ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว 96 สัญญาจากใจ

Now you are reading ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว Chapter 96 สัญญาจากใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หวังฮ่าวหลานกลับไปหาฉินหยุนหาน

 

เสี่ยวอี้เฟิงอยู่เฝ้าอยู่หน้าห้องอาหาร

 

เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวอี้เฟิงไม่พอใจเล็กน้อย

 

หวังฮ่าวหลานคิดอยู่ครู่หนึ่งและเข้าใจได้ไม่ยากว่าเขาโดนฉินหยุนหานไล่ออกมา

 

จึงต้องมาเฝ้าหน้าประตู

 

หวังฮ่าวหลานเมินเสี่ยวอี้เฟิงและเดินเข้าไปในห้อง

 

“ไสหัวกลับออกไป ไม่ต้องเข้ามา นายมันไอ้ตัวน่ารำคาญ … เฮ้ ก็บอกว่า… ”

 

ฉินหยุนหานซึ่งกำลังเล่นโทรศัพท์มือถือพูดขึ้นอย่างไม่ใยดีเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นจึงรีบปิดปากกลืนคำพูดลงท้อง อย่างรวดเร็วและยิ้มอย่างเก้อ ๆ

 

“มืดแล้ว กลับกันเถอะ”

 

“อืม” ฉินหยุนหานลุกขึ้นจากโซฟาและเดินออกไปกับหวังฮ่าวหลาน

 

เมื่อเดินผ่านเสี่ยวอี้เฟิงเธอเตือนอย่างเขาด้วยใบหน้าเย็นชา

 

“ฉันจะเตือนนายอีกรอบนะว่าอย่าบอกพ่อ!”

 

“สัญญาครับ สัญญา แต่คุณหนูช่วยหยุดว่าข้าได้ไหม” เสี่ยวอี้เฟิงหัวเราะ

 

“โอเค โอเค อย่าลืมว่าอย่าพูดเกี่ยวกับบาร์!” ฉินหยุนหานเตือนอีกครั้ง

 

“แน่นอน แน่นอน” เสี่ยวอี้เฟิงพยักหน้าอย่างรุนแรง

 

หลังจากคุยกับเสี่ยวอี้เฟิงแล้ว ฉินหยุนหานก็ออกไปกับหวังฮ่าวหลาน

 

หลังจากพ้นสายตาของเสี่ยวอี้เฟิงแล้ว ฉินหยุนหานรีบอธิบายกับหวังฮ่าวหลาน

 

“เสี่ยวอี้เฟิงมันกวนประสาทฉัน ฉันพูดดีกับหมอนั่นเพราะแค่หวังว่าเขาจะช่วยเก็บเรื่องวันนี้เป็นความลับเฉยๆ นะ”

 

“ฉันเข้าใจ” หวังฮ่าวหลานหัวเราะ

 

ฉินหยุนหานรีบอธิบายด้วยท่าทีรีบร้อนแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอกลัวว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิด

 

ทั้งสองออกจากบาร์ด้วยรถเฟอร์รารี ทิ้งเสี่ยวอี้เฟิงไว้ข้างหลัง

 

หวังฮ่าวหลานไม่ห่วงเสี่ยวอี้เฟิงเลยแม้แต่น้อย

 

ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเขาเป็นเสี่ยวอี้เฟิง เขาจะไม่คิดหน่อยเหรอว่าคุณหนูจะทิ้งเขาไว้ที่นี่

 

เดาว่าตอนนี้เขาคงกำลังวิ่งตามตูดเฟอร์รารีอยู่แน่ๆ 

 

ฉินหยุนหาน มีค่าความชื่นชอบตั้ง 65 แล้ว ต้องดันให้สูงกว่านี้อีกสักหน่อย เพื่อให้เห็นความแตกต่างเชิงคุณภาพ

 

หวังฮ่าวหลานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับฉินหยุนหาน

 

“เธอคิดว่าแปลกไหมที่ฉันไปคุยกับจัวชิวเชินอวี่เป็นการส่วนตัว?”

 

“บอสสาวสวยคนนั้นชื่อจั่วชิวเซินอวี้เหรอ ชื่อดีนะ ถ้าได้ยินแค่ชื่อ คงนึกภาพไม่ออกเลยว่าเป็นเจ้าของบาร์”ฉินหยุนหานพูดพลางถอนหายใจ

 

“ฉันว่าก็แปลกอยู่นิดหน่อย นายกับคนแบบนั้น ไม่น่ามีอะไรเกี่ยวข้องกันนี่นา”

 

“ฉันเองก็ไม่อยากไปยุ่งกับเธอเหมือนกัน แต่เธอมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคนร้ายลักพาตัว” คำพูดของหวังฮ่าวหลานเป็นความจริงครึ่งหนึ่งเท็จครึ่งหนึ่ง

 

“นายมาที่นี่เพื่อฉันเหรอ” ฉินหยุนหานถามด้วยความประหลาดใจ

 

“ใช่” หวังฮ่าวหลานพยักหน้า

 

นี่เป็นเรื่องจริง เขามาที่นี่เพราะฉินหยุนหานแม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุผลก็ตาม

 

หัวใจของฉินหยุนหานเต้นแรง และเธอไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานาน

 

“ทำไมนายถึงเสี่ยงอันตรายด้วยตัวเองล่ะ”

 

“ฉันเป็นห่วงเธอมากเกินไปหรือเปล่า ฉันไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ…” หวังฮ่าวหลานดูจริงใจ

 

ใบหน้าที่น่ารักของฉินหยุนหานจ้องมองเขาไม่ละสายตา

 

“นาย…ทำไมนายถึงดูแลฉันดีขนาดนี้”

 

หวังฮ่าวหลานไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่คว้ามือเล็กๆ ของฉินหยุนหานไว้

 

ฉินหยุนหานเข้าใจความหมายโดยธรรมชาติและกระโดดโลดเต้นด้วยความปีติยินดี

 

ทุกอย่างกลับกลายเป็นเงียบสงบ

 

[ติ้ง ความชื่นชอบของนางเอก ฉินหยุนหาน ที่มีต่อโฮสต์ +10 ความชื่นชอบทั้งหมดในปัจจุบันคือ 75 (ความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลง)]

 

[ติ๊ง โฮสต์ส่งผลกระทบอย่างมากกับเนื้อเรื่อง ได้รับแต้มตัวร้าย 800 แต้ม ออร่าตัวเอกของเสี่ยวอี้เฟิง -30 ออร่าตัวร้ายโฮสต์ +30! ]

 

เอาจริงดิ?

 

หวังฮ่าวหลานแอบยิ้มเมื่อเขาได้รับข้อความแจ้งของระบบ

 

เขาจงใจบอกว่าเขามาหาจัวชิวเชินอวี่เพื่อแก้ปัญหาของฉินหยุนหานและเพื่อเสี่ยงดวงว่าเขาจะสามารถดันความชื่นชอบของฉินหยุนหานได้ไหม

 

เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าวิธีนี้จะได้ผล

 

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉินหยุนหานจะรักเขามากจริงๆ

 

เมื่อคิดดูแล้ว ฉินหยุนหานนั้นไม่รู้จักความสามารถที่แท้จริงของเขาและคิดว่ามันเสี่ยงอันตรายมากที่ไปหาจัวชิวเชินอวี่

 

เด็กผู้ชายอยากจะเสี่ยงเพื่อเธอถึงขนาดนี้ จะไม่ให้หวั่นไหวได้อย่างไร

 

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ฉินหยุนหาน ก็เป็นคนที่ชอบเขามากที่สุดในบรรดานางเอกทุกคน

 

75 แต้มนี้ถือว่าสูงกว่าซูมู่หยาน 5 แต้ม

 

75 ความชื่นชอบ ความอดทนควรจะสูงมากใช่มั้ย?

 

หวังฮ่าวหลานคิดในใจแล้วจึงปล่อยมือของฉินหยุนหานพร้อมกับวางมือไว้บนขาที่ขาวราวกับหิมะของเธอ

 

ฉินหยุนหานตัวสั่นเล็กน้อยแต่ไม่มีสั่งเสียง

 

หวังฮ่าวหลาน บีบมือฉินหยุนหาน ไม่พูดอะไรออกมา ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

หวังฮ่าวหลานรู้สึกว่าเรื่องน่าสนใจมากและต้องการไปไกลกว่านี้ แต่ทักษะการขับรถของเขามีจำกัด การขับเฟอร์รารีด้วยมือเดียวค่อนข้างอันตราย

 

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องหยุดความคิดสกปรกของตัวเองไว้

 

อีกเดี๋ยวก็ได้พิชิตเธอแล้ว ไม่ต้องรีบร้อน

 

เฟอร์รารีแล่นไปบนถนน และในไม่ช้าก็มาถึงประตูโรงเรียนมัธยมสุ่ยเจ๋อ

 

หลังจากที่ ฉินหยุนหานลงจากรถ หวังฮ่าวหลานก็มองดูเธอเดินเข้าไปในโรงเรียน

 

หวังฮ่าวหลานหันกลับมาหาเฟอราร์รีแต่ไม่ได้ออกไปทันที แต่มองไปรอบ ๆ ด้วยสายตามองทะลุ

 

ในไม่ช้าเขาก็พบเสี่ยวอี้เฟิงที่นั่งบทแท็กซี่ที่อยู่ข้างหลังเขา

 

เสี่ยวอี้เฟิงคงเป็นกังวลที่ฉินหยุนหานอยู่เพียงลำพังกับเขา

 

——

 

“โชคดีที่คุณหนูยังรักตัวเองอยู่บ้าง ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านอนร่วมกับหวังฮ่าวหลานแล้ว” เสี่ยวอี้เฟิงเห็นฉินหยุนหานเดินเข้าโรงเรียนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

เขาเห็นว่าคุณหนูดูเหมือนจะชอบหวังฮ่าวหลานมาก แต่ในสายตาเขา คุณหนูคนนี้ค่อนข้างไร้เดียงสาเลยทีเดียว

 

บ้าจริง ดูเหมือนตัวเขาจะลืมเรื่องธุระไปเสียสนิท!

 

เสี่ยวยี่เฟิงตบต้นขาของเขาฉาดใหญ่

 

เขาจดจ่อกับฉินหยุนหานมากเกินไปจนลืมจุดประสงค์ในการไปที่บาร์ดอกโบตั๋นดำอย่างสิ้นเชิง

 

เสี่ยวอี้เฟิงพยายามเรียกคนขับแท็กซี่กลับไปที่บาร์

 

แต่แล้วโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นทันที

 

รายชื่อผู้โทรเข้ามาคือฉินไค

 

“อี้เฟิง ตรวจสอบไปถึงไหนแล้ว” ฉินไคถามทันทีที่อีกฝ่ายรับโทรศัพท์

 

“ยังไม่ได้ตรวจสอบเลย” เสี่ยวอี้เฟิงไม่ได้รายงานเรื่องที่ฉินหยุนหานไปที่บาร์ตามที่ตกลงกันไว้

 

“นายอยู่ที่นั่นนานมาก ทำอะไรอยู่” น้ำเสียงของฉินไคประหลาดใจเล็กน้อย

 

เขาเริ่มสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของเสี่ยวอี้เฟิง

 

“ลุงฉิน ไม่ต้องห่วง ให้เวลาข้าหน่อย ข้าจะตรวจสอบให้ชัดเจน” เสี่ยวอี้เฟิงยืนยัน

 

“ช่างมันละกัน ถึงจะสาวไปไม่ถึงตัว แต่อย่างน้อยก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาแล้ว นกอินทรีไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของโบตั๋นดำแล้ว ต่อให้ไปหาข้อมูลจากโบตั๋นสีดำต่อไปคงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ฉันจะหาข่าวของอินทรีอะไรนั่นจากทางอื่นแทน”

 

“ในเมื่อไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับดอกโบตั๋นดำแล้ว งั้นข้าก็จะไม่ไปหานางอีก ถ้ามีข่าวเกี่ยวกับนกอินทรี ลุงฉินต้องบอกข้าทันที” เสี่ยวอี้เฟิงกระตือรือร้นมากที่จะช่วยคุณหนูแก้วิกฤตครั้งนี้นี้

 

หากเขาช่วยคุณหนูได้สำเร็จ เวลานั้นคุณหนูต้องมองเขาใหม่แน่

 

หวังฮ่าวหลานมันชนะใจคุณหนูได้ก็แค่เพราะโชคดีได้ช่วยคุณหนูไว้ไม่กี่ครั้งเองไม่ใช่หรือ?

 

ในแง่ของความสามารถที่แท้จริง หวังฮ่าวหลานไม่อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ

 

สิ่งที่เสี่ยวอี้เฟิงไม่รู้ก็คือหวังฮ่าวหลานอ่านภาษาริมฝีปากผ่านสายตามองทะลุและเรียนรู้สิ่งที่เสี่ยวอี้เฟิงพูดได้

 

หวังฮ่าวหลานรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

 

เนื่องจากเขาไม่มั่นใจว่าเสี่ยวอี้เฟิงจะไปช่วยจัวชิวเชินอวี่แก้ปัญหาเรื่องพิษของเขาหรือไม่

 

แต่อย่างน้อยตอนนี้เสี่ยวอี้เฟิงก็ไม่มีความคิดที่จะไปหาจัวชิวเชินอวี่แล้ว คงวางใจได้เปราะนึง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด