ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด 488 ข่มขู่ไทเฮา / 489 นี่เป็นความรับผิดชอบของเจ้าอยู่แล้ว

Now you are reading ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด Chapter 488 ข่มขู่ไทเฮา / 489 นี่เป็นความรับผิดชอบของเจ้าอยู่แล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 488 ข่มขู่ไทเฮา   

 

 

ตอนนี้เอง มู่หรงนี่อวิ๋นกำลังอยู่ที่วังฉางเล่อกง เขาคุกเข่าตัวตรงกับพื้น  

 

 

“พี่ใหญ่ แต่ไหนแต่ไรข้าไม่เคยขอร้องอะไรท่านพี่เลย ครั้งนี้ถือว่าข้าขอร้องพี่ใหญ่”  

 

 

เห็นมู่หรงนี่อวิ๋นขอร้องวิงวอนเพื่อหลิงอวี้จื้อ ในใจมู่หรงกวานเย่ว์ก็โมโหสุดขีด กราดมองมู่หรงนี่อวิ๋นอย่างเย็นชา ขึ้นเสียงติเตียนว่า  

 

 

“เจ้าชอบคุกเข่าก็คุกเข่าไป! นี่อวิ๋น เจ้าทำให้เราผิดหวังจริงๆ  

 

 

หลายปีมานี้เราอบรมบ่มเพาะเจ้ามาสุดกำลัง เจ้ากลับทำอะไรไม่เป็นโล้เป็นพาย เมื่อก่อนเที่ยวเล่นไปวันๆ ก็ช่างเถิด ตอนนี้ยังมัวแต่คิดคำนึงถึงผู้หญิงของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อยู่ได้  

 

 

เจ้าอย่าลืมเสีย เจ้าเป็นบุตรชายของตระกูลมู่หรง ต่อไปจะต้องสืบทอดกิจการของครอบครัว ประพฤติตนเช่นนี้ ขายหน้าตระกูลมู่หรงชัด ๆ”  

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นคาดไว้อยู่แล้วว่ามู่หรงกวานเย่ว์จะโกรธ นางเข้มงวดกับเขาและเฉินมั่วฉือมาก เพียงแต่พวกเขาล้วนทำให้มู่หรงกวานเย่ว์ผิดหวัง ด้วยเหตุนี้ทุกครั้งที่มู่หรงกวานเย่ว์เห็นเขาก็จะทำหน้าไม่ได้ดั่งใจทุกครั้ง  

 

 

ถึงแม้รู้ว่าจะทำให้มู่หรงกวานเย่ว์โมโห มู่หรงนี่อวิ๋นก็ยังมา เขาไม่อยากเห็นหลิงอวี้จื้อไม่มีความสุขทุกวัน หวังว่านางจะออกเรือนไปอย่างมีความสุข  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์เป็นพี่สาวแท้ๆ แม่เดียวกันกับเขา นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถพูดเช่นนี้ต่อหน้ามู่หรงกวานเย่ว์ได้ ก่อนหน้านี้เขามาหามู่หรงกวานเย่ว์สองสามครั้งแล้ว เพียงแต่มู่หรงกวานเย่ว์ไม่ได้พบเขา  

 

 

เขารู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะขอร้องมู่หรงกวานเย่ว์ มู่หรงกวานเย่ว์ไม่ใช่คนประเภทที่จะใจอ่อนง่ายๆ ครั้งนี้เขามามู่หรงกวานเย่ว์เพื่อจะคุยเรื่องเงื่อนไข เขาไม่เชื่อว่ามู่หรงกวานเย่ว์จะไม่สนใจความเป็นความตายของเขา  

 

 

“พี่ใหญ่ ข้าชอบหลิงอวี้จื้อจริงๆ ข้าก็รู้ด้วยว่าข้ากับนางไม่มีทางเป็นไปได้ ข้ามิได้คาดหวังสิ่งใด เพียงแต่หวังว่านางจะมีความสุข”  

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นพูดจบก็แบมือ ฝ่ามือมีเส้นสีดำเห็นชัดพาดผ่าน เขาพูดหน้าเศร้าว่า  

 

 

“ตอนข้าอยู่ที่สำนักอู๋จี๋โดนพิษเข้า มีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงครึ่งปี พี่ใหญ่ หากไม่เชื่อ สามารถตามพี่รองมาดูได้ นางเป็นคนของสำนักอู๋จี๋ รู้จักพิษของสำนักอู๋จี๋”  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์เห็นเส้นดำบนมือของมู่หรงนี่อวิ๋น ก็ลุกขึ้นเดินไปข้างตัวมู่หรงนี่อวิ๋นทันที ตรวจดูเส้นดำนั้นอย่างละเอียด เป็นสีดำที่ออกมาจากผิวหนังจริงๆ หรือว่าเขาโดนยาพิษจริงๆ  

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นเป็นลูกชายคนเดียวที่เกิดจากภรรยาหลวงในตระกูลมู่หรง และยังเป็นน้องชายแท้ๆ แม่เดียวกันกับนาง ตัวเขายังต้องแบกรับการสืบทอดตระกูลและกิจการของครอบครัว หากเขาเกิดเรื่องจริงๆ เช่นนั้นตระกูลมู่หรงก็ถึงจุดจบ  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์เห็นเส้นดำนี้ก็เริ่มลนลานขึ้นมาจริงๆ รีบให้จื่ออีไปตามหมอหลวงมา จื่ออีเห็นว่าสถานการณ์ร้ายแรง ก็ออกไปตามหมอหลวงทันที  

 

 

เดิมทีมู่หรงนี่อวิ๋นไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับใคร อย่างไรเสียพูดไปก็ไร้ประโยชน์ ได้แต่ทำให้คนอื่นเป็นห่วงตนเท่านั้น  

 

 

เขาก็ไม่อยากตายไปเช่นนี้ ด้วยเหตุนี้จึงแอบหาแมลงจิ่วเซียงมาตลอด ใช้สิ่งนี้เพื่อให้มีชีวิตต่อไป ถึงเวลาแล้วค่อยจากไปเงียบๆ  

 

 

ตอนนี้เขาทำได้เพียงนำเรื่องนี้มาขู่มู่หรงกวานเย่ว์ เขารู้ว่ามู่หรงกวานเย่ว์เป็นห่วงครอบครัวแม่มาก เขาเป็นลูกชายคนเดียวของภรรยาหลวงตระกูลมู่หรง หากเอาข้อนี้เป็นเงื่อนไข นางก็คงจะตกลง  

 

 

“พี่ใหญ่ นี่เป็นความปรารถนาเดียวของข้าในตอนนี้ ท่านสงเคราะห์ข้าเถิด! มิเช่นนั้นข้าคงตายตาไม่หลับ ขอเพียงท่านไม่บังคับให้ท่านอ๋องรับอนุภรรยา ข้าก็จะแต่งงานทันที เพื่อแผ่กิ่งก้านสาขาตระกูลมู่หรง”  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์เข้าใจเจตนาของมู่หรงนี่อวิ๋น เขามาเพื่อบีบบังคับนาง ใช้ตระกูลมู่หรงบีบบังคับให้นางยอมจำนวน  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ทำหน้าบึ้ง  

 

 

“ได้ ได้ ตอนนี้เจ้านับวันยิ่งไปไกล ขนาดรู้วิธีที่จะบังคับเราได้”  

 

 

“ข้าเองก็จำใจทำ พี่ใหญ่ ท่านทำเช่นนี้เพียงเพื่อแก้แค้นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพื่อตระกูลมู่หรง ท่านปล่อยพวกเขาไปได้หรือไม่”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 489 นี่เป็นความรับผิดชอบของเจ้าอยู่แล้ว  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ไม่ได้พูดอะไร ยังคงหน้าบึ้งตึง นางไม่เข้าใจจริงๆ หลิงอวี้จื้อมีอะไรดี นางเป็นถึงไทเฮาผู้สูงส่ง เป็นผู้หญิงที่ทรงเกียรติที่สุดในแคว้นเว่ยตะวันตก ได้รับอำนาจสูงสุด แต่กลับไม่ได้รับความรักเลยแม้แต่น้อย  

 

 

คนที่หมายปองก็ชอบหลิงอวี้จื้อ ลูกชายที่เลี้ยงดูมาอย่างยากลำบากก็ติดใจหลิงอวี้จื้อ แม่ลูกแตกความสามัคคีเพราะเรื่องนี้ แม้แต่น้องชายของตนเองก็ยังมีจิตใจเข้าหาผู้หญิงคนนั้น  

 

 

ผู้ชายที่สำคัญที่สุดในชีวิตนางทั้งสามคนต่างรุมล้อมเด็กสาวคนนั้น ทำให้นางรู้สึกอิจฉามาก  

 

 

น่าขันจริงๆ นางไม่จำเป็นต้องอิจฉาใครมาตั้งนานแล้ว แต่กลับมาอิจฉาเด็กสาวคนหนึ่ง ชีวิตยุ่งเหยิงก็เพราะเด็กสาวคนนี้  

 

 

ตอนนี้น้องชายพ่อแม่เดียวกันของนางก็วิงวอนขอร้องแทนเธอ ทำให้นางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รับปากก็รู้สึกไม่ยินยอม ไม่รับปาก ก็กลัวว่าตระกูลมู่หรงจะสิ้นทายาท  

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นเป็นคนสบายๆ มาโดยตลอด ไม่ยอมแต่งงานมีภรรยา นางรู้ว่ามู่หรงนี่อวิ๋นนิสัยเจ้าสำราญ คิดว่าอายุเขายังน้อย แต่งงานช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้บังคับเขา  

 

 

ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ ทั้งตระกูลมู่หรงอาจจะสิ้นทายาทไปด้วยเหตุนี้ สำหรับครอบครัวหนึ่ง ผู้ชายที่บรรลุนิติภาวะแล้วมีความสำคัญมาก ตระกูลมู่หรงเป็นพระญาติของฮ่องเต้ เป็นตระกูลที่โดดเด่นที่สุดในแคว้นเว่ยตะวันตก จะขาดทายาทไม่ได้เด็ดขาด หากเป็นเช่นนั้นคงกลายเป็นเรื่องตลกของแคว้นเว่ยตะวันตกไป  

 

 

มู่หรงหงกับมารดาของนางก็รับการโจมตีเช่นนี้มิได้  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ยังคงหน้าบึ้ง ไม่พูดอะไร มู่หรงนี่อวิ๋นก็ไม่พูดอะไร รอมู่หรงกวานเย่ว์ตอบกลับ  

 

 

ทั้งห้องโถงใหญ่ตกอยู่ในความเงียบสงัด สาวรับใช้ที่ยืนตรงอยู่ข้างๆ ก้มหน้ามิด อยากจะกลายเป็นคนล่องหนเดี๋ยวนั้น บรรยากาศในห้องโถงใหญ่กดดันเกินไปจริง ๆ  

 

 

ตอนนี้เองจื่ออีก็นำหมอหลวงเข้ามาอย่างไว หมอหลวงจับชีพจรอย่างระมัดระวังอย่างยิ่ง จับชีพจรเสร็จแล้วก็หมอบกับพื้นทันที  

 

 

ตอบด้วยความเคารพว่า  

 

 

“กราบเรียนไทเฮา คุณชายมู่หรงมีสภาวะชีพจรเต้นผิดปกติ นี่เป็นอาการบ่งบอกว่าโดนยาพิษ กระหม่อมไร้ความสามารถ ยังดูไม่ออกว่าคุณชายมู่หรงโดนยาพิษอะไรพ่ะย่ะค่ะ”  

 

 

ยาพิษของสำนักอู๋จี๋คนทั่วไปไม่รู้จัก หมอหลวงวินิจฉัยไม่ออกเป็นเรื่องปกติมาก  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก โบกมือให้หมอหลวงออกไปก่อน แล้วจึงให้มู่หรงนี่อวิ๋นลุกขึ้น  

 

 

คุกเข่าไปตั้งนาน มู่หรงนี่อวิ๋นขาชาไปนานแล้ว ฝืนยืนไม่ขึ้น มองมู่หรงกวานเย่ว์แล้วเอ่ยปากว่า  

 

 

“พี่ใหญ่ หากท่านไม่เชื่อคำพูดข้า สามารถให้พี่รองมาตรวจชีพจรข้าได้ ข้าเหลือเวลาเพียงครึ่งปีจริงๆ  

 

 

ข้าไม่เคยคิดจะเป็นอะไรกับหลิงอวี้จื้อ เพียงแต่หวังว่านางจะอยู่กับคนที่รัก พี่ใหญ่ ให้ข้าได้ทำตามใจอีกเป็นครั้งสุดท้ายเถิด”  

 

 

“นางมีค่าพอให้เจ้าทุ่มเทขนาดนี้หรือ”  

 

 

“นี่เป็นเรื่องที่ข้าอยากทำ ไม่มีอะไรมีค่าพอหรือไม่มีค่าพอ พี่ใหญ่ ข้ารู้ดีว่าตนเองมีหน้าที่รับชอบต่อวงศ์ตระกูล เอาเรื่องนี้มาข่มพี่ใหญ่ช่างหน้าไม่อายอย่างยิ่ง แต่ข้าไม่มีวิธีอื่นแล้ว หากก่อนตายไม่เห็นนางมีความสุข ข้าอยู่ในปรโลกก็ไม่สบายใจ”  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์หัวเราะเยือกเย็นหนึ่งครั้ง  

 

 

“ในเมืองหลวงนี้ใครไม่รู้บ้างว่าคุณชายมู่หรงเป็นคนหนุ่มเจ้าสำราญ ตอนนี้เจ้าถูกใจผู้หญิงคนเดียว ไม่รู้สึกว่าน่าขำหรือ”  

 

 

“คนอื่นอยากขำก็ขำไปเถิด!”  

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นพูดพลางคุกเข่าลงอีกครั้ง  

 

 

“พี่ใหญ่ ขอเพียงไม่ให้เฉินปี้แต่งเข้าจวนท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ข้าก็จะแต่งงานทันที”  

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์โกรธมู่หรงนี่อวิ๋นจนเหลือทนแล้ว ตอบกลับอย่างเย็นชาว่า  

 

 

“ตัวเองเป็นบุตรชายภรรยาหลวงของตระกูลมู่หรง นี่เป็นความรับผิดชอบของเจ้าอยู่แล้ว”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด