ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 380 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (8)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 380 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (8) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่380 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (8)

“เลขาหลิวคะ ฉันต้องขึ้นเครื่องบินตอนห้าโมง สามโมงครึ่งฉันต้องออกจากบริษัทแล้ว ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออีกชั่วโมงครึ่ง ฉันจะได้ใบหย่าไหมคะ?” เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจทนายหมิง อีกแต่กลับเลขาหลิวโดยตรง

เธอหวังว่าจะจากไปอย่างสง่าผ่าเผยและไม่ทิ้งเรื่องยุ่งยากอะไร

เมื่อทนายหมิง เห็นว่าเวินลั่วฉิงถามเลขาหลิวโดยตรงก็รู้สึกไม่พอใจไม่น้อย ดังนั้นจึงได้แต่แอบแดกดันเวินลั่วฉิงอยู่ในใจ พูดเหมือนกับเธออยากจะหย่ามากเสียเต็มประดา รีบหย่าเหลือเกิน ท่านประธานคงจะกดดันเธอด้วยอะไรบางอย่างล่ะสิ เธอถึงต้องจำใจหย่า! !

ในข้อตกลงก็เขียนไว้ชัดเจน ถ้าท่านประธานได้หุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป พวกเขาจะหย่ากันทันที …หย่ากันทันที!

คำว่าทันทีนี้ก็บอกทุกอย่างอยู่แล้ว!

นี่คงจะเป็นความต้องการของท่านประธาน และเธอก็ไม่อาจต้านทานได้

เธอมันก็แค่พวกชอบเสนอหน้า อิดออด

คนอย่างเธอน่ะตอแหล ใคร ๆ เขาจะไม่รู้? ใคร ๆ เขาจะดูไม่ออก?

“คุณนายครับ ผมจะรีบจัดการให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงครึ่ง และมอบทะเบียนหย่าให้คุณ” เลขาหลิวทำความเคารพเหมือนกับทุกครั้งที่ทำ

เลขาหลิวไม่ใช่คนที่มีความคิดคดเคี้ยวแบบ ทนายหมิง

“อือ” เวินลั่วฉิงตอบรับเบา ๆ และไม่พูดอะไรให้มากความ

เลขาหลิวได้พาทนายหมิง ออกไปจากห้องทำงานเพื่อไปดำเนินการต่อ

“ผู้หญิงคนนี้เสแสร้งเก่งจริง ๆ?” เมื่อออกมาจากห้องทำงานแล้วเดินไปได้สักระยะหนึ่งทนายหมิง ก็อดไม่ได้และประชดประชันออกมา

“อะไรนะ?” เลขาหลิวตกตะลึงและมองไปที่เขาด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงอะไร

“ผมบอกว่า เวินลั่วฉิงเล่นละครเก่ง” ทนายหมิง มองไปที่เลขาหลิวและอธิบาย

“คุณพูดถึงคุณผู้หญิงเหรอ? คุณผู้หญิงเสแสร้งยังไง? แล้วคุณผู้หญิงจะเสแสร้งไปทำไม?” เลขาหลิวยิ่งไม่เข้าใจ

“ยังจะคุณผู้หญิงอะไรกัน ทะเบียนหย่าเดี๋ยวก็ได้แล้ว” ทนายหมิง ยังคงมีคำพูดแดกดันออกมาจากมุมปาก

“ไม่ใช่ ที่คุณบอกว่าคุณนายเสแสร้งหมายความว่ายังไง?” เลขาหลิวคนนี้นั้นแน่วแน่ มีอะไรติดค้างจะต้องทำให้กระจ่าง

“คุณดูไม่ออกจริง ๆ เหรอ? หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่? คุณคิดดู หลังจากผู้หญิงคนนั้นแต่งงานกับท่านประธานแล้วยังยอมจะหย่ากับท่านประธานอีก? เธอแสดงออกชัดเจนแกล้งทำเป็นยอมหย่าไปแบบนั้น แท้จริงในใจเจ็บปวดแค่ไหนก็ไม่รู้ คิดว่าหัวใจคงเจ็บปวดจนเลือดหยดแล้ว” ครั้งนี้ทนายหมิง อธิบายโดยละเอียด ทนายหมิง พูดขึ้นด้วยความเชื่อมั่นเป็นพิเศษเพราะในใจของเขาก็คิดเช่นนั้น

“จริงเหรอ?” เลขาหลิวนิ่งไปเมื่อครู่เขาไม่ได้คิดมากถึงขนาดนี้จริง ๆ เพราะเรื่องนี้เดิมทีเป็นเวินลั่วฉิงที่เอ่ยปากให้เขาไปดำเนินการ

เพียงแต่เมื่อได้ยินที่ทนายหมิง พูด ในใจเลขาหลิวก็เกิดความคิดอื่นขึ้นมา

คุณนายไม่ได้อยากจะหย่า แต่แค่แกล้งทำเหรอ?

อันที่จริงตอนนี้ในใจของคุณนายกำลังเจ็บปวดงั้นเหรอ?

“ผมไม่เห็นว่าคุณนายจะเจ็บปวดใจ…” เลขาหลิวคิด จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยอย่างจริงจัง แต่เขาก็ดูไม่ออกจริง ๆ ว่าคุณนายจะมีท่าทีเสียใจแม้เพียงเล็กน้อย

“พูดได้ว่าเธอแกล้งทำได้แนบเนียน ไม่อยากบอกว่าเธอน่าเกลียดขนาดไหน วันนี้ต่อให้เป็นผู้หญิงคนอื่น ได้แต่งงานกับท่านประธานแล้วกลับต้องหย่า คุณว่าจะมีผู้หญิงที่ไหนเต็มใจยอมจริง ๆ บ้าง? ผู้หญิงที่จะไม่เสียใจบ้างล่ะ?” ทนายหมิง ทำหน้าเป็นผู้รู้ดีทุกสิ่งอย่าง: “เรื่องพวกนี้ผมเห็นมาเยอะแล้ว ผู้หญิงแบบนี้ผมเจอมาเยอะ ไม่มีทางผิดแน่”

“เป็นแบบนั้นเหรอ?” เลขาหลิวตาเป็นประกายสีหน้าสับสน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“แน่นอนสิ ท่านประธานสง่างามขนาดนั้น แถมรวยอีก หน้าตาก็หล่อเหลา คุณว่าผู้หญิงที่ไหนได้แต่งงานกับท่านประธานแล้วจะไม่ตกหลุมรักท่านประธานบ้าง? ต่อให้ไม่หลงรักท่านประธานก็ต้องรักเงินของท่าน นี่เพิ่งจะแต่งงานกันได้สามเดือนก็ต้องจำใจหย่า ในใจของเธอไม่เจ็บปวดสิแปลก” ทนายหมิง พูดเสริมขึ้นอีกอย่างช้า ๆ ในตอนที่พูดนั้น ยังเกิดอาการเยาะเย้ยอยู่ที่มุมปากของ ทนายหมิง

“ท่านประธานช่างโหดร้าย” หลังจากเลขาหลิวได้ฟังคำพูดของทนายหมิง แล้ว และความโกรธแค้นที่มีต่อท่านประธานก็มากขึ้นด้วย

คุณนายเป็นคนดีขนาดนั้น อีกทั้งยังช่วยให้ได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป สุดท้ายท่านประธานกลับทำแบบนี้กับคุณนาย มันเกินไปแล้วจริง ๆ

ถ้าหากว่าคุณนายถูกท่านประธานบีบให้หย่าจริง ถ้าอย่างนั้นท่านประธานก็โหดร้ายเกินไปแล้ว

ไม่ ไม่ได้ เขาจะต้องโทรหาท่านประธานอีกครั้ง เขาจะต้องคุยกับท่านประธาน คนเราจะทำแบบนี้ไม่ได้

“คุณพูดอะไรนะ?” เสียงของเขาเบามากจนทนายหมิง ได้ยินไม่ถนัด

“ผมบอกว่าคุณนายน่าสงสารมาก” เลขาหลิวแก้ตัว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่พอใจท่านประธานของเขาเป็นอย่างมาก แต่จะให้ใครได้ยินเขาต่อว่าท่านประธานไม่ได้เด็ดขาด

“ผู้หญิงแบบเธอมีอะไรให้น่าสงสารล่ะ เธอคงจะได้ประโยชน์จากท่านประธาน ยิ่งกว่านั้นเธอแต่งงานกับท่านประธานแบบมีเงื่อนไข พูดให้ชัดก็คือเธอยอมให้ท่านประธานใช้ประโยชน์จากเธอ พูดได้เพียงว่าเธอทำเพื่อให้ได้ผลประโยชน์บางอย่าง…” ทนายหมิง ไม่พอใจกับทัศนคติของเวินลั่วฉิงที่ทำกับเขาก่อนหน้านี้ ดังนั้นตอนนี้จึงได้ลดค่าและไม่ให้ค่ากับเวินลั่วฉิง

“พอเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว” เลขาหลิวไม่อาจทนฟังได้อีกจึงรีบพูดตัดบทเขา เลขาหลิวรู้ว่าคุณนายไม่มีทางเป็นคนแบบนั้นแน่นอน

ก่อนหน้านี้ท่านประธานได้พูดแล้วว่าคุณนายอยากได้อะไรก็จะให้ แต่คุณนายกลับไม่ได้ต้องการอะไรเลย

ทนายหมิง นั้นเป็นทนายคนหนึ่ง โดยธรรมชาติจะต้องเป็นช่างสังเกตท่าทางและคำพูดได้ดีอยู่แล้ว เขาดูออกว่าเลขาหลิวในตอนนี้ไม่อยากจะฟังสิ่งที่เขาพูดแล้ว จึงไม่พูดอะไรอีก

เลขาหลิวรีบหาเบอร์โทรของท่านประธานและโทรออก เลขาหลิวคิดว่าเขาจะต้องพูดคุยเรื่องนี้กับท่านประธานของเขาอีกสักครั้ง

แต่เขากลับโทรไม่ติดและแสดงให้เห็นชัดอีกฝ่ายปิดเครื่องไปแล้ว

นี่มันอะไรกัน? ท่านประธานปิดเครื่องเหรอ?

ท่านประธานไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรใช่ไหม? ตอนนี้ท่านประธานอยู่ที่ประเทศ C ซึ่งที่นั่นก็เละเทะมาก

ยิ่งกว่านั้นการเดินทางไปทำงานของท่านประธานครั้งนี้ก็อันตรายมาก ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดเรื่องขึ้น

ปฏิกิริยาแรกของเลขาหลิวคืออยากจะรายงานเรื่องนี้ให้คุณนายทราบ แต่ว่าทันทีที่เลขาหลิวหันหลังก็ถูกทนายหมิง ดึงตัวไว้

“คุณจะไปไหน?” ทนายหมิง มองเขาด้วยความสงสัย

เลขาหลิวนิ่งไปเล็กน้อยและได้สติกลับมา ถ้าหากเกิดเรื่องกับท่านประธานจริง เขาบอกคุณนายก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะทำให้คุณนายเป็นกังวลและร้อนใจไปด้วย

ทันใดนั้นเลขาหลิวก็คิดถึงเสี่ยวลิ่วจื่อ ซึ่งไปกับท่านประธาน เลขาหลิวรีบโทรศัพท์ไปหา เสี่ยวลิ่วจื่อ

เสี่ยวลิ่วจื่อ กลับรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว

“ท่านประธานล่ะ? เกิดเรื่องอะไรกับท่านประธานรึเปล่า?” ทันทีที่โทรติด เลขาหลิวก็รีบถามขึ้นทันที

“ไม่มี เจ้านายจะมีเรื่องอะไรได้?” ดวงตาของ เสี่ยวลิ่วจื่อ กะพริบอย่างรวดเร็ว จะเล่าอะไรให้คนทางคุณนายไม่ได้เด็ดขาด เจ้านายกำชับเอาไว้ และห้ามบอกเลขาหลิวด้วยเพราะเลขาหลิวอยู่กับคุณนาย! !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด