เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)บทที่ 160 ฉันเจ๋งอย่างนี้ แกจะทำยังไง

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter บทที่ 160 ฉันเจ๋งอย่างนี้ แกจะทำยังไง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 160 ฉันเจ๋งอย่างนี้ แกจะทำยังไง

มันยังพูดไม่ทันจบ วัตถุสีดำก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แล้วกระแทกหัวของมันเสียงดัง ‘ปัง’

“ไอ้บ้าเอ้ย เจ้ายังจะกล้าปาใส่ข้า! บุกเข้าไป ฆ่ามันซะ กองทัพของพวกมันถูกข้าทำลายแล้ว ไม่มีใครทำร้ายร่างกายพวกเจ้าได้!”

เมื่ออัศวิน A ขว้างเป็นครั้งที่สอง ผู้มีความแข็งแกร่งสูงบางคนถึงได้เห็นชัดว่าสิ่งที่เขาขว้างออกไปเป็นหนังสือสีดำพังๆ เล่มหนึ่ง…

งูจงอางร้องสั่ง กลุ่มสัตว์ปีศาจกระหายเลือดก็ทะยานเข้าชนกำแพง!

ก่อนหน้านี้ฟางหนิงไม่เคยเห็นรูปแบบการโจมตีเมืองในยุคใหม่มาก่อน ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้เห็นมัน

เห็นคลื่นสีเหลืองปรากฏขึ้นฉับพลันจากเบื้องหน้าพวกสัตว์ปีศาจ สัตว์ปีศาจกระหายเลือดยังคงกระโจนไปข้างหน้าโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น

จากนั้นฟางหนิงก็มองเห็นหุบเหวมหึมาลึกเกือบหนึ่งร้อยเมตรและกว้างสิบกว่าเมตรราวกับหลุมยุบพลันปรากฏขึ้นระหว่างสัตว์ปีศาจกับกำแพง!

สัตว์ปีศาจกระหายเลือดที่คล่องแคล่วกว่ากระโดดข้ามหุบเหวไปได้ แต่เกือบหนึ่งในสามของพวกมันยังคงขาดเหตุผล สัตว์ปีศาจที่รู้แค่พุ่งชนลูกเดียวก็ถูกลากตกลงไปในหุบเหวยักษ์นั้น!

แน่นอนว่าฟางหนิงรู้ดีนั่นเป็นสัตว์ปีศาจระดับบ่อน้ำ เมื่อพูดตามทางการแล้ว พวกมันคือสัตว์ปีศาจที่เป็นผู้แข็งแกร่งอัจฉริยะระดับ A ซึ่งสูญเสียสติปัญญาไป หลังจากผ่านการฝึกฝนร่างกายมาหลายปี การป้องกันของร่างกายก็แข็งแกร่งไร้เทียมทานจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตกลงไปตายง่ายๆ…

“ฮ่าฮ่า มีปัญญาแค่นี้เองเหรอ ถึงคราวตายของเจ้าแล้ว!”

งูจงอางยังคงสั่งการให้สัตว์ปีศาจเดินหน้าโจมตีต่อไป มันเพิ่งพูดจบ ตัวของของมันก็สั้นลง แต่ “อัศวินหนังสือบิน” สีดำสนิทเล่มนั้นยังคงไม่สนใจการหลบหลีกของมัน ตรงเข้าโจมตีไปที่หัวงูแบนเรียบของมัน…

“เป็นไปไม่ได้ ทำไมข้าถึงหลบไม่พ้น เจ้าใช้ลูกไม้อะไรกันแน่”

ฟางหนิงงุนงงเช่นกันแต่เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะดูการแจ้งเตือนของระบบ ถ้าเกิดระบบต้องการเรียกเขา เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อม

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงระงับความสงสัยไว้ก่อน รอจนกว่าจะสิ้นสุดศึกครั้งนี้ค่อยสอบถาม

งูจงอางตัวนั้นถอยหลังอย่างกะทันหันราวกับต้องการหลบการโจมตีของ ’อัศวินหนังสือบิน’ มันถอยห่างออกไปถึงหนึ่งพันเมตร เมื่อทุกคนมองจากกำแพงก็เห็นเพียงแค่จุดสีดำเล็กๆ เท่านั้น……

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าคราวนี้อัศวิน A อาจจะโจมตีไม่ได้อีกแล้ว

อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมา เสียงหงุดหงิดโมโหของงูจงอางยังคงดังเข้ามาในหูของทุกคน

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีถูกข้าทุกครั้ง!”

‘โครม!’

“เจ้ารนหาที่ตาย!”

‘ปัง!’

ทุกคนบนกำแพงปกป้องค่ายกลและสกัดการโจมตีของสัตว์ปีศาจไปพลางแอบสงสัย ‘ดูเหมือนว่าอัศวิน A ทำอย่างนี้จะไม่ได้ประโยชน์เลย เขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่’

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาพวกเขาก็รู้จุดประสงค์ของอัศวิน A แล้ว งูจงอางดูเหมือนจะถูกยั่วโมโห และดูเหมือนว่ามันกลายเป็นงูงี่เง่าในทันที ขณะที่พวกสัตว์ปีศาจยังไม่บาดเจ็บล้มตายมาก คราวนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะมันนำลงมือก่อน!

มันไม่ให้ปีศาจกิ้งก่าสีเขียวที่อยู่ข้างมันตลอดลงมือด้วยซ้ำ และท่าทางของมันต้องการแก้แค้นอัศวิน A กับมือของมันเอง

มันไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังอีกต่อไป แต่เลื้อยเข้าไปที่ใต้กำแพงอย่างว่องไว ใกล้ขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ ห่างจากหุบเหวเพียงสามก้าวและห่างจากกำแพงค่ายไม่ถึงระยะยิงธนู!

ทุกคนเห็นหัวแบนเรียบเจ้าเล่ห์ และลำตัวงูยาวเหยียดที่น่าสะพรึงได้ชัดเจนอีกครั้ง

พวกเขาไม่เคยเห็นผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำที่เก่งที่สุดและเข้าใกล้กับระดับทะเลสาบลงมือมาก่อน

ตามคำแถลงอย่างเป็นทางการ ครั้งนี้จะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ A ที่อยู่จุดสูงสุดและสมบูรณ์แบบลงมือต่อสู้เอง!

“ตอนนี้ข้าจะให้เจ้ามังกรแท้ทำลายงานใหญ่เป็นเทพของข้าได้ประจักษ์ไม้ตายที่แท้จริงของข้าสักหน่อย!! กระบวนท่าที่มังกรแท้ก็ไม่อาจต้านทานได้!

“การอพยพครั้งก่อนข้าวางพิษไร้รูปร่างที่ทำให้สับสน มันทำงานช้าๆ ไม่มีใครระแคะระคาย และยังกำหนดเป้าหมายผู้อ่อนแอที่ต่ำกว่าระดับ C เท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับกองทัพของพวกเจ้า

“เดิมทีข้าต้องการใช้กลอุบายล่อเสือออกจากถ้ำและให้เวลาเจ้ามังกรแท้อีกสองวัน รอจนกว่าพิษหัวใจของพวกมันจะทำงานเต็มที่และไม่มียาใดรักษาได้ แต่เจ้าฉลาดพอที่จะล่วงรู้แผนการของข้าก่อน นึกไม่ถึงจะทำให้เจ้าตายเร็วขึ้นสองวัน!”

“ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าประจักษ์ถึงคำสาปสังหารที่ข้าฝึกฝนเพื่อจัดการผู้แข็งแกร่งระดับ A! ครั้งนี้เป็นการฆ่าในพริบตา”

คำพูดของงูจงอางดังก้องไปทั่วหุบเขา เฉียวจื่อเจียงที่อยู่บนกำแพงก็หน้าเปลี่ยนสี

เธอเตือนด้วยความกังวล “ทุกคน ระวังตัว! นี่คงเป็นคำสาปสังหารที่มุ่งเป้าดวงวิญญาณโดยเฉพาะ เจ้าอสรพิษตัวนี้จะไม่ต่อสู้กับคนโดยตรง แต่จะใช้วิธีที่ชั่วร้ายที่สุดเท่านั้น!”

งูจงอางเชส “หึๆ เจ้าเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เดาได้เก่งดีนี่ แต่ไม่มีใครป้องกันได้!”

มันหัวเราะเยาะเย้ย ดวงตาของของมันพลันฉายแสงประหลาดสีเขียวจางๆ สองดวง และเมื่อแสงสีเขียวอ่อนสองดวงนี้ปรากฏขึ้นก็พุ่งไปที่ใครบางคนบนกำแพงทันที!

ทุกคนรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัวและเตรียมพร้อมเต็มที่ในทันที

ในเวลานี้ คนส่วนใหญ่มองไปยังอัศวิน A โดยไม่รู้ตัว สงสัยว่าอัศวินผู้นี้ ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณจะต้านทานคำสาปวิญญาณที่ชั่วร้ายได้หรือไม่

ทว่ามีคนหนึ่งรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเมื่อพบว่าแสงสีเขียวอ่อนสองดวงพลันส่องไปที่บุคคลที่เธอห่วงใยและคนผู้นั้นดูเหมือนจะไม่รู้ตัว!

“คุณอา ระ…”

ก่อนที่เธอจะเตือนได้ทันก็มีเสียงน่าขนลุกดังขึ้นตามมาทันที “ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! เฉียวอันผิง ทำลายวิญญาณ!”

หา! ทุกคนเข้าใจว่าเป้าหมายของมันคือการโจมตีอัศวิน A ที่ยั่วโมโหมันเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงเป้าหมายจะกลายเป็นเฉียวอันผิงแทน ฉลาดแกมโกงเสียจริง! มันไม่ได้กลายเป็นงูงี่เง่าสินะ

บนกำแพงเมือง เฉียวอันผิงที่กำลังต่อสู้เต็มกำลัง กำลังยิงลำแสงดาบสีแดงเลือดใส่ปีศาจที่พุ่งไปที่กำแพงเพื่อขัดขวางการโจมตีของพวกมันให้มากที่สุด เขาจดจ่อกับการฆ่าศัตรูมากจนไม่รู้ว่าเป้าหมายของแสงเขียวทั้งสองดวงจะเป็นเขา…

สิ้นเสียงของเชส เขาก็หยุดโจมตีทันที สีหน้าของเขาก็ตกใจ นัยน์ตาว่างเปล่า ทั้งตัวก็ล้มลงไปทันที!

ทุกคนตกตะลึงในทันที เฉียวจื่อเจียงน้ำตาไหลคลอเบ้า เธอคิดไว้อยู่แล้วจึงรีบเดินเข้าไปกอดคุณอาแล้วประคองอีกฝ่ายไว้

“คุณอา คุณอาจะต้องไม่เป็นอะไร!”

“อาเป็นทายาทมือสังหารของตระกูลเฉียว มีกลิ่นอายสังหารคุ้มกาย คำสาปมุ่งเป้าจิตวิญญาณเท่านั้นไม่มีทางทำร้ายอาได้!”

ทว่าเฉียวอันผิงดูเหมือนจะไม่ได้ยินที่เธอพร่ำร้อง เขาอยู่ในอ้อมแขนของหลานสาวไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ดวงตาของเขาไม่จับจุด ตัวเขาแน่นิ่งเหมือนกับรูปปั้นราวกับว่าเขากำลังสูญเสียวิญญาณ…

ไม่ว่าเฉียวจื่อเจียงจะตะโกนดังแค่ไหน เขาก็ไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย

“ฮ่าฮ่าฮ่า เขาถูกคำสาปของข้าทำลายดวงวิญญาณแล้ว ต่อจากนี้ไปเขาก็คือคนตายทั้งเป็น! น่ากลัวใช่ไหม! ถึงคราวของเจ้าแล้ว อัศวิน A!”

ที่แท้มันฆ่าเฉียวอันผิงก่อนก็เพื่อทำให้อัศวิน A ตกอยู่ในความกลัวนั่นเอง มันถูกความแค้นบดบังสติปัญญา นี่ไม่ใช่สิ่งที่บอสฉลาดๆ เขาทำกัน เพราะมันทำให้อัศวิน A ระมัดระวังตัวมากขึ้น…

แสงสีเขียวอ่อนสองดวงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่หัวของอัศวิน A!

อัศวิน A หลบวาบว่องไว แต่แสงจะเร็วแค่ไหนกัน แสงนั้นตรึงเป้าหมายที่หัวของเขา!

อัศวิน A ดูเหมือนจะไม่มีทางหลบหนีพ้น

“ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! อัศวิน A ทำลายวิญญาณ!”

ฟางหนิงเห็นสถานการณ์แล้วก็ตกใจ เฉียวอันผิงตายแล้วเหรอ เขาเป็นหนึ่งในหกผู้นำของสำนักงานสัจธรรมแห่งเสินโจวเชียวนะ ผู้แข็งแกร่งระดับ A ที่ได้รับการฝึกโดยองค์กร

เวลานี้ระบบไม่ได้แข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้มากนัก…

ในเวลานี้ ในใจของเขาตึงเครียดขึ้น แต่เขาพบว่าตัวเองนิ่งเฉยและไม่ได้รับผลกระทบเลย

เขารีบถาม “ระบบ แกยังสบายดีไหม!”

ระบบ “ไม่เป็นไร ชื่อที่มันตะโกนไม่ใช่ชื่อของฉัน…”

ฟางหนิงโล่งใจแล้วถามต่อ “เฉียวอันผิงตายแล้วจริงๆ เหรอ ผู้ชายคนนั้นหยิ่งยโสดูไม่เหมือนคนอายุสั้นเลย…”

ระบบ “เอ๊ะ โฮสต์ เรียนรู้ที่จะสังเกตและวิเคราะห์ลักษณะคนตั้งแต่เมื่อไหร่ เฉียวอันผิงสามดวงจิตเจ็ดวิญญาณ[1]บาดเจ็บสาหัส ไม่ต่างกับคนตายไปแล้วจริงๆ แต่ป้อนยาเสริมพลังวิญญาณให้เขาสองสามเม็ดก็ช่วยชีวิตได้แล้ว ทำไมเฉียวจื่อเจียงถึงได้เสียใจขนาดนั้นล่ะ”

ฟางหนิงโล่งใจเล็กน้อยเพราะเฉียวอันผิงเป็นพันธมิตร เขาจะรู้สึกไม่ดีถ้าเฉียวอันผิงตายจริงๆ

เขาหมดคำจะพูดกับระบบอีกครั้ง “เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้ความสามารถของแก คิดว่าญาติของเธอตายแล้ว การร้องไห้จึงเป็นเรื่องปกติ แกไม่ใช่มนุษย์จะเข้าใจคุณค่าของครอบครัวได้ยังไงกัน”

ระบบ “ฉันไม่สนใจครอบครัวของเธอ แต่ฉันสนใจเงินของเธอ ฉันจำได้แค่ว่าเธอรวยมาก ครั้งแรกที่เราเจอกันเพราะเราฆ่าปีศาจสามตัวของตระกูลไป๋เพื่อช่วยพี่ชายของเธอฟื้นคืนพลัง เธอให้เงินเรา 50 ล้าน เดี๋ยวถ้าช่วยชีวิตอาของเธอแล้ว เธอควรจะให้เงินเราอีกห้าร้อยล้านจริงไหม”

ฟางหนิง “แกนี่มันชั่วร้ายจริงๆ…”

ฟางหนิงพูดอย่างนี้แต่ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นที่เฉียวอันผิงยังไม่ตาย ดูเหมือนว่าอัศวิน A ที่ถูกแสงสีเขียวสองดวงอย่างมากที่สุดก็แค่ทำให้บาดเจ็บหนัก…

บัดนี้กลุ่มของสัตว์ปีศาจยังคงโจมตีกำแพง ค่ายกลป้องกันบนกำแพงมีลำแสงสว่างขึ้นสกัดกั้นไม่ให้เจ้าพวกนี้โจมตีเข้ามา

โชคดีที่พวกมันไม่มีเหตุผล ไม่เข้าใจจังหวะการโจมตี และยิ่งไม่เข้าใจจุดอ่อนของค่ายกล ไม่เช่นนั้นก็ยากที่จะบอกว่าพวกเขาจะต้านทานพวกมันได้นานแค่ไหน

แต่ในเวลานี้ทุกคนไม่มีใจระวังแนวป้องกันของกำแพง ทุกคนต่างจ้องไปที่อัศวิน A เป็นตาเดียว

พวกเขาคิดว่าเฉียวอันผิงตายแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาเศร้าและเจ็บปวด แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับความเจ็บปวด

ถ้าขืนอัศวิน A ตายอีกคน ผู้อาวุโสไห่ก็แก่เฒ่า แม้ว่าเขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ A แต่พลังของเขาไม่ใช่ใช้กับการโจมตีสังหารได้ ผู้อาวุโสสวี่ก็เช่นเดียวกัน เขายังคงต้องรักษาคนในกองทัพ

ที่นี่ไม่มีนักสู้ระดับ A คนอื่นแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีใครยับยั้งงูจงอางตัวนี้ได้ และในไม่ช้าพวกเขาต้องหมดหวังแน่นอน…

ในเวลานั้น ดินแดนมรดกทั้งหมดจะถูกชาวเทียนจู๋แย่งชิงไป และรากฐานของสำนักงานสัจธรรมจะเสียหายอย่างมาก ในอนาคตจะไม่มีพลังแข็งแกร่งควบคุมสถานการณ์ที่ซับซ้อนของเสินโจว ไม่รู้ว่าต้องเสียสละมากมายเท่าใดถึงจะกอบกู้สถานการณ์ขึ้นมาได้บ้าง

ในเวลานี้เพราะระบบกับฟางหนิงคุยเรื่องไร้สาระกันอยู่ อัศวิน A จึงยืนเหม่อครู่หนึ่ง

ทุกคนที่ได้เห็นแม้ว่าจะผ่านการฝึกฝนมาอย่างยาวนานและมีปณิธานที่เข้มแข็ง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกหมดแรง!

โชคดีที่ ปัง! เสียงที่คมชัดดังขึ้น ขับไล่ความรู้สึกหมดแรงของพวกเขา อัศวิน A ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร พวกเขายังมีความหวังอยู่ใช่ไหม

“บัดซบ เจ้ายังจะกล้าตีข้าด้วยหนังสือพังๆ เล่มนั้น เจ้ายังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ ไม่ถูก! ไปตายซะ ทำไมจู่ๆ ในหัวของข้าถึงสับสน ข้าเอาชื่อลับที่สำนักงานสัจธรรมให้เจ้ามาเป็นชื่อจริง! ข้าเสียพลังไปเปล่าประโยชน์..”

เมื่อทุกคนได้ยิน ใครเป็นคนแรกที่ตั้งชื่อลับนี้ให้อัศวิน A กันนะ ดูเหมือนว่าจะช่วยชีวิตเขาไว้

แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็วิตกกังวลอีกครั้ง

“ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณ ทำลายวิญญาณ!”

ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณเป็นชื่อของมังกรแท้ทั้งสองตัวที่ท่านมังกรขาวพูดเองกับปาก ครั้งนี้จะไม่เป็นไรใช่ไหม

ฟางหนิงพูดอย่างใจเย็น ชื่อนี้ฉันเป็นคนสร้างเอง…

ฟางหนิงสามารถเห็นรายละเอียดของคู่ต่อสู้ “มันเป็นคำสาปสังหารที่เจ๋งสุดๆ แต่ก็มีข้อจำกัด อยากจะได้ผลต้องใช้แสงสีเขียวประหลาดในดวงตากำหนดเป้าหมายคู่ต่อสู้ในระยะใกล้ และในคำสาปต้องเอ่ยชื่อจริงของอีกฝ่ายถึงจะเป็นผล”

ระบบ “ใช่ ฉันต้องยอมรับโฮสต์ คุณเจ๋งมาก ตั้งชื่อไอดีให้ตัวเองเยอะแยะและยังมองการณ์ไกลจริงๆ ตอนนี้ก็ช่วยฉันได้มาก”

คราวนี้ทุกคนไม่ต้องรอดูว่าอัศวิน A จะเป็นอย่างไร เพราะด้วยเสียง “ปัง” ทำให้ “อัศวินหนังสือบิน” โจมตีหัวงูอีกครั้ง!

“บ้าจริง ชื่อไหนเป็นชื่อของเจ้ากันแน่ ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! ท่านเทพมังกรขาว ทำลายวิญญาณ!”

ฟางหนิง: ไม่ว่าจะชื่อไหนก็ไม่ใช่…

“ยังมีชื่อสุดท้าย ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! อัศวินแห่งฉีเฉิง ทำลายวิญญาณ!”

ฟางหนิง: ยังไม่ถูกต้อง…

งูจงอางเชสโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“ให้ตายเถอะ เจ้าเป็นอัศวินยิ่งใหญ่ไม่ใช่เหรอ ที่แท้เจ้าก็เป็นแค่คนขี้ขลาด! แม้แต่ชื่อจริงยังไม่กล้าใช้ เสียงเพลงที่เล่นก่อนหน้านี้สูงส่งขนาดนั้น วีรบุรุษอะไร อัศวินอะไร ถุย โกหกทั้งเพ!”

ฟางหนิง: ขอโทษที ฉันก็เจ๋งอย่างนี้ ไม่ใช้ชื่อจริง แกจะทำยังไง…

ไม่ใช่เพื่อป้องกันทักษะประหลาดของแกไม่ใช่หรือ ถ้ายุคใหม่ไม่มีสารเลวอย่างแก ฉันจะไม่ใช้สถานะของฟางหนิงหรือไง ตั้งชื่อไอดีมากมายขนาดนั้นให้ตัวเอง ฉันเองก็รำคาญใจเหมือนกัน…

มันยังอยากจะใช้คำสาปสังหารอีก แต่ไม่ได้ออกเสียงอยู่นาน ทุกคนถึงได้สังเกตเห็นร่างกายของมันหดตัวลงโดยที่ไม่รู้ตัว และมันหดตัวเกือบจะมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับตอนแรก

ระบบ “เยี่ยมมาก อสรพิษตัวนี้ไม่เพียงแต่จะงี่เง่า แต่ความแข็งแกร่งยังลดลงอย่างมาก ถึงเวลาที่ฉันจะลงมือแล้ว!”

…………………………………………………………..

[1] สามดวงจิตเจ็ดวิญญาณ (三魂七魄) หมายถึง สามดวงจิตคือฟ้า ดินและมนุษย์ เจ็ดวิญญาณคือรัก โลภ โกรธ หลง เศร้า กลัวและดีใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)บทที่ 160 ฉันเจ๋งอย่างนี้ แกจะทำยังไง

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter บทที่ 160 ฉันเจ๋งอย่างนี้ แกจะทำยังไง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 160 ฉันเจ๋งอย่างนี้ แกจะทำยังไง

มันยังพูดไม่ทันจบ วัตถุสีดำก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แล้วกระแทกหัวของมันเสียงดัง ‘ปัง’

“ไอ้บ้าเอ้ย เจ้ายังจะกล้าปาใส่ข้า! บุกเข้าไป ฆ่ามันซะ กองทัพของพวกมันถูกข้าทำลายแล้ว ไม่มีใครทำร้ายร่างกายพวกเจ้าได้!”

เมื่ออัศวิน A ขว้างเป็นครั้งที่สอง ผู้มีความแข็งแกร่งสูงบางคนถึงได้เห็นชัดว่าสิ่งที่เขาขว้างออกไปเป็นหนังสือสีดำพังๆ เล่มหนึ่ง…

งูจงอางร้องสั่ง กลุ่มสัตว์ปีศาจกระหายเลือดก็ทะยานเข้าชนกำแพง!

ก่อนหน้านี้ฟางหนิงไม่เคยเห็นรูปแบบการโจมตีเมืองในยุคใหม่มาก่อน ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้เห็นมัน

เห็นคลื่นสีเหลืองปรากฏขึ้นฉับพลันจากเบื้องหน้าพวกสัตว์ปีศาจ สัตว์ปีศาจกระหายเลือดยังคงกระโจนไปข้างหน้าโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น

จากนั้นฟางหนิงก็มองเห็นหุบเหวมหึมาลึกเกือบหนึ่งร้อยเมตรและกว้างสิบกว่าเมตรราวกับหลุมยุบพลันปรากฏขึ้นระหว่างสัตว์ปีศาจกับกำแพง!

สัตว์ปีศาจกระหายเลือดที่คล่องแคล่วกว่ากระโดดข้ามหุบเหวไปได้ แต่เกือบหนึ่งในสามของพวกมันยังคงขาดเหตุผล สัตว์ปีศาจที่รู้แค่พุ่งชนลูกเดียวก็ถูกลากตกลงไปในหุบเหวยักษ์นั้น!

แน่นอนว่าฟางหนิงรู้ดีนั่นเป็นสัตว์ปีศาจระดับบ่อน้ำ เมื่อพูดตามทางการแล้ว พวกมันคือสัตว์ปีศาจที่เป็นผู้แข็งแกร่งอัจฉริยะระดับ A ซึ่งสูญเสียสติปัญญาไป หลังจากผ่านการฝึกฝนร่างกายมาหลายปี การป้องกันของร่างกายก็แข็งแกร่งไร้เทียมทานจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตกลงไปตายง่ายๆ…

“ฮ่าฮ่า มีปัญญาแค่นี้เองเหรอ ถึงคราวตายของเจ้าแล้ว!”

งูจงอางยังคงสั่งการให้สัตว์ปีศาจเดินหน้าโจมตีต่อไป มันเพิ่งพูดจบ ตัวของของมันก็สั้นลง แต่ “อัศวินหนังสือบิน” สีดำสนิทเล่มนั้นยังคงไม่สนใจการหลบหลีกของมัน ตรงเข้าโจมตีไปที่หัวงูแบนเรียบของมัน…

“เป็นไปไม่ได้ ทำไมข้าถึงหลบไม่พ้น เจ้าใช้ลูกไม้อะไรกันแน่”

ฟางหนิงงุนงงเช่นกันแต่เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะดูการแจ้งเตือนของระบบ ถ้าเกิดระบบต้องการเรียกเขา เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อม

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงระงับความสงสัยไว้ก่อน รอจนกว่าจะสิ้นสุดศึกครั้งนี้ค่อยสอบถาม

งูจงอางตัวนั้นถอยหลังอย่างกะทันหันราวกับต้องการหลบการโจมตีของ ’อัศวินหนังสือบิน’ มันถอยห่างออกไปถึงหนึ่งพันเมตร เมื่อทุกคนมองจากกำแพงก็เห็นเพียงแค่จุดสีดำเล็กๆ เท่านั้น……

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าคราวนี้อัศวิน A อาจจะโจมตีไม่ได้อีกแล้ว

อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมา เสียงหงุดหงิดโมโหของงูจงอางยังคงดังเข้ามาในหูของทุกคน

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีถูกข้าทุกครั้ง!”

‘โครม!’

“เจ้ารนหาที่ตาย!”

‘ปัง!’

ทุกคนบนกำแพงปกป้องค่ายกลและสกัดการโจมตีของสัตว์ปีศาจไปพลางแอบสงสัย ‘ดูเหมือนว่าอัศวิน A ทำอย่างนี้จะไม่ได้ประโยชน์เลย เขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่’

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาพวกเขาก็รู้จุดประสงค์ของอัศวิน A แล้ว งูจงอางดูเหมือนจะถูกยั่วโมโห และดูเหมือนว่ามันกลายเป็นงูงี่เง่าในทันที ขณะที่พวกสัตว์ปีศาจยังไม่บาดเจ็บล้มตายมาก คราวนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะมันนำลงมือก่อน!

มันไม่ให้ปีศาจกิ้งก่าสีเขียวที่อยู่ข้างมันตลอดลงมือด้วยซ้ำ และท่าทางของมันต้องการแก้แค้นอัศวิน A กับมือของมันเอง

มันไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังอีกต่อไป แต่เลื้อยเข้าไปที่ใต้กำแพงอย่างว่องไว ใกล้ขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ ห่างจากหุบเหวเพียงสามก้าวและห่างจากกำแพงค่ายไม่ถึงระยะยิงธนู!

ทุกคนเห็นหัวแบนเรียบเจ้าเล่ห์ และลำตัวงูยาวเหยียดที่น่าสะพรึงได้ชัดเจนอีกครั้ง

พวกเขาไม่เคยเห็นผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำที่เก่งที่สุดและเข้าใกล้กับระดับทะเลสาบลงมือมาก่อน

ตามคำแถลงอย่างเป็นทางการ ครั้งนี้จะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ A ที่อยู่จุดสูงสุดและสมบูรณ์แบบลงมือต่อสู้เอง!

“ตอนนี้ข้าจะให้เจ้ามังกรแท้ทำลายงานใหญ่เป็นเทพของข้าได้ประจักษ์ไม้ตายที่แท้จริงของข้าสักหน่อย!! กระบวนท่าที่มังกรแท้ก็ไม่อาจต้านทานได้!

“การอพยพครั้งก่อนข้าวางพิษไร้รูปร่างที่ทำให้สับสน มันทำงานช้าๆ ไม่มีใครระแคะระคาย และยังกำหนดเป้าหมายผู้อ่อนแอที่ต่ำกว่าระดับ C เท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับกองทัพของพวกเจ้า

“เดิมทีข้าต้องการใช้กลอุบายล่อเสือออกจากถ้ำและให้เวลาเจ้ามังกรแท้อีกสองวัน รอจนกว่าพิษหัวใจของพวกมันจะทำงานเต็มที่และไม่มียาใดรักษาได้ แต่เจ้าฉลาดพอที่จะล่วงรู้แผนการของข้าก่อน นึกไม่ถึงจะทำให้เจ้าตายเร็วขึ้นสองวัน!”

“ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าประจักษ์ถึงคำสาปสังหารที่ข้าฝึกฝนเพื่อจัดการผู้แข็งแกร่งระดับ A! ครั้งนี้เป็นการฆ่าในพริบตา”

คำพูดของงูจงอางดังก้องไปทั่วหุบเขา เฉียวจื่อเจียงที่อยู่บนกำแพงก็หน้าเปลี่ยนสี

เธอเตือนด้วยความกังวล “ทุกคน ระวังตัว! นี่คงเป็นคำสาปสังหารที่มุ่งเป้าดวงวิญญาณโดยเฉพาะ เจ้าอสรพิษตัวนี้จะไม่ต่อสู้กับคนโดยตรง แต่จะใช้วิธีที่ชั่วร้ายที่สุดเท่านั้น!”

งูจงอางเชส “หึๆ เจ้าเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เดาได้เก่งดีนี่ แต่ไม่มีใครป้องกันได้!”

มันหัวเราะเยาะเย้ย ดวงตาของของมันพลันฉายแสงประหลาดสีเขียวจางๆ สองดวง และเมื่อแสงสีเขียวอ่อนสองดวงนี้ปรากฏขึ้นก็พุ่งไปที่ใครบางคนบนกำแพงทันที!

ทุกคนรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัวและเตรียมพร้อมเต็มที่ในทันที

ในเวลานี้ คนส่วนใหญ่มองไปยังอัศวิน A โดยไม่รู้ตัว สงสัยว่าอัศวินผู้นี้ ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณจะต้านทานคำสาปวิญญาณที่ชั่วร้ายได้หรือไม่

ทว่ามีคนหนึ่งรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเมื่อพบว่าแสงสีเขียวอ่อนสองดวงพลันส่องไปที่บุคคลที่เธอห่วงใยและคนผู้นั้นดูเหมือนจะไม่รู้ตัว!

“คุณอา ระ…”

ก่อนที่เธอจะเตือนได้ทันก็มีเสียงน่าขนลุกดังขึ้นตามมาทันที “ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! เฉียวอันผิง ทำลายวิญญาณ!”

หา! ทุกคนเข้าใจว่าเป้าหมายของมันคือการโจมตีอัศวิน A ที่ยั่วโมโหมันเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงเป้าหมายจะกลายเป็นเฉียวอันผิงแทน ฉลาดแกมโกงเสียจริง! มันไม่ได้กลายเป็นงูงี่เง่าสินะ

บนกำแพงเมือง เฉียวอันผิงที่กำลังต่อสู้เต็มกำลัง กำลังยิงลำแสงดาบสีแดงเลือดใส่ปีศาจที่พุ่งไปที่กำแพงเพื่อขัดขวางการโจมตีของพวกมันให้มากที่สุด เขาจดจ่อกับการฆ่าศัตรูมากจนไม่รู้ว่าเป้าหมายของแสงเขียวทั้งสองดวงจะเป็นเขา…

สิ้นเสียงของเชส เขาก็หยุดโจมตีทันที สีหน้าของเขาก็ตกใจ นัยน์ตาว่างเปล่า ทั้งตัวก็ล้มลงไปทันที!

ทุกคนตกตะลึงในทันที เฉียวจื่อเจียงน้ำตาไหลคลอเบ้า เธอคิดไว้อยู่แล้วจึงรีบเดินเข้าไปกอดคุณอาแล้วประคองอีกฝ่ายไว้

“คุณอา คุณอาจะต้องไม่เป็นอะไร!”

“อาเป็นทายาทมือสังหารของตระกูลเฉียว มีกลิ่นอายสังหารคุ้มกาย คำสาปมุ่งเป้าจิตวิญญาณเท่านั้นไม่มีทางทำร้ายอาได้!”

ทว่าเฉียวอันผิงดูเหมือนจะไม่ได้ยินที่เธอพร่ำร้อง เขาอยู่ในอ้อมแขนของหลานสาวไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ดวงตาของเขาไม่จับจุด ตัวเขาแน่นิ่งเหมือนกับรูปปั้นราวกับว่าเขากำลังสูญเสียวิญญาณ…

ไม่ว่าเฉียวจื่อเจียงจะตะโกนดังแค่ไหน เขาก็ไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย

“ฮ่าฮ่าฮ่า เขาถูกคำสาปของข้าทำลายดวงวิญญาณแล้ว ต่อจากนี้ไปเขาก็คือคนตายทั้งเป็น! น่ากลัวใช่ไหม! ถึงคราวของเจ้าแล้ว อัศวิน A!”

ที่แท้มันฆ่าเฉียวอันผิงก่อนก็เพื่อทำให้อัศวิน A ตกอยู่ในความกลัวนั่นเอง มันถูกความแค้นบดบังสติปัญญา นี่ไม่ใช่สิ่งที่บอสฉลาดๆ เขาทำกัน เพราะมันทำให้อัศวิน A ระมัดระวังตัวมากขึ้น…

แสงสีเขียวอ่อนสองดวงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่หัวของอัศวิน A!

อัศวิน A หลบวาบว่องไว แต่แสงจะเร็วแค่ไหนกัน แสงนั้นตรึงเป้าหมายที่หัวของเขา!

อัศวิน A ดูเหมือนจะไม่มีทางหลบหนีพ้น

“ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! อัศวิน A ทำลายวิญญาณ!”

ฟางหนิงเห็นสถานการณ์แล้วก็ตกใจ เฉียวอันผิงตายแล้วเหรอ เขาเป็นหนึ่งในหกผู้นำของสำนักงานสัจธรรมแห่งเสินโจวเชียวนะ ผู้แข็งแกร่งระดับ A ที่ได้รับการฝึกโดยองค์กร

เวลานี้ระบบไม่ได้แข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้มากนัก…

ในเวลานี้ ในใจของเขาตึงเครียดขึ้น แต่เขาพบว่าตัวเองนิ่งเฉยและไม่ได้รับผลกระทบเลย

เขารีบถาม “ระบบ แกยังสบายดีไหม!”

ระบบ “ไม่เป็นไร ชื่อที่มันตะโกนไม่ใช่ชื่อของฉัน…”

ฟางหนิงโล่งใจแล้วถามต่อ “เฉียวอันผิงตายแล้วจริงๆ เหรอ ผู้ชายคนนั้นหยิ่งยโสดูไม่เหมือนคนอายุสั้นเลย…”

ระบบ “เอ๊ะ โฮสต์ เรียนรู้ที่จะสังเกตและวิเคราะห์ลักษณะคนตั้งแต่เมื่อไหร่ เฉียวอันผิงสามดวงจิตเจ็ดวิญญาณ[1]บาดเจ็บสาหัส ไม่ต่างกับคนตายไปแล้วจริงๆ แต่ป้อนยาเสริมพลังวิญญาณให้เขาสองสามเม็ดก็ช่วยชีวิตได้แล้ว ทำไมเฉียวจื่อเจียงถึงได้เสียใจขนาดนั้นล่ะ”

ฟางหนิงโล่งใจเล็กน้อยเพราะเฉียวอันผิงเป็นพันธมิตร เขาจะรู้สึกไม่ดีถ้าเฉียวอันผิงตายจริงๆ

เขาหมดคำจะพูดกับระบบอีกครั้ง “เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้ความสามารถของแก คิดว่าญาติของเธอตายแล้ว การร้องไห้จึงเป็นเรื่องปกติ แกไม่ใช่มนุษย์จะเข้าใจคุณค่าของครอบครัวได้ยังไงกัน”

ระบบ “ฉันไม่สนใจครอบครัวของเธอ แต่ฉันสนใจเงินของเธอ ฉันจำได้แค่ว่าเธอรวยมาก ครั้งแรกที่เราเจอกันเพราะเราฆ่าปีศาจสามตัวของตระกูลไป๋เพื่อช่วยพี่ชายของเธอฟื้นคืนพลัง เธอให้เงินเรา 50 ล้าน เดี๋ยวถ้าช่วยชีวิตอาของเธอแล้ว เธอควรจะให้เงินเราอีกห้าร้อยล้านจริงไหม”

ฟางหนิง “แกนี่มันชั่วร้ายจริงๆ…”

ฟางหนิงพูดอย่างนี้แต่ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นที่เฉียวอันผิงยังไม่ตาย ดูเหมือนว่าอัศวิน A ที่ถูกแสงสีเขียวสองดวงอย่างมากที่สุดก็แค่ทำให้บาดเจ็บหนัก…

บัดนี้กลุ่มของสัตว์ปีศาจยังคงโจมตีกำแพง ค่ายกลป้องกันบนกำแพงมีลำแสงสว่างขึ้นสกัดกั้นไม่ให้เจ้าพวกนี้โจมตีเข้ามา

โชคดีที่พวกมันไม่มีเหตุผล ไม่เข้าใจจังหวะการโจมตี และยิ่งไม่เข้าใจจุดอ่อนของค่ายกล ไม่เช่นนั้นก็ยากที่จะบอกว่าพวกเขาจะต้านทานพวกมันได้นานแค่ไหน

แต่ในเวลานี้ทุกคนไม่มีใจระวังแนวป้องกันของกำแพง ทุกคนต่างจ้องไปที่อัศวิน A เป็นตาเดียว

พวกเขาคิดว่าเฉียวอันผิงตายแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาเศร้าและเจ็บปวด แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับความเจ็บปวด

ถ้าขืนอัศวิน A ตายอีกคน ผู้อาวุโสไห่ก็แก่เฒ่า แม้ว่าเขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ A แต่พลังของเขาไม่ใช่ใช้กับการโจมตีสังหารได้ ผู้อาวุโสสวี่ก็เช่นเดียวกัน เขายังคงต้องรักษาคนในกองทัพ

ที่นี่ไม่มีนักสู้ระดับ A คนอื่นแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีใครยับยั้งงูจงอางตัวนี้ได้ และในไม่ช้าพวกเขาต้องหมดหวังแน่นอน…

ในเวลานั้น ดินแดนมรดกทั้งหมดจะถูกชาวเทียนจู๋แย่งชิงไป และรากฐานของสำนักงานสัจธรรมจะเสียหายอย่างมาก ในอนาคตจะไม่มีพลังแข็งแกร่งควบคุมสถานการณ์ที่ซับซ้อนของเสินโจว ไม่รู้ว่าต้องเสียสละมากมายเท่าใดถึงจะกอบกู้สถานการณ์ขึ้นมาได้บ้าง

ในเวลานี้เพราะระบบกับฟางหนิงคุยเรื่องไร้สาระกันอยู่ อัศวิน A จึงยืนเหม่อครู่หนึ่ง

ทุกคนที่ได้เห็นแม้ว่าจะผ่านการฝึกฝนมาอย่างยาวนานและมีปณิธานที่เข้มแข็ง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกหมดแรง!

โชคดีที่ ปัง! เสียงที่คมชัดดังขึ้น ขับไล่ความรู้สึกหมดแรงของพวกเขา อัศวิน A ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร พวกเขายังมีความหวังอยู่ใช่ไหม

“บัดซบ เจ้ายังจะกล้าตีข้าด้วยหนังสือพังๆ เล่มนั้น เจ้ายังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ ไม่ถูก! ไปตายซะ ทำไมจู่ๆ ในหัวของข้าถึงสับสน ข้าเอาชื่อลับที่สำนักงานสัจธรรมให้เจ้ามาเป็นชื่อจริง! ข้าเสียพลังไปเปล่าประโยชน์..”

เมื่อทุกคนได้ยิน ใครเป็นคนแรกที่ตั้งชื่อลับนี้ให้อัศวิน A กันนะ ดูเหมือนว่าจะช่วยชีวิตเขาไว้

แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็วิตกกังวลอีกครั้ง

“ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณ ทำลายวิญญาณ!”

ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณเป็นชื่อของมังกรแท้ทั้งสองตัวที่ท่านมังกรขาวพูดเองกับปาก ครั้งนี้จะไม่เป็นไรใช่ไหม

ฟางหนิงพูดอย่างใจเย็น ชื่อนี้ฉันเป็นคนสร้างเอง…

ฟางหนิงสามารถเห็นรายละเอียดของคู่ต่อสู้ “มันเป็นคำสาปสังหารที่เจ๋งสุดๆ แต่ก็มีข้อจำกัด อยากจะได้ผลต้องใช้แสงสีเขียวประหลาดในดวงตากำหนดเป้าหมายคู่ต่อสู้ในระยะใกล้ และในคำสาปต้องเอ่ยชื่อจริงของอีกฝ่ายถึงจะเป็นผล”

ระบบ “ใช่ ฉันต้องยอมรับโฮสต์ คุณเจ๋งมาก ตั้งชื่อไอดีให้ตัวเองเยอะแยะและยังมองการณ์ไกลจริงๆ ตอนนี้ก็ช่วยฉันได้มาก”

คราวนี้ทุกคนไม่ต้องรอดูว่าอัศวิน A จะเป็นอย่างไร เพราะด้วยเสียง “ปัง” ทำให้ “อัศวินหนังสือบิน” โจมตีหัวงูอีกครั้ง!

“บ้าจริง ชื่อไหนเป็นชื่อของเจ้ากันแน่ ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! ท่านเทพมังกรขาว ทำลายวิญญาณ!”

ฟางหนิง: ไม่ว่าจะชื่อไหนก็ไม่ใช่…

“ยังมีชื่อสุดท้าย ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! อัศวินแห่งฉีเฉิง ทำลายวิญญาณ!”

ฟางหนิง: ยังไม่ถูกต้อง…

งูจงอางเชสโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“ให้ตายเถอะ เจ้าเป็นอัศวินยิ่งใหญ่ไม่ใช่เหรอ ที่แท้เจ้าก็เป็นแค่คนขี้ขลาด! แม้แต่ชื่อจริงยังไม่กล้าใช้ เสียงเพลงที่เล่นก่อนหน้านี้สูงส่งขนาดนั้น วีรบุรุษอะไร อัศวินอะไร ถุย โกหกทั้งเพ!”

ฟางหนิง: ขอโทษที ฉันก็เจ๋งอย่างนี้ ไม่ใช้ชื่อจริง แกจะทำยังไง…

ไม่ใช่เพื่อป้องกันทักษะประหลาดของแกไม่ใช่หรือ ถ้ายุคใหม่ไม่มีสารเลวอย่างแก ฉันจะไม่ใช้สถานะของฟางหนิงหรือไง ตั้งชื่อไอดีมากมายขนาดนั้นให้ตัวเอง ฉันเองก็รำคาญใจเหมือนกัน…

มันยังอยากจะใช้คำสาปสังหารอีก แต่ไม่ได้ออกเสียงอยู่นาน ทุกคนถึงได้สังเกตเห็นร่างกายของมันหดตัวลงโดยที่ไม่รู้ตัว และมันหดตัวเกือบจะมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับตอนแรก

ระบบ “เยี่ยมมาก อสรพิษตัวนี้ไม่เพียงแต่จะงี่เง่า แต่ความแข็งแกร่งยังลดลงอย่างมาก ถึงเวลาที่ฉันจะลงมือแล้ว!”

…………………………………………………………..

[1] สามดวงจิตเจ็ดวิญญาณ (三魂七魄) หมายถึง สามดวงจิตคือฟ้า ดินและมนุษย์ เจ็ดวิญญาณคือรัก โลภ โกรธ หลง เศร้า กลัวและดีใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)บทที่ 160 ฉันเจ๋งอย่างนี้ แกจะทำยังไง

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter บทที่ 160 ฉันเจ๋งอย่างนี้ แกจะทำยังไง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 160 ฉันเจ๋งอย่างนี้ แกจะทำยังไง

มันยังพูดไม่ทันจบ วัตถุสีดำก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แล้วกระแทกหัวของมันเสียงดัง ‘ปัง’

“ไอ้บ้าเอ้ย เจ้ายังจะกล้าปาใส่ข้า! บุกเข้าไป ฆ่ามันซะ กองทัพของพวกมันถูกข้าทำลายแล้ว ไม่มีใครทำร้ายร่างกายพวกเจ้าได้!”

เมื่ออัศวิน A ขว้างเป็นครั้งที่สอง ผู้มีความแข็งแกร่งสูงบางคนถึงได้เห็นชัดว่าสิ่งที่เขาขว้างออกไปเป็นหนังสือสีดำพังๆ เล่มหนึ่ง…

งูจงอางร้องสั่ง กลุ่มสัตว์ปีศาจกระหายเลือดก็ทะยานเข้าชนกำแพง!

ก่อนหน้านี้ฟางหนิงไม่เคยเห็นรูปแบบการโจมตีเมืองในยุคใหม่มาก่อน ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้เห็นมัน

เห็นคลื่นสีเหลืองปรากฏขึ้นฉับพลันจากเบื้องหน้าพวกสัตว์ปีศาจ สัตว์ปีศาจกระหายเลือดยังคงกระโจนไปข้างหน้าโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น

จากนั้นฟางหนิงก็มองเห็นหุบเหวมหึมาลึกเกือบหนึ่งร้อยเมตรและกว้างสิบกว่าเมตรราวกับหลุมยุบพลันปรากฏขึ้นระหว่างสัตว์ปีศาจกับกำแพง!

สัตว์ปีศาจกระหายเลือดที่คล่องแคล่วกว่ากระโดดข้ามหุบเหวไปได้ แต่เกือบหนึ่งในสามของพวกมันยังคงขาดเหตุผล สัตว์ปีศาจที่รู้แค่พุ่งชนลูกเดียวก็ถูกลากตกลงไปในหุบเหวยักษ์นั้น!

แน่นอนว่าฟางหนิงรู้ดีนั่นเป็นสัตว์ปีศาจระดับบ่อน้ำ เมื่อพูดตามทางการแล้ว พวกมันคือสัตว์ปีศาจที่เป็นผู้แข็งแกร่งอัจฉริยะระดับ A ซึ่งสูญเสียสติปัญญาไป หลังจากผ่านการฝึกฝนร่างกายมาหลายปี การป้องกันของร่างกายก็แข็งแกร่งไร้เทียมทานจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตกลงไปตายง่ายๆ…

“ฮ่าฮ่า มีปัญญาแค่นี้เองเหรอ ถึงคราวตายของเจ้าแล้ว!”

งูจงอางยังคงสั่งการให้สัตว์ปีศาจเดินหน้าโจมตีต่อไป มันเพิ่งพูดจบ ตัวของของมันก็สั้นลง แต่ “อัศวินหนังสือบิน” สีดำสนิทเล่มนั้นยังคงไม่สนใจการหลบหลีกของมัน ตรงเข้าโจมตีไปที่หัวงูแบนเรียบของมัน…

“เป็นไปไม่ได้ ทำไมข้าถึงหลบไม่พ้น เจ้าใช้ลูกไม้อะไรกันแน่”

ฟางหนิงงุนงงเช่นกันแต่เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะดูการแจ้งเตือนของระบบ ถ้าเกิดระบบต้องการเรียกเขา เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อม

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงระงับความสงสัยไว้ก่อน รอจนกว่าจะสิ้นสุดศึกครั้งนี้ค่อยสอบถาม

งูจงอางตัวนั้นถอยหลังอย่างกะทันหันราวกับต้องการหลบการโจมตีของ ’อัศวินหนังสือบิน’ มันถอยห่างออกไปถึงหนึ่งพันเมตร เมื่อทุกคนมองจากกำแพงก็เห็นเพียงแค่จุดสีดำเล็กๆ เท่านั้น……

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าคราวนี้อัศวิน A อาจจะโจมตีไม่ได้อีกแล้ว

อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมา เสียงหงุดหงิดโมโหของงูจงอางยังคงดังเข้ามาในหูของทุกคน

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีถูกข้าทุกครั้ง!”

‘โครม!’

“เจ้ารนหาที่ตาย!”

‘ปัง!’

ทุกคนบนกำแพงปกป้องค่ายกลและสกัดการโจมตีของสัตว์ปีศาจไปพลางแอบสงสัย ‘ดูเหมือนว่าอัศวิน A ทำอย่างนี้จะไม่ได้ประโยชน์เลย เขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่’

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาพวกเขาก็รู้จุดประสงค์ของอัศวิน A แล้ว งูจงอางดูเหมือนจะถูกยั่วโมโห และดูเหมือนว่ามันกลายเป็นงูงี่เง่าในทันที ขณะที่พวกสัตว์ปีศาจยังไม่บาดเจ็บล้มตายมาก คราวนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะมันนำลงมือก่อน!

มันไม่ให้ปีศาจกิ้งก่าสีเขียวที่อยู่ข้างมันตลอดลงมือด้วยซ้ำ และท่าทางของมันต้องการแก้แค้นอัศวิน A กับมือของมันเอง

มันไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังอีกต่อไป แต่เลื้อยเข้าไปที่ใต้กำแพงอย่างว่องไว ใกล้ขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ ห่างจากหุบเหวเพียงสามก้าวและห่างจากกำแพงค่ายไม่ถึงระยะยิงธนู!

ทุกคนเห็นหัวแบนเรียบเจ้าเล่ห์ และลำตัวงูยาวเหยียดที่น่าสะพรึงได้ชัดเจนอีกครั้ง

พวกเขาไม่เคยเห็นผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำที่เก่งที่สุดและเข้าใกล้กับระดับทะเลสาบลงมือมาก่อน

ตามคำแถลงอย่างเป็นทางการ ครั้งนี้จะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ A ที่อยู่จุดสูงสุดและสมบูรณ์แบบลงมือต่อสู้เอง!

“ตอนนี้ข้าจะให้เจ้ามังกรแท้ทำลายงานใหญ่เป็นเทพของข้าได้ประจักษ์ไม้ตายที่แท้จริงของข้าสักหน่อย!! กระบวนท่าที่มังกรแท้ก็ไม่อาจต้านทานได้!

“การอพยพครั้งก่อนข้าวางพิษไร้รูปร่างที่ทำให้สับสน มันทำงานช้าๆ ไม่มีใครระแคะระคาย และยังกำหนดเป้าหมายผู้อ่อนแอที่ต่ำกว่าระดับ C เท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับกองทัพของพวกเจ้า

“เดิมทีข้าต้องการใช้กลอุบายล่อเสือออกจากถ้ำและให้เวลาเจ้ามังกรแท้อีกสองวัน รอจนกว่าพิษหัวใจของพวกมันจะทำงานเต็มที่และไม่มียาใดรักษาได้ แต่เจ้าฉลาดพอที่จะล่วงรู้แผนการของข้าก่อน นึกไม่ถึงจะทำให้เจ้าตายเร็วขึ้นสองวัน!”

“ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าประจักษ์ถึงคำสาปสังหารที่ข้าฝึกฝนเพื่อจัดการผู้แข็งแกร่งระดับ A! ครั้งนี้เป็นการฆ่าในพริบตา”

คำพูดของงูจงอางดังก้องไปทั่วหุบเขา เฉียวจื่อเจียงที่อยู่บนกำแพงก็หน้าเปลี่ยนสี

เธอเตือนด้วยความกังวล “ทุกคน ระวังตัว! นี่คงเป็นคำสาปสังหารที่มุ่งเป้าดวงวิญญาณโดยเฉพาะ เจ้าอสรพิษตัวนี้จะไม่ต่อสู้กับคนโดยตรง แต่จะใช้วิธีที่ชั่วร้ายที่สุดเท่านั้น!”

งูจงอางเชส “หึๆ เจ้าเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เดาได้เก่งดีนี่ แต่ไม่มีใครป้องกันได้!”

มันหัวเราะเยาะเย้ย ดวงตาของของมันพลันฉายแสงประหลาดสีเขียวจางๆ สองดวง และเมื่อแสงสีเขียวอ่อนสองดวงนี้ปรากฏขึ้นก็พุ่งไปที่ใครบางคนบนกำแพงทันที!

ทุกคนรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัวและเตรียมพร้อมเต็มที่ในทันที

ในเวลานี้ คนส่วนใหญ่มองไปยังอัศวิน A โดยไม่รู้ตัว สงสัยว่าอัศวินผู้นี้ ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณจะต้านทานคำสาปวิญญาณที่ชั่วร้ายได้หรือไม่

ทว่ามีคนหนึ่งรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเมื่อพบว่าแสงสีเขียวอ่อนสองดวงพลันส่องไปที่บุคคลที่เธอห่วงใยและคนผู้นั้นดูเหมือนจะไม่รู้ตัว!

“คุณอา ระ…”

ก่อนที่เธอจะเตือนได้ทันก็มีเสียงน่าขนลุกดังขึ้นตามมาทันที “ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! เฉียวอันผิง ทำลายวิญญาณ!”

หา! ทุกคนเข้าใจว่าเป้าหมายของมันคือการโจมตีอัศวิน A ที่ยั่วโมโหมันเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงเป้าหมายจะกลายเป็นเฉียวอันผิงแทน ฉลาดแกมโกงเสียจริง! มันไม่ได้กลายเป็นงูงี่เง่าสินะ

บนกำแพงเมือง เฉียวอันผิงที่กำลังต่อสู้เต็มกำลัง กำลังยิงลำแสงดาบสีแดงเลือดใส่ปีศาจที่พุ่งไปที่กำแพงเพื่อขัดขวางการโจมตีของพวกมันให้มากที่สุด เขาจดจ่อกับการฆ่าศัตรูมากจนไม่รู้ว่าเป้าหมายของแสงเขียวทั้งสองดวงจะเป็นเขา…

สิ้นเสียงของเชส เขาก็หยุดโจมตีทันที สีหน้าของเขาก็ตกใจ นัยน์ตาว่างเปล่า ทั้งตัวก็ล้มลงไปทันที!

ทุกคนตกตะลึงในทันที เฉียวจื่อเจียงน้ำตาไหลคลอเบ้า เธอคิดไว้อยู่แล้วจึงรีบเดินเข้าไปกอดคุณอาแล้วประคองอีกฝ่ายไว้

“คุณอา คุณอาจะต้องไม่เป็นอะไร!”

“อาเป็นทายาทมือสังหารของตระกูลเฉียว มีกลิ่นอายสังหารคุ้มกาย คำสาปมุ่งเป้าจิตวิญญาณเท่านั้นไม่มีทางทำร้ายอาได้!”

ทว่าเฉียวอันผิงดูเหมือนจะไม่ได้ยินที่เธอพร่ำร้อง เขาอยู่ในอ้อมแขนของหลานสาวไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ดวงตาของเขาไม่จับจุด ตัวเขาแน่นิ่งเหมือนกับรูปปั้นราวกับว่าเขากำลังสูญเสียวิญญาณ…

ไม่ว่าเฉียวจื่อเจียงจะตะโกนดังแค่ไหน เขาก็ไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย

“ฮ่าฮ่าฮ่า เขาถูกคำสาปของข้าทำลายดวงวิญญาณแล้ว ต่อจากนี้ไปเขาก็คือคนตายทั้งเป็น! น่ากลัวใช่ไหม! ถึงคราวของเจ้าแล้ว อัศวิน A!”

ที่แท้มันฆ่าเฉียวอันผิงก่อนก็เพื่อทำให้อัศวิน A ตกอยู่ในความกลัวนั่นเอง มันถูกความแค้นบดบังสติปัญญา นี่ไม่ใช่สิ่งที่บอสฉลาดๆ เขาทำกัน เพราะมันทำให้อัศวิน A ระมัดระวังตัวมากขึ้น…

แสงสีเขียวอ่อนสองดวงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่หัวของอัศวิน A!

อัศวิน A หลบวาบว่องไว แต่แสงจะเร็วแค่ไหนกัน แสงนั้นตรึงเป้าหมายที่หัวของเขา!

อัศวิน A ดูเหมือนจะไม่มีทางหลบหนีพ้น

“ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! อัศวิน A ทำลายวิญญาณ!”

ฟางหนิงเห็นสถานการณ์แล้วก็ตกใจ เฉียวอันผิงตายแล้วเหรอ เขาเป็นหนึ่งในหกผู้นำของสำนักงานสัจธรรมแห่งเสินโจวเชียวนะ ผู้แข็งแกร่งระดับ A ที่ได้รับการฝึกโดยองค์กร

เวลานี้ระบบไม่ได้แข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้มากนัก…

ในเวลานี้ ในใจของเขาตึงเครียดขึ้น แต่เขาพบว่าตัวเองนิ่งเฉยและไม่ได้รับผลกระทบเลย

เขารีบถาม “ระบบ แกยังสบายดีไหม!”

ระบบ “ไม่เป็นไร ชื่อที่มันตะโกนไม่ใช่ชื่อของฉัน…”

ฟางหนิงโล่งใจแล้วถามต่อ “เฉียวอันผิงตายแล้วจริงๆ เหรอ ผู้ชายคนนั้นหยิ่งยโสดูไม่เหมือนคนอายุสั้นเลย…”

ระบบ “เอ๊ะ โฮสต์ เรียนรู้ที่จะสังเกตและวิเคราะห์ลักษณะคนตั้งแต่เมื่อไหร่ เฉียวอันผิงสามดวงจิตเจ็ดวิญญาณ[1]บาดเจ็บสาหัส ไม่ต่างกับคนตายไปแล้วจริงๆ แต่ป้อนยาเสริมพลังวิญญาณให้เขาสองสามเม็ดก็ช่วยชีวิตได้แล้ว ทำไมเฉียวจื่อเจียงถึงได้เสียใจขนาดนั้นล่ะ”

ฟางหนิงโล่งใจเล็กน้อยเพราะเฉียวอันผิงเป็นพันธมิตร เขาจะรู้สึกไม่ดีถ้าเฉียวอันผิงตายจริงๆ

เขาหมดคำจะพูดกับระบบอีกครั้ง “เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้ความสามารถของแก คิดว่าญาติของเธอตายแล้ว การร้องไห้จึงเป็นเรื่องปกติ แกไม่ใช่มนุษย์จะเข้าใจคุณค่าของครอบครัวได้ยังไงกัน”

ระบบ “ฉันไม่สนใจครอบครัวของเธอ แต่ฉันสนใจเงินของเธอ ฉันจำได้แค่ว่าเธอรวยมาก ครั้งแรกที่เราเจอกันเพราะเราฆ่าปีศาจสามตัวของตระกูลไป๋เพื่อช่วยพี่ชายของเธอฟื้นคืนพลัง เธอให้เงินเรา 50 ล้าน เดี๋ยวถ้าช่วยชีวิตอาของเธอแล้ว เธอควรจะให้เงินเราอีกห้าร้อยล้านจริงไหม”

ฟางหนิง “แกนี่มันชั่วร้ายจริงๆ…”

ฟางหนิงพูดอย่างนี้แต่ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นที่เฉียวอันผิงยังไม่ตาย ดูเหมือนว่าอัศวิน A ที่ถูกแสงสีเขียวสองดวงอย่างมากที่สุดก็แค่ทำให้บาดเจ็บหนัก…

บัดนี้กลุ่มของสัตว์ปีศาจยังคงโจมตีกำแพง ค่ายกลป้องกันบนกำแพงมีลำแสงสว่างขึ้นสกัดกั้นไม่ให้เจ้าพวกนี้โจมตีเข้ามา

โชคดีที่พวกมันไม่มีเหตุผล ไม่เข้าใจจังหวะการโจมตี และยิ่งไม่เข้าใจจุดอ่อนของค่ายกล ไม่เช่นนั้นก็ยากที่จะบอกว่าพวกเขาจะต้านทานพวกมันได้นานแค่ไหน

แต่ในเวลานี้ทุกคนไม่มีใจระวังแนวป้องกันของกำแพง ทุกคนต่างจ้องไปที่อัศวิน A เป็นตาเดียว

พวกเขาคิดว่าเฉียวอันผิงตายแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาเศร้าและเจ็บปวด แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับความเจ็บปวด

ถ้าขืนอัศวิน A ตายอีกคน ผู้อาวุโสไห่ก็แก่เฒ่า แม้ว่าเขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ A แต่พลังของเขาไม่ใช่ใช้กับการโจมตีสังหารได้ ผู้อาวุโสสวี่ก็เช่นเดียวกัน เขายังคงต้องรักษาคนในกองทัพ

ที่นี่ไม่มีนักสู้ระดับ A คนอื่นแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีใครยับยั้งงูจงอางตัวนี้ได้ และในไม่ช้าพวกเขาต้องหมดหวังแน่นอน…

ในเวลานั้น ดินแดนมรดกทั้งหมดจะถูกชาวเทียนจู๋แย่งชิงไป และรากฐานของสำนักงานสัจธรรมจะเสียหายอย่างมาก ในอนาคตจะไม่มีพลังแข็งแกร่งควบคุมสถานการณ์ที่ซับซ้อนของเสินโจว ไม่รู้ว่าต้องเสียสละมากมายเท่าใดถึงจะกอบกู้สถานการณ์ขึ้นมาได้บ้าง

ในเวลานี้เพราะระบบกับฟางหนิงคุยเรื่องไร้สาระกันอยู่ อัศวิน A จึงยืนเหม่อครู่หนึ่ง

ทุกคนที่ได้เห็นแม้ว่าจะผ่านการฝึกฝนมาอย่างยาวนานและมีปณิธานที่เข้มแข็ง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกหมดแรง!

โชคดีที่ ปัง! เสียงที่คมชัดดังขึ้น ขับไล่ความรู้สึกหมดแรงของพวกเขา อัศวิน A ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร พวกเขายังมีความหวังอยู่ใช่ไหม

“บัดซบ เจ้ายังจะกล้าตีข้าด้วยหนังสือพังๆ เล่มนั้น เจ้ายังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ ไม่ถูก! ไปตายซะ ทำไมจู่ๆ ในหัวของข้าถึงสับสน ข้าเอาชื่อลับที่สำนักงานสัจธรรมให้เจ้ามาเป็นชื่อจริง! ข้าเสียพลังไปเปล่าประโยชน์..”

เมื่อทุกคนได้ยิน ใครเป็นคนแรกที่ตั้งชื่อลับนี้ให้อัศวิน A กันนะ ดูเหมือนว่าจะช่วยชีวิตเขาไว้

แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็วิตกกังวลอีกครั้ง

“ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณ ทำลายวิญญาณ!”

ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณเป็นชื่อของมังกรแท้ทั้งสองตัวที่ท่านมังกรขาวพูดเองกับปาก ครั้งนี้จะไม่เป็นไรใช่ไหม

ฟางหนิงพูดอย่างใจเย็น ชื่อนี้ฉันเป็นคนสร้างเอง…

ฟางหนิงสามารถเห็นรายละเอียดของคู่ต่อสู้ “มันเป็นคำสาปสังหารที่เจ๋งสุดๆ แต่ก็มีข้อจำกัด อยากจะได้ผลต้องใช้แสงสีเขียวประหลาดในดวงตากำหนดเป้าหมายคู่ต่อสู้ในระยะใกล้ และในคำสาปต้องเอ่ยชื่อจริงของอีกฝ่ายถึงจะเป็นผล”

ระบบ “ใช่ ฉันต้องยอมรับโฮสต์ คุณเจ๋งมาก ตั้งชื่อไอดีให้ตัวเองเยอะแยะและยังมองการณ์ไกลจริงๆ ตอนนี้ก็ช่วยฉันได้มาก”

คราวนี้ทุกคนไม่ต้องรอดูว่าอัศวิน A จะเป็นอย่างไร เพราะด้วยเสียง “ปัง” ทำให้ “อัศวินหนังสือบิน” โจมตีหัวงูอีกครั้ง!

“บ้าจริง ชื่อไหนเป็นชื่อของเจ้ากันแน่ ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! ท่านเทพมังกรขาว ทำลายวิญญาณ!”

ฟางหนิง: ไม่ว่าจะชื่อไหนก็ไม่ใช่…

“ยังมีชื่อสุดท้าย ขับไล่วิญญาณ วาจาศักดิ์สิทธิ์! อัศวินแห่งฉีเฉิง ทำลายวิญญาณ!”

ฟางหนิง: ยังไม่ถูกต้อง…

งูจงอางเชสโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“ให้ตายเถอะ เจ้าเป็นอัศวินยิ่งใหญ่ไม่ใช่เหรอ ที่แท้เจ้าก็เป็นแค่คนขี้ขลาด! แม้แต่ชื่อจริงยังไม่กล้าใช้ เสียงเพลงที่เล่นก่อนหน้านี้สูงส่งขนาดนั้น วีรบุรุษอะไร อัศวินอะไร ถุย โกหกทั้งเพ!”

ฟางหนิง: ขอโทษที ฉันก็เจ๋งอย่างนี้ ไม่ใช้ชื่อจริง แกจะทำยังไง…

ไม่ใช่เพื่อป้องกันทักษะประหลาดของแกไม่ใช่หรือ ถ้ายุคใหม่ไม่มีสารเลวอย่างแก ฉันจะไม่ใช้สถานะของฟางหนิงหรือไง ตั้งชื่อไอดีมากมายขนาดนั้นให้ตัวเอง ฉันเองก็รำคาญใจเหมือนกัน…

มันยังอยากจะใช้คำสาปสังหารอีก แต่ไม่ได้ออกเสียงอยู่นาน ทุกคนถึงได้สังเกตเห็นร่างกายของมันหดตัวลงโดยที่ไม่รู้ตัว และมันหดตัวเกือบจะมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับตอนแรก

ระบบ “เยี่ยมมาก อสรพิษตัวนี้ไม่เพียงแต่จะงี่เง่า แต่ความแข็งแกร่งยังลดลงอย่างมาก ถึงเวลาที่ฉันจะลงมือแล้ว!”

…………………………………………………………..

[1] สามดวงจิตเจ็ดวิญญาณ (三魂七魄) หมายถึง สามดวงจิตคือฟ้า ดินและมนุษย์ เจ็ดวิญญาณคือรัก โลภ โกรธ หลง เศร้า กลัวและดีใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+