สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! 174.2 เหยาเหยา แต่งกับเปิ่นหวางเถิด (2)

Now you are reading สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! Chapter 174.2 เหยาเหยา แต่งกับเปิ่นหวางเถิด (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สวรรค์!

เมื่อครู่กุ้งนี้อยู่ในปากของเธอ

และกุ้งนี้เป็นรสเปรี้ยวเผ็ดเข้าใจหรือไม่ จะหวานได้เช่นไร!

เล่อเหยาเหยาเขินอายและหงุดหงิดในใจ ใบหน้าเล็กแดงก่ำ ทั่วใบหน้าเต็มไปด้วยความเขินอาย

สุดท้ายเธอไม่กล้ามองหน้าเหลิ่งจวิ้นอวี๋อีก เพราะเหลิ่งจวิ้นอวี๋เวลานี้ ยิ้มทั่วใบหน้าอย่างหยอกล้อ ทำให้เธอเขินอายจนอยากหารอยแยกบนพื้นมุดเข้าไปไม่ออกมาพบหน้าผู้คน

โชคดี เมื่อครู่ไม่มีคนเห็นเข้า มิฉะนั้น เธอยังจะออกไปพบผู้คนได้เช่นไร!

เล่อเหยาเหยายิ่งคิดยิ่งเขินอาย ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด สุดท้ายหูยังได้ยินเสียงหัวเราะของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ดังเข้ามา ทำให้เล่อเหยาเหยาจ้องเขม็งอย่างโมโหกลบเกลื่อนความเขินอาย

ทว่าเล่อเหยาเหยากลับไม่รู้ว่า การจ้องพร้อมสองแก้มแดงก่ำของตน ดวงตาชุ่มฉ่ำ โกรธเคืองงดงาม จับใจคนยิ่งนัก เหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่เห็น อดจุมพิตที่หน้าผากของเธออีกครั้งไม่ได้

“เอาล่ะ อย่าจ้องอีกเลย รีบทานอาหารเถิด มิฉะนั้นอาหารจะเย็นชืดหมด”

“ฮึ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยาส่งเสียงฮึเบาๆ ออกมา ทว่ากลับไม่ฝืนท้องของตน เพราะอาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญเทียมฟ้าของราษฏร!

หลังทานอาหารเสร็จ เหลิ่งจวิ้นอวี๋ยังคงไม่เข้าวังหลวง เล่อเหยาเหยาอดถามอย่างแปลกใจไม่ได้

“วันนี้ท่านไม่ต้องเข้าวังหลวงหรือ”

“อืม สองวันนี้ไม่มีงานสำคัญ จึงอยากอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”

เหลิ่งจวิ้นอวี๋เอ่ยเสียงเบา ทันใดนั้น ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มแคนตาลูปที่ถูกหั่นเป็นชิ้น ยัดเข้าไปในปากของเล่อเหยาเหยา

นี่คือการทานผลไม้หลังอาหาร เล่อเหยาเหยาย่อมไม่ปฏิเสธ

และในยุคสมัยนี้ แคนตาลูปถือเป็นของล้ำค่าราคาสูง แม้มีเงินก็มิใช่จะสามารถซื้อได้

มีเพียงคนมีอำนาจบารมีอยู่ในราชวงศ์เช่นเหลิ่งจวิ้นอวี๋ จึงจะสามารถลิ้มรสผลไม้หายากในยุคสมัยนี้ได้

เล่อเหยาเหยาคิดในใจ จึงตอบแทนด้วยการยื่นมือหยิบองุ่นที่ปอกเปลือกแล้ว ส่งเข้าปากเหลิ่งจวิ้นอวี๋

เหลิ่งจวิ้นอวี๋เห็นเช่นนั้น ริมฝีปากกระจับยกขึ้น พลันทานองุ่นที่เธอป้อน กระทั่งนิ้วของเธอก็ถูกขบเข้าไปด้วย

“โอ๊ย”

เมื่อนิ้วถูกขบ เล่อเหยาเหยาร้องอย่างตกใจ ใบหน้าจิ้มลิ้มตะลึงชั่วขณะ พลันเงยหน้าขึ้น มองไปยังดวงตาเย็นชาที่แฝงด้วยรอยยิ้มของชายหนุ่มหล่อเหลา

เห็นเพียงชายผู้นี้ ตอนแรกที่เธอรู้จัก เย็นชาไร้ความรู้สึกดุจภูเขาน้ำแข็งที่ไม่ขยับเขยื้อน

เพียงเขามีสีหน้าเคร่งขรึมลง อากาศรอบด้านจะลดลงสุดขีด

แต่เขาตอนนี้ มีชีวิตชีวาราวกับลูกผู้ลากมากดี กล้าอนาจารลวนลามหญิงชาวบ้าน

มิน่าเธอเคยได้ยินคนอื่นพูดว่า คนที่ยิ่งเย็นชาพูดน้อย ความจริงยิ่งร้อนแรง คำพูดนี้ใช้กับชายหนุ่มตรงหน้านี้ ช่างเหมาะสมยิ่งนัก!

เล่อเหยาเหยาคิดในใจ ก่อนพลันชักนิ้วตนกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ แต่สัมผัสร้อนรุ่มบนนิ้วมือนั้น ยังคงสะบัดไม่หลุด ทำให้หัวใจเธอเต้นระรัว

สุดท้าย เพียงบ่นชายหนุ่มที่ยิ้มขันตรงหน้าด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า

“หยุดเล่นได้แล้ว!”

“ฮ่า ๆ ภรรยาหน้าแดงแล้วหรือ”

“หา ภรรยาอันใด”

เมื่อได้ฟังคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยาพลันมึนงง มองชายหนุ่มหล่อเหลาตรงหน้านี้ด้วยสายตาสงสัย

เห็นเพียงเหลิ่งจวิ้นอวี๋เมื่อเห็นเล่อเหยาเหยามองเขาอย่างไม่เข้าใจ แววตาขบขันอดเปลี่ยนไปไม่ได้ ก่อนแววตาจะปรากฎความรักลึกซึ้งและจริงจังหลายส่วนขึ้นมา

เผยอริมฝีปาก เอ่ยอย่างหนักแน่นว่า

“เหยาเหยา แต่งงานกับเปิ่นหวางเถิด!”

เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น หลังเล่อเหยาเหยาได้ยินคำนี้ของชายหนุ่ม สมองพลันขาวโพลน

ทว่าในใจ กลับมีคำพูดลึกซึ้งหนักแน่นของชายหนุ่มดังขึ้นมาไม่หยุด

เหยาเหยา แต่งงานกับเปิ่นหวางเถิด! เหยาเหยา แต่งงานกับเปิ่นหวางเถิด! เหยาเหยา…

“ท่าน ท่านพูดจริงหรือ”

เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม เล่อเหยาเหยาได้สติกลับมาอย่างไม่ง่ายดาย ก่อนหาเสียงเจอ จึงเอ่ยถามออกไป

ไม่รู้เพราะมีสาเหตุจากเวลานี้ตื่นเต้นเกินไปหรือเพราะสิ่งใด เสียงของเล่อเหยาเหยาจึงแหบพร่า และยังแฝงด้วยเสียงสะอื้น

ชายหนุ่มได้ยิน สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่เอ่ยปากขึ้นอีกครั้งว่า

“ย่อมจริงแน่นอน เหยาเหยา เจ้ายินยอมเป็นพระชายาของเปิ่นหวางหรือไม่ กุมมือกันไปจนแก่เฒ่า!”

น้ำเสียงชายหนุ่มไม่สูง แต่กลับหนักแน่นทุกตัวอักษร ทุกประโยค ราวกับสัญญาอย่างหนักแน่นที่สุด ทุกตัวอักษรทุกประโยคต่างซึมลึกเข้าไปในหัวใจของเล่อเหยาเหยา

เมื่อได้ยินการสารภาพรักที่ลึกซึ้งของชายหนุ่ม และดวงตาเย็นชาที่จ้องมองตนอย่างอ่อนโยนดุจสายน้ำ เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงแสบจมูก ภาพด้านหน้าพลันพร่ามัว เลือนลาง

ส่วนชายหนุ่มมองเธออยู่เงียบๆ เมื่อเห็นดวงตาคู่งามของหญิงสาวตรงหน้าเอ่อคลอด้วยน้ำตา กลับยิ้มกว้างขึ้น ใจรู้คำตอบของเธอแล้ว

สุดท้าย เมื่อหญิงสาวนั้นโผเข้ามาในอ้อมกอด ชายหนุ่มโอบกอดร่างเล็กไว้แน่น แต่กลับเพราะตื่นเต้นร่างกายจึงสั่นเทิ้ม หูได้ยินคำพูดแฝงเสียงสะอื้นทว่ากับมีความสุขของหญิงสาวดังขึ้น

“ข้ายินยอม ข้ายินยอม!”

“ฮ่า ๆ”

เมื่อได้ยิน เหลิ่งจวิ้นอวี๋หัวเราะออกมา แววตาอ่อนโยนมากจนสุดจะบรรยาย

รู้สึกถึงความอบอุ่น ชุ่มชื้นตรงหน้าอก เหลิ่งจวิ้นอวี๋รู้ว่า นั่นคือน้ำตาของหญิงสาว

ไหลรินลงบนร่างกายเขา เปือกชื้นที่หน้าอกเขา และทำให้หัวใจที่เย็นยะเยือกของเขา ค่อยๆ อบอุ่นขึ้นมา

ชีวิตนี้มีเธอ ยังจะปรารถนาสิ่งใดอีก

หากการที่เหลิ่งจวิ้นอวี๋ขอตนแต่งงานอย่างซาบซึ้ง ทำให้เล่อเหยาเหยามีความสุขดีใจ เช่นนั้นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ยังมีความน่าตกตะลึงรอเธออยู่!

ขณะเหลิ่งจวิ้นอวี๋ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาบนใบหน้าให้เล่อเหยาเหยา ยกมือลูบไปมา พลันมีเสียงปรบมือดังกังวานขึ้น คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

คนกลุ่มนั้นเข้ามาถึงตรงหน้าพวกเขาอย่างนอบน้อม พวกเขามีสิ่งของในมือ และปรากฎตัวอยู่ในสายตาของเล่อเหยาเหยาอย่างรวดเร็ว

เห็นเพียงคนกลุ่มนี้ เสื้อผ้าที่สวมบนกาย ชายเสื้อปักด้วยลวดลายดอกเหมย

แม้เล่อเหยาเหยาจะเพิ่งมาถึงยุคสมัยนี้ได้เพียงสองเดือน แต่กลับไม่ใช่ไม่รู้เรื่องราวภายนอก

ว่ากันว่าหอเหมยหลาน คือร้านผ้าทอและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง

ภายในหอเหมยหลาน สิ่งของทุกอย่างต่างเป็นของดีชั้นหนึ่ง

ไม่ว่าเสื้อผ้าเครื่องประดับ ทำอย่างประณีตมีฝีมือ เสื้อหนึ่งตัวสามารถขายได้ราคาถึงหนึ่งพันตำลึง

ว่ากันว่าเสื้อผ้าที่นางสนมในวังสวมใส่ ส่วนใหญ่ก็ออกมาจากหอเหมยหลาน ดังนั้นขุนนางและคนมีตำแหน่งนอกวัง คุณหนูสูงศักดิ์ ต่างแย่งซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับที่หอเหมยหลาน คล้ายกับว่าหอเหมยหลานนี้ราวกับแบรนด์ต่างประเทศที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคปัจจุบัน!

เพียงคิดก็รู้ว่า สิ่งของภายในหอเหมยหลานจะล้ำค่ามากเพียงใด!

ตอนนี้ที่วางอยู่ต่อหน้าเล่อเหยาเหยา มีผ้าไหมผ้าแพรหลากหลายรูปแบบ สร้อยไข่มุก ปิ่น เครื่องประดับที่ประณีตงดงาม ชาดแดงแป้งผัดหน้าชั้นดีที่สุด ยังมีกระโปรงหลัวตัดเย็บอย่างสวยงามหลากหลายตัว เป็นที่นิยมที่สุดในตอนนี้

พวกชาดแดงแป้งผัดหน้า ผ้าไหมผ้าแพรเหล่านี้ สีสันมีทั้งงามสง่า สูงส่ง อ่อนหวาน และน่ารัก

สีสันสดใส หลากหลายรูปแบบ ทำให้คนที่มองตาลาย

และเล่อเหยาเหยามองอย่างตกตะลึง

เพราะทุกคนต่างมีใจรักสวยรักงาม! ยิ่งไปกว่านั้น เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ย่อมปฏิเสธสิ่งของที่สวยงามไม่ได้ ดังนั้นเล่อเหยาเหยามองจนตาลายอยู่ตรงนั้น ปากเล็กอ้ากว้าง จนน้ำลายแทบไหลออกมา

เพราะสิ่งของเหล่านี้ ช่างงดงามเสียจริง

เธออยากเปลี่ยนมาแต่งกายเป็นผู้หญิงมานานมากแล้ว

ก่อนหน้านี้ ยามเห็นหญิงสาวผู้อื่นแต่งตัวอย่างงดงามมีเสน่ห์ ตนสวมได้เพียงชุดธรรมดาทั่วไป และยังเป็นชุดขันที เมื่อคิดเล่อเหยาเหยาจึงขมขื่น และมักคิดว่าไม่รู้เวลาใดตนจะสามารถสวมกระโปรงที่งดงาม เมื่อแต่งออกมา ต้องสวยงามอย่างยิ่งแน่

คิดไม่ถึง ความฝันนี้ของเธอ จะเป็นจริงเร็วเช่นนี้

ตอนนี้เหลิ่งจวิ้นอวี๋ให้คนของหอเหมยหลานเข้ามา เล่อเหยาเหยาย่อมเข้าใจความหมายของเขา

เขาอยากให้เธอแต่งกายเป็นสตรี!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด