ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 403 คุณชายสามเย่ได้เจอลูกสาวแล้ว(3)
บทที่ 403 คุณชายสามเย่ได้เจอลูกสาวแล้ว(3)
"ไม่ใช่"เล้งหรงขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนการตอบคำถามนี้ น้ำเสียงมีความเย็นชาอย่างชัดเจน ในแววตาคู่นั้นราวกับซ่อนความสับสนอย่างรวดเร็ว
"ผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอกลูกพี่จะมีแฟนเร็วขนาดนี้ ในใจลูกพี่น่าจะยังลืมเวินลั่วฉิงไม่ได้หรอกมั้ง ถึงแม้ครั้งก่อนเพื่อเรื่องเวินลั่วฉิง คุณชายสามเย่เกือบที่จะทำลายที่นี่ของพวกเรา แต่เรื่องความรู้สึกใช่ว่าจะลืมก็สามารถลืมได้เลย"หมิงหยวนอดที่จะพูดแซวเล่นสักหน่อยไม่ได้ หมิงหยวนรู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้ เขาพูดอะไรลูกพี่ก็ไม่โกรธเขาทั้งนั้น
เพราะอารมณ์ของทุกคนในตอนนี้กำลังตึงเครียด ต้องการผ่อนคลาย และต้องการปลดปล่อย
เล้งหรงจ้องเธอทีหนึ่ง ด้วยสายตาเย็นอย่างชัดเจน แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรออกมา เพราะเหมือนตามที่หมิงหยวนคิดไว้แหละ เขาไม่มีเวลาไปถือสาประโยคพวกนั้น
อันที่จริง พวกเขาบุกทลายเครือข่ายค้ามนุษย์นี้มาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังตรวจหาว่าใครคือตัวการใหญ่ไม่พบเสียที
เล้งหรงหันไปมองเวินลั่วฉิงโดยสัญชาตญาณทันที
พวกเขารู้ดี ว่าถ้าหากหาตัวบงการใหญ่ไม่เจอ ถึงแม้ว่าจะทำลายองค์กรในปัจจุบันนี้ก็ตาม แต่ก็อาจผ่านไปได้ไม่นานนัก องค์กรใหม่จะโผล่ขึ้นมาอีกจนได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหัวหน้าแก๊งต่างหาก คนๆนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่
เวินลั่วฉิงเมื่อได้ยินที่หมิงหยวนพูดก็ชะงักไปเล็กน้อย ถึงที่หันไปมองเล้งหรง
เพราะเรื่องของเธอ เย่ซือเฉินเกือบที่จะทำลายที่ของเล้งหรงงั้นเหรอ
นี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทำไมเธอไม่เคยรู้
ทันในนั้นเวินลั่วฉิงก็นึกถึงเรื่องที่เล้งหรงไปขอหมั้นหมายในครั้งก่อน ทีแรกเล้งหรงยังมีท่าทีตามตื้อไม่เลิก มีท่าทีไม่ยอมแพ้ง่ายๆ วันนั้นเล้งหรงยังจะชวนเธอไปทานอาหารอยู่เลย
แต่ต่อมาจู่ๆก็หายไปไม่ได้ข่าวคราวเลยสักนิด
ดังนั้น ครั้งนั้นที่จริงเป็นเพราะเย่ซือเฉินลงมือใช่ไหม แถมเย่ซือเฉินยังเกือบที่จะทำลายที่อยู่ของเล้งหรงเหรอ
เย่ซือเฉินถึงกับต้องโหดขนาดนั้นเลยเหรอ
แต่ว่า ในตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่พูดอะไรออกไปอยู่แล้ว เพราะเล้งหรงจำเธอไม่ได้แม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าเธอนั่แหละที่คือเวินลั่วฉิง
"งั้นสาวสวยท่านนี้คือ"หมิงหยวนประหลาดใจเป็นอย่างมากกับการปรากฏตัวของเวินลั่วฉิง สถานที่แบบนี้ของพวกเขา แต่เดิมพบผู้หญิงน้อยมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสาวสวยขนาดนี้
เล้งหรงหันมองเวินลั่วฉิง กลับไม่ทำการแนะนำใดๆ ดูออกว่าอารมณ์ของเล้งหรงในตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก นัยน์ตามีความเยือกเย็นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
"เธอคือผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยาที่พวกเราเชิญมา"เสี่ยวโจวแนะนำทันที
"ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยาเหรอ แน่ใจใช่ไหม"หมิงหยวนอึ้งไปทันที "สาวขนาดนี้ สวยขนาดนี้ ไปลงสมัครนางงามฉันยังจะเชื่อหน่อย ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยา ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ"
หมิงหยวนเป็นคนพูดจาตรงๆ ผู้ชายดิบเถื่อนในสถานที่แบบนี้ พูดจาไม่รู้จักอ้อมค้อมมาแต่ไหนแต่ไร เป็นพวกอยากพูดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น
ดังนั้น สิ่งที่เล้งหรงแสดงออกมานั้นถือว่าเป็นการเก็บซ่อนเป็นอย่างมากแล้ว
"แกพูดแบบนี้ได้ยังไง"เสี่ยวโจวจ้องเขม็งหมิงหยวนด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยทีหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองเวินลั่วฉิง สายตามีความสับสนเบาๆ ที่จริงในใจของเสี่ยวโจวก็เห็นด้วยกับความคิดของหมิงหยวนมากกว่า
"ทางข้างบนกลัวพวกเรายังวุ่นวายไม่พอใช่ไหม เลยจงใจเพิ่มความวุ่นวายให้พวกเราอีกมั้ง"มุมปากของหมิงหยวนถึงกับแสดงออกถึงการเยาะเย้ยอย่างเห็นได้ชัด
ตั้งแต่ต้นจนจบใบหน้าเวินลั่วฉิงยังคงนิ่งเฉย ราวกับไม่ได้ยินคำพูดของพวกเขา ราวกับว่าที่พวกเขาพูดไม่ใช่เธอ เธอชอบมองห้องสอบสวนโดยตลอด
เล้งหรงเห็นท่าทีการตอบสนองของเธอแล้ว ก็เริ่มมีท่าทีประหลาดใจได้น้อย ผู้หญิงคนนี้มองได้จริงจังเหลือเกิน กลับเหมือนจะมีความสามารถจริงอย่างนั้น
เล้งหรงกำลังคิดอยู่ จู่ๆเวินลั่วฉิงก็มองมาทางเขา เลยประสานกับสายตาของเขาพอดี ในวินาทีนั้น สายตาของก็เล้งหรงก็หลบโดยอัตโนมัติทันที
สีหน้าเวินลั่วฉิงยังคงเป็นเหมือนปกติเช่นเดิม ไม่มีความผิดปกติใดๆ ริมฝีปากแดงขยับเล็กน้อย จู่ๆก็พูดขึ้นมา "ไม่ต้องสอบสวนเธอแล้ว"
"อะไร คุณพูดอะไร เธอไม่ต้องสอบสวนเหรอ คุณหมายความว่าอะไร"หมิงหยวนชะงักไปสักพัก รีบตะโกนออกมา"คุณพึ่งมาถึง ยังไม่ทันเข้าใจอะไร ก็เริ่มสั่งมั่วแบบนี้ ตอนที่พวกเราเพิ่งบุกทลายเครือข่ายนี้ได้ หลายคนที่โดนชักก็บอกว่าหญิงชราคนนี้คือผู้บงการของพวกเขา ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้โต้แย้งใดๆด้วย แต่ตอนที่กำลังจะจบคดีได้แล้ว จู่ๆเธอก็บอกว่าตัวเองเป็นเหยื่อ สิ่งที่เธอทำเป็นการแก้ตัวอย่างชัดเจน ไม่สอบสวน จะให้พวกเราปล่อยเธอไปง่ายๆแบบนี้เชียวหรือ "
สีหน้าของเล้งหรงจู่ๆก็เปลี่ยนไป ดวงตาทั้งคู่มองไปทางเวินลั่วฉิงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ในดวงตามีความประหลาดใจปรากฏอยู่เล็กน้อย
"คุณก็สงสัยไปแล้วนิ ไม่ใช่เหรอ"เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจหมิงหยวน แต่กลับหันไปมองเล้งหรง แล้วพูดเสริมขึ้นมาอีกประโยคอย่างช้าๆ
ในใจเล้งหรงถึงกับตะลึงอย่างแรง
ใช่ เขามีความสงสัยแบบนั้นจริงๆ แต่ความสงสัยนั้นแม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น เขาถึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
เธอดูออกความสงสัยในใจที่เขามีได้ยังไง
เขาสังเกตมาแล้วหลายวัน ถึงได้เกิดการสงสัยเบาๆ
แต่เมื่อกี้เธอดูแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ก็แน่ใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าหญิงชราคนนั้นไม่ใช่บุคคลสำคัญ
ทำไมเธอถึงได้มั่นใจมากขนาดนี้ แถมเธอยังพูดออกมาโดยตรงว่าหญิงชราคนนี้ไม่ต้องสอบสวนแล้ว เธอไม่กลัวเกิดการผิดพลาดหรือไง
เขากลัวจะผิดพลาดมาโดยตลอด ว่าจะกระทบต่อการสอบสวนตามปกติ ดังนั้นจึงไม่ได้บอกความสงสัยในใจออกมาโดยตลอด
"ลูกพี่ ลูกพี่สงสัยอะไร"หมิงหยวนก็นิ่งงันเช่นกัน ถามเล้งหรงด้วยความมึนเล็กน้อย
"ลองพูดความคิดคุณออกมา"แววตาคู่นั้นของเล้งหรงจ้องมองเวินลั่วฉิง สีหน้าในตอนนี้เริ่มเคร่งขรึมอย่างชัดเจน
"ไม่มีความคิดเห็น ฉันต้องการเข้าใจสถานการณ์มากกว่านี้"เวินลั่วฉิงไม่ได้ตอบคำถามเขาโดยตรง เธอเพิ่งมาถึง ยังไม่เข้าใจในสถานการณ์ ก็ต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนบงการชรา ต้องรู้เป้าหมายของคนที่อยู่เบื้องหลังนั้น
"ไม่มีความคิดเห็น คุณก็พูดว่าคนๆนี้ไม่ต้องสอบปากคำแล้วเหรอ คุณ คุณจะทำอะไรกันแน่"หมิงหยวนเริ่มเดือด จึงตะโกนออกมาอีกครั้ง
"แต่ว่า เห็นได้ชัดเธอปิดบังบางอย่าง"เล้งหรงมีความสงสัยว่าหญิงชราคนนี้จะไม่ใช่ตัวบงการใหญ่ของเครือข่ายคนนั้น แต่หญิงชราคนนี้ต้องมีการปิดบังความจริงไว้แน่
"เรื่องที่เธอปิดบังไว้มันไม่สำคัญ หรืออาจจะเป็นเรื่องที่พวกคุณจัดการได้แล้ว เพียงแต่เธอยังไม่รู้"เวินลั่วฉิงตอบอย่างรวดเร็ว และชัดเจน
"คุณรู้ได้ยังไง"เห็นได้ชัดหมิงหยวนไม่เชื่อเลยสักนิด
"พวกเราสอบปากคำมาห้าวันแล้วก็ยังไม่ได้อะไร คุณแค่ดูแป๊บเดียว ก็รู้ว่าเรื่องที่ปิดบังไว้นั้นไม่สำคัญ คุณคือเทวดาหรือไง"
"ลูกพี่ ผมรู้สึกว่าหญิงชราคนนี้เจ้าเล่ห์มาก ผมรู้สึกว่าเธอซ่อนไว้ลึกมากเลยทีเดียว เธอต้องไม่ใช่ชาวไร่ชาวนาที่ทำไร่ธรรมดาอย่างแน่นอนครับ ลูกพี่ดูมือของเธอไม่มีหนังด้านเลย และไม่มีรอยแตกด้วย ทำไร่จะเป็นแบบนี้เหรอครับ แล้วลูกพี่ดูหน้าเธอสิ แม้ใบหน้าจะมีริ้วรอย แต่ถ้าเทียบกับหญิงชราที่ทำไร่ทั่วไปนั้นถือว่าน้อยมาก แถมผิวพรรณเธอก็ขาวมากด้วย เหมือนไม่มีการตากแดดตากลมมาก่อน"เห็นที่ชัดว่าหมิงหยวนสังเกตอย่างละเอียด
และเป็นเพราะเหตุนี้เอง หญิงชราก็ยิ่งทำให้คนอื่นสงสัยเข้าไปอีก
Comments