โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ 44 ผู้บุกเบิกแห่ง

Now you are reading โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ Chapter 44 ผู้บุกเบิกแห่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 44 ผู้บุกเบิกแห่ง…

บทที่ 44 ผู้บุกเบิกแห่งการอยู่อาศัย (3)

 

“โอโทริ มานี่!” เจี๊ยกตะโกนขณะมองตรงไกลออกไปยังเทือกเขาที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงร้องของสัตว์ที่คุ้นเคยและเริ่มมองเห็นนกสีน้ําเงินกําลังบินตรงมาหา

เจี๊ยกยื่นแขนซ้ายที่พันด้วยหนังออกไปข้างหน้าเพื่อให้นกอินทรีเพศเมียที่กําลังบินเข้ามาได้เตรียมตัวยึดเกาะที่เจ้านายของมัน

“เด็กดี!” เจี๊ยกยิ้มและป้อนอาหารด้วยชิ้นเนื้อเล็กๆให้มัน ในระหว่างช่วงสัปดาห์นี้ เจี๊ยกมักใช้เวลาการล่าสัตว์ส่วนใหญ่เพื่อเพิ่มเลเวลให้กับโอโทริ จนอันดับของมันเพิ่มขึ้นถึงสองครั้งด้วยกัน

เมื่อใดก็ตามที่อันดับมันเปลี่ยน ธรรมชาติของมันก็จะเปลี่ยนไปด้วย ตอนเปลี่ยนเป็นอันดับหนึ่ง มันกลายเป็นนกอินทรีขนมหาสมุทร ขนของมันเบาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสี มันได้รับค่าไหวพริบและค่าสติปัญญารวมทั้งมานาด้วย

 

อันดับของมันเปลี่ยนเป็นอันดับสองเมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมา โอโทริพัฒนาเป็นนกอินทรีขนอาร์กติก โดยมีอากาศเย็นๆอยู่รอบตัวมัน และขนาดตัวก็ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย สีของขนเริ่มอ่อนลง บางส่วนโปร่งแสงและเป็นประกายคล้ายเกล็กน้ําแข็งเมื่อถูกแสงอาทิตย์

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่โอโทริที่นับวันมีแต่แข็งแกร่งขึ้น! เจี๊ยกเองก็เช่นกัน ตอนนี้เขาไปถึงเลเวลหกสิบแล้ว! หลังจากที่ไปถึงเลเวลสิบ

ห๊า เขายังไม่มีอาชีพ จึงได้ไปบอกเรื่องนี้กับบาร์กผู้ที่ชี้แนะเส้นทางให้เขาเป็น “เจ้าแห่งธรรมชาติ?! เขามีความเชื่อมโยงกับต้นไม้น้อยใหญ่และสัตว์ต่างๆในป่า นี่จึงฟังดูเหมือนกับว่าบาร์กได้ มอบอาชีพที่เหมาะกับเจี๊ยกอย่างสมบูรณ์แบบ

ระหว่างทางที่เจี๊ยกเดินเข้าไปในปา เขาได้พบสิ่งที่น่าสนใจมากมายรวมทั้งสัตว์ต่างๆด้วย อย่างแรกคือเขาสามารถฝึกสัตว์ชนิดหนึ่งที่คล้ายกับกวางให้เชื่องได้ ซึ่งบริเวณที่เป็นเขากลับเป็นกิ่งไม้ที่งอกแทนที่ มันเคลื่อนที่ในป่าได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ มันร่างกายมันก็แข็งแรงพอที่จะให้เจี๊ยกขึ้นไปขี่บนหลังได้ ด้วยชื่อที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา เขาจึงตั้งชื่อให้กับเพื่อนใหม่ของเขาว่า ซีริชิกะ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเขาก็คือสัตว์ที่ถูกฝึกให้เชื่องมีขีดจํากัดต่อเขา เพราะเขาต้องมีอันดับทักษะที่สูงขึ้น และต้องมีอาชีพที่เหมาะสมกับอย่างลงตัว

 

หลังจากนั้น เขาได้พบกับไข่ที่น่าสนใจใบหนึ่ง อย่างน้อยมันก็ดูลักษณะเหมือนไข่เมื่อพิจารณาจากทักษะการประเมิน แต่มันดูนุ่มนิ่มเกินไป ผิวสัมผัสเหมือนกับมาร์ชแมลโลว์

 

เจี๊ยกค่อยๆย้ายไข่ไปไว้ในกระเป๋าอย่างระมัดระวังข้างๆกับไข่ของโอโทริ จากนั้นก็เดินทางต่อเพื่อไปพบกับการเป็นเจ้าแห่งธรรมชาติ

เขาฝึกฝนแค่วันเดียวและจากนั้นก็ได้อาชีพ เจ้าแห่งสัตว์ป่า ซึ่งทําให้ฝึกสัตว์ได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าหรือมอนสเตอร์ก็ตาม ทั้งนี้เขายังได้รับทักษะใหม่ที่เรียกว่า การเชื่อมโยงกับสัตว์ ทําให้เจี๊ยกรับรู้ประสาทสัมผัสของมอนสเตอร์ที่ผ่านการฝึกแล้ว ซึ่งเขาใช้ในการลาดตระเวนกับโอโทริเพื่อหาเส้นทางที่เหมาะสมที่ควรเลือกใช้เดินทาง

 

เมื่อเขามีอาชีพแล้ว เจี๊ยกตัดสินใจเดินทางต่อ เนื่องจาก ณ สถานที่นี้ไม่มีอะไรให้เขาต้องทําอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงอยากจะไปที่อื่น เพื่อออกค้นหาสัตว์ป่าและมอนสเตอร์ที่น่าอัศจรรย์

และตอนนี้อีกสัปดาห์ก็ได้ผ่านพ้นไป เจี๊ยกใช้เวลาไปกับการเดินทางไปยังเทือกเขาทางทิศตะวันออกเนื่องจากที่นั่นเป็นจุดที่ใกล้ที่สุดและประเภทของสภาพแวดล้อมก็แตกต่างไปจากปาที่เขาอยู่มาจนถึงตอนนี้อย่างสิ้นเชิง

แต่ก่อนที่จะไปถึงที่นั่น เจี๊ยกต้องจัดการบางสิ่งก่อน เขาได้ยินเสียงไข่แตกมาจากด้านในกระเป๋า

 

เขารีบวางกระเป๋าลงบนพื้นทันทีและหยิบไข่ทั้งห้าใบจากรังของโอโทริออกมา เพราะดูเหมือนทุกใบตอนนี้จะเริ่มฟักเป็นตัวแล้ว

 

ไม่นานหลังจากนั้น ลูกนกอินทรีขนน้ําเงินก็ฟักออกมาจากไข่สีน้ําเงินสี่ใบอยู่บนมือของเจี๊ยก พวกมันกําลังซึมซับความคุ้นเคยกับโลกข้างนอก แต่ดูเหมือนไข่สีแดงใบเดียวจะมีปัญหากับการฟักไข่

“เร็วเข้า แกทําได้!” เจี๊ยกพูดด้วยรอยยิ้ม หวังให้เจ้าลูกนกออกมาจากเปลือกไข่ด้วยตัวมันเองได้ เขาอยากมองดูเฉยๆมากกว่า การที่ช่วยทําไข่ให้แตกด้วยมือเขาเอง

เจี๊ยกใช้มือข้างที่ว่างจับไข่ไว้ ส่วนลูกนกตัวอื่นๆที่ฟักออกมาแล้ว ได้รับการดูแลจากแม่ของมันเรียบร้อย

ใช้เวลาเพียงไม่นาน จะงอยปากของลูกนกก็โผล่ออกมาเหนือเปลือกไข่ จนกระทั่งลูกนกตัวน้อยๆ ทั้งตัวโผล่ออกมาจากเปลือกไข่ ดูเหมือนว่าลูกนกตัวนี้จะมีขนาดที่เล็กกว่าพี่น้องตัวอื่นๆของมัน แต่ก็ยังมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันกับความเป็นนกอินทรี มันดูแข็งแรง ผิดจากที่เจี๊ยกเห็นจากขนาดในตอนแรก เทียบกับตัวอื่นๆแล้ว ตัวนี้ดูกระปรี้กระเปร่ามากกว่า เมื่อไข่ทั้งห้าใบฟักเรียบร้อยแล้ว เจี๊ยกก็ได้รับการแจ้งเตือน

กล่าวไว้ว่า เขาได้รับลูกนกอินทรีขนน้ําเงินสี่ตัวและลูกนกอินทรีขนแดงหนึ่งตัว ลูกนกทุกตัวรวมแม่ของพวกมันรวมกันเป็นครอบครัวของนกอินทรีที่เรียกว่าแอร์รี่

 

หลังจากนั้น ระบบก็ให้เจี๊ยกตั้งชื่อให้กับลูกนกทั้งห้าตัว เขาคิดชื่อง่ายๆ และให้ทุกชื่อสอดคล้องในรูปแบบเดียวกัน

 

ลูกนกอินทรีขนน้ําเงิน มิซูโทริ, นากาเระโทริ, เระคุโทริ และ อิเคะโทริ ส่วนลูกนกอินทรีสีแดงชื่อ อาคาโทริ

แม้แต่เจ้าซีริชิกะก็ดูจะสนใจสิ่งมีชีวิตตัวน้อยเช่นกัน จากสายตาที่เป็นประกายอยู่ข้างๆ เจี๊ยกเองก็ไม่มั่นใจนัก แต่ดูเหมือนสิ่งที่คล้ายกวางตัวนี้ก็อยากจะช่วยเหลือเช่นกัน

 

ดังนั้นเจี๊ยกจึงทําตามความต้องการของมันโดยเริ่มสร้างรังนกเล็กๆ ไว้ระหว่างเขาทั้งสองข้างของซีริชิกะ จากนั้นก็ย้ายลูกนก” ทั้งห้าตัวพร้อมกับแม่ของพวกมันไปไว้บนรัง

“เอาล่ะ! อีกหนึ่งครอบครัวได้ถือกําเนิดขึ้นแล้ว ไปกันเถอะ! ซิริชิกะ แกวิ่งต่อไป แต่อย่าให้เร็วแบบก่อนหน้านี้ล่ะ! เดี๋ยวเจ้าตัวน้อยจะร่วงกลางทางเสียฉิบ” เจี๊ยกยิ้มขณะกระโดดขี่หลังกวางของเขา ที่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบก่อนจะเริ่มวิ่งไปข้าหน้า

 

เจี๊ยกหลับตาลงและนึกเส้นทางที่เขาและโอโทรช่วยกันหาที่สุด ปลายทางเป็นหมู่บ้านที่มีหน้าผาล้อมรอบ เป็นกระท่อมฟางและมีท่อนซุงเรียงซ้อนกันเป็นกําแพง

 

เจี๊ยกไม่เอาโอโทริเสี่ยงบินเข้าไปใกล้ เพราะมีแนวโน้มที่ใครบางคนอาจโจมตีมันได้ แต่เท่าที่รู้ ที่นั่นมีสัตว์มากมาย ถ้าพวกมันไม่เป็นมิตร เจี๊ยกก็พร้อมที่จะลงมือจัดการด้วยตัวเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นโอโทริหรือซิริชิกะ ล้วนเก่งในการต่อสู้แบบเป็นกลุ่ม

 

สัตว์ทั้งสองชนิดนี้เก่งกาจในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่ไม่ดีหากจะใช้ต่อสู้กับศัตรูจํานวนมาก นอกจากนี้ยังมีลูกน้อยอีกด้วย เขาไม่สามารถปล่อยให้ลูกนกอยู่ในรังที่อยู่บนเขาของซีริชิกะที่ออกไปต่อสู้ได้ นั่นมันเป็นความคิดที่แย่สิ้นดี!

ในชีวิตจริง แถบเทือกเขามีสัตว์ผู้ล่าอาศัยอยู่มากมายซึ่ง เจี๊ยกก็พอจะนึกออกอยู่บ้าง อย่างเช่น หมี, หมาปา และเสือภูเขา อาจมีสัตว์ป่าและมอนเตอร์จํานวนมากที่สัญจรไปมาในแถบเทือกเขานี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีสัตว์ที่ไม่ได้มีอยู่ในชีวิตความเป็นจริง

และเช่นนั้นเอง เจี๊ยกจึงเตรียมเพื่อค้นหาผู้ที่เก่งกาจด้านการต่อสู้

 

“โถ่เพื่อน! ฉันไม่ได้จะทําร้ายแกสักหน่อย!” เจี๊ยกตะโกนจากยอดไม้ ซึ่งข้างล่างมีหมีตัวหนึ่งขนสีดําเข้มกําลังพยายามที่จะทําร้ายเขา เขาพยายามฝึกมันให้เชื่องในตอนแรก เขาเจอมันในถ้ําข้างในปาลึก แต่หมีตัวนั้นก็ดูก้าวร้าวมากในทุกครั้งที่มันเห็นหน้าเจี๊ยก

 

“ฉันจะทํายังไงให้แกสงบลงได้ละเนี่ย? หรือฉันต้องถือสิทธิ์การครอบครองแก? แต่มันแข็งแรงกว่าฉันเป็นร้อยเท่านี่สิ..” เจี๊ยกพิมพ์กับตัวเองขณะที่มือทั้งสองคว้าจับกิ่งไม้และกระบอง

ตอนนั้นเองที่เขาเกิดความคิด เขาสามารถใช้ประโยชน์จากแรงโน้มถ่วงได้ จากนั้น เจี๊ยกจะหักกิ่งไม้ใหญ่ๆเท่าที่เขาจะถือไว้ ได้แล้วเทน้ําหนักตัวเองขณะบินไปจนถึงยอดต้นไม้

เจี๊ยกมองลงไปยังหัวของหมี ขณะในมือกํากระบองแน่นในความมั่นใจ

หลังจากโยนลงกิ่งไม้จากความสูงห้าเมตร กิ่งไม้ก็ลงที่กลางหัวของหมีแบบพอดี

 

หมีเดินโซเซไปรอบ ๆ เนื่องจากอาการมึนจากแรงกระแทก แต่ดูเหมือนจะสร้างผลกระทบต่อมันได้ไม่มากพอ

“ขอให้ได้ผลเถอะ” เขาพูดและโยนกิ่งไม้ที่เหลือลงไปยังพื้น จากนั้นก็กระโดดลงมาตรงหน้ามัน และแตะที่สีข้างของมัน “ฉันไม่ได้ต้องการจะทําร้ายแกนะ เพราะแกเป็นเพื่อนฉัน!”

 

เขาตะโกนออกมาและคิดเกี่ยวกับการเชื่อมโยงกับสัตว์ตัวใหม่ เจี๊ยกสัมผัสถึงความโกรธและความเกลียดชังของมันได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ ทําไมหมีถึงได้รู้สึกเช่นนั้น? มีบางสิ่งทําให้มันเกิดความเกลียดชังมากขึ้นงั้นเหรอ?

 

เจี๊ยกเกลียดความความรู้สึกเช่นนี้ เขารักสัตว์หมดทั้งหัวใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นสัตว์น้อยใหญ่ที่งดงามรู้สึกเช่นนี้มันยิ่งตอกย้ําให้เขารู้สึก… เศร้าใจ

 

“ฉันขอโทษนะเพื่อนยาก ไม่ต้องห่วงนะ อยู่กับฉันแกจะปลอดภัย” เจี๊ยกพูดด้วยรอยยิ้มและขยับมือผ่านขนดกดําขณะที่มันก็ค่อยๆสงบนิ่งลงเพราะเสียงของมนุษย์วานร

 

[ขอแสดงความยินดี! คุณฝึกหมีอันธการสําเร็จ!]

หมีอันธการตรงหน้าเจี๊ยกยืนขึ้นและลูบหัวเขาด้วยความสเน่หา ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะได้ผล

 

“ทีนี้ก็มาตั้งชื่อให้แกกันดีกว่า! ยามิคุมะ ดีไหม!” เจี๊ยกพูดกับตัวเอง และเจ้าหมีก็ยืนขึ้นพร้อมพยักหน้ารับให้เจ้านายใหม่ของมัน

“เอาล่ะพรรคพวก ไปกันได้แล้ว!” เจี๊ยกตะโกน เขาไม่อยากให้ซีชิริกะหรือโอโทรและลูกๆของมันเข้ามาเสี่ยงอันตรายกับวิธีการของเขา ดังนั้นเขาจึงพาพวกมันไปให้ห่างเมื่อเห็นว่ายามคุมะก้าวร้าวแค่ไหน

 

แล้วพวกมันก็ออกมาจากหลังต้นไม้และตรงมาหาเขา

“ดูเหมือนฉันจะมีนักสู้ที่เก่งกาจพร้อมรับมือกับหมู่บ้านนั้นแล้วนะ ไปกันเถอะพวกเรา!” เจี๊ยกพูดด้วยรอยยิ้มและชี้ไปยังเส้นทาง ข้างหน้าขณะกําลังนั่งอยู่บนหลังของยามิคุมะ พวกเขากําลังมุ่งตรงไปยังเส้นทางที่จะนําไปสู่หมู่บ้าน

 

ใช้เวลาเดินทางไม่นาน พวกเขาก็มาถึงที่หมาย ประตูทางเข้าหมู่บ้านที่เจี๊ยกเห็นผ่านสายตาของโอโทริ เมื่อเจี๊ยกยืนยันกับสิ่งที่เห็น แล้วเขาจึงกล้าปล่อยให้โอโทริบินเข้าไปใกล้ขึ้นได้ เพราะสิ่งที่เขาเห็นนั้นยิ่งทําให้เขาตื่นเต้นมากไปกว่าเดิมนั่นก็คือ ก็อบลิน

มอนสเตอร์ในร่างมนุษย์ขนาดเล็กที่เจออยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะใน เกม, ภาพยนตร์ หรือแม้แต่นิยาย!

เจี๊ยกเผยรอยยิ้มกว้างและบอกซีริชิกะให้ดูแลลูกนก มันไม่ใช่สัตว์นักสู้ ดังนั้นเขาจึงสั่งให้กวางออกไปให้ห่าง และวิ่งหนีหากมีสิ่งใดหมายจะทําร้าย จากนั้นก็เตรียมสําหรับการต่อสู่ร่วมกับสัตว์อันดับสองอย่างยามคุมะและโอโทร

เขากระโดดขึ้นขี่หลังหมีและชี้กระบองไปข้างหน้า ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงประตู เจี๊ยกก็กระโดดลงและปีนขึ้นไปบนกําแพง ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของเขาจัดการก็อบลินที่เดินอยู่รอบบๆบริเวณนั้น เขากระโดดลงมาจากกําแพงและทําให้พวกก็อบลินบริเวณนั้นตกใจ จากนั้นก็รีบไปเปิดประตูให้สัตว์เลี้ยงของเขาเข้ามาด้านใน

สามทหารเสือต่อสู้อย่างหนักและกําจัดก็อบลินทุกตัวที่มาขวางทาง จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีก็อบลินอาศัยอยู่มากขนาดนั้น และดูเหมือนที่นี่จะเป็นหมู่บ้านที่เกือบถูกทิ้งร้าง การต่อสู้ครั้งนี้จึงไม่ได้นานเกินไปอย่างที่เจี๊ยกคิดเอาไว้

หลังจากมั่นใจแล้วว่าปลอดภัย เจี๊ยกก็เรียนซีริชิกะมาหา จากนั้นก็มองรอบๆ เพื่อหาดูว่ามีอะไรที่เป็นประโยชน์หรือไม่

และก็มีหนึ่งอย่างที่เข้าตา! มีอุโมงค์อยู่ที่หน้าผาหลังหมู่บ้าน

เจี๊ยกและสัตว์ของเขาเดินไปอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งพวกมันเริ่มตอบโตอย่างแข็งกร้าว ส่งเสียงร้อง และคํารามกับบางสิ่งที่ชัดเจนว่ารออยู่ที่สุดทางเดินแคบๆนี้

เจี๊ยกยื่นกระบองออกมาข้างหน้าอย่างระมัดระวัง และยังคงเผชิญต่อไป ไม่ว่าอะไรจะรออยู่ตรงนั้นก็ตาม หัวใจของเขาเริ่มเต้น ระรัวจากการถูกคุมคามด้วยสิ่งที่ไม่รู้จัก

 

เมื่อสายตาของเขาเริ่มชินกับแสงสว่างจ้าด้านนอก เขาก็เห็นร่างสองร่าง อะไรบางอย่างที่มองแวบแรกแล้วเหมือนกับลูกบอลยักษ์ ที่มีขาส่วนอีกร่างหนึ่งเป็นใครบางคนที่รูปร่างสูงใหญ่ ในมือเขาถือดาบที่ชี้ตรงไปยังทางออกของปลายอุโมงค์ เจี๊ยกอยากจะส่งสัตว์ของเขาไปโจมตีสองร่างนั้นในความคิดแรก จนกระทั่ง เสียงหัวเราะที่กังวาน จริงใจ และลื่นหู

เจี๊ยกมั่นใจว่าเขาเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ 44 ผู้บุกเบิกแห่ง

Now you are reading โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ Chapter 44 ผู้บุกเบิกแห่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 44 ผู้บุกเบิกแห่ง…

บทที่ 44 ผู้บุกเบิกแห่งการอยู่อาศัย (3)

 

“โอโทริ มานี่!” เจี๊ยกตะโกนขณะมองตรงไกลออกไปยังเทือกเขาที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงร้องของสัตว์ที่คุ้นเคยและเริ่มมองเห็นนกสีน้ําเงินกําลังบินตรงมาหา

เจี๊ยกยื่นแขนซ้ายที่พันด้วยหนังออกไปข้างหน้าเพื่อให้นกอินทรีเพศเมียที่กําลังบินเข้ามาได้เตรียมตัวยึดเกาะที่เจ้านายของมัน

“เด็กดี!” เจี๊ยกยิ้มและป้อนอาหารด้วยชิ้นเนื้อเล็กๆให้มัน ในระหว่างช่วงสัปดาห์นี้ เจี๊ยกมักใช้เวลาการล่าสัตว์ส่วนใหญ่เพื่อเพิ่มเลเวลให้กับโอโทริ จนอันดับของมันเพิ่มขึ้นถึงสองครั้งด้วยกัน

เมื่อใดก็ตามที่อันดับมันเปลี่ยน ธรรมชาติของมันก็จะเปลี่ยนไปด้วย ตอนเปลี่ยนเป็นอันดับหนึ่ง มันกลายเป็นนกอินทรีขนมหาสมุทร ขนของมันเบาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสี มันได้รับค่าไหวพริบและค่าสติปัญญารวมทั้งมานาด้วย

 

อันดับของมันเปลี่ยนเป็นอันดับสองเมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมา โอโทริพัฒนาเป็นนกอินทรีขนอาร์กติก โดยมีอากาศเย็นๆอยู่รอบตัวมัน และขนาดตัวก็ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย สีของขนเริ่มอ่อนลง บางส่วนโปร่งแสงและเป็นประกายคล้ายเกล็กน้ําแข็งเมื่อถูกแสงอาทิตย์

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่โอโทริที่นับวันมีแต่แข็งแกร่งขึ้น! เจี๊ยกเองก็เช่นกัน ตอนนี้เขาไปถึงเลเวลหกสิบแล้ว! หลังจากที่ไปถึงเลเวลสิบ

ห๊า เขายังไม่มีอาชีพ จึงได้ไปบอกเรื่องนี้กับบาร์กผู้ที่ชี้แนะเส้นทางให้เขาเป็น “เจ้าแห่งธรรมชาติ?! เขามีความเชื่อมโยงกับต้นไม้น้อยใหญ่และสัตว์ต่างๆในป่า นี่จึงฟังดูเหมือนกับว่าบาร์กได้ มอบอาชีพที่เหมาะกับเจี๊ยกอย่างสมบูรณ์แบบ

ระหว่างทางที่เจี๊ยกเดินเข้าไปในปา เขาได้พบสิ่งที่น่าสนใจมากมายรวมทั้งสัตว์ต่างๆด้วย อย่างแรกคือเขาสามารถฝึกสัตว์ชนิดหนึ่งที่คล้ายกับกวางให้เชื่องได้ ซึ่งบริเวณที่เป็นเขากลับเป็นกิ่งไม้ที่งอกแทนที่ มันเคลื่อนที่ในป่าได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ มันร่างกายมันก็แข็งแรงพอที่จะให้เจี๊ยกขึ้นไปขี่บนหลังได้ ด้วยชื่อที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา เขาจึงตั้งชื่อให้กับเพื่อนใหม่ของเขาว่า ซีริชิกะ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเขาก็คือสัตว์ที่ถูกฝึกให้เชื่องมีขีดจํากัดต่อเขา เพราะเขาต้องมีอันดับทักษะที่สูงขึ้น และต้องมีอาชีพที่เหมาะสมกับอย่างลงตัว

 

หลังจากนั้น เขาได้พบกับไข่ที่น่าสนใจใบหนึ่ง อย่างน้อยมันก็ดูลักษณะเหมือนไข่เมื่อพิจารณาจากทักษะการประเมิน แต่มันดูนุ่มนิ่มเกินไป ผิวสัมผัสเหมือนกับมาร์ชแมลโลว์

 

เจี๊ยกค่อยๆย้ายไข่ไปไว้ในกระเป๋าอย่างระมัดระวังข้างๆกับไข่ของโอโทริ จากนั้นก็เดินทางต่อเพื่อไปพบกับการเป็นเจ้าแห่งธรรมชาติ

เขาฝึกฝนแค่วันเดียวและจากนั้นก็ได้อาชีพ เจ้าแห่งสัตว์ป่า ซึ่งทําให้ฝึกสัตว์ได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าหรือมอนสเตอร์ก็ตาม ทั้งนี้เขายังได้รับทักษะใหม่ที่เรียกว่า การเชื่อมโยงกับสัตว์ ทําให้เจี๊ยกรับรู้ประสาทสัมผัสของมอนสเตอร์ที่ผ่านการฝึกแล้ว ซึ่งเขาใช้ในการลาดตระเวนกับโอโทริเพื่อหาเส้นทางที่เหมาะสมที่ควรเลือกใช้เดินทาง

 

เมื่อเขามีอาชีพแล้ว เจี๊ยกตัดสินใจเดินทางต่อ เนื่องจาก ณ สถานที่นี้ไม่มีอะไรให้เขาต้องทําอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงอยากจะไปที่อื่น เพื่อออกค้นหาสัตว์ป่าและมอนสเตอร์ที่น่าอัศจรรย์

และตอนนี้อีกสัปดาห์ก็ได้ผ่านพ้นไป เจี๊ยกใช้เวลาไปกับการเดินทางไปยังเทือกเขาทางทิศตะวันออกเนื่องจากที่นั่นเป็นจุดที่ใกล้ที่สุดและประเภทของสภาพแวดล้อมก็แตกต่างไปจากปาที่เขาอยู่มาจนถึงตอนนี้อย่างสิ้นเชิง

แต่ก่อนที่จะไปถึงที่นั่น เจี๊ยกต้องจัดการบางสิ่งก่อน เขาได้ยินเสียงไข่แตกมาจากด้านในกระเป๋า

 

เขารีบวางกระเป๋าลงบนพื้นทันทีและหยิบไข่ทั้งห้าใบจากรังของโอโทริออกมา เพราะดูเหมือนทุกใบตอนนี้จะเริ่มฟักเป็นตัวแล้ว

 

ไม่นานหลังจากนั้น ลูกนกอินทรีขนน้ําเงินก็ฟักออกมาจากไข่สีน้ําเงินสี่ใบอยู่บนมือของเจี๊ยก พวกมันกําลังซึมซับความคุ้นเคยกับโลกข้างนอก แต่ดูเหมือนไข่สีแดงใบเดียวจะมีปัญหากับการฟักไข่

“เร็วเข้า แกทําได้!” เจี๊ยกพูดด้วยรอยยิ้ม หวังให้เจ้าลูกนกออกมาจากเปลือกไข่ด้วยตัวมันเองได้ เขาอยากมองดูเฉยๆมากกว่า การที่ช่วยทําไข่ให้แตกด้วยมือเขาเอง

เจี๊ยกใช้มือข้างที่ว่างจับไข่ไว้ ส่วนลูกนกตัวอื่นๆที่ฟักออกมาแล้ว ได้รับการดูแลจากแม่ของมันเรียบร้อย

ใช้เวลาเพียงไม่นาน จะงอยปากของลูกนกก็โผล่ออกมาเหนือเปลือกไข่ จนกระทั่งลูกนกตัวน้อยๆ ทั้งตัวโผล่ออกมาจากเปลือกไข่ ดูเหมือนว่าลูกนกตัวนี้จะมีขนาดที่เล็กกว่าพี่น้องตัวอื่นๆของมัน แต่ก็ยังมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันกับความเป็นนกอินทรี มันดูแข็งแรง ผิดจากที่เจี๊ยกเห็นจากขนาดในตอนแรก เทียบกับตัวอื่นๆแล้ว ตัวนี้ดูกระปรี้กระเปร่ามากกว่า เมื่อไข่ทั้งห้าใบฟักเรียบร้อยแล้ว เจี๊ยกก็ได้รับการแจ้งเตือน

กล่าวไว้ว่า เขาได้รับลูกนกอินทรีขนน้ําเงินสี่ตัวและลูกนกอินทรีขนแดงหนึ่งตัว ลูกนกทุกตัวรวมแม่ของพวกมันรวมกันเป็นครอบครัวของนกอินทรีที่เรียกว่าแอร์รี่

 

หลังจากนั้น ระบบก็ให้เจี๊ยกตั้งชื่อให้กับลูกนกทั้งห้าตัว เขาคิดชื่อง่ายๆ และให้ทุกชื่อสอดคล้องในรูปแบบเดียวกัน

 

ลูกนกอินทรีขนน้ําเงิน มิซูโทริ, นากาเระโทริ, เระคุโทริ และ อิเคะโทริ ส่วนลูกนกอินทรีสีแดงชื่อ อาคาโทริ

แม้แต่เจ้าซีริชิกะก็ดูจะสนใจสิ่งมีชีวิตตัวน้อยเช่นกัน จากสายตาที่เป็นประกายอยู่ข้างๆ เจี๊ยกเองก็ไม่มั่นใจนัก แต่ดูเหมือนสิ่งที่คล้ายกวางตัวนี้ก็อยากจะช่วยเหลือเช่นกัน

 

ดังนั้นเจี๊ยกจึงทําตามความต้องการของมันโดยเริ่มสร้างรังนกเล็กๆ ไว้ระหว่างเขาทั้งสองข้างของซีริชิกะ จากนั้นก็ย้ายลูกนก” ทั้งห้าตัวพร้อมกับแม่ของพวกมันไปไว้บนรัง

“เอาล่ะ! อีกหนึ่งครอบครัวได้ถือกําเนิดขึ้นแล้ว ไปกันเถอะ! ซิริชิกะ แกวิ่งต่อไป แต่อย่าให้เร็วแบบก่อนหน้านี้ล่ะ! เดี๋ยวเจ้าตัวน้อยจะร่วงกลางทางเสียฉิบ” เจี๊ยกยิ้มขณะกระโดดขี่หลังกวางของเขา ที่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบก่อนจะเริ่มวิ่งไปข้าหน้า

 

เจี๊ยกหลับตาลงและนึกเส้นทางที่เขาและโอโทรช่วยกันหาที่สุด ปลายทางเป็นหมู่บ้านที่มีหน้าผาล้อมรอบ เป็นกระท่อมฟางและมีท่อนซุงเรียงซ้อนกันเป็นกําแพง

 

เจี๊ยกไม่เอาโอโทริเสี่ยงบินเข้าไปใกล้ เพราะมีแนวโน้มที่ใครบางคนอาจโจมตีมันได้ แต่เท่าที่รู้ ที่นั่นมีสัตว์มากมาย ถ้าพวกมันไม่เป็นมิตร เจี๊ยกก็พร้อมที่จะลงมือจัดการด้วยตัวเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นโอโทริหรือซิริชิกะ ล้วนเก่งในการต่อสู้แบบเป็นกลุ่ม

 

สัตว์ทั้งสองชนิดนี้เก่งกาจในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่ไม่ดีหากจะใช้ต่อสู้กับศัตรูจํานวนมาก นอกจากนี้ยังมีลูกน้อยอีกด้วย เขาไม่สามารถปล่อยให้ลูกนกอยู่ในรังที่อยู่บนเขาของซีริชิกะที่ออกไปต่อสู้ได้ นั่นมันเป็นความคิดที่แย่สิ้นดี!

ในชีวิตจริง แถบเทือกเขามีสัตว์ผู้ล่าอาศัยอยู่มากมายซึ่ง เจี๊ยกก็พอจะนึกออกอยู่บ้าง อย่างเช่น หมี, หมาปา และเสือภูเขา อาจมีสัตว์ป่าและมอนเตอร์จํานวนมากที่สัญจรไปมาในแถบเทือกเขานี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีสัตว์ที่ไม่ได้มีอยู่ในชีวิตความเป็นจริง

และเช่นนั้นเอง เจี๊ยกจึงเตรียมเพื่อค้นหาผู้ที่เก่งกาจด้านการต่อสู้

 

“โถ่เพื่อน! ฉันไม่ได้จะทําร้ายแกสักหน่อย!” เจี๊ยกตะโกนจากยอดไม้ ซึ่งข้างล่างมีหมีตัวหนึ่งขนสีดําเข้มกําลังพยายามที่จะทําร้ายเขา เขาพยายามฝึกมันให้เชื่องในตอนแรก เขาเจอมันในถ้ําข้างในปาลึก แต่หมีตัวนั้นก็ดูก้าวร้าวมากในทุกครั้งที่มันเห็นหน้าเจี๊ยก

 

“ฉันจะทํายังไงให้แกสงบลงได้ละเนี่ย? หรือฉันต้องถือสิทธิ์การครอบครองแก? แต่มันแข็งแรงกว่าฉันเป็นร้อยเท่านี่สิ..” เจี๊ยกพิมพ์กับตัวเองขณะที่มือทั้งสองคว้าจับกิ่งไม้และกระบอง

ตอนนั้นเองที่เขาเกิดความคิด เขาสามารถใช้ประโยชน์จากแรงโน้มถ่วงได้ จากนั้น เจี๊ยกจะหักกิ่งไม้ใหญ่ๆเท่าที่เขาจะถือไว้ ได้แล้วเทน้ําหนักตัวเองขณะบินไปจนถึงยอดต้นไม้

เจี๊ยกมองลงไปยังหัวของหมี ขณะในมือกํากระบองแน่นในความมั่นใจ

หลังจากโยนลงกิ่งไม้จากความสูงห้าเมตร กิ่งไม้ก็ลงที่กลางหัวของหมีแบบพอดี

 

หมีเดินโซเซไปรอบ ๆ เนื่องจากอาการมึนจากแรงกระแทก แต่ดูเหมือนจะสร้างผลกระทบต่อมันได้ไม่มากพอ

“ขอให้ได้ผลเถอะ” เขาพูดและโยนกิ่งไม้ที่เหลือลงไปยังพื้น จากนั้นก็กระโดดลงมาตรงหน้ามัน และแตะที่สีข้างของมัน “ฉันไม่ได้ต้องการจะทําร้ายแกนะ เพราะแกเป็นเพื่อนฉัน!”

 

เขาตะโกนออกมาและคิดเกี่ยวกับการเชื่อมโยงกับสัตว์ตัวใหม่ เจี๊ยกสัมผัสถึงความโกรธและความเกลียดชังของมันได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ ทําไมหมีถึงได้รู้สึกเช่นนั้น? มีบางสิ่งทําให้มันเกิดความเกลียดชังมากขึ้นงั้นเหรอ?

 

เจี๊ยกเกลียดความความรู้สึกเช่นนี้ เขารักสัตว์หมดทั้งหัวใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นสัตว์น้อยใหญ่ที่งดงามรู้สึกเช่นนี้มันยิ่งตอกย้ําให้เขารู้สึก… เศร้าใจ

 

“ฉันขอโทษนะเพื่อนยาก ไม่ต้องห่วงนะ อยู่กับฉันแกจะปลอดภัย” เจี๊ยกพูดด้วยรอยยิ้มและขยับมือผ่านขนดกดําขณะที่มันก็ค่อยๆสงบนิ่งลงเพราะเสียงของมนุษย์วานร

 

[ขอแสดงความยินดี! คุณฝึกหมีอันธการสําเร็จ!]

หมีอันธการตรงหน้าเจี๊ยกยืนขึ้นและลูบหัวเขาด้วยความสเน่หา ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะได้ผล

 

“ทีนี้ก็มาตั้งชื่อให้แกกันดีกว่า! ยามิคุมะ ดีไหม!” เจี๊ยกพูดกับตัวเอง และเจ้าหมีก็ยืนขึ้นพร้อมพยักหน้ารับให้เจ้านายใหม่ของมัน

“เอาล่ะพรรคพวก ไปกันได้แล้ว!” เจี๊ยกตะโกน เขาไม่อยากให้ซีชิริกะหรือโอโทรและลูกๆของมันเข้ามาเสี่ยงอันตรายกับวิธีการของเขา ดังนั้นเขาจึงพาพวกมันไปให้ห่างเมื่อเห็นว่ายามคุมะก้าวร้าวแค่ไหน

 

แล้วพวกมันก็ออกมาจากหลังต้นไม้และตรงมาหาเขา

“ดูเหมือนฉันจะมีนักสู้ที่เก่งกาจพร้อมรับมือกับหมู่บ้านนั้นแล้วนะ ไปกันเถอะพวกเรา!” เจี๊ยกพูดด้วยรอยยิ้มและชี้ไปยังเส้นทาง ข้างหน้าขณะกําลังนั่งอยู่บนหลังของยามิคุมะ พวกเขากําลังมุ่งตรงไปยังเส้นทางที่จะนําไปสู่หมู่บ้าน

 

ใช้เวลาเดินทางไม่นาน พวกเขาก็มาถึงที่หมาย ประตูทางเข้าหมู่บ้านที่เจี๊ยกเห็นผ่านสายตาของโอโทริ เมื่อเจี๊ยกยืนยันกับสิ่งที่เห็น แล้วเขาจึงกล้าปล่อยให้โอโทริบินเข้าไปใกล้ขึ้นได้ เพราะสิ่งที่เขาเห็นนั้นยิ่งทําให้เขาตื่นเต้นมากไปกว่าเดิมนั่นก็คือ ก็อบลิน

มอนสเตอร์ในร่างมนุษย์ขนาดเล็กที่เจออยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะใน เกม, ภาพยนตร์ หรือแม้แต่นิยาย!

เจี๊ยกเผยรอยยิ้มกว้างและบอกซีริชิกะให้ดูแลลูกนก มันไม่ใช่สัตว์นักสู้ ดังนั้นเขาจึงสั่งให้กวางออกไปให้ห่าง และวิ่งหนีหากมีสิ่งใดหมายจะทําร้าย จากนั้นก็เตรียมสําหรับการต่อสู่ร่วมกับสัตว์อันดับสองอย่างยามคุมะและโอโทร

เขากระโดดขึ้นขี่หลังหมีและชี้กระบองไปข้างหน้า ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงประตู เจี๊ยกก็กระโดดลงและปีนขึ้นไปบนกําแพง ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของเขาจัดการก็อบลินที่เดินอยู่รอบบๆบริเวณนั้น เขากระโดดลงมาจากกําแพงและทําให้พวกก็อบลินบริเวณนั้นตกใจ จากนั้นก็รีบไปเปิดประตูให้สัตว์เลี้ยงของเขาเข้ามาด้านใน

สามทหารเสือต่อสู้อย่างหนักและกําจัดก็อบลินทุกตัวที่มาขวางทาง จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีก็อบลินอาศัยอยู่มากขนาดนั้น และดูเหมือนที่นี่จะเป็นหมู่บ้านที่เกือบถูกทิ้งร้าง การต่อสู้ครั้งนี้จึงไม่ได้นานเกินไปอย่างที่เจี๊ยกคิดเอาไว้

หลังจากมั่นใจแล้วว่าปลอดภัย เจี๊ยกก็เรียนซีริชิกะมาหา จากนั้นก็มองรอบๆ เพื่อหาดูว่ามีอะไรที่เป็นประโยชน์หรือไม่

และก็มีหนึ่งอย่างที่เข้าตา! มีอุโมงค์อยู่ที่หน้าผาหลังหมู่บ้าน

เจี๊ยกและสัตว์ของเขาเดินไปอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งพวกมันเริ่มตอบโตอย่างแข็งกร้าว ส่งเสียงร้อง และคํารามกับบางสิ่งที่ชัดเจนว่ารออยู่ที่สุดทางเดินแคบๆนี้

เจี๊ยกยื่นกระบองออกมาข้างหน้าอย่างระมัดระวัง และยังคงเผชิญต่อไป ไม่ว่าอะไรจะรออยู่ตรงนั้นก็ตาม หัวใจของเขาเริ่มเต้น ระรัวจากการถูกคุมคามด้วยสิ่งที่ไม่รู้จัก

 

เมื่อสายตาของเขาเริ่มชินกับแสงสว่างจ้าด้านนอก เขาก็เห็นร่างสองร่าง อะไรบางอย่างที่มองแวบแรกแล้วเหมือนกับลูกบอลยักษ์ ที่มีขาส่วนอีกร่างหนึ่งเป็นใครบางคนที่รูปร่างสูงใหญ่ ในมือเขาถือดาบที่ชี้ตรงไปยังทางออกของปลายอุโมงค์ เจี๊ยกอยากจะส่งสัตว์ของเขาไปโจมตีสองร่างนั้นในความคิดแรก จนกระทั่ง เสียงหัวเราะที่กังวาน จริงใจ และลื่นหู

เจี๊ยกมั่นใจว่าเขาเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+