Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 691 ครึ่งทางกว่าจะถึง!

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 691 ครึ่งทางกว่าจะถึง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 691 ครึ่งทางกว่าจะถึง!

 

พ้ะ!

 

ในช่วงจังหวะเวลาเดียวกัน ชูฮันก็ก้าวออกไปที่ทางออกพอดี พร้อมกับที่ฝาของหีบสมบัติที่เปิดอ้าออก

 

หวังไคจ้องเขม็งไปที่หีบสมบัติที่เปิดอ้าออก มันทันเห็นภาพมีดที่ชูฮันปาออกไปตัดเข้าที่เส้นสีแดงเพื่อเปิดฝาหีบขึ้น

 

มันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สัตว์ประหลาดยักษ์ด้านหลังที่ตามมาติดๆอ้าปากกว้างขยาย มันกําลังจะงับปากลงที่หัวชูฮันเต็มๆ!

 

หวังไคที่กลั้นหายใจด้วยความกลัว ตาจ้องค้างไปที่ปากกว้างใหญ่น่าขยะแขยงด้านหลัง และในตอนนั้นเอง –

 

“ปัง!”

 

ทันใดนั้นในเขาวงกตก็เกิดระเบิดขนาดใหญ่ปะทุขึ้นจากพื้น วิสัยทัศน์กลายเป็นติดลบเนื่องจากเศษฝุ่นที่ลอยอัดแน่นในอากาศ อากาศบีบอัดแน่นรวมตัวกันเป็นรูปทรงเห็ดขนาดยักษ์ ฝุ่นสีขุ่นปกคลุมทั่วทั้งเขาวงกตและระเบิดออก เสียงระเบิดดังสนั่นจนหูแทบหนวก

 

การถล่มของกําแพงเขาวงกตไล่เป็นชุดๆต่อเนื่อง พื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เวลาราวกับหยุดค้าง และหวังไคที่เห็นภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตาตัวเองก็ตะลึงค้าง

 

เขาวงกตยักษ์ถูกทําลายภายในพริบตา เหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง และซากศพของสัตว์ประหลาดยักษ์จํานวนมากที่ถูกระเบิดเป็นเศษชิ้นเนื้อเล็กๆกองรวมกัน เลือดสีแดงสาดเปรอเปื้อนไปทั่วทั้งเขาวงกต มันเละเทะจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้เห็นเลย

 

และชูฮันที่แยกตัวหลบพ้นออกมาจากรัศมีระเบิดได้ก่อนก็ยืนนิ่งอยู่ตรงทางออกของเขาวงกต เขายืนหอบด้วยความเหนื่อย มองไปที่การระเบิดมหึมหาตรงหน้า มันไม่มีประตู ไม่มีการปกป้องใดๆ แต่ที่แปลกก็คือระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นแค่ฝั่งตรงข้ามเท่านั้น มันไม่กระจายมาถึงตรงจุดที่เขายืนอยู่

 

สีหน้าของชูฮันค่อนข้างสุดโต่ง รอยยิ้มที่หาได้ยาก มันบริสุทธิ์ ใบหน้าที่เปื้อนฝุ่น ยิ้มยิงฟันขาวจั๊ว หน้ามันเยิ้มและชุ่มเหงื่อ

 

มันใช้เวลากว่าหนึ่งนาทีกว่าหวังไคจะดึงสติกลับมาจากภาพน่ากลัวที่เกิดขึ้นต่อหน้าได้ จากนั้นมันก็เบนสายตากลับมามองชูฮันอย่างตะลึง พูดติดอ่าง “นี้คือทางลัดงั้นเหรอ? แต่หีบสมบัติหายไปแล้ว มันอาจจะมีสมบัติอยู่ข้างในนั้นก็ได้!”

 

ชูฮันเอียงหน้าก้มลงไปถามหวังไคที่อยู่ในกระเป๋า “แกเห็นเหรอไง?”

 

“แน่นอน” หวังไคตื่นเต้นมาก “มันมีเส้นสองเส้นคนละสี่ สีแดงทําให้ระเบิดทํางาน แล้วสีขาวนั่นน่าจะเป็นสีที่เปิดหีบสมบัติได้ แต่สมบัติของฉันหายไปแล้ว!”

 

ชูฮันยิ้มเยาะ “ใช่ สีขาวคือสีที่เปิดหีบสมบัติขึ้นได้ แต่มันไม่มีรางวัลตอบแทนอะไรอยู่ข้างในทั้งนั้น”

 

“อ่า–” หวังไคไม่ค่อยเข้าใจ

 

“เห็นได้ชัดว่าการประเมินพัฒนาการนี้ไม่ใช่การทดสอบที่ยากเท่าไหร่ สาเหตุที่มันตั้งอยู่ที่นี้ก็เพราะว่ามันมีทางลัดอย่างระเบิดไง” ชูฮันปาดเหงื่อที่หน้าผากเขาออก พยายามทําสมหายใจตัวเองให้นิ่ง ” แต่มันไม่มีทางที่จะมีอะไรอยู่ข้างในหีบสมบัตินั้นแน่ๆ เพราะว่าวัสดุชิ้นสุดท้ายสําหรับรางวัลของการทดสอบนั้นจะต้องไม่ธรรดมาและมันไม่มีข้อยกเว้นสําหรับการทดสอบขั้นต่อไป”

 

สีหน้าของหวังไคบิดเบี้ยว เขาไม่ค่อยเข้าใจที่ชูฮันพูดเท่าไหร่

 

“แกมันโง่ ไร้สมอง ไม่รู้อะไรสักอย่าง!” ชูฮันหรี่ตาใส่หวังไค ตามมาคําด่าทออย่างหมดความอดทน

 

หลังจากเดินออกมาจากเขาวงกตได้แล้ว มันก็เป็นทางเดินที่เชื่อมต่อเข้ากับประตูมิติที่มืดมิดในเสาหิน ทุกอย่างในนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นความเข้าใจปกติที่ผู้คนจะสามารถทําความเข้าใจได้ และชูฮันเองก็ขี้เกียจเกินกว่าจะมานั่งคิดหาเหตุว่าทําไมมันถึงมาอยู่ที่นี่

 

“ยินดีด้วยสําหรับความสําเร็จของการประเมิณ” เสียงนิ่งๆภายในระบบเสาหินดังขึ้นทันทีที่ชูฮันก้าวเท้าเข้ามาในประตูมิติ “ทําการทดสอบเขาวงกตสําเร็จ เวลา 10 ชั่วโมง กรุณาบอกชื่อเพื่อขั้นตอนสุดท้ายของการประเมิณ”

 

ในเวลาเดียวกัน รายชื่อปัจจุบันของสิบอันดับแรกก็แสดงขึ้นต่อหน้าชูฮัน ชื่อของราชานักล่าอยู่ที่อันดับสอง อันดับแรกเป็นชื่อของคนแปลกหน้า ที่ใช้นามว่ากษัตริย์ ซึ่งเป็นคนที่สามารถทําการทดสอบแรกสําเร็จได้เช่นกัน

 

เมื่อได้เห็นชื่อของอันดับแรก มันก็มีแววตาบางอย่างวาดผ่านนัยน์ตาของชูฮัน เขาคุ้นเคยกับนามแฝงนี้ดี มันเป็นชื่อที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชาติที่แล้ว กษัตริย์ไม่ใช่แค่ราชาในเหล่าอันดับรายชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นราชาเหนือราชาของสมาคมนักล่าอีก

 

เพียงแค่เห็นชื่อนี้ มันก็มีแววตาเดือดดาลและกระหายเลือกปรากฏตัวในนัยน์ตาของชูฮันทันทีเพราะกษัตริย์ชื่อนี้คือชื่อของมู๋เย๋ ราชาของลูกผสมนั่นเอง!

 

จิตวิญญาณชั่วร้ายแห่งเผ่าพันธุ์ลูกผสม…มู๋เย๋ กษัตริย์คือชื่อที่ใช้งานในองค์กรนักล่า ความลับของชาติที่แล้วที่ถูกฝังลึกไว้นานหลายปี จนกลุ่มลูกผสมสร้างกองทัพลูกผสมขึ้นมา บีบบังคับให้มนุษย์ต้องอัดแน่นรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่เล็กๆเพื่อหลบหนีกองทัพลูกผสม และความลับที่ว่ากษัตริย์ก็คือราชาลูกผสมนั้นมีเพียงแค่ไม่กี่คนในโลกเท่านั้นที่รู้

 

และชูฮันเองก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ความลับนี้ แต่มีเพียงแค่น้อยคนที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของมู๋เย๋ ไม่ใช่แค่ราชาลูกผสมที่ก่อตั้งอาณาจักรของลูกผสม แต่ยังใช้ชีวิตท่ามกลางมนุษย์ในฐานะนักล่าของสมาคมนักล่าอีกด้วย

 

รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชูฮัน แม้เขาจะไม่รู้ว่าทําไมมู๋เย๋ในปัจจุบันถึงรู้ได้ว่าการทดสอบนี้สามารถยอมรับให้ลูกผสมเข้ามาทดาสอบได้ อีกทั้งยังรู้เรื่องการใช้นามแฝงที่ปรากฏบนรายชื่อแทนอีก มันควรจะเป็นหลังจากนี้อีกสองสามปีไม่ใช่งั้นเหรอ แต่ทําไมกัน?

 

“ฉันต้องการซ่อนชื่อจริงของฉัน” เสียงของชูฮันดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน พร้อมกับความบ้าคลังที่อัดแน่นในอก “นามแฝง : จักรพรรดิ”

 

มู๋เย๋ แกอยากจะเป็นกษัตริย์ใช่มั้ย?

 

ได้ งั้นฉันจะเป็นจักรพรรดิเอง ฉันจะกดแกให้จมดิน!

 

“เรียบร้อย” เสียงของเสาหินดังขึ้นหลังจากทําการตรวจสอบระบบเสร็จ

 

พร้อมกับความรู้สึกเบาหวิวในใจของฉัน เขารู้ว่าเขาได้ผ่านทุกขั้นตอนของการประเมิณของเสาหินเรียบร้อยแล้ว และในเวลาเดียวกันนั่นเองมันก็มีตรากลมๆบางอย่างปรากฏขึ้นที่มือของชูฮันอย่างกระทันหัน

 

ชูฮันยิ้มมุมปากอย่างพอใจกับผลลัพธ์ ใครก็ตามที่ทําการประเมิณ 10-1 สําเร็จและได้อยู่ในชื่อของสิบอันดับจะได้ตรานี้มาครอบครอง แต่ในขณะเดียวกันนอกเหนือจากชูฮันแล้วไม่มีใครรู้ว่าตรานี้สามารถนําไปใช้ทําอะไรได้ ทุกคนพยายามสืบค้นและศึกษาตราที่ได้ไปแต่ไม่มีใครได้อะไรกลับมาทั้งนั้น

 

ต่อมาตาของชูฮันก็มีประกายวูบเกิดขึ้นอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ชูฮันได้สังเกตการณ์รายชื่อสิบอันดับแรกที่ปรากฏหมดแล้ว มันมีสี่คนนอกหนือจากชูฮัน มู๋เย๋ ฟานเจี้ยนและตวนเจียงเหว่ยที่ทําการประเมิณสําเร็จ

 

มันมีการประเมิณพิเศษสําหรับการประเมินความก้าวหน้า 2 หากอย่างไรก็ตามเนื่องจากเสาหินใช้การสุ่มการเลือกแบบทดสอบ ดังนั้นโอกาสของชูฮันที่จะเจอกับการประเมิณพิเศษนั้นจึงมีน้อยนิดอย่างมาก แต่ถ้าเขาสามารถรวบรวมตราทั้งหมดครบ 8 ชิ้น ชูฮันจะได้คะแนน 100% เป็นคะแนนพิเศษจากเสาหิน

 

ซึ่งมันมีสถานที่ที่เขาสามารถนําตราทั้ง 8 ชิ้นไปเพื่อแลกบางอย่างกลับมา และนั่นคือเป้าหมายของชูฮันในตอนนี้ หากชูฮันยังมีคู่แข่งอีก 5 คน นั่นก็คือ ฟานเจี้ยน ตวนเจียงเหว่ย ซูเฟิง หลี่บี๋เฟิงและมู๋เย๋

 

อย่างไรก็ตาม ขยันไม่ได้รีบเร่งอะไรมาก เพราะทีมนักฆ่าขนนกอย่างซูเฟิงและหลี่บี๋เฟิงนั้นไม่ได้น่ากลัวสําหรับชูฮันเลย!

 

ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ชูฮันก็ยังไม่รู้ผลลัพธ์คะแนนของการประเมินการต่อสู้ของเขาเลย เขาจะได้ที่หนึ่งมั้ย? แค่ตัวเขาคนเดียวไม่มีทางที่เขาจะเก่งได้เท่ามู๋เย๋หรือฟานเจี้ยนแน่ๆ เพราะชูฮันใช้ทางลัดในการประเมิณนี้ เวลาที่ชูฮันใช้อาจจะเร็วที่สุดสําหรับความยากในระดับเดียวกันที่คนอื่นๆ เจอแต่การประเมิณอันนี้มันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและความสามารถในการต่อสู้เป็นหลัก แต่มันก็สามารถใช้กลยุทธ์เพื่อหลอกล่อเอาชนะศัตรูได้เช่นกัน ดังนั้นมันจึงเป็นการประเมิณที่ครอบคลุมทุกด้าน

 

ในตอนนั้นเองขณะที่ชูฮันกําลังรู้สึกไร้เรี่ยวแรง จู่ๆชูฮันก็มาปรากฏตัวที่ด้านนอกของเสาหินแล้ว ชูฮันไม่ได้สูดลมหายใจบริสุทธิ์มาเป็นเวลากว่าสิบชั่วโมงแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เวลาปรับตัวกับอากาศและแสงภายนอกก่อน…

 

วร้ากกกกกก!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 691 ครึ่งทางกว่าจะถึง!

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 691 ครึ่งทางกว่าจะถึง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 691 ครึ่งทางกว่าจะถึง!

 

พ้ะ!

 

ในช่วงจังหวะเวลาเดียวกัน ชูฮันก็ก้าวออกไปที่ทางออกพอดี พร้อมกับที่ฝาของหีบสมบัติที่เปิดอ้าออก

 

หวังไคจ้องเขม็งไปที่หีบสมบัติที่เปิดอ้าออก มันทันเห็นภาพมีดที่ชูฮันปาออกไปตัดเข้าที่เส้นสีแดงเพื่อเปิดฝาหีบขึ้น

 

มันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สัตว์ประหลาดยักษ์ด้านหลังที่ตามมาติดๆอ้าปากกว้างขยาย มันกําลังจะงับปากลงที่หัวชูฮันเต็มๆ!

 

หวังไคที่กลั้นหายใจด้วยความกลัว ตาจ้องค้างไปที่ปากกว้างใหญ่น่าขยะแขยงด้านหลัง และในตอนนั้นเอง –

 

“ปัง!”

 

ทันใดนั้นในเขาวงกตก็เกิดระเบิดขนาดใหญ่ปะทุขึ้นจากพื้น วิสัยทัศน์กลายเป็นติดลบเนื่องจากเศษฝุ่นที่ลอยอัดแน่นในอากาศ อากาศบีบอัดแน่นรวมตัวกันเป็นรูปทรงเห็ดขนาดยักษ์ ฝุ่นสีขุ่นปกคลุมทั่วทั้งเขาวงกตและระเบิดออก เสียงระเบิดดังสนั่นจนหูแทบหนวก

 

การถล่มของกําแพงเขาวงกตไล่เป็นชุดๆต่อเนื่อง พื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เวลาราวกับหยุดค้าง และหวังไคที่เห็นภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตาตัวเองก็ตะลึงค้าง

 

เขาวงกตยักษ์ถูกทําลายภายในพริบตา เหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง และซากศพของสัตว์ประหลาดยักษ์จํานวนมากที่ถูกระเบิดเป็นเศษชิ้นเนื้อเล็กๆกองรวมกัน เลือดสีแดงสาดเปรอเปื้อนไปทั่วทั้งเขาวงกต มันเละเทะจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้เห็นเลย

 

และชูฮันที่แยกตัวหลบพ้นออกมาจากรัศมีระเบิดได้ก่อนก็ยืนนิ่งอยู่ตรงทางออกของเขาวงกต เขายืนหอบด้วยความเหนื่อย มองไปที่การระเบิดมหึมหาตรงหน้า มันไม่มีประตู ไม่มีการปกป้องใดๆ แต่ที่แปลกก็คือระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นแค่ฝั่งตรงข้ามเท่านั้น มันไม่กระจายมาถึงตรงจุดที่เขายืนอยู่

 

สีหน้าของชูฮันค่อนข้างสุดโต่ง รอยยิ้มที่หาได้ยาก มันบริสุทธิ์ ใบหน้าที่เปื้อนฝุ่น ยิ้มยิงฟันขาวจั๊ว หน้ามันเยิ้มและชุ่มเหงื่อ

 

มันใช้เวลากว่าหนึ่งนาทีกว่าหวังไคจะดึงสติกลับมาจากภาพน่ากลัวที่เกิดขึ้นต่อหน้าได้ จากนั้นมันก็เบนสายตากลับมามองชูฮันอย่างตะลึง พูดติดอ่าง “นี้คือทางลัดงั้นเหรอ? แต่หีบสมบัติหายไปแล้ว มันอาจจะมีสมบัติอยู่ข้างในนั้นก็ได้!”

 

ชูฮันเอียงหน้าก้มลงไปถามหวังไคที่อยู่ในกระเป๋า “แกเห็นเหรอไง?”

 

“แน่นอน” หวังไคตื่นเต้นมาก “มันมีเส้นสองเส้นคนละสี่ สีแดงทําให้ระเบิดทํางาน แล้วสีขาวนั่นน่าจะเป็นสีที่เปิดหีบสมบัติได้ แต่สมบัติของฉันหายไปแล้ว!”

 

ชูฮันยิ้มเยาะ “ใช่ สีขาวคือสีที่เปิดหีบสมบัติขึ้นได้ แต่มันไม่มีรางวัลตอบแทนอะไรอยู่ข้างในทั้งนั้น”

 

“อ่า–” หวังไคไม่ค่อยเข้าใจ

 

“เห็นได้ชัดว่าการประเมินพัฒนาการนี้ไม่ใช่การทดสอบที่ยากเท่าไหร่ สาเหตุที่มันตั้งอยู่ที่นี้ก็เพราะว่ามันมีทางลัดอย่างระเบิดไง” ชูฮันปาดเหงื่อที่หน้าผากเขาออก พยายามทําสมหายใจตัวเองให้นิ่ง ” แต่มันไม่มีทางที่จะมีอะไรอยู่ข้างในหีบสมบัตินั้นแน่ๆ เพราะว่าวัสดุชิ้นสุดท้ายสําหรับรางวัลของการทดสอบนั้นจะต้องไม่ธรรดมาและมันไม่มีข้อยกเว้นสําหรับการทดสอบขั้นต่อไป”

 

สีหน้าของหวังไคบิดเบี้ยว เขาไม่ค่อยเข้าใจที่ชูฮันพูดเท่าไหร่

 

“แกมันโง่ ไร้สมอง ไม่รู้อะไรสักอย่าง!” ชูฮันหรี่ตาใส่หวังไค ตามมาคําด่าทออย่างหมดความอดทน

 

หลังจากเดินออกมาจากเขาวงกตได้แล้ว มันก็เป็นทางเดินที่เชื่อมต่อเข้ากับประตูมิติที่มืดมิดในเสาหิน ทุกอย่างในนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นความเข้าใจปกติที่ผู้คนจะสามารถทําความเข้าใจได้ และชูฮันเองก็ขี้เกียจเกินกว่าจะมานั่งคิดหาเหตุว่าทําไมมันถึงมาอยู่ที่นี่

 

“ยินดีด้วยสําหรับความสําเร็จของการประเมิณ” เสียงนิ่งๆภายในระบบเสาหินดังขึ้นทันทีที่ชูฮันก้าวเท้าเข้ามาในประตูมิติ “ทําการทดสอบเขาวงกตสําเร็จ เวลา 10 ชั่วโมง กรุณาบอกชื่อเพื่อขั้นตอนสุดท้ายของการประเมิณ”

 

ในเวลาเดียวกัน รายชื่อปัจจุบันของสิบอันดับแรกก็แสดงขึ้นต่อหน้าชูฮัน ชื่อของราชานักล่าอยู่ที่อันดับสอง อันดับแรกเป็นชื่อของคนแปลกหน้า ที่ใช้นามว่ากษัตริย์ ซึ่งเป็นคนที่สามารถทําการทดสอบแรกสําเร็จได้เช่นกัน

 

เมื่อได้เห็นชื่อของอันดับแรก มันก็มีแววตาบางอย่างวาดผ่านนัยน์ตาของชูฮัน เขาคุ้นเคยกับนามแฝงนี้ดี มันเป็นชื่อที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชาติที่แล้ว กษัตริย์ไม่ใช่แค่ราชาในเหล่าอันดับรายชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นราชาเหนือราชาของสมาคมนักล่าอีก

 

เพียงแค่เห็นชื่อนี้ มันก็มีแววตาเดือดดาลและกระหายเลือกปรากฏตัวในนัยน์ตาของชูฮันทันทีเพราะกษัตริย์ชื่อนี้คือชื่อของมู๋เย๋ ราชาของลูกผสมนั่นเอง!

 

จิตวิญญาณชั่วร้ายแห่งเผ่าพันธุ์ลูกผสม…มู๋เย๋ กษัตริย์คือชื่อที่ใช้งานในองค์กรนักล่า ความลับของชาติที่แล้วที่ถูกฝังลึกไว้นานหลายปี จนกลุ่มลูกผสมสร้างกองทัพลูกผสมขึ้นมา บีบบังคับให้มนุษย์ต้องอัดแน่นรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่เล็กๆเพื่อหลบหนีกองทัพลูกผสม และความลับที่ว่ากษัตริย์ก็คือราชาลูกผสมนั้นมีเพียงแค่ไม่กี่คนในโลกเท่านั้นที่รู้

 

และชูฮันเองก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ความลับนี้ แต่มีเพียงแค่น้อยคนที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของมู๋เย๋ ไม่ใช่แค่ราชาลูกผสมที่ก่อตั้งอาณาจักรของลูกผสม แต่ยังใช้ชีวิตท่ามกลางมนุษย์ในฐานะนักล่าของสมาคมนักล่าอีกด้วย

 

รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชูฮัน แม้เขาจะไม่รู้ว่าทําไมมู๋เย๋ในปัจจุบันถึงรู้ได้ว่าการทดสอบนี้สามารถยอมรับให้ลูกผสมเข้ามาทดาสอบได้ อีกทั้งยังรู้เรื่องการใช้นามแฝงที่ปรากฏบนรายชื่อแทนอีก มันควรจะเป็นหลังจากนี้อีกสองสามปีไม่ใช่งั้นเหรอ แต่ทําไมกัน?

 

“ฉันต้องการซ่อนชื่อจริงของฉัน” เสียงของชูฮันดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน พร้อมกับความบ้าคลังที่อัดแน่นในอก “นามแฝง : จักรพรรดิ”

 

มู๋เย๋ แกอยากจะเป็นกษัตริย์ใช่มั้ย?

 

ได้ งั้นฉันจะเป็นจักรพรรดิเอง ฉันจะกดแกให้จมดิน!

 

“เรียบร้อย” เสียงของเสาหินดังขึ้นหลังจากทําการตรวจสอบระบบเสร็จ

 

พร้อมกับความรู้สึกเบาหวิวในใจของฉัน เขารู้ว่าเขาได้ผ่านทุกขั้นตอนของการประเมิณของเสาหินเรียบร้อยแล้ว และในเวลาเดียวกันนั่นเองมันก็มีตรากลมๆบางอย่างปรากฏขึ้นที่มือของชูฮันอย่างกระทันหัน

 

ชูฮันยิ้มมุมปากอย่างพอใจกับผลลัพธ์ ใครก็ตามที่ทําการประเมิณ 10-1 สําเร็จและได้อยู่ในชื่อของสิบอันดับจะได้ตรานี้มาครอบครอง แต่ในขณะเดียวกันนอกเหนือจากชูฮันแล้วไม่มีใครรู้ว่าตรานี้สามารถนําไปใช้ทําอะไรได้ ทุกคนพยายามสืบค้นและศึกษาตราที่ได้ไปแต่ไม่มีใครได้อะไรกลับมาทั้งนั้น

 

ต่อมาตาของชูฮันก็มีประกายวูบเกิดขึ้นอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ชูฮันได้สังเกตการณ์รายชื่อสิบอันดับแรกที่ปรากฏหมดแล้ว มันมีสี่คนนอกหนือจากชูฮัน มู๋เย๋ ฟานเจี้ยนและตวนเจียงเหว่ยที่ทําการประเมิณสําเร็จ

 

มันมีการประเมิณพิเศษสําหรับการประเมินความก้าวหน้า 2 หากอย่างไรก็ตามเนื่องจากเสาหินใช้การสุ่มการเลือกแบบทดสอบ ดังนั้นโอกาสของชูฮันที่จะเจอกับการประเมิณพิเศษนั้นจึงมีน้อยนิดอย่างมาก แต่ถ้าเขาสามารถรวบรวมตราทั้งหมดครบ 8 ชิ้น ชูฮันจะได้คะแนน 100% เป็นคะแนนพิเศษจากเสาหิน

 

ซึ่งมันมีสถานที่ที่เขาสามารถนําตราทั้ง 8 ชิ้นไปเพื่อแลกบางอย่างกลับมา และนั่นคือเป้าหมายของชูฮันในตอนนี้ หากชูฮันยังมีคู่แข่งอีก 5 คน นั่นก็คือ ฟานเจี้ยน ตวนเจียงเหว่ย ซูเฟิง หลี่บี๋เฟิงและมู๋เย๋

 

อย่างไรก็ตาม ขยันไม่ได้รีบเร่งอะไรมาก เพราะทีมนักฆ่าขนนกอย่างซูเฟิงและหลี่บี๋เฟิงนั้นไม่ได้น่ากลัวสําหรับชูฮันเลย!

 

ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ชูฮันก็ยังไม่รู้ผลลัพธ์คะแนนของการประเมินการต่อสู้ของเขาเลย เขาจะได้ที่หนึ่งมั้ย? แค่ตัวเขาคนเดียวไม่มีทางที่เขาจะเก่งได้เท่ามู๋เย๋หรือฟานเจี้ยนแน่ๆ เพราะชูฮันใช้ทางลัดในการประเมิณนี้ เวลาที่ชูฮันใช้อาจจะเร็วที่สุดสําหรับความยากในระดับเดียวกันที่คนอื่นๆ เจอแต่การประเมิณอันนี้มันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและความสามารถในการต่อสู้เป็นหลัก แต่มันก็สามารถใช้กลยุทธ์เพื่อหลอกล่อเอาชนะศัตรูได้เช่นกัน ดังนั้นมันจึงเป็นการประเมิณที่ครอบคลุมทุกด้าน

 

ในตอนนั้นเองขณะที่ชูฮันกําลังรู้สึกไร้เรี่ยวแรง จู่ๆชูฮันก็มาปรากฏตัวที่ด้านนอกของเสาหินแล้ว ชูฮันไม่ได้สูดลมหายใจบริสุทธิ์มาเป็นเวลากว่าสิบชั่วโมงแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เวลาปรับตัวกับอากาศและแสงภายนอกก่อน…

 

วร้ากกกกกก!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+