เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) บทที่ 206 ต้านทานระดับเดียวกันได้

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter บทที่ 206 ต้านทานระดับเดียวกันได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 206 ต้านทานระดับเดียวกันได้

หลังจากที่ฟางหนิงถามไถ่ไปได้สักพัก เขาก็เริ่มหิว…

ช่วยไม่ได้ อยู่กับตัวกินจุทีไรเขารู้สึกอยากอาหารขึ้นมาเสียดื้อๆ ทุกที

จะว่าไปก็นานแล้วที่เขาไม่ได้กินข้าวด้วยตัวเอง ความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตก็คือการกิน เขามีครอบครัวเป็นถึงเศรษฐีพันล้านทั้งยังเป็นพ่อครัวระดับเทพ ทว่าเขากลับแทบไม่มีเวลาได้เพลิดเพลินกับมันเลย นี่ถือเป็นข้อเสียเปรียบใหญ่หลวงของการถูกครองร่าง

ตอนนี้ระบบกำลังฝึกวรยุทธ์ เขาจึงใช้เวลานี้ขโมยซี่โครงทอดชั้นดีจานหนึ่งจากพื้นที่เก็บรักษาความสดของระบบ ซึ่งยังคงร้อนระอุ…

จากนั้นก็วางมันลงบนโต๊ะ แกะซองตะเกียบแล้วเริ่มลิ้มรส

ถึงอย่างไรระบบก็ไม่กล้าที่จะคิดบัญชีทีหลังกับเขาในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หรอก เนื่องจากตอนนี้เขากลายเป็นว่าที่มหาเศรษฐีในอนาคตแล้ว

หนอนยักษ์ที่ในตอนแรกเอาแต่คัดค้าน พลันใจจดใจจ่อรอบริกรยกอาหารจานใหม่มาเสิร์ฟ

หลังจากนั้นไม่นานจมูกของมันก็ขยุกขยิก ดวงตาเล็กเผอิญเหลือบไปเห็นกองกระดูกซี่โครงเข้า

มันอยากจะอ้าปากเขมือบสิ่งนั้นเข้าปาก แต่เมื่อนึกถึงความน่าเกรงขามของมังกรยักษ์หัวรุนแรงเมื่อครู่มันก็หดตัวกลับ ตัวตนในปัจจุบันของมันไม่สามารถต้านทานฝ่ายตรงข้ามได้

ช่างเถอะ รออิ่มและฟื้นพลังเสร็จค่อยว่ากัน หากจะกินเข้าไปตอนนี้สู้ถามเขาก่อนว่าสิ่งนั้นมาจากร้านไหนจะดีกว่ากันตั้งร้อยเท่าเห็นๆ

“เฮ้ มังกรฟ้า ซี่โครงนี่ใครเป็นคนทำให้ท่านกินงั้นเหรอ?” มันพูดอย่างเมินเฉย

ฟางหนิงตอบอย่างสบายอารมณ์ “มันต้องทำโดยพ่อครัวประจำตัวของข้าอยู่แล้วสิ เขาเป็นเถ้าแก่ของร้านแห่งนี้ ปกติมักจะไม่ลงมือทำอาหารเองหรอก เฉพาะเวลาที่ข้ามาเท่านั้นแหละ นอกนั้นก็เป็นญาติและเพื่อนของเขาที่ลงมือ”

“ว่าไงนะ!” หนอนยักษ์ยืนตัวตรงด้วยสีหน้ากรุ่นโกรธ “ไร้เหตุผลจริงๆ ข้าหนอนยักษ์บุตรสาวของหัวหน้าตระกูลเทพผู้สง่างาม ตอนนี้เป็นถึงผู้นำของตระกูลวิญญาณแมลง ด้วยสถานะอันทรงเกียรติเช่นนี้ เขาไม่ยักจะมาทำอาหารให้เป็นการส่วนตัว…”

“หือ?” ฟางหนิงหรี่ตามองมัน

หนอนยักษ์รีบควบคุมคลื่นพลังอันทรงพลังที่กำลังปล่อยออกมาทันที ก้มหัวลงพลางพูดว่า “ข้าหมายความว่าเขาช่างไม่เห็นแก่หน้าหนอนยักษ์เอาซะเลย แต่ครั้งนี้กลับเห็นแก่หน้าท่าน…”

ฟางหนิงเอ่ยเรียบนิ่ง “ข้าไม่เคยใช้อำนาจข่มเหงผู้อื่น ที่เขาเต็มใจทำอาหารให้ข้าเป็นเพราะใจรักไม่ใช่หน้าที่ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนเลวร้ายแต่กำเนิดอะไร ต่อไปหากคิดจะเดินเส้นทางที่ถูกต้องเจ้าจะต้องไม่ข่มเหงผู้อื่น หรือไม่ก็บอกข้าได้…”

หนอนยักษ์พึมพำ “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะเป็นคนดี”

มันจ้องไปที่กองซี่โครงพลางคิดในใจ ‘ฮึ่ม พูดได้ไม่อายปาก เจ้าต้องสั่งให้เขาทำอาหารชั้นเลิศมากมายเก็บไว้ให้เจ้าอยู่ก่อนแล้วแน่ๆ ข้ารู้ว่าตระกูลมังกรของเจ้ามีอาวุธเวทย์มนตร์มากมาย น่าเสียดายที่ร่างกายของข้าแตกสลายที่นั่นเสียก่อน ทั้งสมบัติที่ข้านำติดตัวมาทั้งหมดก็หายไปด้วย เหลือเพียงสิ่งที่ปกป้องจิตวิญญาณเท่านั้น ที่นั่นมันอันตรายเพราะงั้นข้าถึงหามันไม่เจอสักที’

ฟางหนิงมองดูมันอย่างเวทนา ในที่สุดเขาก็ใจอ่อนไม่สามารถเด็ดเดี่ยวได้เหมือนกับระบบ หลังจากขบคิดเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้เจ้านี่ได้ให้ข้อมูลมากมายและเขาก็ยังต้องใช้งานมันต่ออีก ดังนั้นเขาจึงขโมยซี่โครงหมูสองจานออกมาจากพื้นที่เก็บรักษาความสดของระบบ

“นี่ หยุดจ้องได้แล้ว ของกินพวกนี้ข้ายกให้เจ้า ข้าเองก็มีไม่มาก” ฟางหนิงสั่งสอนหนอนยักษ์ “ต่อไปก็อย่าลืมเป็นคนดีเข้าล่ะ สร้างความสัมพันธ์กับเถ้าแก่ให้มากๆ แล้วเขาจะทำอาหารให้เจ้าเอง”

หนอนยักษ์พยักหน้าตอบรับพัลวันแต่สายตากลับจดจ้องไปที่ซี่โครงเป็นตาเดียว มันอยากจะอ้าปากกลืนในคำเดียวให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะค่อยๆ ละเมียดชิมทีละคำเพราะกลัวว่ามันจะกินหมดในคราวเดียว

มื้ออาหารกับหนอนยักษ์เพื่อขุดข้อมูลอุดช่องโหว่ดำเนินไปจนถึงตอนกลางคืนทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าทีว่าจะหยุดยั้งแต่อย่างใด

ขณะนั้นเองฟางหนิงก็ได้รับอีเมลหนึ่งฉบับ หลังจากอ่านจบเขาพลันคิดในใจ ‘ในที่สุดกลยุทธ์การแสร้งทำเป็นหมูหลอกกินเสือของเขาก็ประสบความสำเร็จ’

ในที่สุดผู้จัด ‘การแข่งขันอันดับมืด’ เจ้าเก่าเจ้าเดิมก็ส่งข่าวมาให้เขาทราบว่ามีคนท้าชิงตำแหน่งราชาแล้ว

ในสังคมปัจจุบันข่าวสารต่างๆ ถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว ตราบใดที่มันเป็นประเด็นร้อนมากพอก็จะสามารถแพร่กระจายไปทั่วโลกได้ภายในสิบนาที

นี่ก็ผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว หลังจากระบบพยายามแสดงอิทธิฤทธิ์ของกระบี่ที่งานแลกเปลี่ยนสมบัติและด้านหน้าร้านอาหารตระกูลของเขาต่อหน้าสาธารณะชน ถึงเวลาแล้วที่ “ขุมพลัง” ของจอมยุทธ์ทุกคนบนโลกจะผงาด

ข้อความเขียนไว้ดังนี้ “เรียนท่านใต้เท้าเทพมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนตะวันออกผู้ได้รับตำแหน่งราชาอันดับมืดอันทรงเกียรติ…ราชครูผู้ยิ่งใหญ่จากประเทศกุ่ยฟางขอท้าชิงตำแหน่งราชากับท่าน หากท่านยอมรับคำท้า โปรดตอบกลับอีเมลฉบับนี้ แล้วทางเราจะดำเนินการแข่งขันภายในห้าวัน มิฉะนั้นท่านที่ได้รับเลือกตำแหน่งราชาอันดับมืดจะถูกตัดสิทธิ์ ท่านต้องทำการแข่งขันในรอบคัดเลือกตามปกติเพื่อชิงตำแหน่งกลับคืนมา”

ฟางหนิงรู้จักประเทศกุ่ยฟาง ประเทศที่มีประชากรกว่า 3 ล้านคน พื้นที่กว้างใหญ่แต่ประชากรกลับเบาบาง เฉลี่ยแล้วหนึ่งตารางกิโลเมตรมีไม่ถึง 2 คนด้วยซ้ำ

ราชครูผู้นี้คงเป็นมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่มีอิทธิพลในประเทศ ตอนนี้เขาคงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มพูนบารมี สร้างชื่อเสียงและเสริมตำแหน่งให้มั่นคง

ท้ายที่สุดแล้วอัศวิน A ก็เป็นเทพมังกรแห่งแดนตะวันออกซึ่งเป็น “ตำนานโลก”

ในตอนนั้นเองระบบก็ได้พูดขึ้น “ในที่สุดก็มาสักที กลยุทธ์ของท่านมหาเศรษฐีนี่ชาญฉลาดจริงๆ บอกทีว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วฉันควรจะสู้ยังไงดี? เอาแบบที่ไม่ให้เสียเปรียบเลยแม้แต่เกมเดียว”

ฟางหนิง “ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สรุปคือแกต้องทำตามกลยุทธ์ของฉันจนถึงที่สุด ถ้าแกเจอคนดีให้เอาชนะหรือไม่ก็ตีเสมอ แต่ถ้าแกเจอคนเลวให้ตีเสมอและยืดเวลาประหารออกไป”

ระบบ “หมายความว่ายังไง?”

ฟางหนิงพูดเรียบนิ่ง “มันถูกเขียนไว้ในนิยาย…ถ้าเกิดแกโดนลูกหลงพลังหัตถ์ของฉันโจมตีล่ะก็ ไม่กี่วันแกจะตายเพราะถูกทลายจิตภายใน”

ระบบ “เฮ้ นิยายที่คุณอ่านไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาจริงๆ สักหน่อย แต่ฉันต้องอัพเกรดทักษะก่อนถึงจะทำได้”

การแจ้งเตือนระบบ: (ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 4 ล้านคะแนนเพื่ออัพเกรดวิทยายุทธ์ทั่วไป ‘หัตถ์มังกร’ เป็นระดับปรมาจารย์ ผลกระทบมีดังนี้:

1. ทุกครั้งที่ฝึกทักษะการต่อสู้ที่เกี่ยวกับมังกรเพิ่มเติม อานุภาพพื้นฐานของพลังวิทยายุทธ์นี้จะเพิ่มขึ้น 50%

2. ในการเคลื่อนไหวหนึ่งครั้งจะสามารถสะสมพลังปราณแท้มังกรที่มีคุณลักษณะต่างกันได้ หลังจากโจมตีศัตรูแล้วปราณแท้จะถูกสะสมโดยไม่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งผู้โจมตีจะสามารถควบคุมเวลาและจังหวะการปลดปล่อยปราณแท้ได้)

ระบบพูดต่อ “น่าเสียดาย ถ้าตายด้านนอกจะไม่สามารถฉกอาวุธของคู่ต่อสู้ได้…”

ฟางหนิงเอ่ยอย่างมั่นใจ “ในการแข่งขันอันดับมืด การเล่นไปตามเกมไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ต้องกังวลหรอก”

ครู่ต่อมาเมื่อฟางหนิงเห็นว่าหนอนยักษ์ยังคงตะบี้ตะบันกินไม่จบเสียที เขาจึงเรียกผู้จัดการชั่วคราว

ก่อนหน้านี้ผู้จัดการร้านจ้าวอิ๋งเพิ่งขอลาหยุดไป ดูเหมือนว่าเธอกำลังปลีกวิเวกออกบำเพ็ญ คงอยากเจริญรอยตามวิถีแห่งเทพอะไรทำนองนั้น…

ด้วยเหตุนี้ฟางหนิงจึงแสดงความเข้าใจอันดี ในยุคใหม่ที่มีอันตรายไม่สิ้นสุด เหล่าปัญญาชนต่างกำลังแอบฝึกฝนอย่างหนัก เขาอาจเป็นไอ้ขี้แพ้ไร้จุดหมายคนเดียวที่มีเพียงความสามารถในการเสแสร้ง

“เสิร์ฟหนอนยักษ์ตัวนี้จนกว่า…” ฟางหนิงหยุดชะงัก หนอนยักษ์พลางเป็นกังวล หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดต่อ “โอ้ บิลถึง 60 ล้านแล้ว”

ผู้จัดการชั่วคราวพลันอกสั่นขวัญหายเมื่อได้ยิน ไร้มนุษยธรรมจริงๆ จะกินข้าวก็ต้องเตรียมเงินมาจ่ายบิล 60 ล้านก่อนสิ…

หากไม่ใช่เพราะมักเห็นท่านจอมยุทธ์กินเรียบเป็นล้านในคราวเดียวอยู่เป็นประจำล่ะก็ ใจดวงนี้ของเขาคงรับไม่ได้แน่ๆ

“เข้าใจแล้ว ท่านจอมยุทธ์ กระผมจะส่งพ่อครัวพิเศษมาดูแลนายท่านหนอนผู้นี้ให้ขอรับ”

“แม่นางหนอน” หนอนยักษ์เอ่ยไม่พอใจพร้อมกับเปล่งเสียงผู้หญิงดังออกมาคมชัด

ผู้จัดการชั่วคราวเพียงพยักหน้าพัลวัน สิ่งนี้ทำให้คนร่างยักษ์ทั้งหลายตกใจและมีเพียงจอมยุทธ์แห่งเมืองฉีเท่านั้นที่สามารถข่มขวัญมันได้

เมื่อไม่นานนี้ฟางหนิงเพิ่งติดต่อสำนักงานสัจธรรมผ่านเจิ้งต้าว เพื่อแจ้งล่วงหน้าว่าตนขอรางวัลเงินสดในครั้งนี้เป็นเงินจำนวน 300 ล้านและส่วนที่เหลือจะถูกหักในบัญชีเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นพลังปราณ

ฟางหนิงใช้เงินสดในส่วนของหนอนยักษ์โดยไม่เกรงใจ 30% ก็เท่ากับ 60 ล้านไม่ใช่เหรอ…เมื่อก่อนเขามักจะถูกระบบยึดเงินไปทั้งหมด คราวนี้ถึงตาที่เขาต้องกอบโกยกำไรคืนบ้างแล้ว

“เงินจำนวนนี้มากมายขนาดไหนกัน?” หนอนยักษ์ยังคงไม่แน่ใจ

“ก็มากอยู่ ชนิดที่ว่าชั่วชีวิตคนส่วนใหญ่ไม่มีทางหาได้” ฟางหนิงพูดอย่างสบายอารมณ์ “เจ้ากินให้อิ่มก็พอ ไม่ต้องกังวล”

ห้าวันต่อมาในที่สุดระบบก็อัพเกรดเสร็จสิ้น ทว่าหลังจากบอกฟางหนิงแล้ว เขากลับ…ไร้การตอบสนองใดๆ

เขากำลังตกตะลึงกับความอยากอาหารของหนอนยักษ์ มันยังกินไม่เสร็จอีก…

กล่าวคือระบบเป็นผู้ควบคุมอัศวิน A โดยถาวร ไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆ เขาก็ฝึกฝนได้ทุกเมื่อ ในขณะที่ฟางหนิงสามารถสลับกลับไปยังพื้นที่ระบบเพื่อไปทำงานและพักผ่อนได้ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะกินกับมันจนถึงตอนนี้

ฟางหนิงยังคงกินกับหนอนยักษ์ต่อไปพลางพูดกับระบบ ” ระบบ การอัพเกรดของแกเงียบเป็นเป่าสากจริงๆ สินะ คราวก่อนที่คุณชายชางเลื่อนขั้นขึ้นมาระดับบ่อน้ำ เอฟเฟกต์ของมวลอากาศสีขาวพลันโพยพุ่งขึ้นท้องฟ้าซะยิ่งใหญ่ กลับกันแกที่อัพเกรดเป็นถึงระดับทะเลสาบแต่ท้องฟ้าไม่ยักจะเปลี่ยนสี ถึงเวลาที่ฉันต้องมานั่งกังวลว่าจะเกิดปัญหาขึ้นอีกหรือเปล่าอีกแล้วสินะ”

ระบบ “ไม่แน่นอน ระบบพลังของฉันแตกต่างจากของพวกเขา”

ฟางหนิงพยักหน้า จากนั้นจึงตรวจสอบการแจ้งเตือนของระบบ

การแจ้งเตือนระบบ: (ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 20 ล้านคะแนนเพื่ออัพเกรด ‘เทคนิคการพรางตัว’ ขั้นสูงเป็นระดับปรมาจารย์ ผลกระทบปัจจุบัน: เฉพาะศัตรูที่มีระดับสูงกว่าระบบสามระดับเท่านั้นที่สามารถมองผ่านเอฟเฟกต์ ‘เทคนิคการพรางตัว’ ของระบบได้

ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 1.1 พันล้านคะแนนและปลีกวิเวกฝึกฝนจนสามารถยกระดับ ‘การเปลี่ยนร่างมังกร’ ระดับปรมาจารย์เป็นระดับตำนาน ผลกระทบปัจจุบัน:

1. ความอิ่มระดับตำนาน สามารถกินอาหารที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมทั้งหมดสามปีได้ภายในคราวเดียว โดยไม่ต้องกินอาหารอีกเป็นเวลาสามปี

2. เมื่ออานุภาพของพลังวิทยายุทธ์ของมังกรทั้งหมดเพิ่มขึ้น ระดับของวรยุทธ์ปัจจุบันก็จะเพิ่มขึ้น 800%

3. เมื่อมังกรเข้าสู่ร่างวิวัฒนาการขั้นต้นได้สำเร็จ คุณสมบัติทางกายภาพพื้นฐานจะได้รับการปรับปรุงอย่างมาก โดยพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 50 คะแนน แกนกระดูกเพิ่มขึ้นเป็น 50 คะแนน ความว่องไวเพิ่มขึ้นเป็น 50 คะแนน เลือดเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คะแนนและปราณแท้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คะแนน

เมื่อความแข็งแกร่งทางกายภาพนั้นเกินขีดจำกัดสูงสุดของคนทั่วไปจะได้รับทักษะ ‘ถล่มให้แหลก’ อีกทั้งเมื่อพลังของคู่ต่อสู้เหลือน้อยกว่าครึ่ง ทักษะการโจมตีระยะประชิดทั้งหมดของระบบจะแสดงเอฟเฟกต์ถล่มให้แหลกโดยอัตโนมัติและความเสียหายจะเพิ่มขึ้น 100%

เมื่อแก่นกระดูกนั้นเกินขีดจำกัดบนของมนุษย์จะได้รับทักษะ ‘พรสวรรค์ล้นเหลือ’ คุณสมบัติการจัดการพลังของโฮสต์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของระดับ S และความเร็วในการฝึกฝนทักษะบ่มเพาะตนเองก็จะเพิ่มขึ้นอีก 200%

เมื่อความว่องไวนั้นเกินขีดจำกัดสูงสุดของคนทั่วไปจะได้รับทักษะ ‘ความเร็วสูงสุด’ ทั้งความคล่องตัวในระยะทางสั้นๆ ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว)

ในตอนท้ายฟางหนิงทั้งประหลาดใจและดีใจ ระดับตำนานนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ จริงๆ แล้วมันเปลี่ยนคุณลักษณะของร่างกายโดยตรงและเพิ่มคะแนนคุณลักษณะ นอกจากความสามารถในการคิดวิเคราะห์แล้ว โชคลาภก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ขณะที่คนอื่นๆ พากันลอยตัวสบายใจเฉิบ

ฉันคิดไว้แล้วว่าทันทีที่ตัวเองอัพเกรด ร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนี้คงจะพัฒนาเป็นร่างมังกรแน่ๆ ไม่แปลกใจเลยที่ตระกูลมังกรจะแข็งแกร่งมาก หลังโตขึ้นแล้วความแข็งแกร่งของร่างกายจึงเริ่มต้นแบบก้าวกระโดดไปที่ระดับขอบทะเลสาบเลย…

ฉันที่พยายามประเมินความแข็งแกร่งของตัวเองในตอนนี้…ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องกังวลกับการอัญเชิญเทพมังกรแท้ให้เปล่าประโยชน์แล้วสินะ

เขาหยิบหนังสือเกมขึ้นมาอย่างรีบร้อน “เด็กดี จงคำนวณความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้เป็นนายเจ้า เชื่อมต่อกับร่างกาย จากนั้นตรวจดูระดับพลังของระบบพ่อเจ้า แล้วไม่ต้องแสดงอะไรอีก…”

“การประเมินความแข็งแกร่งของฟางหนิง: ความแข็งแกร่งระดับบ่อน้ำ หมายเหตุ: น้ำภายใน…ปลดปล่อยออกมายาก ระวังอย่าให้เข้าในไปสนามรบ”

“การประเมินความแข็งแกร่งของระบบ: ความแข็งแกร่งระดับทะเลสาบ หมายเหตุ: ร่างกายแข็งแกร่งมาก, ความเร็วสูงมาก, พลังโจมตีแข็งแกร่งมาก, การเอาตัวรอดแข็งแกร่งมาก…เทพเจ้าแห่งการต่อสู้, ต้านทานระดับเดียวกันได้”

ฟางหนิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากเห็นผลลัพธ์ ยิ่งน้ำใหญ่เท่าไรปริมาณน้ำก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้อย่างน้อยเทพมังกรแท้ที่ถูกอัญเชิญออกมาก็จะมีระดับที่สูงกว่าระดับทะเลสาบของระบบในปัจจุบันหนึ่งระดับ นั่นอาจทำให้เขามีสัญชาตญาณการต่อสู้โดยไม่จำเป็นต้องควบคุมตัวเองก็เป็นได้

นี่สินะการถูกครองร่างโดยสมใจอยาก…

……………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) บทที่ 206 ต้านทานระดับเดียวกันได้

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter บทที่ 206 ต้านทานระดับเดียวกันได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 206 ต้านทานระดับเดียวกันได้

หลังจากที่ฟางหนิงถามไถ่ไปได้สักพัก เขาก็เริ่มหิว…

ช่วยไม่ได้ อยู่กับตัวกินจุทีไรเขารู้สึกอยากอาหารขึ้นมาเสียดื้อๆ ทุกที

จะว่าไปก็นานแล้วที่เขาไม่ได้กินข้าวด้วยตัวเอง ความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตก็คือการกิน เขามีครอบครัวเป็นถึงเศรษฐีพันล้านทั้งยังเป็นพ่อครัวระดับเทพ ทว่าเขากลับแทบไม่มีเวลาได้เพลิดเพลินกับมันเลย นี่ถือเป็นข้อเสียเปรียบใหญ่หลวงของการถูกครองร่าง

ตอนนี้ระบบกำลังฝึกวรยุทธ์ เขาจึงใช้เวลานี้ขโมยซี่โครงทอดชั้นดีจานหนึ่งจากพื้นที่เก็บรักษาความสดของระบบ ซึ่งยังคงร้อนระอุ…

จากนั้นก็วางมันลงบนโต๊ะ แกะซองตะเกียบแล้วเริ่มลิ้มรส

ถึงอย่างไรระบบก็ไม่กล้าที่จะคิดบัญชีทีหลังกับเขาในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หรอก เนื่องจากตอนนี้เขากลายเป็นว่าที่มหาเศรษฐีในอนาคตแล้ว

หนอนยักษ์ที่ในตอนแรกเอาแต่คัดค้าน พลันใจจดใจจ่อรอบริกรยกอาหารจานใหม่มาเสิร์ฟ

หลังจากนั้นไม่นานจมูกของมันก็ขยุกขยิก ดวงตาเล็กเผอิญเหลือบไปเห็นกองกระดูกซี่โครงเข้า

มันอยากจะอ้าปากเขมือบสิ่งนั้นเข้าปาก แต่เมื่อนึกถึงความน่าเกรงขามของมังกรยักษ์หัวรุนแรงเมื่อครู่มันก็หดตัวกลับ ตัวตนในปัจจุบันของมันไม่สามารถต้านทานฝ่ายตรงข้ามได้

ช่างเถอะ รออิ่มและฟื้นพลังเสร็จค่อยว่ากัน หากจะกินเข้าไปตอนนี้สู้ถามเขาก่อนว่าสิ่งนั้นมาจากร้านไหนจะดีกว่ากันตั้งร้อยเท่าเห็นๆ

“เฮ้ มังกรฟ้า ซี่โครงนี่ใครเป็นคนทำให้ท่านกินงั้นเหรอ?” มันพูดอย่างเมินเฉย

ฟางหนิงตอบอย่างสบายอารมณ์ “มันต้องทำโดยพ่อครัวประจำตัวของข้าอยู่แล้วสิ เขาเป็นเถ้าแก่ของร้านแห่งนี้ ปกติมักจะไม่ลงมือทำอาหารเองหรอก เฉพาะเวลาที่ข้ามาเท่านั้นแหละ นอกนั้นก็เป็นญาติและเพื่อนของเขาที่ลงมือ”

“ว่าไงนะ!” หนอนยักษ์ยืนตัวตรงด้วยสีหน้ากรุ่นโกรธ “ไร้เหตุผลจริงๆ ข้าหนอนยักษ์บุตรสาวของหัวหน้าตระกูลเทพผู้สง่างาม ตอนนี้เป็นถึงผู้นำของตระกูลวิญญาณแมลง ด้วยสถานะอันทรงเกียรติเช่นนี้ เขาไม่ยักจะมาทำอาหารให้เป็นการส่วนตัว…”

“หือ?” ฟางหนิงหรี่ตามองมัน

หนอนยักษ์รีบควบคุมคลื่นพลังอันทรงพลังที่กำลังปล่อยออกมาทันที ก้มหัวลงพลางพูดว่า “ข้าหมายความว่าเขาช่างไม่เห็นแก่หน้าหนอนยักษ์เอาซะเลย แต่ครั้งนี้กลับเห็นแก่หน้าท่าน…”

ฟางหนิงเอ่ยเรียบนิ่ง “ข้าไม่เคยใช้อำนาจข่มเหงผู้อื่น ที่เขาเต็มใจทำอาหารให้ข้าเป็นเพราะใจรักไม่ใช่หน้าที่ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนเลวร้ายแต่กำเนิดอะไร ต่อไปหากคิดจะเดินเส้นทางที่ถูกต้องเจ้าจะต้องไม่ข่มเหงผู้อื่น หรือไม่ก็บอกข้าได้…”

หนอนยักษ์พึมพำ “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะเป็นคนดี”

มันจ้องไปที่กองซี่โครงพลางคิดในใจ ‘ฮึ่ม พูดได้ไม่อายปาก เจ้าต้องสั่งให้เขาทำอาหารชั้นเลิศมากมายเก็บไว้ให้เจ้าอยู่ก่อนแล้วแน่ๆ ข้ารู้ว่าตระกูลมังกรของเจ้ามีอาวุธเวทย์มนตร์มากมาย น่าเสียดายที่ร่างกายของข้าแตกสลายที่นั่นเสียก่อน ทั้งสมบัติที่ข้านำติดตัวมาทั้งหมดก็หายไปด้วย เหลือเพียงสิ่งที่ปกป้องจิตวิญญาณเท่านั้น ที่นั่นมันอันตรายเพราะงั้นข้าถึงหามันไม่เจอสักที’

ฟางหนิงมองดูมันอย่างเวทนา ในที่สุดเขาก็ใจอ่อนไม่สามารถเด็ดเดี่ยวได้เหมือนกับระบบ หลังจากขบคิดเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้เจ้านี่ได้ให้ข้อมูลมากมายและเขาก็ยังต้องใช้งานมันต่ออีก ดังนั้นเขาจึงขโมยซี่โครงหมูสองจานออกมาจากพื้นที่เก็บรักษาความสดของระบบ

“นี่ หยุดจ้องได้แล้ว ของกินพวกนี้ข้ายกให้เจ้า ข้าเองก็มีไม่มาก” ฟางหนิงสั่งสอนหนอนยักษ์ “ต่อไปก็อย่าลืมเป็นคนดีเข้าล่ะ สร้างความสัมพันธ์กับเถ้าแก่ให้มากๆ แล้วเขาจะทำอาหารให้เจ้าเอง”

หนอนยักษ์พยักหน้าตอบรับพัลวันแต่สายตากลับจดจ้องไปที่ซี่โครงเป็นตาเดียว มันอยากจะอ้าปากกลืนในคำเดียวให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะค่อยๆ ละเมียดชิมทีละคำเพราะกลัวว่ามันจะกินหมดในคราวเดียว

มื้ออาหารกับหนอนยักษ์เพื่อขุดข้อมูลอุดช่องโหว่ดำเนินไปจนถึงตอนกลางคืนทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าทีว่าจะหยุดยั้งแต่อย่างใด

ขณะนั้นเองฟางหนิงก็ได้รับอีเมลหนึ่งฉบับ หลังจากอ่านจบเขาพลันคิดในใจ ‘ในที่สุดกลยุทธ์การแสร้งทำเป็นหมูหลอกกินเสือของเขาก็ประสบความสำเร็จ’

ในที่สุดผู้จัด ‘การแข่งขันอันดับมืด’ เจ้าเก่าเจ้าเดิมก็ส่งข่าวมาให้เขาทราบว่ามีคนท้าชิงตำแหน่งราชาแล้ว

ในสังคมปัจจุบันข่าวสารต่างๆ ถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว ตราบใดที่มันเป็นประเด็นร้อนมากพอก็จะสามารถแพร่กระจายไปทั่วโลกได้ภายในสิบนาที

นี่ก็ผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว หลังจากระบบพยายามแสดงอิทธิฤทธิ์ของกระบี่ที่งานแลกเปลี่ยนสมบัติและด้านหน้าร้านอาหารตระกูลของเขาต่อหน้าสาธารณะชน ถึงเวลาแล้วที่ “ขุมพลัง” ของจอมยุทธ์ทุกคนบนโลกจะผงาด

ข้อความเขียนไว้ดังนี้ “เรียนท่านใต้เท้าเทพมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนตะวันออกผู้ได้รับตำแหน่งราชาอันดับมืดอันทรงเกียรติ…ราชครูผู้ยิ่งใหญ่จากประเทศกุ่ยฟางขอท้าชิงตำแหน่งราชากับท่าน หากท่านยอมรับคำท้า โปรดตอบกลับอีเมลฉบับนี้ แล้วทางเราจะดำเนินการแข่งขันภายในห้าวัน มิฉะนั้นท่านที่ได้รับเลือกตำแหน่งราชาอันดับมืดจะถูกตัดสิทธิ์ ท่านต้องทำการแข่งขันในรอบคัดเลือกตามปกติเพื่อชิงตำแหน่งกลับคืนมา”

ฟางหนิงรู้จักประเทศกุ่ยฟาง ประเทศที่มีประชากรกว่า 3 ล้านคน พื้นที่กว้างใหญ่แต่ประชากรกลับเบาบาง เฉลี่ยแล้วหนึ่งตารางกิโลเมตรมีไม่ถึง 2 คนด้วยซ้ำ

ราชครูผู้นี้คงเป็นมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่มีอิทธิพลในประเทศ ตอนนี้เขาคงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มพูนบารมี สร้างชื่อเสียงและเสริมตำแหน่งให้มั่นคง

ท้ายที่สุดแล้วอัศวิน A ก็เป็นเทพมังกรแห่งแดนตะวันออกซึ่งเป็น “ตำนานโลก”

ในตอนนั้นเองระบบก็ได้พูดขึ้น “ในที่สุดก็มาสักที กลยุทธ์ของท่านมหาเศรษฐีนี่ชาญฉลาดจริงๆ บอกทีว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วฉันควรจะสู้ยังไงดี? เอาแบบที่ไม่ให้เสียเปรียบเลยแม้แต่เกมเดียว”

ฟางหนิง “ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สรุปคือแกต้องทำตามกลยุทธ์ของฉันจนถึงที่สุด ถ้าแกเจอคนดีให้เอาชนะหรือไม่ก็ตีเสมอ แต่ถ้าแกเจอคนเลวให้ตีเสมอและยืดเวลาประหารออกไป”

ระบบ “หมายความว่ายังไง?”

ฟางหนิงพูดเรียบนิ่ง “มันถูกเขียนไว้ในนิยาย…ถ้าเกิดแกโดนลูกหลงพลังหัตถ์ของฉันโจมตีล่ะก็ ไม่กี่วันแกจะตายเพราะถูกทลายจิตภายใน”

ระบบ “เฮ้ นิยายที่คุณอ่านไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาจริงๆ สักหน่อย แต่ฉันต้องอัพเกรดทักษะก่อนถึงจะทำได้”

การแจ้งเตือนระบบ: (ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 4 ล้านคะแนนเพื่ออัพเกรดวิทยายุทธ์ทั่วไป ‘หัตถ์มังกร’ เป็นระดับปรมาจารย์ ผลกระทบมีดังนี้:

1. ทุกครั้งที่ฝึกทักษะการต่อสู้ที่เกี่ยวกับมังกรเพิ่มเติม อานุภาพพื้นฐานของพลังวิทยายุทธ์นี้จะเพิ่มขึ้น 50%

2. ในการเคลื่อนไหวหนึ่งครั้งจะสามารถสะสมพลังปราณแท้มังกรที่มีคุณลักษณะต่างกันได้ หลังจากโจมตีศัตรูแล้วปราณแท้จะถูกสะสมโดยไม่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งผู้โจมตีจะสามารถควบคุมเวลาและจังหวะการปลดปล่อยปราณแท้ได้)

ระบบพูดต่อ “น่าเสียดาย ถ้าตายด้านนอกจะไม่สามารถฉกอาวุธของคู่ต่อสู้ได้…”

ฟางหนิงเอ่ยอย่างมั่นใจ “ในการแข่งขันอันดับมืด การเล่นไปตามเกมไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ต้องกังวลหรอก”

ครู่ต่อมาเมื่อฟางหนิงเห็นว่าหนอนยักษ์ยังคงตะบี้ตะบันกินไม่จบเสียที เขาจึงเรียกผู้จัดการชั่วคราว

ก่อนหน้านี้ผู้จัดการร้านจ้าวอิ๋งเพิ่งขอลาหยุดไป ดูเหมือนว่าเธอกำลังปลีกวิเวกออกบำเพ็ญ คงอยากเจริญรอยตามวิถีแห่งเทพอะไรทำนองนั้น…

ด้วยเหตุนี้ฟางหนิงจึงแสดงความเข้าใจอันดี ในยุคใหม่ที่มีอันตรายไม่สิ้นสุด เหล่าปัญญาชนต่างกำลังแอบฝึกฝนอย่างหนัก เขาอาจเป็นไอ้ขี้แพ้ไร้จุดหมายคนเดียวที่มีเพียงความสามารถในการเสแสร้ง

“เสิร์ฟหนอนยักษ์ตัวนี้จนกว่า…” ฟางหนิงหยุดชะงัก หนอนยักษ์พลางเป็นกังวล หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดต่อ “โอ้ บิลถึง 60 ล้านแล้ว”

ผู้จัดการชั่วคราวพลันอกสั่นขวัญหายเมื่อได้ยิน ไร้มนุษยธรรมจริงๆ จะกินข้าวก็ต้องเตรียมเงินมาจ่ายบิล 60 ล้านก่อนสิ…

หากไม่ใช่เพราะมักเห็นท่านจอมยุทธ์กินเรียบเป็นล้านในคราวเดียวอยู่เป็นประจำล่ะก็ ใจดวงนี้ของเขาคงรับไม่ได้แน่ๆ

“เข้าใจแล้ว ท่านจอมยุทธ์ กระผมจะส่งพ่อครัวพิเศษมาดูแลนายท่านหนอนผู้นี้ให้ขอรับ”

“แม่นางหนอน” หนอนยักษ์เอ่ยไม่พอใจพร้อมกับเปล่งเสียงผู้หญิงดังออกมาคมชัด

ผู้จัดการชั่วคราวเพียงพยักหน้าพัลวัน สิ่งนี้ทำให้คนร่างยักษ์ทั้งหลายตกใจและมีเพียงจอมยุทธ์แห่งเมืองฉีเท่านั้นที่สามารถข่มขวัญมันได้

เมื่อไม่นานนี้ฟางหนิงเพิ่งติดต่อสำนักงานสัจธรรมผ่านเจิ้งต้าว เพื่อแจ้งล่วงหน้าว่าตนขอรางวัลเงินสดในครั้งนี้เป็นเงินจำนวน 300 ล้านและส่วนที่เหลือจะถูกหักในบัญชีเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นพลังปราณ

ฟางหนิงใช้เงินสดในส่วนของหนอนยักษ์โดยไม่เกรงใจ 30% ก็เท่ากับ 60 ล้านไม่ใช่เหรอ…เมื่อก่อนเขามักจะถูกระบบยึดเงินไปทั้งหมด คราวนี้ถึงตาที่เขาต้องกอบโกยกำไรคืนบ้างแล้ว

“เงินจำนวนนี้มากมายขนาดไหนกัน?” หนอนยักษ์ยังคงไม่แน่ใจ

“ก็มากอยู่ ชนิดที่ว่าชั่วชีวิตคนส่วนใหญ่ไม่มีทางหาได้” ฟางหนิงพูดอย่างสบายอารมณ์ “เจ้ากินให้อิ่มก็พอ ไม่ต้องกังวล”

ห้าวันต่อมาในที่สุดระบบก็อัพเกรดเสร็จสิ้น ทว่าหลังจากบอกฟางหนิงแล้ว เขากลับ…ไร้การตอบสนองใดๆ

เขากำลังตกตะลึงกับความอยากอาหารของหนอนยักษ์ มันยังกินไม่เสร็จอีก…

กล่าวคือระบบเป็นผู้ควบคุมอัศวิน A โดยถาวร ไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆ เขาก็ฝึกฝนได้ทุกเมื่อ ในขณะที่ฟางหนิงสามารถสลับกลับไปยังพื้นที่ระบบเพื่อไปทำงานและพักผ่อนได้ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะกินกับมันจนถึงตอนนี้

ฟางหนิงยังคงกินกับหนอนยักษ์ต่อไปพลางพูดกับระบบ ” ระบบ การอัพเกรดของแกเงียบเป็นเป่าสากจริงๆ สินะ คราวก่อนที่คุณชายชางเลื่อนขั้นขึ้นมาระดับบ่อน้ำ เอฟเฟกต์ของมวลอากาศสีขาวพลันโพยพุ่งขึ้นท้องฟ้าซะยิ่งใหญ่ กลับกันแกที่อัพเกรดเป็นถึงระดับทะเลสาบแต่ท้องฟ้าไม่ยักจะเปลี่ยนสี ถึงเวลาที่ฉันต้องมานั่งกังวลว่าจะเกิดปัญหาขึ้นอีกหรือเปล่าอีกแล้วสินะ”

ระบบ “ไม่แน่นอน ระบบพลังของฉันแตกต่างจากของพวกเขา”

ฟางหนิงพยักหน้า จากนั้นจึงตรวจสอบการแจ้งเตือนของระบบ

การแจ้งเตือนระบบ: (ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 20 ล้านคะแนนเพื่ออัพเกรด ‘เทคนิคการพรางตัว’ ขั้นสูงเป็นระดับปรมาจารย์ ผลกระทบปัจจุบัน: เฉพาะศัตรูที่มีระดับสูงกว่าระบบสามระดับเท่านั้นที่สามารถมองผ่านเอฟเฟกต์ ‘เทคนิคการพรางตัว’ ของระบบได้

ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 1.1 พันล้านคะแนนและปลีกวิเวกฝึกฝนจนสามารถยกระดับ ‘การเปลี่ยนร่างมังกร’ ระดับปรมาจารย์เป็นระดับตำนาน ผลกระทบปัจจุบัน:

1. ความอิ่มระดับตำนาน สามารถกินอาหารที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมทั้งหมดสามปีได้ภายในคราวเดียว โดยไม่ต้องกินอาหารอีกเป็นเวลาสามปี

2. เมื่ออานุภาพของพลังวิทยายุทธ์ของมังกรทั้งหมดเพิ่มขึ้น ระดับของวรยุทธ์ปัจจุบันก็จะเพิ่มขึ้น 800%

3. เมื่อมังกรเข้าสู่ร่างวิวัฒนาการขั้นต้นได้สำเร็จ คุณสมบัติทางกายภาพพื้นฐานจะได้รับการปรับปรุงอย่างมาก โดยพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 50 คะแนน แกนกระดูกเพิ่มขึ้นเป็น 50 คะแนน ความว่องไวเพิ่มขึ้นเป็น 50 คะแนน เลือดเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คะแนนและปราณแท้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คะแนน

เมื่อความแข็งแกร่งทางกายภาพนั้นเกินขีดจำกัดสูงสุดของคนทั่วไปจะได้รับทักษะ ‘ถล่มให้แหลก’ อีกทั้งเมื่อพลังของคู่ต่อสู้เหลือน้อยกว่าครึ่ง ทักษะการโจมตีระยะประชิดทั้งหมดของระบบจะแสดงเอฟเฟกต์ถล่มให้แหลกโดยอัตโนมัติและความเสียหายจะเพิ่มขึ้น 100%

เมื่อแก่นกระดูกนั้นเกินขีดจำกัดบนของมนุษย์จะได้รับทักษะ ‘พรสวรรค์ล้นเหลือ’ คุณสมบัติการจัดการพลังของโฮสต์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของระดับ S และความเร็วในการฝึกฝนทักษะบ่มเพาะตนเองก็จะเพิ่มขึ้นอีก 200%

เมื่อความว่องไวนั้นเกินขีดจำกัดสูงสุดของคนทั่วไปจะได้รับทักษะ ‘ความเร็วสูงสุด’ ทั้งความคล่องตัวในระยะทางสั้นๆ ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว)

ในตอนท้ายฟางหนิงทั้งประหลาดใจและดีใจ ระดับตำนานนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ จริงๆ แล้วมันเปลี่ยนคุณลักษณะของร่างกายโดยตรงและเพิ่มคะแนนคุณลักษณะ นอกจากความสามารถในการคิดวิเคราะห์แล้ว โชคลาภก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ขณะที่คนอื่นๆ พากันลอยตัวสบายใจเฉิบ

ฉันคิดไว้แล้วว่าทันทีที่ตัวเองอัพเกรด ร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนี้คงจะพัฒนาเป็นร่างมังกรแน่ๆ ไม่แปลกใจเลยที่ตระกูลมังกรจะแข็งแกร่งมาก หลังโตขึ้นแล้วความแข็งแกร่งของร่างกายจึงเริ่มต้นแบบก้าวกระโดดไปที่ระดับขอบทะเลสาบเลย…

ฉันที่พยายามประเมินความแข็งแกร่งของตัวเองในตอนนี้…ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องกังวลกับการอัญเชิญเทพมังกรแท้ให้เปล่าประโยชน์แล้วสินะ

เขาหยิบหนังสือเกมขึ้นมาอย่างรีบร้อน “เด็กดี จงคำนวณความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้เป็นนายเจ้า เชื่อมต่อกับร่างกาย จากนั้นตรวจดูระดับพลังของระบบพ่อเจ้า แล้วไม่ต้องแสดงอะไรอีก…”

“การประเมินความแข็งแกร่งของฟางหนิง: ความแข็งแกร่งระดับบ่อน้ำ หมายเหตุ: น้ำภายใน…ปลดปล่อยออกมายาก ระวังอย่าให้เข้าในไปสนามรบ”

“การประเมินความแข็งแกร่งของระบบ: ความแข็งแกร่งระดับทะเลสาบ หมายเหตุ: ร่างกายแข็งแกร่งมาก, ความเร็วสูงมาก, พลังโจมตีแข็งแกร่งมาก, การเอาตัวรอดแข็งแกร่งมาก…เทพเจ้าแห่งการต่อสู้, ต้านทานระดับเดียวกันได้”

ฟางหนิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากเห็นผลลัพธ์ ยิ่งน้ำใหญ่เท่าไรปริมาณน้ำก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้อย่างน้อยเทพมังกรแท้ที่ถูกอัญเชิญออกมาก็จะมีระดับที่สูงกว่าระดับทะเลสาบของระบบในปัจจุบันหนึ่งระดับ นั่นอาจทำให้เขามีสัญชาตญาณการต่อสู้โดยไม่จำเป็นต้องควบคุมตัวเองก็เป็นได้

นี่สินะการถูกครองร่างโดยสมใจอยาก…

……………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) บทที่ 206 ต้านทานระดับเดียวกันได้

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter บทที่ 206 ต้านทานระดับเดียวกันได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 206 ต้านทานระดับเดียวกันได้

หลังจากที่ฟางหนิงถามไถ่ไปได้สักพัก เขาก็เริ่มหิว…

ช่วยไม่ได้ อยู่กับตัวกินจุทีไรเขารู้สึกอยากอาหารขึ้นมาเสียดื้อๆ ทุกที

จะว่าไปก็นานแล้วที่เขาไม่ได้กินข้าวด้วยตัวเอง ความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตก็คือการกิน เขามีครอบครัวเป็นถึงเศรษฐีพันล้านทั้งยังเป็นพ่อครัวระดับเทพ ทว่าเขากลับแทบไม่มีเวลาได้เพลิดเพลินกับมันเลย นี่ถือเป็นข้อเสียเปรียบใหญ่หลวงของการถูกครองร่าง

ตอนนี้ระบบกำลังฝึกวรยุทธ์ เขาจึงใช้เวลานี้ขโมยซี่โครงทอดชั้นดีจานหนึ่งจากพื้นที่เก็บรักษาความสดของระบบ ซึ่งยังคงร้อนระอุ…

จากนั้นก็วางมันลงบนโต๊ะ แกะซองตะเกียบแล้วเริ่มลิ้มรส

ถึงอย่างไรระบบก็ไม่กล้าที่จะคิดบัญชีทีหลังกับเขาในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หรอก เนื่องจากตอนนี้เขากลายเป็นว่าที่มหาเศรษฐีในอนาคตแล้ว

หนอนยักษ์ที่ในตอนแรกเอาแต่คัดค้าน พลันใจจดใจจ่อรอบริกรยกอาหารจานใหม่มาเสิร์ฟ

หลังจากนั้นไม่นานจมูกของมันก็ขยุกขยิก ดวงตาเล็กเผอิญเหลือบไปเห็นกองกระดูกซี่โครงเข้า

มันอยากจะอ้าปากเขมือบสิ่งนั้นเข้าปาก แต่เมื่อนึกถึงความน่าเกรงขามของมังกรยักษ์หัวรุนแรงเมื่อครู่มันก็หดตัวกลับ ตัวตนในปัจจุบันของมันไม่สามารถต้านทานฝ่ายตรงข้ามได้

ช่างเถอะ รออิ่มและฟื้นพลังเสร็จค่อยว่ากัน หากจะกินเข้าไปตอนนี้สู้ถามเขาก่อนว่าสิ่งนั้นมาจากร้านไหนจะดีกว่ากันตั้งร้อยเท่าเห็นๆ

“เฮ้ มังกรฟ้า ซี่โครงนี่ใครเป็นคนทำให้ท่านกินงั้นเหรอ?” มันพูดอย่างเมินเฉย

ฟางหนิงตอบอย่างสบายอารมณ์ “มันต้องทำโดยพ่อครัวประจำตัวของข้าอยู่แล้วสิ เขาเป็นเถ้าแก่ของร้านแห่งนี้ ปกติมักจะไม่ลงมือทำอาหารเองหรอก เฉพาะเวลาที่ข้ามาเท่านั้นแหละ นอกนั้นก็เป็นญาติและเพื่อนของเขาที่ลงมือ”

“ว่าไงนะ!” หนอนยักษ์ยืนตัวตรงด้วยสีหน้ากรุ่นโกรธ “ไร้เหตุผลจริงๆ ข้าหนอนยักษ์บุตรสาวของหัวหน้าตระกูลเทพผู้สง่างาม ตอนนี้เป็นถึงผู้นำของตระกูลวิญญาณแมลง ด้วยสถานะอันทรงเกียรติเช่นนี้ เขาไม่ยักจะมาทำอาหารให้เป็นการส่วนตัว…”

“หือ?” ฟางหนิงหรี่ตามองมัน

หนอนยักษ์รีบควบคุมคลื่นพลังอันทรงพลังที่กำลังปล่อยออกมาทันที ก้มหัวลงพลางพูดว่า “ข้าหมายความว่าเขาช่างไม่เห็นแก่หน้าหนอนยักษ์เอาซะเลย แต่ครั้งนี้กลับเห็นแก่หน้าท่าน…”

ฟางหนิงเอ่ยเรียบนิ่ง “ข้าไม่เคยใช้อำนาจข่มเหงผู้อื่น ที่เขาเต็มใจทำอาหารให้ข้าเป็นเพราะใจรักไม่ใช่หน้าที่ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนเลวร้ายแต่กำเนิดอะไร ต่อไปหากคิดจะเดินเส้นทางที่ถูกต้องเจ้าจะต้องไม่ข่มเหงผู้อื่น หรือไม่ก็บอกข้าได้…”

หนอนยักษ์พึมพำ “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะเป็นคนดี”

มันจ้องไปที่กองซี่โครงพลางคิดในใจ ‘ฮึ่ม พูดได้ไม่อายปาก เจ้าต้องสั่งให้เขาทำอาหารชั้นเลิศมากมายเก็บไว้ให้เจ้าอยู่ก่อนแล้วแน่ๆ ข้ารู้ว่าตระกูลมังกรของเจ้ามีอาวุธเวทย์มนตร์มากมาย น่าเสียดายที่ร่างกายของข้าแตกสลายที่นั่นเสียก่อน ทั้งสมบัติที่ข้านำติดตัวมาทั้งหมดก็หายไปด้วย เหลือเพียงสิ่งที่ปกป้องจิตวิญญาณเท่านั้น ที่นั่นมันอันตรายเพราะงั้นข้าถึงหามันไม่เจอสักที’

ฟางหนิงมองดูมันอย่างเวทนา ในที่สุดเขาก็ใจอ่อนไม่สามารถเด็ดเดี่ยวได้เหมือนกับระบบ หลังจากขบคิดเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้เจ้านี่ได้ให้ข้อมูลมากมายและเขาก็ยังต้องใช้งานมันต่ออีก ดังนั้นเขาจึงขโมยซี่โครงหมูสองจานออกมาจากพื้นที่เก็บรักษาความสดของระบบ

“นี่ หยุดจ้องได้แล้ว ของกินพวกนี้ข้ายกให้เจ้า ข้าเองก็มีไม่มาก” ฟางหนิงสั่งสอนหนอนยักษ์ “ต่อไปก็อย่าลืมเป็นคนดีเข้าล่ะ สร้างความสัมพันธ์กับเถ้าแก่ให้มากๆ แล้วเขาจะทำอาหารให้เจ้าเอง”

หนอนยักษ์พยักหน้าตอบรับพัลวันแต่สายตากลับจดจ้องไปที่ซี่โครงเป็นตาเดียว มันอยากจะอ้าปากกลืนในคำเดียวให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะค่อยๆ ละเมียดชิมทีละคำเพราะกลัวว่ามันจะกินหมดในคราวเดียว

มื้ออาหารกับหนอนยักษ์เพื่อขุดข้อมูลอุดช่องโหว่ดำเนินไปจนถึงตอนกลางคืนทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าทีว่าจะหยุดยั้งแต่อย่างใด

ขณะนั้นเองฟางหนิงก็ได้รับอีเมลหนึ่งฉบับ หลังจากอ่านจบเขาพลันคิดในใจ ‘ในที่สุดกลยุทธ์การแสร้งทำเป็นหมูหลอกกินเสือของเขาก็ประสบความสำเร็จ’

ในที่สุดผู้จัด ‘การแข่งขันอันดับมืด’ เจ้าเก่าเจ้าเดิมก็ส่งข่าวมาให้เขาทราบว่ามีคนท้าชิงตำแหน่งราชาแล้ว

ในสังคมปัจจุบันข่าวสารต่างๆ ถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว ตราบใดที่มันเป็นประเด็นร้อนมากพอก็จะสามารถแพร่กระจายไปทั่วโลกได้ภายในสิบนาที

นี่ก็ผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว หลังจากระบบพยายามแสดงอิทธิฤทธิ์ของกระบี่ที่งานแลกเปลี่ยนสมบัติและด้านหน้าร้านอาหารตระกูลของเขาต่อหน้าสาธารณะชน ถึงเวลาแล้วที่ “ขุมพลัง” ของจอมยุทธ์ทุกคนบนโลกจะผงาด

ข้อความเขียนไว้ดังนี้ “เรียนท่านใต้เท้าเทพมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนตะวันออกผู้ได้รับตำแหน่งราชาอันดับมืดอันทรงเกียรติ…ราชครูผู้ยิ่งใหญ่จากประเทศกุ่ยฟางขอท้าชิงตำแหน่งราชากับท่าน หากท่านยอมรับคำท้า โปรดตอบกลับอีเมลฉบับนี้ แล้วทางเราจะดำเนินการแข่งขันภายในห้าวัน มิฉะนั้นท่านที่ได้รับเลือกตำแหน่งราชาอันดับมืดจะถูกตัดสิทธิ์ ท่านต้องทำการแข่งขันในรอบคัดเลือกตามปกติเพื่อชิงตำแหน่งกลับคืนมา”

ฟางหนิงรู้จักประเทศกุ่ยฟาง ประเทศที่มีประชากรกว่า 3 ล้านคน พื้นที่กว้างใหญ่แต่ประชากรกลับเบาบาง เฉลี่ยแล้วหนึ่งตารางกิโลเมตรมีไม่ถึง 2 คนด้วยซ้ำ

ราชครูผู้นี้คงเป็นมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่มีอิทธิพลในประเทศ ตอนนี้เขาคงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มพูนบารมี สร้างชื่อเสียงและเสริมตำแหน่งให้มั่นคง

ท้ายที่สุดแล้วอัศวิน A ก็เป็นเทพมังกรแห่งแดนตะวันออกซึ่งเป็น “ตำนานโลก”

ในตอนนั้นเองระบบก็ได้พูดขึ้น “ในที่สุดก็มาสักที กลยุทธ์ของท่านมหาเศรษฐีนี่ชาญฉลาดจริงๆ บอกทีว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วฉันควรจะสู้ยังไงดี? เอาแบบที่ไม่ให้เสียเปรียบเลยแม้แต่เกมเดียว”

ฟางหนิง “ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สรุปคือแกต้องทำตามกลยุทธ์ของฉันจนถึงที่สุด ถ้าแกเจอคนดีให้เอาชนะหรือไม่ก็ตีเสมอ แต่ถ้าแกเจอคนเลวให้ตีเสมอและยืดเวลาประหารออกไป”

ระบบ “หมายความว่ายังไง?”

ฟางหนิงพูดเรียบนิ่ง “มันถูกเขียนไว้ในนิยาย…ถ้าเกิดแกโดนลูกหลงพลังหัตถ์ของฉันโจมตีล่ะก็ ไม่กี่วันแกจะตายเพราะถูกทลายจิตภายใน”

ระบบ “เฮ้ นิยายที่คุณอ่านไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาจริงๆ สักหน่อย แต่ฉันต้องอัพเกรดทักษะก่อนถึงจะทำได้”

การแจ้งเตือนระบบ: (ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 4 ล้านคะแนนเพื่ออัพเกรดวิทยายุทธ์ทั่วไป ‘หัตถ์มังกร’ เป็นระดับปรมาจารย์ ผลกระทบมีดังนี้:

1. ทุกครั้งที่ฝึกทักษะการต่อสู้ที่เกี่ยวกับมังกรเพิ่มเติม อานุภาพพื้นฐานของพลังวิทยายุทธ์นี้จะเพิ่มขึ้น 50%

2. ในการเคลื่อนไหวหนึ่งครั้งจะสามารถสะสมพลังปราณแท้มังกรที่มีคุณลักษณะต่างกันได้ หลังจากโจมตีศัตรูแล้วปราณแท้จะถูกสะสมโดยไม่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งผู้โจมตีจะสามารถควบคุมเวลาและจังหวะการปลดปล่อยปราณแท้ได้)

ระบบพูดต่อ “น่าเสียดาย ถ้าตายด้านนอกจะไม่สามารถฉกอาวุธของคู่ต่อสู้ได้…”

ฟางหนิงเอ่ยอย่างมั่นใจ “ในการแข่งขันอันดับมืด การเล่นไปตามเกมไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ต้องกังวลหรอก”

ครู่ต่อมาเมื่อฟางหนิงเห็นว่าหนอนยักษ์ยังคงตะบี้ตะบันกินไม่จบเสียที เขาจึงเรียกผู้จัดการชั่วคราว

ก่อนหน้านี้ผู้จัดการร้านจ้าวอิ๋งเพิ่งขอลาหยุดไป ดูเหมือนว่าเธอกำลังปลีกวิเวกออกบำเพ็ญ คงอยากเจริญรอยตามวิถีแห่งเทพอะไรทำนองนั้น…

ด้วยเหตุนี้ฟางหนิงจึงแสดงความเข้าใจอันดี ในยุคใหม่ที่มีอันตรายไม่สิ้นสุด เหล่าปัญญาชนต่างกำลังแอบฝึกฝนอย่างหนัก เขาอาจเป็นไอ้ขี้แพ้ไร้จุดหมายคนเดียวที่มีเพียงความสามารถในการเสแสร้ง

“เสิร์ฟหนอนยักษ์ตัวนี้จนกว่า…” ฟางหนิงหยุดชะงัก หนอนยักษ์พลางเป็นกังวล หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดต่อ “โอ้ บิลถึง 60 ล้านแล้ว”

ผู้จัดการชั่วคราวพลันอกสั่นขวัญหายเมื่อได้ยิน ไร้มนุษยธรรมจริงๆ จะกินข้าวก็ต้องเตรียมเงินมาจ่ายบิล 60 ล้านก่อนสิ…

หากไม่ใช่เพราะมักเห็นท่านจอมยุทธ์กินเรียบเป็นล้านในคราวเดียวอยู่เป็นประจำล่ะก็ ใจดวงนี้ของเขาคงรับไม่ได้แน่ๆ

“เข้าใจแล้ว ท่านจอมยุทธ์ กระผมจะส่งพ่อครัวพิเศษมาดูแลนายท่านหนอนผู้นี้ให้ขอรับ”

“แม่นางหนอน” หนอนยักษ์เอ่ยไม่พอใจพร้อมกับเปล่งเสียงผู้หญิงดังออกมาคมชัด

ผู้จัดการชั่วคราวเพียงพยักหน้าพัลวัน สิ่งนี้ทำให้คนร่างยักษ์ทั้งหลายตกใจและมีเพียงจอมยุทธ์แห่งเมืองฉีเท่านั้นที่สามารถข่มขวัญมันได้

เมื่อไม่นานนี้ฟางหนิงเพิ่งติดต่อสำนักงานสัจธรรมผ่านเจิ้งต้าว เพื่อแจ้งล่วงหน้าว่าตนขอรางวัลเงินสดในครั้งนี้เป็นเงินจำนวน 300 ล้านและส่วนที่เหลือจะถูกหักในบัญชีเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นพลังปราณ

ฟางหนิงใช้เงินสดในส่วนของหนอนยักษ์โดยไม่เกรงใจ 30% ก็เท่ากับ 60 ล้านไม่ใช่เหรอ…เมื่อก่อนเขามักจะถูกระบบยึดเงินไปทั้งหมด คราวนี้ถึงตาที่เขาต้องกอบโกยกำไรคืนบ้างแล้ว

“เงินจำนวนนี้มากมายขนาดไหนกัน?” หนอนยักษ์ยังคงไม่แน่ใจ

“ก็มากอยู่ ชนิดที่ว่าชั่วชีวิตคนส่วนใหญ่ไม่มีทางหาได้” ฟางหนิงพูดอย่างสบายอารมณ์ “เจ้ากินให้อิ่มก็พอ ไม่ต้องกังวล”

ห้าวันต่อมาในที่สุดระบบก็อัพเกรดเสร็จสิ้น ทว่าหลังจากบอกฟางหนิงแล้ว เขากลับ…ไร้การตอบสนองใดๆ

เขากำลังตกตะลึงกับความอยากอาหารของหนอนยักษ์ มันยังกินไม่เสร็จอีก…

กล่าวคือระบบเป็นผู้ควบคุมอัศวิน A โดยถาวร ไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆ เขาก็ฝึกฝนได้ทุกเมื่อ ในขณะที่ฟางหนิงสามารถสลับกลับไปยังพื้นที่ระบบเพื่อไปทำงานและพักผ่อนได้ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะกินกับมันจนถึงตอนนี้

ฟางหนิงยังคงกินกับหนอนยักษ์ต่อไปพลางพูดกับระบบ ” ระบบ การอัพเกรดของแกเงียบเป็นเป่าสากจริงๆ สินะ คราวก่อนที่คุณชายชางเลื่อนขั้นขึ้นมาระดับบ่อน้ำ เอฟเฟกต์ของมวลอากาศสีขาวพลันโพยพุ่งขึ้นท้องฟ้าซะยิ่งใหญ่ กลับกันแกที่อัพเกรดเป็นถึงระดับทะเลสาบแต่ท้องฟ้าไม่ยักจะเปลี่ยนสี ถึงเวลาที่ฉันต้องมานั่งกังวลว่าจะเกิดปัญหาขึ้นอีกหรือเปล่าอีกแล้วสินะ”

ระบบ “ไม่แน่นอน ระบบพลังของฉันแตกต่างจากของพวกเขา”

ฟางหนิงพยักหน้า จากนั้นจึงตรวจสอบการแจ้งเตือนของระบบ

การแจ้งเตือนระบบ: (ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 20 ล้านคะแนนเพื่ออัพเกรด ‘เทคนิคการพรางตัว’ ขั้นสูงเป็นระดับปรมาจารย์ ผลกระทบปัจจุบัน: เฉพาะศัตรูที่มีระดับสูงกว่าระบบสามระดับเท่านั้นที่สามารถมองผ่านเอฟเฟกต์ ‘เทคนิคการพรางตัว’ ของระบบได้

ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 1.1 พันล้านคะแนนและปลีกวิเวกฝึกฝนจนสามารถยกระดับ ‘การเปลี่ยนร่างมังกร’ ระดับปรมาจารย์เป็นระดับตำนาน ผลกระทบปัจจุบัน:

1. ความอิ่มระดับตำนาน สามารถกินอาหารที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมทั้งหมดสามปีได้ภายในคราวเดียว โดยไม่ต้องกินอาหารอีกเป็นเวลาสามปี

2. เมื่ออานุภาพของพลังวิทยายุทธ์ของมังกรทั้งหมดเพิ่มขึ้น ระดับของวรยุทธ์ปัจจุบันก็จะเพิ่มขึ้น 800%

3. เมื่อมังกรเข้าสู่ร่างวิวัฒนาการขั้นต้นได้สำเร็จ คุณสมบัติทางกายภาพพื้นฐานจะได้รับการปรับปรุงอย่างมาก โดยพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 50 คะแนน แกนกระดูกเพิ่มขึ้นเป็น 50 คะแนน ความว่องไวเพิ่มขึ้นเป็น 50 คะแนน เลือดเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คะแนนและปราณแท้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คะแนน

เมื่อความแข็งแกร่งทางกายภาพนั้นเกินขีดจำกัดสูงสุดของคนทั่วไปจะได้รับทักษะ ‘ถล่มให้แหลก’ อีกทั้งเมื่อพลังของคู่ต่อสู้เหลือน้อยกว่าครึ่ง ทักษะการโจมตีระยะประชิดทั้งหมดของระบบจะแสดงเอฟเฟกต์ถล่มให้แหลกโดยอัตโนมัติและความเสียหายจะเพิ่มขึ้น 100%

เมื่อแก่นกระดูกนั้นเกินขีดจำกัดบนของมนุษย์จะได้รับทักษะ ‘พรสวรรค์ล้นเหลือ’ คุณสมบัติการจัดการพลังของโฮสต์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของระดับ S และความเร็วในการฝึกฝนทักษะบ่มเพาะตนเองก็จะเพิ่มขึ้นอีก 200%

เมื่อความว่องไวนั้นเกินขีดจำกัดสูงสุดของคนทั่วไปจะได้รับทักษะ ‘ความเร็วสูงสุด’ ทั้งความคล่องตัวในระยะทางสั้นๆ ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว)

ในตอนท้ายฟางหนิงทั้งประหลาดใจและดีใจ ระดับตำนานนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ จริงๆ แล้วมันเปลี่ยนคุณลักษณะของร่างกายโดยตรงและเพิ่มคะแนนคุณลักษณะ นอกจากความสามารถในการคิดวิเคราะห์แล้ว โชคลาภก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ขณะที่คนอื่นๆ พากันลอยตัวสบายใจเฉิบ

ฉันคิดไว้แล้วว่าทันทีที่ตัวเองอัพเกรด ร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนี้คงจะพัฒนาเป็นร่างมังกรแน่ๆ ไม่แปลกใจเลยที่ตระกูลมังกรจะแข็งแกร่งมาก หลังโตขึ้นแล้วความแข็งแกร่งของร่างกายจึงเริ่มต้นแบบก้าวกระโดดไปที่ระดับขอบทะเลสาบเลย…

ฉันที่พยายามประเมินความแข็งแกร่งของตัวเองในตอนนี้…ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องกังวลกับการอัญเชิญเทพมังกรแท้ให้เปล่าประโยชน์แล้วสินะ

เขาหยิบหนังสือเกมขึ้นมาอย่างรีบร้อน “เด็กดี จงคำนวณความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้เป็นนายเจ้า เชื่อมต่อกับร่างกาย จากนั้นตรวจดูระดับพลังของระบบพ่อเจ้า แล้วไม่ต้องแสดงอะไรอีก…”

“การประเมินความแข็งแกร่งของฟางหนิง: ความแข็งแกร่งระดับบ่อน้ำ หมายเหตุ: น้ำภายใน…ปลดปล่อยออกมายาก ระวังอย่าให้เข้าในไปสนามรบ”

“การประเมินความแข็งแกร่งของระบบ: ความแข็งแกร่งระดับทะเลสาบ หมายเหตุ: ร่างกายแข็งแกร่งมาก, ความเร็วสูงมาก, พลังโจมตีแข็งแกร่งมาก, การเอาตัวรอดแข็งแกร่งมาก…เทพเจ้าแห่งการต่อสู้, ต้านทานระดับเดียวกันได้”

ฟางหนิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากเห็นผลลัพธ์ ยิ่งน้ำใหญ่เท่าไรปริมาณน้ำก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้อย่างน้อยเทพมังกรแท้ที่ถูกอัญเชิญออกมาก็จะมีระดับที่สูงกว่าระดับทะเลสาบของระบบในปัจจุบันหนึ่งระดับ นั่นอาจทำให้เขามีสัญชาตญาณการต่อสู้โดยไม่จำเป็นต้องควบคุมตัวเองก็เป็นได้

นี่สินะการถูกครองร่างโดยสมใจอยาก…

……………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+