สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 899 ทำให้เต็มที่ที่สุด

Now you are reading สตรีแกร่งตระกูลไป๋ Chapter 899 ทำให้เต็มที่ที่สุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 899 ทำให้เต็มที่ที่สุด

“ที่ข้าเชิญฉินเซียนเซิงออกมาพบในสถานการณ์เช่นนี้เป็นเพราะคำสัญญาที่พวกเราเคยให้ไว้แก่กัน ฉินเซียนเซิงคือวิญญูชน ท่านเคยทำสัญญากับไป๋ชิงเหยียนว่าหากวันหนึ่งไป๋ชิงเหยียนสามารถแบกธงเฮยฟานไป๋หมั่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้อีกครั้ง หากข้าสามารถยืนในจุดสูงในราชสำนักในฐานะสตรีคนหนึ่งได้ ท่านจะช่วยเหลือข้า ดังนั้นไป๋ชิงเหยียนจึงมาที่นี่ในวันนี้ หวังว่าฉินเซียนเซิงจะไม่ทอดทิ้ง จะช่วยดูแลชาวบ้านทั่วใต้หล้าเคียงบ่าเคียงไหล่ไปพร้อมกับข้า”

ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนให้ความสำคัญกับสัญญา หญิงสาวเคยทำสัญญาเช่นนี้กับฉินซ่างจื้อ ดังนั้นแม้วันนี้ไป๋ชิงเหยียนจะรู้ว่าด้วยนิสัยของฉินซ่างจื้อ เขาไม่มีทางทรยศองค์รัชทายาท ทว่า ไป๋ชิงเหยียนก็อยากนัดเขาออกมาพบอีกสักครั้ง

ฉินซ่างจื้อมองสบตาดวงตาคมชัดและและจริงใจของไป๋ชิงเหยียน เขาหวนนึกถึงภาพเหตุการณ์ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนในชุดไว้ทุกข์กล่าวถ้อยคำเหล่านี้กับเขาตอนอยู่นอกเมืองหลวง

ตอนนั้นตระกูลไป๋เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ บุรุษตระกูลไป๋เสียชีวิตลงทั้งหมด ทว่า หญิงสาวยังคงยึดมั่นในปณิธานของตระกูลไป๋ สิ่งนั้นทำให้ฉินซ่างจื้อรู้สึกเลือดร้อนมาก เขาจึงทำสัญญากับไป๋ชิงเหยียนไว้ นึกไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายแล้วหญิงสาวจะทำได้ดั่งที่นางกล่าวไว้จริงๆ…

บัดนี้ไป๋ชิงเหยียนไม่เพียงมีที่ยืนในราชสำนักเท่านั้น หญิงสาวยังกลายเป็นจักรพรรดินีอีกด้วย

“ฉินซ่างจื้อทำผิดต่อองค์หญิงเจิ้นกั๋ว กระหม่อมคงต้องผิดคำสัญญาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฉินซ่างจื้อยิ้มออกมาน้อยๆ แววตาที่มองไปทางไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อย เขาโค้งกายคำนับหญิงสาว จากนั้นค่อยๆ คุกเข่าลงบนพื้น ก้มศีรษะคำนับแนบพื้นแล้วกล่าวขึ้น “ในเมื่อฉินซ่างจื้อเลือกองค์รัชทายาทเป็นเจ้านายแล้ว แม้หนทางนี้จะเต็มไปด้วยขวากหนามและดินโคลน แม้จะเป็นหนทางแห่งความตาย กระหม่อมก็ต้องเดินต่อไปพ่ะย่ะค่ะ การเปลี่ยนเจ้านายระหว่างทางคือการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมในใจกระหม่อม ฉินซ่างจื้อทำได้เพียงขออภัยองค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ!”

แม้ผลลัพธ์เช่นนี้จะเป็นสิ่งที่ไป๋ชิงเหยียนคาดการณ์ไว้แล้ว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนก็อดรู้สึกเสียดายไม่ได้ หากได้คนมีความสามารถอย่างฉินซ่างจื้อมาช่วยปกครองแคว้นต้าโจว เขาคงช่วยเหลือชาวบ้านได้ ช่วยเหลือแคว้นได้มากมาย “เหตุใดฉินเซียนเซิงต้องลำบากติดตามองค์รัชทายาทต่อไปด้วย ท่านทราบดีกว่าผู้ใดว่าองค์รัชทายาทเป็นคนเช่นไร หากองค์รัชทายาทได้ขึ้นครองบัลลังก์ เขาไม่มีทางเป็นจักรพรรดิที่ดีได้ บัดนี้องค์รัชทายาทกำลังเกณฑ์เด็กหนึ่งพันคนไปปรุงยาวิเศษให้จักรพรรดิต้าจิ้น เหตุใดท่านยังต้องรับใช้องค์รัชทายาทที่เกรงกลัวจักรพรรดิจนไม่แยกแยะถูกผิดเช่นนี้ด้วย…”

“กระหม่อมทราบดีว่าองค์รัชทายาทอาจไม่ใช่จักรพรรดิที่ดี ทว่า ในเมื่อกระหม่อมเลือกพระองค์เป็นเจ้านายแล้ว แม้จะมีโอกาสเพียงน้อยนิดในการประคับประคองให้องค์รัชทายาทกลายเป็นจักรพรรดิที่ดี กระหม่อมก็อยากลองพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินซ่างจื้อหยิบมีดสั้นที่ไป๋ชิงเหยียนเคยมอบให้เขาออกมาจากอก จากนั้นใช้สองมือประคองมีดสั้นขึ้นเหนือศีรษะสื่อว่าต้องการคืนมีดสั้นเล่มนี้ให้ไป๋ชิงเหยียน “คำสัญญาที่เคยให้ไว้กับองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ชาติหน้ากระหม่อมจะชดใช้ให้พ่ะย่ะค่ะ…”

“ไป๋ชิงเหยียนมอบมีดสั้นเล่มนี้ไว้ให้ฉินเซียนเซิงป้องกันตัว ท่านเก็บไว้ต่อเถิด หากฉินเซียนเซิงเกิดเปลี่ยนใจเมื่อใด ประตูแคว้นต้าโจวยินดีเปิดต้อนรับฉินเซียนเซิงเสมอ…” ไป๋ชิงเหยียนโค้งกายทำความเคารพฉินซ่างจื้อ

ไป๋ชิงเหยียนขึ้นไปบนหลังม้า จากนั้นมองไปทางฉินซ่างจื้อที่ยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ฉินเซียนเซิงรักษาตัวด้วย”

ฉินซ่างจื้อมองส่งไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าจากไปด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก

ทั้งๆ ที่รู้ว่าอำนาจของราชวงศ์หลินจบสิ้นลงแล้ว วันหน้าคุณหนูใหญ่ไป๋ต้องนำแคว้นต้าโจวรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ให้ใต้หล้าแห่งนี้

ทว่า ฉินซ่างจื้อก็ตัดใจทิ้งองค์รัชทายาทไปไม่ได้อยู่ดี

เมื่อเห็นพลทหารโล่ที่ยืนอยู่ใต้ธงเฮยฟานไป๋หมั่งแหวกทางให้ไป๋ชิงเหยียนและหลินคังเล่อกลับเข้าไปอยู่ในขบวนอีกครั้ง ฉินซ่างจื้อจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

เขากำมีดสั้นที่อยู่ในมือแน่น ก้มหน้าลูบไปที่ลายของตัวมีดเบาๆ จากนั้นเก็บมีดสั้นไว้ในอกตามเดิม

แม่ทัพที่อยู่ด้านหลังฉินซ่างจื้อก้าวไปด้านหน้า “ใต้เท้า…พวกเราควรกลับกันได้แล้วขอรับ”

ฉินซ่างจื้อพยักหน้าแล้วขึ้นไปบนหลังม้า จากนั้นหันม้ามุ่งหน้ากลับเข้าไปในเมืองลั่วหง

เมื่อฉินซ่างจื้อเข้าไปในเมืองลั่วหง เขาเห็นเกาเต๋อเม่าขันทีข้างกายของจักรพรรดิต้าจิ้นยืนรอเขาอยู่ในเมืองพร้อมกับคนจำนวนหนึ่ง ฉินซ่างจื้อกำบังเหียนม้าแน่น จากนั้นลงจากหลังม้าเพื่อทำความเคารพเกาเต๋อเม่า “เกากงกง!”

เมื่อครู่เกาเต๋อเม่ายืนอยู่บนกำแพงเมืองลั่วหง เขามองเห็นทหารยอดฝีมือที่ไป๋ชิงเหยียนพามาด้วย ท่าทีของพวกเขาน่าหวั่นเกรงยิ่งนัก

ใบหน้าของเกาเต๋อเม่าในตอนนี้ไม่ได้มีรอยยิ้มเหมือนที่มีเป็นประจำ เขามองไปทางฉินซ่างจื้อพลางกล่าวขึ้น “ไม่ทราบว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วเชิญใต้เท้าฉินออกไปสนทนาเรื่องอันใดบ้างขอรับ”

เมื่อถามเสร็จเกาเต๋อเม่าโค้งกายคำนับฉินซ่างจื้อ “ขออภัยใต้เท้าฉินด้วยขอรับ ฝ่าบาททรงทราบว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องการพบใต้เท้าฉิน พระองค์จึงส่งข้ามาสอบถามขอรับ บัดนี้ใต้เท้าฉินคือคนควบคุมดูแลความปลอดภัยในเมืองลั่วหง ดังนั้นข้าจะต้องสอบถามให้แน่ชัดสักนิดขอรับ”

“ไม่ได้กล่าวอันใดมาก องค์หญิงเจิ้นกั๋วเคยช่วยเหลือข้าตอนที่ข้าไม่เหลือสิ่งใดทั้งสิ้น องค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องการให้ข้าติดตามรับใช้นาง ทว่า ข้าปฏิเสธไปแล้ว จากนั้นจึงคำนับอำลานางเท่านั้นขอรับ” ฉินซ่างจื้อกล่าวอย่างเปิดเผย “หากกงกงไม่เชื่อ ลองสอบถามจากแม่ทัพทั้งสองดูก็ได้”

แม่ทัพทั้งสองคนรีบพยักหน้าให้เกาเต๋อเม่า “ใต้เท้าฉินกล่าวความจริงขอรับ”

เกาเต๋อเม่าพยักหน้า จากนั้นกล่าวกับฉินซ่างจื้อ “ลำบากฉินเซียนเซิงแล้ว องค์หญิงเจิ้นกั๋วตอบรับคำเชิญเข้ามาในเมืองลั่วหงคืนนี้แล้ว ฉินเซียนเซิงเตรียมป้องกันไว้ด้วยนะขอรับ”

ฉินซ่างจื้อกำหมัดแน่น สีหน้าตกตะลึง ไป๋ชิงเหยียนจะเข้ามาในเมืองลั่วหงคืนนี้อย่างนั้นหรือ

ฉินซ่างจื้อเป็นคนฉลาด เขารู้ดีว่าเหตุใดฝ่าบาทและองค์หญิงใหญ่จึงเชิญไป๋ชิงเหยียนเข้ามาในเมือง เขามองออกแล้วไป๋ชิงเหยียนจะมองไม่ออกอย่างนั้นหรือ เหตุใดไป๋ชิงเหยียนยังมาที่นี่อีก เหตุใดเมื่อครู่จึงไม่บอกเขาตามตรงกัน

เขาคิดว่าที่ไป๋ชิงเหยียนนัดเขาออกไปพบที่นอกเมืองลั่วหงในวันนี้เป็นเพราะคืนนี้นางจะไม่เข้ามาในเมืองลั่วหง ดังนั้นนางจึงอยากพบหน้าเขาอีกครั้งก่อนบุกโจมตีลั่วหง

เมื่อเห็นฉินซ่างจื้อตะลึง เกาเต๋อเม่าจึงเอ่ยเรียกเขา “ใต้เท้าฉิน”

ฉินซ่างจื้อได้สติจึงรีบทำความเคารพเกาเต๋อเม่า “เกากงกงไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของฝ่าบาทและองค์รัชทายาท ข้าจะทำให้เต็มที่ที่สุดขอรับ”

เกาเต๋าเม่าสะบัดพู่ในมือเล็กน้อย จากนั้นพาบรรดาขันทีเดินจากไป เมื่อเดินจากไปได้ไม่ไกลเขาจึงหันไปกล่าวกับขันทีเล็กข้างกาย “จับตาดูฉินซ่างจื้อไว้ให้ดี หากเขามีพิรุธใดๆ จงรีบมารายงานทันที”

“ขอรับ!” ขันทีเล็กรับคำแล้วจากไปทำหน้าที่ทันที

เกาเต๋อเม่าเงยหน้ามองดูแสงแดดที่ร้อนระอุราวกับเปลวเพลิงบนท้องฟ้าพลางถอนหายใจยาวออกมา อำนาจของราชวงศ์หลินจบสิ้นลงแล้ว ทว่า จักรพรรดิต้าจิ้นยังคงหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องการปรุงยาวิเศษ

องค์หญิงใหญ่ไม่ทราบว่าจักรพรรดิต้าจิ้นลอบสั่งสังหารไป๋ชิงเหยียนแล้ว ขอเพียงองค์หญิงเจิ้นกั๋วเข้ามาในเมืองลั่วหงในคืนนี้ หญิงสาวจะไม่มีวันได้กลับออกไปอีก องค์หญิงใหญ่ถูกจักรพรรดิต้าจิ้นหลอกอีกแล้ว

บัดนี้ขันทีเล็กข้างกายขององค์รัชทายาทกำลังโน้มน้าวองค์รัชทายาทอยู่ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทจะเริ่มเปลี่ยนความคิด ตัดสินใจไว้ชีวิตองค์หญิงเจิ้นกั๋วแล้ว ตอนที่เกาเต๋อเม่าจากมา เขาเห็นองค์รัชทายาทและขันทีเล็กของพระองค์ยืนลังเลอยู่ที่นอกตำหนักบรรทมของจักรพรรดิต้าจิ้น ทว่า เกาเต๋อเม่ารู้ดีว่าจักรพรรดิต้าจิ้นไม่มีทางตกลงให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วกลายเป็นขุนนางที่กุมอำนาจในราชสำนักตามที่องค์หญิงใหญ่คิดแน่นอน

ทว่า ผู้ที่เกาเต๋อเม่าเป็นห่วงในตอนนี้ไม่ใช่ไป๋ชิงเหยียน ทว่า คือตัวเขาเอง…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด