I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง 829

Now you are reading I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง Chapter 829 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อย่าทำอะไรเลย

“หยาเอ๋อ อย่าบอกว่าฉันไม่สอนเลยนะ ชีวิตของคนเราหน่ะ มันมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นละ เพราะงั้นการใช้ชีวิตเนี่ยละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เราต้องให้คุณค่ากับชีวิตตัวเองมากๆ ไม่งั้นก็จะเกิดมาสูญเปล่า ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะเป็นแค่เมืองเล็กๆไม่ได้เด่นอะไร แต่ที่นี้มีอาหารแปดอย่างที่ไม่เหมือนใครและหากินที่อื่นที่ไหนได้ยากมากเลย เดี๋ยววันนี้ฉันจะพาเธอไปลองนะ”หลิวหยุนเดินเข้ามาข้างในโรงแรมแห่งหนึ่ง

ที่โรงแรมแห่งนั้นเหมือนกับว่ามีจัดงานอะไรซักอย่าง คนที่งานนั้นไม่มีใครรู้จักหลิวหยุน แต่ที่นั้นมีการจัดวางโต๊ะจีนเตรียมไว้มากกว่า100โต๊ะ คนธรรมดาสามารถเข้าไปนั่งร่วมงานด้วยได้ถ้าเกิดมาไว เพราะงั้น หลิวหยุนจึงได้ไปนั่งโต๊ะในที่สุด

“เดี๋ยวอีกซักพักจะมีอาหารอร่อยๆออกมาให้เธอกินละนะ เธอคงลำบากมากละซิอยู่กับโจวเหวิน คงไม่ได้กินอะไรอร่อยๆแน่ๆ แต่ถ้ามากับฉันมันต่างกันเลยนะ เราจะไปขึ้นเขา ว่ายน้ำทะเล เดินทางไปทั่ว แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหนเธอก็จะได้กินแต่ของดีๆ ขอแค่เธอตามฉันมาอย่างเชื่อฟัง ฉันรับรองได้เลยว่าไม่มีอดแน่นอน”หลิวหยุนพูด

คนข้างๆโต๊ะที่ได้ยินหลิวหยุนพูดแบบนั้น ถึงจะไม่รู้จัก แต่ก็ทักขึ้นมา “เห้ย ไอ้หนุ่ม พูดแบบนี้ไปมาหลายที่แล้วจริงๆเรอะ”

“แน่นอนอยู่แล้วซิ อย่าหาว่าโม้เลยนะ แต่ใน4เขตของรัฐบาลกลางเนี่ย ทั้งเมืองเล็กเมืองใหญ่ขอแค่มีชื่อ ฉันก็ไปมาหมดแล้วละ”หลิวหยุนพูดคุยกับคนข้างๆ เขาต้องอยู่ร่วมโต๊ะแบบนี้ไปอีกซักพัก เพราะงั้น การพูดคุยกันจึงเป็นเรื่องปรกติ แต่คนที่มานั่งร่วมโต๊ะทั้งหลายในวันนี้นั้นแต่งตัวกันในชุดดำ สุภาพเหมือนกับว่าเป็นงานศพ แถมไม่ใช่งานศพของคนธรรมดา ยังเป็นงานศพของตระกูลดังในเมืองนี้ เรียกว่าตระกูลเฉิน โดยมี3พี่น้องตระกูลเฉินเป็นเจ้าภาพ พวกเขาเป็นระดับมหากาพย์ที่เรียกได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตของเมืองๆนี้

ไม่นานมานี้ปู่ของตระกูลเฉินพึ่งตายไป ทำให้คนมากหน้าหลายตาจึงเข้ามาในงานนี้

ในตอนที่มีชีวิต คุณปู่นั้นมีเพื่อนฝูงมิตรสหายมากมาย จึงทำให้คนที่มาร่วมงานเยอะมาก โต๊ะที่นั่ง100กว่าโต๊ะนั้นเต็มหมดจนต้องต่อโต๊ะเสริม ส่วนคนที่มีบัตรเชิญนั้นก็จะได้นั่งหน้าๆ

หลังจากที่รอมาซักพักใหญ่ๆ ประธานในพิธีก็ขึ้นมากล่าวบนเวที

“พี่น้อง สหาย และแขกทุกๆท่าน วันนี้เรามาร่วมเป็นสักขีพยานการจากไปอย่างอาลัยของคุณเฉิ……..”

“55555” ประธานพูดด้วยความเสียใจบิ้วมากๆอยู่บนเวที ทำให้ทุกๆคนนั้นนิ่งเงียบ แต่จู่ๆเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมา

ทันทีที่ได้ยิน ทุกคนก็หันมาที่ต้นเสียงทันที

หลิวหยุนหน้าเจื่อน เขาไม่รู้ว่าจู่ๆเขาถึงขำขึ้นมาได้ เขาไม่ได้อยากขำเลยด้วยซ้ำ เขาพยายามปิดปากแล้วทำหน้าสำนึกผิดที่สุดเท่าที่ทำได้

หัวหน้าตระกูลเฉินส่งสัญญาณให้ประธานพูดต่อ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะไปมีเรื่องกับใคร หรืออย่างน้อยก็รอให้งานนี้จบก่อนแล้วค่อยไปจัดการก็ยังได้

“คุณปู่เฉินของเรานั้น เป็นคนที่จริงใจ ช่วยเหลือทุกคน เป็นผู้นำที่ดี หัวหน้าครอบครัวที่ดี เป็นสามีและพ่อที่…”

“5555555”เสียงหัวเราะดังขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้สายตาของทุกๆคนจับจ้องมาที่หลิวหยุนด้วยความอาฆาตเหมือนจะฆ่าให้ตายให้ได้ โดยเฉพาะพวกตระกูลเฉิน

หลิวหยุนแทบอยากจะร้อง ไม่ได้อยากหัวเราะจริงๆ แต่ขาห้ามตัวเองไม่ได้ เขาพยายามปิดปากให้แน่นที่สุด แต่เขาก็ยังไม่หยุดขำ ภาพที่ออกมามันเลยเหมือนคนที่พยายามกลั้นขำ แต่กลั้นไม่อยู่ ขำคิกคักออกมาทั้งๆที่ปิดปาก

“มึงเป็นบ้าอะไรของมึงวะ”3พี่น้องตระกูลเฉินเริ่มทนไม่ไหว เหล่าคนในงานก็ดูจะเหลืออดแล้ว ตอนนี้คนนับร้อยในงานลึกขึ้นล้อมหลิวหยุนเหมือนกับพร้อมกระทืบให้จมคาตีน

“ฉัน55555 ไม่ได้อยาก555ห55หัวเราะ555555 ฉัน5555”หลิวหยุนหัวเราะเบบหยุดไม่ได้

“หัวเราะทำเหี้ยอะไรละ!”พี่น้องตระกูลเฉินเปิดฉากด้วยกำปั้นเข้าหน้าของหลิวหยุนจังๆ

“โอ้ย”หลิวหยุนโดนต่อยเต็มก่อนที่เขาจะพยายามวิ่งหนีออกมา

หน้าของหลิวหยุนบวมเป่ง เขาอุ้มหยาเอ๋อแล้ววิ่งออกมาจากนอกโรงแรมอย่างสุดฤทธิ์ เหมือนกับว่าพยายามหนีออกมาให้รอดจากความตาย

“55555 โอ้ย555555 จู่ๆก็ต่อยๆกันแบบนี้ 55555 อะไรวะ55555ไม่เข้าใจเลย5555”หลังจากหนีตายออกมาได้ หน้าบวมๆของหลิวหยุนก็ยังคงหัวเราะไม่หยุด การยิ้มหัวเราะของเขานั้นทำให้แผลที่หน้าของเขามันปวดไปมากกว่าเดิมอีก

“ไอ้เวรเอ้ย เจ็บชิบหาย ทำไมถึงได้หัวเราะออกมาได้วะ” หลิวหยุนพูด แต่จู่ๆเขาก็พบว่าเขาไม่หัวเราะออกมาแล้ว

“เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย”หลิวหยุนมองหยาเอ๋อที่ชี้ไปที่ร้านเค้กตรงนั้น แล้วจู่ๆเธอก็พูด “หิว”

“ไอ้เด็กนี้มันอายุเท่าไรวะเนี่ย เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่น่าจะเป็นเพราะเธอนะ หรือว่าฉันโดนคำสาปมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่มหาลัยแล้วแต่ฉันไม่รู้กัน”หลิวหยุนคิดกับตัวเอง

แต่มันมาถึงขั้นนี้แล้ว จะให้คิดอะไรต่อก็เปล่าประโยชน์ หลิวหยุนจึงพาหยาเอ๋อเข้าร้านเค้กหาขนมกิน

หยาเอ๋อมองแผลที่หน้าของหลิวหยุนไปกินเค้กไป หลิวหยุนำก็แตะที่แผลของเขาเบาๆ ก่อนจะพูด “มองอะไรละ คิดว่าฉันสู้ไอ้พวกนั้นไม่ได้เหรอ เหอะ ใช้เค่นิ้วเดียวฉันก็ฆ่ามันได้หมดแล้วเถอะ พวกนั้นสู้ฉันไม่ได้หรอก แต่ฉันเป็นมืออาชีพไง ไม่ใช่ฆาตกร ฉันเลยไม่ทำ โอเคไหม”

หยาเอ๋อก้มหน้ากินเค้กต่อ ไม่รู้ว่าเข้าใจไหม

….

โจวเหวินรู้ดีว่าหลิวหยุนเป็นคนลักพาตัวหยาเอ๋อไป แล้วบังคับให้เขาต้องไปที่ภูเขาหลงหู เขาไม่ได้กังวลว่าหลิวหยุนจะทำอะไรหยาเอ๋อหรอก เขากลัวว่าหลิวหยุนจะตายก่อนมาถึงนี้มากว่า

ยิ่งกว่านั้น ยังไงโจวเหวินก็ต้องมาที่ภูเขาหลงหูนี้อยู่แล้ว เพราะงั้น การมาก่อนเวลาก็ไม่เสียหายอะไร

“หลิวหยุนบอกให้ฉันมาที่ภูเขาหลงหู แสดงว่าเขาเองก็คงคิดอยากจะได้อสูรปฐพีเหมือนกันงั้นเหรอ”โจวเหวินกังวลเล็กน้อย เขาไม่ได้กังวลเรื่องหยาเอ๋อ แต่เขากลัวว่าเขาจะเจอหลิวหยุนอีกทีในสภาพเป็นศพมากกว่า

เพราะเดิมทีหลิวหยุนไม่ได้รู้ที่มาของหยาเอ๋อ และทำกับหยาเอ๋อเหมือนเป็นเด็กคนนึง เขาอาจจะทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังได้ แต่หยาเอ๋อไม่ใช่เด็กธรรมดา ถ้าเกิดไปมีเรื่องกับนางละก็ไม่ได้ตายดีแน่ๆ

ซึ่งเอาจริงๆ โจวเหวินก็คิดไม่ผิดหรอก เพราะถ้าไม่มีคำสั่งของโจวเหวินที่ตั้งกฎไว้ให้หยาเอ๋อว่าไม่ให้ฆ่าคนละก็ ป่านนี้หลิวหยุนคงจะตายไปแล้ว

แต่ถึงแม้หลิวหยุนไม่ตาย แต่สถานการณ์ในตอนนี้ของเขาก็ย่ำแย่มากๆ

เดิมทีหลิวหยุนคิดเอาไว้ว่าจะรีบมุ่งหน้าไปที่ภูเขาหลงหู เพื่อไปรอโจวเหวินที่นั้น แต่ใครจะไปคิดละว่าระหว่างทางจะมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้

ในเมื่อครั้งที่แล้วไปแล้วเจอเรื่อง หลิวหยุนก็ยังไม่ยอมแพ้ พอมาถึงอีกเมืองเขาเลยคิดว่าจะไปหาของกินในโต๊ะจีนงานแต่ง

หลิวหยุนคิด “เอาวะ รอบนี้ถ้าฉันหัวเราะขึ้นมากลางงานแต่งก็คงไม่เป็นไรหรอก”

ซึ่งหลิวหยุนก็คิดถูกแหล่ะ แต่ในงานแต่งนั้น ตอนที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวกำลังแลกแหวนกันนั้นเอง จู่น้ำตาของเขาก็ไหลพรากออกมาแล้วร้องไห้ฟูมฟายเหมือนกับเป็นคนอกหัก คนที่ไม่รู้จักเห็นแบบนั้นก็คิดว่า หลิวหยุนนั้นเคยเป็นแฟนเก่าเจ้าสาว แล้วไม่อยากให้เจ้าสาวได้แต่งงาน

ในตอนนั้น สายตาทุกคู่ก็มองงหลิวหยุนอีกครั้ง

“ฮืออออ ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้อยากร้อง ฮือออ อย่าทำอะไรฉันเลย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด