เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) 49 เห็นการล่าสัตว์ จิตใจเบิกบาน

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter 49 เห็นการล่าสัตว์ จิตใจเบิกบาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่ปรึกษาหารือกันทั้งคืนกับผู้นำท้องถิ่นหลายคน เพื่อช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไข โม่ซิ่งก็กลับมาที่สำนักงานของตน

เขากำลังจะงีบหลับ แต่ก่อนที่จะได้เอนกายพิงโซฟา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เคาะประตูเข้ามาเพื่อแจ้งว่าสำนักสัจธรรมมาถึงแล้ว

“คนพวกนั้นเป็นใครกัน?” โม่ซิ่งพยายามระงับอารมณ์ เขาจะไม่โกรธคนรอบข้างโดยไม่มีเหตุผล

“ไม่รู้ครับ พวกเขากำลังรออยู่ที่ห้องรับแขก มีทั้งหมดสองคน พวกเขาเพิ่งแสดงใบรับรองพิเศษจากสำนักสัจธรรม และพวกเขาไม่ได้แนะนำตัวเองด้วย พวกเขาบอกแค่ว่าคุณต้องทราบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เป็นไปได้ไหมว่า พวกเขามาที่นี่เพื่อช่วยเราแก้ปัญหาเรื่องหนูยักษ์?” เจ้าหน้าที่คนนั้นพูดอย่างระมัดระวัง

ใบหน้าของโม่ซิ่งเต็มไปด้วยความยินดีเมื่อได้ยิน ปัญหาเรื่องหนูยักษ์เป็นหนึ่งในสิ่งที่ลำบากที่สุดสำหรับเขาในช่วงนี้ และเขาทำอะไรแทบไม่ได้ เมื่อเทียบกับข้อเท็จจริงของอัศวิน A กับสำนักตัดสัจธรรม มันแทบจะไม่มีอะไรเลย ในความเห็นของเขา มันเกี่ยวข้องกับการเลื่อนตำแหน่งส่วนตัวของเขามากกว่า

แต่ปัญหาหนูยักษ์นี้ส่งผลต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ อย่างมาก และเขายังคงเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความสำคัญของเรื่องสาธารณะและเรื่องส่วนตัวด้วย

แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบใจสำนักสัจธรรมเท่าไรนัก แต่ตราบใดที่อีกฝ่ายสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ เขาจะไม่สร้างปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะควบคุมอารมณ์และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

อีกฝ่ายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเมื่อถึงคราววิกฤต เพราะฉะนั้นคงพอจะมีวิธีที่จะแก้ปัญหาหนูยักษ์ได้

“ดีมาก ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” โม่ซิ่งเอ่ยเสียงร่าเริง สลัดความง่วงทิ้งไปและลุกขึ้นเดินออกไปอย่างรวดเร็ว มายังห้องรับรองของสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษ

เขาผลักประตูเข้าไปข้างใน มีคนสองคนนั่งอยู่ในห้องรับรอง เมื่อเห็นใบหน้าตึงเครียดของอีกฝ่าย หัวใจของโม่ซิ่งก็หล่นวูบ สัญชาตญาณเขาได้ในทันทีว่านี่ไม่ใช่คนที่จะช่วยเขาแก้ปัญหาอย่างแน่นอน สองคนนี้น่าจะพาปัญหามาให้เขามากกว่า

ทั้งคู่เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง อยู่ในวัยกลางคน อายุราวห้าสิบปีเศษ หว่างคิ้วของผู้หญิงนั้นคล้ายกับพี่น้องตระกูลไป๋ทั้งสามมาก ถึงแม้ว่าจะแก่กว่า แต่ก็ยังมีมีเสน่ห์ โม่ซิ่งเกรงว่าพวกเขาอาจเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ส่วนผู้ชายอีกคน หน้าตาหล่อเหลา แต่คิ้วของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อย

“คุณเป็นผู้อำนวยการสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษที่นี่ใช่ไหม?”

เสียงของชายวัยกลางคนฟังแล้วน่าเกรงขาม เขาสงวนท่าทีเล็กน้อยก่อยเอ่ยถามโม่ซิ่ง

โม่ซิ่งรู้สึกประหม่า นับตั้งแต่วันที่เขาก่อตั้งสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษขึ้น เขามีอำนาจในมือ แม้ว่าจะเป็นเพียงตำแหน่งผู้อำนวยการในนาม ทว่า แม้แต่ผู้นำหลักขององค์กรท้องถิ่นที่มีตำแหน่งสูงมากก็ยังพูดจาสุภาพกับเขา

โม่ซิ่งระงับอารมณ์ของตน ในใจยังคงมีความหวังเล็กน้อยว่าอีกฝ่ายมาที่นี่เพื่อแก้ปัญหาเรื่องหนูยักษ์ “ผม โม่ซิ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษเมืองฉี พวกคุณมาทำอะไรหรือ? มีเอกสารราชการที่ส่งมาจากเบื้องบนหรือ”

ชายวัยกลางคนนั้นพูดตอบ “เปล่าหรอก ผมเป็นคนสำนักสัจธรรม และผมมีสิทธิ์ที่จะสุ่มตรวจสอบงานสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษในพื้นที่ของคุณได้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกปีศาจร้ายหรือสัตว์ประหลาดมาครอบงำ”

โม่ซิ่งคิดในใจ นี่มันแย่จริงๆ หมายความว่าถ้าเขาไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายนั้น เขาจะถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าโดนปีศาจเจ้าสิงร่างหรือ?

โม่ซิ่งตอบกลับ “ถ้าอย่างนั้นคุณรีบมาพบผมในตอนเช้านี้ ก็เพราะอยากจะตรวจสอบดูว่าหน่วยกิจการพิเศษนี้กำลังทำอะไรอยู่งั้นหรือ? อย่างไรก็ตาม ตอนนี้การแพร่ระบาดของหนูยักษ์ในเมืองฉีนั้นรุนแรงมาก ผมหวังว่าคุณจะช่วยเราคิดหาทางแก้ไขได้ เราจะรู้สึกขอบคุณมากและจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการช่วยเหลือของคุณ”

ชายคนนั้นท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเขาจะคิดบางอย่างขึ้นได้ จึงระงับความโกรธของตนเอาไว้ “เหอะ การแพร่ระบาดของหนูยักษ์นั้นไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยสักนิด! คุณไม่ต้องพูดมาก ผมจะถามคุณตรงๆ ลูกสาวสามคนของผมมาที่นี่เมื่อวานนี้ เพื่อเตรียมตัวลงชื่อกับผู้ชายชื่ออัศวิน A ให้ไปที่สำนักงานสัจธรรม ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ไหน?”

โม่ซิ่งตื่นตระหนก เขาคิดว่าอีกฝ่ายมาที่นี่เพื่อติดต่อเกี่ยวกับธุรกิจ บางทีอาจจะเพื่อช่วยแก้ปัญหาของหนูยักษ์ ดังนั้นเขาจึงอดทนต่อความเหนื่อยล้าจากการนอนดึก และมาต้อนรับด้วยตนเองอย่างมีความสุข เขาเองก็อายุ 35 ปีแล้ว วิธีฝึกร่างกายของเขานั้นคือคุณสมบัติน้ำแข็ง ซึ่งดีสำหรับการเพาะปลูกทางจิตวิญญาณ แต่ไม่เหมาะสำหรับการทำให้ร่างกายอบอุ่น

เขาไม่คิดว่าสองคนนี้จะมาถึงที่นี่แต่เช้า บุกเข้ามาในสำนักงานใหญ่แล้วอ้างว่าสำนักสัจธรรมสั่งมา จากนั้นก็เรียกผู้อำนวยการที่ไม่ได้นอนทั้งคืนออกมา เพื่อถามเรื่องส่วนตัวของครอบครัว

โม่ซิ่งระงับความโกรธเอาไว้ เขารู้ว่าคนๆ ไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องด้วยได้ “ในตอนนั้น มีการส่งเอกสารอย่างเป็นทางการ พวกเขาเพียงบอกให้ผมร่วมมือในการหาอัศวิน A แและส่วนที่เหลือนั้น ไม่ได้อยู่ในความดูแลของผม ผมมีบันทึกวิดีโอเป็นหลักฐาน”

ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานกิจการพิเศษ เพื่อป้องกันปัญหาและอุบัติเหตุทุกประเภท เขามีเครื่องมือบันทึกวิดีโอแบบพกพาอยู่เสมอ

ชายคนนั้นรีบกล่าว “เอาไฟล์วิดีโอทั้งหมดมาให้ผมดู”

โม่ซิ่งตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผู้ชายคนนี้ช่างหน้าไม่อายและหยิ่งผยองเสียจริง เขาเป็นผู้อำนวยการสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษ และชายคนนี้ก็กล้าที่จะขอข้อมูลวิดีโอจากเขา!

ต้องเข้าใจก่อนว่าข้อมูลทั้งหมดต้องถูกดึงผ่านขั้นตอนของทางการเพื่อป้องกันการรั่วไหล อีกอย่างข้อมูลส่วนใหญ่ในสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษก็นับว่าเป็นความลับสุดยอด ซึ่งหากข้อมูลเหล่านี้รั่วไหลออกไปต้องร้ายแรงมากแน่นอน เขาบอกว่าตัวเองเป็นคนจากสำนักสัจธรรม แต่ก็ไม่ได้พิสูจน์อะไร ถ้าเขาต้องการดูข้อมูลลับเหล่านี้จริงๆ เขาต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ เพื่อขออนุมัติ เขาคิดว่าตัวเขาเองเป็นใครกัน? พูดด้วยปากเปล่าก็จะให้ดูได้หรือ?

“ถ้าคุณอยากดูวีดีโอ คุณก็สามารถทำได้ แต่ต้องติดต่อกับแผนกระดับสูงเพื่อขออนุมัติก่อน และหลังจากที่คุณได้พิสูจน์ตัวตนของคุณผ่านทางเอกสารทางการที่เกี่ยวข้องแล้ว ผมจะให้คุณตรวจสอบวีดีโอทั้งหมดเอง”

ชายวัยกลางคนเมื่อถูกโม่ซิ่งปฏิเสธเช่นนั้น สุดท้ายก็ควบคุมอารมณ์ของตนเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป “แกกำลังรนหาที่ตาย!”

ทันทีที่เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้น โม่ซิ่งก็รู้สึกว่าปีศาจได้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว มันกำลังพุ่งเข้าหา ท่าทางต้องการจะเขมือบเข้าเขาไป!

ขณะที่ตกใจ และสติหลุดลอยออกไปชั่วครู่นั่นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ที่รัก” เสียงใสกังวานดังออกมา ปีศาจร้ายหายวับไปทันทีขณะเดียวกันหญิงวัยกลางคนก็เข้ามาช่วยโม่ซิ่ง ดวงตาของทั้งคู่สบ “ผู้อำนวยการโม่คะ เราแค่อยากจะขอดูสักหน่อย เดี๋ยวจะคืนให้คุณทันที”

โม่ซิ่งรู้สึกว่าเสียงของอีกฝ่ายราวกับเสียงสวรรค์ ด้วยเสียงนุ่มนวลที่ไม่อาจต้านทานได้ และดวงตาคู่สวยที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน เขาก็ตกอยู่ในภวังค์ราวกับว่าเขาพยักหน้าตอบรับโดยไม่รู้ตัว และหยิบ USB พกพาออกมาให้อย่างรวดเร็ว

“เหอะ ผิงเอ๋อร์ เจ้ายังต้องใช้เวทงงงันจัดการกับขยะแบบนี้อยู่อีกหรือ?” ชายวัยกลางคนไม่สบอารมณ์ แล้วมองไปทางโม่ซิ่งที่หลงเสน่ห์และหมดสติไปด้วยความรังเกียจ

เสียงของหญิงวัยกลางคนตอบกลับแผ่วเบา “ถ้าเรายังไม่ทราบรายละเอียดของอัศวิน A เราก็ไม่ควรทำเรื่องใหญ่โต ไม่งั้นจะเป็นการเปิดเผยตัวตนเอาได้ ลูกๆ ต้องพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นที่นี่แล้ว พวกลูกกินคนที่มีศักยภาพมากกว่าเรา และเราก็ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าลูกๆ มากนัก”

ขณะพูด หญิงวัยกลางคนก็หยิบ USB ที่โม่ซิ่งยื่นให้เมื่อครู่ ก่อนจะเสียบมันเข้ากับแล็ปท็อปที่เธอนำมาด้วย

โม่ซิ่งหมดสติ ล้มตัวลงบนโซฟาในห้องรับรอง ท่าทางของเขาคล้ายคนกำลังหลับสนิท

ชายหญิงคู่นั้นดูข้อมูลวีดิโออย่างระมัดระวัง เมื่อวานนี้โม่ซิ่งพาพี่น้องสาวสามคนของตระกูลไป๋ไปตามหาอัศวิน A

“ผู้ชายคนนี้ไม่ได้โกหก ดูเหมือนว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น” หลังจากยืนยันเรื่องนี้แล้ว ชายหญิงคู่นี้ก็จัดของและออกจากห้องรับแขกอย่างเร่งรีบทันที

ไม่นานหลังจากที่ทั้งสองเดินออกจากห้องรับแขกไป โม่ซิ่งซึ่งนอนอยู่บนโซฟาก็ลืมตาตื่น ใบหน้าของเขาฉายชัดถึงความตกใจ!

ชายหญิงวัยกลางคนเดินออกจากสำนักงานใหญ่ของสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษ และรีบมุ่งหน้าไปยังหุบเขาอันเงียบสงบที่อยู่ใกล้ๆ กัน ทั้งสองกวาดตามองรอบด้าน หยุดที่นี่เพื่อหารือกันเล็กน้อย

หญิงวัยกลางคนกล่าว “ที่รัก ในวีดิโอ มีเพียงซวงเอ๋อร์ สามคนพี่น้อง และอัศวิน A ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะปกติ แต่ฉันพบว่าสถานที่นี้แปลกประหลาดมาก”

ชายวัยกลางคนตอบกลับ “ผมคิดว่าทุกอย่างปกติมาก เกิดอะไรขึ้น มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรือ?”

หญิงวัยกลางคนพูด “ในไฟล์วิดีโอเมื่อครู่ หลังจากที่ได้เห็นซวงเอ๋อร์ และคนอื่นๆ ฉันเห็นรอยยิ้มหนึ่งและก็คิดว่ารอยยิ้มนั้นมันช่างคุ้นเคยเสียเหลือเกิน”

ชายวัยกลางคนงุนงง “คุ้นเคย? นั่นไม่ใช่รอยยิ้มที่ผู้ชายมักจะยิ้มให้หลังจากเห็นผู้หญิงสวยๆ หรอกหรือ? เขาคงหลงเสน่ห์ความงามของซวงเอ๋อร์และคนอื่นๆ”

“ไม่ใช่” หญิงวัยกลางรีบโต้กลับ หลังจากเหลือบมองใบหน้ายิ้มแย้มของสามี ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็ต้องเปลี่ยนสี “ฉันคิดออกแล้ว ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง พวกเราถูกหลอก!”

ชายวัยกลางคนงุนงง รีบถามทันที “คุณหมายความว่าอะไร”

“นั่นไม่ใช่รอยยิ้มเพราะความลุ่มหลง” หญิงวัยกลางเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ “นั่นเป็นรอยยิ้มของนักล่า ‘เห็นการล่าสัตว์ จิตใจเบิกบาน’! รอยยิ้มนั่นเหมือนกับรอยยิ้มของคุณตอนที่ได้กินใครสักคน!”

………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) 49 เห็นการล่าสัตว์ จิตใจเบิกบาน

Now you are reading เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) Chapter 49 เห็นการล่าสัตว์ จิตใจเบิกบาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่ปรึกษาหารือกันทั้งคืนกับผู้นำท้องถิ่นหลายคน เพื่อช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไข โม่ซิ่งก็กลับมาที่สำนักงานของตน

เขากำลังจะงีบหลับ แต่ก่อนที่จะได้เอนกายพิงโซฟา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เคาะประตูเข้ามาเพื่อแจ้งว่าสำนักสัจธรรมมาถึงแล้ว

“คนพวกนั้นเป็นใครกัน?” โม่ซิ่งพยายามระงับอารมณ์ เขาจะไม่โกรธคนรอบข้างโดยไม่มีเหตุผล

“ไม่รู้ครับ พวกเขากำลังรออยู่ที่ห้องรับแขก มีทั้งหมดสองคน พวกเขาเพิ่งแสดงใบรับรองพิเศษจากสำนักสัจธรรม และพวกเขาไม่ได้แนะนำตัวเองด้วย พวกเขาบอกแค่ว่าคุณต้องทราบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เป็นไปได้ไหมว่า พวกเขามาที่นี่เพื่อช่วยเราแก้ปัญหาเรื่องหนูยักษ์?” เจ้าหน้าที่คนนั้นพูดอย่างระมัดระวัง

ใบหน้าของโม่ซิ่งเต็มไปด้วยความยินดีเมื่อได้ยิน ปัญหาเรื่องหนูยักษ์เป็นหนึ่งในสิ่งที่ลำบากที่สุดสำหรับเขาในช่วงนี้ และเขาทำอะไรแทบไม่ได้ เมื่อเทียบกับข้อเท็จจริงของอัศวิน A กับสำนักตัดสัจธรรม มันแทบจะไม่มีอะไรเลย ในความเห็นของเขา มันเกี่ยวข้องกับการเลื่อนตำแหน่งส่วนตัวของเขามากกว่า

แต่ปัญหาหนูยักษ์นี้ส่งผลต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ อย่างมาก และเขายังคงเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความสำคัญของเรื่องสาธารณะและเรื่องส่วนตัวด้วย

แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบใจสำนักสัจธรรมเท่าไรนัก แต่ตราบใดที่อีกฝ่ายสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ เขาจะไม่สร้างปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะควบคุมอารมณ์และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

อีกฝ่ายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเมื่อถึงคราววิกฤต เพราะฉะนั้นคงพอจะมีวิธีที่จะแก้ปัญหาหนูยักษ์ได้

“ดีมาก ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” โม่ซิ่งเอ่ยเสียงร่าเริง สลัดความง่วงทิ้งไปและลุกขึ้นเดินออกไปอย่างรวดเร็ว มายังห้องรับรองของสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษ

เขาผลักประตูเข้าไปข้างใน มีคนสองคนนั่งอยู่ในห้องรับรอง เมื่อเห็นใบหน้าตึงเครียดของอีกฝ่าย หัวใจของโม่ซิ่งก็หล่นวูบ สัญชาตญาณเขาได้ในทันทีว่านี่ไม่ใช่คนที่จะช่วยเขาแก้ปัญหาอย่างแน่นอน สองคนนี้น่าจะพาปัญหามาให้เขามากกว่า

ทั้งคู่เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง อยู่ในวัยกลางคน อายุราวห้าสิบปีเศษ หว่างคิ้วของผู้หญิงนั้นคล้ายกับพี่น้องตระกูลไป๋ทั้งสามมาก ถึงแม้ว่าจะแก่กว่า แต่ก็ยังมีมีเสน่ห์ โม่ซิ่งเกรงว่าพวกเขาอาจเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ส่วนผู้ชายอีกคน หน้าตาหล่อเหลา แต่คิ้วของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อย

“คุณเป็นผู้อำนวยการสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษที่นี่ใช่ไหม?”

เสียงของชายวัยกลางคนฟังแล้วน่าเกรงขาม เขาสงวนท่าทีเล็กน้อยก่อยเอ่ยถามโม่ซิ่ง

โม่ซิ่งรู้สึกประหม่า นับตั้งแต่วันที่เขาก่อตั้งสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษขึ้น เขามีอำนาจในมือ แม้ว่าจะเป็นเพียงตำแหน่งผู้อำนวยการในนาม ทว่า แม้แต่ผู้นำหลักขององค์กรท้องถิ่นที่มีตำแหน่งสูงมากก็ยังพูดจาสุภาพกับเขา

โม่ซิ่งระงับอารมณ์ของตน ในใจยังคงมีความหวังเล็กน้อยว่าอีกฝ่ายมาที่นี่เพื่อแก้ปัญหาเรื่องหนูยักษ์ “ผม โม่ซิ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษเมืองฉี พวกคุณมาทำอะไรหรือ? มีเอกสารราชการที่ส่งมาจากเบื้องบนหรือ”

ชายวัยกลางคนนั้นพูดตอบ “เปล่าหรอก ผมเป็นคนสำนักสัจธรรม และผมมีสิทธิ์ที่จะสุ่มตรวจสอบงานสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษในพื้นที่ของคุณได้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกปีศาจร้ายหรือสัตว์ประหลาดมาครอบงำ”

โม่ซิ่งคิดในใจ นี่มันแย่จริงๆ หมายความว่าถ้าเขาไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายนั้น เขาจะถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าโดนปีศาจเจ้าสิงร่างหรือ?

โม่ซิ่งตอบกลับ “ถ้าอย่างนั้นคุณรีบมาพบผมในตอนเช้านี้ ก็เพราะอยากจะตรวจสอบดูว่าหน่วยกิจการพิเศษนี้กำลังทำอะไรอยู่งั้นหรือ? อย่างไรก็ตาม ตอนนี้การแพร่ระบาดของหนูยักษ์ในเมืองฉีนั้นรุนแรงมาก ผมหวังว่าคุณจะช่วยเราคิดหาทางแก้ไขได้ เราจะรู้สึกขอบคุณมากและจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการช่วยเหลือของคุณ”

ชายคนนั้นท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเขาจะคิดบางอย่างขึ้นได้ จึงระงับความโกรธของตนเอาไว้ “เหอะ การแพร่ระบาดของหนูยักษ์นั้นไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยสักนิด! คุณไม่ต้องพูดมาก ผมจะถามคุณตรงๆ ลูกสาวสามคนของผมมาที่นี่เมื่อวานนี้ เพื่อเตรียมตัวลงชื่อกับผู้ชายชื่ออัศวิน A ให้ไปที่สำนักงานสัจธรรม ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ไหน?”

โม่ซิ่งตื่นตระหนก เขาคิดว่าอีกฝ่ายมาที่นี่เพื่อติดต่อเกี่ยวกับธุรกิจ บางทีอาจจะเพื่อช่วยแก้ปัญหาของหนูยักษ์ ดังนั้นเขาจึงอดทนต่อความเหนื่อยล้าจากการนอนดึก และมาต้อนรับด้วยตนเองอย่างมีความสุข เขาเองก็อายุ 35 ปีแล้ว วิธีฝึกร่างกายของเขานั้นคือคุณสมบัติน้ำแข็ง ซึ่งดีสำหรับการเพาะปลูกทางจิตวิญญาณ แต่ไม่เหมาะสำหรับการทำให้ร่างกายอบอุ่น

เขาไม่คิดว่าสองคนนี้จะมาถึงที่นี่แต่เช้า บุกเข้ามาในสำนักงานใหญ่แล้วอ้างว่าสำนักสัจธรรมสั่งมา จากนั้นก็เรียกผู้อำนวยการที่ไม่ได้นอนทั้งคืนออกมา เพื่อถามเรื่องส่วนตัวของครอบครัว

โม่ซิ่งระงับความโกรธเอาไว้ เขารู้ว่าคนๆ ไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องด้วยได้ “ในตอนนั้น มีการส่งเอกสารอย่างเป็นทางการ พวกเขาเพียงบอกให้ผมร่วมมือในการหาอัศวิน A แและส่วนที่เหลือนั้น ไม่ได้อยู่ในความดูแลของผม ผมมีบันทึกวิดีโอเป็นหลักฐาน”

ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานกิจการพิเศษ เพื่อป้องกันปัญหาและอุบัติเหตุทุกประเภท เขามีเครื่องมือบันทึกวิดีโอแบบพกพาอยู่เสมอ

ชายคนนั้นรีบกล่าว “เอาไฟล์วิดีโอทั้งหมดมาให้ผมดู”

โม่ซิ่งตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผู้ชายคนนี้ช่างหน้าไม่อายและหยิ่งผยองเสียจริง เขาเป็นผู้อำนวยการสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษ และชายคนนี้ก็กล้าที่จะขอข้อมูลวิดีโอจากเขา!

ต้องเข้าใจก่อนว่าข้อมูลทั้งหมดต้องถูกดึงผ่านขั้นตอนของทางการเพื่อป้องกันการรั่วไหล อีกอย่างข้อมูลส่วนใหญ่ในสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษก็นับว่าเป็นความลับสุดยอด ซึ่งหากข้อมูลเหล่านี้รั่วไหลออกไปต้องร้ายแรงมากแน่นอน เขาบอกว่าตัวเองเป็นคนจากสำนักสัจธรรม แต่ก็ไม่ได้พิสูจน์อะไร ถ้าเขาต้องการดูข้อมูลลับเหล่านี้จริงๆ เขาต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ เพื่อขออนุมัติ เขาคิดว่าตัวเขาเองเป็นใครกัน? พูดด้วยปากเปล่าก็จะให้ดูได้หรือ?

“ถ้าคุณอยากดูวีดีโอ คุณก็สามารถทำได้ แต่ต้องติดต่อกับแผนกระดับสูงเพื่อขออนุมัติก่อน และหลังจากที่คุณได้พิสูจน์ตัวตนของคุณผ่านทางเอกสารทางการที่เกี่ยวข้องแล้ว ผมจะให้คุณตรวจสอบวีดีโอทั้งหมดเอง”

ชายวัยกลางคนเมื่อถูกโม่ซิ่งปฏิเสธเช่นนั้น สุดท้ายก็ควบคุมอารมณ์ของตนเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป “แกกำลังรนหาที่ตาย!”

ทันทีที่เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้น โม่ซิ่งก็รู้สึกว่าปีศาจได้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว มันกำลังพุ่งเข้าหา ท่าทางต้องการจะเขมือบเข้าเขาไป!

ขณะที่ตกใจ และสติหลุดลอยออกไปชั่วครู่นั่นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ที่รัก” เสียงใสกังวานดังออกมา ปีศาจร้ายหายวับไปทันทีขณะเดียวกันหญิงวัยกลางคนก็เข้ามาช่วยโม่ซิ่ง ดวงตาของทั้งคู่สบ “ผู้อำนวยการโม่คะ เราแค่อยากจะขอดูสักหน่อย เดี๋ยวจะคืนให้คุณทันที”

โม่ซิ่งรู้สึกว่าเสียงของอีกฝ่ายราวกับเสียงสวรรค์ ด้วยเสียงนุ่มนวลที่ไม่อาจต้านทานได้ และดวงตาคู่สวยที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน เขาก็ตกอยู่ในภวังค์ราวกับว่าเขาพยักหน้าตอบรับโดยไม่รู้ตัว และหยิบ USB พกพาออกมาให้อย่างรวดเร็ว

“เหอะ ผิงเอ๋อร์ เจ้ายังต้องใช้เวทงงงันจัดการกับขยะแบบนี้อยู่อีกหรือ?” ชายวัยกลางคนไม่สบอารมณ์ แล้วมองไปทางโม่ซิ่งที่หลงเสน่ห์และหมดสติไปด้วยความรังเกียจ

เสียงของหญิงวัยกลางคนตอบกลับแผ่วเบา “ถ้าเรายังไม่ทราบรายละเอียดของอัศวิน A เราก็ไม่ควรทำเรื่องใหญ่โต ไม่งั้นจะเป็นการเปิดเผยตัวตนเอาได้ ลูกๆ ต้องพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นที่นี่แล้ว พวกลูกกินคนที่มีศักยภาพมากกว่าเรา และเราก็ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าลูกๆ มากนัก”

ขณะพูด หญิงวัยกลางคนก็หยิบ USB ที่โม่ซิ่งยื่นให้เมื่อครู่ ก่อนจะเสียบมันเข้ากับแล็ปท็อปที่เธอนำมาด้วย

โม่ซิ่งหมดสติ ล้มตัวลงบนโซฟาในห้องรับรอง ท่าทางของเขาคล้ายคนกำลังหลับสนิท

ชายหญิงคู่นั้นดูข้อมูลวีดิโออย่างระมัดระวัง เมื่อวานนี้โม่ซิ่งพาพี่น้องสาวสามคนของตระกูลไป๋ไปตามหาอัศวิน A

“ผู้ชายคนนี้ไม่ได้โกหก ดูเหมือนว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น” หลังจากยืนยันเรื่องนี้แล้ว ชายหญิงคู่นี้ก็จัดของและออกจากห้องรับแขกอย่างเร่งรีบทันที

ไม่นานหลังจากที่ทั้งสองเดินออกจากห้องรับแขกไป โม่ซิ่งซึ่งนอนอยู่บนโซฟาก็ลืมตาตื่น ใบหน้าของเขาฉายชัดถึงความตกใจ!

ชายหญิงวัยกลางคนเดินออกจากสำนักงานใหญ่ของสำนักงานหน่วยกิจการพิเศษ และรีบมุ่งหน้าไปยังหุบเขาอันเงียบสงบที่อยู่ใกล้ๆ กัน ทั้งสองกวาดตามองรอบด้าน หยุดที่นี่เพื่อหารือกันเล็กน้อย

หญิงวัยกลางคนกล่าว “ที่รัก ในวีดิโอ มีเพียงซวงเอ๋อร์ สามคนพี่น้อง และอัศวิน A ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะปกติ แต่ฉันพบว่าสถานที่นี้แปลกประหลาดมาก”

ชายวัยกลางคนตอบกลับ “ผมคิดว่าทุกอย่างปกติมาก เกิดอะไรขึ้น มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรือ?”

หญิงวัยกลางคนพูด “ในไฟล์วิดีโอเมื่อครู่ หลังจากที่ได้เห็นซวงเอ๋อร์ และคนอื่นๆ ฉันเห็นรอยยิ้มหนึ่งและก็คิดว่ารอยยิ้มนั้นมันช่างคุ้นเคยเสียเหลือเกิน”

ชายวัยกลางคนงุนงง “คุ้นเคย? นั่นไม่ใช่รอยยิ้มที่ผู้ชายมักจะยิ้มให้หลังจากเห็นผู้หญิงสวยๆ หรอกหรือ? เขาคงหลงเสน่ห์ความงามของซวงเอ๋อร์และคนอื่นๆ”

“ไม่ใช่” หญิงวัยกลางรีบโต้กลับ หลังจากเหลือบมองใบหน้ายิ้มแย้มของสามี ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็ต้องเปลี่ยนสี “ฉันคิดออกแล้ว ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง พวกเราถูกหลอก!”

ชายวัยกลางคนงุนงง รีบถามทันที “คุณหมายความว่าอะไร”

“นั่นไม่ใช่รอยยิ้มเพราะความลุ่มหลง” หญิงวัยกลางเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ “นั่นเป็นรอยยิ้มของนักล่า ‘เห็นการล่าสัตว์ จิตใจเบิกบาน’! รอยยิ้มนั่นเหมือนกับรอยยิ้มของคุณตอนที่ได้กินใครสักคน!”

………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+