โปรเพลเยอร์วัยเกษียณบทที่ 68 การเดินทางลงมาจากภูเขา

Now you are reading โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ Chapter บทที่ 68 การเดินทางลงมาจากภูเขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 68 การเดินทางลงมาจากภูเขา

คิริโชยิ้มและยื่นมือออกมาข้างหน้าจับมือกับไอเซ็นเพื่อทักทายกลับ “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะไอเซ็น ข้าชื่อคิริโช ดูเหมือนคุณจะผ่านบททดสอบสุดท้ายแล้วสินะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ”

เธอหัวเราะเบา ๆ และเอามือป้องปากขณะหลับตาลง ทําให้ไอเซ็นยิ้มตอบ “ขอบคุณนะ มันช่างเป็นอะไรที่เกิดคาดไปหน่อย ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่หมอกธรรมดาแน่ แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเป็นคน…”

คําพูดของไอเซ็นทําให้คิริโชประหลาดใจก่อนจะเอียงหัวไปด้านข้าง “เอ่อ…คน? เจ้าคิดว่าฉันเป็นคนเหรอ?” เธอถามในความสับสน และไอเซ็นก็พยักหน้าพร้อมการขมวดคิว

“ใช่สิ เธอเป็นคนไม่ใช่เหรอ? คือ ฉันไม่ได้สนใจหรอกนะว่าเธอจะเป็นมอนสเตอร์, เอลฟ์, มนุษย์, นางฟ้า หรืออะไรก็ตาม และเธอก็ดูเป็นคนดี และอิลเล็นก็ไว้ใจเธอมากพอจึงเลือกให้เฝ้าทางเข้าที่แห่งนี้ ก็นั่นแหละ ฉันเลยคิดว่าเธอคือคน” ชายแก่อธิบาย แก้มสีขาวทั้งสองข้างของคิริโชเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ๆ

“เข้าใจแล้ว…ขอบใจนะไอเซ็น จะว่าอะไรหรือไม่หากข้าจะถามอะไรบางอย่าง?” เธอยิ้ม และไอเซ็นก็พยักหน้า

“ได้สิ ถามมาเลย เธออยากรู้อะไรล่ะ?” เขาพูด และคิริโชก็พยักหน้าช้า ๆ

“ใครคือ…ฮานาโกะ เหรอ?”

ดวงตาไอเซ็นเบิกกว้าง เขาไม่ได้อายที่จะทําอะไรในระหว่างหรือหลังการทดสอบ แต่เขาลืมไปเสียสนิทในสิ่งที่ควรจะลืม แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถแสร้งทําเป็นว่าไม่เคย พูดชื่อฮานาโกะได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะพูดความจริง และผสมกับเรื่องราวที่เอริเตรียมไว้ให้สําหรับเหล่ากลุ่มผู้บุกเบิก

“คือ…ฉันนึกถึงคน ๆ หนึ่งระหว่างการทดสอบตอนที่ฉันได้เห็นและได้ยินเสียงของเธอ ฮานาโกะ… เธอคือภรรยาของฉันเอง แต่เธอจากไปนานแล้ว ฉันคิดว่าที่ฉันหวั่นไหวในตอนนั้นก็เพราะเหตุนี้แหละ” ไอเซ็นอธิบาย และคิริโชก็เริ่มมีสีหน้าสลดใจ

“เป็นเช่นนั้นเองเหรอคะ? เข้าใจแล้ว… ข้าขอโทษด้วยไอเซ็นที่ทําให้เจ้าหวนนึกถึงนาง… แต่…ข้าต้องไปแล้ว… ข้ารู้สึกเหนื่อย…” คิริโชพูดขณะพยายามฝืนลืมตาจากนั้นรูปร่างของเธอก็ค่อย ๆ เลือนหายไป

“งั้นก็ไปพักผ่อนนะคิริโช ไว้คุยกันใหม่” ไอเซ็นพูดและคิริโชก็พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนกลับเป็นหมอกดังเดิม ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องโถง

ไอเซ็นหันไปมองอิลเล็นที่กําลังมองเขาด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น “น่าสนใจจริง ๆ ปกตินางไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ และข้าได้อย่างเต็มปากเลยว่า ข้าไม่เคยเห็นนางแก้มแดงมาก่อน” มังกรหัวเราะเบา ๆ

ไอเซ็นไม่ได้สนใจคําพูดของเขาและเริ่มถามสิ่งที่เขากังวล “นี่คือชีวิตปกติของเธอเหรอ? ใช้เวลานอนเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือเป็นเดือน และพอตื่นขึ้นมา ก็อยู่ได้แค่ครึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ?”

อิลเล็นถอนหายใจและมองไอเซ็นที่มีสีหน้าสลด “ใช่ แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นตลอด หรอกนะ เจ้าก็เห็นว่าคิริโชมีจิตวิญญาณหมอก นางมีชีวิตที่แสนสั้นแต่มีความสุข และด้วยเหตุผลบางประการที่ข้ายังไม่ได้บอกกับเจ้าเรื่องนี้ คือความตายของนางไม่ได้รับอนุญาตให้ย้ายไปอยู่ในชีวิตหลังความตาย นางติดอยู่ในโลกนี้เพราะคําสาปของเดียรัจฉานที่ชั่วร้าย และถูกผูกติดกับเครื่องรางในสภาพที่ต้องหลับใหลอยู่ตลอด เครื่องรางที่ว่าคือสิ่งที่ข้าบังเอิญพบระหว่างการเดินทาง และการมองผ่านดวงตาที่เห็นความจริง ข้าจึงเห็นว่ามีวิญญาณติดอยู่ข้างในและปลดปล่อยเธอออกมา ช่วงระยะเวล

หนึ่งที่นางมีชีวิตเหมือนผู้คนทั่ว ๆ ไป ที่นอนในตอนกลางคืน และตื่นในตอนกลางวัน แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีบางอย่างเกิดขึ้นกับนาง มีกลุ่มนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งเดินทางมายังภูเขาแห่งนี้และผ่านเข้ามายังห้องสมบัติของข้าในขณะที่ข้าไม่อยู่ และถ้ํานี้ก็มีแค่คิริโชที่คอยดูแล กลุ่มนักผจญภัยพบนางเข้าและพยายามที่จะฆ่านางทันที เพราะคิดว่านางเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่ในร่างของผู้หญิง ไม่ช้า พวกเขาก็ได้รู้ว่าเครื่องราง นั่นคือที่มาของการมีอยู่ของนาง และสามารถทําลายให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ ส่วนสําคัญของอัญมณีที่ฝังอยู่ข้างในเครื่องรางยังคงอยู่ในสภาพดี ช่วยให้คิริโชยังมีชิวิตอยู่ต่อไป แม้จะมีสภาพอย่างที่เจ้าเห็นก็ตาม ช่างน่าเศร้าที่กลุ่มนักผจญภัยนําอัญมณีพร้อมกับเครื่องรางทั้งหมดกลับไปด้วย”

ไอเซ็นเบือนหน้าหนีจากอิลเล็นที่จะไม่ให้เขาได้เห็นใบหน้าในตอนนี้ และหันไปมองห้องที่เต็มไปด้วยหมอกอีกครั้ง “โหดร้ายมาก… อิลเล็น มันพอจะมีทางไหนไหมที่ผมพอจะช่วยเหลือได้บ้าง?”

“หม เจ้าหมายความเช่นนั้นจริง ๆ ?” อิลเล็นถามด้วยความประหลาดใจ และไอเซ็นก็พยักหน้า “ครับ ผมอยากช่วยจริง ๆ แบบนี้มันไม่ชวนมองเลย… คิริโชอยู่ที่นี่ แต่ก็เหมือนไม่อยู่ นาน ๆ ครั้งเธอจะได้คุยกับคนอื่นบ้าง นั่นควรจะเป็นหนทางที่มีชีวิตอยู่ต่อไม่ใช่เหรอครับ?”

“ไอเซ็น ข้าดีใจนะที่เจ้าอยากจะช่วยเหลือ งั้นก็ได้ ยังพอมีหนทางที่เจ้าจะช่วยได้อยู่ ในตอนที่คิริโชต่อสู้กับกลุ่มนักผจญภัย หนึ่งในพวกเขาได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ มันอยู่ในห้องสมบัติของข้า เจ้าอาจจะได้พบว่าเขาคือใครและกลุ่มของพวกเขาอยู่ที่ใด”

[ภารกิจใหม่ – ชิ้นส่วนที่ถูกขโมยไป]

[คําอธิบาย]

นักผจญภัยหลุ่มหนึ่งได้ทําลายเครื่องรางซึ่งจิตวิญญาณแห่งหมอกคิริโชถูกผนึกไว้ โดยพวกเขาได้ขโมยชิ้นส่วนหลักไป เหตุนี้จึงทําให้คิริโชอยู่ในสภาพที่แทบจะไม่เหลือการมีตัวตนอยู่ของเธอ คุณต้องการที่จะช่วยเหลือ และเช่นนั้น อิลเล็นเทิร์ธมังกรทองค่าโบราณจึงขอให้คุณตามหานักผจญภัยกลุ่มนั้น และหวังว่าจะเจอเศษชิ้นส่วนจากร่องรอยของหนึ่งในกลุ่มนักผจญภัยที่หลงเหลืออยู่ ออกตามหาเศษชิ้นส่วนและนํากลับมารวมกันอีกครั้ง

[รางวัล]

คิริโชจะได้กลับมามีชีวิตปกติอีกครั้งหนึ่ง

[ความล้มเหลว]

คิริโชจะยังคงใช้ชีวิตอยู่ในสภาพเดิมต่อไป

“ฟังดูเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลย ขอบคุณนะครับ อิลเล็น” ไอเซ็นพูดก่อนที่จะอ่านการแจ้งเตือนภารกิจทั้งหมดแล้วก็ปิด จากนั้นก็ตามมังกรกลับไปยังห้องสมบัติ ซึ่งเขาได้มอบแผ่นเหล็กขนาดเล็กที่มีรูปร่างเหมือนกับด็อกแท็กแผ่นหนึ่ง บนนั้นมีการแกะสลักเล็ก ๆ อยู่ ซึ่งเขาอ่านไม่ออกเพราะไม่ใช่ภาษาที่เขารู้จักหรือเป็นสัญลักษณ์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

อิลเล็นมองไอเซ็นและยิ้ม “ข้าหวังว่าเจ้าจะพบพวกเขานะ ตอนนี้บททดสอบได้สิ้นสุดลงแล้ว เจ้าอยากจะกลับเมลโรเลยไหม? ข้ามั่นใจว่าสหายของเจ้ากําลังตั้งหน้าตั้งตารอให้เจ้ากลับไปอยู่นะ ข้าบินไปส่งเจ้าได้หากต้องการ” เขาพูดแนะน่า แต่ไอเซ็นกลับส่ายหน้า

“ขอบคุณนะครับ แต่ผมจะเดินไป ผมอยากให้อลได้มีประสบการณ์กับภูมิประเทศต่างๆ เพราะงั้นการเดินลงไปจากตรงนี้ก็คงเป็นความคิดที่ดีครับ ไว้ผมจะกลับมาอีกนะครับ และขอบคุณสําหรับโอกาสที่ให้ผมได้เป็นแชมป์เปี้ยนนะครับอิลเล็น”
“ด้วยความยินดี ข้าดีใจที่ทุกสิ่งเป็นไปอย่างราบรื่น”

เช่นนั้นแล้ว ไอเซ็นก็ได้ไปเก็บข้าวของจากในห้องทํางานและมุ่งหน้าเพื่อลงจากภูเขาพร้อมกับคาเรียบนไหล่และอลที่ตามติดอยู่ทางด้านหลัง

“เอาล่ะคาเรีย ฉันจะจับมันไว้แน่น ๆ นะ มันจะได้หนีไปไหนไม่ได้ เธอล่วงหน้าไป และเตะมันเลยนะโอเคไหม? เอาให้สุดแรงเกิดไปเลย!” ไอเซ็นพูดขณะจับตัวตุ่นหินอันดับหนึ่งเพื่อไม่ให้มันขยับไปไหนได้ ระหว่างทางลงเขา เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาบังเอิญพบมอนสเตอร์ที่อ่อนแอพอสําหรับเขาที่จะเอาชนะได้โดยง่ายแบบไม่ต้องออกมาแรงมาก เขาจะปล่อยให้คาเรียได้โจมตีพวกมันเท่าที่เธอจะทําได้เพื่อให้ได้รับค่าประสบการณ์ที่เหมาะสมสําหรับการเปลี่ยนอันดับ เพราะตอนนี้เธอยังทําอะไรได้ไม่มากนัก ดังนั้นเขาจึงต้องช่วยให้อันดับของเธอเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะได้ปลดล็อคค่าไหวพริบ และค่าสติปัญญาที่จําเป็นสําหรับการใช้มานา

เช่นนั้นแล้ว เธอจะได้เรียนรู้ทักษะมากมาย เนื่องจากไอเซ็นต้องการชุบเลี้ยงเธอให้คลุกคลีกับสมุนไพรและพืชชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้สําหรับการปรุงอาหารด้วยการเล่นแร่แปลธาตุ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์หากเธอจะได้เป็นเกษตรตัวน้อยในแปลงผัก หากวันหนึ่งไอเซ็นได้สร้างบ้านพักของตัวเองบนที่ดินสักแห่งหนึ่ง

ไมโคนิคตัวน้อยพยักหน้าและวิ่งไปเตะตัวหุ่นให้แรงที่สุดเท่าที่มันจะทําได้ แน่นอนว่าามันไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น แต่ก็แรงพอที่ระบบจะจดจําเธอว่าเป็นหนึ่งในนักโจมตี ก่อนที่ไอเซ็นจะจัดการที่เหลือให้

เนื่องจากคาเรียทําความเสียหายไม่ได้มาก เธอจึงได้รับค่าประสบการณ์ที่ไม่เยอะ แต่อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะทําให้อันดับของเธอเปลี่ยนได้เสียก่อนที่พวกเขาจะกลับไปถึงเมลโร เพื่อให้เกิดความยุติธรรม เมื่อเห็นว่าอันดับของคาเรียใกล้เพิ่มแล้ว ไอเซ็นจึงออกไปตามหามอนสเตอร์เพิ่มเติม

และเมื่ออันดับเธอเปลี่ยน คาเรียก็กลายเป็น เด็กน้อยไมโคนิด มีขนาดใหญ่กว่าร่างตัวอ่อนสองเท่า นอกจากนี้เธอยังมีแขนงอกออกมาสองข้างอีกด้วย! มันเป็นเหมือนตอไม้เล็ก ๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีแขนเลยจริงไหมล่ะ?

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ คาเรียก็เงยหน้ามองไอเซ็นด้วยดวงตาที่เหมือนจุดสองจุดอย่างมีความสุขและกระโดดขึ้นไปหาเขาเพื่อเป็นการมอบอ้อมกอดที่แท้จ

“ไม่เป็นไรคาเรีย ฉันเองก็มีความสุขเหมือนกัน เชื่อสิ ตอนนี้เรากลับโรงแรมกันก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องฝึกการจัดการมานาเอาไว้ที่หลังแล้วกันโอเคไหม? ถ้าฉันทําได้ เธอก็ต้องทําได้!” ไอเซ็นหัวเราะเสียงดังและโบกมือให้อลตามมาใกล้ ๆ เนื่องจากพวกเขาเข้าใกล้เมืองเมลโรมากขึ้นแล้ว ส่วนคาเรียนั่งอยู่บนไหล่เช่นเคย

มันเป็นที่ไหนสักแห่งในช่วงสนธยา และคนงานคนสุดท้ายที่ทํางานอยู่นอกเมืองก็กําลังเดินทางกลับเข้าเมืองเช่นกัน

ไอเซ็นเดินผ่านฝูงชนที่ต้องการจะไปพบปะกันเพื่อดื่มหลังจากเลิกงานของวันที่ยาวนาน และมุ่งตรงไปยังโรงแรม เขาใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติเนื่องจากอลูยังไม่รู้วิธีการเดินผ่านฝูงชนเช่นนี้ และหากไอเซ็นไม่ได้สั่งแบบเจาะจงว่าจะให้เธอเดินอย่างไร เธอก็จะเดินเป็นเส้นตรงเพื่อผลักทุกคนที่ขวางทางไปด้านข้าง

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มาถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย ไอเซ็นเดินผ่านประตูหน้าเพื่อไปยังจุดต้อนรับเพื่อคุยกับเจ้าของโรงแรม

“โอ้ ตาเฒ่า! ไม่เจอกันหลายวันเลยนะ! หายไปไหนมา?” คนแคระถามด้วยน้ําเสียงที่ดังลั่นทันทีที่เห็นไอเซ็น

“ใช่ ฉันออกไปทําธุระนอกเมืองมาน่ะ บรีกับพวกสัตว์ป่าที่มาด้วยกันครั้งนั้นอยู่ไหม?” ไอเซ็นถาม

“พวกเขาอยู่ในห้อง เอ้อ แล้วก็ดูเหมือนเจ้าจ่อจะตื่นแล้วนะเมื่อวานนี้ เพราะงั้นเขาก็น่าจะอยู่ข้างในด้วย” เจ้าของโรงแรมอธิบาย และไอเซ็นก็กล่าวขอบคุณก่อนจะเดินไปยังห้องขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้นล่างซึ่งเป็นที่ที่เขาและบรีได้พาเจี้ยกและบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายมาอยู่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้

เขาเคาะประตูและได้ยินเสียงใครบางคนรีบวิ่งมาที่ประตูจากนั้นก็ค่อย ๆ เปิดออก ในเวลาต่อมา “คะ?” บรถามด้วยด้วยรอยยิ้มที่สดใสและยิ่งสดใสมากขึ้นเมื่อเธอได้เห็นไอเซ็นยืนอยู่หน้าประตู “เอ๋! คุณกลับมาแล้ว! เป็นยังไงบ้างคะ?!” เธอถามอย่างตื่นเต้น และดึงไอเซ็นเข้ามาในห้องเพื่อคุยกัน

ภายในห้องมีบุคคลที่เจ้าของโรงแรมพูดไว้ว่าเขาตื่นแล้ว นั่นก็คือเจี๊ยก ตอนนี้เขากําลังนั่งอยู่บนเตียงเพื่อป้อนอาหารลูก ๆ ของเขา เมื่อเขาเห็นไอเซ็นก็รีบยืนขึ้นทันที และเดินเข้ามาหา “ไอเซ็น! บรีบอกผมว่าคุณขึ้นไปบนยอดเขา! เป็นยังไงบ้างครับ เล่าให้เราฟังหน่อยสิ! แล้ว… สองคนนั้นใครเหรอครับ?” เจียกถามด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อย และแม้แต่บรีเองก็มองอลด้วยสายตาที่กระหายความอยากรู้

“งั้นฉันอธิบายเลยก็แล้วกันนะ เริ่มจากแม่สาวน้อยคนนี้ คาเรีย! เธอเป็นไมโคนิด! เธอฟักตัวออกมาจากไข่ใบที่นายให้ฉันมา” ไอเซ็นอธิบาย

“นั่นเป็นไข่ของไมโคนิดเหรอครับ? น่าสนใจจริง ๆ!” มนุษย์วานรเปล่งเสียงและเอนกายเข้ามาใกล้ขึ้น ซึ่งทําให้คาเรียพยายามซ่อนตัวอยู่หลังหัวของไอเซ็น บรีเอียงหัวและถาม “แต่ดูจะตัวใหญ่ขึ้นกว่าก่อนหน้านี้นะคะ ใช่ไหม?”

“ใช่! อันดับเธอเพิ่งเปลี่ยนเมื่อไม่นานนี้เอง ระหว่างที่ฉันลงมาจากภูเขา ฉันฆ่าสัตว์ป่าที่เจอตามทางและให้เธอช่วยโจมตีเพื่อให้พอได้รับค่าประสบการณ์จนอันดับเพิ่มน่ะ ตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแขนแล้วด้วย ส่วนนอกจากนั้นก็เหมือนเดิมหมด” ไอเซ็นอธิบายและยกคาเรียด้วยมือทั้งสองออกมาข้างหน้า ทั้งเลี้ยกและบรีมองเธออยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเบนความสนใจไปที่อลู

ไอเซ็นบอกพวกเขาเรื่องบททดสอบที่ได้รับจากอิลเล็น และบอกถึงวิธีสร้างหุ่นยนต์อลูเพื่อที่จะได้ใช้ทักษะที่สําคัญทั้งหมดของเขา จากนั้นเขาก็ได้แสดงอิทธิพลของทักษะใหม่ให้พวกเขาดูว่ามันเป็นอย่างไร

หลังจากบอกเล่าเรื่องราวจบแล้ว เจี๊ยกก็พิงผนังห้อง “โอ้? ผมคงต้องไปเจอมังกรบ้างแล้วสินะ…”

แต่ไอเซ็นส่ายหน้าเพื่อให้คําแนะนําเรื่องนี้ “ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่ไปนะ อย่างแรกคือ ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายจะแค่เดินไปหามังกรแล้วขอบททดสอบเลยได้ไหม ถ้าหนึ่งใน พวกเขาคิดว่านายคู่ควร พวกเขาจะเข้ามาหานายเอง อีกอย่างนะ ฉันก็ไม่มั่นใจด้วยว่า ดวงตาที่มองเห็นความจริงนี้จะเหมาะกับนายหรือเปล่า แน่นอนว่านายใช้มันเพื่อระบุประเภทสัตว์และพืชนา ๆ ชนิดได้ แต่บางทีมังกรจะหาสิ่งที่น่าสนใจในตัวนายและ มอบมันให้กับนายเป็นของขวัญที่เหมาะกับนายที่สุด สําหรับฉันนะ มันสมบูรณ์แบบ สุด ๆ มันช่วยให้ฉันระบุคุณสมบัติต่าง ๆ ของเครื่องมือ, อาวุธ และวัสดุได้อย่าง ง่ายดาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะระบุได้นะ แต่จะทําไม่ได้กับจําพวกวัสดุเวทมนต์ บางทีฉันก็มองเห็นเวทมนต์ที่ไหลวนอยู่ด้วย และเมื่อพิจารณจากทักษะเวทมนต์ทั้งสองที่เกี่ยวข้องกับทักษะงานฝีมือนั้น บอกได้เลยว่านี่มันดีสุด ๆ ท้ายที่สุดมันเป็นทางเลือกของนายเอง แต่ฉันจะรอจนกว่าจะมีมังกรมาขอให้นายเข้ารับการทดสอบนะ ฉันมั่นใจว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ไม่ต้องห่วง”

ไอเซ็นอธิบายให้เลี้ยกฟัง และเขาก็ถอนหายใจเล็กน้อย “ครับ มันก็ฟังดูมีเหตุผลนะ ไอเซ็นครับ แล้วคุณมีแผนจะทําอะไรต่อ?” มนุษย์วานรถาม และไอเซ็นก็เลือกที่จะบอกแผนที่คิดไว้แก่พวกเขา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

โปรเพลเยอร์วัยเกษียณบทที่ 68 การเดินทางลงมาจากภูเขา

Now you are reading โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ Chapter บทที่ 68 การเดินทางลงมาจากภูเขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 68 การเดินทางลงมาจากภูเขา

คิริโชยิ้มและยื่นมือออกมาข้างหน้าจับมือกับไอเซ็นเพื่อทักทายกลับ “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะไอเซ็น ข้าชื่อคิริโช ดูเหมือนคุณจะผ่านบททดสอบสุดท้ายแล้วสินะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ”

เธอหัวเราะเบา ๆ และเอามือป้องปากขณะหลับตาลง ทําให้ไอเซ็นยิ้มตอบ “ขอบคุณนะ มันช่างเป็นอะไรที่เกิดคาดไปหน่อย ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่หมอกธรรมดาแน่ แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเป็นคน…”

คําพูดของไอเซ็นทําให้คิริโชประหลาดใจก่อนจะเอียงหัวไปด้านข้าง “เอ่อ…คน? เจ้าคิดว่าฉันเป็นคนเหรอ?” เธอถามในความสับสน และไอเซ็นก็พยักหน้าพร้อมการขมวดคิว

“ใช่สิ เธอเป็นคนไม่ใช่เหรอ? คือ ฉันไม่ได้สนใจหรอกนะว่าเธอจะเป็นมอนสเตอร์, เอลฟ์, มนุษย์, นางฟ้า หรืออะไรก็ตาม และเธอก็ดูเป็นคนดี และอิลเล็นก็ไว้ใจเธอมากพอจึงเลือกให้เฝ้าทางเข้าที่แห่งนี้ ก็นั่นแหละ ฉันเลยคิดว่าเธอคือคน” ชายแก่อธิบาย แก้มสีขาวทั้งสองข้างของคิริโชเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ๆ

“เข้าใจแล้ว…ขอบใจนะไอเซ็น จะว่าอะไรหรือไม่หากข้าจะถามอะไรบางอย่าง?” เธอยิ้ม และไอเซ็นก็พยักหน้า

“ได้สิ ถามมาเลย เธออยากรู้อะไรล่ะ?” เขาพูด และคิริโชก็พยักหน้าช้า ๆ

“ใครคือ…ฮานาโกะ เหรอ?”

ดวงตาไอเซ็นเบิกกว้าง เขาไม่ได้อายที่จะทําอะไรในระหว่างหรือหลังการทดสอบ แต่เขาลืมไปเสียสนิทในสิ่งที่ควรจะลืม แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถแสร้งทําเป็นว่าไม่เคย พูดชื่อฮานาโกะได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะพูดความจริง และผสมกับเรื่องราวที่เอริเตรียมไว้ให้สําหรับเหล่ากลุ่มผู้บุกเบิก

“คือ…ฉันนึกถึงคน ๆ หนึ่งระหว่างการทดสอบตอนที่ฉันได้เห็นและได้ยินเสียงของเธอ ฮานาโกะ… เธอคือภรรยาของฉันเอง แต่เธอจากไปนานแล้ว ฉันคิดว่าที่ฉันหวั่นไหวในตอนนั้นก็เพราะเหตุนี้แหละ” ไอเซ็นอธิบาย และคิริโชก็เริ่มมีสีหน้าสลดใจ

“เป็นเช่นนั้นเองเหรอคะ? เข้าใจแล้ว… ข้าขอโทษด้วยไอเซ็นที่ทําให้เจ้าหวนนึกถึงนาง… แต่…ข้าต้องไปแล้ว… ข้ารู้สึกเหนื่อย…” คิริโชพูดขณะพยายามฝืนลืมตาจากนั้นรูปร่างของเธอก็ค่อย ๆ เลือนหายไป

“งั้นก็ไปพักผ่อนนะคิริโช ไว้คุยกันใหม่” ไอเซ็นพูดและคิริโชก็พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนกลับเป็นหมอกดังเดิม ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องโถง

ไอเซ็นหันไปมองอิลเล็นที่กําลังมองเขาด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น “น่าสนใจจริง ๆ ปกตินางไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ และข้าได้อย่างเต็มปากเลยว่า ข้าไม่เคยเห็นนางแก้มแดงมาก่อน” มังกรหัวเราะเบา ๆ

ไอเซ็นไม่ได้สนใจคําพูดของเขาและเริ่มถามสิ่งที่เขากังวล “นี่คือชีวิตปกติของเธอเหรอ? ใช้เวลานอนเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือเป็นเดือน และพอตื่นขึ้นมา ก็อยู่ได้แค่ครึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ?”

อิลเล็นถอนหายใจและมองไอเซ็นที่มีสีหน้าสลด “ใช่ แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นตลอด หรอกนะ เจ้าก็เห็นว่าคิริโชมีจิตวิญญาณหมอก นางมีชีวิตที่แสนสั้นแต่มีความสุข และด้วยเหตุผลบางประการที่ข้ายังไม่ได้บอกกับเจ้าเรื่องนี้ คือความตายของนางไม่ได้รับอนุญาตให้ย้ายไปอยู่ในชีวิตหลังความตาย นางติดอยู่ในโลกนี้เพราะคําสาปของเดียรัจฉานที่ชั่วร้าย และถูกผูกติดกับเครื่องรางในสภาพที่ต้องหลับใหลอยู่ตลอด เครื่องรางที่ว่าคือสิ่งที่ข้าบังเอิญพบระหว่างการเดินทาง และการมองผ่านดวงตาที่เห็นความจริง ข้าจึงเห็นว่ามีวิญญาณติดอยู่ข้างในและปลดปล่อยเธอออกมา ช่วงระยะเวล

หนึ่งที่นางมีชีวิตเหมือนผู้คนทั่ว ๆ ไป ที่นอนในตอนกลางคืน และตื่นในตอนกลางวัน แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีบางอย่างเกิดขึ้นกับนาง มีกลุ่มนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งเดินทางมายังภูเขาแห่งนี้และผ่านเข้ามายังห้องสมบัติของข้าในขณะที่ข้าไม่อยู่ และถ้ํานี้ก็มีแค่คิริโชที่คอยดูแล กลุ่มนักผจญภัยพบนางเข้าและพยายามที่จะฆ่านางทันที เพราะคิดว่านางเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่ในร่างของผู้หญิง ไม่ช้า พวกเขาก็ได้รู้ว่าเครื่องราง นั่นคือที่มาของการมีอยู่ของนาง และสามารถทําลายให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ ส่วนสําคัญของอัญมณีที่ฝังอยู่ข้างในเครื่องรางยังคงอยู่ในสภาพดี ช่วยให้คิริโชยังมีชิวิตอยู่ต่อไป แม้จะมีสภาพอย่างที่เจ้าเห็นก็ตาม ช่างน่าเศร้าที่กลุ่มนักผจญภัยนําอัญมณีพร้อมกับเครื่องรางทั้งหมดกลับไปด้วย”

ไอเซ็นเบือนหน้าหนีจากอิลเล็นที่จะไม่ให้เขาได้เห็นใบหน้าในตอนนี้ และหันไปมองห้องที่เต็มไปด้วยหมอกอีกครั้ง “โหดร้ายมาก… อิลเล็น มันพอจะมีทางไหนไหมที่ผมพอจะช่วยเหลือได้บ้าง?”

“หม เจ้าหมายความเช่นนั้นจริง ๆ ?” อิลเล็นถามด้วยความประหลาดใจ และไอเซ็นก็พยักหน้า “ครับ ผมอยากช่วยจริง ๆ แบบนี้มันไม่ชวนมองเลย… คิริโชอยู่ที่นี่ แต่ก็เหมือนไม่อยู่ นาน ๆ ครั้งเธอจะได้คุยกับคนอื่นบ้าง นั่นควรจะเป็นหนทางที่มีชีวิตอยู่ต่อไม่ใช่เหรอครับ?”

“ไอเซ็น ข้าดีใจนะที่เจ้าอยากจะช่วยเหลือ งั้นก็ได้ ยังพอมีหนทางที่เจ้าจะช่วยได้อยู่ ในตอนที่คิริโชต่อสู้กับกลุ่มนักผจญภัย หนึ่งในพวกเขาได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ มันอยู่ในห้องสมบัติของข้า เจ้าอาจจะได้พบว่าเขาคือใครและกลุ่มของพวกเขาอยู่ที่ใด”

[ภารกิจใหม่ – ชิ้นส่วนที่ถูกขโมยไป]

[คําอธิบาย]

นักผจญภัยหลุ่มหนึ่งได้ทําลายเครื่องรางซึ่งจิตวิญญาณแห่งหมอกคิริโชถูกผนึกไว้ โดยพวกเขาได้ขโมยชิ้นส่วนหลักไป เหตุนี้จึงทําให้คิริโชอยู่ในสภาพที่แทบจะไม่เหลือการมีตัวตนอยู่ของเธอ คุณต้องการที่จะช่วยเหลือ และเช่นนั้น อิลเล็นเทิร์ธมังกรทองค่าโบราณจึงขอให้คุณตามหานักผจญภัยกลุ่มนั้น และหวังว่าจะเจอเศษชิ้นส่วนจากร่องรอยของหนึ่งในกลุ่มนักผจญภัยที่หลงเหลืออยู่ ออกตามหาเศษชิ้นส่วนและนํากลับมารวมกันอีกครั้ง

[รางวัล]

คิริโชจะได้กลับมามีชีวิตปกติอีกครั้งหนึ่ง

[ความล้มเหลว]

คิริโชจะยังคงใช้ชีวิตอยู่ในสภาพเดิมต่อไป

“ฟังดูเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลย ขอบคุณนะครับ อิลเล็น” ไอเซ็นพูดก่อนที่จะอ่านการแจ้งเตือนภารกิจทั้งหมดแล้วก็ปิด จากนั้นก็ตามมังกรกลับไปยังห้องสมบัติ ซึ่งเขาได้มอบแผ่นเหล็กขนาดเล็กที่มีรูปร่างเหมือนกับด็อกแท็กแผ่นหนึ่ง บนนั้นมีการแกะสลักเล็ก ๆ อยู่ ซึ่งเขาอ่านไม่ออกเพราะไม่ใช่ภาษาที่เขารู้จักหรือเป็นสัญลักษณ์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

อิลเล็นมองไอเซ็นและยิ้ม “ข้าหวังว่าเจ้าจะพบพวกเขานะ ตอนนี้บททดสอบได้สิ้นสุดลงแล้ว เจ้าอยากจะกลับเมลโรเลยไหม? ข้ามั่นใจว่าสหายของเจ้ากําลังตั้งหน้าตั้งตารอให้เจ้ากลับไปอยู่นะ ข้าบินไปส่งเจ้าได้หากต้องการ” เขาพูดแนะน่า แต่ไอเซ็นกลับส่ายหน้า

“ขอบคุณนะครับ แต่ผมจะเดินไป ผมอยากให้อลได้มีประสบการณ์กับภูมิประเทศต่างๆ เพราะงั้นการเดินลงไปจากตรงนี้ก็คงเป็นความคิดที่ดีครับ ไว้ผมจะกลับมาอีกนะครับ และขอบคุณสําหรับโอกาสที่ให้ผมได้เป็นแชมป์เปี้ยนนะครับอิลเล็น”
“ด้วยความยินดี ข้าดีใจที่ทุกสิ่งเป็นไปอย่างราบรื่น”

เช่นนั้นแล้ว ไอเซ็นก็ได้ไปเก็บข้าวของจากในห้องทํางานและมุ่งหน้าเพื่อลงจากภูเขาพร้อมกับคาเรียบนไหล่และอลที่ตามติดอยู่ทางด้านหลัง

“เอาล่ะคาเรีย ฉันจะจับมันไว้แน่น ๆ นะ มันจะได้หนีไปไหนไม่ได้ เธอล่วงหน้าไป และเตะมันเลยนะโอเคไหม? เอาให้สุดแรงเกิดไปเลย!” ไอเซ็นพูดขณะจับตัวตุ่นหินอันดับหนึ่งเพื่อไม่ให้มันขยับไปไหนได้ ระหว่างทางลงเขา เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาบังเอิญพบมอนสเตอร์ที่อ่อนแอพอสําหรับเขาที่จะเอาชนะได้โดยง่ายแบบไม่ต้องออกมาแรงมาก เขาจะปล่อยให้คาเรียได้โจมตีพวกมันเท่าที่เธอจะทําได้เพื่อให้ได้รับค่าประสบการณ์ที่เหมาะสมสําหรับการเปลี่ยนอันดับ เพราะตอนนี้เธอยังทําอะไรได้ไม่มากนัก ดังนั้นเขาจึงต้องช่วยให้อันดับของเธอเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะได้ปลดล็อคค่าไหวพริบ และค่าสติปัญญาที่จําเป็นสําหรับการใช้มานา

เช่นนั้นแล้ว เธอจะได้เรียนรู้ทักษะมากมาย เนื่องจากไอเซ็นต้องการชุบเลี้ยงเธอให้คลุกคลีกับสมุนไพรและพืชชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้สําหรับการปรุงอาหารด้วยการเล่นแร่แปลธาตุ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์หากเธอจะได้เป็นเกษตรตัวน้อยในแปลงผัก หากวันหนึ่งไอเซ็นได้สร้างบ้านพักของตัวเองบนที่ดินสักแห่งหนึ่ง

ไมโคนิคตัวน้อยพยักหน้าและวิ่งไปเตะตัวหุ่นให้แรงที่สุดเท่าที่มันจะทําได้ แน่นอนว่าามันไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น แต่ก็แรงพอที่ระบบจะจดจําเธอว่าเป็นหนึ่งในนักโจมตี ก่อนที่ไอเซ็นจะจัดการที่เหลือให้

เนื่องจากคาเรียทําความเสียหายไม่ได้มาก เธอจึงได้รับค่าประสบการณ์ที่ไม่เยอะ แต่อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะทําให้อันดับของเธอเปลี่ยนได้เสียก่อนที่พวกเขาจะกลับไปถึงเมลโร เพื่อให้เกิดความยุติธรรม เมื่อเห็นว่าอันดับของคาเรียใกล้เพิ่มแล้ว ไอเซ็นจึงออกไปตามหามอนสเตอร์เพิ่มเติม

และเมื่ออันดับเธอเปลี่ยน คาเรียก็กลายเป็น เด็กน้อยไมโคนิด มีขนาดใหญ่กว่าร่างตัวอ่อนสองเท่า นอกจากนี้เธอยังมีแขนงอกออกมาสองข้างอีกด้วย! มันเป็นเหมือนตอไม้เล็ก ๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีแขนเลยจริงไหมล่ะ?

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ คาเรียก็เงยหน้ามองไอเซ็นด้วยดวงตาที่เหมือนจุดสองจุดอย่างมีความสุขและกระโดดขึ้นไปหาเขาเพื่อเป็นการมอบอ้อมกอดที่แท้จ

“ไม่เป็นไรคาเรีย ฉันเองก็มีความสุขเหมือนกัน เชื่อสิ ตอนนี้เรากลับโรงแรมกันก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องฝึกการจัดการมานาเอาไว้ที่หลังแล้วกันโอเคไหม? ถ้าฉันทําได้ เธอก็ต้องทําได้!” ไอเซ็นหัวเราะเสียงดังและโบกมือให้อลตามมาใกล้ ๆ เนื่องจากพวกเขาเข้าใกล้เมืองเมลโรมากขึ้นแล้ว ส่วนคาเรียนั่งอยู่บนไหล่เช่นเคย

มันเป็นที่ไหนสักแห่งในช่วงสนธยา และคนงานคนสุดท้ายที่ทํางานอยู่นอกเมืองก็กําลังเดินทางกลับเข้าเมืองเช่นกัน

ไอเซ็นเดินผ่านฝูงชนที่ต้องการจะไปพบปะกันเพื่อดื่มหลังจากเลิกงานของวันที่ยาวนาน และมุ่งตรงไปยังโรงแรม เขาใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติเนื่องจากอลูยังไม่รู้วิธีการเดินผ่านฝูงชนเช่นนี้ และหากไอเซ็นไม่ได้สั่งแบบเจาะจงว่าจะให้เธอเดินอย่างไร เธอก็จะเดินเป็นเส้นตรงเพื่อผลักทุกคนที่ขวางทางไปด้านข้าง

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มาถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย ไอเซ็นเดินผ่านประตูหน้าเพื่อไปยังจุดต้อนรับเพื่อคุยกับเจ้าของโรงแรม

“โอ้ ตาเฒ่า! ไม่เจอกันหลายวันเลยนะ! หายไปไหนมา?” คนแคระถามด้วยน้ําเสียงที่ดังลั่นทันทีที่เห็นไอเซ็น

“ใช่ ฉันออกไปทําธุระนอกเมืองมาน่ะ บรีกับพวกสัตว์ป่าที่มาด้วยกันครั้งนั้นอยู่ไหม?” ไอเซ็นถาม

“พวกเขาอยู่ในห้อง เอ้อ แล้วก็ดูเหมือนเจ้าจ่อจะตื่นแล้วนะเมื่อวานนี้ เพราะงั้นเขาก็น่าจะอยู่ข้างในด้วย” เจ้าของโรงแรมอธิบาย และไอเซ็นก็กล่าวขอบคุณก่อนจะเดินไปยังห้องขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้นล่างซึ่งเป็นที่ที่เขาและบรีได้พาเจี้ยกและบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายมาอยู่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้

เขาเคาะประตูและได้ยินเสียงใครบางคนรีบวิ่งมาที่ประตูจากนั้นก็ค่อย ๆ เปิดออก ในเวลาต่อมา “คะ?” บรถามด้วยด้วยรอยยิ้มที่สดใสและยิ่งสดใสมากขึ้นเมื่อเธอได้เห็นไอเซ็นยืนอยู่หน้าประตู “เอ๋! คุณกลับมาแล้ว! เป็นยังไงบ้างคะ?!” เธอถามอย่างตื่นเต้น และดึงไอเซ็นเข้ามาในห้องเพื่อคุยกัน

ภายในห้องมีบุคคลที่เจ้าของโรงแรมพูดไว้ว่าเขาตื่นแล้ว นั่นก็คือเจี๊ยก ตอนนี้เขากําลังนั่งอยู่บนเตียงเพื่อป้อนอาหารลูก ๆ ของเขา เมื่อเขาเห็นไอเซ็นก็รีบยืนขึ้นทันที และเดินเข้ามาหา “ไอเซ็น! บรีบอกผมว่าคุณขึ้นไปบนยอดเขา! เป็นยังไงบ้างครับ เล่าให้เราฟังหน่อยสิ! แล้ว… สองคนนั้นใครเหรอครับ?” เจียกถามด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อย และแม้แต่บรีเองก็มองอลด้วยสายตาที่กระหายความอยากรู้

“งั้นฉันอธิบายเลยก็แล้วกันนะ เริ่มจากแม่สาวน้อยคนนี้ คาเรีย! เธอเป็นไมโคนิด! เธอฟักตัวออกมาจากไข่ใบที่นายให้ฉันมา” ไอเซ็นอธิบาย

“นั่นเป็นไข่ของไมโคนิดเหรอครับ? น่าสนใจจริง ๆ!” มนุษย์วานรเปล่งเสียงและเอนกายเข้ามาใกล้ขึ้น ซึ่งทําให้คาเรียพยายามซ่อนตัวอยู่หลังหัวของไอเซ็น บรีเอียงหัวและถาม “แต่ดูจะตัวใหญ่ขึ้นกว่าก่อนหน้านี้นะคะ ใช่ไหม?”

“ใช่! อันดับเธอเพิ่งเปลี่ยนเมื่อไม่นานนี้เอง ระหว่างที่ฉันลงมาจากภูเขา ฉันฆ่าสัตว์ป่าที่เจอตามทางและให้เธอช่วยโจมตีเพื่อให้พอได้รับค่าประสบการณ์จนอันดับเพิ่มน่ะ ตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแขนแล้วด้วย ส่วนนอกจากนั้นก็เหมือนเดิมหมด” ไอเซ็นอธิบายและยกคาเรียด้วยมือทั้งสองออกมาข้างหน้า ทั้งเลี้ยกและบรีมองเธออยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเบนความสนใจไปที่อลู

ไอเซ็นบอกพวกเขาเรื่องบททดสอบที่ได้รับจากอิลเล็น และบอกถึงวิธีสร้างหุ่นยนต์อลูเพื่อที่จะได้ใช้ทักษะที่สําคัญทั้งหมดของเขา จากนั้นเขาก็ได้แสดงอิทธิพลของทักษะใหม่ให้พวกเขาดูว่ามันเป็นอย่างไร

หลังจากบอกเล่าเรื่องราวจบแล้ว เจี๊ยกก็พิงผนังห้อง “โอ้? ผมคงต้องไปเจอมังกรบ้างแล้วสินะ…”

แต่ไอเซ็นส่ายหน้าเพื่อให้คําแนะนําเรื่องนี้ “ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่ไปนะ อย่างแรกคือ ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายจะแค่เดินไปหามังกรแล้วขอบททดสอบเลยได้ไหม ถ้าหนึ่งใน พวกเขาคิดว่านายคู่ควร พวกเขาจะเข้ามาหานายเอง อีกอย่างนะ ฉันก็ไม่มั่นใจด้วยว่า ดวงตาที่มองเห็นความจริงนี้จะเหมาะกับนายหรือเปล่า แน่นอนว่านายใช้มันเพื่อระบุประเภทสัตว์และพืชนา ๆ ชนิดได้ แต่บางทีมังกรจะหาสิ่งที่น่าสนใจในตัวนายและ มอบมันให้กับนายเป็นของขวัญที่เหมาะกับนายที่สุด สําหรับฉันนะ มันสมบูรณ์แบบ สุด ๆ มันช่วยให้ฉันระบุคุณสมบัติต่าง ๆ ของเครื่องมือ, อาวุธ และวัสดุได้อย่าง ง่ายดาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะระบุได้นะ แต่จะทําไม่ได้กับจําพวกวัสดุเวทมนต์ บางทีฉันก็มองเห็นเวทมนต์ที่ไหลวนอยู่ด้วย และเมื่อพิจารณจากทักษะเวทมนต์ทั้งสองที่เกี่ยวข้องกับทักษะงานฝีมือนั้น บอกได้เลยว่านี่มันดีสุด ๆ ท้ายที่สุดมันเป็นทางเลือกของนายเอง แต่ฉันจะรอจนกว่าจะมีมังกรมาขอให้นายเข้ารับการทดสอบนะ ฉันมั่นใจว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ไม่ต้องห่วง”

ไอเซ็นอธิบายให้เลี้ยกฟัง และเขาก็ถอนหายใจเล็กน้อย “ครับ มันก็ฟังดูมีเหตุผลนะ ไอเซ็นครับ แล้วคุณมีแผนจะทําอะไรต่อ?” มนุษย์วานรถาม และไอเซ็นก็เลือกที่จะบอกแผนที่คิดไว้แก่พวกเขา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+