Love Code at the End of the World เล่มที่ 2 39(บทที่ 94) – ขอบคุณที่สอนให้ฉันรู้จักความโหดเหี้ยม

Now you are reading Love Code at the End of the World Chapter เล่มที่ 2 39(บทที่ 94) – ขอบคุณที่สอนให้ฉันรู้จักความโหดเหี้ยม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เล่มที่ 2 ตอนที่ 39(บทที่ 94) – ขอบคุณที่สอนให้ฉันรู้จักความโหดเหี้ยม

 

*กร๊อบบ!!* เถาวัลย์เคลื่อนตัวเข้ามาหาฉัน ทันใดนั้น พวกมันก็เคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน เข้าจับข้อเท้าของฉัน ฉันยกปืนยิงใส่พวกมันทันที ลำแสงของปืนตัดกิ่งไม้จนขาดจากกัน แต่กิ่งก้านอื่นก็เข้ามาจับตัวฉันต่อ ฉันจึงลั่นกระสุนใส่พวกมันอย่างรวดเร็ว

*เปรี๊ยง!! เปรี๊ยง!! เปรี๊ยง!!* ลำแสงยังคงตัดกิ่งไม้ที่พยายามเข้ามาใกล้ตัวฉัน ซึ่งฉันเองก็พยายามยิงต่อไปเรื่อยๆขณะที่ฉันนั่งข้างหุ่นยนต์ ฉันคว้าสายเคเบิลที่หน้าอกของหุ่นยนต์อย่างกระวนกระวาย “ซิงชวน!! ตื่นขึ้นมา….” แสงไฟสีฟ้ากระพริบในมือของฉัน ก่อนจะเกิดเป็นแสงกระพริบภายใต้หน้ากากสีเงิน หุ่นยนต์ลุกขึ้นมานั่ง!!

ฉันก็ยังคงยิงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ฉันเหลือบหันกลับไปมองเขา “ทำไมนายยังนั่งเฉยอยู่!! รีบพาฉันออกไป!!!“

หุ่นยนต์โอบเอวของฉันดึงตัวฉันเข้าไปใกล้แล้วอุ้มตัวของฉัน!! ฉันคว้ากล่องของขวัญดอกกุหลาบที่โยนทิ้งไปก่อนหน้านี้ แล้วรีบคล้องคอของเขาด้วยมือข้างที่ว่าง ส่วนมืออีกข้างก็ยังคงลั่นไกปืนยิงกิ่งไม้รอบๆ

“ต้นไม้เคลื่อนไหวอย่างไร?”ฉันกล่าวถาม หุ่นยนต์ก็ยังคงพุ่งตัวไปข้างหน้า หลบหลีกวิญญาณด้วยความว่องไว ทุกครั้งที่มองเห็นช่องว่าง เขาก็จะเร่งความเร็วไปในทิศทางนั้น ซึ่งมันทำให้เห็นรูบนกำแพงโผล่มาข้างหน้าของเรา มันคือรูที่ถูกระเบิดโดยมังกรน้ำแข็ง

“วิญญาณ พวกวิญญาณสามารถเข้าแทรกแซงต้นไม้ แล้วทำให้พวกมันเคลื่อนไหวได้!“

*ฟุบ!*พวกเราบินออกจากหลุม ข้างหลังของพวกเรา คือพวกวิญญาณที่กำลังกระพือปีกไล่ตาม มีอยู่ตัวหนึ่งคว้าเข้าที่ขาของหุ่นยนต์ ปีกของมันเกี่ยวพันกับวิญญาณที่ตามมาข้างหลังกลายเป็นโซ่ยาว เหมือนหางเพลิงของนกฟีนิกซ์ขาว

ฉันเอามือปิดที่หน้าอกของหุ่นยนต์ ถ้าหากพวกมันเอาพลังของคุณยังไปได้อีก ฉันจะตอบโต้มันด้วยการพุ่งเข้าใส่พวกมัน ฉันเชื่อว่าหุ่นยนต์จะสลัดหนีวิญญาณได้ เพราะสุดท้ายแล้วพวกมันก็เป็นเพียงแค่วิญญาณ

ในตอนนั้น แรงดึงดูดบางอย่างที่มองไม่เห็น เหมือนจะดึงแสงสีฟ้าบนตัววิญญาณมาที่ฉัน พวกมันคืบคลานขึ้นมาจากข้อเท้าของหุ่นยนต์เหมือนงูเหลือมตัวสีน้ำเงินจนมาสู่บริเวณขา จากนั้นแสงสีฟ้าของวิญญาณที่เคยครอบคลุมร่างกายก็ค่อยๆหายไป พวกมันเคยเห็นใบหน้าของมนุษย์ที่กำลังเหี่ยวเฉาด้วยความทุกข์ทรมาน

*อ๊าาาาาา!!*วิญญาณที่เกาะอยู่บนตัวหุ่นยนต์ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความทรมาน ก่อนจะแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงปลิวหายไปกับสายลม โซ่ตรวนวิญญาณขาดสะบั้น วิญญาณที่เหลือถอยกรูกลับไปที่ตัวอาคาร พวกมันทำได้แค่ยืนดูพวกเราจากไป

ฉันมองไปที่มือถือของฉัน จากนั้นก็มองไปยังวิญญาณที่อยู่ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ พวกเรามีพลังที่คล้ายกัน!!

*ฟิ้ววว!*ซิงชวนพาฉันขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือเมืองวิญญาณ จุดที่พวกมันเข้าถึงตัวเราไม่ได้ พืชสีเขียวปกคลุมไปทั่วเมืองอันเงียบสงัด มันดูสวยงามและไม่น่ามีพิษมีภัย แต่กลับมีอันตรายทั่วทุกหย่อมหญ้า

“มันไม่สวยเลยสินะ?”เขาถาม

“อืม ยังไงมันก็ยังเป็นส่วนลึกลับของพระเจ้าอยู่ดี“ฉันตอบ

“นายอยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว?” เขาก้มหน้าเอาคางมาแตะที่หัวของฉัน

“ตั้งแต่ที่นายทิ้งผมไว้ในดินแดนรกร้าง“

เขาเงียบ

พวกเราบินข้ามเมืองที่ถูกปิดผนึก โดยมีเพียงแค่เสียงลมดังก้องอยู่ในหู เรากำลังเข้าใกล้พรมแดนของเมืองที่มีกำแพงแสงขว้างกั้น

ฉันกอดร่างหุ่นยนต์ของเขาและกล่าวว่า “ผมอยากจะดูเมืองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกไป“

“ได้เลย“เขายืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูงใกล้ขอบเมือง

ลมพัดใส่พวกเราอย่างรุนแรง หุ่นยนต์ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร ดวงตาของซิงชวนจับจ้องฉันภายใต้หน้ากากสีเงิน

พวกวิญญาณไม่ได้เข้าโจมตีตั้งแต่แรก เพราะพวกมันปรากฏตัวหลังจากที่มังกรน้ำแข็งและฉันอยู่ในตัวอาคารมาสักระยะหนึ่ง เหมือนว่าพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของปลา และจะเข้ามาก็ต่อเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติ

“หลัวปิง มันเป็นความผิดของผมเองที่ทิ้งนายไปตอนนั้น“ซิงชวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียใจ “ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นนายสูญเสียความทรงจำ และต้องการความช่วยเหลือจริงๆ จากนี้เป็นต้นไป เมืองพระจันทร์จะเป็นบ้านของนาย ผมจะอยู่เคียงข้างใน แล้วจะคอยปกป้อง…….“

ฉันยิงปืน ตัดลำตัวของเขา หึ นายคิดว่าฉันไม่ได้ยินเรื่องที่นายพูดกับชาร์จาห์เหรอ? ฉันจะไม่กลับเข้าไปหาอ้อมกอดของพวกงูพิษเด็ดขาด

“หลัวปิง ยิงที่หัวของเขา มังกรน้ำแข็งสแกนตัวหุ่นยนต์ ตรวจจับอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่อยู่ในหัว!“ราฟเฟิลย้ำเตือน “พยายามเก็บหุ่นให้สมบูรณ์ที่สุด พวกเราจะเอาไปรีไซเคิล!! นี่มันเจ๋งมาก! พวกเราได้ตัวหุ่นยนต์ของเมืองพระจันทร์เงิน!“ราฟเฟิลไม่อาจปกปิดความตื่นเต้นที่แสดงออกมาในคำพูดของเขาได้

หุ่นยนต์ยืนนิ่งเงียบ ราวกับว่าตัวมันเองเป็นซิงชวนที่ยืนอยู่บนขอบดาดฟ้า

ฉันหัวเราะยิ้มเยาะอยู่ภายใต้ผ้าพันคอ “ซิงชวน ขอบคุณที่สอนให้ฉันรู้จักกับความโหดร้าย และกฎธรรมชาติของโลกใบนี้ ตอนนี้ ฉันรู้อย่างกระจ่างแจ้งแล้วว่าฉันไม่ควรไว้ใจใครอีกรวมถึงนายด้วย!!“ฉันยิงที่หน้ากากของเขา

*ปัง!*หน้ากากแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เผยให้เห็นแผงวงจรกำลังกระพริบอยู่ข้างใน

หุ่นยนต์ถอยไปข้างหลังอย่างช้าๆ แม้ว่ามือของเขาจะเอื้อมมาหาฉันเหมือนพยายามจะฉีดผ้าพันคอ ฉันจึงรีบถอยหลัง มือของเขาจึงจับได้แค่กล่องของขวัญดอกกุหลาบ ทำให้กล่องแตก กุหลาบตกลงสู่พื้น

ฉันยืนอยู่ที่ขอบดาดฟ้า มองหุ่นยนต์ล้มลงกับพื้น กลีบดอกกุหลาบสีแดงกระจายไปทั่วผืนให้ความรู้สึกเหมือนคราบเลือด

สายลมพัดผ่านอย่างรุนแรง ผ้าพันคอของฉันเอาไว้ไปกับแรงลม ฉันไม่หันไปมองเขาอีกเลย หึ ซิงชวนคงจะได้ลิ้มรสแล้วว่าการถูกทอดทิ้งมันรู้สึกอย่างไร

ฉันเดินไปอีกด้านหนึ่งของดาดฟ้า แล้วพูดว่า “มังกรน้ำแข็ง กลับมารับตัวฉันได้แล้ว“

“รับทราบ“

ในเมื่อหุ่นยนต์เมืองพระจันทร์เงินแยกออกห่างจากตัวฉัน มันก็เท่ากับว่าหุ่นยนต์กำลังจะสูญเสียแหล่งพลังงาน ในไม่ช้าพลังงานในตัวของมันก็จะหมดลง

มังกรน้ำแข็งปรากฏตัวด้านบนท้องฟ้า ดูเหมือนว่ามัน จะตามติดพวกเราอย่างใกล้ชิดในโหมดล่องหน ไม่มีเสียงเล็ดลอดใดๆทั้งสิ้น

หลังจากที่ฉันยืนยันว่าหุ่นยนต์พลังงานหมดแล้ว มังกรน้ำแข็งและฉันก็ไปอยู่ข้างๆตัวหุ่นยนต์ที่ตายสนิท

“โอ้ คุณเป็นคนที่น่ากลัวและโหดเหี้ยมมาก ผมหวังว่าคุณจะไม่ปฏิบัติกับผมแบบนั้น ผมยังมีชีวิตและตอนนี้ก็ยังมีสติสัมปชัญญะดี“มังกรน้ำแข็งถอนหายใจอย่างมีอารมณ์ “ส่วนเด็กคนนี้น่าสงสารจัง“เขาพูดเหมือนกับว่าหุ่นยนต์เป็นสิ่งมีชีวิต

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของฉัน มันก็เป็นแค่ตัวถังที่ทำขึ้นจากแผงวงจรและโลหะ ฉันชอบอีก มันมีปีกที่สวยงาม

มังกรน้ำแข็งยืดกรงเล็บออกไปเพื่อจับตัวหุ่นยนต์ เราพาตัวเขาออกไปจากสวนอีเดนที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย เราต้องออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด ซิงชวนรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ เขาจะต้องส่งยานอวกาศมาตามหาฉันแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด