ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 371 นางฟ้าเวินเก่งเกินไปแล้ว ปลาติดเบ็ดแล้ว (1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 371 นางฟ้าเวินเก่งเกินไปแล้ว ปลาติดเบ็ดแล้ว (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่371 นางฟ้าเวินเก่งเกินไปแล้ว ปลาติดเบ็ดแล้ว (1)

“เธอรู้ได้ยังไง?” ท่านย่าถัง ชะงักงัน ดวงตากะพริบ ทันใดนั้นก็เข้าใจ และอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาได้ “เธอรู้จักกับ ถังหลิน ของเรางั้นเหรอ?”

เวินลั่วฉิงยิ้มและไม่พูดอะไร เธอเคยเจอถังหลินสองครั้ง ก็เรียกได้ว่ารู้จักสินะ

เวินลั่วฉิงไม่อธิบายให้มากความ เธออยากที่จะให้หัวข้อสนทนานี้ผ่านไป แต่กลับคิดไม่ถึงว่าท่านย่าถัง จะก่นด่าขึ้นอีก: “ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้มีตาแต่หามีแววไม่ ผู้หญิงดีขนาดนี้มันยังไม่ชอบ มันตาบอดรึไง?”

“คุณว่ามันตาบอดรึเปล่า?” ท่านย่าถังหันไปถาม ท่านปู่ถัง เพื่อหาแรงสนับสนุน

“ใช่ ๆ เขามันตาบอด” ท่านปู่ถัง เห็นด้วยกับท่านย่าถัง และพยักหน้าหงึก ๆ

เวินลั่วเฉิงตกตะลึง ท่านปู่ถัง ก็ช่างเอาใจท่านย่าถัง เสียจริง? ทั้งสองคนดูน่ารักมากจริง ๆ

ไม่รู้เพราะอะไร เวินลั่วฉิงมองดูทั้งสองคนนั้นแล้วเกิดความอบอุ่นใจขึ้นอย่างฉับพลัน

“เอาล่ะ พวกเรากลับกันเถอะ” ทันใดนั้นคุณย่าเย่ก็เดินเข้ามาและอยากจะพาเวินลั่วฉิงออกไป เพราะเธอกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรอีก เธอรู้ดีว่าตระกูลกู้ นั้นไม่ใช่ใครที่จะเข้าไปมีเรื่องยุ่งยากด้วยง่าย ๆ

เธอกลัวว่าถึงเวลาเวินลั่วฉิงจะไปหาเรื่องแล้วทำให้ตระกูลเย่จะต้องซวยไปด้วยอีก ดังนั้นรีบกลับน่าจะดีกว่า

ท่านย่าถัง รู้สึกลังเลแต่เพราะไม่ใช่ลูกหลานในบ้านตนเอง คนเขาจะไปเธอจะรั้งไว้ก็ไม่ได้

เมื่อเห็นเวินลั่วฉิงจากไป จู่ ๆ ท่านย่าถัง ก็เกิดรู้สึกโหวง ๆ ในใจ และใจหายเป็นอย่างมาก

พ่อบ้านตระกูลเย่ขับรถเข้ามาแล้ว ดังนั้นจึงไม่ทำเป็นต้องให้คนของตระกูลกู้ ไปส่ง

“เย่ซือเฉินเดินทางไปทำงานอีกแล้วเหรอ?” เมื่อขึ้นรถ คุณปู่เย่ก็ถามขึ้นทันที

“อืม” เวินลั่วฉิงตอบเบา ๆ เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคุณปู่เย่ แต่มุมปากของเธอกลับยกขึ้นเล็กน้อย ดูแล้วคุณปู่เย่จะเป็นปลาที่ติดเบ็ดแล้ว

“ทำไมครั้งนี้เขาถึงไม่พาเธอไปด้วยล่ะ?” คุณปู่เย่แกล้งถามตามน้ำ

เวินลั่วฉิงยังคงก้มหน้าเล็กน้อย ครั้งนี้เธอไม่พูดอะไร เธอเข้าใจกระจ่างแจ้งว่าบางครั้งการพูดมากนั้นไม่ใช่เรื่องดี บางทีการรักษาท่าทีสงบนิ่งก็ทำให้เรื่องต่าง ๆ ดูลึกลับมากขึ้น

คุณปู่เย่มองเวินลั่วฉิงและมุมปากกระตุกเล็กน้อย: “ครั้งก่อนที่เขาพูดว่าไม่สนใจบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปอะไรนั่น ไม่สนใจแล้วต้องพยายามแทบตายขนาดนี้ไหม? แสดงว่าแค่จะพูดให้ฉันฟัง จะแกล้งกันงั้นสิ? หึ ถ้าเขาทำได้ไม่ดีพอ ทำให้พอใจไม่ได้ ฉันไม่มีทางยกบริษัทนี้ให้เขาหรอก”

เวินลั่วฉิงกะพริบตาเล็กน้อยดูเหมือนเธอจะควบคุมอารมณ์ได้ดี แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใดทุกครั้งที่ได้ยินคุณปู่เย่พูดถึงเย่ซือเฉินแบบนี้ เธอจึงได้รู้สึกวุ่นวายใจเป็นพิเศษ

เธอรับไม่ได้กับการที่คุณปู่เย่ใช้ให้เย่ซือเฉินดูแลบริษัทแบบนี้ อีกทั้งยังเอาแต่คิดจะหาทางบีบบังคับเย่ซือเฉิน

เธอยิ่งรับไม่ได้กับการที่คุณปู่เย่ทำท่าดูหมิ่นแบบนั้น

เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเย่ซือเฉินอาจจะไม่ได้สนใจบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป เพียงแต่ว่า เย่ซือเฉินก็ไม่อาจจะยอมให้บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปตกไป อยู่ในมือของเย่ซือฉุนได้ ดังนั้นจึงจะต้องได้มันมา

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอจึงช่วยเย่ซือเฉินให้ได้ทุกอย่างกลับคืนมา และถึงเวลาที่เธอจะแสดงฝีมือแล้ว เย่ซือเฉินออกเดินทางแล้ว ไม่แน่ว่าเธออาจจะทำให้เขาต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากเมื่อกลับมา

มุมปากของเวินลั่วฉิงยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ ถึงแม้มันจะจางแต่ดูแล้วมันไม่เสแสร้ง

“เธอรู้ไหมว่ารอบนี้เขาเดินทางไปไหน?” ในตอนนั้นเองคุณปู่เย่ก็โพล่งถามขึ้น คำถามนี้ของคุณปู่เย่แสดงให้เห็นถึงการหลอกถามอย่างชัดเจน

เวินลั่วฉิงดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย คำถามนี้คุณปู่ถามได้ดี ได้จังหวะพอดี เธอกำลังกังวลว่าจะไม่มีโอกาสอยู่ทีเดียวเชียว

“ประเทศ R ค่ะ” เวินลั่วฉิงเงยหน้าแล้วมองกลับไปที่คุณปู่เย่อย่างเป็นธรรมชาติ

อันที่จริงเวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าครั้งนี้เย่ซือเฉินเดินทางไปประเทศอะไร เธอจงใจตอบว่าประเทศ R

เพราะเย่ซือเฉินมึธุรกิจส่วนตัวมากมายอยู่ที่ประเทศ R แต่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปนั้นกลับไม่มีธุรกิจอะไรที่นั่น

“ประเทศ R? บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปของเราขยายไปถึงประเทศ R แล้วเหรอ?” ตามคาด คุณปู่เย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเต็มไปความตกตะลึงและสงสัยไม่น้อย

“เปล่าค่ะ เป็นของสามีหนูเอง…” เวินลั่วฉิงรับคำของคุณปู่เย่อย่างเป็นธรรมชาติและตอบด้วยความนำเสียงหยิ่งยโส อย่างไรก็ตามเมื่อพูดได้เพียงครึ่งก็ทำท่าเหมือนจะรู้สึกตัวว่าผิด เธอหยุดอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและเป็นกังวลแล้วมองไปที่คุณปู่เย่

เดิมทีคุณปู่เย่ที่รู้สึกสงสัย แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ ‘ไม่ได้ตั้งใจ’ หลุดจากปากของเวินลั่วฉิง เมื่อมองดูท่าทีแบบนั้นของเวินลั่วฉิง เขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างมากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

เวินลั่วฉิงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วส่งข้อความให้มู่หรงดัวหยาง

ครั้งก่อนเธอให้มู่หรงตัวหยางค้นหาเรื่องอิทธิพลทั้งหมดของเย่ซือเฉินก็เพื่อให้คุณปู่เย่ดู

เธอรู้ว่าอีกเดี๋ยวคุณปู่เย่จะต้องให้คนไปตรวจสอบ แต่ด้วยความสามารถของลูกน้องของคุณปู่เย่ไม่มีทางจะหาข้อมูลของอิทธิพลของเย่ซือเฉินเจอได้ ดังนั้นเวลานี้จะต้องอาศัยมู่หรงดัวหยางปล่อยข้อมูลออกให้ลูกน้องของคุณปู่เย่

ที่ผ่านมาคุณปู่เย่คุ้นเคยกับมันมากและไม่สงสัยอะไร เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเขาจะหาทางแก้ไขโดยเร็วที่สุดเท่านั้น

“เธอช่วยไปตรวจสอบดูให้ทีว่าซือเฉินมีธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ประเทศไหนอีกบ้าง” จากนั้นคุณปู่เย่ก็รีบโทรศัพท์ออกไปและออกคำสั่งทันทีต่อหน้าเวินลั่วฉิง

เวินลั่วฉิงเข้าใจว่าอย่างน้อยคุณปู่เย่จะรอให้ถึงบ้านก่อนแล้วค่อยตรวจดู ดูแล้วครั้งนี้คุณปู่เย่คงจะร้อนใจจริง ๆ ไม่เลว ผลลัพธ์ดีกว่าที่เธอคาดไว้เสียอีก

ยิ่งกว่านั้นเธอเชื่อว่าเมื่อคุณปู่เย่ได้เห็นธุรกิจของเย่ซือเฉินทั้งหมด จะยิ่งร้อนใจกว่าเดิม แล้วเรื่องก็จะง่ายแล้ว

ด้วยความช่วยเหลือจากมู่หรงดัวหยางจากทางนั้น ดังนั้นเมื่อถึงบ้านคุณปู่เย่ก็ได้รับโทรศัพท์ ปลายสายเป็นฝ่ายพูดและคุณปู่เย่ทางนี้เป็นฝ่ายผู้รับฟัง ยิ่งคุณปู่เย่ได้ฟังสีหน้าก็ยิ่งเคร่งขรึม

ปลายสายพูดอยู่นานเพราะทรัพย์สินของเย่ซือเฉินนั้นกำลังจะหมดแล้ว หลังจากคุณปู่เย่วางสาย สีหน้าของดูซับซ้อนมากจริง ๆ

“เธอไปห้องหนังสือกับฉัน” เมื่อลงจากรถ คุณปู่เย่พูดกับเวินลั่วฉิงคำหนึ่ง

เวินลั่วฉิงนิ่งไป ใบหน้าของเธอค่อนข้างตกตะลึงและกังวลเล็กน้อย แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงตั้งใจแสดงออกแบบนั้นเอง

คุณปู่เย่เห็นเวินลั่วฉิงมีปฏิกิริยาแบบนี้ อารมณ์ของเขาก็ซับซ้อนมากขึ้น

“เธอรู้เกี่ยวกับกิจการอื่น ๆ ของเย่ซือเฉินทั้งหมดเหรอ?” เมื่อเข้าห้องหนังสือ คุณปู่เย่ก็ถามทันที ตอนนี้เขามองไปที่เวินลั่วฉิงด้วยแววตาเคร่งเครียดไม่น้อย เขาคิดเอาเองว่าภายใต้สายตาเช่นนี้เวินลั่วฉิงจะไม่กล้าพูดโกหก

“ฉันก็ไม่ได้รู้ทั้งหมด เขาแค่เคยพาฉันไปประเทศ R ฉันรู้เพียงแค่บางเรื่องที่นั่น” อันที่จริงเวินลั่วฉิงไม่จำเป็นต้องโกหก แน่นอนว่าถ้าเวินลั่วฉิงคิดจะพูดโกหกจริงก็คงไม่ได้ถูกคุณปู่เย่ขู่จนกลัว และคุณปู่เย่ก็ไม่มีทางจะดูออกได้

“หรือว่า เขาไม่ได้ปิดบังเธอ?” คุณปู่เย่หรี่ตา เย่ซือเฉิงมีธุรกิจตั้งมากมายขนาดนี้ จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ เย่ซือเฉินปิดบังเขา แล้วทำไมถึงไม่ปิดบังผู้หญิงคนนี้ล่ะ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด