สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 281 ยอมคุกเข่า

Now you are reading สตรีแกร่งตระกูลไป๋ Chapter 281 ยอมคุกเข่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 281 ยอมคุกเข่า
หลี่จือเจี๋ยถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ลู่เทียนจัวตายไปแล้ว ต่อให้เขาจะโกรธแค้นลู่เทียนจัวมากเพียงใด มันจะมีประโยชน์อันใดกัน!

หลี่จือเจี๋ยกดแผลบริเวณหัวไหล่ของตัวเอง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ไปเตรียมโจ๊กรังนกให้องค์หญิง ข้าจะนำไปให้องค์หญิงด้วยตัวเอง…”

“เพคะ!” นางกำนัลรับคำแล้วรีบจากไป

ตอนที่หลี่จือเจี๋ยถือโจ๊กรังนกเข้าไปด้านใน เขาเห็นหลี่เทียนฟู่จ้องมาที่เขาอย่างเคียดแค้นด้วยดวงตาที่แดงฉานราวกับสัตว์ร้ายที่ใกล้จะสิ้นลมหายใจ

ชายหนุ่มไล่คนที่เฝ้าหลี่เทียนฟู่ออกไปจนหมด เดินไปที่เตียงอย่างช้าๆ สายตาหยุดอยู่ที่รอยแดงบริเวณคอของหลี่เทียนฟู่ เขารู้ว่าหลี่เทียนฟู่ไม่ได้แกล้งทำ นางอยากตายจริงๆ

เขาเอ่ยเสียงเบา “กระหม่อมรู้ว่าองค์หญิงเสียพระทัยที่อาจัวตาย พระองค์อยากตายตามเขาไป ทว่า องค์หญิงไม่อยากแก้แค้นแทนอาจัวหรือพ่ะย่ะค่ะ จะปล่อยให้เขาตายตาไม่หลับเช่นนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เทียนฟู่อ้าปากราวกับจะเอ่ยสิ่งใดออกมา…ทว่า นางได้รับบาดเจ็บที่คอจึงไม่มีเสียง หญิงสาวถีบโจ๊กรังนกที่วางอยู่บนโต๊ะจนหกเลอะเทอะเพื่อระบายความโกรธแค้น

หลี่จือเจี๋ยไม่ได้โมโห เขาสะบัดชายชุดยาวที่เปื้อนโจ๊กเล็กน้อย “ท่านคงไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของอาจัว”

หลี่จือเจี๋ยมองดูดวงตาที่จ้องเขม็งมาที่เขาของหลี่เทียนฟู่ เมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาวไหลพราก เขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้ายื่นให้หลี่เทียนฟู่ “อาจัวคือบุตรบุญธรรมของแม่ทัพใหญ่ผางผิงกั๋วแห่งแคว้นสู่ ที่เขาชำระล้างร่างกายของตัวเองเข้ามาในวังหลวงก็เพราะต้องการแก้แค้นให้พ่อบุญธรรมของเขา สำหรับอาจัวแล้ว ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าการแก้แค้นให้พ่อบุญธรรมอีกแล้ว”

หลี่เทียนฟู่ตะลึง น้ำตาคลออยู่ในดวงตา

“สิ่งที่เหนือความคาดหมายที่สุดในชีวิตของเขาคงจะเป็นท่าน” สายตาของหลี่จือเจี๋ยล้ำลึก “เขาหลอกใช้ทุกคน รวมถึงกระหม่อมด้วย ทว่า เขาไม่เคยหลอกใช้องค์หญิง หากเขาต้องการหลอกใช้ท่าน เขาคงยุให้ท่านแต่งงานกับจักรพรรดิแห่งต้าจิ้น กลายเป็นสนมคนโปรดของพระองค์ จากนั้นให้ท่านเป่าหู่จักรพรรดิต้าจิ้น ยืมมือของจักรพรรดิสังหารไป๋ชิงเหยียน ทำลายล้างตระกูลไป๋จนดับสูญ! เพราะอย่างไรท่านย่อมเชื่อฟังคำสั่งเขาอยู่แล้ว ทว่า เขาไม่เคยทำเช่นนี้!”

ลู่เทียนจัวหลอกใช้หลี่จือเจี๋ยได้ หลี่จือเจี๋ยก็สามารถใช้ลู่เทียนจัวเป็นข้ออ้างในการโน้มน้าวหลี่เทียนฟู่ได้เช่นกัน

“เขา…ยืมมือกระหม่อมหลอกล่อไป๋ชิงเหยียนมาเพื่อสังหาร แต่ว่าองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคือเหยียนอ๋องของซีเหลียง กระหม่อมไม่อาจปล่อยให้ไป๋ชิงเหยียนตายอยู่ที่ที่พักของซีเหลียงได้ ซีเหลียงของพวกเราทำสงครามต่อไปไม่ได้อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเห็นว่าหลี่เทียนฟู่ไม่ยอมรับผ้าเช็ดหน้าจากเขา หลี่จือเจี๋ยจึงเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้หลี่เทียนฟู่แทน “หากไม่มีอาจัวแล้ว องค์หญิงทรงไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป เหตุใดจึงไม่ช่วยอาจัวแก้แค้นให้สำเร็จเล่าพ่ะย่ะค่ะ เมื่อองค์หญิงกลายเป็นสนมคนโปรดของจักรพรรดิแห่งต้าจิ้น หรือชายารองคนโปรดของว่าที่จักรพรรดิต้าจิ้นในอนาคต การสังหารไป๋ชิงเหยียน ทำลายล้างตระกูลไป๋เพื่อแก้แค้นให้อาจัว ถือเป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียวพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เทียนฟู่กำต่างหูในมือแน่น กัดฟันกรอดจ้องไปยังหลี่จือเจี๋ยเขม็ง

“องค์หญิงทรงคิดว่ากระหม่อมกำลังหลอกให้พระองค์เสียสละเพื่อซีเหลียงใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยถอนหายใจยาว “หลี่จือเจี๋ยขอสาบานต่อเทพเจ้าว่ากระหม่อมไม่ได้โกหกเรื่องของอาจัวแต่อย่างใด หากองค์หญิงกลายเป็นสนมคนโปรดของจักรพรรดิหรือว่าที่จักรพรรดิในอนาคตของต้าจิ้น มันส่งผลดีต่อซีเหลียงก็จริง ทว่า กระหม่อมเป็นคนซีเหลียง มีหน้าที่คิดหาประโยชน์ให้ซีเหลียง มันไม่ขัดแย้งกับเรื่องที่องค์หญิงต้องการจะแก้แค้นให้อาจัวแต่อย่างใดพ่ะย่ะค่ะ”

น้ำเสียงของหลี่จือเจี๋ยเต็มไปด้วยความอ่อนโยนตั้งแต่ต้นจนจบ “องค์หญิงลองเก็บถ้อยคำของกระหม่อมไปคิดดูให้ดีนะพ่ะย่ะค่ะ หากองค์หญิงยินยอม…ก็ทรงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดเต้นรำ ใช้การร่ายรำของพระองค์ทำให้จักรพรรดิหรือองค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นหลงใหลให้ได้ หากองค์หญิงไม่เต็มใจ กระหม่อมก็จะไม่ฝืนใจท่านอีก”

กล่าวจบ หลี่จือเจี๋ยทำความเคารพหลี่เทียนฟู่จากนั้นเดินออกมาจากห้องของหญิงสาว สั่งให้คนเข้าไปทำความสะอาดโจ๊กรังนกที่หลี่เทียนฟู่ปัดหก

หลี่เทียนฟู่ขดกายอยู่บนเตียง มองดูต่างหูในมือ ตั้งแต่แสงแห่งรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างจวบจนแสงยามเย็นสาดสองเข้ามาตรงปลายเตียงจากหน้าต่างอีกทิศ เป็นเวลาทั้งวันที่หลี่เทียนฟู่ซึ่งไม่ได้ทานสิ่งใดตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ หญิงสาวใส่ต่างหูคู่นั้นพลางลุกขึ้นยืน

หลี่จือเจี๋ยยืนมองดูตะวันที่ยังไม่ลับขอบฟ้าอย่างเหม่อลอยอยู่หน้าห้องของหลี่เทียนฟู่ หากหลี่เทียนฟู่ยังคงหมดอาลัยตายอยากไม่ยอมไปร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ เขาคงต้องอ้างว่าเมื่อวานนางถูกลู่เทียนจัวทำร้าย

หลังจากถูกคณะทูตจากซีเหลียงที่เดินทางมาถึงต้าจิ้นพร้อมกันเร่งเป็นครั้งที่สาม หลี่จือเจี๋ยจึงหันหลังกลับ ผลักประตูห้องของหลี่เทียนฟู่

บัดนี้ หลี่เทียนฟู่ในชุดนางระบำสีแดงเพลิงสง่างามกำลังนั่งติดดอกไม้บริเวณคิ้วอย่างตั้งใจอยู่หน้ากระจก

แสงแดดสีส้มอ่อนสาดส่องเข้ามาจากทางหน้าต่าง ส่องกระทบใบหน้าที่งดงามน่าตราตรึงของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ผิวขาวราวกับหยก ริมฝีปากแดงสด โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ทั้งๆ ที่ดูสดใสเหมือนสาวแรกแย้ม ทว่า กลับมีเสน่ห์น่าเย้ายวนใจยิ่งนัก ทั้งบริสุทธิ์และยั่วยวน ราวกับดอกไม้งดงามที่กำลังบานสะพรั่ง

“องค์หญิง…” หลี่จือเจี๋ยทำความเคารพอย่างนอบน้อมอยู่หน้าประตู

หลี่เทียนฟู่ยิ้มอย่างยั่วยวนกับตัวเองตรงหน้ากระจก จากนั้นใส่ผ้าคลุมหน้า กล่าวเสียงแหบพร่า “ไปกันเถิด…”

เพราะได้รับชัยชนะที่หนานเจียง งานเลี้ยงเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติของจักรพรรดิต้าจิ้นในปีนี้จึงจัดอย่างยิ่งใหญ่และงดงามกว่าทุกปี

บรรดาฮูหยินแต่ละตระกูลแต่งกายตามยศของตัวเอง คุณหนูตระกูลสูงศักดิ์แต่งกายอย่างชดช้อยงดงามมาก

จักรพรรดิและฮองเฮายังไม่เสด็จมาถึง คุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ที่คุ้นเคยกันต่างจับกลุ่มสนทนากันเป็นกลุ่มๆ บางกลุ่มสนทนาเรื่องที่องค์ชายสี่เว่ยฉี่เหิงแห่งแคว้นต้าเหลียงเข้าวังมาสู่ขอหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูเมื่อวาน บางกลุ่มสนทนาเรื่องที่เมื่อวานเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ไป๋ชิงเหยียนบุกไปที่ที่พักของซีเหลียง…บีบให้เหยียนอ๋องคืนตัวคุณชายรองของตระกูลไป๋มา อีกทั้งสังหารลูกน้องของเหยียนอ๋องไปหนึ่งคน

“ตอนที่องค์ชายสี่แห่งต้าเหลียงขี่ม้าเข้ามาในเมืองหลวง ข้านั่งดื่มชาอยู่ที่เยี่ยนเชวี่ยพอดี องค์ชายสี่แห่งต้าเหลียงผู้นั้นรูปงามมาก! หนานตูจวิ้นจู่คือหญิงงามอันดับหนึ่งของแคว้นต้าจิ้น ทั้งสองคนช่างเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก!”

“นั่นนะสิ ไม่รู้ว่าเมื่อวานองค์ชายสี่แห่งต้าเหลียงไปพบหนานตูจวิ้นจู่ที่ใด เขาเข้าวังไปสู่ขอนางจากฝ่าบาทในคืนเมื่อวานเลย ต่อมาฝ่าบาทจึงเรียกบิดาของหนานตูจวิ้นจู่ไปเข้าเฝ้า เมื่อเสียนอ๋องซึ่งเป็นอ๋องต่างสกุลองค์เดียวที่ยังเหลืออยู่ในแคว้นต้าจิ้นเข้าไปในวัง องค์ชายสี่แห่งต้าเหลียงถึงกับยอมคุกเข่าขอร้องเสียนอ๋อง เสียนอ๋องจึงยอมตกลง”

“จริงหรือ! คุกเข่าขอร้องเสียนอ๋องเลยหรือ” สตรีสูงศักดิ์นางหนึ่งใช้พัดกลมบังปากที่อุทานออกมาอย่างตกใจ แววตาเต็มไปด้วยความอิจฉา “หากหนานตูจวิ้นจู่แต่งงานกับองค์ชายสี่แห่งต้าเหลียง พระองค์คงทะนุถนอมหนานตูจวิ้นจู่ราวกับไข่ในหินเลยกระมัง!”

หลู่เป่าหวาบุตรสาวของผู้พิพากษาหลู่จิ้นแห่งศาลต้าหลี่เดินเข้ามาในวังพร้อมกับหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูภายใต้การนำทางของนางกำนัล หนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูที่สวมชุดงดงามตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนทันที

ความงามของหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูราวกับดอกไม้ก็ไม่ปาน ผิวขาวราวกับหิมะ ปากเล็กเป็นกระจับสีแดงสด ดวงตาสีดำเป็นประกายสดใสคู่นั้นงามราวกับไข่มุกเปล่งประกาย ชุดกระโปรงสีขาวปักด้วยลวดลายประณีตงดงาม ชายกระโปรงขยับไปมาตามจังหวะการก้าวเดิน ทว่า ไม่เห็นแม้แต่ข้อเท้าของหญิงสาว ช่างดูงดงามชดช้อยยิ่งนัก

เมื่อนั่งลง หลู่เป่าหวาใช้พัดกลมบังริมฝีปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม กล่าวกับหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูเสียงเบาหวิว “เจ้าดูสิ สตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงต่างอิจฉาเจ้ากันถ้วนหน้า! ข้าได้ยินว่า…องค์ชายสี่แห่งต้าเหลียงผู้นั้นหลงรักเจ้าตั้งแต่แรกพบ แถมยังสาบานกับเสียนอ๋องอีกว่าชาตินี้จะไม่รับสนมอีกแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือไม่”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *