Elixir Supplier 914 พูดคุยเรื่องการมีอายุที่ยืนยาว

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 914 พูดคุยเรื่องการมีอายุที่ยืนยาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

914 พูดคุยเรื่องการมีอายุที่ยืนยาว

“ทะเลสาบแห่งนี้จะทําให้คนตายจากไปอย่างสงบ? เอ่อคงไม่ใช่ว่าพวกคุณเอาคนตายโยน

ลงไปในทะเลสาบนี้หรอกนะ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม

“เป็นความจริงครับ” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเมี่ยวชิงเฟิงก็พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่หายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ผมจําได้ว่า บนเขาก็มีหลุมศพอยู่หลายหลุม”หยางกวนเฟิงพูด แล้วชี้ไปทางยอดเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเขาเห็นมันตอนที่ขึ้นไปเมื่อครั้งก่อนรวมถึงครั้งนี้ด้วยเมี่ยวชิงเฟิงก็พูดเองว่ามันเป็นสถานที่สําหรับฝังศพของคนในหมู่บ้าน

“ใช่ครับ มันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ตายและสถานะของพวกเขาด้วย”“ขึ้นอยู่กับสถานะของผู้ตาย?มันเป็นยังไงเหรอครับ?”

“ผู้หญิงส่วนใหญ่จะถูกฝังอยู่ในทะเลสาบ และผู้ชายส่วนใหญ่จะถูกฝังบนเขาครับ”เมี่ยวชิงเฟิงตอบ

“แล้วฝังยังไงเหรอครับ?”

“เราจะทําแพไม้ไผ่ขึ้นมา แล้ววางคนตายลงบนแพ และปล่อยให้แพลอยอยู่บนผืนน้ำใน

ทะเลสาบครับ”

“หลังจากนั้น พวกคุณก็ไม่มีใครสนใจมันอีกอย่างนั้นเหรอครับ?”

“ไม่ใช่ครับ”

“พอเถอะ เลิกพูดเรื่องที่ไม่เคารพคนตายได้แล้ว แต่สุดท้าย ร่างกายของพวกเขาก็ตกไปอยู่ในท้องของปลาใช่ไหมครับ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม

หลังจากที่เขาถามออกไปแบบนั้นมุมปากของหยางกวนเฟิงก็กระตุกเล็กน้อย

“คุณนี่อะไรก็กล้าพูดไปซะหมด!”

“ฮาฮาจะเข้าใจแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอกครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“วิธีการนี้คล้ายกับของทางทิเบตพวกเขาก็มีพิธีทําศพแบบนั้นเหมือนกันใช่ไหม?ร่างเหล่านั้นมีไว้เพื่อให้แร้งมาจิกกินเหมือนกันจริงไหมครับ? แล้วพิธีกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไปแล้วนอกจากจะมีคนแสดงความต้องการของตัวเองออกมาถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะฝังพวกเขาทุกคน”

ตอบ

“จริงเหรอครับ?”

“ใช่ครับ”

“โอ้ แล้วคนล่าสุดที่ถูกฝังลงไปในทะเลสาบเป็นใครและตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ?”“ถ้าผมจําไม่ผิดคงเป็นผู้เฒ่าคนหนึ่งในหุบเขาที่ถูกฝังไปเมื่อสี่เดือนก่อนครับ”เมี่ยวชิงเฟิง

“อ่อ ครับ ขอบคุณมาก”หลู่ซิ่วเฟิงพูด

“ไม่เป็นไรครับ”

ป๊อบ…ป๊อบ…ป๊อบ…ป๊อบ…เหยื่อตกปลาขยับเล็กน้อย

“ปลาติดเบ็ดแล้ว!”หลู่ซิ่วเฟิงตะโกนออกมาอย่างยินดีเมื่อดึงเบ็ดขึ้นมาเขาก็ได้ปลาตัวหนึ่งที่ มีความยาวมากกว่าหนึ่งฟุตเกล็ดของมันสะท้อนแสงอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์

“อืม ไม่เลว ไม่เลว” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม

“โอ้ แล้วผู้เฒ่าที่ตายไปอายุได้เท่าไหร่เหรอครับ?” “102 ครับ”

“ว้าว เขาอายุยืนมาก!” หลู่ซิ่วเฟิงอุทาน “ในหุบเขามีคนแก่ที่อายุยืนแบบนี้เยอะไหมครับ?” “มีเยอะครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด “หมู่บ้านของเรามีสภาพแวดล้อมที่ดีและจังหวะชีวิตที่ช้าเดิมทีทุกบ้านก็มีความรู้เรื่องการรักษาและใส่ใจเรื่องสุขภาพกันอยู่แล้วดังนั้น หลายคนถึงได้มีอายุที่ยืนยาวถึงพวกเราจะไม่เคยมีการเก็บสถิติ แต่ผมคิดว่าค่าเฉลี่ยอายุขัยของคนในหมู่บ้านน่าจะมากกว่า 90 ปีขึ้นไป ความจริงผู้เฒ่าคนนั้นยังไม่นับว่าแก่ที่สุด”

“สุดยอด ทําไมพวกคุณถึงได้สุดยอดกันขนาดนี้?”หรือว่าจะมีสูตรลับอยู่?โอ้หรือว่าพวกคุณจะมียาวิเศษอะไรเทือกนั้นอย่างโสมพันปีกับเห็ดหลินจือที่หาได้จากป่าลึก?”

เดี่ยวชิงเฟิงอึ้งไปกับค่าถามที่เขาได้ยิน

“เอ่อผมคิดว่าคุณคงจะดูหนังกับอ่านนิยายแฟนตาซีมากเกินไปแล้วล่ะครับผู้กองหลู่เราจะไปมีของแบบนั้นได้ยังไง?”

“ไม่มีเลยเหรอ?”

“ผมไม่รู้ว่ามีของแบบนั้นอยู่ที่อื่นรึเปล่าแต่ที่หุบเขาของเราไม่มีของแบบนั้นหรอกครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“ห่อสิ่วโอวโสมร้อยปีถือได้ว่าเป็นสมุนไพรชั้นยอดที่หายากยิ่งไม่ต้องพูดถึงโสมอายุร้อยปีเลย เรียกได้ว่าพวกมันคือขุมทรัยพ์ของฟ้าดินเลยก็ยังได้”
“อืม แล้วที่นี่มียาอายุวัฒนะหรือของคล้ายกันที่สามารถยืดอายุหลังจากที่กินเข้าไปและทําให้สุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัยอยู่บ้างไหมครับ?”

ได๋”

“ยาวิเศษ? ฮาฮา!” เมี้ยวชิงเฟิงหัวเราะออกมา

“ของแบบนั้นจะไปมีได้ยังไงกันครับ? ถ้ามีอยู่จริง ผมจะเป็นคนแรกที่คว้ามันมาไว้ในกํามือให้

“เฮ้อ บอกตามตรงนะครับผมได้รับความกดดันจากที่ทํางานอย่างหนัก”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“ผมรู้สึกว่าสุขภาพของผมแย่ลงเรื่องมีอายุถึง 100 ปีคงต้องเลิกคิดไปได้เลยถ้าอยู่ได้จนถึง 80 ปีก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”

พูด

“ผู้กองหลู่ ถ้าดูจากโหงวเฮ้งของคุณแล้ว ผมบอกได้เลยว่า คุณจะมีอายุยืนครับ”เดี่ยวชิงเฟิง

“จริงเหรอครับ? คุณรู้วิธีดูโหงวเฮ้งด้วยเหรอ?”

“ผมพอจะเข้าใจนิดหน่อยครับ มันเป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้ด้วยตัวเอง”

“ลองดูเขาหน่อยสิครับ” หลู่ซิ่วเฟิงชี้ไปทางหยางกวนเฟิง

“ผู้กองหยางก็เป็นคนที่มีอายุยืนเหมือนกันครับ” เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

หยางกวนเฟิงท่าเพียงแค่ยิ้มออกมา เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจมากนัก

“โอะ มีปลามาติดเบ็ดอีกแล้ว”เมื่อหลู่ซิ่วเฟิงยกคันเบ็ดขึ้นมา เขาก็ได้ปลาตัวใหญ่อีกตัว

“ฮ่า วันนี่โชคดีจริงๆ!”

“หืม ปลาตัวนี้รสชาติดีไหมครับ?”

“ดีครับ เอาไปนึ่ง,ทอด,หรือต้มก็อร่อยทั้งนั้น”เดี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “มันรสชาติดีมากปลาตัวนี้เป็นปลาที่เรากินกันไปสองสามครั้งแล้ว”

“ดีเลยครับ วันนี้ผมจะให้พวกคุณได้ชิมรสมือของผม”

“ผู้กองหลู่ท่าอาหารเป็นด้วยเหรอครับ?”

“ผมพอทําได้บ้างครับแต่ถ้าเป็นเรื่องการเตรียมปลาผมก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“เที่ยงนี้ผมจะเลี้ยงพวกคุณเองไม่สิผมต้องขอปลาตัวนี้ไปทําอาหารเพื่อเป็นของขวัญสําหรับคุณนะครับ”

“ผมหวังว่าคุณเมี่ยวจะเพลิดเพลินกับของขวัญของผมนะครับ”

“ครับ แน่นอนๆ”เดี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

ตลอดทั้งเช้า ทั้งสามพูดคุยและหัวเราะกันอย่างเบิกบานใจ พวกเขาไม่ได้คุยกันเรื่องคดีมากนัก และพูดคุยด้วยหัวข้ออื่นแทน

“น้องชายเดี่ยวผมไม่คิดเลยว่ามุมมองและประสบการณ์กว้างไกลขนาดนี้คุณคงเคยไปมาหลายที่เลยใช่ไหม?”เพียงแค่ครึ่งวัน คําที่ใช้เรียกเดี่ยวชิงเฟิงก็เปลี่ยนไปจากการสนทนาที่ลึกซึ้งและใจถึงใจพวกเขาก็เริ่มเรียกกันพี่ชายน้องชายแล้ว

“พี่ชายชมเกินไปแล้วครับ”

“ดูจากความรู้ที่กว้างไกลของคุณแล้ว แสดงว่าคุณเคยไปมาหลายที่เลยใช่ไหม?”

“ใช่ครับ ความจริงผมมักจะออกไปข้างนอกสองสามครั้งต่อปี” เมี่ยวชิงเฟิงตอบ

“โอ๋! ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าหุบเขาแห่งนี้ก็ไม่ได้ตัดขาดจากโลกภายนอกแต่แค่มีการติดต่อน้อยมากก็เท่านั้นใช่ไหม?”

“ใช่ครับ ในสังคมสมัยนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ติดต่อกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ราไม่ใช่ดินแดนดอกท้อเหมือนอย่างที่เถาหยวนหมิงเขียนนี่ครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ ถ้าสถานที่ดีดีแบบนี้ตัดขาดและไม่ติดต่อกับโลกภายนอกเลย มันคงน่าเสียดายมากนี่ใน

เมื่อพวกคุณมีทิวทัศน์สวยๆอยู่ที่นี่แล้ว ทําไมพวกคุณถึงไม่เริ่มรับนักท่องเที่ยวหรือทําโครงการท่องเที่ยววันหยุดซะเลยล่ะ? ตอนนี้กําลังเป็นที่นิยมมากข้างนอกนั้นมีคนมีเงินอยู่เยอะแยะแล้วสถานที่ที่ไร้มลพิษแบบนี้ก็ไม่ต่างจากสรวงสวรรค์และสามารถดึงดูดพวกเขาให้มาเที่ยวได้”

“พี่ชายหลู่พวกเราแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไป”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“เราไม่ต้องการให้คนนอกเข้ามารบกวนความจริงนี่เป็นวิถีชีวิตที่ถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นมันถูกฝังลึกอยู่ในกระดูกของพวกเราผมเคยออกไปข้างนอกและได้เห็นแสงสีและความร่ารวยตอนแรกผมคิดว่ามันสดใหม่และน่าตื่นเต้นดีและมันก็ดีกว่าชีวิตในหุบเขามากหลังจากผ่านไปนานเข้าผมถึงคิดได้ว่าวิถีชีวิตในหุบเขามันดีกว่าเราใช้ชีวิตอย่างพอเพียงอาหารพวกเราก็ปลูกไว้กินเองเนื้อสัตว์ พวกเราก็เลี้ยงไว้เองเมื่อพวกเราป่วยเราก็สามารถวินิจฉัยโรคและรักษากันเองได้สภาพแวดล้อมที่นี่ดีมากและความสัมพันธ์ของคนในหุบเขาก็ดีที่นี่มีแต่ความกลมเกลียวแล้วเราจะออก

ไปข้างนอกเพื่ออะไร?เราจะหาเงินมากมายไปเพื่ออะไร?”

“แล้วไม่มีใครอยากออกไปข้างนอกบ้างเลยเหรอ?”อยู่ๆหยางกวนเฟิงก็ถามขึ้นมา

“มีอยู่บ้างครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“มันจะไม่มีได้ยังละ?ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเองมีบางคนเลือกที่จะออกไปแต่หมู่บ้านของเราก็มีกฎเกณฑ์อยู่การจะออกไปและกลับมาเยี่ยมพ่อแม่นั้นไม่เป็นไรแต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พาคนนอกกลับมาด้วยคนที่ออกไปแล้วจะไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงหรือผู้ชายในหมู่บ้านได้ นอกจากว่าทั้งสองจะออกไปข้างนอกและตัดชื่อตัวเอง

ออกจากตระกูล”

“นั่น…นั่นจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?” หลู่ซิ่วเฟิงถาม

“ไม่มากหรอกครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“เมื่อไม่กี่ปีก่อนที่ผมออกไปข้างนอกผมได้เดินทางไปมาหลายที่” เขาพูด “สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยบริสุทธิ์ปลีกตัวจากโลกภายนอก แต่เมื่อเปิดรับคนจากด้านนอกให้เข้ามาพวกเขาก็สูญเสียความสงบและความเรียบง่ายที่มีมาแต่เดิมผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่นต่างก็เปลี่ยนไปความจริงพวกเขาไม่ได้มีความสุขกับชีวิตของตัวเอง ผมเคยคุยกับพวกเขาพวกเขาอยากกลับไปเป็นเหมือนก่อนแต่พวกเขาก็กลับไปไม่ได้อีกแล้วนี่เป็นสถานการณ์ที่คล้ายกับการที่คุณหยดน้ำหมึกลงไปในบ่อน้ำที่ใสสะอาดมันเป็นเรื่องง่ายที่จะใส่มันเข้าไปแต่ถ้าคุณอยากแยกมันออกและ

ทําให้น้ำในบ่อกลับไปใสสะอาดเหมือนเดิม มันกลับเป็นเรื่องที่ยากมาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย”

“ผมรักหุบเขาแห่งนี้มาก มันคือบ้านเกิดของผมผมหวังว่ามันจะสามารถรักษาความเรียบง่ายและความบ้านๆโดยไม่ถูกสังคมวัตถุนิยมจากโลกภายนอกเข้าครอบงํา”เมื่อเขาพูดคําเหล่านี้ออกมาสีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดจริงจังอย่างมาก

“อืมผมพอจะเข้าใจความคิดของคุณ”หลู่ซิ่วเฟิงตบไหล่ของอีกฝ่ายเขาก็เคยไปตามสถานที่ต่างๆมาบ้างเหมือนกันอย่างเช่น แชงกรีล่าและเมืองโบราณเพิ่งหวงสถานที่เหล่านั้นกลายเป็นอะไรไปแล้ว?มีสิ่งที่เหลือจากอดีตอยู่กี่มากน้อย?บางอย่างไม่สามารถวัดค่าได้ด้วยเงินเมื่อสิ่งเหล่านั้นสูญหายไปแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้อีก

“ผู้นําาเมี่ยวก็คิดแบบนั้นเหมือนกันเหรอ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม

“ใช่ครับ นั่นคือสิ่งที่ผู้นําคิดและท่า”เมี่ยวชิงเฟิงตอบ“เขาเป็นผู้บังคับใช้และปกป้องกฎที่มีมา

แต่เดิมเอาไว้อย่างเคร่งครัด”

“แม่ในบางครั้งจะดูไร้มนุษยธรรมไปบ้าง”

“จริงเหรอ?แล้วพวกคุณไม่เกลียดที่เขาทําตัวไร้มนุษยธรรมเหรอ?”“เราจะเกลียดเขาได้ยังไงครับ?”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“บอกตามตรงมีบางคนที่ออกไปจากหมู่บ้าน

เพราะผู้นํา เขาก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งในเรื่องพวกนี้เลย”

“อืม นั่นก็หมายความว่าเขาไม่กลัวปัญหาและไม่สงสัยในหลักการของตัวเองสินะ?”

“ใช่ครับ”

“มันเป็นเรื่องยากที่จะหาคนที่ยึดมั่นในหลักการของตัวเองในโลกนี้” หลู่ซิ่วเฟิงพูด

“ใช่แล้วครับ!”

“เอาล่ะเช้านี้เราพอเท่านี้แล้วกันขอบใจมากนะ”

“ยินดีครับ”

“อย่าลืมมากินปลาตอนเที่ยงด้วยล่ะ”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“ถ้าคุณเอาเหล้ามาด้วยได้สักขวดสอง

ขวดก็จะดีมาก”

“ได้เลยครับ”

ทั้งสองหิ้วตะกร้าใส่ปลาที่ตกได้ในตอนเช้าเมื่อกลับไปถึงที่ที่พัก หลู่ซิ่วเฟิงก็ยุ่งอยู่กับการทําความสะอาดปลาและเตรียมมื้อเที่ยง

“คุณกล้ามากนะที่เอาปลาที่ตกได้ที่นี่มาเลี้ยงคนที่นี่น่ะ” หยางกวนเฟิงพูด

“ผมจะทํายังไงได้ล่ะ?”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“จะให้ผมเชิญพวกเขาไปกินข้าวข้างนอกก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?การจะไปร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าชั่วโมงจริงไหม?”

“ห้าชั่วโมงครึ่ง”

“นั่นล่ะ ผมเลยเอาปลาของพวกเขามาทําอาหารเลี้ยงพวกเขาแทน แล้ววิธีการทําอาหารของผมก็ต่างจากพวกเขาคุณมาดูสิ!”

หลู่ซิ่วเฟิงวุ่นวายอยู่กับหม้อและกระทะ

ตอนเที่ยง เดี่ยวชิงเฟิงก็มาที่บ้านพักของพวกเขาพร้อมกับเหล้าหนึ่งขวดบนโต๊ะมีอาหารอยู่หลายจานมีสองจานที่ทําจากปลาจานหนึ่งอบอีกจานหนึ่งต้มแต่ละจานล้วนส่งกลิ่นหอมน่า

ทาน ส่วนอีกสองจานที่เหลือเป็นผัดผัก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Elixir Supplier 914 พูดคุยเรื่องการมีอายุที่ยืนยาว

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 914 พูดคุยเรื่องการมีอายุที่ยืนยาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

914 พูดคุยเรื่องการมีอายุที่ยืนยาว

“ทะเลสาบแห่งนี้จะทําให้คนตายจากไปอย่างสงบ? เอ่อคงไม่ใช่ว่าพวกคุณเอาคนตายโยน

ลงไปในทะเลสาบนี้หรอกนะ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม

“เป็นความจริงครับ” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเมี่ยวชิงเฟิงก็พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่หายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ผมจําได้ว่า บนเขาก็มีหลุมศพอยู่หลายหลุม”หยางกวนเฟิงพูด แล้วชี้ไปทางยอดเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเขาเห็นมันตอนที่ขึ้นไปเมื่อครั้งก่อนรวมถึงครั้งนี้ด้วยเมี่ยวชิงเฟิงก็พูดเองว่ามันเป็นสถานที่สําหรับฝังศพของคนในหมู่บ้าน

“ใช่ครับ มันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ตายและสถานะของพวกเขาด้วย”“ขึ้นอยู่กับสถานะของผู้ตาย?มันเป็นยังไงเหรอครับ?”

“ผู้หญิงส่วนใหญ่จะถูกฝังอยู่ในทะเลสาบ และผู้ชายส่วนใหญ่จะถูกฝังบนเขาครับ”เมี่ยวชิงเฟิงตอบ

“แล้วฝังยังไงเหรอครับ?”

“เราจะทําแพไม้ไผ่ขึ้นมา แล้ววางคนตายลงบนแพ และปล่อยให้แพลอยอยู่บนผืนน้ำใน

ทะเลสาบครับ”

“หลังจากนั้น พวกคุณก็ไม่มีใครสนใจมันอีกอย่างนั้นเหรอครับ?”

“ไม่ใช่ครับ”

“พอเถอะ เลิกพูดเรื่องที่ไม่เคารพคนตายได้แล้ว แต่สุดท้าย ร่างกายของพวกเขาก็ตกไปอยู่ในท้องของปลาใช่ไหมครับ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม

หลังจากที่เขาถามออกไปแบบนั้นมุมปากของหยางกวนเฟิงก็กระตุกเล็กน้อย

“คุณนี่อะไรก็กล้าพูดไปซะหมด!”

“ฮาฮาจะเข้าใจแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอกครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“วิธีการนี้คล้ายกับของทางทิเบตพวกเขาก็มีพิธีทําศพแบบนั้นเหมือนกันใช่ไหม?ร่างเหล่านั้นมีไว้เพื่อให้แร้งมาจิกกินเหมือนกันจริงไหมครับ? แล้วพิธีกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไปแล้วนอกจากจะมีคนแสดงความต้องการของตัวเองออกมาถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะฝังพวกเขาทุกคน”

ตอบ

“จริงเหรอครับ?”

“ใช่ครับ”

“โอ้ แล้วคนล่าสุดที่ถูกฝังลงไปในทะเลสาบเป็นใครและตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ?”“ถ้าผมจําไม่ผิดคงเป็นผู้เฒ่าคนหนึ่งในหุบเขาที่ถูกฝังไปเมื่อสี่เดือนก่อนครับ”เมี่ยวชิงเฟิง

“อ่อ ครับ ขอบคุณมาก”หลู่ซิ่วเฟิงพูด

“ไม่เป็นไรครับ”

ป๊อบ…ป๊อบ…ป๊อบ…ป๊อบ…เหยื่อตกปลาขยับเล็กน้อย

“ปลาติดเบ็ดแล้ว!”หลู่ซิ่วเฟิงตะโกนออกมาอย่างยินดีเมื่อดึงเบ็ดขึ้นมาเขาก็ได้ปลาตัวหนึ่งที่ มีความยาวมากกว่าหนึ่งฟุตเกล็ดของมันสะท้อนแสงอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์

“อืม ไม่เลว ไม่เลว” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม

“โอ้ แล้วผู้เฒ่าที่ตายไปอายุได้เท่าไหร่เหรอครับ?” “102 ครับ”

“ว้าว เขาอายุยืนมาก!” หลู่ซิ่วเฟิงอุทาน “ในหุบเขามีคนแก่ที่อายุยืนแบบนี้เยอะไหมครับ?” “มีเยอะครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด “หมู่บ้านของเรามีสภาพแวดล้อมที่ดีและจังหวะชีวิตที่ช้าเดิมทีทุกบ้านก็มีความรู้เรื่องการรักษาและใส่ใจเรื่องสุขภาพกันอยู่แล้วดังนั้น หลายคนถึงได้มีอายุที่ยืนยาวถึงพวกเราจะไม่เคยมีการเก็บสถิติ แต่ผมคิดว่าค่าเฉลี่ยอายุขัยของคนในหมู่บ้านน่าจะมากกว่า 90 ปีขึ้นไป ความจริงผู้เฒ่าคนนั้นยังไม่นับว่าแก่ที่สุด”

“สุดยอด ทําไมพวกคุณถึงได้สุดยอดกันขนาดนี้?”หรือว่าจะมีสูตรลับอยู่?โอ้หรือว่าพวกคุณจะมียาวิเศษอะไรเทือกนั้นอย่างโสมพันปีกับเห็ดหลินจือที่หาได้จากป่าลึก?”

เดี่ยวชิงเฟิงอึ้งไปกับค่าถามที่เขาได้ยิน

“เอ่อผมคิดว่าคุณคงจะดูหนังกับอ่านนิยายแฟนตาซีมากเกินไปแล้วล่ะครับผู้กองหลู่เราจะไปมีของแบบนั้นได้ยังไง?”

“ไม่มีเลยเหรอ?”

“ผมไม่รู้ว่ามีของแบบนั้นอยู่ที่อื่นรึเปล่าแต่ที่หุบเขาของเราไม่มีของแบบนั้นหรอกครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“ห่อสิ่วโอวโสมร้อยปีถือได้ว่าเป็นสมุนไพรชั้นยอดที่หายากยิ่งไม่ต้องพูดถึงโสมอายุร้อยปีเลย เรียกได้ว่าพวกมันคือขุมทรัยพ์ของฟ้าดินเลยก็ยังได้”
“อืม แล้วที่นี่มียาอายุวัฒนะหรือของคล้ายกันที่สามารถยืดอายุหลังจากที่กินเข้าไปและทําให้สุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัยอยู่บ้างไหมครับ?”

ได๋”

“ยาวิเศษ? ฮาฮา!” เมี้ยวชิงเฟิงหัวเราะออกมา

“ของแบบนั้นจะไปมีได้ยังไงกันครับ? ถ้ามีอยู่จริง ผมจะเป็นคนแรกที่คว้ามันมาไว้ในกํามือให้

“เฮ้อ บอกตามตรงนะครับผมได้รับความกดดันจากที่ทํางานอย่างหนัก”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“ผมรู้สึกว่าสุขภาพของผมแย่ลงเรื่องมีอายุถึง 100 ปีคงต้องเลิกคิดไปได้เลยถ้าอยู่ได้จนถึง 80 ปีก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”

พูด

“ผู้กองหลู่ ถ้าดูจากโหงวเฮ้งของคุณแล้ว ผมบอกได้เลยว่า คุณจะมีอายุยืนครับ”เดี่ยวชิงเฟิง

“จริงเหรอครับ? คุณรู้วิธีดูโหงวเฮ้งด้วยเหรอ?”

“ผมพอจะเข้าใจนิดหน่อยครับ มันเป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้ด้วยตัวเอง”

“ลองดูเขาหน่อยสิครับ” หลู่ซิ่วเฟิงชี้ไปทางหยางกวนเฟิง

“ผู้กองหยางก็เป็นคนที่มีอายุยืนเหมือนกันครับ” เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

หยางกวนเฟิงท่าเพียงแค่ยิ้มออกมา เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจมากนัก

“โอะ มีปลามาติดเบ็ดอีกแล้ว”เมื่อหลู่ซิ่วเฟิงยกคันเบ็ดขึ้นมา เขาก็ได้ปลาตัวใหญ่อีกตัว

“ฮ่า วันนี่โชคดีจริงๆ!”

“หืม ปลาตัวนี้รสชาติดีไหมครับ?”

“ดีครับ เอาไปนึ่ง,ทอด,หรือต้มก็อร่อยทั้งนั้น”เดี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “มันรสชาติดีมากปลาตัวนี้เป็นปลาที่เรากินกันไปสองสามครั้งแล้ว”

“ดีเลยครับ วันนี้ผมจะให้พวกคุณได้ชิมรสมือของผม”

“ผู้กองหลู่ท่าอาหารเป็นด้วยเหรอครับ?”

“ผมพอทําได้บ้างครับแต่ถ้าเป็นเรื่องการเตรียมปลาผมก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“เที่ยงนี้ผมจะเลี้ยงพวกคุณเองไม่สิผมต้องขอปลาตัวนี้ไปทําอาหารเพื่อเป็นของขวัญสําหรับคุณนะครับ”

“ผมหวังว่าคุณเมี่ยวจะเพลิดเพลินกับของขวัญของผมนะครับ”

“ครับ แน่นอนๆ”เดี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

ตลอดทั้งเช้า ทั้งสามพูดคุยและหัวเราะกันอย่างเบิกบานใจ พวกเขาไม่ได้คุยกันเรื่องคดีมากนัก และพูดคุยด้วยหัวข้ออื่นแทน

“น้องชายเดี่ยวผมไม่คิดเลยว่ามุมมองและประสบการณ์กว้างไกลขนาดนี้คุณคงเคยไปมาหลายที่เลยใช่ไหม?”เพียงแค่ครึ่งวัน คําที่ใช้เรียกเดี่ยวชิงเฟิงก็เปลี่ยนไปจากการสนทนาที่ลึกซึ้งและใจถึงใจพวกเขาก็เริ่มเรียกกันพี่ชายน้องชายแล้ว

“พี่ชายชมเกินไปแล้วครับ”

“ดูจากความรู้ที่กว้างไกลของคุณแล้ว แสดงว่าคุณเคยไปมาหลายที่เลยใช่ไหม?”

“ใช่ครับ ความจริงผมมักจะออกไปข้างนอกสองสามครั้งต่อปี” เมี่ยวชิงเฟิงตอบ

“โอ๋! ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าหุบเขาแห่งนี้ก็ไม่ได้ตัดขาดจากโลกภายนอกแต่แค่มีการติดต่อน้อยมากก็เท่านั้นใช่ไหม?”

“ใช่ครับ ในสังคมสมัยนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ติดต่อกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ราไม่ใช่ดินแดนดอกท้อเหมือนอย่างที่เถาหยวนหมิงเขียนนี่ครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ ถ้าสถานที่ดีดีแบบนี้ตัดขาดและไม่ติดต่อกับโลกภายนอกเลย มันคงน่าเสียดายมากนี่ใน

เมื่อพวกคุณมีทิวทัศน์สวยๆอยู่ที่นี่แล้ว ทําไมพวกคุณถึงไม่เริ่มรับนักท่องเที่ยวหรือทําโครงการท่องเที่ยววันหยุดซะเลยล่ะ? ตอนนี้กําลังเป็นที่นิยมมากข้างนอกนั้นมีคนมีเงินอยู่เยอะแยะแล้วสถานที่ที่ไร้มลพิษแบบนี้ก็ไม่ต่างจากสรวงสวรรค์และสามารถดึงดูดพวกเขาให้มาเที่ยวได้”

“พี่ชายหลู่พวกเราแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไป”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“เราไม่ต้องการให้คนนอกเข้ามารบกวนความจริงนี่เป็นวิถีชีวิตที่ถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นมันถูกฝังลึกอยู่ในกระดูกของพวกเราผมเคยออกไปข้างนอกและได้เห็นแสงสีและความร่ารวยตอนแรกผมคิดว่ามันสดใหม่และน่าตื่นเต้นดีและมันก็ดีกว่าชีวิตในหุบเขามากหลังจากผ่านไปนานเข้าผมถึงคิดได้ว่าวิถีชีวิตในหุบเขามันดีกว่าเราใช้ชีวิตอย่างพอเพียงอาหารพวกเราก็ปลูกไว้กินเองเนื้อสัตว์ พวกเราก็เลี้ยงไว้เองเมื่อพวกเราป่วยเราก็สามารถวินิจฉัยโรคและรักษากันเองได้สภาพแวดล้อมที่นี่ดีมากและความสัมพันธ์ของคนในหุบเขาก็ดีที่นี่มีแต่ความกลมเกลียวแล้วเราจะออก

ไปข้างนอกเพื่ออะไร?เราจะหาเงินมากมายไปเพื่ออะไร?”

“แล้วไม่มีใครอยากออกไปข้างนอกบ้างเลยเหรอ?”อยู่ๆหยางกวนเฟิงก็ถามขึ้นมา

“มีอยู่บ้างครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“มันจะไม่มีได้ยังละ?ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเองมีบางคนเลือกที่จะออกไปแต่หมู่บ้านของเราก็มีกฎเกณฑ์อยู่การจะออกไปและกลับมาเยี่ยมพ่อแม่นั้นไม่เป็นไรแต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พาคนนอกกลับมาด้วยคนที่ออกไปแล้วจะไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงหรือผู้ชายในหมู่บ้านได้ นอกจากว่าทั้งสองจะออกไปข้างนอกและตัดชื่อตัวเอง

ออกจากตระกูล”

“นั่น…นั่นจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?” หลู่ซิ่วเฟิงถาม

“ไม่มากหรอกครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“เมื่อไม่กี่ปีก่อนที่ผมออกไปข้างนอกผมได้เดินทางไปมาหลายที่” เขาพูด “สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยบริสุทธิ์ปลีกตัวจากโลกภายนอก แต่เมื่อเปิดรับคนจากด้านนอกให้เข้ามาพวกเขาก็สูญเสียความสงบและความเรียบง่ายที่มีมาแต่เดิมผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่นต่างก็เปลี่ยนไปความจริงพวกเขาไม่ได้มีความสุขกับชีวิตของตัวเอง ผมเคยคุยกับพวกเขาพวกเขาอยากกลับไปเป็นเหมือนก่อนแต่พวกเขาก็กลับไปไม่ได้อีกแล้วนี่เป็นสถานการณ์ที่คล้ายกับการที่คุณหยดน้ำหมึกลงไปในบ่อน้ำที่ใสสะอาดมันเป็นเรื่องง่ายที่จะใส่มันเข้าไปแต่ถ้าคุณอยากแยกมันออกและ

ทําให้น้ำในบ่อกลับไปใสสะอาดเหมือนเดิม มันกลับเป็นเรื่องที่ยากมาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย”

“ผมรักหุบเขาแห่งนี้มาก มันคือบ้านเกิดของผมผมหวังว่ามันจะสามารถรักษาความเรียบง่ายและความบ้านๆโดยไม่ถูกสังคมวัตถุนิยมจากโลกภายนอกเข้าครอบงํา”เมื่อเขาพูดคําเหล่านี้ออกมาสีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดจริงจังอย่างมาก

“อืมผมพอจะเข้าใจความคิดของคุณ”หลู่ซิ่วเฟิงตบไหล่ของอีกฝ่ายเขาก็เคยไปตามสถานที่ต่างๆมาบ้างเหมือนกันอย่างเช่น แชงกรีล่าและเมืองโบราณเพิ่งหวงสถานที่เหล่านั้นกลายเป็นอะไรไปแล้ว?มีสิ่งที่เหลือจากอดีตอยู่กี่มากน้อย?บางอย่างไม่สามารถวัดค่าได้ด้วยเงินเมื่อสิ่งเหล่านั้นสูญหายไปแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้อีก

“ผู้นําาเมี่ยวก็คิดแบบนั้นเหมือนกันเหรอ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม

“ใช่ครับ นั่นคือสิ่งที่ผู้นําคิดและท่า”เมี่ยวชิงเฟิงตอบ“เขาเป็นผู้บังคับใช้และปกป้องกฎที่มีมา

แต่เดิมเอาไว้อย่างเคร่งครัด”

“แม่ในบางครั้งจะดูไร้มนุษยธรรมไปบ้าง”

“จริงเหรอ?แล้วพวกคุณไม่เกลียดที่เขาทําตัวไร้มนุษยธรรมเหรอ?”“เราจะเกลียดเขาได้ยังไงครับ?”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“บอกตามตรงมีบางคนที่ออกไปจากหมู่บ้าน

เพราะผู้นํา เขาก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งในเรื่องพวกนี้เลย”

“อืม นั่นก็หมายความว่าเขาไม่กลัวปัญหาและไม่สงสัยในหลักการของตัวเองสินะ?”

“ใช่ครับ”

“มันเป็นเรื่องยากที่จะหาคนที่ยึดมั่นในหลักการของตัวเองในโลกนี้” หลู่ซิ่วเฟิงพูด

“ใช่แล้วครับ!”

“เอาล่ะเช้านี้เราพอเท่านี้แล้วกันขอบใจมากนะ”

“ยินดีครับ”

“อย่าลืมมากินปลาตอนเที่ยงด้วยล่ะ”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“ถ้าคุณเอาเหล้ามาด้วยได้สักขวดสอง

ขวดก็จะดีมาก”

“ได้เลยครับ”

ทั้งสองหิ้วตะกร้าใส่ปลาที่ตกได้ในตอนเช้าเมื่อกลับไปถึงที่ที่พัก หลู่ซิ่วเฟิงก็ยุ่งอยู่กับการทําความสะอาดปลาและเตรียมมื้อเที่ยง

“คุณกล้ามากนะที่เอาปลาที่ตกได้ที่นี่มาเลี้ยงคนที่นี่น่ะ” หยางกวนเฟิงพูด

“ผมจะทํายังไงได้ล่ะ?”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“จะให้ผมเชิญพวกเขาไปกินข้าวข้างนอกก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?การจะไปร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าชั่วโมงจริงไหม?”

“ห้าชั่วโมงครึ่ง”

“นั่นล่ะ ผมเลยเอาปลาของพวกเขามาทําอาหารเลี้ยงพวกเขาแทน แล้ววิธีการทําอาหารของผมก็ต่างจากพวกเขาคุณมาดูสิ!”

หลู่ซิ่วเฟิงวุ่นวายอยู่กับหม้อและกระทะ

ตอนเที่ยง เดี่ยวชิงเฟิงก็มาที่บ้านพักของพวกเขาพร้อมกับเหล้าหนึ่งขวดบนโต๊ะมีอาหารอยู่หลายจานมีสองจานที่ทําจากปลาจานหนึ่งอบอีกจานหนึ่งต้มแต่ละจานล้วนส่งกลิ่นหอมน่า

ทาน ส่วนอีกสองจานที่เหลือเป็นผัดผัก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Elixir Supplier 914 พูดคุยเรื่องการมีอายุที่ยืนยาว

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 914 พูดคุยเรื่องการมีอายุที่ยืนยาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

914 พูดคุยเรื่องการมีอายุที่ยืนยาว

“ทะเลสาบแห่งนี้จะทําให้คนตายจากไปอย่างสงบ? เอ่อคงไม่ใช่ว่าพวกคุณเอาคนตายโยน

ลงไปในทะเลสาบนี้หรอกนะ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม

“เป็นความจริงครับ” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเมี่ยวชิงเฟิงก็พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่หายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ผมจําได้ว่า บนเขาก็มีหลุมศพอยู่หลายหลุม”หยางกวนเฟิงพูด แล้วชี้ไปทางยอดเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเขาเห็นมันตอนที่ขึ้นไปเมื่อครั้งก่อนรวมถึงครั้งนี้ด้วยเมี่ยวชิงเฟิงก็พูดเองว่ามันเป็นสถานที่สําหรับฝังศพของคนในหมู่บ้าน

“ใช่ครับ มันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ตายและสถานะของพวกเขาด้วย”“ขึ้นอยู่กับสถานะของผู้ตาย?มันเป็นยังไงเหรอครับ?”

“ผู้หญิงส่วนใหญ่จะถูกฝังอยู่ในทะเลสาบ และผู้ชายส่วนใหญ่จะถูกฝังบนเขาครับ”เมี่ยวชิงเฟิงตอบ

“แล้วฝังยังไงเหรอครับ?”

“เราจะทําแพไม้ไผ่ขึ้นมา แล้ววางคนตายลงบนแพ และปล่อยให้แพลอยอยู่บนผืนน้ำใน

ทะเลสาบครับ”

“หลังจากนั้น พวกคุณก็ไม่มีใครสนใจมันอีกอย่างนั้นเหรอครับ?”

“ไม่ใช่ครับ”

“พอเถอะ เลิกพูดเรื่องที่ไม่เคารพคนตายได้แล้ว แต่สุดท้าย ร่างกายของพวกเขาก็ตกไปอยู่ในท้องของปลาใช่ไหมครับ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม

หลังจากที่เขาถามออกไปแบบนั้นมุมปากของหยางกวนเฟิงก็กระตุกเล็กน้อย

“คุณนี่อะไรก็กล้าพูดไปซะหมด!”

“ฮาฮาจะเข้าใจแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอกครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“วิธีการนี้คล้ายกับของทางทิเบตพวกเขาก็มีพิธีทําศพแบบนั้นเหมือนกันใช่ไหม?ร่างเหล่านั้นมีไว้เพื่อให้แร้งมาจิกกินเหมือนกันจริงไหมครับ? แล้วพิธีกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไปแล้วนอกจากจะมีคนแสดงความต้องการของตัวเองออกมาถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะฝังพวกเขาทุกคน”

ตอบ

“จริงเหรอครับ?”

“ใช่ครับ”

“โอ้ แล้วคนล่าสุดที่ถูกฝังลงไปในทะเลสาบเป็นใครและตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ?”“ถ้าผมจําไม่ผิดคงเป็นผู้เฒ่าคนหนึ่งในหุบเขาที่ถูกฝังไปเมื่อสี่เดือนก่อนครับ”เมี่ยวชิงเฟิง

“อ่อ ครับ ขอบคุณมาก”หลู่ซิ่วเฟิงพูด

“ไม่เป็นไรครับ”

ป๊อบ…ป๊อบ…ป๊อบ…ป๊อบ…เหยื่อตกปลาขยับเล็กน้อย

“ปลาติดเบ็ดแล้ว!”หลู่ซิ่วเฟิงตะโกนออกมาอย่างยินดีเมื่อดึงเบ็ดขึ้นมาเขาก็ได้ปลาตัวหนึ่งที่ มีความยาวมากกว่าหนึ่งฟุตเกล็ดของมันสะท้อนแสงอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์

“อืม ไม่เลว ไม่เลว” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม

“โอ้ แล้วผู้เฒ่าที่ตายไปอายุได้เท่าไหร่เหรอครับ?” “102 ครับ”

“ว้าว เขาอายุยืนมาก!” หลู่ซิ่วเฟิงอุทาน “ในหุบเขามีคนแก่ที่อายุยืนแบบนี้เยอะไหมครับ?” “มีเยอะครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด “หมู่บ้านของเรามีสภาพแวดล้อมที่ดีและจังหวะชีวิตที่ช้าเดิมทีทุกบ้านก็มีความรู้เรื่องการรักษาและใส่ใจเรื่องสุขภาพกันอยู่แล้วดังนั้น หลายคนถึงได้มีอายุที่ยืนยาวถึงพวกเราจะไม่เคยมีการเก็บสถิติ แต่ผมคิดว่าค่าเฉลี่ยอายุขัยของคนในหมู่บ้านน่าจะมากกว่า 90 ปีขึ้นไป ความจริงผู้เฒ่าคนนั้นยังไม่นับว่าแก่ที่สุด”

“สุดยอด ทําไมพวกคุณถึงได้สุดยอดกันขนาดนี้?”หรือว่าจะมีสูตรลับอยู่?โอ้หรือว่าพวกคุณจะมียาวิเศษอะไรเทือกนั้นอย่างโสมพันปีกับเห็ดหลินจือที่หาได้จากป่าลึก?”

เดี่ยวชิงเฟิงอึ้งไปกับค่าถามที่เขาได้ยิน

“เอ่อผมคิดว่าคุณคงจะดูหนังกับอ่านนิยายแฟนตาซีมากเกินไปแล้วล่ะครับผู้กองหลู่เราจะไปมีของแบบนั้นได้ยังไง?”

“ไม่มีเลยเหรอ?”

“ผมไม่รู้ว่ามีของแบบนั้นอยู่ที่อื่นรึเปล่าแต่ที่หุบเขาของเราไม่มีของแบบนั้นหรอกครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“ห่อสิ่วโอวโสมร้อยปีถือได้ว่าเป็นสมุนไพรชั้นยอดที่หายากยิ่งไม่ต้องพูดถึงโสมอายุร้อยปีเลย เรียกได้ว่าพวกมันคือขุมทรัยพ์ของฟ้าดินเลยก็ยังได้”
“อืม แล้วที่นี่มียาอายุวัฒนะหรือของคล้ายกันที่สามารถยืดอายุหลังจากที่กินเข้าไปและทําให้สุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัยอยู่บ้างไหมครับ?”

ได๋”

“ยาวิเศษ? ฮาฮา!” เมี้ยวชิงเฟิงหัวเราะออกมา

“ของแบบนั้นจะไปมีได้ยังไงกันครับ? ถ้ามีอยู่จริง ผมจะเป็นคนแรกที่คว้ามันมาไว้ในกํามือให้

“เฮ้อ บอกตามตรงนะครับผมได้รับความกดดันจากที่ทํางานอย่างหนัก”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“ผมรู้สึกว่าสุขภาพของผมแย่ลงเรื่องมีอายุถึง 100 ปีคงต้องเลิกคิดไปได้เลยถ้าอยู่ได้จนถึง 80 ปีก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”

พูด

“ผู้กองหลู่ ถ้าดูจากโหงวเฮ้งของคุณแล้ว ผมบอกได้เลยว่า คุณจะมีอายุยืนครับ”เดี่ยวชิงเฟิง

“จริงเหรอครับ? คุณรู้วิธีดูโหงวเฮ้งด้วยเหรอ?”

“ผมพอจะเข้าใจนิดหน่อยครับ มันเป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้ด้วยตัวเอง”

“ลองดูเขาหน่อยสิครับ” หลู่ซิ่วเฟิงชี้ไปทางหยางกวนเฟิง

“ผู้กองหยางก็เป็นคนที่มีอายุยืนเหมือนกันครับ” เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

หยางกวนเฟิงท่าเพียงแค่ยิ้มออกมา เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจมากนัก

“โอะ มีปลามาติดเบ็ดอีกแล้ว”เมื่อหลู่ซิ่วเฟิงยกคันเบ็ดขึ้นมา เขาก็ได้ปลาตัวใหญ่อีกตัว

“ฮ่า วันนี่โชคดีจริงๆ!”

“หืม ปลาตัวนี้รสชาติดีไหมครับ?”

“ดีครับ เอาไปนึ่ง,ทอด,หรือต้มก็อร่อยทั้งนั้น”เดี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “มันรสชาติดีมากปลาตัวนี้เป็นปลาที่เรากินกันไปสองสามครั้งแล้ว”

“ดีเลยครับ วันนี้ผมจะให้พวกคุณได้ชิมรสมือของผม”

“ผู้กองหลู่ท่าอาหารเป็นด้วยเหรอครับ?”

“ผมพอทําได้บ้างครับแต่ถ้าเป็นเรื่องการเตรียมปลาผมก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“เที่ยงนี้ผมจะเลี้ยงพวกคุณเองไม่สิผมต้องขอปลาตัวนี้ไปทําอาหารเพื่อเป็นของขวัญสําหรับคุณนะครับ”

“ผมหวังว่าคุณเมี่ยวจะเพลิดเพลินกับของขวัญของผมนะครับ”

“ครับ แน่นอนๆ”เดี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

ตลอดทั้งเช้า ทั้งสามพูดคุยและหัวเราะกันอย่างเบิกบานใจ พวกเขาไม่ได้คุยกันเรื่องคดีมากนัก และพูดคุยด้วยหัวข้ออื่นแทน

“น้องชายเดี่ยวผมไม่คิดเลยว่ามุมมองและประสบการณ์กว้างไกลขนาดนี้คุณคงเคยไปมาหลายที่เลยใช่ไหม?”เพียงแค่ครึ่งวัน คําที่ใช้เรียกเดี่ยวชิงเฟิงก็เปลี่ยนไปจากการสนทนาที่ลึกซึ้งและใจถึงใจพวกเขาก็เริ่มเรียกกันพี่ชายน้องชายแล้ว

“พี่ชายชมเกินไปแล้วครับ”

“ดูจากความรู้ที่กว้างไกลของคุณแล้ว แสดงว่าคุณเคยไปมาหลายที่เลยใช่ไหม?”

“ใช่ครับ ความจริงผมมักจะออกไปข้างนอกสองสามครั้งต่อปี” เมี่ยวชิงเฟิงตอบ

“โอ๋! ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าหุบเขาแห่งนี้ก็ไม่ได้ตัดขาดจากโลกภายนอกแต่แค่มีการติดต่อน้อยมากก็เท่านั้นใช่ไหม?”

“ใช่ครับ ในสังคมสมัยนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ติดต่อกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ราไม่ใช่ดินแดนดอกท้อเหมือนอย่างที่เถาหยวนหมิงเขียนนี่ครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ ถ้าสถานที่ดีดีแบบนี้ตัดขาดและไม่ติดต่อกับโลกภายนอกเลย มันคงน่าเสียดายมากนี่ใน

เมื่อพวกคุณมีทิวทัศน์สวยๆอยู่ที่นี่แล้ว ทําไมพวกคุณถึงไม่เริ่มรับนักท่องเที่ยวหรือทําโครงการท่องเที่ยววันหยุดซะเลยล่ะ? ตอนนี้กําลังเป็นที่นิยมมากข้างนอกนั้นมีคนมีเงินอยู่เยอะแยะแล้วสถานที่ที่ไร้มลพิษแบบนี้ก็ไม่ต่างจากสรวงสวรรค์และสามารถดึงดูดพวกเขาให้มาเที่ยวได้”

“พี่ชายหลู่พวกเราแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไป”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“เราไม่ต้องการให้คนนอกเข้ามารบกวนความจริงนี่เป็นวิถีชีวิตที่ถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นมันถูกฝังลึกอยู่ในกระดูกของพวกเราผมเคยออกไปข้างนอกและได้เห็นแสงสีและความร่ารวยตอนแรกผมคิดว่ามันสดใหม่และน่าตื่นเต้นดีและมันก็ดีกว่าชีวิตในหุบเขามากหลังจากผ่านไปนานเข้าผมถึงคิดได้ว่าวิถีชีวิตในหุบเขามันดีกว่าเราใช้ชีวิตอย่างพอเพียงอาหารพวกเราก็ปลูกไว้กินเองเนื้อสัตว์ พวกเราก็เลี้ยงไว้เองเมื่อพวกเราป่วยเราก็สามารถวินิจฉัยโรคและรักษากันเองได้สภาพแวดล้อมที่นี่ดีมากและความสัมพันธ์ของคนในหุบเขาก็ดีที่นี่มีแต่ความกลมเกลียวแล้วเราจะออก

ไปข้างนอกเพื่ออะไร?เราจะหาเงินมากมายไปเพื่ออะไร?”

“แล้วไม่มีใครอยากออกไปข้างนอกบ้างเลยเหรอ?”อยู่ๆหยางกวนเฟิงก็ถามขึ้นมา

“มีอยู่บ้างครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“มันจะไม่มีได้ยังละ?ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเองมีบางคนเลือกที่จะออกไปแต่หมู่บ้านของเราก็มีกฎเกณฑ์อยู่การจะออกไปและกลับมาเยี่ยมพ่อแม่นั้นไม่เป็นไรแต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พาคนนอกกลับมาด้วยคนที่ออกไปแล้วจะไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงหรือผู้ชายในหมู่บ้านได้ นอกจากว่าทั้งสองจะออกไปข้างนอกและตัดชื่อตัวเอง

ออกจากตระกูล”

“นั่น…นั่นจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?” หลู่ซิ่วเฟิงถาม

“ไม่มากหรอกครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“เมื่อไม่กี่ปีก่อนที่ผมออกไปข้างนอกผมได้เดินทางไปมาหลายที่” เขาพูด “สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยบริสุทธิ์ปลีกตัวจากโลกภายนอก แต่เมื่อเปิดรับคนจากด้านนอกให้เข้ามาพวกเขาก็สูญเสียความสงบและความเรียบง่ายที่มีมาแต่เดิมผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่นต่างก็เปลี่ยนไปความจริงพวกเขาไม่ได้มีความสุขกับชีวิตของตัวเอง ผมเคยคุยกับพวกเขาพวกเขาอยากกลับไปเป็นเหมือนก่อนแต่พวกเขาก็กลับไปไม่ได้อีกแล้วนี่เป็นสถานการณ์ที่คล้ายกับการที่คุณหยดน้ำหมึกลงไปในบ่อน้ำที่ใสสะอาดมันเป็นเรื่องง่ายที่จะใส่มันเข้าไปแต่ถ้าคุณอยากแยกมันออกและ

ทําให้น้ำในบ่อกลับไปใสสะอาดเหมือนเดิม มันกลับเป็นเรื่องที่ยากมาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย”

“ผมรักหุบเขาแห่งนี้มาก มันคือบ้านเกิดของผมผมหวังว่ามันจะสามารถรักษาความเรียบง่ายและความบ้านๆโดยไม่ถูกสังคมวัตถุนิยมจากโลกภายนอกเข้าครอบงํา”เมื่อเขาพูดคําเหล่านี้ออกมาสีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดจริงจังอย่างมาก

“อืมผมพอจะเข้าใจความคิดของคุณ”หลู่ซิ่วเฟิงตบไหล่ของอีกฝ่ายเขาก็เคยไปตามสถานที่ต่างๆมาบ้างเหมือนกันอย่างเช่น แชงกรีล่าและเมืองโบราณเพิ่งหวงสถานที่เหล่านั้นกลายเป็นอะไรไปแล้ว?มีสิ่งที่เหลือจากอดีตอยู่กี่มากน้อย?บางอย่างไม่สามารถวัดค่าได้ด้วยเงินเมื่อสิ่งเหล่านั้นสูญหายไปแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้อีก

“ผู้นําาเมี่ยวก็คิดแบบนั้นเหมือนกันเหรอ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม

“ใช่ครับ นั่นคือสิ่งที่ผู้นําคิดและท่า”เมี่ยวชิงเฟิงตอบ“เขาเป็นผู้บังคับใช้และปกป้องกฎที่มีมา

แต่เดิมเอาไว้อย่างเคร่งครัด”

“แม่ในบางครั้งจะดูไร้มนุษยธรรมไปบ้าง”

“จริงเหรอ?แล้วพวกคุณไม่เกลียดที่เขาทําตัวไร้มนุษยธรรมเหรอ?”“เราจะเกลียดเขาได้ยังไงครับ?”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“บอกตามตรงมีบางคนที่ออกไปจากหมู่บ้าน

เพราะผู้นํา เขาก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งในเรื่องพวกนี้เลย”

“อืม นั่นก็หมายความว่าเขาไม่กลัวปัญหาและไม่สงสัยในหลักการของตัวเองสินะ?”

“ใช่ครับ”

“มันเป็นเรื่องยากที่จะหาคนที่ยึดมั่นในหลักการของตัวเองในโลกนี้” หลู่ซิ่วเฟิงพูด

“ใช่แล้วครับ!”

“เอาล่ะเช้านี้เราพอเท่านี้แล้วกันขอบใจมากนะ”

“ยินดีครับ”

“อย่าลืมมากินปลาตอนเที่ยงด้วยล่ะ”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“ถ้าคุณเอาเหล้ามาด้วยได้สักขวดสอง

ขวดก็จะดีมาก”

“ได้เลยครับ”

ทั้งสองหิ้วตะกร้าใส่ปลาที่ตกได้ในตอนเช้าเมื่อกลับไปถึงที่ที่พัก หลู่ซิ่วเฟิงก็ยุ่งอยู่กับการทําความสะอาดปลาและเตรียมมื้อเที่ยง

“คุณกล้ามากนะที่เอาปลาที่ตกได้ที่นี่มาเลี้ยงคนที่นี่น่ะ” หยางกวนเฟิงพูด

“ผมจะทํายังไงได้ล่ะ?”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“จะให้ผมเชิญพวกเขาไปกินข้าวข้างนอกก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?การจะไปร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าชั่วโมงจริงไหม?”

“ห้าชั่วโมงครึ่ง”

“นั่นล่ะ ผมเลยเอาปลาของพวกเขามาทําอาหารเลี้ยงพวกเขาแทน แล้ววิธีการทําอาหารของผมก็ต่างจากพวกเขาคุณมาดูสิ!”

หลู่ซิ่วเฟิงวุ่นวายอยู่กับหม้อและกระทะ

ตอนเที่ยง เดี่ยวชิงเฟิงก็มาที่บ้านพักของพวกเขาพร้อมกับเหล้าหนึ่งขวดบนโต๊ะมีอาหารอยู่หลายจานมีสองจานที่ทําจากปลาจานหนึ่งอบอีกจานหนึ่งต้มแต่ละจานล้วนส่งกลิ่นหอมน่า

ทาน ส่วนอีกสองจานที่เหลือเป็นผัดผัก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+