Elixir Supplier 778

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 778 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความกังวลของซงรุ่ยปิงลดน้อยลง

“ยาวิเศษอะไรแบบนี้!” หมอหล่อุทาน

เขาจับชีพจรของซูจือจึงดูเมื่อสิบนาทีที่แล้ว มันดูคล้ายปลาที่กําลังแหวกว่ายอยู่ในน้ํา เขาพบว่ามันยากที่จะจับไว้ได้ และรู้ว่ามันคือชีพจรของคนตาย แต่ครูต่อมา ชีพจรของเขาก็กลับมามั่นคงอีกครั้ง ยาเพียงเม็ดเดียวกับดึงคนตายให้กลับคืนมาได้

“ฉันคิดว่า ตอนนี้เขาปลอดภัยแล้วล่ะ” หมอเฉินพูดขึ้นหลังจากตรวจชีพจรดูแล้ว “ตัวยาจะเข้าไปปกป้องอวัยวะของเขาเอาไว้ ตอนนี้ถือว่าเขายังปลอดภัย”

“ขอบคุณมากนะคะ” ซงรุ่ยปิงพูด

เมื่อหมอหลีกับหมอเฉินบอกว่าซูคือนิ่งพ้นขีดอันตรายแล้ว เธอก็ไม่กังวลมากเหมือนก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหมอหลี่และหมอเฉิน ลูกชายของเธอคงทนจนลูกสาวกลับไปเอายามาให้ไม่ไหว เธอจึงรู้สึกขอบคุณหมอทั้งสองท่านเป็นอย่างมาก

“ตอนนี้ ที่เธอต้องทําก็คือรอล่ะนะ” หมอเฉินพูด

ผลของเม็ดยาไม่เพียงสร้างความประทับต่อหมอหลและหมอเฉินเท่านั้น แต่มันยังสร้างความประทับใจแก่แพทย์พยาบาลในโรงพยาบาลอีกด้วย พวกเขาต่างเป็นกังวลว่าซูคือฉิงจะตาย แต่แล้วอยู่ๆ ในเวลาแค่ไม่กี่นาที เขาก็รอดพ้นอันตรายมาได้ด้วยยาเพียงเม็ดเดียว พวกเขาต่างสงสัยเกี่ยวกับยาเม็ดนั้น

“เมื่อกี้เห็นไหมครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” หมอหนุ่มถาม

“อืม มันคือยาอะไรกัน? วิเศษสุดๆ!” หมอรุ่นพี่อุทาน

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน หมอรู้ไหมครับ?” หมอหนุ่มถาม

“ไม่รู้ แต่ผมก็เตือนทุกคนไว้ก่อนเลยว่า ห้ามถามเรื่องนี้และห้ามเอาไปพูดข้างนอกเด็ดขาด” หมอรุ่นพี่พูด “ห้ามบอกคนอื่นเรื่องที่เห็นวันนี้ พวกคุณคงรู้ว่าพวกเขามีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ขนาดไหน”

“พวกเขาล้วนรู้เกี่ยวกับเบื้องหลังของซูจือจิง ตั้งแต่ที่เขาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เหล่าผู้อาวุโสของทั้งโรงพยาบาลต่างก็มาเยี่ยมเขา ไม่เกี่ยวว่าพวกเขามีส่วนรับผิดชอบในการรักษาหรือไม่ก็ตามที ดังนั้น พวกเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าเขาต้องเป็นคนใหญ่คนโตอย่างแน่นอน

“อย่างออกไปเดินข้างนอกหน่อยไหม?” หมอหลี่ถามหมอเฉิน

ทั้งสองเดินออกจากห้องและเดินไปตามระเบียงทางเดิน มันเป็นช่วงเย็นที่เย็นเยียบ อากาศเย็นสดชื่นทําให้ทั้งสองตื่นตัว

“เมื่อกี้เขาเกือบตายไปแล้ว” หมอหลี่พูด

“ใช่ เกือบแล้ว” หมอเฉินพูด

“แกเคยเห็นยาเม็ดนั้นมาก่อนไหม?” หมอหลี่ถาม

“เคย ตอนที่อาการของเสี่ยวซวีแย่ลง หวังเย้าก็เอายาให้เธอกินเม็ดหนึ่ง” หมอเฉินพูด “เขายื้อชีวิตของเธอกลับมาได้ด้วยยาตัวเดียวกัน ฉันยังจําได้ แล้วก็ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นมันอีกครั้ง”

“มันชื่อว่ายาอะไรเหรอ?” หมอหลี่ถาม

“ฉันไม่รู้” หมอเฉินพูด

“ฉันว่า มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทํามันออกมาได้สักเม็ดหนึ่ง” หมอหลี่พูด

“แกกําลังคิดอะไรอยู่?” หมอเฉินหรี่ตามองหมอหลี

“ถ้าเกิดเราสามารถผลิตยาแบบนั้นออกมาได้จํานวนมากขึ้นมา เราก็จะสามารถช่วยคนได้อีกมากเลยนะ” หมอหลีพูด

“หวังเย้าเคยบอกฉันว่า มันยากมากกว่าที่จะทําออกมาได้” หมอเฉินพูด “การที่จะทํายาออกมาได้จํานวนหนึ่ง เขาต้องใช้เวลานานมาก ฉันเดาว่าตอนนี้คงเหลืออยู่ไม่มากแล้วล่ะ”

“น่าเสียดาย” หมอหลีพูด

“แล้วทหารอีกสองคนเป็นยังไงบ้าง?” หมอเฉินถาม

ไม่ใช่แค่ซจือฉิงคนเดียวที่ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาล ยังมีนายทหารอีกสองคนที่ถูกส่งตัวตามมาทีหลัง หนึ่งในสองถูกยิง ส่วนอีกคนถูกพิษและมีอาการคล้ายกับซูจือฉิง อาการของเขายังถือว่าดีกว่าซูคือนิ่งเล็กน้อย เพราะเขาได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขา ส่วนซูจือฉิงได้รับบาดเจ็บที่ท้องพิศจึงตรงเข้าสู่อวัยวะของเขาโดยตรง

“อาการของเขาคงเลวร้ายไม่ต่างกัน” หมอหลี่พูด

อยู่ๆแพทย์ก็พุ่งตัวเขาไปในห้องที่ทหารอีกคนรักษาตัวอยู่

“ไปดูกันเถอะ” หมอเฉินพูด

เขาเข้าไปในห้องที่ทหารคนนั้นรักษาตัวพร้อมกับหมอหลี่ ทหารที่นอนอยู่บนเตียงยังหนุ่มอยู่มาก อายุน่าจะเพียงยี่สิบต้นๆเท่านั้น ใบหน้าของเขาเขียวคล้ําเหมือนซูจือฉิง ลมหายใจแผ่วเบา เหมือนเปลวเทียนท่ามกลางลมแรงที่พร้อมจะดับได้ทุกเมื่อ

“เขาอยู่ในอันตราย” หมอเฉินพูด

“มาเถอะ ทําอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเขา” หมอหลี่พูด

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฉีดยาตัวแรงเข้าสู่ร่างกายของเขา หมอหลีกับหมอเฉินกระตุ้นสัญญาณชีพของเขาด้วยการฝังเข็ม

“ขอบคุณพระเจ้า!” หมอเฉินกับหมอหลีพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เฮลิคอปเตอร์ยังมาไม่ถึงอีกเหรอ?” หมอหลี่ถาม

เฮลิคอปเตอร์รวดเร็วกว่ารถ แต่เมืองเว่ยก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับปักกิ่งมากนัก ถึงจะเร่งเครื่องแรงจนสุด มันก็ยังต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงปักกิ่ง

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าสําหรับคนที่กําลังรอคอย โดยเฉพาะคนที่อาจตายได้ทุกเมื่อ

“ทําไมถึงยังมาไม่ถึงกันอีก?” ซงรุ่ยปิงถอนหายใจ

“คุณแม่ พี่ชายจะต้องไม่เป็นอะไรคะ” ซูเสี่ยวซวีพูดอย่างอ่อนโยน

“แม่รู้จะ” ซงรุ่ยปิงพูด

ด้านนอกเริ่มมืดลง ตั้งแต่ที่กินเม็ดยาอายุวัฒนะเข้าไป อาการของซูจือจิงก็คงที่มาโดยตลอด และไม่ได้แย่ลงเลย

ในที่สุด เฮลิคอปเตอร์ก็เดินทางมาถึงปักกิ่งและลงจอดที่ลานบินของกองทัพ มีรถคันหนึ่งจอดรออยู่ก่อนแล้ว หวังเย้าลงจาเฮลิคอปเตอร์และเข้าไปนั่งในรถที่มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาล

เครื่องวัดสัญญาณชีพดังขึ้นอีกครั้ง เหล่าแพทย์พยาบาลวิ่งวุ่นอยู่กับการรักษาทหารหนุ่ม ทันใดนั้น เขาก็หยุดหายใจ

ปีบ ปี๊บ!

กราฟแสดงการเต้นของหัวใจกลายเป็นเส้นตรง

“เตรียมเครื่องปั้มหัวใจ!” แพทย์สั่ง

กร็ง! ตื้ด! มือถือของซูเสี่ยวซวีดังขึ้น เธอกดรับด้วยความกังวล “ฮัลโหล หมอหวัง!”

“ผมมาถึงโรงพยาบาลแล้ว” หวังเย้าพูด

“น้าเหลียนรอคุณอยู่ข้างล่างแล้วค่ะ ฉันจะโทรบอกเธอเอง” ซูเสี่ยวซวีพูด

“ผมเห็นเธอแล้วครับ” หวังเย้าพูด

พวกเขาพากันขึ้นลิฟท์และเดินไปที่ห้อง
“ในที่สุดคุณก็มาแล้ว!” เมื่อเห็นหน้าหวังเย้า ซูเสี่ยวซวีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอเชื่อว่า หากได้รับการรักษาจากหวังเย้าแล้วพี่ชายของเธอก็จะปลอดภัย เธอเชื่อในตัวหวังเย้าจนหมดใจ อาจเรียกได้ว่าถึงขั้นหน้ามืดตามัว

“สวัสดีครับ หมอเฉิน หมอหลี่” หวังเย้าทักทายหมอเฉินและหมอหลี่

“ในที่สุดเธอก็มาถึงสักทีนะ!” หมอชราทั้งสองยิ้ม

“สวัสดีครับ น้าซง” หวังเย้าพูด

“สวัสดี หมอหวัง ช่วยดูอาการของจือจิ้งที่นะคะ” ซงรุ่ยปิงพูด

หวังเย้าเข้าไปจับดูชีพจรของซูจอฉิงในทันที “พิษรุนแรงมาก!”

“ใช่แล้วล่ะ!” หมอหลี่เห็นด้วย

พิษแทรกซึมเข้าสู่อวัยวะภายในของซูจือฉิงและแพร่กระจายออกไปทั่วร่างกายของเขา ความรุนแรงของพิษมากจนสามารถเข้าไปทําลายระบบการทํางานของร่างกายได้ โชคดีที่เขากินยา

าไปทันเวลา ถึงหวังเย้าจะมาช้าไปวันหนึ่ง เขาก็มั่นใจว่าซูคือฉิงจะยังคงปลอดภัยดี

“ผมจะทํายาเพื่อล้างพิษให้เขาเอง” หวังเย้าพูด

ถึงแม้พิษจะรุนแรง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับหวังเย้า เขามีสมุนไพรรากอยู่มากกว่า 10 ชนิด หนึ่งในนั้นคือหญ้าพิษ ที่สามารถจัดการกับพิษได้ทุกชนิด

แพทย์คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง “คุณซงครับ ทหารที่มาพร้อมกับคุณซูไม่รอดครับ”

ทุกคนเงียบเสียง

“ตอนนี้เหรอครับ?” หวังเย้าพูด

“ครับ” แพทย์พูด

“พาผมไปดูเขาทีครับ” หวังเย้าลุกขึ้นยืน เขาไม่ลืมปลอบใจซงรุ่ยปิงกับซูเสี่ยวซวีก่อนที่จะเดินออกไป ด้วยไม่ต้องการให้ทั้งสองเป็นกังวลมากเกินไป “ตอนนี้คือฉิงจะยังไม่เป็นอะไร อย่ากังวลไปเลยครับ

ทหารที่อยู่ห้องข้างกันได้หยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว นางพยาบาลที่อยู่ภายในห้องกําลังเช็ดน้ําตา และกําลังเตรียมที่จะถอดเครื่องวัดสัญญาณชีพออก

เขายังไม่ตาย! หวังเย้าเดินเข้าไปจับชีพจรของทหารคนนั้น

เขารีบหยิบเข็มเงินออกมาหลายเล่ม แล้วแทงเข็มลงไปตามร่างกายของทหาร และในเวลาเดียวกันเขาก็ยังส่งพลังฉีเข้าสู่ร่างกายของทหารไปด้วย

หลังส่งพลังเข้าสู่ร่างกายของทหารหนุ่มแล้ว หวังเย้าก็หยิบขวดกระเบื้องออกมาและเทยาออกมาเม็ดหนึ่ง เม็ดยาส่งกลิ่นหอมออกมา เขาเปิดปากของทหารหนุ่มและป้อนยาให้เขากิน เขาตบเบาเพื่อให้แน่ใจว่าทหารหนุ่มได้กลืนเม็ดยาลงไปแล้ว

“ยาตัวเดียวกัน!” หมอหลีพูดเสียงเบา เขาและหมอเฉินหันมามองหน้ากัน

หลังจากทหารหนุ่มกลืนยาลงไป หวังเย้าก็กดไปไล่ไปตามจุดฝังเข็มและเส้นเลือดบนร่างกายของทหารหนุ่ม เขาได้ใช้วิธีการแบบพิเศษในการกระตุ้นร่างกายของทหารหนุ่ม แล้วเครื่องวัดสัญญาณชีพก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“หัวใจของเขากลับมาเต้นอีกครั้งแล้ว!” นางพยาบาลตะโกน

เธอรีบวิ่งออกไปนอกห้อง ครูต่อมา แพทย์ผู้ดูแลก็เข้ามาในห้องและได้เห็นภาพที่เขาไม่มีทางลืมได้ลง ทหารหนุ่มที่ถูกยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง หัวใจของเขาเริ่มเต้นอีกครั้ง หน้าอกของเขาขยับขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด

“นี่มันปาฏิหาริย์!” แพทย์ผู้ดูแลอุทาน เขามองไปที่หวังเย้า เขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น “คุณคือคนที่พวกเขากําลังรออยู่ใช่ไหมครับ?”

เขารู้สึกสงสัยในวิธีการที่หวังเย้าใช้ในการดึงคนให้กลับมาจากความตายได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Elixir Supplier 778

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 778 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความกังวลของซงรุ่ยปิงลดน้อยลง

“ยาวิเศษอะไรแบบนี้!” หมอหล่อุทาน

เขาจับชีพจรของซูจือจึงดูเมื่อสิบนาทีที่แล้ว มันดูคล้ายปลาที่กําลังแหวกว่ายอยู่ในน้ํา เขาพบว่ามันยากที่จะจับไว้ได้ และรู้ว่ามันคือชีพจรของคนตาย แต่ครูต่อมา ชีพจรของเขาก็กลับมามั่นคงอีกครั้ง ยาเพียงเม็ดเดียวกับดึงคนตายให้กลับคืนมาได้

“ฉันคิดว่า ตอนนี้เขาปลอดภัยแล้วล่ะ” หมอเฉินพูดขึ้นหลังจากตรวจชีพจรดูแล้ว “ตัวยาจะเข้าไปปกป้องอวัยวะของเขาเอาไว้ ตอนนี้ถือว่าเขายังปลอดภัย”

“ขอบคุณมากนะคะ” ซงรุ่ยปิงพูด

เมื่อหมอหลีกับหมอเฉินบอกว่าซูคือนิ่งพ้นขีดอันตรายแล้ว เธอก็ไม่กังวลมากเหมือนก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหมอหลี่และหมอเฉิน ลูกชายของเธอคงทนจนลูกสาวกลับไปเอายามาให้ไม่ไหว เธอจึงรู้สึกขอบคุณหมอทั้งสองท่านเป็นอย่างมาก

“ตอนนี้ ที่เธอต้องทําก็คือรอล่ะนะ” หมอเฉินพูด

ผลของเม็ดยาไม่เพียงสร้างความประทับต่อหมอหลและหมอเฉินเท่านั้น แต่มันยังสร้างความประทับใจแก่แพทย์พยาบาลในโรงพยาบาลอีกด้วย พวกเขาต่างเป็นกังวลว่าซูคือฉิงจะตาย แต่แล้วอยู่ๆ ในเวลาแค่ไม่กี่นาที เขาก็รอดพ้นอันตรายมาได้ด้วยยาเพียงเม็ดเดียว พวกเขาต่างสงสัยเกี่ยวกับยาเม็ดนั้น

“เมื่อกี้เห็นไหมครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” หมอหนุ่มถาม

“อืม มันคือยาอะไรกัน? วิเศษสุดๆ!” หมอรุ่นพี่อุทาน

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน หมอรู้ไหมครับ?” หมอหนุ่มถาม

“ไม่รู้ แต่ผมก็เตือนทุกคนไว้ก่อนเลยว่า ห้ามถามเรื่องนี้และห้ามเอาไปพูดข้างนอกเด็ดขาด” หมอรุ่นพี่พูด “ห้ามบอกคนอื่นเรื่องที่เห็นวันนี้ พวกคุณคงรู้ว่าพวกเขามีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ขนาดไหน”

“พวกเขาล้วนรู้เกี่ยวกับเบื้องหลังของซูจือจิง ตั้งแต่ที่เขาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เหล่าผู้อาวุโสของทั้งโรงพยาบาลต่างก็มาเยี่ยมเขา ไม่เกี่ยวว่าพวกเขามีส่วนรับผิดชอบในการรักษาหรือไม่ก็ตามที ดังนั้น พวกเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าเขาต้องเป็นคนใหญ่คนโตอย่างแน่นอน

“อย่างออกไปเดินข้างนอกหน่อยไหม?” หมอหลี่ถามหมอเฉิน

ทั้งสองเดินออกจากห้องและเดินไปตามระเบียงทางเดิน มันเป็นช่วงเย็นที่เย็นเยียบ อากาศเย็นสดชื่นทําให้ทั้งสองตื่นตัว

“เมื่อกี้เขาเกือบตายไปแล้ว” หมอหลี่พูด

“ใช่ เกือบแล้ว” หมอเฉินพูด

“แกเคยเห็นยาเม็ดนั้นมาก่อนไหม?” หมอหลี่ถาม

“เคย ตอนที่อาการของเสี่ยวซวีแย่ลง หวังเย้าก็เอายาให้เธอกินเม็ดหนึ่ง” หมอเฉินพูด “เขายื้อชีวิตของเธอกลับมาได้ด้วยยาตัวเดียวกัน ฉันยังจําได้ แล้วก็ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นมันอีกครั้ง”

“มันชื่อว่ายาอะไรเหรอ?” หมอหลี่ถาม

“ฉันไม่รู้” หมอเฉินพูด

“ฉันว่า มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทํามันออกมาได้สักเม็ดหนึ่ง” หมอหลี่พูด

“แกกําลังคิดอะไรอยู่?” หมอเฉินหรี่ตามองหมอหลี

“ถ้าเกิดเราสามารถผลิตยาแบบนั้นออกมาได้จํานวนมากขึ้นมา เราก็จะสามารถช่วยคนได้อีกมากเลยนะ” หมอหลีพูด

“หวังเย้าเคยบอกฉันว่า มันยากมากกว่าที่จะทําออกมาได้” หมอเฉินพูด “การที่จะทํายาออกมาได้จํานวนหนึ่ง เขาต้องใช้เวลานานมาก ฉันเดาว่าตอนนี้คงเหลืออยู่ไม่มากแล้วล่ะ”

“น่าเสียดาย” หมอหลีพูด

“แล้วทหารอีกสองคนเป็นยังไงบ้าง?” หมอเฉินถาม

ไม่ใช่แค่ซจือฉิงคนเดียวที่ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาล ยังมีนายทหารอีกสองคนที่ถูกส่งตัวตามมาทีหลัง หนึ่งในสองถูกยิง ส่วนอีกคนถูกพิษและมีอาการคล้ายกับซูจือฉิง อาการของเขายังถือว่าดีกว่าซูคือนิ่งเล็กน้อย เพราะเขาได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขา ส่วนซูจือฉิงได้รับบาดเจ็บที่ท้องพิศจึงตรงเข้าสู่อวัยวะของเขาโดยตรง

“อาการของเขาคงเลวร้ายไม่ต่างกัน” หมอหลี่พูด

อยู่ๆแพทย์ก็พุ่งตัวเขาไปในห้องที่ทหารอีกคนรักษาตัวอยู่

“ไปดูกันเถอะ” หมอเฉินพูด

เขาเข้าไปในห้องที่ทหารคนนั้นรักษาตัวพร้อมกับหมอหลี่ ทหารที่นอนอยู่บนเตียงยังหนุ่มอยู่มาก อายุน่าจะเพียงยี่สิบต้นๆเท่านั้น ใบหน้าของเขาเขียวคล้ําเหมือนซูจือฉิง ลมหายใจแผ่วเบา เหมือนเปลวเทียนท่ามกลางลมแรงที่พร้อมจะดับได้ทุกเมื่อ

“เขาอยู่ในอันตราย” หมอเฉินพูด

“มาเถอะ ทําอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเขา” หมอหลี่พูด

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฉีดยาตัวแรงเข้าสู่ร่างกายของเขา หมอหลีกับหมอเฉินกระตุ้นสัญญาณชีพของเขาด้วยการฝังเข็ม

“ขอบคุณพระเจ้า!” หมอเฉินกับหมอหลีพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เฮลิคอปเตอร์ยังมาไม่ถึงอีกเหรอ?” หมอหลี่ถาม

เฮลิคอปเตอร์รวดเร็วกว่ารถ แต่เมืองเว่ยก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับปักกิ่งมากนัก ถึงจะเร่งเครื่องแรงจนสุด มันก็ยังต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงปักกิ่ง

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าสําหรับคนที่กําลังรอคอย โดยเฉพาะคนที่อาจตายได้ทุกเมื่อ

“ทําไมถึงยังมาไม่ถึงกันอีก?” ซงรุ่ยปิงถอนหายใจ

“คุณแม่ พี่ชายจะต้องไม่เป็นอะไรคะ” ซูเสี่ยวซวีพูดอย่างอ่อนโยน

“แม่รู้จะ” ซงรุ่ยปิงพูด

ด้านนอกเริ่มมืดลง ตั้งแต่ที่กินเม็ดยาอายุวัฒนะเข้าไป อาการของซูจือจิงก็คงที่มาโดยตลอด และไม่ได้แย่ลงเลย

ในที่สุด เฮลิคอปเตอร์ก็เดินทางมาถึงปักกิ่งและลงจอดที่ลานบินของกองทัพ มีรถคันหนึ่งจอดรออยู่ก่อนแล้ว หวังเย้าลงจาเฮลิคอปเตอร์และเข้าไปนั่งในรถที่มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาล

เครื่องวัดสัญญาณชีพดังขึ้นอีกครั้ง เหล่าแพทย์พยาบาลวิ่งวุ่นอยู่กับการรักษาทหารหนุ่ม ทันใดนั้น เขาก็หยุดหายใจ

ปีบ ปี๊บ!

กราฟแสดงการเต้นของหัวใจกลายเป็นเส้นตรง

“เตรียมเครื่องปั้มหัวใจ!” แพทย์สั่ง

กร็ง! ตื้ด! มือถือของซูเสี่ยวซวีดังขึ้น เธอกดรับด้วยความกังวล “ฮัลโหล หมอหวัง!”

“ผมมาถึงโรงพยาบาลแล้ว” หวังเย้าพูด

“น้าเหลียนรอคุณอยู่ข้างล่างแล้วค่ะ ฉันจะโทรบอกเธอเอง” ซูเสี่ยวซวีพูด

“ผมเห็นเธอแล้วครับ” หวังเย้าพูด

พวกเขาพากันขึ้นลิฟท์และเดินไปที่ห้อง
“ในที่สุดคุณก็มาแล้ว!” เมื่อเห็นหน้าหวังเย้า ซูเสี่ยวซวีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอเชื่อว่า หากได้รับการรักษาจากหวังเย้าแล้วพี่ชายของเธอก็จะปลอดภัย เธอเชื่อในตัวหวังเย้าจนหมดใจ อาจเรียกได้ว่าถึงขั้นหน้ามืดตามัว

“สวัสดีครับ หมอเฉิน หมอหลี่” หวังเย้าทักทายหมอเฉินและหมอหลี่

“ในที่สุดเธอก็มาถึงสักทีนะ!” หมอชราทั้งสองยิ้ม

“สวัสดีครับ น้าซง” หวังเย้าพูด

“สวัสดี หมอหวัง ช่วยดูอาการของจือจิ้งที่นะคะ” ซงรุ่ยปิงพูด

หวังเย้าเข้าไปจับดูชีพจรของซูจอฉิงในทันที “พิษรุนแรงมาก!”

“ใช่แล้วล่ะ!” หมอหลี่เห็นด้วย

พิษแทรกซึมเข้าสู่อวัยวะภายในของซูจือฉิงและแพร่กระจายออกไปทั่วร่างกายของเขา ความรุนแรงของพิษมากจนสามารถเข้าไปทําลายระบบการทํางานของร่างกายได้ โชคดีที่เขากินยา

าไปทันเวลา ถึงหวังเย้าจะมาช้าไปวันหนึ่ง เขาก็มั่นใจว่าซูคือฉิงจะยังคงปลอดภัยดี

“ผมจะทํายาเพื่อล้างพิษให้เขาเอง” หวังเย้าพูด

ถึงแม้พิษจะรุนแรง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับหวังเย้า เขามีสมุนไพรรากอยู่มากกว่า 10 ชนิด หนึ่งในนั้นคือหญ้าพิษ ที่สามารถจัดการกับพิษได้ทุกชนิด

แพทย์คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง “คุณซงครับ ทหารที่มาพร้อมกับคุณซูไม่รอดครับ”

ทุกคนเงียบเสียง

“ตอนนี้เหรอครับ?” หวังเย้าพูด

“ครับ” แพทย์พูด

“พาผมไปดูเขาทีครับ” หวังเย้าลุกขึ้นยืน เขาไม่ลืมปลอบใจซงรุ่ยปิงกับซูเสี่ยวซวีก่อนที่จะเดินออกไป ด้วยไม่ต้องการให้ทั้งสองเป็นกังวลมากเกินไป “ตอนนี้คือฉิงจะยังไม่เป็นอะไร อย่ากังวลไปเลยครับ

ทหารที่อยู่ห้องข้างกันได้หยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว นางพยาบาลที่อยู่ภายในห้องกําลังเช็ดน้ําตา และกําลังเตรียมที่จะถอดเครื่องวัดสัญญาณชีพออก

เขายังไม่ตาย! หวังเย้าเดินเข้าไปจับชีพจรของทหารคนนั้น

เขารีบหยิบเข็มเงินออกมาหลายเล่ม แล้วแทงเข็มลงไปตามร่างกายของทหาร และในเวลาเดียวกันเขาก็ยังส่งพลังฉีเข้าสู่ร่างกายของทหารไปด้วย

หลังส่งพลังเข้าสู่ร่างกายของทหารหนุ่มแล้ว หวังเย้าก็หยิบขวดกระเบื้องออกมาและเทยาออกมาเม็ดหนึ่ง เม็ดยาส่งกลิ่นหอมออกมา เขาเปิดปากของทหารหนุ่มและป้อนยาให้เขากิน เขาตบเบาเพื่อให้แน่ใจว่าทหารหนุ่มได้กลืนเม็ดยาลงไปแล้ว

“ยาตัวเดียวกัน!” หมอหลีพูดเสียงเบา เขาและหมอเฉินหันมามองหน้ากัน

หลังจากทหารหนุ่มกลืนยาลงไป หวังเย้าก็กดไปไล่ไปตามจุดฝังเข็มและเส้นเลือดบนร่างกายของทหารหนุ่ม เขาได้ใช้วิธีการแบบพิเศษในการกระตุ้นร่างกายของทหารหนุ่ม แล้วเครื่องวัดสัญญาณชีพก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“หัวใจของเขากลับมาเต้นอีกครั้งแล้ว!” นางพยาบาลตะโกน

เธอรีบวิ่งออกไปนอกห้อง ครูต่อมา แพทย์ผู้ดูแลก็เข้ามาในห้องและได้เห็นภาพที่เขาไม่มีทางลืมได้ลง ทหารหนุ่มที่ถูกยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง หัวใจของเขาเริ่มเต้นอีกครั้ง หน้าอกของเขาขยับขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด

“นี่มันปาฏิหาริย์!” แพทย์ผู้ดูแลอุทาน เขามองไปที่หวังเย้า เขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น “คุณคือคนที่พวกเขากําลังรออยู่ใช่ไหมครับ?”

เขารู้สึกสงสัยในวิธีการที่หวังเย้าใช้ในการดึงคนให้กลับมาจากความตายได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+