สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! 173.2 เหยาเหยาสารภาพรัก (2)

Now you are reading สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! Chapter 173.2 เหยาเหยาสารภาพรัก (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาอดยิ่งเห็นใจและชื่นชอบชายตรงหน้านี้เพิ่มขึ้นไม่ได้

มือเล็กขาวผ่องเกลี้ยงเกลาคู่นั้น ลูบไล้ใบหน้าเด็ดเดี่ยวของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว ก่อนวาดไปตามใบหน้าเด็ดเดี่ยวดุจกระบี่แหลมคมของเขา

ใบหน้าของเขา ช่างเด็ดเดี่ยวสมบูรณ์แบบคมชัดเสียจริง

คิ้วตาจมูกปาก ไมว่าจะแยกออกหรือรวมเข้าด้วยกัน ต่างสวยงามขนาดนี้

เล่อเหยาเหยาอุทานอย่างตกใจ ดวงตาคู่งามที่มองใบหน้าชายหนุ่ม ปรากฏความลุ่มหลงและความรักที่เธอไม่รู้จักขึ้นมาหลายส่วน

นิ้วค่อยๆ ลูบไล้จากคิ้วกระบี่เข้มนั้น มาจนถึงจมูกแกร่ง สุดท้ายลงมาที่ริมฝีปากกระจับสวยงามที่เม้มปิดสนิทนั้น

ริมฝีปากชายหนุ่มบางเล็กน้อย

แต่ลายเส้นกลับสมบูรณ์แบบยิ่งนัก

และตอนนี้เมื่อมองอย่างละเอียด เล่อเหยาเหยาจึงพบว่า ริมฝีปากของชายหนุ่ม ค่อยๆ ยกขึ้น แฝงด้วยความดื้อรั้นหลายส่วน

เห็นเช่นนี้ ทำให้เขาที่หลับอยู่ในความฝัน ดูราวกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง

เย็นชาน้อยกว่ายามปกติที่มีสติ ดูน่ารักและดื้อรั้นขึ้นหลายส่วน!

เล่อเหยาเหยาคิดในใจ แววตาก็จ้องมอง สุดท้ายในใจเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา นั่นคือ…

เธออยากจุมพิตเขา!

เมื่อคิดแล้วต้องลงมือทำ นี่คือหลักการทั่วไปในการใช้ชีวิตของเล่อเหยาเหยา

ดวงตาคู่งามกวาดมองไปรอบห้องก่อนครู่หนึ่ง เมื่อเห็นภายในห้องมีเพียงพวกตนสองคน และตอนนี้ชายหนุ่มยังหลับสนิท ฮิฮิ ตอนนี้ไม่อุดจมูกขโมยเครื่องหอม ยังต้องรอเวลาใดอีก!

เล่อเหยาเหยาตื่นเต้นดีใจ จากนั้นจึงยกตัวขึ้นอย่างระมัดระวัง ก่อนยื่นปากเล็กจุมพิตลงบนริมฝีปากกระจับคู่ที่เธอปรารถนานั้น

เมื่อรู้สึกถึงการสัมผัสบนริมฝีปากที่อ่อนโยน นุ่มนิ่ม ราวกับขนมดอกกุ้ยฮวา ทำให้คนอาลัยอาวรณ์ไม่หยุด

แต่เล่อเหยาเหยาไม่กล้าหยุดอยู่นานเกินไป

หลังอุดจมูกขโมยเครื่องหอม ก็คิดจากไป

คิดไม่ถึง ทันใดนั้นริมฝีปากทีปิดสนิทของอีกฝ่ายจะเปิดอ้าขึ้น จากนั้นก็ประกบลงบนปากเล็กของเธอ ขณะที่เธอประหลาดใจอยู่ ลิ้นยาวที่ร้อนชุ่มชื้นนั้นก็ลอดเข้าไปด้านใน

“เอ่อ”

สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันนี้ ทำให้เล่อเหยาเหยาเบิกตากว้าง อยากถอยร่นไป แต่ท้ายทอยกลับถูกมือชายหนุ่มรัดไว้แน่น และจุมพิตนั้นก็ลึกล้ำมากขึ้น!

ขโมยจุมพิต แต่กลับกลายเป็นถูกจุมพิต!

สำหรับเรื่องนี้เล่อเหยาเหยารู้สึกเสียใจ

ทว่าเล่อเหยาเหยาไม่คิดมาก

เพราะเธอกำลังตกอยู่ในจุมพิตที่บ้าคลั่ง ดุเดือด ที่รุกรานเข้ามาของชายหนุ่ม จนกลายเป็นอ่อนระทวย

จนกระทั่งหลังจากผ่านไปนาน

“วันนี้ทำสิ่งใดบ้าง”

เหลิ่งจวิ้นอวี๋นั่งพิงหัวเตียง สองมืออ้าออกวางพาดอยู่บนขอบเตียง

เสื้อผ้าบนตัวเขา เพราะการจุมพิตร้อนแรงเมื่อครู่จึงยับยุ่งเหยิง ปกเสื้อปักลายเมฆนั้นเปิดอ้าเล็กน้อย จึงเผยผิวสีน้ำตาลและกล้ามเนื้อเด่นชัดภายในออกมา

มวยผมยาวดุจแพรไหม ถูกปลดกวนทองลง

เส้นผมยาวดุจสาหร่ายทะเล กระจายไปทั่วแผ่นหลังและหน้าอกของเขา ทำให้เขาดูไม่ดุดันลงหลายส่วน!

ส่วนใบหน้าเด็ดเดี่ยวของเขา ท่ามกลางแสงอาทิตย์เจิดจ้าด้านนอก จึงดูอบอุ่บขึ้นหลายส่วน มองแล้วราวกับเทพเจ้ากรีกที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!

ส่วนบนต้นขาของชายหนุ่ม มีคนตัวเล็กรูปร่างบอบบางกำลังนอนอยู่

เห็นเพียงเวลานี้ คนตัวเล็กบอบบางนั้น เมื่ออยู่กลางแสงอาทิตย์เจิดจ้า จึงหรี่ตาลง แววตาดูเปล่งประกายแวววาว

ริมฝีปากดุจดอกเหมยนั้น เวลานี้กำลังบวมเป่ง ทำให้คนที่เห็นรู้ว่าเมื่อครู่เธอผ่านเรื่องใดมา

ผมยาวนุ่มลื่นเงางามดุจแพรไหมนั้น เวลานี้สยายยุ่งเหยิงอยู่ด้านหลังเธอ ทำให้ใบหน้าเล็กของเธอยิ่งดูจิ้มลิ้มมากขึ้น

เวลานี้คนตัวเล็กที่มีสีหน้าเกียจคร้าน งอตัวเล็กน้อยดุจกุ้ง ก่อนขดตัวอยู่ข้างกายชายหนุ่ม ศีรษะเล็กหนุนอยู่บนต้นขาของเขา

ท่าทางนี้ ดูแล้วราวกับแมวตัวน้อยนอนหลับอย่างเกียจคร้านตัวหนึ่งแสนน่ารัก!

เมื่อเล่อเหยาเหยาได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ หลังเบ้ปากเล็กสีแดงสด จึงเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน

“วันนี้หลังจากท่านไปแล้ว พี่ไป๋มาที่นี่ จึงพูดคุยกับเขาอยู่ครู่หนึ่ง พอพี่ไป๋จากไป ข้าก็กลับมานอนพักที่นี่”

เล่อเหยาเหยาเอ่ยพูดตามความจริง

เหลิ่งจวิ้นอวี๋เมื่อได้ยิน อดเลิกคิ้วอย่างสวยงามหล่อเหลาไม่ได้ ก่อนเอ่ยว่า

“โอ้ ไป๋มาหรือ เช่นนั้นเจ้าสนทนาเรื่องใดกับเขา”

ไม่ใช่เหลิ่งจวิ้นอวี๋ใจแคบ แต่เล่อเหยาเหยาและตงฟางไป๋สนทนาเรื่องใดเขาต้องรับรู้

เพราะเด็กน้อยตรงหน้าน่าลุ่มหลงเกินไป เธอมักดึงดูดใจของบุรุษอื่นไปโดยไม่รู้ตัว และไป๋มีใจให้กับคนตัวเล็กนี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋มองเห็นกับตา

ตอนนี้ในเมื่อคนตัวเล็กเป็นคนของเขา เขาต้องดูแลเธอให้ดีแน่นอน ไม่ให้ผู้ใดพาตัวเธอไปได้

เล่อเหยาเหยาไม่รู้ความคิดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ หลังได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ จึงเล่าความจริงเรื่องพบเจอกับตงฟางไป๋ออกมาโดยไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว

พอเอ่ยจบ เล่อเหยาเหยาอดถอนหายใจไม่ได้

“พี่ไป๋เป็นคนดีจริงๆ และเขาห่วงใยข้ายิ่งนัก ได้รู้จักกับเขาถือว่าดีอย่างมาก!”

เล่อเหยาเหยาเอ่ยขึ้นจากใจจริง แววตาเป็นประกายซาบซึ้ง

แต่เธอกลับไม่รู้ตัวว่า ต่อหน้าชายหนุ่มที่ตนชื่นชอบ ไม่สามารถเอ่ยถึงความดีของชายอื่น โดยเฉพาะชายหนุ่มที่หวงแหนของรักรุนแรงเช่นนี้!

จนกระทั่งในที่สุด หลังเล่อเหยาเหยารับรู้ว่าบรรยากาศรอบด้านคล้ายอุณหภูมิลดลง จึงพลันรู้ตัวตอนหลังว่าชายหนุ่มข้างกายกำลังโมโห

เพราะเวลานี้เขากำลังหรี่ดวงตาเย็นชาแคบยาวคู่นั้นลง มองเธอคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม จนเล่อเหยาเหยาพลันขนลุกชันไปทั้งตัว

หนังศีรษะชาวาบ แผ่นหลังแข็งทื่อ

เอ่อ…

เธอล่วงเกินท่านอ๋องผู้นี้ที่ใดหรือ!

เล่อเหยาเหยาไม่เข้าใจ ชายหนุ่มที่รู้จึงรีบเอ่ยปากอย่างไม่พอใจว่า

“ดูเจ้าคล้ายชอบไป๋ยิ่งนัก”

“เอ่อ คือว่า…”

เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม เล่อเหยาเหยาพลันไม่รู้ควรตอบเช่นไร

เพราะเธอชอบตงฟางไป๋อย่างมากจริง ทว่านั่นแป็นเพียงความชอบแบบพี่ชาย ไม่ได้รู้สึกเช่นชายหญิงอย่างแน่นอน

แต่ว่าเล่อเหยาเหยาไม่ได้รีบเอ่ยคำพูดนี้ออกไป

เพราะสีหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าเคร่งขรึม แต่นี่ไม่ได้หมายถึง เขากำลังหึงหวงหรือ!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยายยิ้มกว้างทั้งคิ้วและตา ก่อนพลันหัวเราะขึ้น

เธอหัวเราะอย่างดีใจ ราวกับเด็กน้อยที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ ไร้เดียงสา น่าหลงใหลเช่นนี้

แต่เหลิ่งจวิ้นอวี๋เห็นรอยยิ้มของเธอกลับรู้สึกแปลกใจ

“เด็กน้อย เจ้ากำลังยิ้มอันใด”

“ฮ่า ๆ อวี๋ ท่านหึงหวงข้ากับพี่ไป๋หรือ”

“อะไรนะ หึงหวง ผู้ใดหึงหวงกัน”

เหลิ่งจวิ้นอวี๋ขมวดคิ้วอย่างตกใจ ด้วยสีหน้าไม่ยอมรับ

แต่ใบหน้าหล่อเหลานั้นค่อยๆ แดงก่ำ ราวอยากปกปิดแต่กลับเปิดเผยความจริงออกมา เล่อเหยาเหยาที่เห็นหัวเราะอย่างดีใจ

คิ้วเข้มเลิกสูง สีหน้าภาคภูมิใจ ท่าทางนั้นดุจหมาป่าแอบขโมยไก่ของชาวนา ดูได้ใจยิ่งนัก!

“ฮ่า ๆ ท่านกำลังหึงหวง ยังไม่ยอมรับอีก”

“เปิ่นหวางไม่ได้หึงหวง!”

“ท่านหึงหวง!”

“เปิ่นหวางไม่ได้หึงหวง!”

“ท่านหึงหวง!”

“เอ่อ”

สำหรับใบหน้าเล็กเปี่ยมด้วยรอยยิ้มของเล่อเหยาเหยา ดวงตาเจ้าเล่ห์ภูมิใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เหลิ่งจวิ้นอวี๋เขินอายจนอยากหารูบนพื้นมุดเข้าไป

ทว่าคิดไปแล้ว เขาคล้าย…กำลังหึงหวงจริงๆ!

พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋อดส่ายหน้าไปมาอย่างอึดอัด อดมองหน้าเล่อเหยาเหยาไม่ได้

และเวลานี้ เขาไม่เพียงแก้มแดง แต่ใบหูยังแดงก่ำ

เห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาหัวเราะอย่างดีใจ

เพราะท่าทางอึดอัดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋เวลานี้ ไม่คล้ายกับท่าทางเย็นชายามปกติอีกต่อไปแล้ว กลับอึดอัดและน่ารักสมวัยของเขายิ่งนัก!

“ฮ่า ๆ ท่าทางหึงหวงของท่าน ช่างน่ารักจริงๆ!”

“เจ้า!”

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเล่อเหยาเหยา เหลิ่งจวิ้นอวี๋พลันหันกลับมาปฏิเสธว่าตนไม่ได้หึงหวง ทว่าเล่อเหยาเหยากลับเร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว เอ่ยปากขึ้นว่า

“ทำเช่นไรดี ข้าชื่นชอบเวลาท่านหึงหวงยิ่งนัก!”

“เอ่อ”

เล่อเหยาเหยาแสร้งทำเป็นหงุดหงิด ก่อนทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมาได้สำเร็จ

“ฮ่า ๆ เจ้าพูดว่า เจ้าชอบเปิ่นหวางหรือ”

“อืม ข้าชอบท่าน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด