ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว 16: จักรยาน VS คัลลิแนน

Now you are reading ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว Chapter 16: จักรยาน VS คัลลิแนน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 16 จักรยาน VS คัลลิแนน 

 

เมื่อเฉินจื่อสือได้ยินว่าฉู่ป๋ายกําลังจะไปเปลี่ยนที่นั่งกับเหวินจิง ใบหน้าที่เคยเศร้าหมองก็ยิ้มกว้างทันที‎

‎ เขาได้รับเงิน 1,000 หยวนจากฉู่ป๋ายและตั้งใจจะมอบเงินให้เหวินจิงเพื่อใช้ชัดใช้หนี‎

ถ้าฉู่ป๋ายเปลี่ยนที่นั่งกับเหวินจิงได้ เฉินจื่อสือก็จะได้โอกาสคุยกับเหวินจิงตัวต่อตัว นับเป็นเรื่องดีจริงๆ‎

‎ แต่เฉินจื่อสือยังคงซื่อบื้อ‎

‎ ฉู่ป๋ายแค่อยากอยู่ร่วมโต๊ะกับซูมู่หยานเท่านั้น‎

‎ ไม่ได้ทําเพื่อเฉินจื่อสือทั้งหมด แต่ไปเปลี่ยนที่นั่งกับเหวินจิงเท่านั้นเอง

‎ แน่นอนว่าคําพูดเหล่านี้ไม่สามารถพูดออกมาได้‎

‎ ภายใต้สายตาคาดหวังของเฉินจื่อสือ ฉู่ป๋ายหยิบกระดาษข้อสอบสองสามแผ่นแล้วลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปข้างๆ เหวินจิง‎

‎ “เหวินจิง พวกเราเปลี่ยนที่นั่งกันได้ไหม? ข้าอยากถามซูมู่หยานน่ะ” ฉู่ป๋ายยิ้มกว้าง‎

‎ เหวินจิงกำลังตั้งใจทำโจทย์อยู่ที่โต๊ะเรียน จู่ๆ ฉู่ป๋ายก็มา รบกวนเธอ

‎ เธอรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เมื่อหันกลับไปมองอีกครั้ง เพื่อนร่วมโต๊ะของฉู่ป๋ายก็คือเจ้าอ้วนเฉินจื่อสือ ในใจเธอกลับยิ่งโมโหมากขึ้น

‎ เธอรําคาญเฉินจื่อสือมาก‎

‎ “ไม่เปลี่ยน” เหวินจิงพูดอย่างหงุดหงิด‎

‎ หวังฮ่าวหลานสั่งให้เธอทำในสิ่งที่เธอต้องทำไปแล้ว ก่อนที่เธอจะได้รับคําแนะนําใหม่ เธอไม่ต้องไปใส่ใจเฉินจื่อสืออีก

‎ “ข้ามีคําถามหลายข้อที่ยังไม่เข้าใจ เลยอยากถามซูมู่หยาน การศึกษาเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้น เจ้าพอจะสะดวกเปลี่ยนที่ไหม? นั่งไหนก็เรียนได้ไม่ต่างกันหรอกจริงมั้ย? “ฉู่ป๋ายพูดอย่างไม่พอใจ‎

‎ “อย่าอ้างมาก นี่คือที่นั่งของฉัน ถ้าเปลี่ยนหรือไม่ก็เป็นอิสระของฉัน โปรดออกไปและอย่ารบกวนการเรียนของฉัน!” เหวินจิงโต้กลับ‎

‎ “เจ้า…”‎

‎ ฉู่ป๋ายโกรธมาก แต่ก็ไม่กล้าทะเลาะกับเหวินจิง อย่างไรเสียซูมู่หยานก็ยืนดูอยู่ข้างๆ บวกกับเหวินจิงและเฉินจื่อสือที่เป็นผู้พิทักษ์สาวงามไร้สมอง‎

‎ เขาทําได้เพียงจากไปอย่างหดหู่และกลับสู่ที่นั่งเดิม‎

‎ เฉินจื่อสือแหงนหน้ามองแต่สิ่งที่รอมากลับผิดหวัง‎

‎ เขาถลึงตาใส่ฉู่ป๋าย และทํางานของตัวเองต่อไป‎

‎ ฉู่ป๋ายรู้สึกหดหู่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้‎

‎ ณ จุดนี้เอง‎

‎ หวังฮ่าวหลานออกจากที่นั่งของเขา‎

‎ “เหวินจิง เปลี่ยนที่นั่งหน่อยได้ไหม?”‎

‎ เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของเหวินจิงเต็มไปด้วยความคับข้องใจ ในใจรู้สึกปวดร้าว แต่ยังคงลุกขึ้นอย่างว่าง่าย แล้วมอบที่นั่งให้กับหวังฮ่าวหลาน‎

‎ ทั้งสองได้เดินสวนทางกัน หวังฮ่าวหลานลูบมือเล็ก ๆ ของเหวินจิงเพื่อปลอบโยนเธอ

‎ เหวินจิงเหมือนกินน้ําผึ้ง อารมณ์ดีขึ้นทันที‎

‎ หวังฮ่าวหลานได้พูดคุยกับซูมู่หยานอย่างตั้งใจ‎

‎ เขาไม่ได้จากไปทันทีหลังจากพูดคุย‎

‎ “วันนี้ตอนเรียนภาษาจีน ครูชมว่าการงานเขียนของเธอนั้นเขียนได้ดี การเรียบเรียงเป็นจุดอ่อนของฉัน ขอยืมการเรียบเรียงของเธอมาอ่านหน่อยได้ไหม?” หวังฮ่าวหลานถาม‎

‎ “ที่จริงแล้วนายก็ไม่ได้แย่อะไรนะ” ซูมู่หยานยิ้มและยื่นเรียงความให้หวังฮ่าวหลาน‎

‎ “พรุ่งนี้เช้าฉันจะคืนให้”‎

‎ “ได้”‎

ประโยคเดียวกันที่เขียนโดยคนต่างกันจะมีสไตล์ต่างกัน

‎ หลายคำถูกจัดกลุ่มเข้าด้วยกันและมีรายละเอียดมากมายนับไม่ถ้วน

‎ นี่ทําให้มันยากสําหรับบุคคลที่จะเลียนแบบลายมือของบุคคลอื่นอย่างสมบูรณ์‎

‎ แต่สําหรับหวังฮ่าวหลานแล้ว มันค่อนข้างง่าย‎

‎ การได้รับเรียงความของซูมู่หยานเป็นเพียงขั้นตอนแรกในแผนของหวังฮ่าวหลาน‎หยาน

‎ อีกด้านหนึ่งของห้องเรียน‎

‎ฉู่ป๋ายอารมณ์ไม่ดีนัก‎

‎ “เหวินจิงคนนี้ ข้าบอกให้เธอเปลี่ยนที่แต่กลับไม่สนใจ แต่พอหวังฮ่าวหลานบอก เธอก็กลับหลีกทางให้โดยไม่พูดพร่ำทําเพลงเลยสักนิด แถมยังแสดงท่าทีแตกต่างกันอีก ช่างสมกับเป็นพวกชั้นต่ำจริงๆ…”‎

‎ “เจ้าด่าใคร?!”‎

‎ ก่อนที่ฉู่ป๋ายจะพูดจบ เฉินจื่อสือก็จ้องตาแดงก่ำและคํารามเสียงดัง ราวกับว่าเขากําลังจะสู้สุดชีวิตกับใครบางคน‎

‎ ทําให้หลายคนในชั้นเรียนหันมามอง‎

‎ ฉู่ป๋ายอ้าปากอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก รู้สึกอัดอั้นตันใจสุดขีด‎

‎ ผ่านไปเนิ่นนาน ฉู่ป๋ายจึงสงบลง‎

เขาสามารถบอกได้ว่าหวังฮ่าวหลานยังอยู่ที่นั่น และถ้าเขาต้องการถามซูมู่หยานเกี่ยวกับบทเรียนต่อไปล่ะก็ ย่อมเป็นไปไม่ได้

‎ ดังนั้นแผนการที่จะจีบซูมู่หยานก็ดูจะล่าช้าออกไปไม่น้อย‎

‎ เมื่อคิดได้เช่นนี้ ในหัวของฉู่ป๋ายก็ปรากฏร่างที่เป็นผู้ใหญ่ปรากฏขึ้น‎

‎ เมื่อเทียบกับหญิงสาวที่งดงามอย่างซูมู่หยาน แล้วซ่งเจินอวี่ย่อมดึงดูดผู้ชายในวัยแบบเขามากกว่า‎

‎ “ที่ที่ครูซ่งพักอยู่ เหมือนจะอยู่ทางกลับเดียวกันกับข้า…”‎

‎ ฉู่ป๋ายมีความคิดอื่นผุดขึ้นมาในหัว‎

‎ แม้ว่าจะยังอยู่ห่างจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ถึงร้อยวัน แต่การเรียนไม่มีทางคอยท่าได้ มีแค่การจีบสาวเท่านั้นถึงจะต้องใช้เวลา‎

‎ เขามีความสามารถมองทะลุ เมื่อถึงตอนสอบ แค่ลอบข้อสอบมันก็จบแล้ว

‎ สามารถได้คะแนนได้เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับว่าผู้เข้าสอบโดยรอบเรียนได้ดีแค่ไหน‎

‎ ตามการคาดการณ์ของฉู่ป๋าย การไปเรียนมหาวิทยาลัยที่เลือกของเขาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร‎

‎ เพราะความสามารถมองทะลุของเขาสามารถมองเห็นได้ไกลและมีผลเช่น “กล้องโทรทรรศน์”‎

‎ ภายในรัศมีหลายร้อยเมตร ขอเพียงมีผู้เข้าสอบในสายตาของเขา ต่อให้มีกําแพงกั้นอยู่มากมาย ก็มองเห็นคําตอบบนกระดาษข้อสอบของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน‎

 ——

‎ หลังจากการหมดชั่วโมงเรียนด้วยตนเอนภาคค่ำ

‎ ฉู่ป๋ายเก็บข้าวของอย่างเชื่องช้า พลางสังเกตคนที่เดินออกมาจากประตูห้องทํางานที่อยู่ไม่ไกล‎

‎ เมื่อซ่งเจินอวี่เดินออกมาจากห้องทํางาน ฉู่ป๋ายก็เดินออกจากห้องเรียนไป‎

‎ จากนั้นเขาก็ไปที่สถานที่จอดรถจักรยานในโรงเรียนและขี่จักรยานคันเก่าของเขา‎

‎ ฉู่ป๋ายคํานวณเวลาและได้พบกับซ่งเจินอวี่ที่หน้าประตูโรงเรียน‎

‎ “ครูซ่ง บังเอิญจังเลย” ฉู่ป๋ายจอดจักรยาน ทําทีเป็นเจอซ่งเจินอวี่โดยบังเอิญ‎

‎ “เอ๋? เป็นฉู่ป๋ายเหรอ? ชั่วโมงเรียนด้วยตัวเองจบไปนานแล้ว นักเรียนทุกคนเขาก็กลับกันหมด ทําไมเธอยังอยู่ที่นี่อยู่อีกล่ะ?” ซ่งเจินอวี่ยิ้ม‎

‎ นักเรียนในโรงเรียนกลับกันเกือบหมดแล้ว

‎ ไม่มีใครอยู่ที่ประตูโรงเรียน‎

‎ ดังนั้นซ่งเจินอวี่จึงรู้สึกแปลกๆ‎

‎ “ผลการเรียนของผมไม่ได้แย่หรอกเหรอ? แน่นอนว่าต้องพยายามให้มากกว่านี้ ก็เลยอยู่ในห้องเรียนอีกหน่อย” ฉู่ป๋ายเกาหัว แสร้งทําเป็นเป็นนักเรียนดีที่ตั้งใจเรียน‎

‎ “ผลการเรียนของเธอก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ถ้าเธอพยายามตั้งใจกว่านี้ ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยเธอจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่หวังได้อย่างแน่นอน” ซ่งเจินอวี่ให้กําลังใจ‎

‎ “ขอบคุณครับครูซ่ง” ฉู่ป๋ายหัวเราะคิกคัก จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา‎

‎ “ครูซ่ง ครูเดินกลับเหรอ? ให้ผมไปส่งครูได้มั้ย?”‎

‎ ที่พักของซ่งเจินอวี่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน‎

‎ หลังจากหมดชั่วโมงเรียนด้วยตัวเองในตอนเย็น เธอมักจะเดินกลับด้วยตัวเอง‎

‎ ฉู่ป๋ายสังเกตเห็นเรื่องนี้มานานแล้ว‎

‎ “อ๊า นี่…” ซ่งเจินอวี่ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี‎

‎ “ครูซ่ง นี่มันสามทุ่มกว่าแล้ว ดูสิ ครูสวยขนาดนี้ กลับคนเดียวมันอันตรายมาก ต่อไปหลังจากชั่วโมงเรียนด้วยตัวเองภาคค่ำแล้ว ให้ผมไปส่งครูเถอะ ยังไงก็ทางเดียวกับผมอยู่แล้ว”‎

‎ ฉู่ป๋ายตื่นเต้นเล็กน้อย เขารีบเช็ดเบาะหลังของจักรยานแล้วเร่งเร้า‎

‎ “มาเลยครับ!”‎

‎ และในตอนนั้นเอง‎

‎ คัลลิแนนมาหยุดอยู่ข้างๆ‎

‎ ประตูรถเปิดออกแล้วหวังฮ่าวหลานก็เดินออกมา‎รถ

******************************

ติดตามอัพเดทตอนใหม่ๆ ได้ที่แฟนเพจ Doublewaen Translate นิยายแปล

 https://web.facebook.com/doublewaentranslate

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด