สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1170 ไม่มีการเข่นฆ่

Now you are reading สตรีแกร่งตระกูลไป๋ Chapter 1170 ไม่มีการเข่นฆ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1170 ไม่มีการเข่นฆ่า

ไป๋ชิงฉีที่พาทหารมุ่งหน้าไปด้านหน้าเห็นลูกธนูแหลมจากหน้าไม้ลอยผ่านศีรษะของเขาไปยังทิศที่มีบันไดไม้ เขาเห็นทหารกองทัพไป๋ที่กำลังต่อสู้กับทหารซีเหลียงอยู่หน้าประตูด่านกำลังจะต้านทานไม่ไหวแล้ว ประตูด่านกำลังจะถูกปิด เขามองเห็นกองทัพซีเหลียงกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา…

ไป๋ชิงฉีควบม้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นตะโกนลั่น

“รีบบุกเข้าไปในด่านให้ได้ เร็วเข้า!”

“บุก!” ไป๋จิ่นเจาควบม้าตามพี่ชายสามของตัวเองไปอย่างรวดเร็ว นางจะบุกเข้าไปในเมืองเป็นกลุ่มแรกให้ได้เหมือนที่พี่หญิงใหญ่ของนางเคยทำ

หน้าไม้ลอยมากลางอากาศ ไป๋ชิงเหยียนได้ยินเสียง ทว่า ไม่มีเวลาแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวกระชากบังเหียนม้าของไป๋จิ่นเซ่อให้หยุดลงทันทีโดยสัญชาตญาณ

เสิ่นชิงจู๋ซึ่งคุ้มกันอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนชักดาบออกมาจากฝักอย่างรวดเร็ว นางกระตุกบังเหียนม้าใช้ร่างของตัวเองและม้าบังร่างของไป๋ชิงเหยียนเอาไว้ จากนั้นตวัดดาบใส่ลูกธนูที่พุ่งตรงมาทางไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่หยุดหย่อน

ม้าศึกผิงอันและม้าศึกของไป๋จิ่นเซ่อหยุดยืนนิ่ง ไป๋จิ่นเซ่อใช้สองมือจับอานม้าของตัวเองไว้แน่น พยายามแนบลำตัวของตัวเองให้ชิดกับหลังม้าศึกของตนให้ได้มากที่สุด

ไป๋จิ่นซิ่วที่เพิ่งยิงสังหารทหารซีเหลียงคนหนึ่งจนตกลงจากหลังม้าได้ตะโกนเรียก “เสี่ยวชี!”

ลูกธนูจากหน้าไม้พุ่งเสียบลงที่ขาหน้าของม้าศึกของไป๋จิ่นเซ่ออย่างรวดเร็ว ต่อมาลูกธนูอีกดอกที่มีขนาดใหญ่พอๆ กับหอกเงินเฉียดผ่านขาของไป๋จิ่นเซ่อปักลงที่พื้นดินบริเวณฝ่าเท้าของสาวน้อย ไป๋จิ่นเซ่อจับอานม้าแน่น นางกัดฟันกรอดพยายามทรงตัวไม่ให้ตัวเองถูกสะบัดลงจากหลังม้า ใจของนางเต้นรัวจนแทบหลุดออกมาจากอก แผ่นหลังเต็มไปด้วยเหงื่อ

หากพี่หญิงใหญ่ไม่ช่วยจับนางเอาไว้ บัดนี้นางคงถูกธนูจากหน้าไม้ยิงทะลุไปสองดอกแล้ว

ไป๋ชิงอวี๋ควบม้าเข้าไปใกล้เพื่อคุ้มกันข้างกายพี่หญิงใหญ่และน้องสาวเจ็ด ชายหนุ่มตวัดหอกเงินในมือไปมาจนปลิดชีพศัตรูได้นับไม่ถ้วน

“เสี่ยวชี!”

เมื่อเท้าของม้าแตะลงบนพื้นดินอีกครั้งไป๋จิ่นเซ่อจึงได้ยินเสียงเรียกของพี่หญิงใหญ่ เมื่อหันกลับไปมองแขนของนางก็ถูกกระชากไปนั่งบนหลังม้าของพี่หญิงใหญ่ทันที

ไป๋จิ่นเซ่อยังเด็ก ถึงแม้จะขี่ม้าอยู่ข้างกายนาง ทว่า ไป๋ชิงเหยียนก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

ไป๋จิ่นเซ่อซึ่งนั่งซ้อนหลังไป๋ชิงเหยียนอยู่บนม้าตัวเดียวกันกลัวว่ามือของนางจะรัดโดนท้องของพี่หญิงใหญ่ สาวน้อยจึงจับเพียงเสื้อเกราะของพี่สาวแน่น

ม้าไท่ผิงทะยานไปด้านหน้าอย่างไม่เร็วนัก มันวิ่งตามหลังพลทหารเกราะและทหารที่แบกบันไดไปเรื่อยๆ มันหลบหลีกลูกธนูที่ยิงมาไปทางซ้ายขวาได้อย่างคล่องแคล่ว ไป๋จิ่นเซ่อหันกลับไปมองจึงเห็นว่าทหารบางคนของกองทัพไป๋ถูกธนูยิงใส่จนส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด สาวน้อยหันหน้ากลับ…พี่หญิงใหญ่ของตนกำลังเขวี้ยงหอกในมือใส่ร่างของแม่ทัพซีเหลียงที่พุ่งตรงมาเป็นคนแรก

ลูกธนูเฉียดผ่านใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนไปอย่างเฉียดฉิว หญิงสาวใช้มือกดตัวไป๋จิ่นเซ่อให้หลบลูกธนูที่ลอยมาให้หลบไปทางขวา

หญิงสาวชักหอกออกจากร่างของทหารผู้นั้น ม้าศึกทะยานไปเบื้องหน้าต่อไป เลือดสดสาดกระเซ็นโดนใบหน้าครึ่งซีกของไป๋จิ่นเซ่อ จมูกของสาวน้อยเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ปากเพิ่งเคยสัมผัสรสชาติคาวของเลือดทหารฝ่ายศัตรูเป็นครั้งแรก ไป๋จิ่นเซ่อรู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาทันที ทว่า สาวน้อยพยายามควบคุมมันไว้พลางบอกกับตัวเองว่านี่คือสนามรบ!

พวกนางทำสงครามในวันนี้เพื่อที่วันหน้าชาวบ้านจะได้ไม่ต้องเผชิญกับการเข่นฆ่าเช่นนี้อีกต่อไป!

เครื่องยิงธนูยิงลูกธนูมาทางกองทัพต้าโจวไม่หยุดหย่อน แววตาของไป๋ชิงเหยียนคมกริบราวกับเหยี่ยว ไร้ความหวาดกลัวแม้แต่น้อย หญิงสาวยังคงขี่ม้าไปด้านหน้าโดยไม่ลดความเร็วลงแม้แต่นิดเดียว

“เสี่ยวชี!”

ไป๋ชิงเหยียนหยิบธนูเซ่อรื้อที่แขวนอยู่ที่หลังมาถือไว้ จากนั้นส่งหอกหงอิงของตัวเองให้ไป๋จิ่นเซ่อ

ไป๋จิ่นเซ่อรับหอกหงอิงมาถือไว้ในมือแน่น สาวน้อยเห็นพี่หญิงใหญ่เล็งธนูเซ่อรื้อไปยังธงสัญลักษณ์ของซีเหลียงบนกำแพงสูง เมื่อยิงเสร็จดอกที่หนึ่งหญิงสาวหยิบธนูดอกที่สองมายิงต่ออย่างรวดเร็ว

เสิ่นชิงจู๋กลัวเกิดสิ่งใดขึ้นกับไป๋ชิงเหยียนจึงคอยคุ้มกันไม่ห่างกายหญิงสาวโดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองแม้แต่น้อย!

ทหารม้าของซีเหลียงซึ่งร่างโชกไปด้วยเลือดและบุกอยู่ด้านหน้าสุดของขบวนตวัดดาบโค้งในมือตัวเองไปทางเสิ่นชิงจู๋ เสิ่นชิงจู๋ใช้ดาบข้างหนึ่งต้านอาวุธของศัตรูเอาไว้ ลูกธนูดอกหนึ่งลอยเฉียดเส้นผมของเสิ่นชิงจู๋เสียบทะลุรูหูของทหารซีเหลียงผู้นั้นจนเขาพลัดตกลงจากหลังม้า

เสิ่นชิงจู๋หันไปมองทางไป๋ชิงเหยียน หญิงสาวกำลังเล็งธนูไปยังกำแพงด่านเย่เฉิงนิ่ง พริบตาเดียวลูกธนูดอกนั้นลอยไปยังกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว คุณหนูใหญ่ของนางยิงธนูต่อเนื่องโดยไม่หยุดเพื่อคุ้มกันทหารกองทัพไป๋ให้บุกไปด้านหน้าได้อย่างไร้อุปสรรค

ธงสัญลักษณ์ของซีเหลียงที่โบกสะบัดอยู่บนกำแพงเมืองถูกยิงหล่นลงบนพื้นทีละผืน บางผืนปลิวหล่นลงไปด้านล่างกำแพงเมือง บางผืนหล่นทับเครื่องยิงธนูของซีเหลียง

“ท่านแม่ทัพ ธงของพวกเราถูกยิงล้มแล้วขอรับ!” แม่ทัพคนหนึ่งหันไปตะโกนบอกเสียงดัง

“ยิง! ยิงสุนัขสารเลวพวกนั้นต่อไป! อย่าเสียดายลูกธนู!”

เย่โส่วกวนกำดาบที่เอวแน่น จากนั้นเดินไปเก็บธงสัญลักษณ์ของซีเหลียงที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมา เขาหยิบหอกยาวที่วางอยู่ด้านข้างและเสียบธงลงไปที่หอกเล่มนั้น เขากำหอกยาวไว้ในมือแน่นพลางปักมันลงไปบนกำแพงเมืองอย่างแรง จากนั้นหันไปกล่าวกับทหารทุกคนเสียงดังลั่น

“แม้ธงประจำกองทัพของพวกเราถูกยิงล้ม ทว่า กำลังใจของพวกเราไม่มีทางหมดลง เบื้องหลังของพวกเราทุกคนคือแคว้นซีเหลียง พวกเราจะปล่อยให้ทหารต้าโจวเข้ามาในนี้ไม่ได้แม้แต่คนเดียว!”

“ขอรับ!”

ทหารซีเหลียงขานรับเสียงดังสนั่น เลือดในร่างกายที่หนาวจนเกือบแข็งเดือดพล่านขึ้นอีกครั้ง พวกเขายิงธนูโจมตีกองทัพต้าโจวอย่างฮึกเหิมกว่าเดิม ต้องการหยุดยั้งพวกนั้นไม่ให้เข้าใกล้ประตูด่านเย่เฉิงของพวกเขา

เมื่อแม่ทัพซึ่งจงรักภักดีต่อตระกูลเย่ที่กำลังคุ้มกำแพงอีกด้านได้ยินว่าเย่โส่วกวนให้แม่ทัพซึ่งคุ้มกันกำแพงเมืองฝั่งซ้ายขวาบนยอดเขายกทัพอ้อมไปโจมตีต้าโจวทางด้านหลังจึงรีบปาดคราบเลือดที่ใบหน้าออก จากนั้นวิ่งไปหาเย่โส่วกวนอย่างรวดเร็ว

“ท่านแม่ทัพ ให้แม่ทัพทั้งสองฝั่งยกทัพออกไปจากด่านเย่เฉิงหมดเช่นนี้เหมาะสมหรือขอรับ” โนเวลพีดีเอฟ

แม่ทัพผู้นั้นเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล

“มิเช่นนั้นพวกเราจะช่วยฝ่าบาทออกมาได้อย่างไร”

เย่โส่วกวนจ้องไปยังเบื้องหน้านิ่ง จากนั้นเอ่ยถามเสียงขรึม

“เราจะปล่อยให้ต้าโจวผูกร่างฝ่าบาทติดกับบันไดไม้นั่นเพื่อข่มขู่พวกเราไปตลอดหรืออย่างไร!”

แผนเดิมของเย่โส่วกวนคือการให้แม่ทัพซึ่งคุ้มกันกำแพงเมืองฝั่งซ้ายขวาบนยอดเขาสูงอยู่คุ้มกันกำแพงต่อไป ขอเพียงพวกเขาคุ้มกันที่สูงไว้ได้ ต่อให้กองทัพต้าโจวยึดด่านเย่เฉิงได้ก็คงไม่กล้าบุกเข้ามาในเมืองอยู่ดี มิเช่นนั้นพวกเขาจะถูกทหารซีเหลียงซึ่งอยู่บนกำแพงสูงบนหน้าผาซ้ายขวาโอบล้อมไว้ทันที

ดังนั้นเดิมทีเย่โส่วกวนคิดทิ้งด่านเย่เฉิงพาทหารหนีขึ้นไปบนกำแพงเมืองของยอดเขาสูงทั้งสองด่าน จากนั้นคุ้มกันกำแพงทั้งสองด้านให้ได้ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตามเพื่อปกป้องด่านเย่เฉิงทั้งด่านนี้ไว้ให้ได้

ถึงแม้จะมีทางถอยหนี ทว่า เย่โส่วกวนต้องทำสงครามครั้งนี้ให้เหมือนเขาไม่มีทางถอยหนีอีกแล้ว เพราะหากพวกเขาหนีขึ้นไปบนที่สูงจริงๆ กำลังใจของทหารซีเหลียงคงเหลือน้อยเต็มที!

ทว่า ตอนนี้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงกลับตกอยู่ในมือของต้าโจว!

เย่โส่วกวนวิเคราะห์ทุกอย่างอย่างละเอียดแล้ว ไป๋ชิงเหยียนที่กำลังต้องครรภ์ยกทัพมาออกรบด้วยตัวเอง ทายาทตระกูลไป๋ที่มีชีวิตเหลือทุกคนแม้แต่เด็กสาวที่อายุน้อยสุดต่างมาออกรบในสงครามครั้งนี้ด้วย! พวกเขาทำไปเพื่อแก้แค้นอย่างแน่นอน!

เช่นนั้นแสดงว่าทายาทตระกูลไป๋คงนำกองกำลังหลักทั้งหมดของกองทัพไป๋มารวมตัวกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว!

เย่โส่วกวนขบกรามแน่นพลางกล่าวขึ้น

“ทหารหน่วยลาดตระเวนไม่พบวี่แววว่ากองทัพศัตรูจะปีนภูเขาขึ้นไปโจมตีกำแพงเมืองด้านบน ไป๋ชิงเหยียนและทายาทของตระกูลไป๋ที่เหลืออยู่ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่หมดแล้ว พวกเขาต้องการแก้แค้นให้สหายกองทัพไป๋และคนตระกูลไป๋ที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของอวิ๋นพั่วสิง ดังนั้นพวกนั้นต้องพยายามโจมตีด่านเย่เฉิงซึ่งไม่เคยถูกโจมตีแตกมาก่อนของซีเหลียงให้แตก จากนั้นบุกต่อไปเมืองหลวงอวิ๋นจิงเพื่อทำลายล้างซีเหลียงให้ดับสูญ ไป๋ชิงเหยียนต้องพากองกำลังหลักของต้าโจวมาที่นี่ทั้งหมดแล้วแน่นอน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด