ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 296 คุณชายสามเย่ต้องตั้งใจแน่ (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 296 คุณชายสามเย่ต้องตั้งใจแน่ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 296 คุณชายสามเย่ต้องตั้งใจแน่ (2)

“อรรถรส? ฉันว่าคุณน่าจะเรียกฉิงโซ่(สัตว์ร้าย)” เวินลั่วฉิงกลอกตาใส่เขาตรงๆ นึกถึงการกระทำที่เขาทำกับเธอทุกๆคืน เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าคำว่าฉิงโซ่(สัตว์ร้าย)คำนี้เหมาะกับเขาที่สุด

“คุณภรรยาจะพูดแบบนี้ผมก็ไม่มีความคิดเห็น แต่ว่า ผมเป็นฉิง……กับภรรยาของผมเพียงคนเดียว” คุณชายสามเย่ไม่ได้รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย ยิ้มเปิดเผยออกมามากขึ้น

“เย่ซือเฉินคุณหุบปากได้แล้ว” เวินลั่วฉิงหน้าแดงขึ้นมา ทนฟังต่อไปไม่ได้จริงๆ คนคนนี้ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่อยู่กับร่องกับรอย

คุณชายสามเย่หยุดพูดไปอย่างเชื่อฟังมาก แต่ว่าปากของคุณชายสามเย่กลับไม่ได้หยุดเอาไว้ ปากของเขาจูบเบาๆไปที่ข้างหูของเธอ

“เย่ซือเฉิง คุณอย่าวุ่นวาย ฉันจะอยกจะคุยเรื่องบางอย่างกับคุณ” เวินลั่วฉิงใช้แรงผลักเขาออกไปเล็กน้อย เดินไปข้างหน้าสองสามก้าว นำเขาออกไปให้พอมีระยะห่าง

“สิ่งที่ผมทำก็เป็นเรื่องสำคัญ” เกี่ยวกับการผละออกไปของเธอ คุณชายสามเย่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก มองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความ ‘โศกเศร้าเสียใจ’

เวินลั่วฉิงจ้องมองเขาครู่หนึ่ง ไม่ได้สนใจเขา แต่หยิบเอาสัญญาฉบับใหม่ที่เพิ่งจะเซ็นขึ้นมาวางไว้ตรงหน้าเย่ซือเฉิน “สัญญาฉบับนี้เซ็นแล้วมีผลไหม?”

“ต้องมีผลแน่นอนอยู่แล้ว” แววตาเย่ซือเฉินเป็นประกายเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมจู่ๆเธอถึงถามอย่างนี้ หรือว่าเธอไปรู้อะไรเข้า?

ความจริงเมื่อเช้านี้ ปฏิกิริยาตอนที่เธอเห็นสัญญาก็ทำให้เขาประหลาดใจมากอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้สึกกังวลในใจตลอด ดังนั้นตอนนี้จู่ๆเธอก็ถามแบบนี้ เขารู้สึกหวาดระแวงกลัวเล็กน้อย

“อืม” เวินลั่วฉิงพยักหน้า เพียงแต่ตอบรับเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก บนใบหน้าก็ไม่มีความผิดปกติใดๆ

จากนั้นเธอก็เก็บสัญญาอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้เธอไม่ได้เจตนาซ่อนมันอีก แต่เก็บสัญญาไว้ในลิ้นชักหัวเตียงไว้อย่างนั้น

ในเมื่อมีผล ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น ความจริง เดิมทีเธอก็ไม่เคยคิดจะรอให้ครบกำหนดหนึ่งปีอยู่แล้ว เธอคิดมาตลอดว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปโดยเร็วผ่านทางคุณปู่เย่ จากนั้นก็พาเป่าเป้ยสองคนจากไปเร็วๆ

ดังนั้น สัญญาฉบับใหม่กับสัญญาฉบับเก่าสำหรับเธอแล้วไม่มีความแตกต่างกัมมากเท่าไหร่

แน่นอนว่า เธอก็รู้ว่า จะให้คุณปู่เย่ยกสิทธิผู้ถือหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้กับเย่ซือเฉินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เธอดูออกว่าความจริงแล้วคุณปู่เย่ยังไม่อยากปล่อยมือ ไม่เต็มใจที่จะยกบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้กับเย่ซือเฉิน และเธอยังรู้ดียิ่งกว่าว่าคุณปู่เย่ไม่ชอบเธอเป็นพัน เป็นหมื่นไม่ชอบ ดังนั้นเรื่องนี้ให้เธอเป็นคนจัดการจึงยากมากยิ่งขึ้นไปอีก

แต่ว่า ถึงแม้จะยาก เธอก็ยังจำเป็นต้องทำ เพราะว่านี่เป็นทางเดียวสำหรับเธอในตอนนี้

และเธอก็มีวิธีของเธออยู่แล้ว แต่ว่า วิธีนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป

ตอนนี้ยิ่งเวินลั่วฉิงสงบเงียบ คุณชายสามเย่ก็ยิ่งกังวล เขารู้สึกว่าสัญญาฉบับนี้อาจไม่พอ เขารู้สึกว่า เขายังจำเป็นต้องหาทางป้องกันที่สมบูรณ์แบบให้มากกว่านี้

ดังนั้น ตอนนี้คือช่วงเวลาที่ต้องแข่งกับเวลาทุกเสี้ยววินาที……

ความจริง เมื่อกี้ตอนอยู่ในห้องหนังสือ เย่ซือเฉินก็ดำเนินเรื่องไปไม่น้อยแล้ว

อย่างเช่นเขาย้ายเลขาหลิวไปเมือง R เลขาหลิวไม่สามารถกลับมาได้สักพักหนึ่ง ดังนั้น ข้อที่เธออยากจะไปหาเลขาหลิวเพื่อดำเนินเรื่องหย่าทางนี้ใช้การไม่ได้แล้ว

ทางด้านคุณปู่เย่เขาก็เตรียมการเอาไว้แล้ว เขาโอนหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ที่อยู่ในมือเขาตอนนี้ให้แม่ของเขาแล้ว

เขารู้จักคุณปู่เย่อย่างดี ดังนั้นจึงรู้ชัดเจนว่าคุณปู่เย่กลัวอะไรมากที่สุด เกลียดสิ่งใดมากที่สุด คัดค้านสิ่งใดมากที่สุด

ดังนั้น เขารู้ว่า เมื่อเป็นแบบนี้ คุณปู่ไม่มีทางยกหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้เขาเด็ดขาด

แน่นอน ถึงแม้จะแบบนั้น เขาก็ยังต้องระมัดระวังป้องกันเอาไว้ เพราะเขารู้ดีว่า ผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยคนนี้ฉลาดมากจริงๆ

เกี่ยวกับเรื่องสัญญาฉบับใหม่เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรมากอีก และไม่มีความเห็นอะไร เพียงแต่เรื่องทางด้านเป่าเป้ยสองคนกลับทำให้เธอเป็นกังวลเล็กน้อย

เวินลั่วฉิงยังไม่ได้รับโทรศัพท์จากเห่อถงถงเลย ก็รู้ได้เลยว่าจี้หซียังไม่จากไปอย่างแน่นอน

เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเย่ซือเฉิน ผู้ชายพวกนี้แต่ละคนล้วนแต่เป็นอะไรไปกันหมด?

ล้วนแต่ไม่ต้องทำงานทำธุระกันหรืออย่างไร?

“ทำไมใช้สายตาแบบนั้นมองผม?” เย่ซือเฉินสบตาเข้ากับสายตาที่เธอชำเลืองมองมา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สายตาแบบนั้นของเธอคืออะไร?

ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนแฝงไปด้วยความรังเกียจเล็กน้อย?

“คุณไม่ต้องทำงานหาเงินหรือไง?” เวินลั่วฉิงเพราะว่าช่วงนี้คนบางคนอยู่บ้านทุกวัน ทำให้เธอไม่มีอิสระเลยแม้แต่น้อย ในใจรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

“ทำไม? กลัวว่าผมจะไม่มีเงินเลี้ยงคุณ?” เย่ซือเฉินเห็นท่าทางของเธอตอนนี้ ยิ้มมุมปากเบาๆ “วางใจเถอะ ผมจะเลี้ยงคุณเอง เลี้ยงตลอดชีวิต”

เลี้ยงเธอ? เลี้ยงเธอตลอดชีวิต?

เวินลั่วฉิงได้ยินคำนี้ของเขา หัวใจก็เต้นขึ้นมาทันใดครั้งหนึ่ง สัญญาฉบับใหม่ที่เธอกับเขาเพิ่งเซ็นระบุไว้ชัดเจน ขอเพียงเขาได้รับหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป พวกเขาสองคนก็จะหย่ากัน และ ในสัญญาฉบับใหม่ระบุไว้ชัดเจน ถ้าตอนนั้นเขาไม่อยู่เมือง A หรือว่าไม่สะดวก สามารถให้เลขาหลิวดำเนินเรื่องการหย่าแทนเขาได้

ดังนั้น คำว่าตลอดชีวิตมีที่ไหนกัน?

เธอรู้สึกว่าช่วงนี้คุณชายสามเย่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่น่าเชื่อถือ สัญญาฉบับเดิมก็ดีๆอยู่ เขากลับจะแก้ และยังจะแก้ไปแก้มา ก็ไม่มีข้อแตกต่างอะไรมาก ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ดังนั้น สำหรับคำพูดนี้ของคุณชายสามเย่ในตอนนี้ เวินลั่วฉิงไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลย

และในตอนนี้ จู่ๆโทรศัพท์ของคุณชายสามเย่ก็ดังขึ้นมา

คุณชายสามเย่เห็นหมายเลขที่โทรเข้ามา เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เร็วมากพอจริงๆ

“เจ้าคนระยำ แกหมายความว่าอย่างไร? แกอยากให้ฉันอกแตกตายใช่ไหม? แกรีบกลับมาให้เร็วเลยนะ” ทันทีที่โทรศัพท์เชื่อมต่อ เสียงของคุณปู่ตระกูลเย่ก็ดังออกมา

เป็นเพราะเสียงของคุณปู่เย่ดังมาก เวินลั่วฉิงก็อยู่ใกล้กับคุณชายสามเย่พอดี ดังนั้นเลยได้ยินคำพูดของคุณปู่ตระกูลเย่ชัดเจน

ดวงตาของเวินลั่วฉิงหรี่ลงเล็กน้อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ อารมณ์ของคุณปู่เย่คนนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งร้ายขึ้นเรื่อยๆ

แต่ว่า ถึงแม้ปกติแล้วนิสัยของคุณปู่เย่จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็น้อยครั้งมากที่จะระเบิดอารมณ์แบบนี้ เย่ซือเฉินไปทำเรื่องอะไรที่เป็นการยั่วให้คุณปู่เย่โกรธแบบนี้นะ?

“ผมต้องกลับบ้านตระกูลเย่ คุณ……” เย่ซือเฉินรู้ตั้งนานแล้วว่าคุณปู่จะโทรหาเขา และก็หาวิธีรับมือเอาไว้นานแล้ว

หากจะบอกว่าเป็นมาตรการรับมือ น่าจะบอกว่าเป็นแผนการขั้นต่อไปของเขาดีกว่า

ต้องบอกว่า เพื่อสัญญาฉบับใหม่ที่เพิ่งเซ็นฉบับนี้ คุณชายสามเย่ก็สู้ถวายหัวจริงๆ

เย่ซือเฉินรู้ว่ากลับไปครั้งนี้ คุณปู่จะต้องไม่มีสีหน้าดีๆ(แสดงการตำหนิ ไม่พอใจ)แน่ๆ ดังนั้น เขาคิดอยากจะให้เวินลั่วฉิงอยู่ที่บ้าน

“ฉันกลับไปพร้อมกับคุณ” เพียงแต่ว่า ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ เวินลั่วฉิงก็ขัดจังหวะคำพูดของเขาก่อน

คำพูดนี้ของเวินลั่วฉิงดูเหมือนจะพูดออกมาโดยไม่ได้ยั้งคิด

“……” เย่ซือเฉินมองเธอ แววตาเป็นประกายเล็กน้อย น้อยมากที่จะมีเวลาที่เธอจะทำแบบนี้ด้วยตัวเอง

นี่เธอเป็นห่วงเขาหรือ?

เมื่อกี้ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นถึงความเป็นห่วงเล็กน้อยบนใบหน้าของเธอ

การค้นพบแบบนี้ทำให้คุณชายสามเย่รู้สึกเซอร์ไพรส์เป็นพิเศษ

“เกิดอะไรขึ้น?” เวินลั่วฉิงเห็นเขามองเธอแล้วไม่พูดไม่จาตลอด รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

“ไปเถอะ” เย่ซือเฉินยิ้มเบาๆ จู่ๆก็เปลี่ยนความตั้งใจ มีเขาอยู่ ใครยังจะสามารถทำอะไรกับผู้หญิงของเขาได้?

ถึงแม้จะเป็นคุณปู่เย่ก็ไม่สามารถทำอะไรภรรยาของเขาได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด