ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 150 ผลจากความโกรธเกรี้ยวของคุณชายสามเย่ (4)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 150 ผลจากความโกรธเกรี้ยวของคุณชายสามเย่ (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 150 ผลจากความโกรธเกรี้ยวของคุณชายสามเย่ (4)

เวินลั่วฉิงออกจากห้องอาบน้ำปุ๊บเด็กน้อยถังจื่อซีก็รีบวิ่งไปกอดเธอไว้ อ้อนเธออยู่ในอ้อนกอดมิให้เธอมีเวลาไปคิดอย่างอื่น ที่สำคัญคือมิให้เธอสังเกตเห็นถึงความลับของเธอที่มีต่อหม่ามี้

อันที่จริงเวลานี้เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เธอคิดว่าเย่ซือเฉินมีเมิ่งโร่ถิงอยู่ข้างกาย ทุกอย่างต้องโอเคอย่างแน่นอน และตอนนี้เธอก็อยากจะกอดลูกรักของตนนอนเพียงอย่างเดียว

แน่นอน เพราะถังจื่อซีกอดเธอไว้ตลอด เธอจึงไม่มีเวลาดูโทรศัพท์แม้แต่วินาทีเดียว

ถังจื่อซีกอดเวินลั่วฉิงไว้ตลอด ดังนั้นเวินลั่วฉิงก็ได้แต่นอนอยู่กับเธอ ตอนที่ถังจื่อซีนอนหลับแล้ว เวินลั่วฉิงก็นอนหลับแล้วเช่นกัน

“คุณเวินไม่ได้มีบ้านในเมืองAครับ” หลังจากหนึ่งชั่วโมง อีกฝ่ายก็ตอบโทรศัพท์ของเย่ซือเฉิน

“ตรวจสอบทุกโรงแรม ทุกรีสอร์ทดูว่ามีบันทึกการเข้าพักของเธอไหม” เย่ซือเฉินได้สั่งการด้วยน้ำเสียงที่ลุ่มลึกอีกครั้ง

ไม่ได้กลับมา ไม่ได้ไปที่บ้านตระกูลเวิน และไม่ได้ไปที่บ้านพักอื่น แสดงว่าน่าจะไปพักที่โรงแรม

แน่นอน เขาก็คิดถึงคนที่เธอวีดีโอคอลเมื่อคืนนี้ แต่เขาไม่อยากจะไปคิดในด้านนี้

“ตรวจดูทุกโรงแรมทุกรีสอร์ทน้อยใหญ่หมดแล้วครับ ไม่พบการเช็คอินของคุณเวินเลยครับ” ตอนตีสามกว่าเย่ซือเฉินได้รับสายโทรศัพท์อีกครั้ง

เขาอยู่ในห้องนอนที่แสงไฟอ่อนเล็กน้อย กลิ่นอายความเย็นชาเมื่ออยู่ในค่ำคืนที่ดำมืดยิ่งทำให้ชวนหวาดกลัวยิ่งนัก

เธอไม่ได้กลับมา ไม่ได้กลับบ้านตระกูลเวิน ไม่ได้พักที่โรงแรม แล้วเธอไปไหนกัน?

เวินลั่วฉิงตื่นมาตอนเช้า เอามือไปจับโทรศัพท์มือถือ พบว่าได้ปิดเครื่องไว้ ตอนแรกนึกว่าไม่มีแบตแล้ว แต่เมื่อกดปุ่มเปิดเครื่องกลับพบว่าสามารถเปิดเครื่องได้

และยิ่งไปกว่านั้นแบตยังมี 50 เปอร์เซ็นต์

แต่ว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้คิดอะไร พอดีกับถังจื่อซีก็ตื่นมาอ้อนจะให้เธออุ้ม เธอจึงได้วางมือถือลง

เบอร์โทรศัพท์มือถือของเวินลั่วฉิงเพิ่งจะไปซื้อมาใช้ฉุกเฉินเมื่อไม่กี่วันมานี้ ซึ่งไม่ได้เปิดโหลดการแจ้งเตือนของประวัติการโทร ดังนั้นเมื่อคืนหลังจากที่ถังจื่อซีปิดเครื่องของเธอแล้ว เย่ซือเฉินโทรมาก็ไม่ได้มีการแจ้งเตือนใดๆ เวินลั่วฉิงจึงไม่รู้อะไรเลย

แน่นอน เธอก็ไม่รู้ที่ถังจื่อซีกดวางสายโทรศัพท์ของเธออีกด้วย

เธอนึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างร่ารื่นหายห่วง

เด็กน้อยทั้งสองกลับมาจากประเทศM เอาของมาไม่มาก จึงมีหลายอย่างที่จำเป็นต้องไปหาซื้อ

เธออยากถือโอกาสนี้ซื้อของให้เด็กน้อยทั้งสองคน

แต่ว่าเมื่อวานเธอปืนหน้าต่างออกมาอย่างรีบเร่ง เอามาเพียงแค่โทรศัพท์ แม้กระทั่งกระเป๋าสตางค์ก็ไม่ได้เอามา

ปกติเย่ซือเฉินออกไปทำงานตอนเช้า 8 โมง เวินลั่วฉิงจึงคิดว่ารอให้เย่ซือเฉินไปทำงานแล้วเธอก็กลับไปเอากระเป๋าเงิน จะได้ไม่ต้องกลับไปเช้าเกินแล้วไปเจอเรื่องเหมือนเมื่อวานตอนเช้า ซึ่งจะทำให้อึดอัดได้

เวลา 10 โมงเวินลั่วฉิงได้ต่อรถกลับไปที่คฤหาสน์ เธอรู้ว่าเวลานี้เย่ซือเฉินไม่มีทางอยู่บ้านแน่นอน

เวินลั่วฉิงเปิดประตูบ้านก็ขึ้นไปยังชั้นสอง แต่เมื่อผ่านหน้าห้องของเย่ซือเฉิน จู่ๆประตูห้องของเขาก็ได้เปิดออกมา

เวินลั่วฉิงยังไม่ทันรู้ตัวก็โดนเขาลากไปที่ผนังแล้ว

เวินลั่วฉิงตกใจกลัว เธอคิดว่าเวลานี้เย่ซือเฉินไปทำงานแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขายังจะอยู่ในบ้านได้?

และจู่ๆเขาลากเธอไปไม่รู้ว่าอยากจะทำอะไรกันแน่?

คิดบัญชีเมื่อวานต่อหรือ?

แต่ว่าเมื่อคืนเมิ่งโร่ถิงกลับมาแล้วไม่ใช่หรือ?เมื่อคืนเขาน่าจะอยู่กับเมิ่งโร่ถิงนะ

เวินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้นมองเขา เวลานี้ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรมากนัก เหมือนกับปกติที่เงียบขรึม แต่เวินลั่วฉิงรู้สึกว่ามันไม่ปกติ

แต่จากสีหน้าตอนนี้ของเขา เธอดูอารมณ์ของเขาไม่ออก ไม่มีอารมณ์โมโหและความเย็นชาเหมือนเมื่อวาน เงียบจนผิดปรกติ

“คุณไม่ได้ไปทำงานหรือ?”เวินลั่วฉิงถอนหายใจหนึ่งเปราะ อิริยาบถของเขาขณะนี้กลับทำให้เธอยิ่งตกใจกลัวมากขึ้น

เย่ซือเฉินได้ยินเธอพูด มุมปากยกขึ้นราวกับจะยิ้ม “รอคุณอยู่”

ดูเหมือนว่าเธอจะวิเคราะห์แล้วว่าเขาน่าจะไปที่บริษัทในเวลานี้แล้ว ดังนั้นจึงได้เลือกกลับมาในเวลานี้

ดี ดีมาก วิเคราะห์ได้อย่างยอดเยี่ยมไปเลย!!

ดังนั้นวันนี้เขาไม่ไปที่บริษัทอยู่บ้านรอเธอ ช่างเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดเสียจริงๆ

คือเขาเห็นเมื่อวานเธอออกไปอย่างเร่งรีบ ไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์ไป คิดว่าเธอจะต้องกลับมาเอา ดังนั้นจึงรอเธออยู่บ้านโดยเฉพาะ

“รอฉัน?”เวินลั่วฉิงสะดุ้งเล็กน้อย เขาไม่ไปทำงานเพราะรอเธอที่บ้านโดยเฉพาะ?

“รอฉันมีธุระอะไรหรือค่ะ?” เมื่อได้รับเกียติอันสูงสงเช่นนี้ เวินลั่วฉิงรู้สึกไม่กล้ารับ

“แล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะ?” เย่ซือเฉินไม่ตอบแต่ถามกลับ ดวงตาราวกับมีรอยยิ้ม น้ำเสียงยังคงเบาและช้าอย่างไม่น่าไว้วางใจ

“……”เวินลั่วฉิงส่ายหัว เธอไม่กล้าจะเชื่อเลยว่าเขาไม่ไปทำงานก็เพื่อจะรอเธออยู่ที่บ้าน

“มีโทสะที่แรงสูง ต้องการคนมาดับ”เย่ซือเฉินยกมุมปากขึ้นเป็นรูปเรเดียนราวกับกำลังจะยิ้มไม่ยิ้ม

เย่ซือเฉินพูดมีนัยว่าสถานะที่ไม่ชัดเจนในด้านความรัก และมีนัยเตือนเธอว่า เมื่อคืนตอนที่เธอโทรหาเมิ่งโร่ถิงนั้น เขาได้ยินหมดแล้ว

นอกจากความรู้สึกทางด้านความรักแล้ว เวินลั่วฉิงก็จะมีปฏิกิริยาการตอบสนองที่รวดเร็ว จึงเข้าใจความหมายของเขาทันที รู้ว่าตอนที่เธอโทรหาเมิ่งโร่ถิงเขาก็อยู่ข้างๆ น่าจะได้ยินหมดแล้ว

ได้ยินก็ได้ยินสิไม่มีอะไรจะต้องปิดบังอยู่แล้วเนี้ย เมื่อเขาได้ยินแล้วน่าจะขอบคุณเธอที่เอาใจเขามาใส่ใจเราหรือเปล่า?

แน่นอนนี่ก็เป็นพิสูจน์แล้วว่าเมื่อคืนเขาอยู่กับเมิ่งโร่ถิง

เวลานี้เขาอยู่ใกล้มาก สูดหายใจของเขาจึงพุ่งออกมาโดนใบหน้าของเธอ เวินลั่วฉิงจึงได้กลิ่นของเหล้า

เขาดื่มเหล้าหรือ?ดื่มเหล้าแต่เช้าเนี้ยนะ?

ปกติเย่ซือเฉินเป็นคนใช้ชีวิตอย่างมีวินัย การดื่มเหล้าแต่เช้ามันไม่เหมือนนิสัยของเขาเลย

เธอเป็นคนแพ้เหล้า เมื่อได้กลิ่นฉุนของเหล้าจากตัวเขา จึงเริ่มรู้สึกเวียนหัวอีกแล้ว

เวินลั่วฉิงอยากจะหลบหลีก แต่ด้านหลังเป็นผนัง ไม่มีที่ให้เธอหลบเลย

“คุณเมิ่งล่ะ?”เวินลั่วฉิงพยายามให้ตนสงบนิ่งไว้ นึกถึงว่าเมื่อคืนเมิ่งโร่ถิงอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้มีเพียงเขาอยู่บ้านไม่เห็นเมิ่งโร่ถิง จึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

แต่ว่าคำพูดของเธอนี่ทำให้เขาปะติดปะต่อกับคำพูดของเขาเมื่อสักครู่นี้ เย่ซือเฉินจึงกลับเข้าใจไปอีกความหมายหนึ่ง

เขาบอกว่าเขามีโทสะ ต้องการคนช่วยลดโทสะ แต่เธอกับบอกว่าให้เมิ่งโร่ถิงช่วย

เย่ซือเฉินหรี่ตาไม่ได้ตอบ แต่ทันใดนั้นก็ก้มหน้าเอาปากไปที่คอของเธอ จากนั้นก็อ้าปากกัดหนึ่งครั้ง

“โอ้ย……”(เสียงคำราม) เขากัดแรงๆ เวินลั่วฉิงเจ็บจนร้องออกมา เขาเกิดปีจอหรืออย่างไรกันนะ?กัดคนไปเรื่อย “ทำไมคุณถึงได้กัดฉัน”

“ผมแต่งเมียเข้าบ้าน ไม่ใช่แค่ประดับไว้เฉยๆนะ” เย่ซือเฉินเข้าใกล้ใบหูของเธอ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ลมหายใจของเขาพ่นเข้าที่ผิวพรรณของเธอ ความหมายของเขามันชัดเจนมากเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด