สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 592 เรื่องสำคัญ

Now you are reading สตรีแกร่งตระกูลไป๋ Chapter 592 เรื่องสำคัญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 592 เรื่องสำคัญ

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ากำหมัดแน่นอย่างใช้ความคิด หลูผิงคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น กล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ ข้าอยากพาคนไปช่วยคุณชายที่หนานหรงขอรับ!”

“คราวที่แล้วเจ้าไปปรากฏตัวที่หนานหรงในฐานะพ่อค้า ครั้งนี้เจ้าจะไปช่วยเขาในฐานะใดกัน” น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยความไม่เห็นด้วย

ไป๋ชิงเหยียนคิดหาวิธีไม่ออก หญิงสาวต้องหาข้ออ้างไปพบรัชทายาทเพื่อสืบเรื่องราวอย่างละเอียดเสียก่อน

“เจ้ากลับไปก่อน อย่าเพิ่งลงมือทำสิ่งใดทั้งสิ้น รอให้ข้ากลับมาจากวังหลวงเสียก่อน” ไป๋ชิงเหยียนสั่งหลูผิง

“ข้าไปส่งคุณหนูใหญ่เข้าวังเองขอรับ” หลูผิงยืนกราน

“ไปเตรียมม้า!”

“ขอรับ!” หลูผิงรับคำ จากนั้นเดินจากไปอย่างรวดเร็วจนเกือบจะชนกับชุนเถาที่เพิ่งกลับเข้ามาด้านในหลังจากออกไปส่งหมอหง

ชุนเถาเห็นหลูผิงจากไปอย่างรีบร้อนจึงแหวกม่านเข้าไปด้านใน “เหตุใดองครักษ์หลูถึงรีบร้อนเช่นนั้นเจ้าคะ”

“ชุนเถาช่วยเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้ข้าที ข้าจะออกไปด้านนอก” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

เมื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จ ไป๋ชิงเหยียนเดินออกไปด้านนอกพลางกล่าวกับชุนเถา “เดี๋ยวเจ้าไปบอกท่านย่า ท่านอาสะใภ้รองและจิ่นซิ่วว่าข้าจะเข้าไปในวังสักพัก ไม่ต้องรอข้าทานอาหาร”

ชุนเถาวิ่งตามหลังไป๋ชิงเหยียนไปติดๆ ขานรับคำ ออกไปส่งไป๋ชิงเหยียนที่หน้าจวน เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนขึ้นไปบนหลังม้าเสร็จเรียบร้อย ชุนเถาจึงกลับเข้าไปรายงานองค์หญิงใหญ่และฮูหยินสองหลิวซื่อ

วังหลวง

รัชทายาทนอนเอนกายบนเตียงให้หมอหลวงหงตรวจชีพจรอยู่ในตำหนักของฮ่องเต้

เฉวียนอวี๋คุกเข่าอยู่ข้างกายรัชทายาท นำผ้าชุบน้ำแข็งวางบนศีรษะของชายหนุ่ม กล่าวกับหมอหลวงหวงเสียงเบาหวิว “องค์ชายทรงเป็นกังวลตลอดทาง เสวยไม่ค่อยได้ บรรทมไม่ค่อยหลับ เมื่อเช้าตอนถึงเมืองหลวง ไข้ขึ้นสูงทันที จากนั้นยังฝืนพระวรกายเข้ามาในวังอีกขอรับ”

หมอหลวงหวงชักมือที่ตรวจชีพจรกลับ กล่าวขึ้น “องค์รัชทายาททรงเป็นกังวลมากเกินไป เมื่อผ่อนคลายลงจึงไข้ขึ้นสูงเช่นนี้! มิเป็นอันใดร้ายแรง กระหม่อมจัดยาแก้ร้อนในให้องค์ชาย องค์ชายทรงเสวยไม่นาน อาการก็จะดีขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”

หมอหลวงหวงเก็บกล่องยาของตัวเองพลางกล่าวขึ้น

“ครั้งนี้พระอาการของฝ่าบาทหนักมาก โชคดีที่หมอหงศิษย์พี่ของกระหม่อมอยู่ในเมืองหลวง อีกทั้งได้แม่นางหลูช่วยฝังเข็ม ฝ่าบาทจึงทรงพ้นขีดอันตรายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

รัชทายาทพยักหน้า “ลำบากหมอหลวงหวงแล้ว!”

“เป็นหน้าที่ของกระหม่อม กระหม่อมมิกล้ารับคำขอบคุณขององค์ชายพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหวงรีบลุกขึ้นทำความเคารพรัชทายาท

เกาเต๋อเม่ายืนฟังอยู่ด้านข้างสักพักใหญ่ เมื่อเห็นโอกาสจึงกล่าวแทรกขึ้น

“องค์ชายทรงประชวรเช่นนี้ เสด็จกลับไปพักผ่อนที่จวนก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ มิเช่นนั้นองค์ชายอาจล้มลงก่อนที่ฝ่าบาทจะฟื้นขึ้นมา ฝ่าบาทจะทรงเป็นกังวลได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

“เรา…เป็นห่วงเสด็จพ่อ” รัชทายาทจัดแขนเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อย มองไปยังเตียงด้านในที่มีม่านสีเหลืองกั้นอยู่ด้วยแววตาเป็นกังวล

“ความกตัญญูขององค์ชายช่างน่าซาบซึ้งยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาททรงฟื้นขึ้นมาแล้วทราบว่าองค์ชายทรงกตัญญูต่อพระองค์เพียงนี้ ฝ่าบาทต้องทรงดีพระทัยมากแน่พ่ะย่ะค่ะ ทว่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือองค์ชายควรเสด็จกลับไปพักผ่อนให้หายดี จากนั้นรับช่วงต่องานบ้านเมืองจากเหลียงอ๋อง ช่วยฝ่าบาทปกครองดูแลบ้านเมืองพ่ะย่ะค่ะ” เกาเต๋อเม่าเอ่ยกับรัชทายาทเสียงเบาหวิว

เกาเต๋อเม่าคือลูกน้องคนสนิทของฮ่องเต้ เขาย่อมรู้ดีว่าฮ่องเต้ยังไม่คิดเปลี่ยนตำแหน่งรัชทายาท ในเมื่อเป็นเช่นนี้เกาเต่อเม่าจึงคิดประจบรัชทายาท หากวันหน้ารัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์ ย่อมนึกถึงความดีของเขา ให้เขาได้ใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายอย่างสุขสบาย

แววตาของรัชทายาทเป็นประกาย มองไปทางเกาเต๋อเม่า ทว่า เกาเต๋อเม่ายงคงยืนก้มหน้าอย่างนอบน้อมตามเดิม

จริงสิ เขามัวแต่คิดว่าต้องมาแสดงความกตัญญูต่อหน้าเสด็จพ่อ จนลืมยึดอำนาจดูแลบ้านเมืองคืนจากเหลียงอ๋อง

รัชทายาทได้สติขึ้นมาทันที เขารีบลุกขึ้นยืน ทำความเคารพเกาเต๋อเม่าอย่างนอบน้อมที่สุด “เกากงกงกล่าวถูกต้องแล้ว เราฝากเกากงกงดูแลเสด็จพ่อด้วย หากเสด็จพ่อทรงฟื้นขึ้นมาเมื่อใด รบกวนเกากงกงส่งคนไปรายงานให้เราทราบด้วย”

“องค์ชายทรงวางพระทัยได้พ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาททรงฟื้นขึ้นมา ต้องทรงอยากพบองค์ชายเป็นคนแรกแน่พ่ะย่ะค่ะ” เกาเต๋อเม่ากล่าวยิ้มๆ

รัชทายาทก้มศีรษะคำนับฮ่องเต้ จากนั้นเดินออกมาจากตำหนัก ส่งให้เฉวียนอวี๋สั่งคนไปที่จวนเหลียงอ๋อง บอกให้เหลียงอ๋องนำฎีกาทั้งหมดมาส่งที่จวนรัชทายาท

เฉวียนอวี๋รับคำ สั่งให้คนไปยังจวนเหลียงอ๋อง

รถม้าของรัชทายาทเคลื่อนออกมาจากประตูอู่เต๋อ บังเอิญพบกับไป๋ชิงเหยียนที่ขี่ม้ามาพอดี

เฉวียนอวี๋ที่นั่งอยู่ด้านนอกรถม้าหันไปรายงานรัชทายาทในรถม้า “องค์ชาย องค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ”

“รีบหยุดม้า!” รัชทายาทกล่าว

เฉวียนอวี๋ลงมาจากรถม้าทันทีที่รถม้าจอดสนิท เปิดประตูรถม้าออก จากนั้นหันไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนที่หยุดม้าลงแล้วยิ้มๆ “คาราวะองค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะเข้าไปในวังอย่างนั้นหรือ” รัชทายาทซึ่งนั่งอยู่ในรถม้าเอ่ยถามไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ

ไป๋ชิงเหยียนลงมาจากหลังม้า ย่อกายทำความเคารพรัชทายาท จากนั้นกล่าวเสียงจริงจัง “เหยียนมีเรื่องสำคัญขอเข้าพบองค์ชายเพคะ!”

เมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของไป๋ชิงเหยียน ใจของรัชทายาทกระตุกวูบ พยักหน้า “กลับไปคุยที่จวนรัชทายาทเถิด”

ระหว่างทาง ไป๋ชิงเหยียนวางแผนไว้ดีแล้ว ในเมื่อฮองเฮาไม่อยากอยู่อย่างสงบ เช่นนั้นก็ทำให้เมืองหลวงเกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นเสีย นางจะรายงานรัชทายาทเรื่องอายุครรภ์ของฮองเฮา

ซิ่นอ๋องกลับมายังเมืองหลวงได้ก็เพราะเด็กในครรภ์ของฮองเฮา ที่สำคัญเด็กในครรภ์ของฮองเฮาถูกราชครูเทพทำนายว่าคือกวางศักดิ์สิทธิ์กลับชาติมาเกิด ผู้ที่เครียดกับเรื่องนี้มากที่สุดคือรัชทายาท

ข้างกายของรัชทายาทมีฟางเหล่าอยู่ หากเขารู้ว่าเด็กในครรภ์ของฮองเฮาไม่ใช่โอรสของฮ่องเต้ เขาไม่มีทางปล่อยให้ฮองเฮาได้อยู่อย่างสงบแน่

ไป๋ชิงเหยียนจะรายงานเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้รัชทายาทรับรู้ จากนั้นค่อยสอบถามเรื่องสถานการณ์รบอย่างเนียนๆ

รัชทายาทกระวนกระวายใจตลอดทาง เมื่อไป๋ชิงเหยียนเดินเข้าไปในห้องหนังสือของจวนรัชทายาท ได้ยินรัชทายาทสั่งให้เฉวียนอวี๋ไปตามฟางเหล่ามา ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวขึ้น “องค์ชาย เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของราชวงศ์ เหยียนทูลให้องค์ชายทรงทราบก่อนดีกว่าเพคะ”

รัชทายาทพยักหน้า นั่งลงด้านหลังโต๊ะหนังสือ กล่าวกับเฉวียนอวี๋ “เฉวียนอวี๋ เจ้าไปเฝ้าด้านนอกไว้ อย่าให้ผู้ใดเข้าใกล้เป็นอันขาด!”

“พะย่ะค่ะ!” เฉวียนอวี๋พาบรรดานางกำนัลออกไปจากห้องหนังสือ ทว่า คำนึงได้ว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน เฉวียนอวี๋จึงไม่ได้ปิดประตูห้อง

“องค์ชายเคยตรัสกับเหยียนว่าเคยเห็นนางกำนัลข้างกายของฮองเฮาส่งแม่ทัพฝูออกมาจากวังหลวง เป็นเรื่องจริงหรือไม่เพคะ” ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงด้านข้าง แววตาวาวโรจน์

จุดประสงค์ของไป๋ชิงเหยียนคือต้องเปิดเผยเรื่องที่เด็กในครรภ์ของฮองเฮาไม่ใช่โอรสของฮ่องเต้ให้รัชทายาทได้รับรู้โดยไม่ลากหลูหนิงฮว่าและตระกูลไป๋เข้ามาเกี่ยวข้อง

รัชทายาทพยักหน้า “ใช่แล้ว บันทึกการเข้าออกวังหลวงในวันนั้นยังอยู่ที่เราอยู่เลย”

“ฝ่าบาททรงพลัดตกจากหลังม้า สลบไม่ได้สติ ต่อมาแม่ทัพฝูรั่วซีแห่งค่ายผิงอันคิดสังหารองค์ชายต่อหน้าผู้คนมากมายราวกับคนเสียสติ ไม่สนใจความปลอดภัยของตระกูลฝูซึ่งอยู่ในเมืองหลวง องค์ชายไม่คิดสงสัยอันใดบ้างหรือเพคะ” แววตาของไป๋ชิงเหยียนจริงจัง “องค์ชายทรงคิดดูนะเพคะ ตั้งแต่ที่ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์ เรียกซิ่นอ๋องกลับมาเมืองหลวง กวาดศักดิ์สิทธิ์โดนวางยาพิษจนเสียชีวิต ราชครูเทพทำนายว่าเด็กในครรภ์ของฮองเฮาคือกวางศักดิ์สิทธิ์กลับชาติมาเกิด หากเชื่อมเรื่องเหล่านี้เข้าด้วยกัน จะไม่มีผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จริงๆ หรือเพคะ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *