Elixir Supplier 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร?

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Elixir Supplier 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร?

มันเป็นป้ายไม้ขนาดเล็กแต่ดูงดงาม

ด้านหนึ่งเป็นรูปภูเขา ส่วนอีกด้านสลักคําว่า “ยา” ลงไป

“มันมีไว้เพื่ออะไรเหรอ?” เจี่ยจื้อจายถามด้วยความสงสัย

“เมื่อมีป้ายไม้ชิ้นนี้เชียนเชิงจะทําการรักษาคนคนหนึ่งให้นายอย่างสุดความสามารถ”จงหลิวชวนพูด
“ว้าว วิเศษไปเลย!”เจียจื้อจายถอนหายใจ

“ถ้าดูจากความสามารถของเชียนเชิงแล้ว เขาต้องสามารถรักษาได้ทุกโรคอยู่แล้วใช่ไหม?”

“ฉันไม่รู้ว่าความสามารถในการรักษาของเชียนเชิงเป็นยังไง แต่ความสามารถด้านกังฟูของเขาแทบไร้ขีดจํากัดเลยก็ว่าได้”จงหลิวชวนพูด

“ศิษย์พี่เคยใช้ป้ายรึยัง?” เจี้ยจื้อจายถาม

ด้วยสถานะของพวกเขา หากพวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือป่วย หวังเย้าคงรักษาพวกเขาอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว

“ฮาฮา…ที่นายไม่รู้ก็คือป้ายนี้ยังมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งด้วย” จงหลิวชวนพูด

“มันคืออะไรเหรอ?”

“ถ้าห้อยป้ายนี้ไว้กับตัว จะทําให้นายปลอดภัยจากแมลงนับร้อยชนิดเลยล่ะ”“แมลงนับร้อยชนิด? ศิษย์พี่หมายความว่าป้ายนี้ขับไล่แมลงมีพิษได้ด้วยงั้นเหรอ?”

“ใช่ฉันเคยลองมาแล้ว” จงหลิวชวนพูด“มันได้ผลจริงๆทั้งแมลงวัน,ยุง,และแมลงอีกหลายชนิดที่อยู่รอบตัวฉัน

“ไม่ต้องใช้ยาจุดกันยุงหรือกางมุ่งตอนหน้าร้อนคงเป็นอะไรที่ดีมาก” เจี้ยจื้อจายพูด

“หรือฉันจะไปขอให้เขียนเชิงทําให้พวกเราสองคนด้วยดี? ภรรยาคิดว่ายังไง?”

“นายกลัวยุงกัดเหรอ?”

ภายในบ้านของหวังเจ๋อเชิง

โพละ!

หวังยี่หลงกําลังผ่าฟันอยู่ที่ลานบ้าน
เมื่อได้ยินเสียงผ่าฟื้นภรรยาของหวังเจ๋อเชิงก็รีบร้อนออกไปดูนอกบ้าน “พ่อกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?”

“กองฟืนมันวางอยู่ตรงนี้ได้หลายวันแล้ว”ชายชราพูดพร้อมกับขยับไหล่ “เจ๋อเชิงยุ่งทั้งเช้าจนถึงค่ำเธอก็ต้องดูแลลูกและทําอาหาร จะให้มาผ่าฟื้นก็คงไม่มีเวลาสองวันมานี้พ่อรู้สึกอึดอัดไม่มีอะไรให้ทําอยู่พอดีก็เลยอยากออกแรงผ่าฟื้นสักหน่อยน่ะ”

เขาไม่ได้ทํางานมาได้สักพักแล้ว ไหล่ของเขาจึงปวดจากการออกแรง

ฉันแก่แล้วจริงๆ

“พ่อไม่ต้องทําหรอก” ลูกสะใภ้ของเขารีบพูด “พ่อกลับเข้าไปพักในบ้านเถอะอีกเดี๋ยวฉันจะมา ทําเอง”

เธอเป็นห่วงสภาพร่างกายของชายชราอย่างมากเขาไม่สามารถทํางานหนักได้เขาจําเป็นต้องรักษาร่างกายและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดเพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น”

“พ่อไม่เหนื่อยเลย” ชายชรายิ้มแล้วพูด

“พ่อไม่ต้องทําเรื่องพวกนี้หรอก พ่อกลับเข้าไปนั่งดื่มชาในบ้านเถอะ”

สุดท้าย เขาก็ต้านทานอาการรบเร้าจากลูกสะใภ้ไม่ได้ชายชราจึงต้องวางขวานและกลับเข้าไปนั่งดื่มชาอยู่ภายในบ้านเขาเดินไปพร้อมกับนวดไหล่ไปด้วย

“พ่อรู้สึกไม่สบายเหรอ?”

“เปล่า ก็แค่ไม่ได้ทํางานมานานแล้ว ไหล่ก็เลยยกของหนักไม่ค่อยไหวแต่ไม่เป็นอะไรหรอก”

“เฮ้อ ดีแล้วค่ะ” ลูกสะใภ้ของเขาโล่งอก เธอกลัวว่าการผ่าฟันจะทําให้พ่อสามีของเธอเจ็บป่วย

ได้

ในที่สุดเขาก็อาการดีขึ้นเธอจึงไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรตามมาอีก

ฮววว!

ชายชราหาวและขยับตัวเล็กน้อย

“อม ออกแรงบ้างก็ดีเหมือนกัน”ชายชราพูดกับตัวเอง“พอเจ่อเชิงกลับมาฉันจะบอกเขาว่าจะทําแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ฉันต้องได้ออกแรงบ้าง”

ภายในบ้านของเจียจื้อจาย

ฮูววว!

เจียจื้อจายชกแผ่นอิฐที่ซ้อนกันอยู่ด้วยฝ่ามือเดียว

ย่ะ! ฮ้ว!

“นายกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?” หูเหมยถาม

“ฉันกําลังฝึกกําลังภายในอยู่!”

“กําลังภายใน?”หูเหมยถาม

“เธอไม่รู้จักกําลังภายในเหรอ?”

“แล้วนายมีกําลังภายในเหรอ?”

“ไม่มี”

“แล้วนายฝึกกําลังภายในแบบไหนอยู่?” หูเหมยหัวเราะ

“ฉันก็ฝึกพลังฉีอยู่น่ะสิ”

“พลังช่วยให้นายชกอิฐได้ด้วยมือเดียวเหรอ? นายแน่ใจนะ?” หูเหมยถาม “ฉันรู้ว่ามันต้องเป็นงานหนักมากแน่ดูจากความคิดของนายทําไมนายไม่ใช้พลังฉีแล้วทุบหินด้วยหน้าอกไปเลยล่ะ?”

“นั่นมันความเสี่ยงสูงเกินไป”“นายเพิ่งสงบใจไปได้แค่ไม่กี่วันแล้วทําไมถึงได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงขนาดนั้นล่ะ?”

“ก็การนั่งสมาธิกับบ่มเพาะพลังฉีมันน่าเบื่อฉันก็เลยอยากหาอะไรมาทําให้ตัวเองผ่อนคลายลงบ้าง”เลี้ยจื้อจายพูดสภาพจิตใจของเขาถูกขัดเกลาไปบ้างแล้วแต่ที่ทําอยู่ตอนนี้เขาก็แค่นึกสนุกเท่านั้น

“ที่รัก เธอคิดว่าพลังฉีมีประโยชน์อะไรเหรอ?”

“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง?ถ้าอยากรู้เรื่องนี้นายก็ต้องไปถามเชียนเชิงหรือไม่ก็ศิษย์”หูเหมยตอบ

“ทักษะของเชียนเชิงสูงเกินไปฉันตามเขาไม่ทันแน่ฉันเคยถามศิษย์พี่ดูแล้วเขากําลังพยายามตามเชียนเชิงให้ทันอยู่”เจี่ยจื้อจายพูดด้วยรอยยิ้ม

“ไปหาศิษย์ของนาย แล้วก็นั่งดื่มชาอยู่ที่นั่นซะ”

เมื่อเจียจื้อจายไปถึงที่บ้านของจงหลิวชวนเขาก็พบว่าอีกฝ่ายก่าลังผ่าฟันด้วยขวานบินด้ามหนึ่งอยู่ขวานที่สมควรถูกทิ้งไปได้แล้วกลับยังถูกใช้ผ่าพื้นด้วยมือที่เต็มไปด้วยพละกําลังของอีกฝ่ายไม่ว่าฟื้นจะหนาแค่ไหนขวานด้ามนั้นก็สามารถผ่าลงไปได้อย่างง่ายดาย

“ศิษย์พี่ยุ่งอยู่เหรอ?”

“มีเรื่องอะไร?” จงหลิวชวนเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยรอยยิ้ม

“ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากคุยกับศิษย์พี่สักหน่อยแต่ศิษย์พี่ยุ่งอยู่ก็ทํางานในมือต่อไปเถอะฉันว่าการผ่าฟื้นของศิษย์ดูเพลินอยู่เหมือนกันนะ!”นี่ไม่ใช่แค่คําชมขวานที่ถูกแกว่งไกวอยู่ในมือของเขานั้นน่าดูชมมาก

“ฮาฮา…” จงหลิวชวนหยุดผ่าพื้น เขาเดินเข้าไปในบ้านและชงชาสําหรับพวกเขาสองคน

“นายจะดื่มชาไหม?”

“ขอบคุณ ศิษย์พี่”

“แล้วนายมาหาที่นี่มีเรื่องอะไรเหรอ?”

“พลังที่ฉันบ่มเพาะอยู่ตอนนี้มันมีประโยชน์อะไรเหรอ?” เจี้ยจื้อจายถาม

“หา พลังฉี?” จงหลิวชวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “นายกําลังพูดถึงกําลังภายในเหรอ?” “ใช่ฉันหมายถึงกําลังภายใน

“ฮาฮา มันวิเศษมากเลยล่ะ” จงหลิวชวนดวงตาเป็นประกาย

“ฉันฝึกอยู่เป็นประจํา แต่ฉันกลับมีกําลังภายในอยู่น้อยนิด มันเป็นเหมือนหยดน้ำในมหาสมุทรแต่น้ำเพียงหยดเดียวนี้กลับทําให้ฉันเต็มไปด้วยพละกําลังฉันเคยลองดูแล้วถึงไม่ได้นอนมาสองวันก็จะไม่เป็นอะไรเลย”

เจี่ยจื้อจายคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อม พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ มันทําให้ความทนทานของเราเพิ่มขึ้นสินะ?”

“ใช่ นายจะมองแบบนั้นก็ได้” เจี้ยจื้อจายตอบหลังจากจิบชาไปแล้ว

“นอกจากนี้ยังมีอะไรอีกไหม?”

“อย่างอื่นเหรอ?” จงหลิวชวนคิด

“มา พวกเรามาประมือกัน”เขาเหยียดแขน

“ศิษย์พี่หมายความว่ายังไง?”

“งัดข้อยังไงล่ะ”

“หา? อ่อ ใครที่แพ้ต้องเลี้ยงข้าวอีกฝ่ายนะ”

“ได้” จงหลิวชวนยิ้มแล้วพูด

“เริ่มได้”

เจียจื้อจายใส่แรงเต็มที่ตั้งแต่เริ่มต้น แต่แขนของจงหลิวชวนกลับยังนิ่งอยู่กับที่

เกิดอะไรขึ้น?

เจี้ยจื้อจายยันกลับไปใบหน้าของเขาเริ่มแดงจากการออกแรงมาก แต่จงหลิวชวนก็ยังไม่ขยับแม้แต่น้อยเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กําลังงัดข้อแต่เขากําลังงัดเสาไฟฟ้าออกจากพื้นดินอยู่มากกว่า

“ฉันจะเริ่มออกแรงแล้วนะ”หลังจากพูดเสร็จ จงหลิวชวนก็เริ่มเพิ่มแรงเข้าไปเจี้ยจื้อจายรับรู้ได้ถึงแรงที่อีกฝ่ายส่งออกมาเขาแพ้อย่างราบคาบ

“โถ่! ศิษย์พี่จะแรงเยอะเกินไปแล้ว!”

“นายจะลองสองมือเลยก็ได้นะ” “ได้จริงเหรอ?” เจียจื้อจายถาม “จริงสิ” “มาเลย!คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง มาดื่มที่บ้านฉันนะ”

“นายยังคิดจะดื่มอยู่อีกเหรอ?”

“เริ่มได้ไม้มาเลย!”

เจียจื้อจายใช้ทั้งสองมือ แต่แขนของจงหลิวชวนก็ยังคงนิ่งอยู่กับที่

“มันเกิดอะไรขึ้น?”

“อืม ตาฉันแล้ว มา

เขาส่งแรงเข้าไปแล้วเลี้ยจื้อจายก็พ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดายอีกครั้ง

นี่…นี่…

“มันเป็นเพราะพลังฉีเหรอ?”

“ใช่ มันเป็นเพราะพลังฉี”

เจี่ยจื้อจายนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง“ยังมีอะไรอีกไหม?” “การได้ยินของฉันชัดมากขึ้นมองเห็นได้ไกลขึ้นและรับรู้สิ่งรอบตัวได้ดีขึ้น”

“ประสาทสัมผัสทั้งห้าของศิษย์พี่ดีขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”

“ถูกต้อง”

“เอ่อ ศิษย์พี่ ฉันไม่มีอะไรจะถามแล้ว แต่ช่วยบอกมาที่เดียวเลยได้ไหม?”

“ไม่มีออะไรให้บอกอีกแล้ว”

“ไม่มีเลยเหรอ?”

“เท่านี้ยังไม่พออีกเหรอ?” จงหลิวชวนถามด้วยรอยยิ้ม

“เอ่อ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” เจี้ยจื้อจายโบกมือ

“ศิษย์น้อง นายรับรู้ถึงพลังฉีได้ แต่ในตัวของนายไม่ได้มีกําลังภายในอยู่เลย”จงหลิวชวนพูด“แล้วนายถามเรื่องพวกนี้ไปทําไมเหรอ?”

“ฉันแค่อยากรู้เพื่อให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกหน่อยน่ะสิ”

จงหลิวชวนยิ้ม“การที่นายอยากรู้มากขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดี”

“ศิษย์พี่รู้ระดับของเชียนเชิงไหม?”

“อืม…ฉันไม่รู้ แต่เชียนเชิงสามารถปลดปล่อยพลังออกมาเพื่อสื่อสารกับฟ้าดินได้”

“สื่อสารกับฟ้าดิน?” เจียจื้อจายเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “มันเป็นยังไงเหรอ?หรือเขาจะทําอะไรก็ได้ที่อยากทํา?”

นายต้องอดทนฝึกไปก่อน ทําไปตามขั้นตอนของมัน”

“เอ่อ ขอโทษที่รบกวนศิษย์พี่”

“ไม่เป็นไร ดื่มชาสักหน่อยสิ”

“ขอบคุณ” เจียจื้อจายนั่งอยู่ที่บ้านของจงหลิวชวนเป็นเวลานาน “เย็นนี้มากินข้าวที่บ้านฉันดีไหม?”“ไม่ได้หรอกฉันแค่พูดเล่นเท่านั้นนายไม่ต้องคิดเป็นจริงเป็นจังหรอก”

“ศิษย์พี่ต้องมาสิ!”

“ไม่จําเป็นหรอก”

“ศิษย์พี่อย่าปฏิเสธฉันเลย ถ้าศิษย์พี่ไม่มาฉันจะโกรธแล้วนะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Elixir Supplier 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร?

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Elixir Supplier 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร?

มันเป็นป้ายไม้ขนาดเล็กแต่ดูงดงาม

ด้านหนึ่งเป็นรูปภูเขา ส่วนอีกด้านสลักคําว่า “ยา” ลงไป

“มันมีไว้เพื่ออะไรเหรอ?” เจี่ยจื้อจายถามด้วยความสงสัย

“เมื่อมีป้ายไม้ชิ้นนี้เชียนเชิงจะทําการรักษาคนคนหนึ่งให้นายอย่างสุดความสามารถ”จงหลิวชวนพูด
“ว้าว วิเศษไปเลย!”เจียจื้อจายถอนหายใจ

“ถ้าดูจากความสามารถของเชียนเชิงแล้ว เขาต้องสามารถรักษาได้ทุกโรคอยู่แล้วใช่ไหม?”

“ฉันไม่รู้ว่าความสามารถในการรักษาของเชียนเชิงเป็นยังไง แต่ความสามารถด้านกังฟูของเขาแทบไร้ขีดจํากัดเลยก็ว่าได้”จงหลิวชวนพูด

“ศิษย์พี่เคยใช้ป้ายรึยัง?” เจี้ยจื้อจายถาม

ด้วยสถานะของพวกเขา หากพวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือป่วย หวังเย้าคงรักษาพวกเขาอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว

“ฮาฮา…ที่นายไม่รู้ก็คือป้ายนี้ยังมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งด้วย” จงหลิวชวนพูด

“มันคืออะไรเหรอ?”

“ถ้าห้อยป้ายนี้ไว้กับตัว จะทําให้นายปลอดภัยจากแมลงนับร้อยชนิดเลยล่ะ”“แมลงนับร้อยชนิด? ศิษย์พี่หมายความว่าป้ายนี้ขับไล่แมลงมีพิษได้ด้วยงั้นเหรอ?”

“ใช่ฉันเคยลองมาแล้ว” จงหลิวชวนพูด“มันได้ผลจริงๆทั้งแมลงวัน,ยุง,และแมลงอีกหลายชนิดที่อยู่รอบตัวฉัน

“ไม่ต้องใช้ยาจุดกันยุงหรือกางมุ่งตอนหน้าร้อนคงเป็นอะไรที่ดีมาก” เจี้ยจื้อจายพูด

“หรือฉันจะไปขอให้เขียนเชิงทําให้พวกเราสองคนด้วยดี? ภรรยาคิดว่ายังไง?”

“นายกลัวยุงกัดเหรอ?”

ภายในบ้านของหวังเจ๋อเชิง

โพละ!

หวังยี่หลงกําลังผ่าฟันอยู่ที่ลานบ้าน
เมื่อได้ยินเสียงผ่าฟื้นภรรยาของหวังเจ๋อเชิงก็รีบร้อนออกไปดูนอกบ้าน “พ่อกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?”

“กองฟืนมันวางอยู่ตรงนี้ได้หลายวันแล้ว”ชายชราพูดพร้อมกับขยับไหล่ “เจ๋อเชิงยุ่งทั้งเช้าจนถึงค่ำเธอก็ต้องดูแลลูกและทําอาหาร จะให้มาผ่าฟื้นก็คงไม่มีเวลาสองวันมานี้พ่อรู้สึกอึดอัดไม่มีอะไรให้ทําอยู่พอดีก็เลยอยากออกแรงผ่าฟื้นสักหน่อยน่ะ”

เขาไม่ได้ทํางานมาได้สักพักแล้ว ไหล่ของเขาจึงปวดจากการออกแรง

ฉันแก่แล้วจริงๆ

“พ่อไม่ต้องทําหรอก” ลูกสะใภ้ของเขารีบพูด “พ่อกลับเข้าไปพักในบ้านเถอะอีกเดี๋ยวฉันจะมา ทําเอง”

เธอเป็นห่วงสภาพร่างกายของชายชราอย่างมากเขาไม่สามารถทํางานหนักได้เขาจําเป็นต้องรักษาร่างกายและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดเพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น”

“พ่อไม่เหนื่อยเลย” ชายชรายิ้มแล้วพูด

“พ่อไม่ต้องทําเรื่องพวกนี้หรอก พ่อกลับเข้าไปนั่งดื่มชาในบ้านเถอะ”

สุดท้าย เขาก็ต้านทานอาการรบเร้าจากลูกสะใภ้ไม่ได้ชายชราจึงต้องวางขวานและกลับเข้าไปนั่งดื่มชาอยู่ภายในบ้านเขาเดินไปพร้อมกับนวดไหล่ไปด้วย

“พ่อรู้สึกไม่สบายเหรอ?”

“เปล่า ก็แค่ไม่ได้ทํางานมานานแล้ว ไหล่ก็เลยยกของหนักไม่ค่อยไหวแต่ไม่เป็นอะไรหรอก”

“เฮ้อ ดีแล้วค่ะ” ลูกสะใภ้ของเขาโล่งอก เธอกลัวว่าการผ่าฟันจะทําให้พ่อสามีของเธอเจ็บป่วย

ได้

ในที่สุดเขาก็อาการดีขึ้นเธอจึงไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรตามมาอีก

ฮววว!

ชายชราหาวและขยับตัวเล็กน้อย

“อม ออกแรงบ้างก็ดีเหมือนกัน”ชายชราพูดกับตัวเอง“พอเจ่อเชิงกลับมาฉันจะบอกเขาว่าจะทําแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ฉันต้องได้ออกแรงบ้าง”

ภายในบ้านของเจียจื้อจาย

ฮูววว!

เจียจื้อจายชกแผ่นอิฐที่ซ้อนกันอยู่ด้วยฝ่ามือเดียว

ย่ะ! ฮ้ว!

“นายกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?” หูเหมยถาม

“ฉันกําลังฝึกกําลังภายในอยู่!”

“กําลังภายใน?”หูเหมยถาม

“เธอไม่รู้จักกําลังภายในเหรอ?”

“แล้วนายมีกําลังภายในเหรอ?”

“ไม่มี”

“แล้วนายฝึกกําลังภายในแบบไหนอยู่?” หูเหมยหัวเราะ

“ฉันก็ฝึกพลังฉีอยู่น่ะสิ”

“พลังช่วยให้นายชกอิฐได้ด้วยมือเดียวเหรอ? นายแน่ใจนะ?” หูเหมยถาม “ฉันรู้ว่ามันต้องเป็นงานหนักมากแน่ดูจากความคิดของนายทําไมนายไม่ใช้พลังฉีแล้วทุบหินด้วยหน้าอกไปเลยล่ะ?”

“นั่นมันความเสี่ยงสูงเกินไป”“นายเพิ่งสงบใจไปได้แค่ไม่กี่วันแล้วทําไมถึงได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงขนาดนั้นล่ะ?”

“ก็การนั่งสมาธิกับบ่มเพาะพลังฉีมันน่าเบื่อฉันก็เลยอยากหาอะไรมาทําให้ตัวเองผ่อนคลายลงบ้าง”เลี้ยจื้อจายพูดสภาพจิตใจของเขาถูกขัดเกลาไปบ้างแล้วแต่ที่ทําอยู่ตอนนี้เขาก็แค่นึกสนุกเท่านั้น

“ที่รัก เธอคิดว่าพลังฉีมีประโยชน์อะไรเหรอ?”

“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง?ถ้าอยากรู้เรื่องนี้นายก็ต้องไปถามเชียนเชิงหรือไม่ก็ศิษย์”หูเหมยตอบ

“ทักษะของเชียนเชิงสูงเกินไปฉันตามเขาไม่ทันแน่ฉันเคยถามศิษย์พี่ดูแล้วเขากําลังพยายามตามเชียนเชิงให้ทันอยู่”เจี่ยจื้อจายพูดด้วยรอยยิ้ม

“ไปหาศิษย์ของนาย แล้วก็นั่งดื่มชาอยู่ที่นั่นซะ”

เมื่อเจียจื้อจายไปถึงที่บ้านของจงหลิวชวนเขาก็พบว่าอีกฝ่ายก่าลังผ่าฟันด้วยขวานบินด้ามหนึ่งอยู่ขวานที่สมควรถูกทิ้งไปได้แล้วกลับยังถูกใช้ผ่าพื้นด้วยมือที่เต็มไปด้วยพละกําลังของอีกฝ่ายไม่ว่าฟื้นจะหนาแค่ไหนขวานด้ามนั้นก็สามารถผ่าลงไปได้อย่างง่ายดาย

“ศิษย์พี่ยุ่งอยู่เหรอ?”

“มีเรื่องอะไร?” จงหลิวชวนเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยรอยยิ้ม

“ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากคุยกับศิษย์พี่สักหน่อยแต่ศิษย์พี่ยุ่งอยู่ก็ทํางานในมือต่อไปเถอะฉันว่าการผ่าฟื้นของศิษย์ดูเพลินอยู่เหมือนกันนะ!”นี่ไม่ใช่แค่คําชมขวานที่ถูกแกว่งไกวอยู่ในมือของเขานั้นน่าดูชมมาก

“ฮาฮา…” จงหลิวชวนหยุดผ่าพื้น เขาเดินเข้าไปในบ้านและชงชาสําหรับพวกเขาสองคน

“นายจะดื่มชาไหม?”

“ขอบคุณ ศิษย์พี่”

“แล้วนายมาหาที่นี่มีเรื่องอะไรเหรอ?”

“พลังที่ฉันบ่มเพาะอยู่ตอนนี้มันมีประโยชน์อะไรเหรอ?” เจี้ยจื้อจายถาม

“หา พลังฉี?” จงหลิวชวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “นายกําลังพูดถึงกําลังภายในเหรอ?” “ใช่ฉันหมายถึงกําลังภายใน

“ฮาฮา มันวิเศษมากเลยล่ะ” จงหลิวชวนดวงตาเป็นประกาย

“ฉันฝึกอยู่เป็นประจํา แต่ฉันกลับมีกําลังภายในอยู่น้อยนิด มันเป็นเหมือนหยดน้ำในมหาสมุทรแต่น้ำเพียงหยดเดียวนี้กลับทําให้ฉันเต็มไปด้วยพละกําลังฉันเคยลองดูแล้วถึงไม่ได้นอนมาสองวันก็จะไม่เป็นอะไรเลย”

เจี่ยจื้อจายคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อม พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ มันทําให้ความทนทานของเราเพิ่มขึ้นสินะ?”

“ใช่ นายจะมองแบบนั้นก็ได้” เจี้ยจื้อจายตอบหลังจากจิบชาไปแล้ว

“นอกจากนี้ยังมีอะไรอีกไหม?”

“อย่างอื่นเหรอ?” จงหลิวชวนคิด

“มา พวกเรามาประมือกัน”เขาเหยียดแขน

“ศิษย์พี่หมายความว่ายังไง?”

“งัดข้อยังไงล่ะ”

“หา? อ่อ ใครที่แพ้ต้องเลี้ยงข้าวอีกฝ่ายนะ”

“ได้” จงหลิวชวนยิ้มแล้วพูด

“เริ่มได้”

เจียจื้อจายใส่แรงเต็มที่ตั้งแต่เริ่มต้น แต่แขนของจงหลิวชวนกลับยังนิ่งอยู่กับที่

เกิดอะไรขึ้น?

เจี้ยจื้อจายยันกลับไปใบหน้าของเขาเริ่มแดงจากการออกแรงมาก แต่จงหลิวชวนก็ยังไม่ขยับแม้แต่น้อยเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กําลังงัดข้อแต่เขากําลังงัดเสาไฟฟ้าออกจากพื้นดินอยู่มากกว่า

“ฉันจะเริ่มออกแรงแล้วนะ”หลังจากพูดเสร็จ จงหลิวชวนก็เริ่มเพิ่มแรงเข้าไปเจี้ยจื้อจายรับรู้ได้ถึงแรงที่อีกฝ่ายส่งออกมาเขาแพ้อย่างราบคาบ

“โถ่! ศิษย์พี่จะแรงเยอะเกินไปแล้ว!”

“นายจะลองสองมือเลยก็ได้นะ” “ได้จริงเหรอ?” เจียจื้อจายถาม “จริงสิ” “มาเลย!คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง มาดื่มที่บ้านฉันนะ”

“นายยังคิดจะดื่มอยู่อีกเหรอ?”

“เริ่มได้ไม้มาเลย!”

เจียจื้อจายใช้ทั้งสองมือ แต่แขนของจงหลิวชวนก็ยังคงนิ่งอยู่กับที่

“มันเกิดอะไรขึ้น?”

“อืม ตาฉันแล้ว มา

เขาส่งแรงเข้าไปแล้วเลี้ยจื้อจายก็พ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดายอีกครั้ง

นี่…นี่…

“มันเป็นเพราะพลังฉีเหรอ?”

“ใช่ มันเป็นเพราะพลังฉี”

เจี่ยจื้อจายนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง“ยังมีอะไรอีกไหม?” “การได้ยินของฉันชัดมากขึ้นมองเห็นได้ไกลขึ้นและรับรู้สิ่งรอบตัวได้ดีขึ้น”

“ประสาทสัมผัสทั้งห้าของศิษย์พี่ดีขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”

“ถูกต้อง”

“เอ่อ ศิษย์พี่ ฉันไม่มีอะไรจะถามแล้ว แต่ช่วยบอกมาที่เดียวเลยได้ไหม?”

“ไม่มีออะไรให้บอกอีกแล้ว”

“ไม่มีเลยเหรอ?”

“เท่านี้ยังไม่พออีกเหรอ?” จงหลิวชวนถามด้วยรอยยิ้ม

“เอ่อ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” เจี้ยจื้อจายโบกมือ

“ศิษย์น้อง นายรับรู้ถึงพลังฉีได้ แต่ในตัวของนายไม่ได้มีกําลังภายในอยู่เลย”จงหลิวชวนพูด“แล้วนายถามเรื่องพวกนี้ไปทําไมเหรอ?”

“ฉันแค่อยากรู้เพื่อให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกหน่อยน่ะสิ”

จงหลิวชวนยิ้ม“การที่นายอยากรู้มากขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดี”

“ศิษย์พี่รู้ระดับของเชียนเชิงไหม?”

“อืม…ฉันไม่รู้ แต่เชียนเชิงสามารถปลดปล่อยพลังออกมาเพื่อสื่อสารกับฟ้าดินได้”

“สื่อสารกับฟ้าดิน?” เจียจื้อจายเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “มันเป็นยังไงเหรอ?หรือเขาจะทําอะไรก็ได้ที่อยากทํา?”

นายต้องอดทนฝึกไปก่อน ทําไปตามขั้นตอนของมัน”

“เอ่อ ขอโทษที่รบกวนศิษย์พี่”

“ไม่เป็นไร ดื่มชาสักหน่อยสิ”

“ขอบคุณ” เจียจื้อจายนั่งอยู่ที่บ้านของจงหลิวชวนเป็นเวลานาน “เย็นนี้มากินข้าวที่บ้านฉันดีไหม?”“ไม่ได้หรอกฉันแค่พูดเล่นเท่านั้นนายไม่ต้องคิดเป็นจริงเป็นจังหรอก”

“ศิษย์พี่ต้องมาสิ!”

“ไม่จําเป็นหรอก”

“ศิษย์พี่อย่าปฏิเสธฉันเลย ถ้าศิษย์พี่ไม่มาฉันจะโกรธแล้วนะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Elixir Supplier 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร?

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Elixir Supplier 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร?

มันเป็นป้ายไม้ขนาดเล็กแต่ดูงดงาม

ด้านหนึ่งเป็นรูปภูเขา ส่วนอีกด้านสลักคําว่า “ยา” ลงไป

“มันมีไว้เพื่ออะไรเหรอ?” เจี่ยจื้อจายถามด้วยความสงสัย

“เมื่อมีป้ายไม้ชิ้นนี้เชียนเชิงจะทําการรักษาคนคนหนึ่งให้นายอย่างสุดความสามารถ”จงหลิวชวนพูด
“ว้าว วิเศษไปเลย!”เจียจื้อจายถอนหายใจ

“ถ้าดูจากความสามารถของเชียนเชิงแล้ว เขาต้องสามารถรักษาได้ทุกโรคอยู่แล้วใช่ไหม?”

“ฉันไม่รู้ว่าความสามารถในการรักษาของเชียนเชิงเป็นยังไง แต่ความสามารถด้านกังฟูของเขาแทบไร้ขีดจํากัดเลยก็ว่าได้”จงหลิวชวนพูด

“ศิษย์พี่เคยใช้ป้ายรึยัง?” เจี้ยจื้อจายถาม

ด้วยสถานะของพวกเขา หากพวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือป่วย หวังเย้าคงรักษาพวกเขาอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว

“ฮาฮา…ที่นายไม่รู้ก็คือป้ายนี้ยังมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งด้วย” จงหลิวชวนพูด

“มันคืออะไรเหรอ?”

“ถ้าห้อยป้ายนี้ไว้กับตัว จะทําให้นายปลอดภัยจากแมลงนับร้อยชนิดเลยล่ะ”“แมลงนับร้อยชนิด? ศิษย์พี่หมายความว่าป้ายนี้ขับไล่แมลงมีพิษได้ด้วยงั้นเหรอ?”

“ใช่ฉันเคยลองมาแล้ว” จงหลิวชวนพูด“มันได้ผลจริงๆทั้งแมลงวัน,ยุง,และแมลงอีกหลายชนิดที่อยู่รอบตัวฉัน

“ไม่ต้องใช้ยาจุดกันยุงหรือกางมุ่งตอนหน้าร้อนคงเป็นอะไรที่ดีมาก” เจี้ยจื้อจายพูด

“หรือฉันจะไปขอให้เขียนเชิงทําให้พวกเราสองคนด้วยดี? ภรรยาคิดว่ายังไง?”

“นายกลัวยุงกัดเหรอ?”

ภายในบ้านของหวังเจ๋อเชิง

โพละ!

หวังยี่หลงกําลังผ่าฟันอยู่ที่ลานบ้าน
เมื่อได้ยินเสียงผ่าฟื้นภรรยาของหวังเจ๋อเชิงก็รีบร้อนออกไปดูนอกบ้าน “พ่อกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?”

“กองฟืนมันวางอยู่ตรงนี้ได้หลายวันแล้ว”ชายชราพูดพร้อมกับขยับไหล่ “เจ๋อเชิงยุ่งทั้งเช้าจนถึงค่ำเธอก็ต้องดูแลลูกและทําอาหาร จะให้มาผ่าฟื้นก็คงไม่มีเวลาสองวันมานี้พ่อรู้สึกอึดอัดไม่มีอะไรให้ทําอยู่พอดีก็เลยอยากออกแรงผ่าฟื้นสักหน่อยน่ะ”

เขาไม่ได้ทํางานมาได้สักพักแล้ว ไหล่ของเขาจึงปวดจากการออกแรง

ฉันแก่แล้วจริงๆ

“พ่อไม่ต้องทําหรอก” ลูกสะใภ้ของเขารีบพูด “พ่อกลับเข้าไปพักในบ้านเถอะอีกเดี๋ยวฉันจะมา ทําเอง”

เธอเป็นห่วงสภาพร่างกายของชายชราอย่างมากเขาไม่สามารถทํางานหนักได้เขาจําเป็นต้องรักษาร่างกายและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดเพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น”

“พ่อไม่เหนื่อยเลย” ชายชรายิ้มแล้วพูด

“พ่อไม่ต้องทําเรื่องพวกนี้หรอก พ่อกลับเข้าไปนั่งดื่มชาในบ้านเถอะ”

สุดท้าย เขาก็ต้านทานอาการรบเร้าจากลูกสะใภ้ไม่ได้ชายชราจึงต้องวางขวานและกลับเข้าไปนั่งดื่มชาอยู่ภายในบ้านเขาเดินไปพร้อมกับนวดไหล่ไปด้วย

“พ่อรู้สึกไม่สบายเหรอ?”

“เปล่า ก็แค่ไม่ได้ทํางานมานานแล้ว ไหล่ก็เลยยกของหนักไม่ค่อยไหวแต่ไม่เป็นอะไรหรอก”

“เฮ้อ ดีแล้วค่ะ” ลูกสะใภ้ของเขาโล่งอก เธอกลัวว่าการผ่าฟันจะทําให้พ่อสามีของเธอเจ็บป่วย

ได้

ในที่สุดเขาก็อาการดีขึ้นเธอจึงไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรตามมาอีก

ฮววว!

ชายชราหาวและขยับตัวเล็กน้อย

“อม ออกแรงบ้างก็ดีเหมือนกัน”ชายชราพูดกับตัวเอง“พอเจ่อเชิงกลับมาฉันจะบอกเขาว่าจะทําแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ฉันต้องได้ออกแรงบ้าง”

ภายในบ้านของเจียจื้อจาย

ฮูววว!

เจียจื้อจายชกแผ่นอิฐที่ซ้อนกันอยู่ด้วยฝ่ามือเดียว

ย่ะ! ฮ้ว!

“นายกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?” หูเหมยถาม

“ฉันกําลังฝึกกําลังภายในอยู่!”

“กําลังภายใน?”หูเหมยถาม

“เธอไม่รู้จักกําลังภายในเหรอ?”

“แล้วนายมีกําลังภายในเหรอ?”

“ไม่มี”

“แล้วนายฝึกกําลังภายในแบบไหนอยู่?” หูเหมยหัวเราะ

“ฉันก็ฝึกพลังฉีอยู่น่ะสิ”

“พลังช่วยให้นายชกอิฐได้ด้วยมือเดียวเหรอ? นายแน่ใจนะ?” หูเหมยถาม “ฉันรู้ว่ามันต้องเป็นงานหนักมากแน่ดูจากความคิดของนายทําไมนายไม่ใช้พลังฉีแล้วทุบหินด้วยหน้าอกไปเลยล่ะ?”

“นั่นมันความเสี่ยงสูงเกินไป”“นายเพิ่งสงบใจไปได้แค่ไม่กี่วันแล้วทําไมถึงได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงขนาดนั้นล่ะ?”

“ก็การนั่งสมาธิกับบ่มเพาะพลังฉีมันน่าเบื่อฉันก็เลยอยากหาอะไรมาทําให้ตัวเองผ่อนคลายลงบ้าง”เลี้ยจื้อจายพูดสภาพจิตใจของเขาถูกขัดเกลาไปบ้างแล้วแต่ที่ทําอยู่ตอนนี้เขาก็แค่นึกสนุกเท่านั้น

“ที่รัก เธอคิดว่าพลังฉีมีประโยชน์อะไรเหรอ?”

“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง?ถ้าอยากรู้เรื่องนี้นายก็ต้องไปถามเชียนเชิงหรือไม่ก็ศิษย์”หูเหมยตอบ

“ทักษะของเชียนเชิงสูงเกินไปฉันตามเขาไม่ทันแน่ฉันเคยถามศิษย์พี่ดูแล้วเขากําลังพยายามตามเชียนเชิงให้ทันอยู่”เจี่ยจื้อจายพูดด้วยรอยยิ้ม

“ไปหาศิษย์ของนาย แล้วก็นั่งดื่มชาอยู่ที่นั่นซะ”

เมื่อเจียจื้อจายไปถึงที่บ้านของจงหลิวชวนเขาก็พบว่าอีกฝ่ายก่าลังผ่าฟันด้วยขวานบินด้ามหนึ่งอยู่ขวานที่สมควรถูกทิ้งไปได้แล้วกลับยังถูกใช้ผ่าพื้นด้วยมือที่เต็มไปด้วยพละกําลังของอีกฝ่ายไม่ว่าฟื้นจะหนาแค่ไหนขวานด้ามนั้นก็สามารถผ่าลงไปได้อย่างง่ายดาย

“ศิษย์พี่ยุ่งอยู่เหรอ?”

“มีเรื่องอะไร?” จงหลิวชวนเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยรอยยิ้ม

“ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากคุยกับศิษย์พี่สักหน่อยแต่ศิษย์พี่ยุ่งอยู่ก็ทํางานในมือต่อไปเถอะฉันว่าการผ่าฟื้นของศิษย์ดูเพลินอยู่เหมือนกันนะ!”นี่ไม่ใช่แค่คําชมขวานที่ถูกแกว่งไกวอยู่ในมือของเขานั้นน่าดูชมมาก

“ฮาฮา…” จงหลิวชวนหยุดผ่าพื้น เขาเดินเข้าไปในบ้านและชงชาสําหรับพวกเขาสองคน

“นายจะดื่มชาไหม?”

“ขอบคุณ ศิษย์พี่”

“แล้วนายมาหาที่นี่มีเรื่องอะไรเหรอ?”

“พลังที่ฉันบ่มเพาะอยู่ตอนนี้มันมีประโยชน์อะไรเหรอ?” เจี้ยจื้อจายถาม

“หา พลังฉี?” จงหลิวชวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “นายกําลังพูดถึงกําลังภายในเหรอ?” “ใช่ฉันหมายถึงกําลังภายใน

“ฮาฮา มันวิเศษมากเลยล่ะ” จงหลิวชวนดวงตาเป็นประกาย

“ฉันฝึกอยู่เป็นประจํา แต่ฉันกลับมีกําลังภายในอยู่น้อยนิด มันเป็นเหมือนหยดน้ำในมหาสมุทรแต่น้ำเพียงหยดเดียวนี้กลับทําให้ฉันเต็มไปด้วยพละกําลังฉันเคยลองดูแล้วถึงไม่ได้นอนมาสองวันก็จะไม่เป็นอะไรเลย”

เจี่ยจื้อจายคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อม พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ มันทําให้ความทนทานของเราเพิ่มขึ้นสินะ?”

“ใช่ นายจะมองแบบนั้นก็ได้” เจี้ยจื้อจายตอบหลังจากจิบชาไปแล้ว

“นอกจากนี้ยังมีอะไรอีกไหม?”

“อย่างอื่นเหรอ?” จงหลิวชวนคิด

“มา พวกเรามาประมือกัน”เขาเหยียดแขน

“ศิษย์พี่หมายความว่ายังไง?”

“งัดข้อยังไงล่ะ”

“หา? อ่อ ใครที่แพ้ต้องเลี้ยงข้าวอีกฝ่ายนะ”

“ได้” จงหลิวชวนยิ้มแล้วพูด

“เริ่มได้”

เจียจื้อจายใส่แรงเต็มที่ตั้งแต่เริ่มต้น แต่แขนของจงหลิวชวนกลับยังนิ่งอยู่กับที่

เกิดอะไรขึ้น?

เจี้ยจื้อจายยันกลับไปใบหน้าของเขาเริ่มแดงจากการออกแรงมาก แต่จงหลิวชวนก็ยังไม่ขยับแม้แต่น้อยเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กําลังงัดข้อแต่เขากําลังงัดเสาไฟฟ้าออกจากพื้นดินอยู่มากกว่า

“ฉันจะเริ่มออกแรงแล้วนะ”หลังจากพูดเสร็จ จงหลิวชวนก็เริ่มเพิ่มแรงเข้าไปเจี้ยจื้อจายรับรู้ได้ถึงแรงที่อีกฝ่ายส่งออกมาเขาแพ้อย่างราบคาบ

“โถ่! ศิษย์พี่จะแรงเยอะเกินไปแล้ว!”

“นายจะลองสองมือเลยก็ได้นะ” “ได้จริงเหรอ?” เจียจื้อจายถาม “จริงสิ” “มาเลย!คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง มาดื่มที่บ้านฉันนะ”

“นายยังคิดจะดื่มอยู่อีกเหรอ?”

“เริ่มได้ไม้มาเลย!”

เจียจื้อจายใช้ทั้งสองมือ แต่แขนของจงหลิวชวนก็ยังคงนิ่งอยู่กับที่

“มันเกิดอะไรขึ้น?”

“อืม ตาฉันแล้ว มา

เขาส่งแรงเข้าไปแล้วเลี้ยจื้อจายก็พ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดายอีกครั้ง

นี่…นี่…

“มันเป็นเพราะพลังฉีเหรอ?”

“ใช่ มันเป็นเพราะพลังฉี”

เจี่ยจื้อจายนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง“ยังมีอะไรอีกไหม?” “การได้ยินของฉันชัดมากขึ้นมองเห็นได้ไกลขึ้นและรับรู้สิ่งรอบตัวได้ดีขึ้น”

“ประสาทสัมผัสทั้งห้าของศิษย์พี่ดีขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”

“ถูกต้อง”

“เอ่อ ศิษย์พี่ ฉันไม่มีอะไรจะถามแล้ว แต่ช่วยบอกมาที่เดียวเลยได้ไหม?”

“ไม่มีออะไรให้บอกอีกแล้ว”

“ไม่มีเลยเหรอ?”

“เท่านี้ยังไม่พออีกเหรอ?” จงหลิวชวนถามด้วยรอยยิ้ม

“เอ่อ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” เจี้ยจื้อจายโบกมือ

“ศิษย์น้อง นายรับรู้ถึงพลังฉีได้ แต่ในตัวของนายไม่ได้มีกําลังภายในอยู่เลย”จงหลิวชวนพูด“แล้วนายถามเรื่องพวกนี้ไปทําไมเหรอ?”

“ฉันแค่อยากรู้เพื่อให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกหน่อยน่ะสิ”

จงหลิวชวนยิ้ม“การที่นายอยากรู้มากขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดี”

“ศิษย์พี่รู้ระดับของเชียนเชิงไหม?”

“อืม…ฉันไม่รู้ แต่เชียนเชิงสามารถปลดปล่อยพลังออกมาเพื่อสื่อสารกับฟ้าดินได้”

“สื่อสารกับฟ้าดิน?” เจียจื้อจายเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “มันเป็นยังไงเหรอ?หรือเขาจะทําอะไรก็ได้ที่อยากทํา?”

นายต้องอดทนฝึกไปก่อน ทําไปตามขั้นตอนของมัน”

“เอ่อ ขอโทษที่รบกวนศิษย์พี่”

“ไม่เป็นไร ดื่มชาสักหน่อยสิ”

“ขอบคุณ” เจียจื้อจายนั่งอยู่ที่บ้านของจงหลิวชวนเป็นเวลานาน “เย็นนี้มากินข้าวที่บ้านฉันดีไหม?”“ไม่ได้หรอกฉันแค่พูดเล่นเท่านั้นนายไม่ต้องคิดเป็นจริงเป็นจังหรอก”

“ศิษย์พี่ต้องมาสิ!”

“ไม่จําเป็นหรอก”

“ศิษย์พี่อย่าปฏิเสธฉันเลย ถ้าศิษย์พี่ไม่มาฉันจะโกรธแล้วนะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+