สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 376 ยุติธรรม

Now you are reading สตรีแกร่งตระกูลไป๋ Chapter 376 ยุติธรรม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 376 ยุติธรรม

“เซี่ยนจู่ กงกง นายอำเภอโจว” ประมุขไป๋ยิ้มทักทายทุกคน รีบสั่งให้บ่าวรับใช้ยกเก้าอี้และนำน้ำชามาให้เฉวียนอวี๋ ไป๋จิ่นจื้อและนายอำเภอโจว

เมื่อบรรดาทายาทตระกูลบรรพบุรุษที่ถูกกุมขังเห็นหน้าญาติของตัวเองต่างก็ร้องไห้อ้อนวอนให้ท่านปู่ของตัวเองช่วยเหลือเขา อ้อนวอนให้ประมุขไป๋ช่วยชีวิต บ่นว่าอยู่ในคุกอย่างทุกข์ทรมานอย่างไรบ้าง อาหารในคุกรสชาติแย่เพียงใดบ้าง

ไป๋ชิงเจี๋ยที่ปกติทนลำบากไม่ได้มากที่สุดกลับคุกเขาอยู่บนพื้นนิ่ง ไม่กล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น

ไป๋ฉีอวิ๋นเป็นห่วงบุตรชาย อยากเข้าไปหา ทว่า เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของบิดาจึงทำได้เพียงยืนกำชายเสื้อของตัวเองแน่นอยู่ด้านหลังบิดาอย่างเป็นกังวล

ไป๋จิ่นจื้อกวาสายตาเย็นชามองไปยังบรรดาคนในตระกูลบรรพบุรุษที่สีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง อยากถลาเข้าไปหาลูกหลานแต่ก็ไม่กล้า ทำได้เพียงยืนตาแดงก่ำอยู่ด้านหลังประมุขไป๋ หญิงสาวหันไปกล่าวกับนายอำเภอโจว

“พี่หญิงใหญ่ใกล้จะมาถึงแล้ว นายอำเภอโจวโปรดรอสักครู่นะเจ้าค่ะ”

“เซี่ยนจู่เกรงใจเกินไปแล้วขอรับ เกรงใจเกินไปแล้วขอรับ!” นายอำเภอโจวรีบโค้งกายคำนับไป๋จิ่นจื้อ

มามาจากหอนางโลมรีบพาเด็กใบ้ลงมาจากรถม้า ยืนตะโกนเสียงดังลั่นอยู่หน้าหอบรรพชน

“นายอำเภอโจว นายอำเภอโจว ได้ยินว่าจวิ้นจู่กำลังตามหาเด็กที่ชื่อหย่าเหนียง ข้าเพิ่งซื้อตัวเด็กคนนี้มาเมื่อวาน นางเป็นใบ้เจ้าค่ะ ท่านดูสิเจ้าคะว่าใช่นางหรือไม่”

“นางคณิกายังกล้ามาโวยวายอยู่หน้าหอบรรพชนของตระกูลไป๋!” ไป๋ฉีอวิ๋นเดือดดาลเป็นที่สุด

นายอำเภอโจวรีบส่งสัญญาณให้ทางการไปลากตัวมามาของหอนางโลมออกห่างจากหอบรรพชน อย่างไรซะที่นี่ก็คือหอบรรพชนของตระกูลของเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่

ไป๋จิ่นจื้อเดินออกไปด้านนอกอย่างไม่ใส่ใจ เฉวียนอวี๋รีบเดินตามไป๋จิ่นจื้อไปทันที นายอำเภอโจวที่เพิ่งนั่งลงบนเก้าอี้เห็นเฉวียนอวี๋เดินออกไป เขาจึงรีบลุกขึ้นเดินตามไปทันที

ไป๋จิ่นจื้อเคยพบหย่าเหนียงและเป็นห่วงความปลอดภัยของนางเช่นเดียวกัน

ไป๋จิ่นจื้อเดินไปด้านหน้า มองดูเด็กสาวซึ่งยืนหดตัวพลางมองมาที่นางอย่างหวาดกลัวอยู่ข้างกายของมามา เด็กสาวดูสะอาดสะอ้าน เห็นได้ชัดว่าเพิ่งถูกอาบน้ำและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่ไม่นาน

“คุณหนูสี่ ใช่หรือไม่เจ้าคะ” เสิ่นชิงจู๋เอ่ยถามไป๋จิ่นจื้อ

ไป๋จิ่นจื้อส่ายหน้า “ไม่ใช่หย่าเหนียง”

มามาแห่งหอนางโลมรู้สึกเสียดาย ทว่า รู้สึกโล่งใจเช่นเดียวกัน ตอนเด็กที่ถูกส่งตัวมา นางไม่ค่อยเชื่อฟังจึงถูกโบยไปสองครั้ง ตามตัวเต็มไปด้วยบาดแผล หากนางคือหย่าเหนียงที่เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่กำลังตามหา เมื่อเห็นรอยแผลเหล่านี้ จวิ้นจู่อาจคิดบัญชีย้อนหลังกับนางได้

ไม่นาน เสียงตะโกนดังมาจากหน้าหอบรรพชน “รถม้าของเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่มาแล้ว!”

ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางรถม้าที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา

ไม่นาน รถม้าหยุดลงด้านนอกกลุ่มคน ชุนเถาประคองไป๋ชิงเหยียนลงมาจากรถม้า รอบกายเงียบกริบทันที สายตาที่ชาวบ้านมองไปทางเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่มีทั้งเคารพยำเกรง หวาดกลัวและสงสัย

“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นจื้อเดินเข้าไปรายงานไป๋ชิงเหยียน

“มีคนพาเด็กสาวที่เป็นใบ้มาคนหนึ่งเจ้าค่ะ แต่ไม่ใช่หย่าเหนียงเจ้าค่ะ”

ไป๋จิ่นจื้อชี้ไปทางมามาแห่งหอนางโลม สายตาของไป๋ชิงเหยียนหยุดอยู่ที่เด็กน้อยที่ร่างยังคงสั่นเทาไม่หยุดหย่อน จากนั้นมองไปยังมามาที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์

“ให้คนไปถามมามาผู้นั้นว่าต้องการเงินเท่าใด ให้เด็กคนนั้นพักอยู่ที่จวนบรรพบุรุษก่อน”

“เจ้าค่ะ!” เสิ่นชิงจู๋รับคำ

“หย่าเหนียง!” ไป๋จิ่นจื้อมองหย่าเหนียงที่เดินออกมาจากด้านในรถม้าอย่างตกตะลึง ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ขอบคุณสวรรค์! ที่แท้พี่หญิงใหญ่หาตัวหย่าเหนียงพบแล้วหรือเจ้าคะ”

“จวิ้นจู่…” เฉวียนอวี๋ทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ

“จวิ้นจู่!” นายอำเภอโจวเดินตามหลังเฉวียนอวี๋มาติดๆ เขารีบโค้งกายคำนับอย่างนอบน้อม

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับเฉวียนอวี๋

“ลำบากเฉวียนอวี๋กงกงส่งคนไปตามหาหย่าเหนียงแล้ว บัดนี้พบตัวนางแล้ว กงกงเรียกตัวพวกเขากลับมาเถิด”

“ขอรับ!” เฉวียนอวี๋รับคำ

“ไปเถิด” ไป๋ชิงเหยียนจูงมือหย่าเหนียงเดินเข้าไปในหอบรรพชนของตระกูลไป๋

ประมุขไป๋และคนอื่นๆ ในตระกูลต่างออกมายืนต้อนรับหน้าประตู จากนั้นเดินตามหลังไป๋ชิงเหยียนเข้าไปด้านใน

เมื่อทุกคนเข้ามาด้านในจนหมด ประมุขไป๋สั่งให้คนปิดหน้าต่างและประตูทุกบาน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกลับเอ่ยขัดขึ้น “ไม่ต้อง เปิดประตูไว้เช่นนั้น พวกเรานั่งคุยกันที่ลานหญ้าของหอบรรพชนนี่แหล่ะ ไม่เป็นอันใด ปล่อยให้ชาวบ้านและทุกคนในตระกูลบรรพบุรุษรับรู้ไปด้วยกัน!”

ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงบนเก้าอี้ที่เฉวียนอวี๋นำมาให้ สายตามองไปยังประมุขไป๋ บรรดาผู้อาวุโสของตระกูลบรรพบุรุษและเหล่าทายาทของตระกูลบรรพบุรุษซึ่งถูกทางการจับกุมตัวที่ยังคงยืนอยู่กลางลานหญ้า หญิงสาวกล่าวขึ้นเสียงเนิบนาบ

“เช่นนั้นก็เริ่มเถิด เริ่มจากหลานชายของประมุขไป๋ ไป๋ชิงเจี๋ยก่อนเลย ทำผิดข้อหาใดบ้าง จะชดเชยให้เจ้าทุกข์เช่นไร ไล่ไปทีละคน เมื่อชดเชยให้ผู้เสียหายเสร็จแล้ว พวกเราค่อยมาคุยกันว่าจะลงโทษอย่างไร”

เมื่อจัดการกับทายาทเหล่านี้เสร็จ ต่อไปก็คือคนอื่นๆ ในตระกูลบรรพบุรุษ สุดท้ายคือประมุขตระกูลไป๋

เดิมทีไป๋ชิงเหยียนตั้งใจว่าหลังจากกำจัดส่วนเน่าเฟะของตระกูลบรรพบุรุษหมดแล้ว นางจะใช้อำนาจของรัชทายาทและบารมีการเป็นเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่บีบให้ประมุขไป๋สละตำแหน่ง ทว่า บัดนี้มีบัญชีของกู่เหล่าอยู่ นางไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจบีบบังคับอีกแล้ว…คนในตระกูลบรรพบุรุษไม่มีทางปล่อยประมุขไป๋ไว้แน่

เมื่อทายาทตระกูลบรรพบุรุษซึ่งเมาเหล้าแล้วโยนหย่าเหนียงลงไปในแม่น้ำเห็นหย่าเหนียงยืนอยู่ข้างกายของไป๋ชิงเหยียน เขาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง รีบหันไปขอความช่วยเหลือจากผู้เฒ่าห้าซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของตน

ไป๋ชิงผิงถูกบ่าวรับใช้ชายประคองตัวยืนอยู่ ชายหนุ่มมองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่มีใบหน้าเย็นชา ดวงตาลึกล้ำมองไม่เห็นก้นบึ้ง เขากำหมัดแน่น รู้สึกราวกับว่ากำลังมองเห็นเจิ้นกั๋วกงไป๋ฉีซานที่เขาเคยเคารพยกย่องเป็นที่สุด

ตระกูลไป๋แห่งเมืองหลวงล้วนทระนงองอาจเช่นนี้เหมือนกันหมด แม้เป็นเพียงสตรีของตระกูลก็ตาม

นายอำเภอโจวหยิบหลักฐานความผิดของไป๋ชิงเจี๋ยซึ่งวางอยู่ด้านบนสุดของกองออกมาเปิดอ่าน…

บังคับขายกิจการ แย่งชิงทรัพย์สินของผู้อื่น รังแกบุรุษ ข่มเหงสตรี คนเหล่านี้ถูกไป๋ชิงเจี๋ยบีบจนฆ่าตัวตาย ไป๋ชิงเจี๋ยมีคดีฆ่าคนตายโดยมีหลักฐานชัดเจนสองคดี คดีแรกคือขี่ม้าเหยียบคนตาย คดีที่สองคือแย่งสตรีของหอนางโลมจนผลักคนตกบันไดตาย!

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ไป๋ชิงเจี๋ยกระทำลงไปและมีหลักฐาน

“ผู้เสียหายอยู่ที่ใด” ไป๋ชิงเหยียนถาม

ในบันทึกมีผู้เสียหายเจ็ดครอบครัว วันนี้มาเพียงห้าครอบครัว ไม่รู้ว่าอีกสองครอบครัวถูกรังแกจนไม่มีชีวิตรอดแม้แต่คนเดียวหรือไม่เชื่อว่าไป๋ชิงเหยียนจะจัดการเรื่องนี้อย่างยุติธรรมกันแน่

ประมุขไป๋รู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าวันนี้ต้องชดเชยให้แก่ผู้เสียหาย คนให้คนในตระกูลบรรพบุรุษเตรียมพร้อมไว้แล้ว ประมุขไป๋หันไปส่งสัญญาณให้ไป๋ฉีอวิ๋น

แม้ไป๋ฉีอวิ๋นจะโกรธแค้นมากเพียงใด เขาก็ทำได้เพียงนำของที่ควรคืน คืนให้แก่เจ้าของและชดเชยให้แก่ผู้เสียหาย

เงินจำนวนมาก ไป๋ฉีอวิ๋นแทบกระอักเลือด

เมื่อผู้เสียหายชราคนหนึ่งได้โฉนดที่ดินและโฉนดบ้านของตัวเองคืนก็ร้องไห้ออกมาอย่างตื้นตัน รีบก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน

“ขอบพระคุณจวิ้นจู่มากขอรับ! ขอบพระคุณจวิ้นจู่มากขอรับ! เดิมทีข้าไม่คิดว่าข้าจะได้คืน คิดว่าจวิ้นจู่แค่แสดงละครตบตาเท่านั้น บุตรชายของข้าไม่ยอมมา นึกไม่ถึงว่าจะได้คืนจริงๆ ได้คืนมาแล้วจริงๆ! ขอบพระคุณจวิ้นจู่มากขอรับ! ข้าจะจำบุญคุณครั้งนี้ไว้ตลอดชีวิตขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืนเบี่ยงกายหนีการคำนับของผู้เฒ่า กล่าวขึ้น “ไป๋ชิงเจี๋ยทำผิดก่อน ในฐานะคนของตระกูลไป๋ ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกละอายใจมาก ไม่กล้ารับคำขอบคุณจากท่านหรอก”

“นายอำเภอโจว คนต่อไป…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

นายอำเภอโจวอ่านความผิดของทายาทตระกูลไป๋ต่อไปเรื่อยๆ ผู้เสียหายก้าวมารับทรัพย์สินของตัวเองหรือเงินค่าชดใช้คืน

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *