ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 236 คุณชายสามเย่มีอาการหึงรุนแรง ผลที่ได้รับจากการที่คุณชายสามเย่โกรธ (1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 236 คุณชายสามเย่มีอาการหึงรุนแรง ผลที่ได้รับจากการที่คุณชายสามเย่โกรธ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 236 คุณชายสามเย่อาการหึงรุนแรง ผลที่ได้รับจากการทำให้คุณชายสามเย่โกรธ (1)

ช่วงนี้ ไม่มีความคืบหน้าของถังไป๋เชียนเลยแม้แต่น้อย ต้องยอมรับจริงๆว่าถังไป๋เชียนเป็นปรมาจารย์ด้านการหลบซ่อนคนหนึ่งเลย ช่วงนี้ ถังไป๋เชียนก็เหมือนเต่าที่หลบอยู่ในกระดองของตัวเอง แล้วจมอยู่ใต้น้ำ พร้อมทั้งฝังตัวไว้ในโคลน ไม่เคลื่อนไหวใดๆ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้จะสูบน้ำในคลองให้แห้ง ก็ยากที่จะตามหาตัวเขาเจอได้

แต่ถ้าว่า ณ เวลานี้ถังไป๋เชียนโทรศัพท์กลับหาเวินลั่วฉิง?

ทันใดนั้นเย่ซือเฉินนึกขึ้นได้ว่า เขาขัง ถังไป๋เชียนไว้ที่เมืองA นั่นหมายความว่าเธอกับถังไป๋เชียนได้อยู่ในเมืองเดียวกันไม่ใช่เหรอ?งั้นก็แสดงว่าเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกัน?

เขาโง่หรือเปล่า?

“ฉันเองนะ ฉันปฏิบัติหน้าที่อยู่ข้างนอก พอดีมือถือตกหาย มือถือเครื่องนี้ของเขาอยู่ที่ฉันพอดี ฉะนั้นฉันเลยใช้มือถือเขาโทร ฉันมีปัญหาเล็กน้อย ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ เดี๋ยวฉันจะส่งเอกสารให้เธอ เธอช่วยฉันดูหน่อยนะ”คนที่พูดโทรศัพท์อยู่ไม่ใช่ถังไป๋เชียนแต่เป็นเยว่หงหลิง

ถังไป๋เชียนมีเบอร์โทรศัพท์อยู่หลายเบอร์ ส่วนใหญ่แล้วเบอร์โทรที่ใช่ติดต่อกับพวกเขามีอยู่สองเบอร์ด้วยกัน ครั้งนี้ถังไป๋เชียนกลับประเทศเขาเอาเบอร์โทรศัพท์กลับไปแค่เบอร์เดียวเอง

“อืม ได้ พี่……” เวินลั่วฉิงตอบรับอยู่ปลายสาย

“อารมณ์ของเธอเมื่อกี้เหมือนไม่ปรกตินะ?เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”เวินลั่วฉิงเมื่อกี้อยากเปลี่ยนสรรพนามเรียก แต่โดนหงหลิงที่อยู่อีกฟากตัดบทเสียก่อน

“แค่นี้เธอก็ฟังออกเหรอ ฉันยังสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวไว้บ้างได้ไหม?”เวินลั่วฉิงตกตะลึงไปสักพัก ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงที่พูดออกมามีความออดอ้อนแฝงอยู่

รุ่นพี่ยังไงก็คือรุ่นพี่ เก่งมากจริงๆ แค่คุยโทรศัพท์กัน ก็สามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ผิดปรกติของเธอ

ความจริงแล้วเธอคิดว่าเธอได้ปรับอารมณ์ของตัวเองให้ดีที่สุดแล้ว

เห็นอาการของเธอที่แสดงออกอย่างชัดเจนมีความออดอ้อนเล็กน้อยอยู่ สายตาที่มืดมนของของเย่ซือเฉินหรี่มองอย่างน่ากลัว

เธอแต่งงานกับเขามานานแล้ว เขายังไม่เคยเห็นเธอแสดงอาการออดอ้อนต่อหน้าเขามาก่อนเลย

ตอนนี้เธอกลับแสดงอาการออดอ้อนกับผู้ชายคนอื่น?

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”น้ำเสียงของหงหลิงมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่ในนั้น แน่นอนมีความห่วงใยเช่นกัน เธอรู้ดีว่าสิ่งที่จะสามารถกระทบต่อความรู้สึกของเวินลั่วฉิงได้นั้นมีไม่มากนัก

“ก็ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรอก ก็คือมีคนคิดไม่ดีกับฉัน มีผู้ชายเลวคนหนึ่งคิดไม่ดีกับฉัน แต่ได้จัดการเรียบร้อยแล้ว” เวินลั่วฉิงทำท่าเบ้ปาก ไม่ได้ปกปิดอะไร

เธอรู้สึกว่าเวลาที่อยู่ต่อหน้ารุ่นพี่ ตัวเองเหมือนเด็กน้อยที่ยังไม่รู้จักไม่โตสักที หลายปีมานี้ ถือว่าโชคดีที่มีรุ่นพี่ผู้หญิงและแฟนของเธอคอยให้ความช่วยเหลือเธอมาตลอด

ในใจเธอนั้น นับถือพวกเขาเหมือนญาติมานานแล้ว เพราะฉะนั้น ต่อหน้าพวกเขา เธอไม่ต้องจงใจปกปิดความรู้สึกของตัวเอง โดยเฉพาะต่อหน้ารุ่นพี่ผู้หญิง

ปกติแล้ว เธอและรุ่นพี่หงหลิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด ใกล้ชิดกันมาก

“คนที่ไหนกันไม่กลัวตาย กล้าคิดไม่ดีกับเธอ?”น้ำเสียงของเยว่หงหลิงไม่มีความกังวลเลย แต่กลับมีอารมณ์ของเห็นคนอื่นทุกข์แล้วมีความสุข กล้าคิดไม่ดีกับเวินลั่วฉิง โดนหาที่ตายเหรอ?

“แล้วเธอหล่ะจะกลับมาเมื่อไหร่” ฉันคิดถึงเธอและเด็กน้อยสองคนแล้ว” หงหลิงพูดเสริมขึ้นมา

“ช่วงนี้ยังกลับไปไม่ได้” เวินลั่วฉิงถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอก็อยากรีบกลับไปเหมือนกัน แต่ติดที่ว่าตอนนี้ยังกลับไปไม่ได้

“เพราะสามีชั่วคราวของเธอคนนั้นเหรอ” เย่วหงหลิงหัวเราะออกมา กึ่งจริงกึ่งล้อเล่นกับเธอ

“ใช่”เวินลั่วฉิงเม้มปากเล็กน้อย ริมฝีปากแดงโค้งขึ้นเล็กน้อย พูดเสริมพร้อมไปกับคำพูดที่กึ่งจริงกึ่งพูดเล่นของหงหลิงแล้วหัวเราะออกมา:“ถึงแม้จะเป็นสามีชั่วคราว แต่ตอนนี้ก็ยังถือว่าถูกกฎหมายอยู่ รอให้ถึงเวลาที่สัญญาสิ้นสุด ก็ยังมีเวลาอีกนานเลย”

เธอรู้สึกว่าเวลามันช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน ช้ามาก เวลาที่เธอกับเย่ซือเฉินแต่งงานกันแค่เดือนเดียวเอง ทำไมเธอรู้สึกเหมือนมันนานมากเหลือเกิน

“คึ เพราะฉะนั้นเธอต้องค่อยๆทน” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เย่วหงหลิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

อีกด้านหนึ่งของห้อง สีหน้าของเย่ซือเฉินค่อยๆมืดมนลง สามีชั่วคราว?

ในใจเธอนั้น เขาเป็นแค่สามีชั่วคราวของเธอเหรอ อีกอย่างฟังจากที่เธอพูดแล้วเหมือนเตรียมตัวที่จะสิ้นสุดสัญญานี้ตลอดเวลา?

อีกอย่าง ดูเหมือนว่าเธอ การที่ได้อยู่กับเขาเวลาผ่านไปหนึ่งวันเหมือนหนึ่งปี

ดี ดีมาก เย่ซือเฉินเชื่อว่า ถ้าตอนนี้เวินลั่วฉิงยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้น เขาสามารถบีบคอเธอให้ตายคามือของเขาเลย

เมื่อคนอื่นเห็นอาการนี้ของเย่ซือเฉินแล้ว ไม่มีใครกล้าออกเสียงเลย

ถึงแม้จะรู้ว่าการแต่งงานของพวกเขามีปัญหา แต่คำว่าสามีชั่วคราวคำนี้มันชั่งโหดร้าย……

เมื่อก่อนพวกเขาคิดว่าเวินลั่วฉิงไม่เหมาะสมกับเย่ซือเฉิน แต่ดูจากตอนนี้แล้วตัวเวินลั่วฉิงเองก็ไม่ได้มีเย่ซือเฉินอยู่ในสายตาเลย ไม่ได้เก็บเขาไว้ในใจด้วยซ้ำไป

เวินลั่วฉิงถือว่าเรื่องแต่งงานของพวกเขาเป็นแค่การแต่งงานตามสัญญาแต่งงานเท่านั้นเอง ไม่มีความคิดอย่างอื่นเลย

เย่ซือเฉินหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง ทำการโทรออก แน่นอนว่าสายไม่ว่าง แต่ว่า ฝั่งด้านของเวินลั่วฉิงนั้นก็มีการแจ้งเตือนว่ามีคนโทรเข้ามา

เวินลั่วฉิงหยิบมือถือมาดู เมื่อดูแล้ว คิ้วขมวดแน่นเข้าหากัน เหลือบมองดู แต่ก็ไม่รับโทรศัพท์ของเย่ซือเฉิน ยังคงคุยโทรศัพท์กับรุ่นพี่อยู่

เวินลั่วเฉินคิดในใจว่า ในเมื่อเธอกำลังพูดสายอยู่ ไม่รับโทรศัพท์เขาคงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง?

เย่ซือเฉินจ้องมองเวินลั่วเฉินในกล้องวงจรปิด สายตาคู่นั้นหรี่ลงอย่างดุร้าย ดุร้ายเหมือนจะกลืนกินเวินลั่วฉิงทั้งตัวเป็นๆเลย

ทั้งๆที่เธอเห็นเบอร์โทรศัพท์แล้ว รู้ว่าเป็นเขาโทรไป แต่ เธอก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ พูดคุยกับรุ่นพี่ผู้ชายต่อ ทั้งอ่อนหวานและอ่อนโยน

ดี ดีมากจริงๆ!

คนรอบข้างของเย่ซือเฉินต่างตกใจและไม่อยากเชื่อ

เหตุการณ์ตอนนี้ ทุกคนที่เห็น ต่างอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าหาญเหลือเกิน

แน่นอน ถ้าพวกเขาในเวลานี้ไม่ได้มองภาพทั้งหมดผ่านกล้องวงปิด ก็ไม่มีอะไร เพราะเวลานี้เธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ไม่รับโทรศัพท์ก็ถือเป็นเรื่องปรกติ

แต่ปัญหาหลักๆมันอยู่ที่ว่า ตอนนี้พวกเขา รวมถึงเย่ซือเฉิน ล้วนกำลังดูเธออยู่ ดูนางทั้งๆที่รู้ว่าคนที่โทรมาคือเย่ซือเฉินก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์

เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่

เย่ซือเฉินสูดลมหายใจลึกๆเข้าไปในปอด โทรออกอีกรอบ ซึ่งครั้งนี้ เวินลั่วฉิงก็ดูแค่แวปเดียว จากนั้นก็ไม่ได้สนใจ พูดคุยกับรุ่นพี่ผู้ชายต่อ พูดคุยกันอย่างมีความสุข

ตอนนี้ ไม่เพียงแต่สีหน้าของเย่ซือฉิงไม่ดี ทุกคนในห้องนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน

เย่ซือเฉินโทรศัพท์ไปครั้งแล้วครั้งเล่า เวินลั่วฉิงทั้งๆที่เห็น แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น อีกอย่างยังพูดคุยกับผู้ชายคนอื่นอย่างมีความสุขด้วย!!

เหตุการณ์นี้ แม่ง มันช่างน่าตื่นเต้นมาก!

แน่นอน เวลานี้ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้นั้น ไม่เพียงแค่ตื่นเต้นเท่านั้น ยังมีความกลัวอีกด้วย

เย่ซือเฉินโทรศัพท์ไปครั้งที่สาม

ครั้งนี้ เวินลั่วฉิงไม่ได้ดูมันด้วยซ้ำ แกล้งทำเป็นไม่รู้ไปเลย

เสี่ยวชีที่ยืนอยู่ข้างๆเย่ซือเฉินกลืนน้ำลายลงคอ จากนั้นค่อยๆถอยห่างไปหนึ่งก้าว เขารู้สึกว่าเวลานี้ถ้าใกล้ชิดพี่สามมากเกินไปอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้

แต่ว่า ซ้อสามก็เก่งกาจเหลือเกิน รู้ทั้งรู้ว่าพี่สามโทรหา แต่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ไม่รับโทรศัพท์

คนที่กล้าทำอย่างนี้กับพี่สาม ที่เขาเคยเห็นมาก็มีแต่ ซ้อสามคนเดียวนิ่แหละ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด