Elixir Supplier 939 เกือบตาย

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 939 เกือบตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

939 เกือบตาย

ในช่วงนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทําการวินิจฉัยโรคหวังเย้ามักจะใช้แค่การมองเท่านั้นส่วนใหญ่เขาไม่จําเป็นต้องจับชีพจรของคนไข้เพื่อดูว่ามีความผิดปกติที่ตรงไหนด้วยซ้ํา

“อาจารย์สุดยอดไปเลย!”พันจวินรู้สึกประทับใจเมื่อได้ยินแบบนั้น

นั่นเป็นคนไข้เพียงคนเดียวที่มาคลินิกในช่วงบ่ายเมื่อถึงเวลาปิดคลินิกพันจวินก็เตรียมตัวกลับ

“ขับรถระวังด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด

“อาจารย์ไม่ต้องออกมาส่งหรอก ข้างนอกมันหนาว”

พันจวินขึ้นนั่งบนรถและขับออกไปไม่นานเจี๋ยจื้อจายก็มาที่คลินิก

“สวัสดีครับ เนียนเชิง”

“หนาวขนาดนี้ ทําไมถึงออกมาข้างนอกล่ะ?”

“ไม่มีอะไรหยุดผมได้หรอกครับ”เจี๋ยจื้อจายพูดด้วยรอยยิ้ม

มันเป็นความจริงที่ว่า การฝึกฝนก็ทําให้คนเสพติดได้เหมือนกัน

“คุณไปเถอะ”

หวังเย้าปิดประตูคลินิกและกลับบ้าน

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง หนึ่งวันค่อยๆผ่านพ้นไปหลังจากนั้นอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆอีกหนึ่งเดือนก็จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

ทางเหนือหนาวเย็น ในขณะที่ยูนนานใต้ยังคงมีแดดออกและอากาศเย็นสบาย แม้จะมีหิมะตกก็ตามทีในหุบเขาพันโอสถสามารถมองเห็นต้นไม้เขียวขจีได้ทุกฤดูกาล

“เสี่ยวเหอเป็นยังไงบ้าง?”เมี่ยวซีเหอถาม

“จนถึงตอนนี้ก็ยังปกติดีครับเราได้ใช้วิธีการและทําการทดลองตามวิธีการที่อาจารย์สั่งการมาแล้ว”

“ดีมากไม่จําเป็นต้องรีบร้อนเสี่ยวเหอเป็นเด็กดี”เมี่ยวซีเหอพูด

“ครับอาจารย์

“แล้วการสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นไปถึงไหนแล้ว?”

“ตอนนี้เราพอจะยืนยันได้บ้างแล้วครับ”

“ดี เรื่องนี้ก็ไม่จําเป็นต้องรีบร้อนเกินไปเหมือนกันนะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

เงาขนาดมหึมาว่ายผ่านไปในทะเลสาบข้างหุบเขา

ชายคนหนึ่งเดินกลับไปกลับมาอยู่ที่ข้างทะเลสาบดูคล้ายกับกําลังรอใครบางคนอยู่หลังจากผ่านไปได้สักพักเขาก็กลับบ้านไป

หลู่ซิ่วเฟิงที่อยู่ในเขตที่ห่างออกไปไกลร้อยกว่าไมล์ได้รับข้อความสั้นๆข้อความหนึ่ง

“นี่ ดูสิคนคนนั้นส่งข้อความมาล่ะ”

“โอ้ อะไรเหรอ?โอ๊ยผมยังปวดหัวไม่หายเลย!”หยางกวนเฟิงนวดขมับของตัวเอง“เป็นอะไรไป?ผมไม่เห็นคุณจะดื่มเยอะเท่าไหร่เลยนี่”
กั๋วเจิ้งเหอเชิญพวกเขาไปทานอาหารในค่ำวันนั้นหัวหน้าของกรมตํารวจก็ไปด้วยเช่นเดียวกันแล้วพวกเขาก็ดื่มกันเยอะมาก

“คุณยังกล้าพูดว่าไม่เยอะอยู่เหรอ?”หยางกวนเฟิงพูด“ที่ผมดื่มไปเมื่อคืนมันหลายลิตรเลยนะนานมากแล้วที่ผมดื่มเยอะขนาดนั้น”

“เอาเถอะ กลับมาที่เรื่องงานกันก่อน เขาว่าอะไรบ้าง?”

“เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ กลัวว่าจะถูกจับได้”

“ถูกจับได้? แล้วเขาคิดจะทํายังไงต่อไป?”หยางกวนเฟิงรีบถาม

ชายคนนั้นเป็นคนในหุบเขาและเคยส่งข้อความให้กับพวกเขามาก่อนเขาก็คือ“สายลับ”ที่ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา

“เขาตั้งใจจะออกมาจากหุบเขา และอยากให้เราคิดหาวิธีที่จะทําให้เขาปลอดภัย”“เขาแน่ใจแล้วเหรอที่จะทําแบบนั้นน่ะ?”หยางกวนเฟิงถามออกไปในขณะที่ยังคงนวดขมับของตัวเองอยู่แล้วจากนั้นก็จุดบุหรี่สูบ“การออกมาจากหมู่บ้านเป็นเรื่องง่ายแต่ปัญหาคือตัวตนของเขาข้อมูลที่เขาให้มาก็ไม่สามารถยืนยันอะไรได้เลย แถมยังเอาไปใช้งานอะไรไม่ได้เราคงต้องคิดหาวิธีอื่นดู”

ชายวัยประมาณสามสิบกําลังสูบบุหรี่อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในหุบเขาเขากําลังมองออกไปนอกหน้าต่าง

“มันเป็นหมู่บ้านที่ดีน่าเสียดายที่ฉันต้องไปจากที่นี่”เขาพูดกับตัวเองมันเป็นเวลากลางดึกแสงจันทร์ดูคล้ายสายน้ำภายในหมู่บ้านเงียบสงัดชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นในหมู่บ้านและแอบขึ้นไปบนเขาอย่างเงียบเชียบเขามุ่งหน้าไปด้านหนึ่งของภูเขาและเห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากตรงที่เขาอยู่คล้ายกับกําลังรอใครบางคน

“เฉิงถางดึกขนาดนี้แล้วนายจะไปที่ไหน?”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา

“ฉันนอนไม่หลับน่ะลุงก็เลยว่าจะออกมาเดินเล่นสักหน่อย”

“ถ้านอนไม่หลับ นายก็ไม่เห็นต้องออกมาไกลถึงภูเขาเลยนี่”ชายที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้พูด “นายคิดจะออกไปจากหมู่บ้านเหรอ?ดูเหมือนนายจะเอาข้าวของติดมือมาด้วยฉันไม่คิดเลยว่าคนคนนั้นจะเป็นนาย”

“ทาไม?”

“ทําไมเหรอ? เลิกเสแสร้งได้แล้วพ่อแม่ของฉันตายได้ยังไง?”

“แก็สพิษ”

“แก็สพิษ เหอะ? อย่ามาทําให้ฉันหัวเราะหน่อยเลยแก็สพิษอะไรถึงได้ร้ายแรงจนถึงขนาดเมี่ยวซีเหอก็ยังท่าอะไรไม่ได้?”

“แกกล้าพูดชื่อของผู้นําออกมาเลยเหรอ!”น้ำเสียงของชายคนนั้นเย็นเฉียบ

“ผู้นํา? ผู้นําอะไร?เขามันก็แค่คนชั่วที่หาประโยชน์ใส่ตัวเองก็เท่านั้น”เมี่ยวเฉิงถางตอบกลับ

ไปด้วยความโมโห

“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”

มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเมี่ยวเฉิงถาง“ปล่อยให้เขาพูดไปเถอะ”

เมี่ยวเฉิงถางตัวสั่นสะท้านขึ้นมาในทันทีเขารู้สึกเย็นยะเยือกไปจนถึงกระดูกราวกับเขาเข้าไป

อยู่ภายในถ้ําน้ำแข็ง

เขาค่อยๆหันกลับไปมองใบหน้าที่คุ้นเคยเมี่ยวซีเหอ

เมื่อครู่ที่เขาเผชิญหน้ากับอีกคนเขายังคงสามารถควบคุมความกลัวเอาไว้ได้แต่เมื่อเดี่ยวซี

เหอโผล่ออกมาเขาก็แทบจะไม่สามารถต่อต้านอีกฝ่ายได้เลยชายคนนี้เป็นเหมือนเทพเจ้าของคนในหมู่บ้าน

“กลับไปกับฉัน เฉิงถาง”

“กลับไปให้โดนลงโทษน่ะเหรอ?จะใช้พิษหรือว่าแมลงล่ะ?”เมี่ยวเฉิงถางยิ้มเยาะเขาไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถหลุดรอดไปจากเงื้อมมือของสองคนนี้ได้แต่เขาก็ไม่มีทางกลับไปที่หมู่บ้านเช่นเดียวกันเขารู้ดีว่าหากเขากลับไปแล้วจะต้องเผชิญหน้ากับการลงโทษที่โหดร้ายขนาดไหน

“แกฆ่าพ่อแม่ฉัน แล้วทําเหมือนฉันเป็นคนโง่คิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”

“พ่อแม่ของนายตายจากแก็สพิษ”เมี่ยวซีเหอพูด

“เมี่ยวซีเหอ แกได้ยินที่ตัวเองพูดรึเปล่า?มีพิษอะไรในโลกบ้างที่แกจัดการไม่ได้?”“ฉันไปถึงที่นั่นช้าเกินไปพิษได้เข้าสู่หัวใจของพวกเขาไปแล้วมันสายเกินกว่าที่ฉันจะทําอะไรได้”

“แล้วเรื่องเห็ดหลินจือหยกขาวล่ะ?”

“นายรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”หลังจากเงียบไปสักพักเมี่ยวซีเหอก็ถามออกไป

“ทําไมฉันจะไม่รู้?เห็ดหลินจือหยกขาวเป็นหนึ่งในสมุนไพรวิเศษของเขตเมี่ยวเพราะแบบนั้น

แกถึงได้ฆ่าพ่อกับแม่ของฉันใช่ไหมล่ะ?”

“เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด” เมี่ยวซีเหอพูด

“อ๋อ แล้วเรื่องมันเป็นยังไงล่ะ?”

วูบ มีบางอย่างลอยขึ้นไปบนอากาศ

บูม!บูม! เกิดการระเบิดขึ้น

ออกไป!

มีเสียงคารามดังมาจากความมืด
เมี่ยวเฉิงถางรีบวิ่งไปตามทางที่เสียงนั้นดังขึ้นเขาวิ่งจนสุดแรงเกิด

ฟุบบบบบ!เกิดประกายไฟขึ้นในความมืดกระสุนถูกสาดออกไปทั่วทุกทิศไม่ว่าจะเป็นต้นไม้

หรือโขดหินต่างก็โดนลูกหลงไปด้วย

บูม!เกิดเสียงระเบิดขึ้นในค่ำคืนนั้น

“เกิดอะไรขึ้น?”แสงไฟภายในหมู่บ้านถูกจุดขึ้นทุกคนต่างเดินออกมาจากบ้านและมองหาที่มาของเสียงซึ่งมันดังมาจากภูเขาที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน

“นายมาได้ยังไง?”

“เลิกพูดแล้วออกวิ่งได้แล้ว”

อยู่ๆก็มีคนโผล่ออกมาต่อหน้าพวกเขาสองคนหลีกไป!

เกิดประกายไฟขึ้นอีกครั้งกระสุนพุ่งผ่านอากาศราวกับเคียวที่พร้อมกับคร่าทุกสิ่งที่ขวางทาง

“แกยังไม่ตาย!”เสียงของเมี่ยวซีเหอดังขึ้นราวกับเสียงของภูติผี

เขายังคงสาดกระสุนออกไปเรื่อยๆเกิดประกายไฟขึ้นหลายจุดฝุ่นกระจายไปทั่วแม้จะตกอยู่ภายใต้ดงกระสุนแต่เมี่ยวซีเหอก็ยังสามารถปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของชายที่ถือปืนอยู่ได้เขาซัดใส่ร่างของชายคนนั้นจนปลิวออกไปร่างของเขากระแทกเข้ากับต้นไม้

แค่ก แค่ก เขาไอออกมาเป็นเลือดและยังคงยิงต่อเล็กน้อย เขาถูกกระสุนยิง

เข้าใส่ จากนั้นก็มีระเบิดขึ้นไม่ไกลจากตัวเขา

“ผู้นํา”

เมื่อฝุ่นจางลง เมี่ยวซีเหอก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไร้รอยขีดข่วน

“ได้เตรียมเข็มเอาไว้แล้วรึยัง?”

เขาหายตัวและปรากฏตัวห่างออกไปไกลหลายฟุต”

“รีบไป!”

ชายสองคนรีบวิ่งเข้าไปในป่า

พวกเขาได้ยินเสียงน้ำไหลเชี่ยวของแม่น้ำสายหนึ่ง

“เชี่ย! มีแม่น้ำอยู่ข้างหน้า!”เมี่ยวเฉิงถางสบถออกมา

มีหน้าผาสูง 10 เมตรอยู่ห่างจากพวกเขาไปประมาณ 9 เมตรมีแม่น้ำไหลเชี่ยวอยู่ใต้หน้าผาพวกเขาหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว

“เร็วเข้า กระโดดเลย!” เมี่ยวเทียนชวนตะโกนและกระโดดลงไปโดยไม่ลังเล

เมี่ยวเฉงถางเห็นแบบนั้นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกระโดดตามไป

เขาคิดว่า ถึงยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดีการตายแบบนี้อาจจะเร็วกว่าก็ได้ เขากระโดดลงจากหน้าผาและตกลงสู่แม่น้ำที่เชี่ยวกราดคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านต่างว่ายน้ำ

เก่ง เพราะมีแม่น้ำกับทะเลสาบอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านทําให้หลายคนเรียนว่ายน้ำกันตั้งแต่ยังเด็ก

เมี่ยวเฉงถางจมลงไปในแม่น้ำทันทีที่เขากระโดดลงมา

“ชิงชาน!”เขาได้ยินเสียงตะโกนและเห็นเรือลําหนึ่งลอยมาเชือกเส้นหนึ่งถูกโยนออกมาจาก

เรือเขาจึงจับมันเอาไว้

แฮ่ก!แฮ่ก!เมี้ยวเฉิงถางหายใจเอาอากาศเข้าปอดและไม่สนใจว่าตัวเขาจะเปียกแค่ไหน

เขามองกลับไปด้านหลังและเห็นหลายคนยืนอยู่ที่บริเวณหน้าผา พวกเขาห่างออกไปเรื่อยๆ

“เกือบไปแล้ว!” เขาถอนหายใจโล่งอก

พวกเขาสองคนเกือบตายแล้ว

“ดีที่นายคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Elixir Supplier 939 เกือบตาย

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 939 เกือบตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

939 เกือบตาย

ในช่วงนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทําการวินิจฉัยโรคหวังเย้ามักจะใช้แค่การมองเท่านั้นส่วนใหญ่เขาไม่จําเป็นต้องจับชีพจรของคนไข้เพื่อดูว่ามีความผิดปกติที่ตรงไหนด้วยซ้ํา

“อาจารย์สุดยอดไปเลย!”พันจวินรู้สึกประทับใจเมื่อได้ยินแบบนั้น

นั่นเป็นคนไข้เพียงคนเดียวที่มาคลินิกในช่วงบ่ายเมื่อถึงเวลาปิดคลินิกพันจวินก็เตรียมตัวกลับ

“ขับรถระวังด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด

“อาจารย์ไม่ต้องออกมาส่งหรอก ข้างนอกมันหนาว”

พันจวินขึ้นนั่งบนรถและขับออกไปไม่นานเจี๋ยจื้อจายก็มาที่คลินิก

“สวัสดีครับ เนียนเชิง”

“หนาวขนาดนี้ ทําไมถึงออกมาข้างนอกล่ะ?”

“ไม่มีอะไรหยุดผมได้หรอกครับ”เจี๋ยจื้อจายพูดด้วยรอยยิ้ม

มันเป็นความจริงที่ว่า การฝึกฝนก็ทําให้คนเสพติดได้เหมือนกัน

“คุณไปเถอะ”

หวังเย้าปิดประตูคลินิกและกลับบ้าน

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง หนึ่งวันค่อยๆผ่านพ้นไปหลังจากนั้นอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆอีกหนึ่งเดือนก็จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

ทางเหนือหนาวเย็น ในขณะที่ยูนนานใต้ยังคงมีแดดออกและอากาศเย็นสบาย แม้จะมีหิมะตกก็ตามทีในหุบเขาพันโอสถสามารถมองเห็นต้นไม้เขียวขจีได้ทุกฤดูกาล

“เสี่ยวเหอเป็นยังไงบ้าง?”เมี่ยวซีเหอถาม

“จนถึงตอนนี้ก็ยังปกติดีครับเราได้ใช้วิธีการและทําการทดลองตามวิธีการที่อาจารย์สั่งการมาแล้ว”

“ดีมากไม่จําเป็นต้องรีบร้อนเสี่ยวเหอเป็นเด็กดี”เมี่ยวซีเหอพูด

“ครับอาจารย์

“แล้วการสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นไปถึงไหนแล้ว?”

“ตอนนี้เราพอจะยืนยันได้บ้างแล้วครับ”

“ดี เรื่องนี้ก็ไม่จําเป็นต้องรีบร้อนเกินไปเหมือนกันนะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

เงาขนาดมหึมาว่ายผ่านไปในทะเลสาบข้างหุบเขา

ชายคนหนึ่งเดินกลับไปกลับมาอยู่ที่ข้างทะเลสาบดูคล้ายกับกําลังรอใครบางคนอยู่หลังจากผ่านไปได้สักพักเขาก็กลับบ้านไป

หลู่ซิ่วเฟิงที่อยู่ในเขตที่ห่างออกไปไกลร้อยกว่าไมล์ได้รับข้อความสั้นๆข้อความหนึ่ง

“นี่ ดูสิคนคนนั้นส่งข้อความมาล่ะ”

“โอ้ อะไรเหรอ?โอ๊ยผมยังปวดหัวไม่หายเลย!”หยางกวนเฟิงนวดขมับของตัวเอง“เป็นอะไรไป?ผมไม่เห็นคุณจะดื่มเยอะเท่าไหร่เลยนี่”
กั๋วเจิ้งเหอเชิญพวกเขาไปทานอาหารในค่ำวันนั้นหัวหน้าของกรมตํารวจก็ไปด้วยเช่นเดียวกันแล้วพวกเขาก็ดื่มกันเยอะมาก

“คุณยังกล้าพูดว่าไม่เยอะอยู่เหรอ?”หยางกวนเฟิงพูด“ที่ผมดื่มไปเมื่อคืนมันหลายลิตรเลยนะนานมากแล้วที่ผมดื่มเยอะขนาดนั้น”

“เอาเถอะ กลับมาที่เรื่องงานกันก่อน เขาว่าอะไรบ้าง?”

“เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ กลัวว่าจะถูกจับได้”

“ถูกจับได้? แล้วเขาคิดจะทํายังไงต่อไป?”หยางกวนเฟิงรีบถาม

ชายคนนั้นเป็นคนในหุบเขาและเคยส่งข้อความให้กับพวกเขามาก่อนเขาก็คือ“สายลับ”ที่ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา

“เขาตั้งใจจะออกมาจากหุบเขา และอยากให้เราคิดหาวิธีที่จะทําให้เขาปลอดภัย”“เขาแน่ใจแล้วเหรอที่จะทําแบบนั้นน่ะ?”หยางกวนเฟิงถามออกไปในขณะที่ยังคงนวดขมับของตัวเองอยู่แล้วจากนั้นก็จุดบุหรี่สูบ“การออกมาจากหมู่บ้านเป็นเรื่องง่ายแต่ปัญหาคือตัวตนของเขาข้อมูลที่เขาให้มาก็ไม่สามารถยืนยันอะไรได้เลย แถมยังเอาไปใช้งานอะไรไม่ได้เราคงต้องคิดหาวิธีอื่นดู”

ชายวัยประมาณสามสิบกําลังสูบบุหรี่อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในหุบเขาเขากําลังมองออกไปนอกหน้าต่าง

“มันเป็นหมู่บ้านที่ดีน่าเสียดายที่ฉันต้องไปจากที่นี่”เขาพูดกับตัวเองมันเป็นเวลากลางดึกแสงจันทร์ดูคล้ายสายน้ำภายในหมู่บ้านเงียบสงัดชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นในหมู่บ้านและแอบขึ้นไปบนเขาอย่างเงียบเชียบเขามุ่งหน้าไปด้านหนึ่งของภูเขาและเห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากตรงที่เขาอยู่คล้ายกับกําลังรอใครบางคน

“เฉิงถางดึกขนาดนี้แล้วนายจะไปที่ไหน?”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา

“ฉันนอนไม่หลับน่ะลุงก็เลยว่าจะออกมาเดินเล่นสักหน่อย”

“ถ้านอนไม่หลับ นายก็ไม่เห็นต้องออกมาไกลถึงภูเขาเลยนี่”ชายที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้พูด “นายคิดจะออกไปจากหมู่บ้านเหรอ?ดูเหมือนนายจะเอาข้าวของติดมือมาด้วยฉันไม่คิดเลยว่าคนคนนั้นจะเป็นนาย”

“ทาไม?”

“ทําไมเหรอ? เลิกเสแสร้งได้แล้วพ่อแม่ของฉันตายได้ยังไง?”

“แก็สพิษ”

“แก็สพิษ เหอะ? อย่ามาทําให้ฉันหัวเราะหน่อยเลยแก็สพิษอะไรถึงได้ร้ายแรงจนถึงขนาดเมี่ยวซีเหอก็ยังท่าอะไรไม่ได้?”

“แกกล้าพูดชื่อของผู้นําออกมาเลยเหรอ!”น้ำเสียงของชายคนนั้นเย็นเฉียบ

“ผู้นํา? ผู้นําอะไร?เขามันก็แค่คนชั่วที่หาประโยชน์ใส่ตัวเองก็เท่านั้น”เมี่ยวเฉิงถางตอบกลับ

ไปด้วยความโมโห

“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”

มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเมี่ยวเฉิงถาง“ปล่อยให้เขาพูดไปเถอะ”

เมี่ยวเฉิงถางตัวสั่นสะท้านขึ้นมาในทันทีเขารู้สึกเย็นยะเยือกไปจนถึงกระดูกราวกับเขาเข้าไป

อยู่ภายในถ้ําน้ำแข็ง

เขาค่อยๆหันกลับไปมองใบหน้าที่คุ้นเคยเมี่ยวซีเหอ

เมื่อครู่ที่เขาเผชิญหน้ากับอีกคนเขายังคงสามารถควบคุมความกลัวเอาไว้ได้แต่เมื่อเดี่ยวซี

เหอโผล่ออกมาเขาก็แทบจะไม่สามารถต่อต้านอีกฝ่ายได้เลยชายคนนี้เป็นเหมือนเทพเจ้าของคนในหมู่บ้าน

“กลับไปกับฉัน เฉิงถาง”

“กลับไปให้โดนลงโทษน่ะเหรอ?จะใช้พิษหรือว่าแมลงล่ะ?”เมี่ยวเฉิงถางยิ้มเยาะเขาไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถหลุดรอดไปจากเงื้อมมือของสองคนนี้ได้แต่เขาก็ไม่มีทางกลับไปที่หมู่บ้านเช่นเดียวกันเขารู้ดีว่าหากเขากลับไปแล้วจะต้องเผชิญหน้ากับการลงโทษที่โหดร้ายขนาดไหน

“แกฆ่าพ่อแม่ฉัน แล้วทําเหมือนฉันเป็นคนโง่คิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”

“พ่อแม่ของนายตายจากแก็สพิษ”เมี่ยวซีเหอพูด

“เมี่ยวซีเหอ แกได้ยินที่ตัวเองพูดรึเปล่า?มีพิษอะไรในโลกบ้างที่แกจัดการไม่ได้?”“ฉันไปถึงที่นั่นช้าเกินไปพิษได้เข้าสู่หัวใจของพวกเขาไปแล้วมันสายเกินกว่าที่ฉันจะทําอะไรได้”

“แล้วเรื่องเห็ดหลินจือหยกขาวล่ะ?”

“นายรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”หลังจากเงียบไปสักพักเมี่ยวซีเหอก็ถามออกไป

“ทําไมฉันจะไม่รู้?เห็ดหลินจือหยกขาวเป็นหนึ่งในสมุนไพรวิเศษของเขตเมี่ยวเพราะแบบนั้น

แกถึงได้ฆ่าพ่อกับแม่ของฉันใช่ไหมล่ะ?”

“เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด” เมี่ยวซีเหอพูด

“อ๋อ แล้วเรื่องมันเป็นยังไงล่ะ?”

วูบ มีบางอย่างลอยขึ้นไปบนอากาศ

บูม!บูม! เกิดการระเบิดขึ้น

ออกไป!

มีเสียงคารามดังมาจากความมืด
เมี่ยวเฉิงถางรีบวิ่งไปตามทางที่เสียงนั้นดังขึ้นเขาวิ่งจนสุดแรงเกิด

ฟุบบบบบ!เกิดประกายไฟขึ้นในความมืดกระสุนถูกสาดออกไปทั่วทุกทิศไม่ว่าจะเป็นต้นไม้

หรือโขดหินต่างก็โดนลูกหลงไปด้วย

บูม!เกิดเสียงระเบิดขึ้นในค่ำคืนนั้น

“เกิดอะไรขึ้น?”แสงไฟภายในหมู่บ้านถูกจุดขึ้นทุกคนต่างเดินออกมาจากบ้านและมองหาที่มาของเสียงซึ่งมันดังมาจากภูเขาที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน

“นายมาได้ยังไง?”

“เลิกพูดแล้วออกวิ่งได้แล้ว”

อยู่ๆก็มีคนโผล่ออกมาต่อหน้าพวกเขาสองคนหลีกไป!

เกิดประกายไฟขึ้นอีกครั้งกระสุนพุ่งผ่านอากาศราวกับเคียวที่พร้อมกับคร่าทุกสิ่งที่ขวางทาง

“แกยังไม่ตาย!”เสียงของเมี่ยวซีเหอดังขึ้นราวกับเสียงของภูติผี

เขายังคงสาดกระสุนออกไปเรื่อยๆเกิดประกายไฟขึ้นหลายจุดฝุ่นกระจายไปทั่วแม้จะตกอยู่ภายใต้ดงกระสุนแต่เมี่ยวซีเหอก็ยังสามารถปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของชายที่ถือปืนอยู่ได้เขาซัดใส่ร่างของชายคนนั้นจนปลิวออกไปร่างของเขากระแทกเข้ากับต้นไม้

แค่ก แค่ก เขาไอออกมาเป็นเลือดและยังคงยิงต่อเล็กน้อย เขาถูกกระสุนยิง

เข้าใส่ จากนั้นก็มีระเบิดขึ้นไม่ไกลจากตัวเขา

“ผู้นํา”

เมื่อฝุ่นจางลง เมี่ยวซีเหอก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไร้รอยขีดข่วน

“ได้เตรียมเข็มเอาไว้แล้วรึยัง?”

เขาหายตัวและปรากฏตัวห่างออกไปไกลหลายฟุต”

“รีบไป!”

ชายสองคนรีบวิ่งเข้าไปในป่า

พวกเขาได้ยินเสียงน้ำไหลเชี่ยวของแม่น้ำสายหนึ่ง

“เชี่ย! มีแม่น้ำอยู่ข้างหน้า!”เมี่ยวเฉิงถางสบถออกมา

มีหน้าผาสูง 10 เมตรอยู่ห่างจากพวกเขาไปประมาณ 9 เมตรมีแม่น้ำไหลเชี่ยวอยู่ใต้หน้าผาพวกเขาหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว

“เร็วเข้า กระโดดเลย!” เมี่ยวเทียนชวนตะโกนและกระโดดลงไปโดยไม่ลังเล

เมี่ยวเฉงถางเห็นแบบนั้นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกระโดดตามไป

เขาคิดว่า ถึงยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดีการตายแบบนี้อาจจะเร็วกว่าก็ได้ เขากระโดดลงจากหน้าผาและตกลงสู่แม่น้ำที่เชี่ยวกราดคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านต่างว่ายน้ำ

เก่ง เพราะมีแม่น้ำกับทะเลสาบอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านทําให้หลายคนเรียนว่ายน้ำกันตั้งแต่ยังเด็ก

เมี่ยวเฉงถางจมลงไปในแม่น้ำทันทีที่เขากระโดดลงมา

“ชิงชาน!”เขาได้ยินเสียงตะโกนและเห็นเรือลําหนึ่งลอยมาเชือกเส้นหนึ่งถูกโยนออกมาจาก

เรือเขาจึงจับมันเอาไว้

แฮ่ก!แฮ่ก!เมี้ยวเฉิงถางหายใจเอาอากาศเข้าปอดและไม่สนใจว่าตัวเขาจะเปียกแค่ไหน

เขามองกลับไปด้านหลังและเห็นหลายคนยืนอยู่ที่บริเวณหน้าผา พวกเขาห่างออกไปเรื่อยๆ

“เกือบไปแล้ว!” เขาถอนหายใจโล่งอก

พวกเขาสองคนเกือบตายแล้ว

“ดีที่นายคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Elixir Supplier 939 เกือบตาย

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 939 เกือบตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

939 เกือบตาย

ในช่วงนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทําการวินิจฉัยโรคหวังเย้ามักจะใช้แค่การมองเท่านั้นส่วนใหญ่เขาไม่จําเป็นต้องจับชีพจรของคนไข้เพื่อดูว่ามีความผิดปกติที่ตรงไหนด้วยซ้ํา

“อาจารย์สุดยอดไปเลย!”พันจวินรู้สึกประทับใจเมื่อได้ยินแบบนั้น

นั่นเป็นคนไข้เพียงคนเดียวที่มาคลินิกในช่วงบ่ายเมื่อถึงเวลาปิดคลินิกพันจวินก็เตรียมตัวกลับ

“ขับรถระวังด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด

“อาจารย์ไม่ต้องออกมาส่งหรอก ข้างนอกมันหนาว”

พันจวินขึ้นนั่งบนรถและขับออกไปไม่นานเจี๋ยจื้อจายก็มาที่คลินิก

“สวัสดีครับ เนียนเชิง”

“หนาวขนาดนี้ ทําไมถึงออกมาข้างนอกล่ะ?”

“ไม่มีอะไรหยุดผมได้หรอกครับ”เจี๋ยจื้อจายพูดด้วยรอยยิ้ม

มันเป็นความจริงที่ว่า การฝึกฝนก็ทําให้คนเสพติดได้เหมือนกัน

“คุณไปเถอะ”

หวังเย้าปิดประตูคลินิกและกลับบ้าน

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง หนึ่งวันค่อยๆผ่านพ้นไปหลังจากนั้นอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆอีกหนึ่งเดือนก็จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

ทางเหนือหนาวเย็น ในขณะที่ยูนนานใต้ยังคงมีแดดออกและอากาศเย็นสบาย แม้จะมีหิมะตกก็ตามทีในหุบเขาพันโอสถสามารถมองเห็นต้นไม้เขียวขจีได้ทุกฤดูกาล

“เสี่ยวเหอเป็นยังไงบ้าง?”เมี่ยวซีเหอถาม

“จนถึงตอนนี้ก็ยังปกติดีครับเราได้ใช้วิธีการและทําการทดลองตามวิธีการที่อาจารย์สั่งการมาแล้ว”

“ดีมากไม่จําเป็นต้องรีบร้อนเสี่ยวเหอเป็นเด็กดี”เมี่ยวซีเหอพูด

“ครับอาจารย์

“แล้วการสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นไปถึงไหนแล้ว?”

“ตอนนี้เราพอจะยืนยันได้บ้างแล้วครับ”

“ดี เรื่องนี้ก็ไม่จําเป็นต้องรีบร้อนเกินไปเหมือนกันนะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

เงาขนาดมหึมาว่ายผ่านไปในทะเลสาบข้างหุบเขา

ชายคนหนึ่งเดินกลับไปกลับมาอยู่ที่ข้างทะเลสาบดูคล้ายกับกําลังรอใครบางคนอยู่หลังจากผ่านไปได้สักพักเขาก็กลับบ้านไป

หลู่ซิ่วเฟิงที่อยู่ในเขตที่ห่างออกไปไกลร้อยกว่าไมล์ได้รับข้อความสั้นๆข้อความหนึ่ง

“นี่ ดูสิคนคนนั้นส่งข้อความมาล่ะ”

“โอ้ อะไรเหรอ?โอ๊ยผมยังปวดหัวไม่หายเลย!”หยางกวนเฟิงนวดขมับของตัวเอง“เป็นอะไรไป?ผมไม่เห็นคุณจะดื่มเยอะเท่าไหร่เลยนี่”
กั๋วเจิ้งเหอเชิญพวกเขาไปทานอาหารในค่ำวันนั้นหัวหน้าของกรมตํารวจก็ไปด้วยเช่นเดียวกันแล้วพวกเขาก็ดื่มกันเยอะมาก

“คุณยังกล้าพูดว่าไม่เยอะอยู่เหรอ?”หยางกวนเฟิงพูด“ที่ผมดื่มไปเมื่อคืนมันหลายลิตรเลยนะนานมากแล้วที่ผมดื่มเยอะขนาดนั้น”

“เอาเถอะ กลับมาที่เรื่องงานกันก่อน เขาว่าอะไรบ้าง?”

“เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ กลัวว่าจะถูกจับได้”

“ถูกจับได้? แล้วเขาคิดจะทํายังไงต่อไป?”หยางกวนเฟิงรีบถาม

ชายคนนั้นเป็นคนในหุบเขาและเคยส่งข้อความให้กับพวกเขามาก่อนเขาก็คือ“สายลับ”ที่ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา

“เขาตั้งใจจะออกมาจากหุบเขา และอยากให้เราคิดหาวิธีที่จะทําให้เขาปลอดภัย”“เขาแน่ใจแล้วเหรอที่จะทําแบบนั้นน่ะ?”หยางกวนเฟิงถามออกไปในขณะที่ยังคงนวดขมับของตัวเองอยู่แล้วจากนั้นก็จุดบุหรี่สูบ“การออกมาจากหมู่บ้านเป็นเรื่องง่ายแต่ปัญหาคือตัวตนของเขาข้อมูลที่เขาให้มาก็ไม่สามารถยืนยันอะไรได้เลย แถมยังเอาไปใช้งานอะไรไม่ได้เราคงต้องคิดหาวิธีอื่นดู”

ชายวัยประมาณสามสิบกําลังสูบบุหรี่อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในหุบเขาเขากําลังมองออกไปนอกหน้าต่าง

“มันเป็นหมู่บ้านที่ดีน่าเสียดายที่ฉันต้องไปจากที่นี่”เขาพูดกับตัวเองมันเป็นเวลากลางดึกแสงจันทร์ดูคล้ายสายน้ำภายในหมู่บ้านเงียบสงัดชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นในหมู่บ้านและแอบขึ้นไปบนเขาอย่างเงียบเชียบเขามุ่งหน้าไปด้านหนึ่งของภูเขาและเห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากตรงที่เขาอยู่คล้ายกับกําลังรอใครบางคน

“เฉิงถางดึกขนาดนี้แล้วนายจะไปที่ไหน?”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา

“ฉันนอนไม่หลับน่ะลุงก็เลยว่าจะออกมาเดินเล่นสักหน่อย”

“ถ้านอนไม่หลับ นายก็ไม่เห็นต้องออกมาไกลถึงภูเขาเลยนี่”ชายที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้พูด “นายคิดจะออกไปจากหมู่บ้านเหรอ?ดูเหมือนนายจะเอาข้าวของติดมือมาด้วยฉันไม่คิดเลยว่าคนคนนั้นจะเป็นนาย”

“ทาไม?”

“ทําไมเหรอ? เลิกเสแสร้งได้แล้วพ่อแม่ของฉันตายได้ยังไง?”

“แก็สพิษ”

“แก็สพิษ เหอะ? อย่ามาทําให้ฉันหัวเราะหน่อยเลยแก็สพิษอะไรถึงได้ร้ายแรงจนถึงขนาดเมี่ยวซีเหอก็ยังท่าอะไรไม่ได้?”

“แกกล้าพูดชื่อของผู้นําออกมาเลยเหรอ!”น้ำเสียงของชายคนนั้นเย็นเฉียบ

“ผู้นํา? ผู้นําอะไร?เขามันก็แค่คนชั่วที่หาประโยชน์ใส่ตัวเองก็เท่านั้น”เมี่ยวเฉิงถางตอบกลับ

ไปด้วยความโมโห

“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”

มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเมี่ยวเฉิงถาง“ปล่อยให้เขาพูดไปเถอะ”

เมี่ยวเฉิงถางตัวสั่นสะท้านขึ้นมาในทันทีเขารู้สึกเย็นยะเยือกไปจนถึงกระดูกราวกับเขาเข้าไป

อยู่ภายในถ้ําน้ำแข็ง

เขาค่อยๆหันกลับไปมองใบหน้าที่คุ้นเคยเมี่ยวซีเหอ

เมื่อครู่ที่เขาเผชิญหน้ากับอีกคนเขายังคงสามารถควบคุมความกลัวเอาไว้ได้แต่เมื่อเดี่ยวซี

เหอโผล่ออกมาเขาก็แทบจะไม่สามารถต่อต้านอีกฝ่ายได้เลยชายคนนี้เป็นเหมือนเทพเจ้าของคนในหมู่บ้าน

“กลับไปกับฉัน เฉิงถาง”

“กลับไปให้โดนลงโทษน่ะเหรอ?จะใช้พิษหรือว่าแมลงล่ะ?”เมี่ยวเฉิงถางยิ้มเยาะเขาไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถหลุดรอดไปจากเงื้อมมือของสองคนนี้ได้แต่เขาก็ไม่มีทางกลับไปที่หมู่บ้านเช่นเดียวกันเขารู้ดีว่าหากเขากลับไปแล้วจะต้องเผชิญหน้ากับการลงโทษที่โหดร้ายขนาดไหน

“แกฆ่าพ่อแม่ฉัน แล้วทําเหมือนฉันเป็นคนโง่คิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”

“พ่อแม่ของนายตายจากแก็สพิษ”เมี่ยวซีเหอพูด

“เมี่ยวซีเหอ แกได้ยินที่ตัวเองพูดรึเปล่า?มีพิษอะไรในโลกบ้างที่แกจัดการไม่ได้?”“ฉันไปถึงที่นั่นช้าเกินไปพิษได้เข้าสู่หัวใจของพวกเขาไปแล้วมันสายเกินกว่าที่ฉันจะทําอะไรได้”

“แล้วเรื่องเห็ดหลินจือหยกขาวล่ะ?”

“นายรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”หลังจากเงียบไปสักพักเมี่ยวซีเหอก็ถามออกไป

“ทําไมฉันจะไม่รู้?เห็ดหลินจือหยกขาวเป็นหนึ่งในสมุนไพรวิเศษของเขตเมี่ยวเพราะแบบนั้น

แกถึงได้ฆ่าพ่อกับแม่ของฉันใช่ไหมล่ะ?”

“เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด” เมี่ยวซีเหอพูด

“อ๋อ แล้วเรื่องมันเป็นยังไงล่ะ?”

วูบ มีบางอย่างลอยขึ้นไปบนอากาศ

บูม!บูม! เกิดการระเบิดขึ้น

ออกไป!

มีเสียงคารามดังมาจากความมืด
เมี่ยวเฉิงถางรีบวิ่งไปตามทางที่เสียงนั้นดังขึ้นเขาวิ่งจนสุดแรงเกิด

ฟุบบบบบ!เกิดประกายไฟขึ้นในความมืดกระสุนถูกสาดออกไปทั่วทุกทิศไม่ว่าจะเป็นต้นไม้

หรือโขดหินต่างก็โดนลูกหลงไปด้วย

บูม!เกิดเสียงระเบิดขึ้นในค่ำคืนนั้น

“เกิดอะไรขึ้น?”แสงไฟภายในหมู่บ้านถูกจุดขึ้นทุกคนต่างเดินออกมาจากบ้านและมองหาที่มาของเสียงซึ่งมันดังมาจากภูเขาที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน

“นายมาได้ยังไง?”

“เลิกพูดแล้วออกวิ่งได้แล้ว”

อยู่ๆก็มีคนโผล่ออกมาต่อหน้าพวกเขาสองคนหลีกไป!

เกิดประกายไฟขึ้นอีกครั้งกระสุนพุ่งผ่านอากาศราวกับเคียวที่พร้อมกับคร่าทุกสิ่งที่ขวางทาง

“แกยังไม่ตาย!”เสียงของเมี่ยวซีเหอดังขึ้นราวกับเสียงของภูติผี

เขายังคงสาดกระสุนออกไปเรื่อยๆเกิดประกายไฟขึ้นหลายจุดฝุ่นกระจายไปทั่วแม้จะตกอยู่ภายใต้ดงกระสุนแต่เมี่ยวซีเหอก็ยังสามารถปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของชายที่ถือปืนอยู่ได้เขาซัดใส่ร่างของชายคนนั้นจนปลิวออกไปร่างของเขากระแทกเข้ากับต้นไม้

แค่ก แค่ก เขาไอออกมาเป็นเลือดและยังคงยิงต่อเล็กน้อย เขาถูกกระสุนยิง

เข้าใส่ จากนั้นก็มีระเบิดขึ้นไม่ไกลจากตัวเขา

“ผู้นํา”

เมื่อฝุ่นจางลง เมี่ยวซีเหอก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไร้รอยขีดข่วน

“ได้เตรียมเข็มเอาไว้แล้วรึยัง?”

เขาหายตัวและปรากฏตัวห่างออกไปไกลหลายฟุต”

“รีบไป!”

ชายสองคนรีบวิ่งเข้าไปในป่า

พวกเขาได้ยินเสียงน้ำไหลเชี่ยวของแม่น้ำสายหนึ่ง

“เชี่ย! มีแม่น้ำอยู่ข้างหน้า!”เมี่ยวเฉิงถางสบถออกมา

มีหน้าผาสูง 10 เมตรอยู่ห่างจากพวกเขาไปประมาณ 9 เมตรมีแม่น้ำไหลเชี่ยวอยู่ใต้หน้าผาพวกเขาหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว

“เร็วเข้า กระโดดเลย!” เมี่ยวเทียนชวนตะโกนและกระโดดลงไปโดยไม่ลังเล

เมี่ยวเฉงถางเห็นแบบนั้นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกระโดดตามไป

เขาคิดว่า ถึงยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดีการตายแบบนี้อาจจะเร็วกว่าก็ได้ เขากระโดดลงจากหน้าผาและตกลงสู่แม่น้ำที่เชี่ยวกราดคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านต่างว่ายน้ำ

เก่ง เพราะมีแม่น้ำกับทะเลสาบอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านทําให้หลายคนเรียนว่ายน้ำกันตั้งแต่ยังเด็ก

เมี่ยวเฉงถางจมลงไปในแม่น้ำทันทีที่เขากระโดดลงมา

“ชิงชาน!”เขาได้ยินเสียงตะโกนและเห็นเรือลําหนึ่งลอยมาเชือกเส้นหนึ่งถูกโยนออกมาจาก

เรือเขาจึงจับมันเอาไว้

แฮ่ก!แฮ่ก!เมี้ยวเฉิงถางหายใจเอาอากาศเข้าปอดและไม่สนใจว่าตัวเขาจะเปียกแค่ไหน

เขามองกลับไปด้านหลังและเห็นหลายคนยืนอยู่ที่บริเวณหน้าผา พวกเขาห่างออกไปเรื่อยๆ

“เกือบไปแล้ว!” เขาถอนหายใจโล่งอก

พวกเขาสองคนเกือบตายแล้ว

“ดีที่นายคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+