ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว 20: โน้ต

Now you are reading ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว Chapter 20: โน้ต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 20 โน้ต

 

 

‎ ซูมู่หยานเห็นฉู่ป๋ายจากไป ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก‎

 

‎ จากนั้นเธอก็เผยรอยยิ้มออกมาและมองไปที่หวังฮ่าวหลาน‎

 

‎ “จะถามฉันเรื่องอะไร”‎

 

‎ ซูมู่หยานนมีค่าความชื่นชอบต่อหวังฮ่าวหลานถึง 20 ซึ่งก็คือเป็นมิตรมาก ดังนั้นเธอจึงไม่ถือสาเรื่องที่หวังฮ่าวหลานจะถามเธอเกี่ยวกับการเรียน‎

 

‎ “ที่จริงแล้วฉันไม่มีโจทย์ที่จะถามเธอหรอก” หวังฮ่าวหลานยิ้ม‎

 

‎ “อ๊า”

 

‎ “คนที่เรียนเก่งในชั้นเรียนนี้ไม่ใช่มีเธอคนเดียว แต่แล้วทําไมฉู่ป๋ายถึงถามเธอคนเดียวล่ะ?” หวังฮ่าวหลานกล่าว‎

 

‎ “นี่… ฉันจะรู้ได้ยังไง? “ซูมู่หยานส่ายหน้า แต่ในใจนางคาดเดาได้ เธอแค่รู้สึกอายที่จะพูดเท่านั้น‎

 

‎ หวังฮ่าวหลานชี้แจงออกไปทันที‎

 

‎ “ที่จริงฉู่ป๋ายไม่ได้ตั้งใจขอคําชี้แนะจากเธอหรอก แค่จงใจเข้าใกล้เธอเท่านั้นเอง”‎

 

‎ “อย่าใจดีเกินไป ต้องรู้วิธีปฏิเสธรู้จักที่จะปฏิเสธ อย่าใช้เวลาอันมีค่าของเธอในการเรียนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นเสมอไป”‎

 

‎เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูมู่หยานก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคําพูดของหวังฮ่าวหลาน ในขณะเดียวกันก็ตัดสินใจเตรียมพร้อม

 

‎ถ้าครั้งหน้าฉู่ป๋ายมาหาเรื่องเธออีก นอกเสียจากว่าตนเองจะว่าง เธอก็ต้องปฏิเสธ‎

 

‎ “นายจงใจมาบอกฉันอย่างนั้นหรือ?” สายตาของซูมู่หยานจับจ้องไปที่หวังฮ่าวหลาน และต้องการที่จะเห็นอะไรบางอย่าง‎

 

‎ นี่เขา เป็นห่วงฉันเหรอ?‎

 

‎ “สายตาเธอเป็นอะไรไป? ฉันจะมาหาเธอบ่อยๆ ก็เพื่อพูดคุยเรื่องเรียน แต่เธอไม่รู้จริงๆ เหรอว่าฉันคิดยังไงกับเธอกันแน่?‎

 

‎ ฉันเป็นหนุ่มหล่อประจำโรงเรียนจริงไหม? ไม่รู้มีผู้หญิงกี่คนเขียนจดหมายรักให้ฉัน เธอน่ะอาศัยแค่ความสวยของตัวเองก็คิดว่าฉันก็ชอบเธอเหมือนกันแล้วเหรอ?‎

 

‎ก่อนหน้านี้ผมบอกคุณแล้วว่าอย่าหลงตัวเองไป ต้องให้ฉันย้ำอีกกี่ครั้งกัน? “หวังฮ่าวหลานได้โจมตีซูมู่หยานอย่างไร้ความปราณี‎

 

‎ เขามีความคิดบางอย่างกับซูมู่หยานจริง แต่นั่นไม่มีทางปล่อยให้ซูมู่หยานมองออกเด็ดขาด‎

 

‎ มิฉะนั้นเมื่อฉันเข้าหาเธอเอง เธอก็จะทำตัวห่างเหินและเว้นระยะห่างจากเขา

 

‎ พูดง่ายๆ ก็คือ เขาหยอกล้อเธอได้ แต่อย่าให้เธอมองออกว่าตัวเองกําลังหยอกล้อเธออยู่!‎

 

‎ “คนอย่างนายนี่มัน มันช่าง… ช่างมันเถอะ ฉันทําการบ้านแล้ว ฉันไม่สนใจนายแล้ว! ”‎

 

‎ ใบหน้าของซูมู่หยานแดงระเรื่อ เธอหันหน้าหนีและไม่มองหวังฮ่าวหลาน‎อีก

 

[‎ “ติ๊ง หนึ่งในนางเอกซูมู่หยานมีความชื่นชอบต่อโฮสต์ +10 ระดับความชื่นชอบทั้งหมดในตอนนี้คือ 30 (เป็นมิตรมาก)]

 

‎ [ติ๊ง โฮสต์มีผลต่อทิศทางของเนื้อเรื่องดั้งเดิม ได้รับ 200 แต้มตัวร้าย] 】‎

 

‎ “ทำแบบนี้ก็ได้เหรอ?”‎

 

‎ หวังฮ่าวหลานที่ได้รับข้อความจากระบบก็ตกตะลึง‎

 

‎ เกิดอะไรขึ้น?‎

 

‎ เขาไม่ได้จีบเธอสักหน่อย? และไม่เพียง แต่เขาไม่ได้หยอกล้อ แต่ยังทําร้ายเธอ‎

 

‎ทําไมเขาถึงเพิ่มความประทับใจให้กับเธอได้ล่ะ?‎

 

‎ ยิ่งแสดงท่าทีไม่น่าสนใจมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งฮึกเหิมต่อฉันมากขึ้นเท่านั้น‎

 

‎ หรือพูดอีกอย่างก็คือ สาวน้อยคนนี้ชอบท่าแสร้งปล่อยเพื่อจับ (สำนวน หาความหมายเพิ่มเติมได้ที่กูเกิล) สินะ?‎

 

‎ หวังฮ่าวหลานรู้สึกว่าเขาได้พบกุญแจสําคัญในพิชิตซูมู่หยาน

 

‎ อีกมุมหนึ่งของห้องเรียน‎

 

‎ ฉู่ป๋ายจ้องมองหวังฮ่าวหลานและซูมู่หยาน

 

‎ เพราะในห้องเรียนมีผู้คนมากมายกําลังเรียนอยู่ เมื่อหวังฮ่าวหลานและซูมู่หยานกําลังพูดคุยกัน เสียงทั้งสองจึงเบามาก‎

 

‎ ฉู่ป๋ายไม่ได้ยินที่ทั้งสองคนพูด‎

 

‎ แต่ฉู่ป๋ายสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวและการแสดงออกของซูมู่หยานได้‎

 

‎ “เหมือนซูมู่หยานจะโกรธ เจ้าขยะสกุลหวังคนนี้พูดอะไรกันแน่? คงไม่ได้พูดอะไรสกปรกกับซูมู่หยานหรอกนะ? ”‎

 

‎ฉู่ป๋ายกําหมัดแน่น อยากจะต่อยหวังฮ่าวหลานสักที‎

 

‎สําหรับเขาแล้วเรื่องแบบนี้มันง่ายมาก‎

 

‎ หวังฮ่าวหลาน เป็นเศรษฐีที่ไร้ค่า มันไม่มีแม้แต่แรงมัดไก่‎

 

‎ แต่หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ ฉู่ป๋ายก็อดกลั้นไว้ได้‎

 

‎ แม้ว่าการทุบตีหวังฮ่าวหลานจะเป็นเรื่องง่าย แต่ผลที่ตามมาย่อมทำให้ฉู่ป๋ายทนรับไม่ได้

 

‎ ท้ายที่สุดคนที่ร่ำรวยก็เป็นราชา

 

‎ “หลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว จะมีวันหยุด 2-3 เดือน ถึงตอนนั้นข้าจะไปเล่นพนันที่ต่างเมือง ตอนนั้นข้าก็จะมีเงินก้อนใหญ่เหมือนกัน!”‎

 

‎ ฉู่ป๋ายแอบตัดสินใจ‎

 

‎ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนบ่าย ฉู่ป๋ายจึงรู้สึกหดหู่ตลอดทั้งบ่าย‎

 

‎ จนกระทั่งตอนเย็น หลังจากกินข้าวเย็นที่โรงอาหาร อารมณ์ของเขาดีขึ้นเล็กน้อย‎

 

‎กลับไปที่ห้องเรียน‎

 

‎ฉู่ป๋ายพบโน้ตบนโต๊ะเขียนด้วยลายมือบางคํา‎

 

‎”ฉู่ป๋าย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเหินห่างนาย ฉันถูกบีบบังคับให้ทําอะไรไม่ถูก เห็นนายไม่มีความสุขตลอดทั้งบ่าย ฉันรู้สึกแย่‎มาก

 

‎ตอนแรกฉันตั้งใจจะพูดหลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ฉันไม่อยากเห็นนายอารมณ์เสียจริงๆ‎

 

เมื่อจบชั่วโมงเรียนด้วยเองภาคค่ำ ฉันรอนายในหอพักหญิงของชั้นเรียนเรา ฉันมีเรื่องสำคัญที่จะบอกนาย‎ โปรดจําไว้ว่าอย่าให้หวังฮ่าวหลานเห็นมัน ”‎

 

‎ ไม่มีชื่อบนโน้ต‎

 

‎ แต่ลายมือบนกระดาษนั้นสวยงามมาก แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นลายมือของเด็กผู้หญิง

 

‎ “ซูมู่หยานเขียนถึงข้า!” ฉู่ป๋ายตัดสินได้อย่างรวดเร็ว‎

 

‎ ลายมือที่คุ้นเคยบวกกับคําพูดบนกระดาษ นอกจากซูมู่หยานแล้ว คงไม่มีใครอื่นแล้ว‎

 

‎ เขาดีใจและคิดขึ้นมา‎

 

‎ ซูมู่หยานหมายความว่าอย่างไร? ชวนข้าออกไปและกลัวว่าหวังฮ่าวหลานจะรู้?‎

 

‎ เธอชอบข้าจริงๆเหรอ?‎

 

‎ เหตุผลที่นางไม่สนใจข้ามากนักและจงใจใกล้ชิดกับหวังฮ่าวหลานก็เพราะกลัวว่าหวังฮ่าวหลานจะมาหาเรื่องข้าเหรอ?‎

 

‎ ใช่มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่!‎

 

‎ถ้าไม่อย่างนั้น ท่าทีของซูมู่หยานที่มีต่อข้า ทําไมตั้งแต่รู้ว่าฟ่านเจี้ยนและพวก มาขวางทางข้าหลังเลิกเรียน จู่ๆ ก็หันมาสนใจข้าล่ะ?‎

 

‎ ฉู่ป๋ายตื่นเต้นมาก แต่ไม่นานก็สงบลงอีกครั้ง ทําเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น‎

 

‎ ฉีกกระดาษและยัดมันเข้าไปในปากของตงเอง

 

‎ บางทีอาจเป็นเพราะนี่เป็นโน้ตที่เขียนโดยซูมู่หยาน ตอนที่ฉู่ป๋ายกินมันแล้วก็รู้สึกหอมหวานอย่างบอกไม่ถูก‎

 

‎ เขาไม่ลืมคําสั่งของซูมู่หยาน

 

‎ เรื่องนี้ให้ใครไม่ได้!‎

 

‎ ต้อง “ทําลายหลักฐาน”‎

 

‎ หลายคนในชั้นเรียนนี้มีความใกล้ชิดกับหวังฮ่าวหลาน‎

 

‎ หากมีคนพบเบาะแสแล้วไปแจ้งกับหวังฮ่าวหลาน นั่นคงจะแย่เลย

 

‎ ฉู่ป๋ายแอบตื่นเต้นอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่นานก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง พบว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเรื่องนี้‎

 

‎ ซูมู่หยานเป็นนักเรียนไปกลับไม่ใช่นักเรียนประจำ ทําไมต้องใช้สถานที่นัดเจอเป็นหอพักหญิงด้วย?‎

 

‎ โรงเรียนนี้มีขนาดใหญ่มาก มีสถานที่มากมายสําหรับการนัดเจอ

 

‎ ฉู่ป๋ายอยากจะถามซูมู่หยานให้แน่ใจว่ากระดาษโน้ตเป็นกระดาษที่เธอเขียนไว้หรือเปล่า‎

 

‎ เพียงแต่ซูมู่หยานไปโรงเรียนโดยไม่พกมือถือ จะส่งข้อความถามก็เป็นไปไม่ได้‎

 

‎ สําหรับคําถามตัวต่อตัวนั้นไม่เหมาะเพราะหวังฮ่าวหลานมีหูและตามากมายในชั้นเรียนนี้‎

 

‎ชั่วโมงเรียนด้วยตัวเองภาคค่ำ ฉู่ป๋ายรู้สึกทรมานเล็กน้อย ไม่ทําอะไรเลย เอาแต่มองเวลาในมือถือ นับเวลาเป็นวินาที

 

‎ ในห้องเรียนยังมีคนให้ความสนใจกับเวลาเลิกเรียนอยู่ด้วย

 

‎ เมื่อ‎ชั่วโมงเรียนด้วยตัวเองภาคค่ำกำลังจะหมดลง

 

‎ อีกมุมหนึ่งของห้องเรียน‎

 

‎ “โอ๊ย…” เหวินจิงกุมหน้าท้องตัวเองสีหน้าดูเจ็บปวด‎

 

‎ “จิงจิง เป็นอะไรไป ไม่สบายเหรอ?” ซูมู่หยานที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันถามด้วยความเป็นห่วง‎

 

‎ “อืม น่าอึดอัดใจจริงๆ”‎

 

‎ “งั้นฉันจะพาเธอไปห้องพยาบาลเอง”‎

 

‎ “เป็นวันนั้นของเดือนน่ะ แค่ไม่สบายเท่านั้นเอง”‎

 

‎ “เดี๋ยวฉันจะขอลาครูซ่งแล้วให้คนในครอบครัวมารับเธอกลับบ้านไหม?”‎

 

‎ “อย่าเลย ฉันรู้สึกขายหน้าจริงๆ ไปพักที่หอพักหญิงดีกว่า ฉันเดาว่าพักสักครึ่งชั่วโมงคงไม่เป็นไรแล้ว”‎

 

‎ “งั้นฉันจะช่วยเธอถามเพื่อนผู้หญิงที่อยู่ในหอพักชั้นเรียนเราให้เอากุญแจมาให้นะ”‎

 

‎ “ไปหาจางหลี่เถอะ เธอเป็นคนพูดง่าย เฮ้อ อย่าแอบบอกให้ใครรู้นะ ไม่งั้นฉันคงขายหน้าตาย”‎

 

‎ “รู้แล้วน่า”‎

 

‎ หลังจากพูดจบ ซูมู่หยานก็ออกจากที่นั่งไป และเดินไปหาหญิงสาวที่ชื่อจางหลี่‎

 

‎ ซูมู่หยานกระซิบกับจางหลี่จากนั้นจางหลี่ก็หยิบกุญแจออกมาจากตัวเธอและยื่นมันให้กับซูมู่หยาน

 

******************************

ติดตามอัพเดทตอนใหม่ๆ ได้ที่แฟนเพจ Doublewaen Translate นิยายแปล

 https://web.facebook.com/doublewaentranslate

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด