สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 569 กว้างไกล

Now you are reading สตรีแกร่งตระกูลไป๋ Chapter 569 กว้างไกล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 569 กว้างไกล

ไม่รู้เพราะเหตุใดเมื่อเห็นฟางเหล่าเงียบอึ้งเช่นนี้ ฉินซ่างจื้อจึงรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาเลิกคิ้วยกน้ำชาขึ้นจิบอย่างมีความสุข

องค์รัชทายาทก็ดูอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย เขากล่าวกับฟางเหล่าและฉินซ่างจื้อยิ้มๆ “เอาล่ะ เรารู้ว่าฟางเหล่าหวังดีต่อเรา ฟางเหล่าและฉินเซียนเซิงลำบากมาตลอดทางแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนกันเถิด!”

กล่าวจบ องค์รัชทายาทมองไปทางไป๋ชิงเหยียน “เจ้าเร่งเดินทางมาหาเราเช่นนี้คงหิวมากแล้ว เรามัวแต่สับสน บัดนี้ก็หิวมากเช่นกัน เมื่อครู่เราให้เฉวียนอวี๋สั่งให้โรงครัวเตรียมอาหารแล้ว เราทานอาหารกันก่อนเถิด!”

เมื่อเห็นว่าองค์รัชทายาทที่ใบหน้าเคร่งเครียด ซูบผอม เสวยสิ่งใดไม่ค่อยลงตลอดการเดินทาง บัดนี้มีใบหน้าแจ่มใส เอ่ยปากอยากรับประทานอาหารด้วยตัวเอง ฟางเหล่ารู้สึกขัดใจยิ่งนัก

เมื่อเห็นฉินซ่างจื้อลุกขึ้นยืน ฟางเหล่าจึงลุกขึ้นยืนตามและเดินออกไปจากห้องพร้อมกับฉินซ่างจื้ออย่างไม่ค่อยเต็มใจ

เมื่อออกมาจากห้อง ฟางเหล่าก้มหน้ามองรองเท้าหนังคู่เก่าของตัวเอง จากนั้นสะบัดชายชุด ย่ำเท้าเดินลงจากบันไดไปอย่างหงุดหงิด

เฉวียนอวี๋พาบรรดานางกำนัลเดินถือถาดอาหารเข้าไปด้านในอย่างเป็นระเบียบ เมื่อวางจานลงบนโต๊ะเรียบร้อย องค์รัชทายาททานไปได้สองสามคำก็หันไปดื่มเหล้าอย่างอารมณ์ดีที่ปัญหาซึ่งรบกวนใจมาหลายวันได้รับการแก้ไขแล้ว

เมื่อเริ่มเมาเล็กน้อย องค์รัชทายาทหันไปกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “เราเคยคิดว่าขอเพียงได้นั่งอยู่บนตำแหน่งนั้น ทุกอย่างก็คงจะดีขึ้นเอง ทว่า เมื่อเราได้นั่งบนตำแหน่งนั้นแล้ว เรากลับรู้สึกว่ามันร้อนดั่งไฟ รอบด้านเต็มไปด้วยศัตรู เราไม่อยากหลอกเจ้า บางครั้งเรารู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ !”

“องค์รัชทายาทจะตัดพ้อเช่นนี้ไม่ได้นะเพคะ ข้างกายขององค์รัชทายาทมีคนมากความสามารถอย่างฟางเหล่า ฉินเซียนเซิงและเริ่นเซียนเซิงอยู่ มีเรื่องอันใดก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการ องค์รัชทายาทไม่จำเป็นต้องออกโรงเองหรอกเพคะ” ไป๋ชิงเหยียนวางตะเกียบในมือลง กล่าวอย่างนอบน้อม

องค์รัชทายาทโบกมือให้เฉวียนอวี๋รินเหล้าให้อีก “พวกฟางเหล่าไม่อาจคิดแทนเราได้ทุกเรื่อง อย่างเช่นครั้งนี้ พวกเขาสามคนไม่มีผู้ใดคิดได้เลย โชคดีที่คำกล่าวของเจ้าทำให้เราคิดได้ มิเช่นนั้นเราคงทานอาหารไม่ลงแน่”

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น หญิงสาวไม่แน่ใจในตัวเริ่นซื่อเจี๋ย ทว่า ฉินซ่างจื้อคือคนมีความสามารถอย่างแท้จริง นางไม่เชื่อว่าคนมากความสามารถอย่างฉินซ่างจื้อจะมองไม่ออก

ฉินซ่างจื้อแค่โดนฟางเหล่ากดไว้เท่านั้น แรกเริ่มเขาเต็มใจทำเพื่อองค์รัชทายาทอย่างเต็มที่ ทว่า องค์รัชทายาทเอาแต่เชื่อคำกล่าวของฟางเหล่า ต่อมาฉินซ่างจื้อจึงไม่อยากเสนอความเห็นใดอีก ได้แต่นั่งฟังนิ่งๆ ปล่อยให้ฟางเหล่าออกความเห็นอยู่คนเดียว

ท้องฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล ทว่า ไม่มีพื้นที่ให้แสดงความสามารถ นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ฉินซ่างจื้ออยู่อย่างหดหู่ใจจนเสียชีวิตในชาติที่แล้ว

เฉวียนอวี๋ถือไหเหล้าคุกเข่าอยู่ข้างกายขององค์รัชทายาท กล่าวเตือนเสียงเบา “องค์ชาย พระองค์ไม่ได้เสวยสิ่งใดจริงจังตลอดการเดินทาง องค์ชายควรถนอมพระวรกาย ดื่มเหล้าน้อยลงสักนิดพ่ะย่ะค่ะ!”

“องค์ชาย ทรงดื่มน้อยลงหน่อยเถิดเพคะ พรุ่งนี้ยังต้องเดินทางต่ออีกครึ่งวัน อาจรู้สึกไม่สบายได้ วันนี้ควรพักผ่อนให้เต็มที่เพคะ” ไป๋ชิงเหยียนโน้มน้าวอีกแรง

องค์รัชทายาทจึงพยักหน้ายิ้มๆ “ในเมื่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วกล่าวเช่นนี้ เราไม่ดื่มแล้วก็ได้ ข้างกายเรามีฟางเหล่า ฉินเซียนเซิง เริ่นเซียนเซิงและผู้ที่คอยเป็นห่วงเราทุกอย่างอย่างเจ้าอยู่ เรารู้สึกโชคดีมากจริงๆ เรารู้ดีว่าในแคว้นต้าจิ้นฐานะของสตรีไม่ได้สูงส่งเท่าแคว้นซีเหลียงหรือหรงตี๋ ทว่า ในใจของเรา องค์หญิงเจิ้นกั๋วแข็งแกร่งกว่าบุรุษเหล่านั้นไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า หากไม่ใช่เพราะร่างกายของเจ้าไม่แข็งแรง เราไม่อยากให้เจ้าเหนื่อย เราต้องเก็บเจ้าไว้ใช้งานข้างกายแน่ มีเจ้าอยู่ เราถึงจะรู้สึกสบายใจ”

“เหยียนได้รับความไว้วางพระทัยจากองค์รัชทายาท ถือเป็นเกียรติของเหยียนเพคะ” ไป๋ชิงเหยียนเห็นดวงตาขององค์รัชทายาทเริ่มเลื่อนลอยจึงหันไปสั่งเฉวียนอวี๋ “เฉวียนอวี๋ พาองค์รัชทายาทไปพักผ่อนเถิด”

เฉวียนอวี๋รับคำแล้วกวักมือเรียกขันทีสองสามคนเข้ามา

เมื่อเห็นขันทีแบกองค์รัชทายาทขึ้นบ่า ไป๋ชิงเหยียนจึงลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกัน

องค์รัชทายาทตะโกนเสียงดังลั่น “มิเป็นอันใด เราไม่ได้เมา เรามีเรื่องอยากสนทนากับองค์หญิงเจิ้นกั๋วต่อ”

“น้อมส่งองค์รัชทายาทเพคะ” ไป๋ชิงเหยียนโค้งกายคำนับ

เฉวียนอวี๋ทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “องค์หญิงเจิ้นกั๋วโปรดรอสักครู่นะพ่ะย่ะค่ะ เฉวียนอวี๋จะสั่งให้คนมาพาองค์หญิงไปยังที่พักพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าไม่รีบ ดูแลองค์รัชทายาทให้ดีเถิด!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

องค์รัชทายาทถูกเฉวียนอวี๋และขันทีอีกสองสามคนพาไปยังห้องนอน ขันทีวางองค์รัชทายาทลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง บรรดานางกำนัลเดินถือกะละมังใส่น้ำและผ้าขนหนูเข้ามาด้านใน เฉวียนอวี๋โบกมือไล่พวกนางออกไป จากนั้นหยิบผ้าขนหนูไปชุบน้ำมาเช็ดตัวให้องค์รัชทายาทด้วยตัวเอง เฉวียนอวี๋ใช้ไม้เขี่ยถ่านในตะเกียง จากนั้นครอบฝากระจกปิดตามเดิม

เมื่อขันทีและนางกำนัลออกไปจากห้องหมดแล้ว องค์รัชทายาทจึงหยัดกายขึ้น

เฉวียนอวี๋เอ่ยเรียกองค์รัชทายาท จากนั้นหันไปรินน้ำให้

องค์รัชทายาทไม่ได้เมา เมื่อครู่เขาแค่แสร้งทำเป็นเมาเพื่อบอกไป๋ชิงเหยียนรับรู้ว่าเขาเชื่อใจนางจริงๆ เท่านั้น

“องค์ชาย ทรงดื่มชาสักหน่อยพ่ะย่ะค่ะ” เฉวียนอวี๋ส่งถ้วยชาอุ่นๆ ให้องค์รัชทายาท จากนั้นคุกเข่าลงบนเตียงเพื่อนวดบ่าให้องค์รัชทายาทอย่างระมัดระวัง “เหตุใดองค์ชายต้องแสร้งเมาตบตาองค์หญิงเจิ้นกั๋วด้วยพ่ะย่ะค่ะ หากองค์ชายทรงต้องการพักผ่อน ตรัสกับนางตรงๆ ก็สิ้นเรื่องไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะไม่ปล่อยให้องค์ชายมาพักผ่อนอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทหัวเราะออกมาเบาๆ จิบชาอึกหนึ่ง “เราไม่ได้กลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะไม่ปล่อยให้เรามาพักผ่อน เราแค่อยากให้ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าเราเชื่อใจนางเท่านั้น นางอยู่ไกลถึงซั่วหยาง ไม่มีโอกาสพบหน้าเราบ่อยนัก เราแค่อยากให้นางสบายใจ”

ที่สำคัญตระกูลฝั่งมารดาของไป๋ชิงเหยียนคือตระกูลต่ง!

หากคิดว่าเหลียงอ๋องมีใจคิดแย่งชิงบัลลังก์จริงๆ ตอนที่เหลียงอ๋องต้องการแต่งงานกับบุตรสาวคนโตของต้าหลี่ซื่อชิงต่งชิงผิง เขาก็คงอยากเกี่ยวดองกับผู้ตรวจการเมืองเติงโจวต่งชิงเยว่ซึ่งมีกองทัพเติงโจวอยู่ในมือแน่นอน

บัดนี้หลิ่วรั่วฟูกำลังตั้งครรภ์ เดือนหน้านางจะแต่งงานกับเหลียงอ๋อง เสียนอ๋องย่อมต้องสนับสนุนบุตรเขยของตัวเองขึ้นเป็นองค์รัชทายาท เช่นนี้หลานชายของเขาถึงจะมีโอกาสกลายเป็นจักรพรรดิ กองกำลังทหารในมือของเสียนอ๋องจะกลายเป็นของเหลียงอ๋องด้วยเช่นกัน เขาคงรับมือกับเหลียงอ๋องได้ยากมากขึ้น

เสด็จพ่อทำเพียงปลอบโยนว่าเขาเป็นองค์รัชทายาทแล้ว ไม่มีผู้ใดสูงส่งไปกว่าเขาอีก ทว่า หากโอรสในครรภ์ของฮองเฮาซึ่งถูกทำนายว่าเป็นกวางศักดิ์สิทธิ์คลอดออกมาเล่า โอรสองค์นั้นจะไม่สูงส่งไปกว่าเขาอย่างนั้นหรือ

ไป๋ชิงเหยียนจงรักภักดีต่อเขา คนของเขาเป็นคนคุมกองทัพไป๋ แม่ทัพตระกูลไป๋มีหน้าที่ฝึกซ้อมทหารกองทัพไป๋เท่านั้น ทว่า หากเขาทำให้ไป๋ชิงเหยียนซึ่งต่งชิงเยว่รักประหนึ่งบุตรสาวเกลี้ยกล่อมจนต่งชิงเยว่ยอมสวามิภักดิ์กับเขาได้เล่า ในมือของเขาจะมีกองทัพเติงโจวเพิ่มมาอีกกองทัพหนึ่ง เช่นนี้เขาจะได้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

ส่วนเด็กในท้องของฮองเฮา เขาคิดได้แล้ว เขาจะทำตามที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าว ไม่ลงมือทำสิ่งใดทั้งสิ้น เพียงแค่ระวังเหลียงอ๋องลงมือแล้วใส่ร้ายเขาหรือไม่ก็บีบให้เหลียงอ๋องลงมือให้ได้

คงเป็นเพราะฮองเฮาตั้งครรภ์ทำให้องค์รัชทายาทรู้สึกไม่ปลอดภัยนัก สมองของชายหนุ่มเริ่มประมวลผลพิจารณาคนรอบกายของตนเองอย่างละเอียด แม้การกระทำของฟางเหล่าจะตรงกับความต้องการขององค์รัชทายาท อีกทั้งซื่อสัตย์ต่อเขาที่สุด…

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *