ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 203 เอาคืนอย่างสาสม โดนตบหน้าฉาดใหญ่ (1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 203 เอาคืนอย่างสาสม โดนตบหน้าฉาดใหญ่ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 203 เอาคืนอย่างสาสม โดนตบหน้าฉาดใหญ่ (1)

ขณะนี้เขายืนอยู่ที่ชั้นห้า สามารถมองเห็นเย่ซือเฉินที่อยู่ชั้นสองได้ชัดเจน ในตอนนี้เองเย่ซือเฉินก็มองไปที่เวินลั่วฉิง เย่ซือเฉินกำลังยืนมองเวินลั่วฉิงมาจากชั้นสอง

เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย เย่ซือเฉินสะกดรอยตามเธอเหรอ

ในขณะนั้น ที่บ้านของตระกูลเวิน

“คุณพ่อคะ โทรศัพท์หาฉิงฉิงหน่อยเถอะ ให้เธอกลับมาบ้าน ถ้าไม่ใช่เพื่อหรวนหรวน ก็เพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเธอ คุณพ่อไม่เป็นห่วงเธอเลยเหรอคะ” เพราะเรื่องที่วางยาเวินลั่วฉิงในงานเลี้ยงจึงทำให้เวินหรวนหรวนถูกจับอยู่ที่สถานีตำรวจ หลายวันมานี้เวินจีหยันกับหลี่หยุนต่างทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเวินหรวนหรวนแต่ก็ยังไม่สามารถช่วยเธอออกมาได้

สองสามีภรรยาเลยทำได้เพียงมาขอร้องคุณปู่ หวังให้คุณปู่ช่วยพูดเกลี่ยกล่อมเวินลั่วฉิง เพื่อให้เวินลั่วฉิงยอมยกโทษให้เวินหรวนหรวน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิงโดยตรง

แต่หลี่หยุนพูดจนปากแห้งคอแห้ง คุณปู่ก็ไม่สนใจใยดี เธอจึงให้เวินจีหยันออกหน้าแทน

“พ่อครับ พ่อโทรหาฉิงฉิงถามเรื่องราวเธอดูหน่อยเถอะ” เวินจีหยันร้อนใจ ใบหน้าวิงวอนมองไปทางคุณปู่เวิน

คุณปู่เวินมองไปทางเวินจีหยัน แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเวินลั่วฉิง

หลี่หยุนนึกดีใจ ขอเพียงแค่เวินลั่วฉิงกลับมา เรื่องนี้ก็พอจะมีทางเป็นไปได้แล้ว ถึงเวลานั้นเธอจะต้องหาวิธีให้เวินลั่วฉิงยอมปล่อยเวินหรวนหรวนแน่

ภายในห้างฯ เวินลั่วฉิงเห็นสายของคุณปู่โทรเข้ามา ก็ตะลึงงัน รีบรับสาย : “คุณปู่”

“ฉิงฉิง เที่ยวอยู่ด้านนอกสบายใจดีไหม” สีหน้าคุณปู่เวินดูอบอุ่นขึ้นทันที น้ำเสียงยิ่งแสดงถึงความรักความเอ็นดูอย่างมาก

“ค่ะ ค่อนข้างดีเลยค่ะ” เวินลั่วฉิงเดาไม่ค่อยถูกว่าที่คุณปู่เวินโทรมาหาเธอนั้นต้องการอะไรกันแน่ เลยตอบกลับไปแบบงง ๆ

“อืม หนูมีความสุขก็ดีแล้ว ถ้ามีเวลาอย่าลืมกลับมาเยี่ยมปู่บ้างนะ” คุณปู่เวินยิ้มออกมา รอยยิ้มนั้นทั้งอบอุ่นทั้งรักและเอ็นดู

“ค่ะคุณปู่” เวินลั่วฉิงยิ้มเล็กน้อย ในใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นเป็นกอง เธอรู้ว่าเวินหรวนหรวนยังถูกคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจ ตามนิสัยของหลี่หยุนแล้วต้องไปขอร้องให้คุณปู่ช่วยแน่

เธอเดาว่าหลี่หยุนน่าจะเป็นคนบังคับให้คุณปู่โทรมาหาเธอ

แต่คุณปู่กลับไม่เอ่ยถึงเรื่องเวินหรวนหรวนแม้แต่น้อย อีกทั้งไม่ได้เร่งรัดให้เธอกลับไปด้วย

เธอรู้ดีว่าคุณปู่รักเธอมากจริง ๆ

“คุณพ่อ ทำไมไม่เรียกให้ฉิงฉิงกลับมา” หลี่หยุนงงเป็นไก่ตาแตก ทนไม่ไหวจนแทบจะตะคอกเสียงออกมา

“แกเป็นห่วงกลัวฉิงฉิงจะเป็นอะไรไปไม่ใช่เหรอ เมื่อกี้ฉันก็โทรไปเช็คดูแล้ว ฉิงฉิงไม่เป็นอะไร เที่ยวเล่นมีความสุขดี พวกแกสบายใจได้” คุณปู่เวินปรายตามองเธออย่างเย็นชา

“…” หลี่หยุนจุกจนพูดอะไรไม่ออก ขบกรามด้วยความเกลียดชัง

คุณปู่เวินไม่สนใจเธอ แล้วเดินขึ้นชั้นบนไป

“ตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ” เวินจีหยันรู้สึกจนปัญญา คุณปู่โทรศัพท์ไปแบบนั้นสู้ไม่โทรยังดีเสียกว่า

สายตาของหลี่หยุนดูดุร้ายมากขึ้น เป็นหลานเหมือนกันแท้ ๆ แต่คุณปู่กลับลำเอียงขนาดนี้ ยัยโง่นั่นดีกว่าหรวนหรวนของเธอตรงไหน

แต่ตอนนี้ถึงเธอจะโกรธไปก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหาทางช่วยหรวนหรวนออกมา

ทันใดนั้น หลี่หยุนก็มีสายโทรเข้ามา : “คุณนาย เจอคุณหนูใหญ่แล้ว เธอกำลังซื้อของอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าหยินหลง”

“เวินลั่วฉิงอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าหยินหลง พวกเราไปหาเธอกันเถอะ” หลี่หยุนวางสายแล้วก็รีบเดินออกไป

เวินจีหยันกลับคิดได้เรื่องหนึ่ง : “แต่เวินลั่วฉิงไม่ยอมฟังพวกเราแน่นอน”

หลี่หยุนหยุดเดิน แววตามืดลง ยัยเด็กบ้านั่นกลับมาคราวนี้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ดูฉลาดขึ้นเป็นกอง ไม่ได้จัดการง่าย ๆ เหมือนเมื่อก่อน พวกเขาไปหายัยเด็กบ้านั่นแบบนี้ ยัยเด็กบ้านั่นน่าจะไม่เชื่อฟังง่าย ๆ หรอก

ดวงตาดุร้ายของเธอสว่างขึ้น : “ฉันมีวิธี ให้เย่อหยู่นานเป็นคนออกหน้า”

“เย่อหยู่นานเหรอ จะได้ผลเหรอ” เวินจีหยันขมวดคิ้วด้วยท่าทีสงสัย

“แน่นอนว่าได้ผล ตอนนั้นเป็นเพราะเย่อหยู่นานถอนหมั้น เธอเสียใจหนักมากจนล้มป่วย แสดงว่าเธอชอบเย่อหยู่นานมากจริง ๆ ยัยเด็กบ้านั่นเดิมทีก็เป็นคนหัวรั้นดื้อดึงอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยังคงชอบเย่อหยู่นานอยู่แน่นอน ดังนั้นให้เย่อหยู่นานออกหน้าแทนต้องได้ผลแน่” ใบหน้าหลี่หยุนดูภูมิใจ ราวกับมีแผนการอะไร

“แต่ฉันได้ยินมาว่า งานเลี้ยงครั้งก่อนเวินลั่วฉิงสร้างเรื่องจนทำให้เย่อหยู่นานอับอายขายหน้ามากนะ” เวินจีหยันคิ้วขมวดเป็นปม เขารู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ยาก

“ก็เพราะอย่างนี้น่ะสิยิ่งแสดงให้เห็นว่าในใจเธอยังสนใจเขาอยู่ เธอยังแคร์เย่อหยู่นาน เพราะเธอต้องการเรียกร้องความสนใจจากเย่อหยู่นาน ขอแค่ยัยเด็กบ้านั่นยังแคร์เย่อหยู่นานอยู่ เรื่องนี้ก็จัดได้ง่าย” ความคิดของหลี่หยุนแตกต่างกับเวินจีหยันโดยสิ้นเชิง เธอพูดจบก็รีบโทรหาเย่อหยู่นานทันที

บังเอิญเย่อหยู่นานก็กำลังอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าหยินหลง

“หยู่นาน หรวนหรวนถูกคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจ เธอต้องช่วยหรวนหรวนนะ” เมื่อรับสาย หลี่หยุนก็ร้องห่มร้องไห้ขึ้นมา

“จะให้ผมช่วยเธอยังไง” พูดถึงเรื่องวันนั้นขึ้นมา สีหน้าเย่อหยู่นานก็เคร่งเครียดขึ้นมา วันนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเวินหรวนหรวนวางยาเวินลั่วฉิง ถ้าไม่ใช่เพราะเวินหรวนหรวนให้เขาไปดูท่าทีของเวินลั่วฉิง เขาก็คงไม่ตกหลุมพรางที่เวินลั่วฉิงวางไว้ ไม่ต้องอับอายขายหน้าต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น

เรื่องนี้ทำให้เขาเกลียดเวินลั่วฉิง แต่เกลียดเวินหรวนหรวนมากกว่า

ตอนนี้หลี่หยุนยังคิดจะให้เขาไปช่วยเวินหรวนหรวน ช่างน่าขำจริง ๆ

“ที่จริงฉิงฉิงทำแบบนี้ก็เพราะเธอ ฉิงฉิงยังคงชอบเธออยู่ เพราะชอบเธอ ฉิงฉิงถึงได้เกลียดหรวนหรวนฝังใจ ฉะนั้นครั้งนี้ฉิงฉิงจึงไม่ยอมให้ตำรวจปล่อยตัวหรวนหรวนออกมา หยู่นาน เธอเข้าใจความหมายฉันไหม” หลี่หยุนพูดบิดเบือนความจริง ทั้งที่ความจริงเป็นความผิดของเวินหรวนหรวน แต่ฟังที่เธอพูดเหมือนกลายเป็นความผิดของเวินลั่วฉิงยังไงยังงั้น

“เพราะผม เวินลั่วฉิงเลยจงใจเอาคืนหรวนหรวนงั้นเหรอ” เย่อหยู่นานรู้สึกไขว้เขว แววตาเป็นประกาย รู้สึกสงสัย และไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ : “แต่งานเลี้ยงวันนั้นเธอ…”

เย่อหยู่นานนึกถึงเรื่องงานเลี้ยงวันนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด อดไม่ได้ที่จะโมโห

“นั่นเป็นเพราะเธอยังแคร์ เพราะอยากเรียกร้องความสนใจ” หลี่หยุนที่จริงแล้วไม่ได้รู้ความคิดของเวินลั่วฉิงเลย แต่ตอนนี้เธอทำได้แต่พูดกับเย่อหยู่นานไปแบบนั้นด้วยความมั่นใจ

“จริงเหรอครับ” เย่อหยู่นานถามย้ำอีกครั้ง แต่ในใจกลับรู้สึกดีใจไม่น้อย รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก

วิธีการพูดของหลี่หยุนได้ผลจริง ๆ

เขารู้ดีว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไม่โง่แล้ว อีกทั้งเปลี่ยนเป็นคนฉลาดมาก และคุณปู่เวินก็ยกบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปให้กับเวินลั่วฉิงแล้ว ถ้าหากเวินลั่วฉิงยังชอบเขาอยู่ เขาก็สามารถขอเธอแต่งงานได้

“นอกจากเรื่องนี้ ฉันก็คิดเหตุผลอื่นไม่ออกแล้ว ฉะนั้น เธอต้องช่วยหรวนหรวนนะ ตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั่นที่สามารถช่วยหรวนหรวนได้” หลี่หยุนฟังออกว่าน้ำเสียงเขาเปลี่ยนไป จึงรีบพูดเสริมอีกประโยค

“ก็ได้ ผมจะช่วย” ขณะที่เย่อหยู่นานเงยหน้าขึ้น ก็มองเห็นเวินลั่วฉิงพอดี เขาเลยยิ้มออกมาเล็กน้อย

เขารีบวางสายโทรศัพท์ เดินไปตรงหน้าเวินลั่วฉิง : “ฉิงฉิง”

“มีธุระอะไร” เวินลั่วฉิงปรายตามองเขา รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ใบหน้ายังคงดูเย็นชาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด