ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว 9

Now you are reading ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว Chapter 9 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 9

 

ในขณะที่เหวินจิงกําลังจมอยู่กับการอ่านหนังสือ เสียงที่น่ารังเกียจก็ดังขึ้นจากด้านข้าง

 

“เหวินจิง ฉันทําโจทย์คณิตศาสตร์นี้ไม่เป็น เธอสอนฉันได้ไหม?”

 

เหวินจิงหันหน้าไปเห็นใบหน้ากลมกลึงของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

 

ชายคนนี้ชื่อเฉินจื่อสือ เป็นชายร่างอ้วน หน้าตาธรรมดา ผลการเรียนห่วยแตก

 

เหวินจิงไม่อยากให้ความสนใจเฉินจื่อสือนัก จึงเขียนวิธีการแก้โจทย์ให้แล้วส่งให้เฉินจื่อสือทำความเข้าใจด้วยตัวเอง

 

จากนั้นเธอก็บอกว่า

 

“ฉันต้องอ่านหนังสือต่อแล้ว”

 

เฉินจื่อสือก็ไม่กล้าถามคําถามต่อ และเดินจากไปอย่างรู้กาลเทศะ

 

เขากลับไปที่ที่นั่งของเขาอย่างผิดหวัง

 

“เจ้าอ้วน นี่แกชอบเธอเหรอ?” ฉู่ป๋ายผู้ร่วมโต๊ะถามหยอกล้อ

 

“ใช่ที่ไหน? อย่าพูดเหลวไหล” เฉินจื่อสือปฏิเสธทันที

 

“หยุดเสแสร้งได้แล้ว ข้ามองออกหมดแล้ว”

 

“นายต้องเก็บเป็นความลับนะ อย่าพูดจาเหลวไหลให้ใครฟัง”

 

“วางใจเถอะ ข้าจะบอกความลับข้องข้ากับแกฟังด้วย ข้าชอบซูมู่หยาน แค่นี้พวกเราก็เจ๊ากันแล้ว”

 

“ดูเหมือนว่าพวกเราจะตกหลุมรักคนที่เอื้อมไม่ถึงเหมือนกัน” เฉินจื่อสือถอนหายใจ

 

“ข้ากับเจ้าไม่เหมือนกัน ข้าจะตามจีบซูมู่หยาน และไม่ช้าก็เร็วนางก็จะเป็นผู้หญิงของข้า” ฉู่ป๋ายเต็มไปด้วยความมั่นใจ

 

“ดูหวังฮ่าวหลานและประธานนักเรียนซูมู่หยาน พูดเกี่ยวกับเรื่องการเรียนและหัวเราะกันแบบนั้นแล้ว บางทีพวกเขาอาจจะมีประกายไฟแห่งความรักออกมาแล้วก็ได้ แล้วนายจะทำอะไรได้” เฉินจื่อสือเหลือบมองชายหนุ่มและสาวสวยที่นั่งอยู่ห่าง ๆ  

 

“หวังฮ่าวหลานเป็นคนเลวที่กล้าทำชั่วแต่ไม่กล้ายอมรับ! ไม่ช้าก็เร็วข้าจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของมัน เมื่อถึงเวลานั้น ซูมู่หยานจะหันมาสนใจข้าแทน” ฉู่ป๋ายพูดด้วยความเกลียดชัง

 

“หวังฮ่าวหลานเป็นคนที่น่าเกลียดจริงๆ เหวินจิงเองก็ยอมให้มันนั่งที่ของเธอด้วย ฉันสนับสนุนนายนะ นายจะต้องตามจีบซูมู่หยานได้แน่” เฉินจื่อสือเองก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน

 

“ถ้าซูมู่หยานกลายเป็นแฟนข้าจริง ข้าจะต้องให้เธอช่วยพูดเรื่องดี ๆ ของแกต่อหน้าเหวินจิงแน่ ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเธอ ถึงตอนนั้นนายก็จะจีบเหวินจิงได้แล้ว” ฉู่ป๋ายตบไหล่เฉินจื่อสือเบาๆ

 

“พี่ชาย นายพูดแล้วนะ รักษาคำพูดด้วยละ!” เฉินจื่อสือตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขามีความรู้สึกที่ดีต่อฉู่ป๋ายมากขึ้น

 

มิตรภาพของลูกผู้ชายบางครั้งก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ซูมู่หยานกับเหวินจิงไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก ในโรงเรียนแทบจะเดินไม่ห่างกันเลย

 

คําพูดของซูมู่หยานนั้นค่อนข้างจะมีน้ําหนักมากกับเหวินจิง

 

“นายต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลสามหมื่นหยวนสําหรับพวกคนต่ำช้า(ฟ่านเจี้ยน) ไอ้ถังข้าวสาร(ฟ่านถง)และไอ้ระยำนั่น(ชินโซวเสิง) เงินนี้ไม่น้อยเลยนะ ถ้าพ่อแม่นายรู้ ต้องโกรธแน่ ๆ นายมีแผนอะไรไหม?”

 

ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินจื่อสือและฉู่ป๋ายใกล้ชิดกันมากขึ้น เขาจึงเริ่มเป็นห่วงฉู่ป๋าย

 

“พรุ่งนี้ปิดเทอม ข้าจะจัดการเอง” ฉู่ป๋ายพูดเสียงต่ํา

 

“อ๊า นายคงไม่คิดจะไปขโมยมาใช่ไหม?” เฉินจื่อสือประหลาดใจมาก

 

เขาจําได้ว่าสภาพครอบครัวของฉู่ป๋ายแย่มาก

 

“ไม่แน่นอน ข้าตั้งใจจะไป… ชนะ “ฉู่ป๋ายพูดอย่างลึกลับ

 

“การพนันหรอ นี่มันฟังดูไม่ดีเลยนะ นายไม่เคยได้ยินเหรอว่า สิบพนัน เก้าแพ้?”

 

“สิบพนัน เก้าแพ้ แต่ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถพนันสิบ แพ้หนึ่ง ได้ ปัญหาก็คือข้าไม่มีเงินไปพนัน” ฉู่ป๋ายพูด พลางชําเลืองมองเฉินจื่อสือ แล้วจู่ๆ ก็ถามขึ้นว่า

 

“เจ้ามีเงินพอไหม? ขอข้ายืมหน่อย?”

 

“มี 1,000 หยวน”

 

“ให้ตายสิ เจ้ารวยขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

“อะไรนะ? ครอบครัวฉันธรรมดามาก นี่เป็นของที่ฉันได้ใช้เวลาครึ่งปีในการออมเงิน ฉันตั้งใจจะรอวันเกิดของเหวินจิงในเดือนนี้ และซื้อของขวัญดี ๆ ให้เธอ”

 

“เจ้าเอาเงินมาให้ข้ายืมเงินก่อน ข้าจะคืนเงินให้เจ้าก่อนวันเกิดของเหวินจิง”

 

“นี่มัน…… โอเค งั้นนายต้องคืนฉันให้ตรงเวลานะ ”

 

“วางใจเถอะ ถึงตอนนั้นข้าจะคืนแกแน่ หากข้าไม่คืน ข้าจะตัดหัวให้เจ้าเอาไปนั่งแทนเก้าอี้ได้เลย” ฉู่ป๋ายสาบาน

 

 

 

 ——

 

บทเรียนของวันสิ้นสุดลงในที่สุด

 

ที่ประตูโรงเรียนนักเรียนทยอยกลับบ้าน

 

วิธีการกลับบ้านมีความหลากหลาย

 

บางคนขี่จักรยานบางคนขึ้นรถบัสและรถรับส่ง

 

รถคูริแนนจอดอยู่ที่ประตูโรงเรียน

 

หวังฮ่าวหลานเดินเข้าไปในคูริแนนท่ามกลางสายตาอิจฉาริษยาและความเร่าร้อนของเหล่านักเรียนหญิง

 

“นายน้อย จะตรงกลับบ้านเลยไหมครับ?” คนขับรถชายอายุประมาณ 40 ปีถามด้วยความเคารพ

 

“ไปร้านนักสืบเอกชนที่ใกล้ที่สุดก่อน” หวังฮ่าวหลานกล่าว

 

คนขับประหลาดใจ แต่ไม่ได้ถามอะไรและออกรถทันที

 

สิ่งที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม

 

เขาทํางานเป็นคนขับรถมาเกือบสิบปีแล้ว

 

หลังจากนั้นไม่นานคูริแนนก็หยุดอยู่ที่หน้าสำนักงานนักสืบที่ไม่ใหญ่มาก

 

หวังฮ่าวหลานเดินเข้าไปในชมรมนักสืบตามลําพัง

 

เขาพบผู้รับผิดชอบและส่งข้อมูลง่ายๆ

 

แน่นอนว่า ข้อมูลนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับฉู่ป๋าย มีรูปถ่าย และ ที่อยู่บ้าน

 

ภาพนี้เพื่อชี้เป้าหวังฮ่าวหลาน และที่อยู่บ้านก็เอามาจากข้อมูลการลงทะเบียนนักเรียน

 

“ตามรอยฉู่ป๋าย รายงานทุกอย่างที่เขาทำทันที”

 

นี่คือสิ่งที่หวังฮ่าวหลานร้องขอ

 

ตอนแรกคนจากชมรมนักสืบไม่รับสาย

 

เหตุผล: พวกเขาเป็นนักสืบปกติและไม่ใช่ปาปารัสซี่

 

อย่างไรก็ตามเมื่อหวังฮ่าวหลานเสนอราคาสามเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็หน้าเปลี่ยนสีทันทีและรับรายการ

 

ราคาสามเท่าในความเป็นจริงเพียงสามหมื่นหยวนเท่านั้น

 

สําหรับหวังฮ่าวหลานที่เป็นลูกเศรษฐีแล้ว มันก็ไม่นับว่าเป็นเงินที่มากเกินไป

 

หลังจากทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้หวังฮ่าวหลานก็ออกจากชมรมนักสืบ

 

และทางชมรมนักสืบก็เริ่มปฏิบัติการทันที

 

 ——

 

ตกกลางคืน

 

ณ วิลล่าตระกูลหวัง

 

ในห้องอาหารอันโออ่า มีเพียงหวังฮ่าวหลานเท่านั้นที่นั่งกินอยู่คนเดียว

 

บนโต๊ะมีอาหารมากกว่าสิบจาน

 

มันเป็นงานฝีมือจากระดับพ่อครัวของโรงแรมระดับห้าดาว

 

รสชาตินั้นยากที่จะหาข้อบกพร่องได้

 

คนรับใช้หลายคนยืนรออยู่ด้านข้าง เมื่อใดก็ตามที่หวังฮ่าวหลานต้องการ พวกเขาก็จะลงมือทันที

 

หวังฮ่าวหลานถอนหายใจ

 

ชาติที่แล้วเขายากจนมาก ใช้ชีวิตในฐานะของนายน้อยผู้มั่งคั่งเช่นนี้ ช่างเป็นความฝันที่ดีจริง ๆ  

 

ตอนนี้ความฝันของเขากลายเป็นความจริง

 

พ่อแม่ก็ยังกลับไม่ถึงบ้าน

 

แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี หวังฮ่าวหราวยังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้าหรือทำตัวยังไงกับคนที่เรียกว่า พ่อแม่ เลย

 

อย่างไรเสียชาติที่แล้วของเขาเป็นเด็กกําพร้า หลังจากข้ามมิติมา เขาก็ไม่มีความรู้สึกอะไรกับพ่อแม่เลย

 

พ่อของเขาคือเถ้าแก่ใหญ่ ดูแลกิจการต่างๆของตระกูลหวัง ทุกวันก็ยุ่งมากเป็นประจำ

 

ไม่ได้เจอกันสัก 1-2 เดือน ก็เป็นนับเรื่องธรรมดา

 

ส่วนแม่เป็นนักธุรกิจที่เกิดในตระกูลร่ํารวย แถมยังมีบริษัทอยู่ด้วย ยุ่งมากทุกวันไม่ต่างกัน

 

และยังใช้เวลาว่างที่อันน้อยนิดไปที่ร้านเสริมสวยขั้นหรู ๆ เพื่อดูแลหน้าแทน

 

ในความทรงจําของเขา หวังฮ่าวหลานมีเวลาน้อยมากที่อยู่กับพ่อแม่ของเขา

 

ในฐานะพ่อแม่พวกเขารู้สึกผิดและเพื่อชดเชยความผิดพลาดนี้พวกเขาจึงตามใจหวังฮ่าวหลานโดยไม่มีเงื่อนไข

 

ตราบใดที่เด็กต้องการ พวกเขาก็จะหามาให้

 

ในเนื้อเรื่องดั้งเดิม หวังฮ่าวหลานนั้นเดิมทีเขาต่อกรกับตัวเอกเพียงลำพัง แต่กลับทำให้ตระกูลหวังทั้งตระกูลรวมถึงตระของฝั่งแม่ทั้งตระกูลก็ร่วมมือกันต่อกรกับตัวเอกด้วยเพราะความรักที่ไร้เงื่อนไขที่มีให้หวังฮ่าวหลาน

 

แต่จะว่าไปแล้ว ลูกเศรษฐีตัวร้ายที่ทุกคนครอบครัวตามใจ นี่ก็เนื้อเรื่องทั่ว ๆ ไปใช่ไหม?

 

ลองนึกภาพลูกเศรษฐีตัวร้ายต้องการรังแกตัวเอก แต่พ่อแม่ตัวร้ายก็พูดขึ้นมาว่า       “ไอ้ลูกเวร ทําเรื่องไม่ดีแบบนี้ลงได้ยังไง หุบปากซะ ขอโทษเพื่อนด้วย ถ้าทำผิดแบบนี้อีก เราจะไม่นับแกเป็นลูกอีกต่อไป!”

 

ถ้าเป็นแบบนั้นเนื้อเรื่องจะไปต่อได้ยังไง

 

******************************

ติดตามอัพเดทตอนใหม่ๆ ได้ที่แฟนเพจ Doublewaen Translate นิยายแปล

 https://web.facebook.com/doublewaentranslate

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด