเท่านั้น
  ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ออกไปข้างนอกเพื่อทานอาหารของเขาเพราะเขากลัวว่าจะรบกวนลุกน้อยและภรรยาของเขาที่กำลังหลับอยู่ในตอนนี้
  หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเขาก็ได้กลับเข้าไปในห้องในตอนนี้มันก็ได้ผ่านไปสามชั่วยามแล้วตั้งแต่เขาออกมา
  ในตอนนั้นเองกลิ่นหอมที่อ่อนหวานและเงาที่งดงามได้กระโจนเข้ากอดเขาไว้มันให้ชิงสุ่ยไม่สามารถห้ามใจได้แล้วจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธอ
  เงาดังกล่าวคือเงาของเจี้ยนเก้อแม้ว่าตอนนี้ชิงสุ่ยจะต้องการขนาดไหนแต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นั้นเพราะเขาต้องรอให้เธอฟื้นตัวมากกว่านี้ก๋อน มิเช่นนั้นมันจะไม่เป็นผลดีกับเธอ ดังนั้นชิงสุ่ยจึงได้หยุดจูบเธอและเปลี่ยนมาดึงเข้ามากอดไว้ นั้นเพราะเขากลัวว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงมิอาจหักห้ามใจได้
  “ดูเหมือนเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วนะ”เธอกล่าวออกมาเพราะตอนนี้เธอนั้นเริ่มไม่แน่ใจถึงความแข็งแกร่งของเขาแต่เธอก็สัมผัสได้ว่ามันมากขึ้นกว่าเขาอย่างแน่นอน
  เมื่อมาถึงขั้นนี้ชิงสุ่ยก็ไม่ได้ปิดบังเธออีกต่อเขาได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังรวมถึงเรื่องของถ้ำวารีจันทราอีกด้วย
  ”ข้าเคยได้ยินเรื่องราวของถ้ำวารีจันทรามาอยู่บ้างพวกเขาเป็นขุมอำนาจที่ควบคุมแดนทะเลล้านลี้เอาไว้ พวกเขาจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในขุมอำนาจที่ทรงพลังอย่างมากในแดนทะเลล้านลี้” เธอกล่าวออกมาด้วยสีหน้ากังวล
  “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลไปข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเยามาบ้าง และข้าก็มั่นใจว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะข้าในตอนนี้ได้อย่างง่ายๆหรอก” ชิงสุ่ยพยายามลดความกังวลให้กับเธอ
  “เจ้าต้องระวังตัวให้มากหากเจอเรื่องไม่ชอบมาพากลยังไงก็รีบไปปรึกษาท่านอาวุโสโดยเร็วเลย นางหน้าจะช่วยหาทางออกให้จ้าได้” เมื่อเห็นว่าชิงสุ่ยกำลังประมาทเจี้ยนเก้อจึงรีบกล่าวเตืนออกมา  ”ข้ารู้แล้วเจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่ทิ้งเจ้าไปเด็ดขาด”
  ”เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้พูดเป็นรางเช่นนี้”
  …
  ในรุ่งเช้าชิงสุ่ยได้ออกไปฝึกตามปกติแต่เพราะกลัวว่าจะสงเสียงดัง มันจะทำให้เขาออกไปฝึกที่ลานไกลออกไป ในตอนนี้ชิงสุ่ยต้องเร่งฝึกทักษะกรงเล็กมังกรทองให้เข้าสู่ระดับสมบูรณ์แบบให้ได้ในเร็ววัน จะเป็นไพ่ลับของเขาในการจัดการอีกฝ่ายในอนาคต
  ตอนนี้กรงเล็บของชิงสุ่ยได้เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและจู่โจมลงไปที่จุดตายทุกๆส่วนของร่างกายขณะที่การเคลื่อนไหวดังกล่าวเคลื่อนไปอย่างช้าๆแต่กลับทรงพลัง ราวกับว่ามันเป็นการขย้ำของมังกรที่แท้จริง ทุกๆการขย้ำปราณที่อยู่บริเวณนั้นจะถูกฉีกกระชากออกก่อให้เกินหลุมอากาศเล็กออกมา
  สำหรับรูปแบบมังกรนั้นเป็นทักษะที่เน้นความเข้าใจใช้พลังจากทุกส่วนสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ออกมา นอกจากนี้ทันยังเป็นการจู่โจมที่ต่อเนื่อง มันจึงเป็นเรื่องยากที่อีกฝ่ายจะหนีออกมาหากถูกจับโดยทักษะดังกล่าว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1704 – การระเบิดของพลัง

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1704 – การระเบิดของพลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  บทที่1704 – การระเบิดของพลัง
  ยาที่เขาได้รับมาจากอาจารย์ของห่านอี่เป็นยาหยินหยาง เม็ดหยาง เขาจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณที่มหาศาลในการดูดซับมัน และจำเป็นต้องใช้สมาธิอย่างมาก ดังนั้นดินแดนหยกจึงเป็นที่เหมาะสมสำหรับเขาในเวลานี้
  ในตอนแรกอาจารย์ของห่านอี่ตั้งใจจะปกป้องเขาตอนชิงสุ่ยดูดกลืนยาชนิดนี้แต่ถูกชิงุส่ยปฏิเสธเอาไว้ เขาได้บอกเธอว่าเขามีหนทางที่ดีกว่าในการดูดซับมัน มันจึงทำให้เธอนั้นยอมปล่อยให้เขาออกมาเช่นเดียวกับชิงห่านอี่ที่กล่าวเอาไว้ ว่าหากเขาต้องการความช่วยเหลือ เธอจะเป็นคนปกป้องเขาเอง
  อย่างไรก็ตามสำหรับชิงสุ่ยแล้วไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยไปกว่าดินแดนหยกของเขา ไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปกว่าที่แห่งนี้อีกแล้ว มันปลอดภัยอย่างมาก และไม่มีใครที่สามารถทำอันตรายเขาได้ในดินแดนแห่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพลังวิญญาณในที่แห่งนี้ยังบริสุทธิ์อย่างมากเหมาะสำหรับให้เขาใช้ในการดูดซึมยาตัวนี้
  น้ำทิพย์ใบไม้ผลิแห่งชีวิต!
  ในเวลานี้ชิงุส่ยได้เตรียมพร้อมร่างกายของเขาเขาโคจรพลังของเขาทั้งหมดออกมาขณะที่ความแข็งแกร่งของเขาในเวลานี้ ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปถึง80000สุริยา ก่อนที่จะเพิ่มไปถึง1แสนสุริยาในที่สุด
  พลังในระดับนี้ถือว่าไม่ได้มากมายมากนักสำหรับผู้บ่มเพาะคนอื่นๆแต่ชิงสุ่ยยังมีทักษะเสริมการต่อสู้อีกมากมาย มันจึงทำให้ความแข็งแกร่งของเขาสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกหลายเท่า
  ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้รวบรวมสติของเขาเอาไว้ขณะที่เขาเริ่มทำจิตให้สงบ
  ตอนนี้ชิงห่านอี่ถือได้ว่าเป็นผู้หญิงของเขาแล้วนั้นเพราะใจของเธอย้อมรับเขาแล้ว ดังนั้นชิงสุ่ยจึงต้องปกป้องเธอให้ปลอดภัย
  เขาไม่ลังเลที่จะกินยาเม็ดหยินหยางลงไปในเวลานี้
  ก่อนที่จะตามด้วยน้ำทิพแห่งชีวิตเวลานี้เขาได้ดื่มมันลงไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลังเลใดๆ ขณะที่ได้ระเบิดพลังวิญญาณสีทองออกมา รัศมีสีทองได้ปกคลุมไปทั่วๆดินแดนหยก
  ปราณสีทองอร่ามให้หุ้มร่างกายชิงสุ่ยคล้ายกับรังไหมสีทองในเวลานี้อย่างไรก็ตามมันก็ดูเบาบางอย่างมากจนสามารถมองเห็นเขาได้ กลิ่นอายที่เขาปล่อยออกมาในเวลานี้ดูลึกลับและทรงพลังอย่างมาก
  ตอนนี้ร่างกายของชิงสุ่ยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่พลังที่รุนแรงอย่างยิ่งกำลังถาโถมเข้ามาในร่างกายของเขา แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะดูเหมือนเป็นไปได้ด้วยดีแต่มันก็เหมือนดาบสองคมหากเขาผิดพลาด มันนั้นก็หมายถึงชีวิตของเขา
  เวลานี้เสียงเส้นเลือดในร่างกายของเขาได้ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่องความเจ็บปวดที่มหาศาลได้กระจายไปทั่วร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็สามารถอดทนต่อมันได้ในเวลานี้ อย่างไรก็ตามความเจ็บปวดนี้ก็ได้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาที่ชิงสุ่ยเป็นกังวลในเวลานี้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเกรงว่าจะเป็นจิตใจของเขาที่ได้รับความเจ็บปวดก่อนร่างกายของเขา หากเป็นเช่นนั้นจริงๆมันจะส่งผลอย่างมากต่อเส้นทางการบ่มเพาะในอนาคตของเขา หากเป็นไปได้เขายินดีที่จะได้รับความบาดเจ็บโดยตรงผ่านร่างกายเสียมากกว่า
  ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้นึกถึงห่านอี่เขาสงสัยจริงๆว่าเธอผ่านเรื่องราวเช่นนี้ไปได้ยังไง เธอจะรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้นต่อที่เธอกินยาเม็ดนี้เข้าไป เธอนั้นก็ยังอ่อนแอกว่าเขาในตอนนี้หลายเท่า มันทำให้เขาได้แต่ตกตะลึงกับความแข็งแกร่งทางจิตใจของเธอ
  ในเวลานี้เม็ดสีทั้งเจ็ดในตันเถียนของเขาก็ได้หมุนวนอย่างรวดเร็วพลังงานธรรมชาติในรางกายของเขาก็ได้ไหลวนอย่างสายน้ำที่บ้าคลั่ง แม้แต่เส้นสมปราณของเขาก็ได้เปล่งประกายแสงสีทองออกมา  ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้ลืมตาขึ้นแสงสีทองอร่ามได้ประทุออกมาจากดวงตาทั้งสองของเขา รังไหมที่ห่อหุ่มเขาอยู่ได้ขยายตัวออกไปเป็นวงกว้าง ขณะที่มันสัมผัสกับสิ่งใด สิ่งของเขานั้นจะถูกทำลายจนไม่เหลือซากในพริบตา
  โชคดีที่ตอนนี้ชิงสุ่ยได้ฝึกฝนอยู่ในพื้นที่ๆว่างเปล่าในดินแดนหยกมิเช่นนั้นมันคงจะส่งผลต่อสมุนไพรนับหมื่นนับพันของเขา
  แกร๊ก!
  เสียงที่ฟังดูคล้ายเสียกระดูกแหลกละเอียดดังขึ้นจากตัวของเขา
  นี่คือเสียงกระดูกในร่างกายของเขาถูกทำลายพลังที่มหาศาลได้กระกดทับลงไปที่ร่างกายของเขาโดยตรงทำให้ร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่สามารถทนต่อมันได้ ในเวลานี้ซี่โครงทั้งสองข้างของชิงสุ่ยได้หักเป็นท่อนเรียบร้อยแล้ว
  การเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นในพริบตามนั้นก็เหมือนดาบสองคบหากสามารถผ่านเรื่องราวเลวร้ายเหล่านี้ไปได้ก็จะทำให้ตัวของเขาแข็งแกร่งขึ้น แต่หากเขาไม่สามารถก้าวข้ามมันไปได้นั้นก็หมายถึงชีวิตของเขา
  ตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นมีกายาเก้าหยางทองคำอยู่กับตัวและยังมีรูปแบบมังกรอยู่อีกด้วย ด้วยการผสานของพวกมันทำให้ชิงสุ่ยสามารถต้านทันพลังดังกล่าวเอาไว้ได้ในตอนนี้ หากมีใครคนอื่นๆที่ไม่พวกมัน พวกเขาคงถูกบดจนแหลกละเอียดไปแล้วในตอนนี้
  เม็ดสีทั้งเจ็ดยังคงหมดวนอย่างต่อเนื่องและทวีความเร็วขึ้น ขณะที่พวกมันได้เปล่งแสงที่สว่างออกมามากกว่าที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด
  ฟิ้ง!
  ในเวลานี้ขนาดของพวกมันไม่ได้ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเก่าแต่พวกมันกลับหดตัวเล็กลงจะเหมือนลูกปัดเม็ดเล็ก แต่สีสันของพวกมันกลับสดใสมากว่าที่เคยเป็นมา พวกมันดูคล้ายกับไข่มุกหลากสีในเวลานี้
  ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เข้มข้นที่พวกมันบรรจุเอาไว้อย่างไรก็ตามในเวลานี้มันก็ยังไม่ได้มีทีท่าที่จะหยุดหมุนเลยขณะนี้ เช่นเดียวกับเส้นลมปราณของเขาที่ได้รับการเปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามมันนั้นดูแข็งแรงและทนทานมากกว่าเก่า แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้เท่านั้น Aileen-novel
  หลังจากที่พลังอันมหาศาลได้ทะยานไปสู่จุดสูงสุดมันก็ค่อยๆลดลงอย่างช้าๆ ก่อนที่จะซึมซับเข้าไปตามเส้นลมปราณทั่วๆร่างกายของเขา
  เมื่อทุกอย่างสงบลงมันก็ได้ผ่านไปเก้าวันแล้วในดินแดนหยก ดูเหมือนว่ามันจะไม่นานดังที่ชิงสุ่ยคาดการณ์เอาไว้ แต่มันก็ถือว่าไม่ได้เร็วมากนัก สำหรับคนอื่นๆนี้อาจถือได้ว่าเป็นเวลาที่พอสมควรสำหรับพวกเขา
  ในตอนนี้แม้ว่ากระดูกของชิงสุ่ยจะหักแต่ด้วยความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของเขา มันทำให้เขาสามารถรักษาพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว หลักการรักษาชิงสุ่ยสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยของเสียมากมาย ที่สงกลิ่นไม่ดีออกมา มันจึงทำให้เขาตัดสินใจที่ชำระล้างการของเขาก่อนในตอนนี้
  หลังการชำระสิ่งสกปรกมันก็ถึงงเวลาที่เขาจะสำรวจว่าร่างกายของเขานั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นไรบ้าง
  ในตอนนี้ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาทำให้ของชิงสุ่ยได้เพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวนมากมากถึง 150,000 สุริยา มันเพิ่มขึ้นถึง50000สริยาในตอนนี้ นอกจากนี้เม็ดสีทั้ง7ของเขาก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเดิมทีมันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาได้เพียงแค่ 50 เท่าๆนั้น แต่ตอนนี้มันสามารถเพิ่มพลังให้เขาได้ถึง60เท่า สำหรับเส้นลมปราณวชิระในร่างกายของเขาได้ยกระดับขึ้นจาก60เท่าเปลี่ยนเป็น70เท่าในตอนนี้
  ในตอนนี้เมื่อชิงสุ่ยใช้ทักษะทั้งหมดออกมาความแข็งแกร่งของเขาจะทะยานไปถึง 8315เต๋าเลยที่เดียว ซึ่งมันได้เพิ่มขึ้นจากเก่ามากถึง4000เต๋า  ในเวลานี้ชิงสุ่ยสัมผัสได้ถึงพลังที่มหาศาลในร่างกายของเขามันทำให้เขาอดใจไม่ได้ที่จะใช้เพลงหมัดไทเก๊ก ออกมาในตอนนี้ โดยไม่หยุดยั้งเขาหยิบค้อนออกมาพร้อมกับได้ใช้ทักษะเพลงค้อนออกมา ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นทักษะเพลงกระบี่พื้นฐานอย่างต่อเนื่อง
  ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ลืมทุกๆสิ่งรอบตัวของเขาไปขณะที่สมาธิทั้งหมดของเขาได้จดจ่ออยู่กับฝึกฝนของเขาเท่านั้น
  หลังจากที่เขาได้สติกลับมามันก็ถึงเวลาที่เขาถูกไล่ออกมาจากดินแดนหยกเสียแล้ว ในตอนนี้ชิงสุ่ยเต็มไปด้วยความหิวโหยอย่างมาก ตลอดเวลาที่อยู่ในตอนแดนหยกในครั้งเขานั้นยังไม่ได้รับประทานอาหารเลยสักมื้อ
  แม้ว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งขนาดไหนพวกเขาก็ยังคงต้องกินอาหารอยู่ดีเพียงแค่พวกเขาจะมีความต้องการอาหารที่ต่ำกว่าคนอื่นๆเท่านั้น
  ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ออกไปข้างนอกเพื่อทานอาหารของเขาเพราะเขากลัวว่าจะรบกวนลุกน้อยและภรรยาของเขาที่กำลังหลับอยู่ในตอนนี้
  หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเขาก็ได้กลับเข้าไปในห้องในตอนนี้มันก็ได้ผ่านไปสามชั่วยามแล้วตั้งแต่เขาออกมา
  ในตอนนั้นเองกลิ่นหอมที่อ่อนหวานและเงาที่งดงามได้กระโจนเข้ากอดเขาไว้มันให้ชิงสุ่ยไม่สามารถห้ามใจได้แล้วจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธอ
  เงาดังกล่าวคือเงาของเจี้ยนเก้อแม้ว่าตอนนี้ชิงสุ่ยจะต้องการขนาดไหนแต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นั้นเพราะเขาต้องรอให้เธอฟื้นตัวมากกว่านี้ก๋อน มิเช่นนั้นมันจะไม่เป็นผลดีกับเธอ ดังนั้นชิงสุ่ยจึงได้หยุดจูบเธอและเปลี่ยนมาดึงเข้ามากอดไว้ นั้นเพราะเขากลัวว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงมิอาจหักห้ามใจได้
  “ดูเหมือนเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วนะ”เธอกล่าวออกมาเพราะตอนนี้เธอนั้นเริ่มไม่แน่ใจถึงความแข็งแกร่งของเขาแต่เธอก็สัมผัสได้ว่ามันมากขึ้นกว่าเขาอย่างแน่นอน
  เมื่อมาถึงขั้นนี้ชิงสุ่ยก็ไม่ได้ปิดบังเธออีกต่อเขาได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังรวมถึงเรื่องของถ้ำวารีจันทราอีกด้วย
  ”ข้าเคยได้ยินเรื่องราวของถ้ำวารีจันทรามาอยู่บ้างพวกเขาเป็นขุมอำนาจที่ควบคุมแดนทะเลล้านลี้เอาไว้ พวกเขาจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในขุมอำนาจที่ทรงพลังอย่างมากในแดนทะเลล้านลี้” เธอกล่าวออกมาด้วยสีหน้ากังวล
  “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลไปข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเยามาบ้าง และข้าก็มั่นใจว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะข้าในตอนนี้ได้อย่างง่ายๆหรอก” ชิงสุ่ยพยายามลดความกังวลให้กับเธอ
  “เจ้าต้องระวังตัวให้มากหากเจอเรื่องไม่ชอบมาพากลยังไงก็รีบไปปรึกษาท่านอาวุโสโดยเร็วเลย นางหน้าจะช่วยหาทางออกให้จ้าได้” เมื่อเห็นว่าชิงสุ่ยกำลังประมาทเจี้ยนเก้อจึงรีบกล่าวเตืนออกมา  ”ข้ารู้แล้วเจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่ทิ้งเจ้าไปเด็ดขาด”
  ”เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้พูดเป็นรางเช่นนี้”
  …
  ในรุ่งเช้าชิงสุ่ยได้ออกไปฝึกตามปกติแต่เพราะกลัวว่าจะสงเสียงดัง มันจะทำให้เขาออกไปฝึกที่ลานไกลออกไป ในตอนนี้ชิงสุ่ยต้องเร่งฝึกทักษะกรงเล็กมังกรทองให้เข้าสู่ระดับสมบูรณ์แบบให้ได้ในเร็ววัน จะเป็นไพ่ลับของเขาในการจัดการอีกฝ่ายในอนาคต
  ตอนนี้กรงเล็บของชิงสุ่ยได้เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและจู่โจมลงไปที่จุดตายทุกๆส่วนของร่างกายขณะที่การเคลื่อนไหวดังกล่าวเคลื่อนไปอย่างช้าๆแต่กลับทรงพลัง ราวกับว่ามันเป็นการขย้ำของมังกรที่แท้จริง ทุกๆการขย้ำปราณที่อยู่บริเวณนั้นจะถูกฉีกกระชากออกก่อให้เกินหลุมอากาศเล็กออกมา
  สำหรับรูปแบบมังกรนั้นเป็นทักษะที่เน้นความเข้าใจใช้พลังจากทุกส่วนสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ออกมา นอกจากนี้ทันยังเป็นการจู่โจมที่ต่อเนื่อง มันจึงเป็นเรื่องยากที่อีกฝ่ายจะหนีออกมาหากถูกจับโดยทักษะดังกล่าว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด