ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 927 ผลตรวจดีเอ็นเอ (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 927 ผลตรวจดีเอ็นเอ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฉันจะส่งคนมาช่วยเธอ” เย่ซือเฉินรู้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก เรื่องนี้จำเป็นต้องรีบจัดการอย่างเร่งด่วน จะพึ่งไป๋หยูหนิงคนเดียวคงไม่ได้

คนที่เขาเรียกตัวมาได้มาถึงแล้ว จะได้มาจัดการเรื่องนี้ร่วมกับไป๋หยูหนิงพอดี มีพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว

ถ้าไป๋หยูหนิงได้เจอกับคนที่เขาเรียกตัวมา คงน่าจะว่าพูดง่ายขึ้น เชื่อฟังมากขึ้นกว่านี้

เย่ซือเฉินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เหมือนจะแอบยิ้มอยู่

เอาเถอะ คุณชายสามเย่เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ในเมื่อล่วงเกินคุณชายสามเย่ไป ผลลัพธ์ก็……

“ใคร? คุณให้ใครมาช่วยฉัน?” ไป๋หยูหนิงกะพริบตาอย่างรวดเร็ว อยากรู้อยากเห็นอย่างเห็นได้ชัด พูดตามตรงเธอยังคงคาดหวังให้เวินลั่วฉิงช่วยเธอ เธอเชื่อมั่นในความสามารถของเวินลั่วฉิง

แต่ว่า คนที่เย่ซือเฉินเรียกตัวมาก็คงไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน ดังนั้น ไป๋หยูหนิงตั้งตารอคอยมาก

“เดี๋ยวเธอก็จะได้รู้เองแหละ” เย่ซือเฉินมองเธอ แล้วตอบกลับแบบมีลับลมคมใน

ได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ของเย่ซือเฉิน ไป๋หยูหนิงก็รู้สึกตัวสั่นขึ้นมากะทันหัน จู่ ๆ ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา

ไม่สิ รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเอามาก ๆ เลยล่ะ!!

จากนั้นคุณชายสามเย่ก็พาเวินลั่วฉิงออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

เมื่อออกมาจากโรงแรมแล้ว คุณชายสามเย่ก็เงียบมาตลอด สีหน้ายังคงบึ้งตึงอยู่อย่างนั้น

“เรื่องนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังนาย……” เวินลั่วฉิงคิดไปคิดมา ก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน

ตอนนั้นที่เขาโทรศัพท์มาหาเธอ เธอพบว่ามีคนสะกดรอยตามเธอพอดี เธอเลยไม่สะดวกอธิบายให้เขาฟังผ่านโทรศัพท์

ต่อมาก็เกิดเรื่องที่เลขาหลิวโกหกเธอ……

“ไม่ได้ตั้งใจปิดบังฉันเหรอ?” จู่ ๆ คุณชายสามเย่ก็หันมามองเธอ ดวงตาที่หรี่ลงคู่นั้นมีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมา

เวินลั่วฉิงสบตาเข้ากับสายตาอันตรายคู่นั้น แล้วก็เงียบไปชั่วขณะ

“เวินลั่วฉิง เธอพูดมาสิ ว่าเธอยังปิดบังอะไรฉันอีก?” คุณชายสามเย่จ้องเธอตาไม่กะพริบเลย ตอนนี้หน้าอกเขากระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อย

ในตอนนี้ที่คุณชายสามเย่ถามก็คือเรื่องเจ้าหญิงน้อยของเขา

แต่ว่า ตอนนี้เวินลั่วฉิงกลับคิดว่าเป็นเรื่องของถังหยุนเฉิง เธอคิดไม่ถึงว่าคุณชายสามเย่จะข้ามไปคุยเรื่องอื่นกะทันหัน เธอกะพริบตาปริบ ๆ จากนั้นก็ส่ายหน้า นอกจากเรื่องที่เรียกไป๋หยูหนิงมาช่วย เธอก็ไม่ได้ทำอะไรอีก

คุณชายสามเย่มองเธอ แล้วหรี่ตาลง จากนั้นก็แอบถอนหายใจออกมา แล้วหันตัวกลับไปขับรถต่อทันที

เรื่องเจ้าหญิงน้อยของเขา จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังคิดจะปิดบังเขาต่อไปงั้นเหรอ?

เย่ซือเฉินครุ่นคิด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถามออกมา เรื่องนี้ เขาอยากรอให้เธอเป็นคนบอกเขาเอง

สาขาย่อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ ณ เมือง A

“เธอไปหาคนแบบนี้มาจากที่ไหนเนี่ย?” เจิ้งฉงเห็นคนที่ไป๋หยิงพามาก็ตกตะลึงไปเลย ผู้หญิงคนนี้เหมือนกับผู้หญิงที่อยู่ในภาพเหมือนของหัวหน้ามากเหลือเกิน ถ้าหากไม่ดูที่อายุคงคิดว่าเป็นผู้หญิงในภาพเหมือนของหัวหน้าไปแล้ว

ไป๋หยิงหัวเราะออกมา แต่ไม่ได้ตอบอะไร ตอนนี้เธอได้ทำข้อตกลงกับหัวหน้าน้อยไปแล้ว ไม่ต้องพึ่งพาเจิ้งฉงทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อนอีก ดังนั้น เธอจึงไม่ได้ใส่ใจเจิ้งฉงเหมือนอย่างที่ผ่านมา

แน่นอนว่าตอนนี้ไป๋หยิงยังไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นรู้อะไรมากเกินไป หลังจากที่ให้เจิ้งฉงพบกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว เธอก็พาผู้หญิงคนนั้นออกไป

เจิ้งฉงดีใจมาก เลยไม่ได้ถือสาเรื่องท่าทีของเธอ : “ถ้าหัวหน้าได้เห็นผู้หญิงคนนี้คงเชื่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอแล้วล่ะ”

เจิ้งฉงในตอนนี้มีความมั่นใจมาก แน่นอนว่าเขารู้ดีอยู่แก่ใจ ว่ายังไงก็ต้องตรวจดีเอ็นเออยู่ดี และจำเป็นต้องรีบทำตอนที่ยังมีโอกาส

ตอนนี้มีหัวหน้าน้อยคอยช่วยพวกเขา เรื่องนี้ต้องราบรื่นมากแน่นอน

“พูดกับหัวหน้าน้อยเรียบร้อยหรือยัง?” เจิ้งฉงมองไปที่ไป๋หยิง เขารู้ว่าก่อนหน้านี้ไป๋หยิงได้พาผู้หญิงคนนี้ไปพบกับหัวหน้าน้อยแล้ว

ตอนนี้เจิ้งฉงพึงพอใจมากกับผู้หญิงที่ไป๋หยิงหามา ดังนั้นเขาจึงไม่ถือสาเรื่องอื่น ๆ อีก

“เรื่องนี้หัวหน้าน้อยไม่สะดวกที่จะออกหน้าเอง ให้คนของอะเหลียงไปทำจะเหมาะกว่า” นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ไป๋หยิงมาหาเจิ้งฉง การที่หัวหน้าน้อยมาเมือง A กะทันหันเดิมทีก็ทำให้คนอื่นสงสัยได้อยู่แล้ว จึงไม่สามารถยื่นมือไปยุ่งเรื่องที่หัวหน้าตามหาลูกสาวได้

“อืม ก็จริง” เจิ้งฉงตอนนี้ไม่ได้ถือสาอะไร เรื่องนี้ถ้าสำเร็จก็เป็นผลดีกับพวกเขาทั้งนั้น ไป๋หยิงไม่มีทางทอดทิ้งเขาหรอก

“โชคดีที่หลายวันมานี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังคนนั้นไม่อยู่เมือง A ทำให้อะเหลียงไม่มีโอกาสพิสูจน์ ตอนนี้เป็นผลดีกับพวกเรามาก ฉันจะให้ซุนซิ่งพาผู้หญิงคนนั้นไปเดี๋ยวนี้ หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น ไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น” เจิ้งฉิงยังคงกังวลเล็กน้อย ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ หัวหน้าไม่ใช่คนที่จะหลอกได้ง่าย ๆ อย่างนั้น

หากประมาทไปสักนิด แผนการของพวกเขาก็อาจพังไม่เป็นท่าเลยก็ได้

ต่อให้ตอนนี้มีหัวหน้าน้อยคอยช่วยเหลือ แต่เจิ้งฉงก็ยังไม่วางใจซะทีเดียว

ไป๋หยิงไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแต่ในแววตาดูได้ใจอย่างเห็นได้ชัด แผนการของเธอไม่มีช่องโหว่ ไม่มีทางเกิดปัญหาขึ้นแน่นอน ตอนนี้ขอแค่หัวหน้าน้อยสามารถปิดบังเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอไว้ได้ ทุกอย่างก็โอเคแล้ว

ไป๋หยิงทำอะไรรอบคอบมาก ๆ เธอบอกเจิ้งฉงว่าไม่ต้องให้ซุนซิ่งมาหา แต่บอกซุนซิ่งออกมาข้างนอก แล้วเธอก็ส่งผู้หญิงคนนั้นออกไป เพื่อให้พวกเขาเหมือน “บังเอิญ” เจอกันพอดี

แน่นอนว่าไป๋หยิงเองก็เป็นกังวลว่าถ้าหากให้ซุนซิ่งออกหน้าตรง ๆ เลยจะทำให้คนอื่นสงสัยได้ ดังนั้นไป๋หยิงจึงกำชับให้ซุนซิ่งพาเจ้าเก้าที่เป็นคนของอะเหลียงมาด้วย

ความหมายของไป๋หยิงคือให้เจ้าเก้าเป็นคน “บังเอิญ” เจอกับผู้หญิงที่เธอพามาด้วยตัวเอง

เจ้าเก้าเป็นคนของอะเหลียง หลายปีมานี้คอยช่วยอะเหลียงตามหาผู้หญิงคนนั้นของหัวหน้ามาโดยตลอด ดังนั้นเจ้าเก้าเป็นคนที่จำภาพเหมือนผู้หญิงของหัวหน้าได้ดีที่สุด

ต้องบอกว่าไป๋หยิงฉลาดมากจริง ๆ

“เธอนี่รอบคอบจริง ๆ ถ้าหากไม่มีเธอคอยช่วยฉัน ฉันคงมองข้ามเรื่องนี้ไปแล้ว” เจิ้งฉงพอใจกับการจัดการของไป๋หยิงมาก หลายปีมานี้ไป๋หยิงช่วยออกความคิดให้เขาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

เพราะการเตือนของไป๋หยิง ทำให้เจิ้งฉงระมัดระวังมากขึ้น เจิ้งฉงไม่ได้โทรศัพท์ไปหาซุนซิ่งตรง ๆ แต่ได้ใช้สายลับไปบอกซุนซิ่ง

หลังจากที่ซุนซิ่งได้ข้อมูลแล้วก็ไปหาเจ้าเก้า ซุนซิ่งหน้าตาดีและเอาใจผู้หญิงเก่ง ทั้งยังเสแสร้งเก่งอีกด้วย แสร้งทำเป็นหลงรักหัวปักหัวปำ หลายปีมานี้เขาจึงทุ่มเททุกอย่างไปกับเจ้าเก้า

เพราะเขารู้ดีว่า เจิ้งฉงตั้งใจให้เขาแทรกซึมเข้าไปอยู่ข้างกายอะเหลียง

อะเหลียงเป็นคนระมัดระวังรอบคอบมาตลอด อยากได้รับความไว้วางใจจากอะเหลียงนั้นยากมาก เจ้าเก้าเป็นคนที่อะเหลียงเก็บมาเลี้ยง ถือว่าเป็นคนที่อะเหลียงสอนมาเองกับมือ ดังนั้นอะเหลียงจึงไว้ใจเจ้าเก้าเป็นอย่างมาก

ซุนซิ่งรู้ว่าการได้รับความไว้วางใจจากอะเหลียงนั้นเป็นเรื่องยากมาก ดังนั้นเขาจึงเริ่มพุ่งเป้าไปที่เจ้าเก้า ด้วยการตามจีบเจ้าเก้าอย่างหัวปักหัวปำมาหลายปี จนในที่สุดซุนซิ่งก็ทำสำเร็จ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด