เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย
ฟางหนิงบิดเอวของเขาอย่างแรงพลางหาวเสียงดัง เขาง่วงจะตายอยู่แล้ว

ระบบ “ขนาดนั้นเลยเหรอ? ระบบฟาร์มมาแปดวันแปดคืนติดต่อกัน แต่ไม่ยักกะเหนื่อยเท่าโฮสต์ที่ได้นอนเต็มอิ่มทุกวัน”

ฟางหนิง “แกคิดว่าฉันเป็นอมนุษย์เหมือนแกเหรอ ความโกรธของฉันกำลังจะระเบิดแล้ว ลองดูหน่อยไหม? หลักจากผ่านสนามรบมาแล้ว ให้ฉันพักสักหน่อยเถอะ แกอย่าห้ามฉันนักเลย”

คำแนะนำของระบบ ระบบเปิดใช้งานร่างมังกรตัวจริง

ระบบใช้ความหมายที่ลึกซึ้ง ‘มังกรเพลิงกลืนนภา’

ระบบกลืนบอสต่อยักษ์กลายพันธุ์ซึ่งสามารถใช้เป็นยาหลักของสูตรยาต่างๆ ได้

ระบบใช้ความหมายที่ลึกซึ้ง ‘มังกรกลืนวายุ’

ระบบสังหารต่อยักษ์กลายพันธุ์ชนชั้นสูง…

ระบบสังหารร่างวิวัฒนาการของต่อยักษ์กลายพันธุ์…

ระบบกลืนศพต่อยักษ์กลายพันธุ์ทั้งหมดและเก็บไว้ในห้องกลั่นยา

…………

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 4 ล้านคะแนน

ระบบยุติการทำอันตรายครั้งใหญ่ต่อผู้คนในเสินโจวชั่วคราว โฮสต์ได้รับความชื่นชอบ 1 คะแนนสำหรับคุณลักษณะทั้งหมดของเทพมังกรตัวจริง

ระบบได้รับชื่อเสียงที่กล้าหาญจำนวนมาก ระดับของอัศวิน A ได้รับการยกระดับเป็น ‘โด่งดังไปทั่วโลก’ และมาตรวัดความชอบธรรมได้เพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ เนื่องจากผลของสกิล ‘เวอร์ชันไม่สมบูรณ์ของคัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล’ และ ‘ปราณแท้เสริมร่าง’ จำนวนช่องปราณแท้ทั้งหมดในปัจจุบันเพิ่มขึ้น 10 ช่อง

ระบบได้รับพลังงานบวกจำนวนมาก ช่องพลังงานบวก 10 ช่องในปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ระบบได้รับอาวุธวิเศษ ‘โบราณวัตถุฮุ่ยหยวน’ ซึ่งกักเก็บพลังเวทไว้เป็นจำนวนมาก หลังบริโภคสามารถใช้เป็นอุปกรณ์สำรองพลังเวทหรือพลังงานความโกรธได้

ระบบได้รับค่ายกล ‘ค่ายกักกันสี่สภาพ’ และสามารถเปิดใช้งาน ‘ค่ายกักกันสี่สภาพ’

ฟางหนิงพอใจและรู้สึกง่วงน้อยลงชั่วขณะหนึ่ง กล่าวอย่างมีชัยว่า “นอกเหนือจากครั้งก่อน แกได้รับประสบการณ์ 7 ล้านครั้ง ทั้งได้รับวัตถุดิบทางการแพทย์จำนวนมากและสมบัติอีกสองชิ้นจากคนอื่น แต่ฉันยังคงกังวล ขอให้คนของสำนักสัจธรรมโทรหาเซวียปาหน่อยดีกว่า จมูกของมันดีมาก แม้แต่การมีอยู่ของแกก็ยังได้กลิ่น เมื่อเวลาผ่านไปมันจะต้องช่วยเราจับปีศาจแมลงนั้นได้แน่ และเมื่อเวลานั้นมาถึงก็คงมากด้วยประสบการณ์แล้ว หากไม่ได้ผลเราก็ยังมีรายได้อื่นอีก ประสบการณ์ครั้งนี้จะทำให้พลังในการสังหารของแกเหนือกว่าอาชญากรทั่วไปกว่าครึ่งปีเลยนะ”

ระบบ “โฮสต์อย่าพิรี้พิไรเลยเลย ต้องการรางวัลภารกิจก็แค่พูดออกมา…”

ฟางหนิง “ดูแกสิ คราวนี้ต้องยกความดีความชอบให้ฉันมากๆ นะ ฉันเหนื่อยจนเป็นลมไปสองสามรอบแล้ว แต่ไหนแต่ไรฉันไม่เคย…”

ระบบ “หลังจากจับแมลงปีศาจได้แล้ว ระบบจะให้เวลาโฮสต์ได้เล่นตามใจหนึ่งสัปดาห์ โฮสต์สามารถใช้ร่างนี้ได้ตามต้องการแค่ไม่ทำเรื่องเลวร้ายก็พอ”

ฟางหนิง “ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ใช่ร่างของฉันมานานแค่ไหนแล้วนะ? ว่าแต่ไม่มีโบนัสให้สักหน่อยเหรอ?”

ระบบ “ระบบจะให้เงินไปลงทุนสำหรับเกมใหม่อีก 2.5 ล้านแล้วกัน”

ฟางหนิง “คิดจะให้ 2.5 ล้านตลอดเลยหรือไง?”

ระบบ “งั้นลบเลขทศนิยมข้างหน้าออกเหลือห้าแสนก็พอ”

ฟางหนิง “ไหนแกบอกว่าจะแบ่งคนละหกเปอร์เซ็นต์ยังไงล่ะ แกคิดว่าฉันจะโง่เหรอ สิบล้านถ้วนห้ามต่อรอง”

ระบบ “อีกเดี๋ยวจะโอนให้”

ฟางหนิงกลับไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของระบบด้วยความพึงพอใจ เขาไม่ได้เล่นเกมต่อแต่กลับผล็อยหลับ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกเทพแห่งระบบโกงรางวัลตอบแทน เขาจึงพยายามอดทนต่อความง่วงงุนในขณะที่กำลังเจรจา…

ขณะที่เขานอนอยู่บนพื้นจวนจะหลับเต็มทีนั้น ฟางหนิงพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเช้านี้เขาควรจะได้เตียงของร้านอินเทอร์เน็ตมาแล้ว แต่กลับล่าช้ามาจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าการวินิจฉัยของระบบเบื้องต้นจะไม่ผิดเพี้ยน มะเร็งกระดูกสันหลังของเขาคงจะอยู่ในระยะสุดท้ายแล้วแน่นอน…

ฟางหนิง “ท่านเทพระบบขอรับ ดูพื้นที่สำรองของแกให้ทีสิว่ามีหมอนอิงหรือหมอนหนุนบ้างไหม อย่างน้อยก็ช่วยอนุเคราะห์หาที่นอนให้ยอดวีรบุรุษของเราด้วย”

ทันทีที่เสียงลดลง ระบบก็ปรากฏ

ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 100,000 คะแนน เพื่อสร้างห้องรับรองหลัก เอฟเฟ็กต์: เร่งการฟื้นฟูพลังของโฮสต์เล็กน้อย

ฟางหนิงเห็นบ้านที่รายล้อมไปด้วยหญ้าเขียวขจีปรากฏขึ้นข้างร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เมื่อจะผลักประตูเข้าไป ก็พบว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ครบครัน รวมทั้งโซฟาและเตียง

ฟางหนิง “เอาล่ะ ท่านเทพคุณนี่มันขี้เหนียวเกินไปแล้ว แกคงไม่สร้างมันขึ้นมาให้ฉันด้วยค่าประสบการณ์อันน้อยนิดหรอกนะ สิ่งนี้คงจะช่วยให้ฉันนอนหลับได้มากกว่าเมื่อก่อนด้วยใช่ไหม”

ระบบหยุดนิ่งหลังจากได้ยินประโยคหนึ่ง “หนึ่งแสนคะแนนประสบการณ์น่ะเหรอที่เรียกว่าน้อย? เวลาโฮสต์เล่นเกมมากกว่าเวลาที่โฮสต์นอนซะอีก โฮศต์สามารถนอนหลับให้เพียงพอได้อยู่แล้วถ้าคุณเล่นให้น้อยลง การปรับปรุงประสิทธิภาพการฟื้นฟูพลังงานอะไรนั้นไม่จำเป็นเลยสักนิด”

ฟางหนิง “แต่ฉันก็หลับไปหลายครั้งเพื่อฟื้นฟูพลังงานตอนที่กำจัดต่อยักษ์แล้วนี่ ทำไมแกถึงไม่สร้างมันขึ้นมาให้ฉันสักอันเพื่อประหยัดเวลาล่ะ”

ระบบ “โฮสต์คงไม่ได้หมายถึง…”

ฟางหนิงพูดไม่ออก “เพราะแกคิดว่ามีเสถียรภาพ เลยไม่จำเป็นต้องสร้างมันให้ฉันสินะ แกถึงต้องการผลักภาระมาที่ฉัน ว่าแต่ทำไมแกถึงสร้างบ้านของฉันเป็นสีเขียวล่ะ? ตอนที่ฉันเห็นสีเขียว ฉันกลัวจนอยากจะรีบเปลี่ยนสีทันทีเลย”

ระบบตอบกลับ “สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูไม่ใช่เหรอ? ถ้าโฮสต์อยากเปลี่ยนสีก็รอการอัปเกรดครั้งต่อไปแล้วกัน”

ฟางหนิงไม่มีอะไรจะพูด คราวนี้เขาล้มลงบนเตียงและผล็อยหลับไป

…………

หมาเหลืองเซวียปานั่งอยู่บนดาบบินบินไปยังที่ที่อัศวิน A อยู่ เมื่อรับน้ำหนักเพิ่มมาอีกหนึ่ง ความเร็วจึงลดลงมาก ถึงอย่างนั้นไม่ถึงพันลี้พวกเขาก็มาถึงในพริบตา แน่นอนว่าเซวียเฟิงไม่ได้เร่งความเร็วสูงสุดเพื่อรักษาความปลอดภัย

สิ่งนี้ทำให้สุนัขเด็กเรียนแสดงความคิดเห็นสองสามอย่าง “ความเร็วโอเค แต่คุณไม่มีทักษะเพียงพอที่จะเป็นคนขับเอาซะเลย ในการต่อสู้จริง การเคลื่อนไหวสองหรือสามครั้งสามารถทำให้คุณชนกำแพงได้นะ”

เซวียเฟิงไม่คุ้นเคยกับการพูดคุยกับคนแปลกหน้า นับประสาอะไรกับสุนัข

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าสุนัขพูดได้ตัวนี้มีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาและเป็นโอกาสที่ดีที่จะขอคำแนะนำ ทว่าเขากลับไม่พูดอะไรสักคำ เพียงส่งสุนัขเด็กเรียนไปยังจุดหมายปลายทาง และเมื่อพบอัศวิน A ก็เพียงพยักหน้ารับแล้วจากไป

เทพแห่งระบบไม่ได้พูดอะไรเรื่อยเปื่อย ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดอะไรเขาก็จำเป็นไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วบิน…

เป็นเรื่องตลกที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถขอค่าตั๋วบินจากอัศวิน A ได้เลย และงานสำคัญอย่างหนึ่งในสำนักสัจธรรมคือการคำนวณว่าควรให้รางวัลภารกิจแก่อัศวิน A เท่าไรดี…

ฟางหนิงงีบหลับเพียงสิบกว่านาทีก่อนจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

ฟางหนิงกลายเป็นมังกรขาว พลางถือศพต่อยักษ์อยู่ในมือ “มาเร็วมากเซวียปา มานี่แล้วดมกลิ่นนี้ทีสิ นายรู้ไหมว่าใครอยู่เบื้องหลังพวกมัน”

หมาเหลืองเซวียปาเพียงกระตุกจมูกของมันเบาๆ เอ่ย “ต่อยักษ์กลายพันธุ์ตัวนี้เห็นได้ชัดว่ามีร่องรอยของปีศาจสองตนคือปีศาจแมลงและพญาแมลง พวกมันทั้งสองเคยอยู่ในโลกที่แล้ว หลังจากการปิดกั้นและปราบปรามหลายครั้งมันดิ้นรนอยู่พักหนึ่งแล้วเล็ดลอดผ่านตาข่ายออกมาได้”

ฟางหนิงพอใจมากที่อีกฝ่ายพูดความจริงทันที ดูเหมือนว่าความหวังในการไล่ตามบอสที่อยู่เบื้องหลังจะอยู่อีกไม่ไกล อย่างน้อยได้รู้ว่ายังมีเหลืออีกสองตัว ก็ดีมากแล้ว

ฟางหนิง “นายหาที่อยู่ของมันเจอไหม?”

หมาเหลืองเซวียปาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “หากตามหาพญาแมลง กระผมค่อนข้างมั่นใจ ทว่าปีศาจแมลงมีร่างโคลนจำนวนมากและซ่อนตัวได้ดี ยากต่อการติดตาม ตราบใดที่มันไม่ตายก็สามารถฟื้นคืนชีพพญาแมลงและเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดได้ ในโลกเบื้องบนมีมหาอำนาจมากมาย การปิดกั้นและการปราบปรามซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้ทำให้มันหมดไปเลย”

ฟางหนิงรู้สึกผิดหวัง เวลานี้ดูเหมือนเทพแห่งระบบจะเป็นอมตะก็จริง แต่ข้อเสียใหญ่อย่างหนึ่งคือไม่มีหนทางที่ดีสำหรับบรรดาผู้หลบซ่อน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในทันที

ในอดีตพวกเขาทั้งหมดอยู่ตัวคนเดียว แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะสามารถแบ่งปันเครือข่ายข่าวกรองของสำนักสัจธรรมได้ในระดับหนึ่ง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ใช่องค์กรระดับเล็ก ทะเลใต้ดินเป็นพื้นที่หวงห้ามของหน่วยสืบราชการลับ ทำได้เพียงหวังว่าแผนที่ระบบจะถูกปลดล็อกมากขึ้นในอนาคต

ฟางหนิง “ลืมมันไปเถอะ ถ้านายฆ่าพญาแมลงได้อีกสักตัว นายก็จะได้เงินดังนั้นรีบไปหามันเร็ว”

หมาเหลืองเซวียปาพยักหน้า “โปรดตามข้ามานายท่าน”

หลังจากพูดจบ มันก็วิ่งไปในทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นไม่น้อยไปกว่าความเร็วของต่อยักษ์ตัวที่อัศวิน A ใช้ติดตามฝูงแมลงไปก่อนหน้านี้

สิ่งนี้ทำให้ฟางหนิงแอบตะลึง เจ้าหมาเหลืองได้พักผ่อนเพียงสิบวันเท่านั้น แต่ความเร็วของมันกลับสามารถฟื้นฟูได้ในระดับนี้แล้ว

ดูเหมือนว่าแรงกดดันของเทพแห่งระบบจะยังคงสูงมาก เหล่าชายร่างใหญ่ยังไม่บังเกิดลงมา ดังนั้นคงต้องเพิ่มเวลาในการฝึกฝนอีก แน่นอนว่าภาระหน้าที่นี้คงต้องส่งต่อให้เทพแห่งระบบต่อไปและตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายมันโคตรเจ๋งเพื่อควบคุมสถานการณ์โดยรวม…

…………

ณ ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำ

ปีศาจแมลงกำลังเดินไปมา ใบหน้าฉายชัดถึงความหวังเต็มเปี่ยม“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เป็นอย่างนี้เอง เป็นอย่างนี้นี่เอง! แม้ว่าฉันจะล้มเหลว แต่ฉันก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน!”

พญาแมลงไม่พูดอะไร เพียงมองเขาที่ยิ้มอย่างพึงพอใจ

“ท้ายที่สุดเมื่อมังกรเผชิญหน้ากับวงล้อมของฝูงต่อจากทุกทิศทุกทาง มันสามารถหลบได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเพราะใช้พลังของเทคโนโลยีบางอย่างในโลกนี้ ซึ่งมังกรตัวจริงในอดีตไม่มีความสามารถ และนี่คือแนวทางหนึ่งที่ฉันค้นคว้าได้อย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้ฉันต้องการดูว่าภายใต้พลังทางเทคโนโลยี อาวุธเห็ดของพวกมันสามารถกลายพันธุ์ฝูงแมลงได้อีกไหม แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่กล้าพอที่จะทำตามความปรารถนาของฉัน แน่นอนว่าทุกคนไม่ได้โง่เขลาและสามารถเห็นความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์บนโลกนี้ มังกรตัวนี้ประสบความสำเร็จล่วงหน้าด้วยการช่วยเหลือของพลังทางเทคโนโลยี มันเอาชนะพลังรูปแบบเดิมของเราไปได้โดยปริยาย การแสดงออกนี้ยืนยันความคิดของฉันแล้ว ตราบใดที่ฉันให้เวลาตัวเองอีกสักหน่อย ฉันต้องสามารถสร้างฝูงแมลงที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนได้แน่ เมื่อถึงตอนนั้นมังกรตัวนี้จะไม่มีทางอาละวาดได้อีกต่อไป ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ขณะนั้นพญาแมลงก็พลันถอนหายใจแรง มันไม่อยากฟังการการวิเคราะห์หลังสงครามที่น่าภาคภูมิใจของปีศาจแมลงอีก

ร่างกายของมันได้เปลี่ยนจากขนาดของวาฬสีน้ำเงินเหลือเพียงขนาดของแรดธรรมดาแล้ว ในช่วงแปดวันมานี้ของการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง มันสูญเสียพลังมหาศาล

พญาแมลงหอบหายใจเล็กน้อย ท่าทางคล้ายกำลังลังเล ท้ายที่สุดก็พูดขึ้น “อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย เราสูญเสียพลังไปเกือบจะเท่าๆ กัน ถึงเวลาที่เราต้องหนีแล้ว และเนื่องจากสถานที่นี้ถูกค้นพบโดยผู้อาวุโสตระกูลไป๋แล้ว มันจึงไม่เป็นสถานที่ลับอีกต่อไป”

ปีศาจแมลงพูดอย่างเฉยชา “คุณกลัวอะไร ตาแก่คนนั้นคิดอยู่เสมอและกังวลมากเกินไป เราจะไม่เปิดเผยที่อยู่ของเราโดยเสี่ยงที่จะถูกตอบโต้ในภายหลังหรอกนะ ฉันแค่คิดว่าพลังทางเทคโนโลยีที่มังกรใช้คืออะไรกันแน่ อีกสองสามวันค่อยคุยเรื่องการถ่ายโอนนี้ก็แล้วกัน”

ดวงตาหลายสิบคู่สบมองใบหน้าที่ซับซ้อนของพญาแมลง และในที่สุดก็ตัดสินใจ

ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อปีศาจแมลงคิดถึงกระบวนการต่อสู้ทั้งหมดและพิจารณามันอย่างเงียบๆ ก็มีเสียงราบเรียบเสียงหนึ่งดังขึ้นในถ้ำ

“หมื่นผีกินวิญญาณ…”

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย
ฟางหนิงบิดเอวของเขาอย่างแรงพลางหาวเสียงดัง เขาง่วงจะตายอยู่แล้ว

ระบบ “ขนาดนั้นเลยเหรอ? ระบบฟาร์มมาแปดวันแปดคืนติดต่อกัน แต่ไม่ยักกะเหนื่อยเท่าโฮสต์ที่ได้นอนเต็มอิ่มทุกวัน”

ฟางหนิง “แกคิดว่าฉันเป็นอมนุษย์เหมือนแกเหรอ ความโกรธของฉันกำลังจะระเบิดแล้ว ลองดูหน่อยไหม? หลักจากผ่านสนามรบมาแล้ว ให้ฉันพักสักหน่อยเถอะ แกอย่าห้ามฉันนักเลย”

คำแนะนำของระบบ ระบบเปิดใช้งานร่างมังกรตัวจริง

ระบบใช้ความหมายที่ลึกซึ้ง ‘มังกรเพลิงกลืนนภา’

ระบบกลืนบอสต่อยักษ์กลายพันธุ์ซึ่งสามารถใช้เป็นยาหลักของสูตรยาต่างๆ ได้

ระบบใช้ความหมายที่ลึกซึ้ง ‘มังกรกลืนวายุ’

ระบบสังหารต่อยักษ์กลายพันธุ์ชนชั้นสูง…

ระบบสังหารร่างวิวัฒนาการของต่อยักษ์กลายพันธุ์…

ระบบกลืนศพต่อยักษ์กลายพันธุ์ทั้งหมดและเก็บไว้ในห้องกลั่นยา

…………

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 4 ล้านคะแนน

ระบบยุติการทำอันตรายครั้งใหญ่ต่อผู้คนในเสินโจวชั่วคราว โฮสต์ได้รับความชื่นชอบ 1 คะแนนสำหรับคุณลักษณะทั้งหมดของเทพมังกรตัวจริง

ระบบได้รับชื่อเสียงที่กล้าหาญจำนวนมาก ระดับของอัศวิน A ได้รับการยกระดับเป็น ‘โด่งดังไปทั่วโลก’ และมาตรวัดความชอบธรรมได้เพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ เนื่องจากผลของสกิล ‘เวอร์ชันไม่สมบูรณ์ของคัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล’ และ ‘ปราณแท้เสริมร่าง’ จำนวนช่องปราณแท้ทั้งหมดในปัจจุบันเพิ่มขึ้น 10 ช่อง

ระบบได้รับพลังงานบวกจำนวนมาก ช่องพลังงานบวก 10 ช่องในปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ระบบได้รับอาวุธวิเศษ ‘โบราณวัตถุฮุ่ยหยวน’ ซึ่งกักเก็บพลังเวทไว้เป็นจำนวนมาก หลังบริโภคสามารถใช้เป็นอุปกรณ์สำรองพลังเวทหรือพลังงานความโกรธได้

ระบบได้รับค่ายกล ‘ค่ายกักกันสี่สภาพ’ และสามารถเปิดใช้งาน ‘ค่ายกักกันสี่สภาพ’

ฟางหนิงพอใจและรู้สึกง่วงน้อยลงชั่วขณะหนึ่ง กล่าวอย่างมีชัยว่า “นอกเหนือจากครั้งก่อน แกได้รับประสบการณ์ 7 ล้านครั้ง ทั้งได้รับวัตถุดิบทางการแพทย์จำนวนมากและสมบัติอีกสองชิ้นจากคนอื่น แต่ฉันยังคงกังวล ขอให้คนของสำนักสัจธรรมโทรหาเซวียปาหน่อยดีกว่า จมูกของมันดีมาก แม้แต่การมีอยู่ของแกก็ยังได้กลิ่น เมื่อเวลาผ่านไปมันจะต้องช่วยเราจับปีศาจแมลงนั้นได้แน่ และเมื่อเวลานั้นมาถึงก็คงมากด้วยประสบการณ์แล้ว หากไม่ได้ผลเราก็ยังมีรายได้อื่นอีก ประสบการณ์ครั้งนี้จะทำให้พลังในการสังหารของแกเหนือกว่าอาชญากรทั่วไปกว่าครึ่งปีเลยนะ”

ระบบ “โฮสต์อย่าพิรี้พิไรเลยเลย ต้องการรางวัลภารกิจก็แค่พูดออกมา…”

ฟางหนิง “ดูแกสิ คราวนี้ต้องยกความดีความชอบให้ฉันมากๆ นะ ฉันเหนื่อยจนเป็นลมไปสองสามรอบแล้ว แต่ไหนแต่ไรฉันไม่เคย…”

ระบบ “หลังจากจับแมลงปีศาจได้แล้ว ระบบจะให้เวลาโฮสต์ได้เล่นตามใจหนึ่งสัปดาห์ โฮสต์สามารถใช้ร่างนี้ได้ตามต้องการแค่ไม่ทำเรื่องเลวร้ายก็พอ”

ฟางหนิง “ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ใช่ร่างของฉันมานานแค่ไหนแล้วนะ? ว่าแต่ไม่มีโบนัสให้สักหน่อยเหรอ?”

ระบบ “ระบบจะให้เงินไปลงทุนสำหรับเกมใหม่อีก 2.5 ล้านแล้วกัน”

ฟางหนิง “คิดจะให้ 2.5 ล้านตลอดเลยหรือไง?”

ระบบ “งั้นลบเลขทศนิยมข้างหน้าออกเหลือห้าแสนก็พอ”

ฟางหนิง “ไหนแกบอกว่าจะแบ่งคนละหกเปอร์เซ็นต์ยังไงล่ะ แกคิดว่าฉันจะโง่เหรอ สิบล้านถ้วนห้ามต่อรอง”

ระบบ “อีกเดี๋ยวจะโอนให้”

ฟางหนิงกลับไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของระบบด้วยความพึงพอใจ เขาไม่ได้เล่นเกมต่อแต่กลับผล็อยหลับ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกเทพแห่งระบบโกงรางวัลตอบแทน เขาจึงพยายามอดทนต่อความง่วงงุนในขณะที่กำลังเจรจา…

ขณะที่เขานอนอยู่บนพื้นจวนจะหลับเต็มทีนั้น ฟางหนิงพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเช้านี้เขาควรจะได้เตียงของร้านอินเทอร์เน็ตมาแล้ว แต่กลับล่าช้ามาจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าการวินิจฉัยของระบบเบื้องต้นจะไม่ผิดเพี้ยน มะเร็งกระดูกสันหลังของเขาคงจะอยู่ในระยะสุดท้ายแล้วแน่นอน…

ฟางหนิง “ท่านเทพระบบขอรับ ดูพื้นที่สำรองของแกให้ทีสิว่ามีหมอนอิงหรือหมอนหนุนบ้างไหม อย่างน้อยก็ช่วยอนุเคราะห์หาที่นอนให้ยอดวีรบุรุษของเราด้วย”

ทันทีที่เสียงลดลง ระบบก็ปรากฏ

ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 100,000 คะแนน เพื่อสร้างห้องรับรองหลัก เอฟเฟ็กต์: เร่งการฟื้นฟูพลังของโฮสต์เล็กน้อย

ฟางหนิงเห็นบ้านที่รายล้อมไปด้วยหญ้าเขียวขจีปรากฏขึ้นข้างร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เมื่อจะผลักประตูเข้าไป ก็พบว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ครบครัน รวมทั้งโซฟาและเตียง

ฟางหนิง “เอาล่ะ ท่านเทพคุณนี่มันขี้เหนียวเกินไปแล้ว แกคงไม่สร้างมันขึ้นมาให้ฉันด้วยค่าประสบการณ์อันน้อยนิดหรอกนะ สิ่งนี้คงจะช่วยให้ฉันนอนหลับได้มากกว่าเมื่อก่อนด้วยใช่ไหม”

ระบบหยุดนิ่งหลังจากได้ยินประโยคหนึ่ง “หนึ่งแสนคะแนนประสบการณ์น่ะเหรอที่เรียกว่าน้อย? เวลาโฮสต์เล่นเกมมากกว่าเวลาที่โฮสต์นอนซะอีก โฮศต์สามารถนอนหลับให้เพียงพอได้อยู่แล้วถ้าคุณเล่นให้น้อยลง การปรับปรุงประสิทธิภาพการฟื้นฟูพลังงานอะไรนั้นไม่จำเป็นเลยสักนิด”

ฟางหนิง “แต่ฉันก็หลับไปหลายครั้งเพื่อฟื้นฟูพลังงานตอนที่กำจัดต่อยักษ์แล้วนี่ ทำไมแกถึงไม่สร้างมันขึ้นมาให้ฉันสักอันเพื่อประหยัดเวลาล่ะ”

ระบบ “โฮสต์คงไม่ได้หมายถึง…”

ฟางหนิงพูดไม่ออก “เพราะแกคิดว่ามีเสถียรภาพ เลยไม่จำเป็นต้องสร้างมันให้ฉันสินะ แกถึงต้องการผลักภาระมาที่ฉัน ว่าแต่ทำไมแกถึงสร้างบ้านของฉันเป็นสีเขียวล่ะ? ตอนที่ฉันเห็นสีเขียว ฉันกลัวจนอยากจะรีบเปลี่ยนสีทันทีเลย”

ระบบตอบกลับ “สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูไม่ใช่เหรอ? ถ้าโฮสต์อยากเปลี่ยนสีก็รอการอัปเกรดครั้งต่อไปแล้วกัน”

ฟางหนิงไม่มีอะไรจะพูด คราวนี้เขาล้มลงบนเตียงและผล็อยหลับไป

…………

หมาเหลืองเซวียปานั่งอยู่บนดาบบินบินไปยังที่ที่อัศวิน A อยู่ เมื่อรับน้ำหนักเพิ่มมาอีกหนึ่ง ความเร็วจึงลดลงมาก ถึงอย่างนั้นไม่ถึงพันลี้พวกเขาก็มาถึงในพริบตา แน่นอนว่าเซวียเฟิงไม่ได้เร่งความเร็วสูงสุดเพื่อรักษาความปลอดภัย

สิ่งนี้ทำให้สุนัขเด็กเรียนแสดงความคิดเห็นสองสามอย่าง “ความเร็วโอเค แต่คุณไม่มีทักษะเพียงพอที่จะเป็นคนขับเอาซะเลย ในการต่อสู้จริง การเคลื่อนไหวสองหรือสามครั้งสามารถทำให้คุณชนกำแพงได้นะ”

เซวียเฟิงไม่คุ้นเคยกับการพูดคุยกับคนแปลกหน้า นับประสาอะไรกับสุนัข

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าสุนัขพูดได้ตัวนี้มีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาและเป็นโอกาสที่ดีที่จะขอคำแนะนำ ทว่าเขากลับไม่พูดอะไรสักคำ เพียงส่งสุนัขเด็กเรียนไปยังจุดหมายปลายทาง และเมื่อพบอัศวิน A ก็เพียงพยักหน้ารับแล้วจากไป

เทพแห่งระบบไม่ได้พูดอะไรเรื่อยเปื่อย ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดอะไรเขาก็จำเป็นไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วบิน…

เป็นเรื่องตลกที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถขอค่าตั๋วบินจากอัศวิน A ได้เลย และงานสำคัญอย่างหนึ่งในสำนักสัจธรรมคือการคำนวณว่าควรให้รางวัลภารกิจแก่อัศวิน A เท่าไรดี…

ฟางหนิงงีบหลับเพียงสิบกว่านาทีก่อนจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

ฟางหนิงกลายเป็นมังกรขาว พลางถือศพต่อยักษ์อยู่ในมือ “มาเร็วมากเซวียปา มานี่แล้วดมกลิ่นนี้ทีสิ นายรู้ไหมว่าใครอยู่เบื้องหลังพวกมัน”

หมาเหลืองเซวียปาเพียงกระตุกจมูกของมันเบาๆ เอ่ย “ต่อยักษ์กลายพันธุ์ตัวนี้เห็นได้ชัดว่ามีร่องรอยของปีศาจสองตนคือปีศาจแมลงและพญาแมลง พวกมันทั้งสองเคยอยู่ในโลกที่แล้ว หลังจากการปิดกั้นและปราบปรามหลายครั้งมันดิ้นรนอยู่พักหนึ่งแล้วเล็ดลอดผ่านตาข่ายออกมาได้”

ฟางหนิงพอใจมากที่อีกฝ่ายพูดความจริงทันที ดูเหมือนว่าความหวังในการไล่ตามบอสที่อยู่เบื้องหลังจะอยู่อีกไม่ไกล อย่างน้อยได้รู้ว่ายังมีเหลืออีกสองตัว ก็ดีมากแล้ว

ฟางหนิง “นายหาที่อยู่ของมันเจอไหม?”

หมาเหลืองเซวียปาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “หากตามหาพญาแมลง กระผมค่อนข้างมั่นใจ ทว่าปีศาจแมลงมีร่างโคลนจำนวนมากและซ่อนตัวได้ดี ยากต่อการติดตาม ตราบใดที่มันไม่ตายก็สามารถฟื้นคืนชีพพญาแมลงและเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดได้ ในโลกเบื้องบนมีมหาอำนาจมากมาย การปิดกั้นและการปราบปรามซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้ทำให้มันหมดไปเลย”

ฟางหนิงรู้สึกผิดหวัง เวลานี้ดูเหมือนเทพแห่งระบบจะเป็นอมตะก็จริง แต่ข้อเสียใหญ่อย่างหนึ่งคือไม่มีหนทางที่ดีสำหรับบรรดาผู้หลบซ่อน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในทันที

ในอดีตพวกเขาทั้งหมดอยู่ตัวคนเดียว แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะสามารถแบ่งปันเครือข่ายข่าวกรองของสำนักสัจธรรมได้ในระดับหนึ่ง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ใช่องค์กรระดับเล็ก ทะเลใต้ดินเป็นพื้นที่หวงห้ามของหน่วยสืบราชการลับ ทำได้เพียงหวังว่าแผนที่ระบบจะถูกปลดล็อกมากขึ้นในอนาคต

ฟางหนิง “ลืมมันไปเถอะ ถ้านายฆ่าพญาแมลงได้อีกสักตัว นายก็จะได้เงินดังนั้นรีบไปหามันเร็ว”

หมาเหลืองเซวียปาพยักหน้า “โปรดตามข้ามานายท่าน”

หลังจากพูดจบ มันก็วิ่งไปในทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นไม่น้อยไปกว่าความเร็วของต่อยักษ์ตัวที่อัศวิน A ใช้ติดตามฝูงแมลงไปก่อนหน้านี้

สิ่งนี้ทำให้ฟางหนิงแอบตะลึง เจ้าหมาเหลืองได้พักผ่อนเพียงสิบวันเท่านั้น แต่ความเร็วของมันกลับสามารถฟื้นฟูได้ในระดับนี้แล้ว

ดูเหมือนว่าแรงกดดันของเทพแห่งระบบจะยังคงสูงมาก เหล่าชายร่างใหญ่ยังไม่บังเกิดลงมา ดังนั้นคงต้องเพิ่มเวลาในการฝึกฝนอีก แน่นอนว่าภาระหน้าที่นี้คงต้องส่งต่อให้เทพแห่งระบบต่อไปและตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายมันโคตรเจ๋งเพื่อควบคุมสถานการณ์โดยรวม…

…………

ณ ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำ

ปีศาจแมลงกำลังเดินไปมา ใบหน้าฉายชัดถึงความหวังเต็มเปี่ยม“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เป็นอย่างนี้เอง เป็นอย่างนี้นี่เอง! แม้ว่าฉันจะล้มเหลว แต่ฉันก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน!”

พญาแมลงไม่พูดอะไร เพียงมองเขาที่ยิ้มอย่างพึงพอใจ

“ท้ายที่สุดเมื่อมังกรเผชิญหน้ากับวงล้อมของฝูงต่อจากทุกทิศทุกทาง มันสามารถหลบได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเพราะใช้พลังของเทคโนโลยีบางอย่างในโลกนี้ ซึ่งมังกรตัวจริงในอดีตไม่มีความสามารถ และนี่คือแนวทางหนึ่งที่ฉันค้นคว้าได้อย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้ฉันต้องการดูว่าภายใต้พลังทางเทคโนโลยี อาวุธเห็ดของพวกมันสามารถกลายพันธุ์ฝูงแมลงได้อีกไหม แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่กล้าพอที่จะทำตามความปรารถนาของฉัน แน่นอนว่าทุกคนไม่ได้โง่เขลาและสามารถเห็นความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์บนโลกนี้ มังกรตัวนี้ประสบความสำเร็จล่วงหน้าด้วยการช่วยเหลือของพลังทางเทคโนโลยี มันเอาชนะพลังรูปแบบเดิมของเราไปได้โดยปริยาย การแสดงออกนี้ยืนยันความคิดของฉันแล้ว ตราบใดที่ฉันให้เวลาตัวเองอีกสักหน่อย ฉันต้องสามารถสร้างฝูงแมลงที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนได้แน่ เมื่อถึงตอนนั้นมังกรตัวนี้จะไม่มีทางอาละวาดได้อีกต่อไป ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ขณะนั้นพญาแมลงก็พลันถอนหายใจแรง มันไม่อยากฟังการการวิเคราะห์หลังสงครามที่น่าภาคภูมิใจของปีศาจแมลงอีก

ร่างกายของมันได้เปลี่ยนจากขนาดของวาฬสีน้ำเงินเหลือเพียงขนาดของแรดธรรมดาแล้ว ในช่วงแปดวันมานี้ของการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง มันสูญเสียพลังมหาศาล

พญาแมลงหอบหายใจเล็กน้อย ท่าทางคล้ายกำลังลังเล ท้ายที่สุดก็พูดขึ้น “อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย เราสูญเสียพลังไปเกือบจะเท่าๆ กัน ถึงเวลาที่เราต้องหนีแล้ว และเนื่องจากสถานที่นี้ถูกค้นพบโดยผู้อาวุโสตระกูลไป๋แล้ว มันจึงไม่เป็นสถานที่ลับอีกต่อไป”

ปีศาจแมลงพูดอย่างเฉยชา “คุณกลัวอะไร ตาแก่คนนั้นคิดอยู่เสมอและกังวลมากเกินไป เราจะไม่เปิดเผยที่อยู่ของเราโดยเสี่ยงที่จะถูกตอบโต้ในภายหลังหรอกนะ ฉันแค่คิดว่าพลังทางเทคโนโลยีที่มังกรใช้คืออะไรกันแน่ อีกสองสามวันค่อยคุยเรื่องการถ่ายโอนนี้ก็แล้วกัน”

ดวงตาหลายสิบคู่สบมองใบหน้าที่ซับซ้อนของพญาแมลง และในที่สุดก็ตัดสินใจ

ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อปีศาจแมลงคิดถึงกระบวนการต่อสู้ทั้งหมดและพิจารณามันอย่างเงียบๆ ก็มีเสียงราบเรียบเสียงหนึ่งดังขึ้นในถ้ำ

“หมื่นผีกินวิญญาณ…”

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย
ฟางหนิงบิดเอวของเขาอย่างแรงพลางหาวเสียงดัง เขาง่วงจะตายอยู่แล้ว

ระบบ “ขนาดนั้นเลยเหรอ? ระบบฟาร์มมาแปดวันแปดคืนติดต่อกัน แต่ไม่ยักกะเหนื่อยเท่าโฮสต์ที่ได้นอนเต็มอิ่มทุกวัน”

ฟางหนิง “แกคิดว่าฉันเป็นอมนุษย์เหมือนแกเหรอ ความโกรธของฉันกำลังจะระเบิดแล้ว ลองดูหน่อยไหม? หลักจากผ่านสนามรบมาแล้ว ให้ฉันพักสักหน่อยเถอะ แกอย่าห้ามฉันนักเลย”

คำแนะนำของระบบ ระบบเปิดใช้งานร่างมังกรตัวจริง

ระบบใช้ความหมายที่ลึกซึ้ง ‘มังกรเพลิงกลืนนภา’

ระบบกลืนบอสต่อยักษ์กลายพันธุ์ซึ่งสามารถใช้เป็นยาหลักของสูตรยาต่างๆ ได้

ระบบใช้ความหมายที่ลึกซึ้ง ‘มังกรกลืนวายุ’

ระบบสังหารต่อยักษ์กลายพันธุ์ชนชั้นสูง…

ระบบสังหารร่างวิวัฒนาการของต่อยักษ์กลายพันธุ์…

ระบบกลืนศพต่อยักษ์กลายพันธุ์ทั้งหมดและเก็บไว้ในห้องกลั่นยา

…………

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 4 ล้านคะแนน

ระบบยุติการทำอันตรายครั้งใหญ่ต่อผู้คนในเสินโจวชั่วคราว โฮสต์ได้รับความชื่นชอบ 1 คะแนนสำหรับคุณลักษณะทั้งหมดของเทพมังกรตัวจริง

ระบบได้รับชื่อเสียงที่กล้าหาญจำนวนมาก ระดับของอัศวิน A ได้รับการยกระดับเป็น ‘โด่งดังไปทั่วโลก’ และมาตรวัดความชอบธรรมได้เพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ เนื่องจากผลของสกิล ‘เวอร์ชันไม่สมบูรณ์ของคัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล’ และ ‘ปราณแท้เสริมร่าง’ จำนวนช่องปราณแท้ทั้งหมดในปัจจุบันเพิ่มขึ้น 10 ช่อง

ระบบได้รับพลังงานบวกจำนวนมาก ช่องพลังงานบวก 10 ช่องในปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ระบบได้รับอาวุธวิเศษ ‘โบราณวัตถุฮุ่ยหยวน’ ซึ่งกักเก็บพลังเวทไว้เป็นจำนวนมาก หลังบริโภคสามารถใช้เป็นอุปกรณ์สำรองพลังเวทหรือพลังงานความโกรธได้

ระบบได้รับค่ายกล ‘ค่ายกักกันสี่สภาพ’ และสามารถเปิดใช้งาน ‘ค่ายกักกันสี่สภาพ’

ฟางหนิงพอใจและรู้สึกง่วงน้อยลงชั่วขณะหนึ่ง กล่าวอย่างมีชัยว่า “นอกเหนือจากครั้งก่อน แกได้รับประสบการณ์ 7 ล้านครั้ง ทั้งได้รับวัตถุดิบทางการแพทย์จำนวนมากและสมบัติอีกสองชิ้นจากคนอื่น แต่ฉันยังคงกังวล ขอให้คนของสำนักสัจธรรมโทรหาเซวียปาหน่อยดีกว่า จมูกของมันดีมาก แม้แต่การมีอยู่ของแกก็ยังได้กลิ่น เมื่อเวลาผ่านไปมันจะต้องช่วยเราจับปีศาจแมลงนั้นได้แน่ และเมื่อเวลานั้นมาถึงก็คงมากด้วยประสบการณ์แล้ว หากไม่ได้ผลเราก็ยังมีรายได้อื่นอีก ประสบการณ์ครั้งนี้จะทำให้พลังในการสังหารของแกเหนือกว่าอาชญากรทั่วไปกว่าครึ่งปีเลยนะ”

ระบบ “โฮสต์อย่าพิรี้พิไรเลยเลย ต้องการรางวัลภารกิจก็แค่พูดออกมา…”

ฟางหนิง “ดูแกสิ คราวนี้ต้องยกความดีความชอบให้ฉันมากๆ นะ ฉันเหนื่อยจนเป็นลมไปสองสามรอบแล้ว แต่ไหนแต่ไรฉันไม่เคย…”

ระบบ “หลังจากจับแมลงปีศาจได้แล้ว ระบบจะให้เวลาโฮสต์ได้เล่นตามใจหนึ่งสัปดาห์ โฮสต์สามารถใช้ร่างนี้ได้ตามต้องการแค่ไม่ทำเรื่องเลวร้ายก็พอ”

ฟางหนิง “ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ใช่ร่างของฉันมานานแค่ไหนแล้วนะ? ว่าแต่ไม่มีโบนัสให้สักหน่อยเหรอ?”

ระบบ “ระบบจะให้เงินไปลงทุนสำหรับเกมใหม่อีก 2.5 ล้านแล้วกัน”

ฟางหนิง “คิดจะให้ 2.5 ล้านตลอดเลยหรือไง?”

ระบบ “งั้นลบเลขทศนิยมข้างหน้าออกเหลือห้าแสนก็พอ”

ฟางหนิง “ไหนแกบอกว่าจะแบ่งคนละหกเปอร์เซ็นต์ยังไงล่ะ แกคิดว่าฉันจะโง่เหรอ สิบล้านถ้วนห้ามต่อรอง”

ระบบ “อีกเดี๋ยวจะโอนให้”

ฟางหนิงกลับไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของระบบด้วยความพึงพอใจ เขาไม่ได้เล่นเกมต่อแต่กลับผล็อยหลับ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกเทพแห่งระบบโกงรางวัลตอบแทน เขาจึงพยายามอดทนต่อความง่วงงุนในขณะที่กำลังเจรจา…

ขณะที่เขานอนอยู่บนพื้นจวนจะหลับเต็มทีนั้น ฟางหนิงพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเช้านี้เขาควรจะได้เตียงของร้านอินเทอร์เน็ตมาแล้ว แต่กลับล่าช้ามาจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าการวินิจฉัยของระบบเบื้องต้นจะไม่ผิดเพี้ยน มะเร็งกระดูกสันหลังของเขาคงจะอยู่ในระยะสุดท้ายแล้วแน่นอน…

ฟางหนิง “ท่านเทพระบบขอรับ ดูพื้นที่สำรองของแกให้ทีสิว่ามีหมอนอิงหรือหมอนหนุนบ้างไหม อย่างน้อยก็ช่วยอนุเคราะห์หาที่นอนให้ยอดวีรบุรุษของเราด้วย”

ทันทีที่เสียงลดลง ระบบก็ปรากฏ

ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 100,000 คะแนน เพื่อสร้างห้องรับรองหลัก เอฟเฟ็กต์: เร่งการฟื้นฟูพลังของโฮสต์เล็กน้อย

ฟางหนิงเห็นบ้านที่รายล้อมไปด้วยหญ้าเขียวขจีปรากฏขึ้นข้างร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เมื่อจะผลักประตูเข้าไป ก็พบว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ครบครัน รวมทั้งโซฟาและเตียง

ฟางหนิง “เอาล่ะ ท่านเทพคุณนี่มันขี้เหนียวเกินไปแล้ว แกคงไม่สร้างมันขึ้นมาให้ฉันด้วยค่าประสบการณ์อันน้อยนิดหรอกนะ สิ่งนี้คงจะช่วยให้ฉันนอนหลับได้มากกว่าเมื่อก่อนด้วยใช่ไหม”

ระบบหยุดนิ่งหลังจากได้ยินประโยคหนึ่ง “หนึ่งแสนคะแนนประสบการณ์น่ะเหรอที่เรียกว่าน้อย? เวลาโฮสต์เล่นเกมมากกว่าเวลาที่โฮสต์นอนซะอีก โฮศต์สามารถนอนหลับให้เพียงพอได้อยู่แล้วถ้าคุณเล่นให้น้อยลง การปรับปรุงประสิทธิภาพการฟื้นฟูพลังงานอะไรนั้นไม่จำเป็นเลยสักนิด”

ฟางหนิง “แต่ฉันก็หลับไปหลายครั้งเพื่อฟื้นฟูพลังงานตอนที่กำจัดต่อยักษ์แล้วนี่ ทำไมแกถึงไม่สร้างมันขึ้นมาให้ฉันสักอันเพื่อประหยัดเวลาล่ะ”

ระบบ “โฮสต์คงไม่ได้หมายถึง…”

ฟางหนิงพูดไม่ออก “เพราะแกคิดว่ามีเสถียรภาพ เลยไม่จำเป็นต้องสร้างมันให้ฉันสินะ แกถึงต้องการผลักภาระมาที่ฉัน ว่าแต่ทำไมแกถึงสร้างบ้านของฉันเป็นสีเขียวล่ะ? ตอนที่ฉันเห็นสีเขียว ฉันกลัวจนอยากจะรีบเปลี่ยนสีทันทีเลย”

ระบบตอบกลับ “สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูไม่ใช่เหรอ? ถ้าโฮสต์อยากเปลี่ยนสีก็รอการอัปเกรดครั้งต่อไปแล้วกัน”

ฟางหนิงไม่มีอะไรจะพูด คราวนี้เขาล้มลงบนเตียงและผล็อยหลับไป

…………

หมาเหลืองเซวียปานั่งอยู่บนดาบบินบินไปยังที่ที่อัศวิน A อยู่ เมื่อรับน้ำหนักเพิ่มมาอีกหนึ่ง ความเร็วจึงลดลงมาก ถึงอย่างนั้นไม่ถึงพันลี้พวกเขาก็มาถึงในพริบตา แน่นอนว่าเซวียเฟิงไม่ได้เร่งความเร็วสูงสุดเพื่อรักษาความปลอดภัย

สิ่งนี้ทำให้สุนัขเด็กเรียนแสดงความคิดเห็นสองสามอย่าง “ความเร็วโอเค แต่คุณไม่มีทักษะเพียงพอที่จะเป็นคนขับเอาซะเลย ในการต่อสู้จริง การเคลื่อนไหวสองหรือสามครั้งสามารถทำให้คุณชนกำแพงได้นะ”

เซวียเฟิงไม่คุ้นเคยกับการพูดคุยกับคนแปลกหน้า นับประสาอะไรกับสุนัข

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าสุนัขพูดได้ตัวนี้มีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาและเป็นโอกาสที่ดีที่จะขอคำแนะนำ ทว่าเขากลับไม่พูดอะไรสักคำ เพียงส่งสุนัขเด็กเรียนไปยังจุดหมายปลายทาง และเมื่อพบอัศวิน A ก็เพียงพยักหน้ารับแล้วจากไป

เทพแห่งระบบไม่ได้พูดอะไรเรื่อยเปื่อย ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดอะไรเขาก็จำเป็นไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วบิน…

เป็นเรื่องตลกที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถขอค่าตั๋วบินจากอัศวิน A ได้เลย และงานสำคัญอย่างหนึ่งในสำนักสัจธรรมคือการคำนวณว่าควรให้รางวัลภารกิจแก่อัศวิน A เท่าไรดี…

ฟางหนิงงีบหลับเพียงสิบกว่านาทีก่อนจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

ฟางหนิงกลายเป็นมังกรขาว พลางถือศพต่อยักษ์อยู่ในมือ “มาเร็วมากเซวียปา มานี่แล้วดมกลิ่นนี้ทีสิ นายรู้ไหมว่าใครอยู่เบื้องหลังพวกมัน”

หมาเหลืองเซวียปาเพียงกระตุกจมูกของมันเบาๆ เอ่ย “ต่อยักษ์กลายพันธุ์ตัวนี้เห็นได้ชัดว่ามีร่องรอยของปีศาจสองตนคือปีศาจแมลงและพญาแมลง พวกมันทั้งสองเคยอยู่ในโลกที่แล้ว หลังจากการปิดกั้นและปราบปรามหลายครั้งมันดิ้นรนอยู่พักหนึ่งแล้วเล็ดลอดผ่านตาข่ายออกมาได้”

ฟางหนิงพอใจมากที่อีกฝ่ายพูดความจริงทันที ดูเหมือนว่าความหวังในการไล่ตามบอสที่อยู่เบื้องหลังจะอยู่อีกไม่ไกล อย่างน้อยได้รู้ว่ายังมีเหลืออีกสองตัว ก็ดีมากแล้ว

ฟางหนิง “นายหาที่อยู่ของมันเจอไหม?”

หมาเหลืองเซวียปาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “หากตามหาพญาแมลง กระผมค่อนข้างมั่นใจ ทว่าปีศาจแมลงมีร่างโคลนจำนวนมากและซ่อนตัวได้ดี ยากต่อการติดตาม ตราบใดที่มันไม่ตายก็สามารถฟื้นคืนชีพพญาแมลงและเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดได้ ในโลกเบื้องบนมีมหาอำนาจมากมาย การปิดกั้นและการปราบปรามซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้ทำให้มันหมดไปเลย”

ฟางหนิงรู้สึกผิดหวัง เวลานี้ดูเหมือนเทพแห่งระบบจะเป็นอมตะก็จริง แต่ข้อเสียใหญ่อย่างหนึ่งคือไม่มีหนทางที่ดีสำหรับบรรดาผู้หลบซ่อน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในทันที

ในอดีตพวกเขาทั้งหมดอยู่ตัวคนเดียว แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะสามารถแบ่งปันเครือข่ายข่าวกรองของสำนักสัจธรรมได้ในระดับหนึ่ง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ใช่องค์กรระดับเล็ก ทะเลใต้ดินเป็นพื้นที่หวงห้ามของหน่วยสืบราชการลับ ทำได้เพียงหวังว่าแผนที่ระบบจะถูกปลดล็อกมากขึ้นในอนาคต

ฟางหนิง “ลืมมันไปเถอะ ถ้านายฆ่าพญาแมลงได้อีกสักตัว นายก็จะได้เงินดังนั้นรีบไปหามันเร็ว”

หมาเหลืองเซวียปาพยักหน้า “โปรดตามข้ามานายท่าน”

หลังจากพูดจบ มันก็วิ่งไปในทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นไม่น้อยไปกว่าความเร็วของต่อยักษ์ตัวที่อัศวิน A ใช้ติดตามฝูงแมลงไปก่อนหน้านี้

สิ่งนี้ทำให้ฟางหนิงแอบตะลึง เจ้าหมาเหลืองได้พักผ่อนเพียงสิบวันเท่านั้น แต่ความเร็วของมันกลับสามารถฟื้นฟูได้ในระดับนี้แล้ว

ดูเหมือนว่าแรงกดดันของเทพแห่งระบบจะยังคงสูงมาก เหล่าชายร่างใหญ่ยังไม่บังเกิดลงมา ดังนั้นคงต้องเพิ่มเวลาในการฝึกฝนอีก แน่นอนว่าภาระหน้าที่นี้คงต้องส่งต่อให้เทพแห่งระบบต่อไปและตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายมันโคตรเจ๋งเพื่อควบคุมสถานการณ์โดยรวม…

…………

ณ ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำ

ปีศาจแมลงกำลังเดินไปมา ใบหน้าฉายชัดถึงความหวังเต็มเปี่ยม“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เป็นอย่างนี้เอง เป็นอย่างนี้นี่เอง! แม้ว่าฉันจะล้มเหลว แต่ฉันก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน!”

พญาแมลงไม่พูดอะไร เพียงมองเขาที่ยิ้มอย่างพึงพอใจ

“ท้ายที่สุดเมื่อมังกรเผชิญหน้ากับวงล้อมของฝูงต่อจากทุกทิศทุกทาง มันสามารถหลบได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเพราะใช้พลังของเทคโนโลยีบางอย่างในโลกนี้ ซึ่งมังกรตัวจริงในอดีตไม่มีความสามารถ และนี่คือแนวทางหนึ่งที่ฉันค้นคว้าได้อย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้ฉันต้องการดูว่าภายใต้พลังทางเทคโนโลยี อาวุธเห็ดของพวกมันสามารถกลายพันธุ์ฝูงแมลงได้อีกไหม แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่กล้าพอที่จะทำตามความปรารถนาของฉัน แน่นอนว่าทุกคนไม่ได้โง่เขลาและสามารถเห็นความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์บนโลกนี้ มังกรตัวนี้ประสบความสำเร็จล่วงหน้าด้วยการช่วยเหลือของพลังทางเทคโนโลยี มันเอาชนะพลังรูปแบบเดิมของเราไปได้โดยปริยาย การแสดงออกนี้ยืนยันความคิดของฉันแล้ว ตราบใดที่ฉันให้เวลาตัวเองอีกสักหน่อย ฉันต้องสามารถสร้างฝูงแมลงที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนได้แน่ เมื่อถึงตอนนั้นมังกรตัวนี้จะไม่มีทางอาละวาดได้อีกต่อไป ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ขณะนั้นพญาแมลงก็พลันถอนหายใจแรง มันไม่อยากฟังการการวิเคราะห์หลังสงครามที่น่าภาคภูมิใจของปีศาจแมลงอีก

ร่างกายของมันได้เปลี่ยนจากขนาดของวาฬสีน้ำเงินเหลือเพียงขนาดของแรดธรรมดาแล้ว ในช่วงแปดวันมานี้ของการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง มันสูญเสียพลังมหาศาล

พญาแมลงหอบหายใจเล็กน้อย ท่าทางคล้ายกำลังลังเล ท้ายที่สุดก็พูดขึ้น “อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย เราสูญเสียพลังไปเกือบจะเท่าๆ กัน ถึงเวลาที่เราต้องหนีแล้ว และเนื่องจากสถานที่นี้ถูกค้นพบโดยผู้อาวุโสตระกูลไป๋แล้ว มันจึงไม่เป็นสถานที่ลับอีกต่อไป”

ปีศาจแมลงพูดอย่างเฉยชา “คุณกลัวอะไร ตาแก่คนนั้นคิดอยู่เสมอและกังวลมากเกินไป เราจะไม่เปิดเผยที่อยู่ของเราโดยเสี่ยงที่จะถูกตอบโต้ในภายหลังหรอกนะ ฉันแค่คิดว่าพลังทางเทคโนโลยีที่มังกรใช้คืออะไรกันแน่ อีกสองสามวันค่อยคุยเรื่องการถ่ายโอนนี้ก็แล้วกัน”

ดวงตาหลายสิบคู่สบมองใบหน้าที่ซับซ้อนของพญาแมลง และในที่สุดก็ตัดสินใจ

ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อปีศาจแมลงคิดถึงกระบวนการต่อสู้ทั้งหมดและพิจารณามันอย่างเงียบๆ ก็มีเสียงราบเรียบเสียงหนึ่งดังขึ้นในถ้ำ

“หมื่นผีกินวิญญาณ…”

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 101 ภาระหน้าที่จะถูกส่งต่อไปยังเทพแห่งระบบ ต้องตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายโคตรเจ๋งเลย
ฟางหนิงบิดเอวของเขาอย่างแรงพลางหาวเสียงดัง เขาง่วงจะตายอยู่แล้ว

ระบบ “ขนาดนั้นเลยเหรอ? ระบบฟาร์มมาแปดวันแปดคืนติดต่อกัน แต่ไม่ยักกะเหนื่อยเท่าโฮสต์ที่ได้นอนเต็มอิ่มทุกวัน”

ฟางหนิง “แกคิดว่าฉันเป็นอมนุษย์เหมือนแกเหรอ ความโกรธของฉันกำลังจะระเบิดแล้ว ลองดูหน่อยไหม? หลักจากผ่านสนามรบมาแล้ว ให้ฉันพักสักหน่อยเถอะ แกอย่าห้ามฉันนักเลย”

คำแนะนำของระบบ ระบบเปิดใช้งานร่างมังกรตัวจริง

ระบบใช้ความหมายที่ลึกซึ้ง ‘มังกรเพลิงกลืนนภา’

ระบบกลืนบอสต่อยักษ์กลายพันธุ์ซึ่งสามารถใช้เป็นยาหลักของสูตรยาต่างๆ ได้

ระบบใช้ความหมายที่ลึกซึ้ง ‘มังกรกลืนวายุ’

ระบบสังหารต่อยักษ์กลายพันธุ์ชนชั้นสูง…

ระบบสังหารร่างวิวัฒนาการของต่อยักษ์กลายพันธุ์…

ระบบกลืนศพต่อยักษ์กลายพันธุ์ทั้งหมดและเก็บไว้ในห้องกลั่นยา

…………

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 4 ล้านคะแนน

ระบบยุติการทำอันตรายครั้งใหญ่ต่อผู้คนในเสินโจวชั่วคราว โฮสต์ได้รับความชื่นชอบ 1 คะแนนสำหรับคุณลักษณะทั้งหมดของเทพมังกรตัวจริง

ระบบได้รับชื่อเสียงที่กล้าหาญจำนวนมาก ระดับของอัศวิน A ได้รับการยกระดับเป็น ‘โด่งดังไปทั่วโลก’ และมาตรวัดความชอบธรรมได้เพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ เนื่องจากผลของสกิล ‘เวอร์ชันไม่สมบูรณ์ของคัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล’ และ ‘ปราณแท้เสริมร่าง’ จำนวนช่องปราณแท้ทั้งหมดในปัจจุบันเพิ่มขึ้น 10 ช่อง

ระบบได้รับพลังงานบวกจำนวนมาก ช่องพลังงานบวก 10 ช่องในปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ระบบได้รับอาวุธวิเศษ ‘โบราณวัตถุฮุ่ยหยวน’ ซึ่งกักเก็บพลังเวทไว้เป็นจำนวนมาก หลังบริโภคสามารถใช้เป็นอุปกรณ์สำรองพลังเวทหรือพลังงานความโกรธได้

ระบบได้รับค่ายกล ‘ค่ายกักกันสี่สภาพ’ และสามารถเปิดใช้งาน ‘ค่ายกักกันสี่สภาพ’

ฟางหนิงพอใจและรู้สึกง่วงน้อยลงชั่วขณะหนึ่ง กล่าวอย่างมีชัยว่า “นอกเหนือจากครั้งก่อน แกได้รับประสบการณ์ 7 ล้านครั้ง ทั้งได้รับวัตถุดิบทางการแพทย์จำนวนมากและสมบัติอีกสองชิ้นจากคนอื่น แต่ฉันยังคงกังวล ขอให้คนของสำนักสัจธรรมโทรหาเซวียปาหน่อยดีกว่า จมูกของมันดีมาก แม้แต่การมีอยู่ของแกก็ยังได้กลิ่น เมื่อเวลาผ่านไปมันจะต้องช่วยเราจับปีศาจแมลงนั้นได้แน่ และเมื่อเวลานั้นมาถึงก็คงมากด้วยประสบการณ์แล้ว หากไม่ได้ผลเราก็ยังมีรายได้อื่นอีก ประสบการณ์ครั้งนี้จะทำให้พลังในการสังหารของแกเหนือกว่าอาชญากรทั่วไปกว่าครึ่งปีเลยนะ”

ระบบ “โฮสต์อย่าพิรี้พิไรเลยเลย ต้องการรางวัลภารกิจก็แค่พูดออกมา…”

ฟางหนิง “ดูแกสิ คราวนี้ต้องยกความดีความชอบให้ฉันมากๆ นะ ฉันเหนื่อยจนเป็นลมไปสองสามรอบแล้ว แต่ไหนแต่ไรฉันไม่เคย…”

ระบบ “หลังจากจับแมลงปีศาจได้แล้ว ระบบจะให้เวลาโฮสต์ได้เล่นตามใจหนึ่งสัปดาห์ โฮสต์สามารถใช้ร่างนี้ได้ตามต้องการแค่ไม่ทำเรื่องเลวร้ายก็พอ”

ฟางหนิง “ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ใช่ร่างของฉันมานานแค่ไหนแล้วนะ? ว่าแต่ไม่มีโบนัสให้สักหน่อยเหรอ?”

ระบบ “ระบบจะให้เงินไปลงทุนสำหรับเกมใหม่อีก 2.5 ล้านแล้วกัน”

ฟางหนิง “คิดจะให้ 2.5 ล้านตลอดเลยหรือไง?”

ระบบ “งั้นลบเลขทศนิยมข้างหน้าออกเหลือห้าแสนก็พอ”

ฟางหนิง “ไหนแกบอกว่าจะแบ่งคนละหกเปอร์เซ็นต์ยังไงล่ะ แกคิดว่าฉันจะโง่เหรอ สิบล้านถ้วนห้ามต่อรอง”

ระบบ “อีกเดี๋ยวจะโอนให้”

ฟางหนิงกลับไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของระบบด้วยความพึงพอใจ เขาไม่ได้เล่นเกมต่อแต่กลับผล็อยหลับ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกเทพแห่งระบบโกงรางวัลตอบแทน เขาจึงพยายามอดทนต่อความง่วงงุนในขณะที่กำลังเจรจา…

ขณะที่เขานอนอยู่บนพื้นจวนจะหลับเต็มทีนั้น ฟางหนิงพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเช้านี้เขาควรจะได้เตียงของร้านอินเทอร์เน็ตมาแล้ว แต่กลับล่าช้ามาจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าการวินิจฉัยของระบบเบื้องต้นจะไม่ผิดเพี้ยน มะเร็งกระดูกสันหลังของเขาคงจะอยู่ในระยะสุดท้ายแล้วแน่นอน…

ฟางหนิง “ท่านเทพระบบขอรับ ดูพื้นที่สำรองของแกให้ทีสิว่ามีหมอนอิงหรือหมอนหนุนบ้างไหม อย่างน้อยก็ช่วยอนุเคราะห์หาที่นอนให้ยอดวีรบุรุษของเราด้วย”

ทันทีที่เสียงลดลง ระบบก็ปรากฏ

ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 100,000 คะแนน เพื่อสร้างห้องรับรองหลัก เอฟเฟ็กต์: เร่งการฟื้นฟูพลังของโฮสต์เล็กน้อย

ฟางหนิงเห็นบ้านที่รายล้อมไปด้วยหญ้าเขียวขจีปรากฏขึ้นข้างร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เมื่อจะผลักประตูเข้าไป ก็พบว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ครบครัน รวมทั้งโซฟาและเตียง

ฟางหนิง “เอาล่ะ ท่านเทพคุณนี่มันขี้เหนียวเกินไปแล้ว แกคงไม่สร้างมันขึ้นมาให้ฉันด้วยค่าประสบการณ์อันน้อยนิดหรอกนะ สิ่งนี้คงจะช่วยให้ฉันนอนหลับได้มากกว่าเมื่อก่อนด้วยใช่ไหม”

ระบบหยุดนิ่งหลังจากได้ยินประโยคหนึ่ง “หนึ่งแสนคะแนนประสบการณ์น่ะเหรอที่เรียกว่าน้อย? เวลาโฮสต์เล่นเกมมากกว่าเวลาที่โฮสต์นอนซะอีก โฮศต์สามารถนอนหลับให้เพียงพอได้อยู่แล้วถ้าคุณเล่นให้น้อยลง การปรับปรุงประสิทธิภาพการฟื้นฟูพลังงานอะไรนั้นไม่จำเป็นเลยสักนิด”

ฟางหนิง “แต่ฉันก็หลับไปหลายครั้งเพื่อฟื้นฟูพลังงานตอนที่กำจัดต่อยักษ์แล้วนี่ ทำไมแกถึงไม่สร้างมันขึ้นมาให้ฉันสักอันเพื่อประหยัดเวลาล่ะ”

ระบบ “โฮสต์คงไม่ได้หมายถึง…”

ฟางหนิงพูดไม่ออก “เพราะแกคิดว่ามีเสถียรภาพ เลยไม่จำเป็นต้องสร้างมันให้ฉันสินะ แกถึงต้องการผลักภาระมาที่ฉัน ว่าแต่ทำไมแกถึงสร้างบ้านของฉันเป็นสีเขียวล่ะ? ตอนที่ฉันเห็นสีเขียว ฉันกลัวจนอยากจะรีบเปลี่ยนสีทันทีเลย”

ระบบตอบกลับ “สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูไม่ใช่เหรอ? ถ้าโฮสต์อยากเปลี่ยนสีก็รอการอัปเกรดครั้งต่อไปแล้วกัน”

ฟางหนิงไม่มีอะไรจะพูด คราวนี้เขาล้มลงบนเตียงและผล็อยหลับไป

…………

หมาเหลืองเซวียปานั่งอยู่บนดาบบินบินไปยังที่ที่อัศวิน A อยู่ เมื่อรับน้ำหนักเพิ่มมาอีกหนึ่ง ความเร็วจึงลดลงมาก ถึงอย่างนั้นไม่ถึงพันลี้พวกเขาก็มาถึงในพริบตา แน่นอนว่าเซวียเฟิงไม่ได้เร่งความเร็วสูงสุดเพื่อรักษาความปลอดภัย

สิ่งนี้ทำให้สุนัขเด็กเรียนแสดงความคิดเห็นสองสามอย่าง “ความเร็วโอเค แต่คุณไม่มีทักษะเพียงพอที่จะเป็นคนขับเอาซะเลย ในการต่อสู้จริง การเคลื่อนไหวสองหรือสามครั้งสามารถทำให้คุณชนกำแพงได้นะ”

เซวียเฟิงไม่คุ้นเคยกับการพูดคุยกับคนแปลกหน้า นับประสาอะไรกับสุนัข

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าสุนัขพูดได้ตัวนี้มีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาและเป็นโอกาสที่ดีที่จะขอคำแนะนำ ทว่าเขากลับไม่พูดอะไรสักคำ เพียงส่งสุนัขเด็กเรียนไปยังจุดหมายปลายทาง และเมื่อพบอัศวิน A ก็เพียงพยักหน้ารับแล้วจากไป

เทพแห่งระบบไม่ได้พูดอะไรเรื่อยเปื่อย ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดอะไรเขาก็จำเป็นไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วบิน…

เป็นเรื่องตลกที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถขอค่าตั๋วบินจากอัศวิน A ได้เลย และงานสำคัญอย่างหนึ่งในสำนักสัจธรรมคือการคำนวณว่าควรให้รางวัลภารกิจแก่อัศวิน A เท่าไรดี…

ฟางหนิงงีบหลับเพียงสิบกว่านาทีก่อนจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

ฟางหนิงกลายเป็นมังกรขาว พลางถือศพต่อยักษ์อยู่ในมือ “มาเร็วมากเซวียปา มานี่แล้วดมกลิ่นนี้ทีสิ นายรู้ไหมว่าใครอยู่เบื้องหลังพวกมัน”

หมาเหลืองเซวียปาเพียงกระตุกจมูกของมันเบาๆ เอ่ย “ต่อยักษ์กลายพันธุ์ตัวนี้เห็นได้ชัดว่ามีร่องรอยของปีศาจสองตนคือปีศาจแมลงและพญาแมลง พวกมันทั้งสองเคยอยู่ในโลกที่แล้ว หลังจากการปิดกั้นและปราบปรามหลายครั้งมันดิ้นรนอยู่พักหนึ่งแล้วเล็ดลอดผ่านตาข่ายออกมาได้”

ฟางหนิงพอใจมากที่อีกฝ่ายพูดความจริงทันที ดูเหมือนว่าความหวังในการไล่ตามบอสที่อยู่เบื้องหลังจะอยู่อีกไม่ไกล อย่างน้อยได้รู้ว่ายังมีเหลืออีกสองตัว ก็ดีมากแล้ว

ฟางหนิง “นายหาที่อยู่ของมันเจอไหม?”

หมาเหลืองเซวียปาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “หากตามหาพญาแมลง กระผมค่อนข้างมั่นใจ ทว่าปีศาจแมลงมีร่างโคลนจำนวนมากและซ่อนตัวได้ดี ยากต่อการติดตาม ตราบใดที่มันไม่ตายก็สามารถฟื้นคืนชีพพญาแมลงและเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดได้ ในโลกเบื้องบนมีมหาอำนาจมากมาย การปิดกั้นและการปราบปรามซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้ทำให้มันหมดไปเลย”

ฟางหนิงรู้สึกผิดหวัง เวลานี้ดูเหมือนเทพแห่งระบบจะเป็นอมตะก็จริง แต่ข้อเสียใหญ่อย่างหนึ่งคือไม่มีหนทางที่ดีสำหรับบรรดาผู้หลบซ่อน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในทันที

ในอดีตพวกเขาทั้งหมดอยู่ตัวคนเดียว แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะสามารถแบ่งปันเครือข่ายข่าวกรองของสำนักสัจธรรมได้ในระดับหนึ่ง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ใช่องค์กรระดับเล็ก ทะเลใต้ดินเป็นพื้นที่หวงห้ามของหน่วยสืบราชการลับ ทำได้เพียงหวังว่าแผนที่ระบบจะถูกปลดล็อกมากขึ้นในอนาคต

ฟางหนิง “ลืมมันไปเถอะ ถ้านายฆ่าพญาแมลงได้อีกสักตัว นายก็จะได้เงินดังนั้นรีบไปหามันเร็ว”

หมาเหลืองเซวียปาพยักหน้า “โปรดตามข้ามานายท่าน”

หลังจากพูดจบ มันก็วิ่งไปในทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นไม่น้อยไปกว่าความเร็วของต่อยักษ์ตัวที่อัศวิน A ใช้ติดตามฝูงแมลงไปก่อนหน้านี้

สิ่งนี้ทำให้ฟางหนิงแอบตะลึง เจ้าหมาเหลืองได้พักผ่อนเพียงสิบวันเท่านั้น แต่ความเร็วของมันกลับสามารถฟื้นฟูได้ในระดับนี้แล้ว

ดูเหมือนว่าแรงกดดันของเทพแห่งระบบจะยังคงสูงมาก เหล่าชายร่างใหญ่ยังไม่บังเกิดลงมา ดังนั้นคงต้องเพิ่มเวลาในการฝึกฝนอีก แน่นอนว่าภาระหน้าที่นี้คงต้องส่งต่อให้เทพแห่งระบบต่อไปและตะโกนกับตัวเองต่อไปว่านายมันโคตรเจ๋งเพื่อควบคุมสถานการณ์โดยรวม…

…………

ณ ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำ

ปีศาจแมลงกำลังเดินไปมา ใบหน้าฉายชัดถึงความหวังเต็มเปี่ยม“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เป็นอย่างนี้เอง เป็นอย่างนี้นี่เอง! แม้ว่าฉันจะล้มเหลว แต่ฉันก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน!”

พญาแมลงไม่พูดอะไร เพียงมองเขาที่ยิ้มอย่างพึงพอใจ

“ท้ายที่สุดเมื่อมังกรเผชิญหน้ากับวงล้อมของฝูงต่อจากทุกทิศทุกทาง มันสามารถหลบได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเพราะใช้พลังของเทคโนโลยีบางอย่างในโลกนี้ ซึ่งมังกรตัวจริงในอดีตไม่มีความสามารถ และนี่คือแนวทางหนึ่งที่ฉันค้นคว้าได้อย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้ฉันต้องการดูว่าภายใต้พลังทางเทคโนโลยี อาวุธเห็ดของพวกมันสามารถกลายพันธุ์ฝูงแมลงได้อีกไหม แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่กล้าพอที่จะทำตามความปรารถนาของฉัน แน่นอนว่าทุกคนไม่ได้โง่เขลาและสามารถเห็นความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์บนโลกนี้ มังกรตัวนี้ประสบความสำเร็จล่วงหน้าด้วยการช่วยเหลือของพลังทางเทคโนโลยี มันเอาชนะพลังรูปแบบเดิมของเราไปได้โดยปริยาย การแสดงออกนี้ยืนยันความคิดของฉันแล้ว ตราบใดที่ฉันให้เวลาตัวเองอีกสักหน่อย ฉันต้องสามารถสร้างฝูงแมลงที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนได้แน่ เมื่อถึงตอนนั้นมังกรตัวนี้จะไม่มีทางอาละวาดได้อีกต่อไป ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ขณะนั้นพญาแมลงก็พลันถอนหายใจแรง มันไม่อยากฟังการการวิเคราะห์หลังสงครามที่น่าภาคภูมิใจของปีศาจแมลงอีก

ร่างกายของมันได้เปลี่ยนจากขนาดของวาฬสีน้ำเงินเหลือเพียงขนาดของแรดธรรมดาแล้ว ในช่วงแปดวันมานี้ของการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง มันสูญเสียพลังมหาศาล

พญาแมลงหอบหายใจเล็กน้อย ท่าทางคล้ายกำลังลังเล ท้ายที่สุดก็พูดขึ้น “อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย เราสูญเสียพลังไปเกือบจะเท่าๆ กัน ถึงเวลาที่เราต้องหนีแล้ว และเนื่องจากสถานที่นี้ถูกค้นพบโดยผู้อาวุโสตระกูลไป๋แล้ว มันจึงไม่เป็นสถานที่ลับอีกต่อไป”

ปีศาจแมลงพูดอย่างเฉยชา “คุณกลัวอะไร ตาแก่คนนั้นคิดอยู่เสมอและกังวลมากเกินไป เราจะไม่เปิดเผยที่อยู่ของเราโดยเสี่ยงที่จะถูกตอบโต้ในภายหลังหรอกนะ ฉันแค่คิดว่าพลังทางเทคโนโลยีที่มังกรใช้คืออะไรกันแน่ อีกสองสามวันค่อยคุยเรื่องการถ่ายโอนนี้ก็แล้วกัน”

ดวงตาหลายสิบคู่สบมองใบหน้าที่ซับซ้อนของพญาแมลง และในที่สุดก็ตัดสินใจ

ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อปีศาจแมลงคิดถึงกระบวนการต่อสู้ทั้งหมดและพิจารณามันอย่างเงียบๆ ก็มีเสียงราบเรียบเสียงหนึ่งดังขึ้นในถ้ำ

“หมื่นผีกินวิญญาณ…”

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+