สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 532 ฝันกลางวัน

Now you are reading สตรีแกร่งตระกูลไป๋ Chapter 532 ฝันกลางวัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 532 ฝันกลางวัน

กล่าวจบ หลัวอี๋เหนียงหันไปมองพี่ชายของตัวเอง เตรียมกล่าวสิ่งใดกับพี่ชาย ทว่า นางเห็นพี่ชายจ้องไปทางสาวใช้คนหนึ่งตาเป็นมัน หลัวอี๋เหนียงกัดฟันกรอดเดินไปด้านหน้า หยิกแขนพี่ชายอย่างแรง

หลัวกุ้ยฟู่เจ็บจึงได้สติ ลูบแขนที่โดนหยิกของตัวเองพลางขมวดคิ้วแน่น “เหตุใดต้องหยิกข้าด้วย!”

“กลับ เดี๋ยวค่อยมาหานายท่านใหม่” หลัวอี๋เหนียงจ้องหน้าพี่ชายผู้ไม่ได้ความของตัวเองเขม็ง จากนั้นสะบัดผ้าเช็ดหน้าเดินจากไปทันที

หลัวกุ้ยฟู่มองไปทางชุนเถาอีกรอบ เมื่อเห็นชุนเถาละสายตาจากร่างงามของหลัวอี๋เหนียงกลับมามองตนอีกรอบ เขาจึงแสยะยิ้มอย่างหื่นกระหายให้ชุนเถา ชุนเถารีบก้มหน้าลงทันที

ชุนเถารู้สึกตกใจมาก นางไม่รู้ว่าเหตุใดสตรีที่งดงามอย่างหลัวอี๋เหนียงถึงได้มีพี่ชายที่ดูหื่นกามและหยาบคายเช่นนี้

ดูเหมือนว่าความหยาบคายนั้นจะฝังลึกอยู่ในตัวของคนผู้นั้นจนทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกสะอิดสะเอียน

เมื่อชิวหวนเห็นกลุ่มของหลัวอี๋เหนียงเดินจากไปแล้ว นางจึงลูบอกของตัวเองอย่างโล่งใจพลางเดินออกมาจากด้านหลังของชุนเถา กลับไปยืนเคียงข้างชุนเถาตามเดิม เอ่ยกับชุนเถาเสียงแผ่วเบา “พี่ชุนเถาไม่รู้หรอกเจ้าค่ะว่าพี่ชายของหลัวอี๋เหนียงน่าหวาดกลัวเพียงใด ปีที่แล้วเขาถูกใจสาวใช้ข้างกายของหลัวอี๋เหนียง ต่อมาหลัวอี๋เหยียงจึงปล่อยตัวสาวใช้ผู้นั้นไป ข้าแอบสืบจนรู้ว่าพี่ชายของหลัวอี๋เหนียงทรมานสาวใช้ผู้นั้นจนตายเลยเจ้าค่ะ หลัวอี๋เหนียงปิดเรื่องนี้เป็นความลับ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้เจ้าค่ะ”

ชุนเถาเลิกคิ้วพลางหันไปมองชิวหวน “ดังนั้นเจ้าจึงไปแอบด้านหลังข้าอย่างนั้นหรือ”

เดิมทีชิวหวนคิดว่าชุนเถาเป็นคนซื่อบื้อจึงอยากเล่าความลับให้นางฟังเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ นึกไม่ถึงเลยว่าชุนเถาจะไม่รับน้ำใจของนาง อีกทั้งเปิดโปงความคิดของนางเช่นนี้

ชิวหวนหน้าแดงก่ำ รีบกล่าวขึ้น “พวกเราไม่เหมือนกันนี่เจ้าคะพี่ชุนเถา พี่ชุนเถาเป็นสาวใช้ใหญ่ข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว ไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องท่าน ทว่า พวกข้าไม่ใช่เจ้าค่ะ”

ชุนเถามองชิวหวนนิ่ง จากนั้นก้มหน้าลงไม่กล่าวสิ่งใดอีก ตั้งใจว่าหลังจากนี้จะอยู่ห่างจากชิวหวนให้มากที่สุด แม้ว่าสาวใช้ผู้นี้จะเป็นหลานสาวของหมัวมัวข้างกายต่งเหล่าไท่จวินก็ตาม

หลัวกุ้ยฟู่เดินตามน้องสาวและหลานชายไปได้ไม่ไกลก็ก้าวไปดึงชายเสื้อของน้องสาว เอ่ยถาม

“น้องหญิง สาวใช้ที่สวมชุดสีฟ้าอ่อน แต่งกายแตกต่างจากสาวใช้ตระกูลต่งเมื่อครู่คือสาวใช้ของผู้ใดกัน”

ต่งฉางเม่าได้ยินคำถามนี้ก็ไหวตัวทัน รีบเอ่ยขึ้น “อี๋เหนียง นั่นคือสาวใช้ข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว ท่านลุงจะหื่นกระหายอยากได้สาวใช้คนอื่นยังพอว่า ทว่า หากท่านลุงทำตัวเกินขอบเขตกับสาวใช้ข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว ถึงเวลานั้นหากท่านพ่อไล่อี๋เหนียงออกจากจวน อย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์แม่ลูก ไม่ข้อร้องแทนท่านนะขอรับ!”

กล่าวจบ ต่งฉางเม่าสะบัดชายเสื้อเดินจากไปทันที

เดิมทีต่งฉางเม่าก็ไม่เห็นด้วยที่หลัวอี๋เหนียงจะขอร้องให้ท่านพ่อให้ลุงของเขาไปฝึกทหารที่กองทัพเติงโจวอยู่แล้ว ต่อมาอี๋เหนียงเอ่ยปากขอร้องท่านพ่อ เขากลัวว่าอี๋เหนียงจะพาลุงของเขามาก่อเรื่องงามหน้าจนเขาอับอายขายหน้าคนในตระกูลต่งจึงตามมาควบคุมด้วย

เมื่อหลัวกุ้ยฟู่เห็นต่งฉางเม่าเดินจากไปไกลแล้วจึงหันไปบ่นกับหลัวอี๋เหนียงอุบอิบ “เจ้าดูสิ! ดูสิว่าเจ้าคลอดสิ่งใดออกมา! มันเห็นแม่แท้ๆ อย่างเจ้าอยู่ในสายตาหรือไม่ มันไม่เคารพข้าที่เป็นลุงแท้ๆ ของมันยังไม่เท่าใด แต่เหตุใดมันไม่สำนึกบ้างว่าคลอดออกมาจากท้องของผู้ใดกันแน่!”

หลัวอี๋เหนียงไม่ชอบให้ผู้อื่นต่อว่าต่งฉางเม่า นางฟาดไปที่แขนของพี่ชายอย่างโมโห “อย่ามาว่าฉางเม่าของข้านะ หากพี่ว่าฉางเม่าอีกแม้แต่คำเดียว ข้าจะไม่ยุ่งเรื่องของพี่อีก!”

“แหม น้องหญิง น้องสาวคนดี ข้าแค่โกรธแทนเจ้าเท่านั้นเอง!” หลัวกุ้ยฟู่รีบประจบหลัวอี๋เหนียง “น้องหญิง ข้าจะบอกให้เจ้าฟัง ดูเหมือนว่าสาวใช้ข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋วผู้นั้นจะถูกใจพี่ของเจ้านะ!”

หลัวอี๋เหนียงมองสำรวจพี่ชายของตัวเองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า นางไม่ได้สังเกตว่าสาวใช้ผู้นั้นหน้าตาเป็นเช่นไร ทว่า สาวใช้ผู้นั้นเป็นถึงคนข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว จะมาชื่นชอบพี่ชายของตนได้อย่างไรกัน

“พี่ฝันกลางวันอยู่หรืออย่างไร นางถูกใจท่านอย่างนั้นหรือ!” หลัวอี๋เหนียงสะบัดผ้าเช็ดหน้าพลางแสยะยิ้มเย็น

“เหตุใดจะถูกใจข้ามิได้ อย่างน้อยข้าก็เป็นถึงน้องเขยของใต้เท้าต่ง นางเป็นเพียงสาวใช้ข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋วเท่านั้นเอง!” เมื่อหลัวกุ้ยฟู่นึกถึงใบหน้าเล็กงดงามของชุนเถา เขาก็รู้สึกคันยิบในใจ เอ่ยกับหลัวอี๋เหนียงเสียงแผ่วเบา “เจ้าลองคุยกับใต้เท้าต่ง ขอให้เขายกนางให้เป็นอนุของข้าดีหรือไม่ เช่นนี้ เจ้าจะถือว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับองค์หญิงเจิ้นกั๋ว นั่นคือองค์หญิงเจิ้นกั๋วเชียวนะ!”

“พี่เป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร!” หลัวอี๋เหนียงจ้องพี่ชายของตัวเองเขม็ง แสยะยิ้มเย็น ก้าวเดินต่อไปด้านหน้า “นางเป็นสาวใช้ข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว นายท่านของข้าจะตัดสินใจเรื่องนี้ได้อย่างไร พี่ฝันหวานอยู่หรือ ยังมีหน้าขอนางมาเป็นอนุอีก ไม่ดูสารรูปของตัวเองเลย!”

หลัวกุ้ยฟู่รีบเดินตามหลังหลัวอี๋เหนียงไปพลางกล่าวขึ้น “เจ้ากล่าวเช่นนี้ก็ไม่ถูก! หากไม่เป็นอนุ เป็นเมียเอกก็ได้ ใต้เท้าต่งเป็นน้าชายแท้ๆ ขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว น้าชายแท้ๆ ช่วยเป็นพ่อสื่อให้สาวใช้ข้างกายของตัวเอง องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่มีทางหักหน้าน้าชายตัวเองเพียงเพราะสาวใช้คนเดียวหรอก เจ้าว่าถูกหรือไม่”

เมื่อเห็นหลัวอี๋เหนียงเดินไปด้านหน้าต่ออย่างไม่สนใจ หลัวกุ้ยฟู่กล่าวเสริม “เจ้าลองคิดดูนะ บัดนี้ที่ฐานะของเจ้าในตระกูลต่งไม่มั่นคงเป็นเพราะเจ้าไม่มีตระกูลฝั่งมารดาคอยหนุนหลัง หากข้ากลายเป็นสามีของสาวใช้ข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว ติดตามนางกลับไปยังซั่วหยาง อนาคตไม่กว้างไกลกว่าอยู่ในกองทัพหรอกหรือ วันหน้าข้าเป่าหูให้สาวใช้ผู้นั้นกล่าวชมเชยเจ้าต่อหน้าองค์หญิงเจิ้นกั๋ว องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะไม่กล่าวถึงเจ้ายามส่งจดหมายกลับมาเติงโจวหรือ หากนางกล่าวถึงเจ้า ฐานะของเจ้าจะสูงส่งขึ้นที”

หลัวอี๋เหนียงชะงักฝีเท้า นางรู้มาโดยตลอดว่าต่งเหล่าไท่จวินรักต่งหวั่นจวินผู้เป็นมารดาขององค์หญิงเจิ้นกั๋วมาก ต่งเหล่าไท่จวินจึงรักและเอ็นดูหลานสาวอย่างองค์หญิงเจิ้นกั๋วไป๋ชิงเหยียนมากเช่นกัน

ต่งเหล่าไท่จวินเป็นผู้ปกครองเรือนหลัง หากต่งเหล่าไท่จวินออกหน้าแทนนาง นางคงอยู่ในตระกูลต่งอย่างสุขสบายกว่าเดิม

เมื่อเห็นว่าหลัวอี๋เหนียงเริ่มหวั่นไหว หลัวกุ้ยฟู่รีบกล่าวเสริม “ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าเอาเงินไปกลบให้พี่เกือบหมดแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าลองคิดดูนะ หากพี่ได้แต่งงานกับสาวใช้ข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว วันหน้าหากองค์หญิงเจิ้นกั๋วตบรางวัลให้นาง ของเหล่านั้นล้วนตกเป็นของพี่ ถึงเวลานั้นพี่จะแบ่งให้เจ้าเป็นค่าตอบแทนที่เจ้าเคยช่วยเหลือพี่ เจ้าจะได้เชิดหน้าชูตาในตระกูลต่งได้”

หลัวอี๋เหนียงขมวดคิ้วแน่น สะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือ หันกลับไปมองพี่ชายของตัวเองที่วันนี้แต่งตัวเป็นผู้เป็นคนกว่าทุกวันด้วยสายตาจริงจัง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *