ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด 634 ยุแยง / 635 ฮองเฮาเสด็จแล้ว

Now you are reading ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด Chapter 634 ยุแยง / 635 ฮองเฮาเสด็จแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 634 ยุแยง  

 

 

“หม่อมฉันมีเรื่องอยากจะทูลฮองเฮาเป็นการส่วนตัวเพคะ”  

 

 

เฉินปี้ก้มหน้าลงแล้วเอ่ยด้วยความนบน้อม  

 

 

หลินฮองเฮาโบกมือให้นางกำนัลทุกคนออกไป เหลือไว้เพียงไฮ่ถัง แล้วจึงเอ่ยปากว่า “ใต้เท้าเฉินมีสิ่งใดก็พูดมาเถิด”  

 

 

“หม่อมฉันอยากพูดเรื่องของหยวนเฟยเพคะ”  

 

 

เมื่อได้ยินคำว่าหยวนเฟย สีหน้าของหลินฮองเฮาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าเหตุใดเฉินปี้จึงเอ่ยถึงหยวนเฟยขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ แต่มิได้ขัดเฉินปี้ จึงปล่อยให้นางพูดต่อไป  

 

 

เฉินปี้จึงพูดต่อว่า “ฮองเฮาทรงทราบหรือไม่ว่าเหตุใดฝ่าบาทจึงแต่งตั้งสตรีที่เพิ่งเข้ามาในวังไม่นานเป็นหยวนเฟย นี่ไม่ใช่การกระทำอันบุ่มบ่าม แต่เพราะฝ่าบาททรงรู้จักกับหยวนเฟยมาก่อน ฝ่าบาทรู้จักกับหยวนเฟยเมื่อหกปีก่อนและหลายปีมานี่ก็ทรงคิดถึงนางไม่ลืมเลือน”  

 

 

หลินฮองเฮาเผยสีหน้าตกใจและหวาดกลัวออกมา “เป็นไปไม่ได้ นางตายไปแล้ว”  

 

 

เรื่องที่เฉินม่อฉือชอบหลิงอวี้จื้อ หลินฮองเฮานั้นทราบดี  

 

 

เพียงแต่หลิงอวี้จื้อเป็นพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทั้งนางก็ตายไปห้าปีแล้ว หลินฮองเฮาจึงไม่เคยเอาเรื่องนี้มาใส่ใจ อย่างไรตอนนั้นเฉินม่อฉือก็เป็นเพียงเด็กหนุ่ม แต่เมื่อเฉินปี้เอ่ยเช่นนี้กลับทำให้นางรู้สึกขนลุกขึ้นมา  

 

 

คนที่ตายไปห้าปีแล้วจะกลับมาได้อย่างไร ทั้งนางก็เคยได้ยินว่าศพของสตรีผู้นั้นยังอยู่กับเซียวเหยี่ยนตลอดมา  

 

 

“นางตายแล้วจริงๆ แต่ไม่รู้เหตุใด ตอนนี้ถึงได้กลับมาในร่างใหม่ ฝ่าบาทสงสัยในตัวนาง คืนวันนั้นจึงให้หม่อมฉันไปลองใจนาง ตอนนี้มั่นใจแล้วว่านางคือพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่ตายไปเมื่อห้าปีก่อนจริงๆ ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันเคยทะเลาะกับนางอยู่หลายครั้ง ฮองเฮาก็คงทราบดีว่าเดิมหม่อมฉันนั้นต้องแต่งให้กับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่ก่อนถึงวันมงคลหม่อมฉันกลับถึงยกให้แต่งกับอู่อ๋อง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะหลิงอวี้จื้อเพคะ”  

 

 

หลินฮองเฮาไม่อยากจะเชื่อที่เฉินปี้พูด สองมือกำชายกระโปรงแน่นโดยไม่รู้ตัว สีหน้ายังคงเต็มไปด้วยความแปลกใจไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าพูดจริงหรือ”  

 

 

“เรื่องใหญ่เพียงนี้ หม่อมฉันไม่กล้าหลอกลวงพระองค์แน่เพคะ ฮองเฮา หลิงอวี้จื้อเป็นสตรีเหลี่ยมจัด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จึงถูกนางทำให้ลุ่มหลงจนลืมตัว”  

 

 

“ตอนนั้นไทเฮาทรงให้หม่อมฉันเป็นพระชายารองของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตัวหม่อมฉันมีใจให้กับเขาอยู่แล้วจึงยินดีเป็นชายารอง แต่คิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จื้อกลับไม่ยอม หม่อมฉันยังมิทันได้แต่งเข้านางก็คิดแผนการมาใส่ร้ายหม่อมฉันก่อน ทำให้หม่อมฉันตกเป็นของอู่อ๋องจึงจำต้องแต่งกับอู่อ๋องเพคะ หลังจากนั้นนางยังมายั่วยวนอู่อ๋องอีก ทำให้อู่อ๋องเอาแต่เพ้อถึงนาง กระทั่งต้องตายไปเพราะนาง  

 

 

นางเคยเป็นสหายร่วมเรียนของฝ่าบาท ตอนนั้นคงต้องพยายามยั่วยวนฝ่าบาทที่ยังเป็นเพียงหนุ่มน้อยอยู่เป็นแน่ ทำให้ฝ่าบาทลุ่มหลงนางยิ่ง สตรีผู้นี้มีแต่จะทำลายฝ่าบาทเพคะ”  

 

 

เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของเฉินปี้ คิ้วของหลินฮองเฮาก็เริ่มขมวดแน่นขึ้นทุกที นางย่อมไม่ชอบหลิงอวี้จื้อและไม่มีทางชอบหลิงอวี้จื้อ แต่นางก็ไม่กล้าเชื่อคำพูดของเฉินปี้ง่ายๆ  

 

 

“ใต้เท้าเฉิน เรื่องที่เจ้าพูดข้าเข้าใจทั้งหมดแล้ว ข้าจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดเอง”  

 

 

“หม่อมฉันมาทูลเรื่องนี้ให้ฮองเฮาทรงทราบเพียงเพราะหวังว่าพระองค์จะระวังสตรีผู้นี้ โปรดทรงระวังอย่าได้หลงกลนางเป็นอันขาด หม่อมฉันเคยถูกกระทำมาแล้ว หวังว่าฮองเฮาจะไม่ถูกนางหลอกลวงไปอีกคน”  

 

 

“ฝ่าบาททรงกำชับไม่ให้หม่อมฉันบอกเรื่องนี้กับผู้อื่น แต่หม่อมฉันทนไม่ได้ที่จะให้ฮองเฮาถูกขังอยู่ในกลองไม่รับรู้เรื่องราวใด และเกรงว่าหลิงอวี้จื้อจะทำร้ายฝ่าบาท อย่างไรนางก็เป็นสตรีของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อครุ่นคิดอยู่นาน หม่อมฉันจึงตัดสินใจมาทูลเรื่องนี้แก่พระองค์เพคะ”  

 

 

“ขอบใจใต้เท้าเฉินมากที่มาบอกกล่าว ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไร เรื่องนี้ข้าจะไม่บอกใคร ใต้เท้าเฉินวางใจได้”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 635 ฮองเฮาเสด็จแล้ว  

 

 

เมื่อเป็นเช่นนี้เฉินปีก็คงไม่พูดอะไรมากอีก จุดประสงค์ของนางคือให้หลินฮองเฮากำจัดหลิงอวี้จื้อ นางรู้ว่าหลินฮองเฮาคิดอย่างไรกับฝ่าบาท ขอเพียงนางชอบฝ่าบาท ให้ความสำคัญกับตำแหน่งของฝ่าบาท ฮองเฮาย่อมไม่มีทางอยู่เฉยแน่  

 

 

ความทุกข์ทนหลายปีของนางล้วนมีความเกี่ยวข้องกับหลิงอวี้จื้อ เมื่อตายไปแล้วก็แล้วไป แต่น่าเสียดายที่ดันกลับมาอีก ทั้งยังกลายเป็นหยวนเฟย เมื่อนางพบก็ยังต้องคุกเข่าให้ เรื่องนี้นางไม่มีทางยอมรับได้เด็ดขาด  

 

 

หลังจากที่เฉินปี้ไปแล้ว หลินฮองเฮาก็ยังคงเหม่อลอยเช่นนั้นอยู่นาน นางไม่อยากเชื่อว่าคนที่ตายไปหลายปีแล้วจะฟื้นคืนมาได้ แต่เรื่องที่เฉินม่อฉือเอาแต่เฝ้าคิดถึงหลิงอวี้จื้อนั้นนางรู้แก่ใจดี  

 

 

ยามนี้หยวนเฟยที่เฉินม่อฉือแต่ตั้งคือหลิงอวี้จื้อ ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือเท็จ การมีนางอยู่ในวังหลังย่อมสร้างความแตกตื่นในคนนังไม่น้อย หากนางเป็นอย่างที่เฉินปี้พูด เช่นนั้นก็ย่อมต้องมีแผนการในใจแน่ หรือจะเป็นคนที่เซียวเหยี่ยนส่งมาสอดแนม  

 

 

หลินฮองเฮายิ่งคิดก็ยิ่งห่วงเฉินม่อฉือ เรื่องที่สำคัญตอนนี้คือเฉินม่อฉือไม่ควรไปลุ่มหลงสตรีไร้หัวนอนปลายเท้า มิเช่นนั้นเขาอาจมีอันตรายได้ นางเป็นฮองเฮา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องช่วยเฉินม่อฉือ  

 

 

ก่อนอื่นนางต้องไปพบหยวนเฟยก่อนเพื่อดูว่านางเป็นสตรีเช่นไรกันแน่  

 

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้นางจึงกำชับไห่ถังให้ช่วยตนหวีผม เตรียมออกไปพบหลิงอวี้จื้อ ไห่ถังก็อยากเห็นเหมือนกันว่าหยวนเฟยเป็นคนเช่นไรจึงรีบหวีผมให้หลินฮองเฮาทันที  

 

 

ไม่นานคนทั้งสองก็ออกจากตำหนักเจาหยางมุ่งไปที่ศาลาฟังฝน  

 

 

เวลานี้หลิงอวี้จื้อกำลังนั่งเท้าคางอยู่ในศาลาฟังฝน กำลังเล่นไข่มุกราตรีสีน้ำเงินเข้มด้วยท่าทีเบื่อหน่ายอย่างที่สุด นี่เป็นของที่เฉินม่อฉือให้มา บอกว่าให้นางเอาไว้ชมเล่น  

 

 

หลิงอวี้จื้อเบื่อหนายจริงๆ เมื่อเห็นว่าไข่มุกราตรีนี้ก็ไม่เลวนักจึงรับไว้ ของอย่างอื่นนางให้เอาไปเก็บไว้ในห้องเก็บของหมดแล้ว  

 

 

“หยวนเฟย ยามเย็นทรงเสวยอะไรเพคะ”  

 

 

หลิงอวี้จื้อส่ายหน้าอย่างหมดแรง “ไม่หิว”  

 

 

“ฝ่าบาททรงตรัสว่า หากหยวนเฟยไม่เสวย หม่อมฉันและบ่าวไพร่คนอื่นๆ จะต้องคุกเข่าอยู่นอกลานเป็นเวลาสามชั่วยามเพคะ ขอหยวนเฟยทรงเมตตาหม่อมฉันด้วยเถิด เสวยอะไรสักนิดก็ยังดีเพคะ้”  

 

 

เสี่ยวเตี๋ยวพลันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วโขกศีรษะให้กับหลิงอวี้จื้อ  

 

 

หลิงอวี้จื้อคิดไม่ถึงว่าเฉินม่อฉือจะใช้แผนนี้ ช่างเป็นเด็กน้อยจริงๆ ใช้แผนนี้มาข่มขู่เธอ  

 

 

“ฝ่าบาททำโทษพวกเจ้าข้าคงทำอะไรไม่ได้”  

 

 

“เสี่ยวเตี๋ย เจ้าไปทูลฝ่าบาทด้วยว่าแค่พระองค์สั่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูกลับไป ข้าก็จะกินข้าว ไม่เช่นนั้นข้าก็คงไม่มีแก่ใจจะกินข้าวจริงๆ มีคนมากมายมาคอยจับจ้อง ชีวิตข้าต้องอยู่แค่เพียงในศาลาฟังฝน มันช่างน่าเบื่อเหลือเกินจริงๆ”  

 

 

หลิงอวี้จื้อรู้ว่าเสี่ยวเตี๋ยเป็นคนของเฉินม่อฉือ ทุกความเคลื่อนไหวของเธอ เสี่ยวเตี๋ยย่อมรายงานให้เฉินม่อฉือทราบ ตอนนี้แม้แต่ศาลาฟังฝนนางยังออกไปไม่ได้เลย ต้องออกจากที่นี่ให้ได้ก่อนค่อยว่าก่อนอีกที มิฉะนั้นเธอคงต้องเป็นโรคซึมเศร้าแน่  

 

 

“หยวนเฟย เชิญเสวยก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันจะนำเรื่องนี้ไปทูลต่อฝ่าบาทเองเพคะ”  

 

 

“ฝ่าบาททรงตกลงก่อน ข้าค่อยกิน”  

 

 

ในเมื่อเฉินม่อฉือใช้วิธีนี้มาขู่เธอ เธอก็จะใช้แผนนี้ตอบโต้เขาเช่นกัน  

 

 

เสี่ยวเตี๋ยเดินออกไปอย่างเงียบๆ เวลานี้เองด้านนอกกลับมีเสียงแหลมสูงร้องขึ้น “ฮองเฮาเสด็จแล้ว”  

 

 

หลิงอวี้จื้อพลันกระตือรือร้นขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าจะมาหาเรื่องถึงที่ เธอรู้อยู่แล้วว่าเฉินม่อฉือแต่งตั้งเธอแบบนี้ ต้องทำให้คนในวังหลังไม่พอใจอย่างมากแน่ แต่ไม่นึกว่าผู้ที่มาคนแรกจะเป็นฮองเฮา  

 

 

อย่างไรเธอก็ว่างอยู่ งั้นก็พบปะพูดคุยกับฮองเฮาที่ผู้คนเล่าลือว่ามีเมตตายิ่งสักหน่อยแล้วกัน ไม่แน่ว่าอาจจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้  

 

 

หากฮองเฮาช่วยให้นางออกจากวังไปได้ คงดีไม่น้อยเลยเชียวล่ะ  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด 634 ยุแยง / 635 ฮองเฮาเสด็จแล้ว

Now you are reading ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด Chapter 634 ยุแยง / 635 ฮองเฮาเสด็จแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 634 ยุแยง  

 

 

“หม่อมฉันมีเรื่องอยากจะทูลฮองเฮาเป็นการส่วนตัวเพคะ”  

 

 

เฉินปี้ก้มหน้าลงแล้วเอ่ยด้วยความนบน้อม  

 

 

หลินฮองเฮาโบกมือให้นางกำนัลทุกคนออกไป เหลือไว้เพียงไฮ่ถัง แล้วจึงเอ่ยปากว่า “ใต้เท้าเฉินมีสิ่งใดก็พูดมาเถิด”  

 

 

“หม่อมฉันอยากพูดเรื่องของหยวนเฟยเพคะ”  

 

 

เมื่อได้ยินคำว่าหยวนเฟย สีหน้าของหลินฮองเฮาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าเหตุใดเฉินปี้จึงเอ่ยถึงหยวนเฟยขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ แต่มิได้ขัดเฉินปี้ จึงปล่อยให้นางพูดต่อไป  

 

 

เฉินปี้จึงพูดต่อว่า “ฮองเฮาทรงทราบหรือไม่ว่าเหตุใดฝ่าบาทจึงแต่งตั้งสตรีที่เพิ่งเข้ามาในวังไม่นานเป็นหยวนเฟย นี่ไม่ใช่การกระทำอันบุ่มบ่าม แต่เพราะฝ่าบาททรงรู้จักกับหยวนเฟยมาก่อน ฝ่าบาทรู้จักกับหยวนเฟยเมื่อหกปีก่อนและหลายปีมานี่ก็ทรงคิดถึงนางไม่ลืมเลือน”  

 

 

หลินฮองเฮาเผยสีหน้าตกใจและหวาดกลัวออกมา “เป็นไปไม่ได้ นางตายไปแล้ว”  

 

 

เรื่องที่เฉินม่อฉือชอบหลิงอวี้จื้อ หลินฮองเฮานั้นทราบดี  

 

 

เพียงแต่หลิงอวี้จื้อเป็นพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทั้งนางก็ตายไปห้าปีแล้ว หลินฮองเฮาจึงไม่เคยเอาเรื่องนี้มาใส่ใจ อย่างไรตอนนั้นเฉินม่อฉือก็เป็นเพียงเด็กหนุ่ม แต่เมื่อเฉินปี้เอ่ยเช่นนี้กลับทำให้นางรู้สึกขนลุกขึ้นมา  

 

 

คนที่ตายไปห้าปีแล้วจะกลับมาได้อย่างไร ทั้งนางก็เคยได้ยินว่าศพของสตรีผู้นั้นยังอยู่กับเซียวเหยี่ยนตลอดมา  

 

 

“นางตายแล้วจริงๆ แต่ไม่รู้เหตุใด ตอนนี้ถึงได้กลับมาในร่างใหม่ ฝ่าบาทสงสัยในตัวนาง คืนวันนั้นจึงให้หม่อมฉันไปลองใจนาง ตอนนี้มั่นใจแล้วว่านางคือพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่ตายไปเมื่อห้าปีก่อนจริงๆ ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันเคยทะเลาะกับนางอยู่หลายครั้ง ฮองเฮาก็คงทราบดีว่าเดิมหม่อมฉันนั้นต้องแต่งให้กับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่ก่อนถึงวันมงคลหม่อมฉันกลับถึงยกให้แต่งกับอู่อ๋อง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะหลิงอวี้จื้อเพคะ”  

 

 

หลินฮองเฮาไม่อยากจะเชื่อที่เฉินปี้พูด สองมือกำชายกระโปรงแน่นโดยไม่รู้ตัว สีหน้ายังคงเต็มไปด้วยความแปลกใจไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าพูดจริงหรือ”  

 

 

“เรื่องใหญ่เพียงนี้ หม่อมฉันไม่กล้าหลอกลวงพระองค์แน่เพคะ ฮองเฮา หลิงอวี้จื้อเป็นสตรีเหลี่ยมจัด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จึงถูกนางทำให้ลุ่มหลงจนลืมตัว”  

 

 

“ตอนนั้นไทเฮาทรงให้หม่อมฉันเป็นพระชายารองของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตัวหม่อมฉันมีใจให้กับเขาอยู่แล้วจึงยินดีเป็นชายารอง แต่คิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จื้อกลับไม่ยอม หม่อมฉันยังมิทันได้แต่งเข้านางก็คิดแผนการมาใส่ร้ายหม่อมฉันก่อน ทำให้หม่อมฉันตกเป็นของอู่อ๋องจึงจำต้องแต่งกับอู่อ๋องเพคะ หลังจากนั้นนางยังมายั่วยวนอู่อ๋องอีก ทำให้อู่อ๋องเอาแต่เพ้อถึงนาง กระทั่งต้องตายไปเพราะนาง  

 

 

นางเคยเป็นสหายร่วมเรียนของฝ่าบาท ตอนนั้นคงต้องพยายามยั่วยวนฝ่าบาทที่ยังเป็นเพียงหนุ่มน้อยอยู่เป็นแน่ ทำให้ฝ่าบาทลุ่มหลงนางยิ่ง สตรีผู้นี้มีแต่จะทำลายฝ่าบาทเพคะ”  

 

 

เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของเฉินปี้ คิ้วของหลินฮองเฮาก็เริ่มขมวดแน่นขึ้นทุกที นางย่อมไม่ชอบหลิงอวี้จื้อและไม่มีทางชอบหลิงอวี้จื้อ แต่นางก็ไม่กล้าเชื่อคำพูดของเฉินปี้ง่ายๆ  

 

 

“ใต้เท้าเฉิน เรื่องที่เจ้าพูดข้าเข้าใจทั้งหมดแล้ว ข้าจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดเอง”  

 

 

“หม่อมฉันมาทูลเรื่องนี้ให้ฮองเฮาทรงทราบเพียงเพราะหวังว่าพระองค์จะระวังสตรีผู้นี้ โปรดทรงระวังอย่าได้หลงกลนางเป็นอันขาด หม่อมฉันเคยถูกกระทำมาแล้ว หวังว่าฮองเฮาจะไม่ถูกนางหลอกลวงไปอีกคน”  

 

 

“ฝ่าบาททรงกำชับไม่ให้หม่อมฉันบอกเรื่องนี้กับผู้อื่น แต่หม่อมฉันทนไม่ได้ที่จะให้ฮองเฮาถูกขังอยู่ในกลองไม่รับรู้เรื่องราวใด และเกรงว่าหลิงอวี้จื้อจะทำร้ายฝ่าบาท อย่างไรนางก็เป็นสตรีของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อครุ่นคิดอยู่นาน หม่อมฉันจึงตัดสินใจมาทูลเรื่องนี้แก่พระองค์เพคะ”  

 

 

“ขอบใจใต้เท้าเฉินมากที่มาบอกกล่าว ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไร เรื่องนี้ข้าจะไม่บอกใคร ใต้เท้าเฉินวางใจได้”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 635 ฮองเฮาเสด็จแล้ว  

 

 

เมื่อเป็นเช่นนี้เฉินปีก็คงไม่พูดอะไรมากอีก จุดประสงค์ของนางคือให้หลินฮองเฮากำจัดหลิงอวี้จื้อ นางรู้ว่าหลินฮองเฮาคิดอย่างไรกับฝ่าบาท ขอเพียงนางชอบฝ่าบาท ให้ความสำคัญกับตำแหน่งของฝ่าบาท ฮองเฮาย่อมไม่มีทางอยู่เฉยแน่  

 

 

ความทุกข์ทนหลายปีของนางล้วนมีความเกี่ยวข้องกับหลิงอวี้จื้อ เมื่อตายไปแล้วก็แล้วไป แต่น่าเสียดายที่ดันกลับมาอีก ทั้งยังกลายเป็นหยวนเฟย เมื่อนางพบก็ยังต้องคุกเข่าให้ เรื่องนี้นางไม่มีทางยอมรับได้เด็ดขาด  

 

 

หลังจากที่เฉินปี้ไปแล้ว หลินฮองเฮาก็ยังคงเหม่อลอยเช่นนั้นอยู่นาน นางไม่อยากเชื่อว่าคนที่ตายไปหลายปีแล้วจะฟื้นคืนมาได้ แต่เรื่องที่เฉินม่อฉือเอาแต่เฝ้าคิดถึงหลิงอวี้จื้อนั้นนางรู้แก่ใจดี  

 

 

ยามนี้หยวนเฟยที่เฉินม่อฉือแต่ตั้งคือหลิงอวี้จื้อ ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือเท็จ การมีนางอยู่ในวังหลังย่อมสร้างความแตกตื่นในคนนังไม่น้อย หากนางเป็นอย่างที่เฉินปี้พูด เช่นนั้นก็ย่อมต้องมีแผนการในใจแน่ หรือจะเป็นคนที่เซียวเหยี่ยนส่งมาสอดแนม  

 

 

หลินฮองเฮายิ่งคิดก็ยิ่งห่วงเฉินม่อฉือ เรื่องที่สำคัญตอนนี้คือเฉินม่อฉือไม่ควรไปลุ่มหลงสตรีไร้หัวนอนปลายเท้า มิเช่นนั้นเขาอาจมีอันตรายได้ นางเป็นฮองเฮา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องช่วยเฉินม่อฉือ  

 

 

ก่อนอื่นนางต้องไปพบหยวนเฟยก่อนเพื่อดูว่านางเป็นสตรีเช่นไรกันแน่  

 

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้นางจึงกำชับไห่ถังให้ช่วยตนหวีผม เตรียมออกไปพบหลิงอวี้จื้อ ไห่ถังก็อยากเห็นเหมือนกันว่าหยวนเฟยเป็นคนเช่นไรจึงรีบหวีผมให้หลินฮองเฮาทันที  

 

 

ไม่นานคนทั้งสองก็ออกจากตำหนักเจาหยางมุ่งไปที่ศาลาฟังฝน  

 

 

เวลานี้หลิงอวี้จื้อกำลังนั่งเท้าคางอยู่ในศาลาฟังฝน กำลังเล่นไข่มุกราตรีสีน้ำเงินเข้มด้วยท่าทีเบื่อหน่ายอย่างที่สุด นี่เป็นของที่เฉินม่อฉือให้มา บอกว่าให้นางเอาไว้ชมเล่น  

 

 

หลิงอวี้จื้อเบื่อหนายจริงๆ เมื่อเห็นว่าไข่มุกราตรีนี้ก็ไม่เลวนักจึงรับไว้ ของอย่างอื่นนางให้เอาไปเก็บไว้ในห้องเก็บของหมดแล้ว  

 

 

“หยวนเฟย ยามเย็นทรงเสวยอะไรเพคะ”  

 

 

หลิงอวี้จื้อส่ายหน้าอย่างหมดแรง “ไม่หิว”  

 

 

“ฝ่าบาททรงตรัสว่า หากหยวนเฟยไม่เสวย หม่อมฉันและบ่าวไพร่คนอื่นๆ จะต้องคุกเข่าอยู่นอกลานเป็นเวลาสามชั่วยามเพคะ ขอหยวนเฟยทรงเมตตาหม่อมฉันด้วยเถิด เสวยอะไรสักนิดก็ยังดีเพคะ้”  

 

 

เสี่ยวเตี๋ยวพลันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วโขกศีรษะให้กับหลิงอวี้จื้อ  

 

 

หลิงอวี้จื้อคิดไม่ถึงว่าเฉินม่อฉือจะใช้แผนนี้ ช่างเป็นเด็กน้อยจริงๆ ใช้แผนนี้มาข่มขู่เธอ  

 

 

“ฝ่าบาททำโทษพวกเจ้าข้าคงทำอะไรไม่ได้”  

 

 

“เสี่ยวเตี๋ย เจ้าไปทูลฝ่าบาทด้วยว่าแค่พระองค์สั่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูกลับไป ข้าก็จะกินข้าว ไม่เช่นนั้นข้าก็คงไม่มีแก่ใจจะกินข้าวจริงๆ มีคนมากมายมาคอยจับจ้อง ชีวิตข้าต้องอยู่แค่เพียงในศาลาฟังฝน มันช่างน่าเบื่อเหลือเกินจริงๆ”  

 

 

หลิงอวี้จื้อรู้ว่าเสี่ยวเตี๋ยเป็นคนของเฉินม่อฉือ ทุกความเคลื่อนไหวของเธอ เสี่ยวเตี๋ยย่อมรายงานให้เฉินม่อฉือทราบ ตอนนี้แม้แต่ศาลาฟังฝนนางยังออกไปไม่ได้เลย ต้องออกจากที่นี่ให้ได้ก่อนค่อยว่าก่อนอีกที มิฉะนั้นเธอคงต้องเป็นโรคซึมเศร้าแน่  

 

 

“หยวนเฟย เชิญเสวยก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันจะนำเรื่องนี้ไปทูลต่อฝ่าบาทเองเพคะ”  

 

 

“ฝ่าบาททรงตกลงก่อน ข้าค่อยกิน”  

 

 

ในเมื่อเฉินม่อฉือใช้วิธีนี้มาขู่เธอ เธอก็จะใช้แผนนี้ตอบโต้เขาเช่นกัน  

 

 

เสี่ยวเตี๋ยเดินออกไปอย่างเงียบๆ เวลานี้เองด้านนอกกลับมีเสียงแหลมสูงร้องขึ้น “ฮองเฮาเสด็จแล้ว”  

 

 

หลิงอวี้จื้อพลันกระตือรือร้นขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าจะมาหาเรื่องถึงที่ เธอรู้อยู่แล้วว่าเฉินม่อฉือแต่งตั้งเธอแบบนี้ ต้องทำให้คนในวังหลังไม่พอใจอย่างมากแน่ แต่ไม่นึกว่าผู้ที่มาคนแรกจะเป็นฮองเฮา  

 

 

อย่างไรเธอก็ว่างอยู่ งั้นก็พบปะพูดคุยกับฮองเฮาที่ผู้คนเล่าลือว่ามีเมตตายิ่งสักหน่อยแล้วกัน ไม่แน่ว่าอาจจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้  

 

 

หากฮองเฮาช่วยให้นางออกจากวังไปได้ คงดีไม่น้อยเลยเชียวล่ะ  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+