My Death Flags Show No Sign of Ending 110 ตัวร้าย vs ปาร์ตี้ผู้กล้า

Now you are reading My Death Flags Show No Sign of Ending Chapter 110 ตัวร้าย vs ปาร์ตี้ผู้กล้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

[ เฮ้ เดี่ยวก่อนสิ พวกนายเอาจริงหรอ ? ] – ฮิวโก้

[ ใจเย็นลงหน่อย เอริกะ! ไลเนอร์ด้วย ! ] – ลีฟา

[ ทำไมผมต้องใจเย็น!! ฮาโรลด์ทำร้ายพ่อแม่ของผมนะ ! ผมอภัยให้ไม่ได้หรอก !! ] – ไลเนอร์

[ ใช่ค่ะ ท่านไลเนอร์พูดถูกแล้ว มาสู้กับท่านฮาโรลด์เถอะค่ะ … และถ้าหากพวกเราชนะ ถึงตอนนั้นค่อยมาฟังคำตอบจริงๆจากท่านฮาโรลด์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ] – เอริกะ

[ ตะ-แต่ว่า ฉัน … ] – คลอเล็ต

 

ขณะที่เอริกะและฮาโรลด์กำลังตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ ทั้งลีฟาและฮิวโก้ที่กำลังมองดูฉากนี้ที่มุมหนึ่ง พวกเขาทั้ง 2 พยายามพูดเพื่อที่จะเปลี่ยนความคิดเธอและไลเนอร์ แต่ดูเหมือนว่ามันจะส่งไปไม่ถึงเลยซักนิด

ซึ่งตัวของเอริกะเองก็เข้าใจในสิ่งที่ลีฟาและฮิวโก้พยายามจะสื่อ เพราะเธอเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะสู้กับฮาโรลด์ แค่เธอคิดถึงภาพที่เธอต้องหันอาวุธเข้าหาฮาโรลด์มันก็ทำให้เธอรู้สึกรังเกียจตัวเองแล้ว

ฮาโรลด์เป็นคนที่เย่อหยิ่งและเห็นแก่ตัวที่สุด เขานั้นช่วยเหลือผู้คนไว้มากมายด้วยความเย่อหยิ่ง และเขาก็ยอมที่จะได้รับบาดเจ็บอย่างเห็นแก่ตัว ไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะทำ จะมีใครเห็นการกระทำเขาหรือไม่ก็ตาม

แม้ว่าทุกๆคนจะเกลียดเขา แต่เขาก็จะยังคงเดินต่อไปเรื่อย แม้จะด้วยตัวคนเดียวก็ตาม

แม้ว่าอาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให็ฮาโรลด์ถึงต้องทำร้ายพ่อแม่ของไลเนอร์และพยายามที่จะต่อสู้กับพวกเธอในตอนนี้ ดังนั้นการที่เข้าเผชิญหน้ากับเขาอาจเป็นเรื่องที่ผิดก็ได้

แต่ถึงกระนั้น เอริกะก็ยังเลือกที่จะสู้กับฮาโรลด์ อย่างที่เขาต้องการให้เธอทำ

 

( นี่อาจเป็นสิ่งเดี่ยวที่ดิฉันทำเพื่อคุณได้ … ) – เอริกะ

 

เธออาจไม่ใช่คนที่สามารถสนับสนุนแผ่นหลังของฮาโรลด์ แต่เธอก็ไม่สามารถฝืนตัวเองให้ไม่ทำในสิ่งที่เขาต้องการได้

ซึ่งเอริกะก็ตระหนักถึงความจริงข้อนี้ดี ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้คือการเคารพการตัดสินใจของเขาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะขมขื่นถึงเพียงไหน เธอก็พร้อมที่จะทำตามอย่างสุดความสามารถ

 

 

[ หากพวกคุณไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมการต่อสู้นี้ด้วย ได้โปรดถอยออกไปด้วยค่ะ ] – เอริกะ

[ เอริกะ! หยุดเป็นคนปากแข็งได้แล้ว ! ] – ลีฟา

 

สิ่งที่ลีฟาตะโกนออกมานั้น เป็นคำขอที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเธอ

นั้นเพราะ นี่คือสิ่งเดียวที่เอริกะสามารถทำเพื่อคนที่เธอรักได้ สิ่งนี้คือสิ่งเดียวที่เธอไม่อาจจะยอมตัดใจได้ และไม่มีอะไรต้องพูดคุยกันอีก

 

[ ไม่ค่ะ ดิฉันไม่สามารถถอยกลับไปได้แล้ว ] – เอริกะ

[ แค่ฟังชั้น เธอจะต้องหย—- ] – ลีฟา

[ เฮ้ย ] – ฮาโรลด์

 

เสียงที่เยือกเย็นนั้น ทำให้บรรยากาศที่กำลังสับสนตรึงเครียดมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ฮาโรลด์จะไม่ได้อยู่ในท่าเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ มือทั้ง 2 ของเขายังคงถือดาบไว้ แต่มันเป็นเพียงการถือแค่หลวมๆ อย่างไรก็ตาม แรงกดดันที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นมันรุนแรงกว่าคู่ต่อสู้คนไหนๆที่กลุ่มของพวกเธอเคยเผชิญมาทั้งหมด

 

[ พวกแกจะทำอะไร ? ถ้าหากไม่คิดที่จะสู้ ชั้นจะจบมันเสียซะเดี่ยวนี้เลย ] – ฮาโรลด์

 

แม้คำพูดของฮาโรลด์จะดูคลุมเคลือ แต่ทุกคน ณ ที่นี้ต่างเข้าใจว่าฮาโรลด์นั้นหมายถึงอะไร ฮาโรลด์นั้นตั้งใจที่จะสู้กับพวกเธอทุกคนอย่างจริงจัง

นอกจากไลเนอร์ ที่เลือดขึ้นหน้าไปก่อนแล้ว คนอื่นๆต่างสั่นคลอนไม่น้อยให้กับคำที่ฮาโรลด์ประกาศออกมา ซึ่งรวมถึงเอริกะด้วย แต่เธอก็ยังสามารถทนมันได้ และจ้องมองกลับไปที่ตัวของฮาโรลด์

มาถึง จุดๆนี้ ทั้งฮิวโก้และลีฟาก็ค้นพบความตั้งใจที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยแล้ว แม้กระทั้งคลอเล็ต เธอเองก็ตั้งท่าที่จะต่อสู้เช่นเดียวกัน

 

[ มาเซ่ ฮาโรลด์!!! มาดูกันว่านายเจ๋งแค่ไหน ! ] – ไลเนอร์

 

จากคำพูดของไลเนอร์ ในที่สุดการต่อของพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้น

 

 

 

——————————————-

 

 

 

[ ย๊ากกก ! ] – ไลเนอร์

 

คมดาบที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงถูกฟาดลงมาราวกับใส่พลังทั้งหมดของไลเนอร์ลงไป สมกับฉายา “ดาบแห่งความโกรธเกรี๊ยว แกรมแกรนด์” พลังของดาบและเปลวไฟถูกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆราวกับว่ามันขึ้นอยู่กับความโกรธของไลเนอร์ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือไลเนอร์สามารถตามความเร็วของฮาโรลด์ได้ทัน

ดาบของไลเนอร์เชื่อมโยงกับอารมณ์ของเขา ไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบ เมื่อใดที่เขาปล่อยให้ความรู้สึกระเบิดออกมา ไลเนอร์จะสามารถปลดขีดจำกัดและเพิ่มความแข็งแกร่งได้อีกหลายเท่า นั้นเป็นวิธีการต่อสู้ของไลเนอร์เหมือนดั่งภายในเกมส์ ซึ่งฮาโรลด์ก็มองว่า มันก็สมกับเป็นตัวเอกของเรื่องดี

ในทางกลับกัน วิธีการต่อสู้ของฮาโรลด์กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ฮาโรลด์คอยสังเกตการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้อยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการโจมตีเหล่านั้นอย่างใจเย็น และทำให้แน่ใจว่าการโจมตีของเขาจะเข้าเป้าอย่างแน่นอน

สิ่งที่ทำให้การดวลนี้เป็นไปได้นั้นก็คือความเร็วที่ตัวของฮาโรลด์มีอย่างท้วมท้น และยังมีอีกข้อได้เปรียบหนึ่ง นั้นคือเขา “รู้” ว่าคู่ต่อสู้ของเขามีวิธีต่อสู้อย่างไรและสามารถทำอะไรได้บ้าง ดังนั้นฮาโรลด์จึงไม่คิดว่าตนจะแพ้ง่ายๆ

แม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้ 1 ต่อ 6 ไม่ว่าจะมองยังไงสถานการณ์นี้มันก็เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่ฮาโรลด์กำลังติดพันกับการโจมตีอันดุเดือดของไลเนอร์ มีการโจมตีด้วยทอนฟาก็พุ่งตรงมายังจุดบอดของเขา ฮาโรลด์หมุนตัวกลับ 180 องศาทันทีพร้อมกับใช้ลูกเตะโจมตีไปยังทอนฟานั้น

หากไม่นับเรื่องเนื้อไม้ที่มีความแข็งเป็นอย่างมากที่ใช้ในการทำอาวุธทอนฟาของคลอเล็ต มันยังถูกเสริมความแข็งแกร่งด้วยพลังเวทมนตร์อีกด้วย ซึ่งทำให้ทอนฟานี้แข็งยิ่งกว่าเหล็กเสียอีก การพยายามเตะอะไรที่เหมือนกับท่อนเหล็กนั้นเหมือนดั่งหาเรื่องให้กระดูกหัก แต่สิ่งที่ฮาโรลด์กระทำนั้นมันกลับดูง่ายดาย

พร้อมกับเสียง “แค้ก” ทอนฟาอันนั้นก็หักเป็น 2 ท่อน

นี่คือท่า < artillery kick > ที่ฮาโรลด์เคยใช้ในอดีตในตอนที่บดขยี้แขนที่มีลักษณะคล้ายกับกิ่งก้านขนาดใหญ่ยักของมอนเตอร์ที่ชื่อแฮมเมอร์แอนท์ มันเป็นลูกเตะกวาดแบบครึ่งวงกลมที่ไม่มีในเกมส์ เขาปรับปรุงมันโดยใช้มันคอมโบเข้ากับท่า < heel drop > เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของขาและพลังในการเตะ เรียกได้ว่านี่คือท่าออริจินัลในแบบฉบับของฮาโรลด์เอง

 

[ ปะ-เป็นไปไม่ได้ !! ] – คลอเล็ต

 

ใบหน้าของคลอเล็ตแสดงให้เห็นว่าเธอช็อคเป็นอย่างมาก เธอจินตนาการไม่ออกเลยว่าทอนฟาของเธอที่เคยรับการโจมตีจากอาวุธต่างๆนาๆจะถูกทำลายลงด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว

อย่างไรก็ตาม ด้วยการโจมตีของเธอก็เปิดโอกาสให้ฟรานซิสและฮิวโก้ปิดระยะและเข้าโจมตีขนาบมาจากทั้ง 2 ฝั่ง

แม้ว่าไลเนอร์จะเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถตามความเร็วของฮาโรลด์ได้ทัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงหยุดการโจมตีและถอยออกเพื่อให้เพื่อนๆทั้ง 3 ของเขาใช้การโจมตีแบบประสาน พวกเขารู้ตัวดีว่าพวกเขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับฮาโรลด์แบบ 1 ต่อ 1 ได้ ดังนั้นนี่จึงเรียกได้ว่าเป็นวิธีการต่อสู้ที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ฮาโรลด์นั้นรู้อยู่แล้วว่าการโจมตีประสานของทั้ง 4 คนนี้จะออกมารูปแบบไหน

1 ในประสบการณ์การเล่มเกมส์ < Brave Hearts > มานับครั้งไม่ถ้วนของฮาโรลด์ นั้นคือการพยายามเล่นเกมส์แบบท่ายากโดยจัดรูปแบบของปาร์ตี้ที่ประกอบไปด้วย ไลเนอร์ คลอเล็ต ฟรานซิส และ ฮิวโก้ ด้วยรูปแบบของปาร์ตี้นี้ ทำให้ไม่สามารถใช้การโจมตีจากระยะไกลหรือเวทมนตร์ได้

ทักษะของพวกเขาเป็นการโจมตีระยะกลางและประชิดซะส่วนใหญ่ อีกทั้งความสามารถในการฟื้นฟูหรือรักษาก็ค่อนข้างต่ำ จึงจำเป็นที่ผู้เล่นคอมป์นี้จะต้องแม่นในเรื่องการป้องกันและประสานงานกันในทีมเป็นพิเศษ

ซึ่งในตอนที่เล่นเอง ฮาโรลด์ก็พบว่าคอมป์นี้แม่งยากมากที่จะผสมผสานการต่อสู้ด้วยตัวละครเหล่านั้นเพื่อเอาชนะบอสด่านต่างๆเช่น ฮาโรลด์ สโตร์ก(ในเกมส์) ผู้ที่มีฉายาเจ้าแห่งเชนคอมโบ, วินเซนต์ ราชาแห่งระยะประชิด และ The last boss ยูสทัส ผู้ที่โจมตีจากระยะไกลด้วยเวทมนตร์ทรงพลังมากมาย

ที่จะกล่าวก็คือ หลังจากที่ทนเล่นคอมป์แบบนี้มานานพอสมควร ทำให้เขารู้ว่า คอมป์ในตอนนี้ยังไม่สามารถ”เอื้อมถึง” ฮาโรลด์ในปัจจุบันได้

ที่สำคัญไปกว่านั้น ฮาโรลด์ได้เตรียมแผนการณ์รับมือเอาไว้แล้วหากวันหนึ่งต้องมาเป็นศัตรูกับเหล่าผู้กล้าจริงๆ ซึ่งอันที่จริง มันก็เป็นแค่เพียงการฝึกซ้อมต่อสู้แบบ 1 vs กลุ่ม กับ ซิด ไอแซค คนอื่นๆ ตลอด 2 เดือนเต็มเท่านั้นเอง (TL: ตอนที่ 36 )

แน่นอนว่าไลเนอร์และชาวคณะแข็งแกร่งกว่าเป็นอย่างมาก ถึงกระนั้นตลอด 2 เดือนเต็มในการฝึกมันช่วยให้เขาเรียนรู้ว่าจุดไหนควรสกัดจุดไหนควรหลบหลีกในขณะที่ถูกโจมตีเข้ามาจากทุกทิศทาง

ง้าวขนาดยักที่ฟันลงมานั้นฮาโรลด์สามารถหลบมันได้อย่างง่ายดาย เอาจริงๆพลังที่ฮิวโก้ฟันลงมาไม่เพียงพอที่จะทำลายพื้นดินเลยด้วยซ้ำตอนที่มันกระแทกลงที่พื้น ดังนั้นจะเรียกว่าภัยคุกคามก็คงไม่ได้

ฮิวโก้พยายามที่จะดึงง้าวของตนกลับเพื่อกลับไปทั้งท่าโจมตีอีกครั้ง แต่ฮาโรลด์กลับใช้จังหวะนั้นหยั่งเท้าไปที่ง้าวเพื่อดีดตัวขึ้นหลบอาวุธของฟรานซิสที่โจมตีมาจากทางด้านหลัง

การกระโดดของฮาโรลด์ทำให้เขาลอยขึ้นสูงไปกว่า 3 เมตร แต่นั้นก็ไม่ได้สูงพอที่เหล่าลูกธนูจะโจมตีเข้ามาไม่ถึง มีเพียงคนเดียวในกลุ่มเท่านั้นที่สามารถทำแบบนี้ได้ ซึ่งฮาโรลด์ก็สามารถป้องกันมันทั้งหมดได้ด้วยดาบของเขา

อย่างไรก็ตาม ฮาโรลด์ก็ตระหนักได้ว่าการโจมตีด้วยธนูนั้นเป็นเพียงแค่ตัวหลอก

 

[ < Bolt Lance > ] – ลีฟา

 

กองหน้าทั้ง 4 ที่โจมตีเข้ามาพร้อมกันจากทั้ง ซ้าย ขวา หน้า หลัง ทำให้ฮาโรลด์ต้องหนีโดยการกระโดดขึ้นไปบนฟ้า แต่ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กับเป็นธนูของเอริกะ ซึ่งมันทำให้เขาชะงักไปชั่วครู่ ซึ่งแค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาไม่สามารถหลบการโจมตีของลีฟาได้ทัน เธอยิงเวทมนตร์ออกมาในจังหวะที่สมบูรณ์แบบ มันคือเวทมนตร์ที่ได้รับการปรับปรุงด้วยพลังแห่งวิทยาศาตร์และได้รับการแนะนำโดย ยูสทัส

การโจมตีประสานของกลุ่มทั้ง 6 มันเกินกว่าที่จะเคยมีอยู่ในเกมส์ (ในเกมส์เล่นได้แค่ 4 ตัว) มันก็หมายความว่าการโจมตีนี้เกินกว่าที่ฮาโรลด์เคยรับมือมาจากในเกมส์นั้นเอง

ความจริงก็คือ ขณะที่ฮาโรลด์กำลังรับมือการโจมตีจากไลเนอร์และคนอื่นๆ 2คนที่เขากำลังระวังตัวเป็นพิเศษนั้นคือ ลีฟา และเอริกะ เพราะพวกเธอทั้งคู่นั้นเป็นผู้ที่สามารถโจมตีได้ทรงพลังที่สุดภายในกลุ่ม

และเมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้ดังกล่าว ฮาโรลด์จึงเดาเอาไว้แล้วว่า ลีฟา จะเป็นผู้โจมตีเผด็จศึกในจังหวะสุดท้าย

ดังนั้น ฮาโรลด์จึงเข้ารับมือการโจมตีระยะประชิดจากทั้ง 3 คนพร้อมกัน เพราะเขาคิดว่าหาก พวกไลเนอร์ยังเกาะติดหนึบอยู่กับเขาแบบนี้ พวกเธอก็จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ที่ทรงพลังและกินพื้นที่บริเวณกว้างได้ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องจำใจ ดีดตัวหลบขึ้นไปบนฟ้า

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากความเร็วและพลังทำลายของลูกธนูของเอริกะแล้ว ถือว่ามันสมบูรณ์แบบมากในการใช้เพื่อขัดจังหวะจากระยะไกล นี่คงเกิดจากการเข้าใจในวิธีการต่อสู้ของคนอื่นๆภายในกลุ่มเป็นอย่างดี

 

และสำหรับการโจมตีปิดฉากของลีฟา ฮาโรลด์คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น < Bolt Lance > นั้นเพราะมันเป็นเวทมนตร์ที่มีความเร็วในการโจมตีสูงมาก แม้แต่ฮาโรลด์ผู้ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเร็วก็ไม่อาจหลบมันได้

 

นั้นคือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลีฟา แม้ว่าการโจมตีแค่นั้นจะไม่เพียงพอที่จะเอาชนะฮาโรลด์ในครั้งเดียว แต่ถ้าโจมตีโดน มันก็อาจทำให้ฮาโรลด์เป็นอัมพาตชั่วคราวได้

อย่างไรก็ตาม เวทมนตร์นั้นมันก็เป็นเวทมนตร์ประเภทสายฟ้า ซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่ฮาโรลด์เชี่ยวชาญที่สุดเช่นกัน และในขณะที่เขาป้องกันการโจมตีจากลูกธนูได้หมด เขาก็พร้อมเต็มที่จะปลดปล่อยเวทมนตร์เช่นเดียวกัน

 

[ < Bolt Lance > ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์ ปลดปล่อยเวทมนตร์ของตนแทบจะพร้อมๆกับลีฟา เมื่อการโจมตีของทั้ง 2 ปะทะกัน กลับกลายเป็นว่า< bolt lance > ของลีฟาถูกกลืนกินไปอย่างง่ายดาย พร้อมกับเกิดแสงสว่างจ้าจนแทบมองไม่เห็น มันสว่างยิ่งกว่าแสงจากดวงอาทิตย์ในวันที่อากาศแจ่มใส

ทุกคนในกลุ่มต่างมองไปยังทิศทางอื่นพร้อมกับหลับตาลง หลังจากทุกอย่างเริ่มสงบลงและเปิดตาขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาก็พบกับร่างของฮาโรลด์ที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นโดยไร้ซึ่งรอยขีดข่วนใดๆ

 

[ …. มีน้ำยากันแค่นี้หรอ ? ] – ฮาโรลด์

 

แม้น้ำเสียงที่ฮาโรลด์กว่าออกมามันจะฟังดูดูถูกเหยียดหยามการโจมตีเหล่านั้น แต่ภายในใจเขานั้นแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว

เหตุผลเดียวที่ฮาโรลด์สามารถหลบหลีกการโจมตีเหล่านั้นได้ทั้งหมด นั้นเพราะเขาไม่มีความตั้งใจที่จะโจมตีเลยซักนิด เขามุ่งสมาธิทั้งหมดในการป้องกันเพียงอย่างเดียว และถึงแม้เขาจะสามารถเอาชนะไรเนอร์และคนอื่นๆได้ทั้งหมด แต่นั้นมันก็จะทำให้เรื่องราวแตกต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเกมส์โดยสิ้นเชิง แถมการต่อสู้ในศึกสุดท้ายกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ การทำให้กลุ่มผู้กล้าได้รับบาดเจ็บในเรื่องไม่เป็นเรื่องยิ่งไม่ควร

แต่เมื่อมาคิดดูดีๆอีกครั้ง เกี่ยวกลับสถานการณ์ที่กำลังใกล้เข้ามา มันก็ไม่ใช่ไอเดียที่ดีเช่นกันที่ฮาโรลด์จะปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บ ดังนั้น มันจะเป็นการดีกว่ารึปล่าวหากเขาแค่หนีไปดื้อๆ และปล่อยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกลุ่มของผู้กล้าที่ตอนนี้พังยับยู่ยี่อยู่แบบนี้ อย่างไรก็ตาม …. 

 

[ พวกเรายังไม่หมดแค่นี้หรอก !!! ] – ไลเนอร์

 

ราวกับถูกกระตุ้นด้วยคำพูดของฮาโรลด์ ไลเนอร์ระเบิดความโกรธอีกครั้งพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ฮาโรลด์

แม้ว่าในตอนที่พวกโจรมาบุกปล้นบ้านของเขา ไลเนอร์จะไม่ได้บาดเจ็บใดๆ แต่พ่อแม่ของเขานั้นไม่ใช่ ดังนั้นสิ่งนี้จึงเป็นเหมือนกับการล้างแค้น ดังนั้นจึงพอเข้าใจได้ว่าทำไมไลเนอร์ถึงฟิวขาดตอนที่ได้ยินคำพูดว่า “มีน้ำยากันแค่นี้หรอ ?” ของฮาโรลด์

และในตอนก่อนเริ่มการต่อสู้ ในตอนนั้นใช่ว่าทุกๆคนในที่นี้จะยินดีปล่อยให้การต่อสู้เกิดขึ้น ฮาโรลด์จึงใช้โอกาสในความลังเลเหล่านั้นเพื่อพูดว่า “นี่พวกนาย พวกเราหยุดเรื่องทั้งหมดไว้แค่นี้แล้วไม่ต้องสู้กันดีกว่ามั้ย” แน่นอว่ามันไร้ประโยชน์เพราะคำที่พ่นออกมาแทนนั้นคือ “ พวกแกจะทำอะไร ? ถ้าหากไม่คิดที่จะสู้ ชั้นจะจบมันเสียซะเดี่ยวนี้เลย ” ซึ่งมันฟังดูราวกับประกาศสงครามมากกว่าการขอสงบศึก

อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุนี้ มันจึงไปกระตุ้นจุดอ่อนของไรเนอร์ผู้ซึ่งฟิวขาดง่ายๆ ซึ่งการปล่อยให้อารมณ์ครอบงำเป็นต้นตอของความประมาท

 

[ ย๊ากกกกกกก ! ] – ไลเนอร์

 

พลังเพลิงที่พลังของมันเพิ่มสูงขึ้นยิ่งกว่าครั้งไหนๆถูกเหวี่ยงลงมาอีกครั้ง แต่ทว่ามันก็พลาดเป้าจั่วพื้นเข้าเต็มๆจนเกิดแรงระเบิด

แน่นอนว่าฮาโรลด์สามารถหลบมันได้อย่างง่ายๆและใช้ช่องว่างนั้นไปอยู่ในมุมอับที่ด้านหลังของไลเนอร์ที่ซึ่งตอนนี้เพื่อนๆของเขาไม่สามารถสนับสนุนเขาได้ทัน พร้อมกับดาบในมือที่ถูกกุมแน่น ฮาโรลด์ใช้ด้ามดาบของเขาตนโจมตีไปที่หลังศีรษะของไลเนอร์

 

[ อั๊กก !! ] – ไลเนอร์

 

ไลเนอร์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ทว่าเขาก็ยังไม่ล้มลง จริงๆแล้วฮาโรลด์ตั้งใจที่จะทำให้ไลเนอร์หมดสติลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่อย่างที่คาด ไลเนอร์อึดมาก บางที นี่อาจเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมแพ้อันแรงกล้าของเขา

ฮาโรลด์ปักดาบดำในมือซ้ายของตนลงที่พื้น จากนั้นก็ใช้มือซ้ายทาบไปที่แผ่นหลังของไลเนอร์ที่ยังเซอยู่

ทันใดนั้น ก็เกิดเสียงทึบดังสนั่นที่มาพร้อมกับแสงแฟลส และร่างของไลเนอร์ก็ได้คุกเข่าลงโดยไม่ส่งเสียงใดๆออกมาอีก

 

[ ไลเนอร์ !!!! ] – คลอเล็ต

 

คลอเล็ตรีบวิ่งมาหาไลเนอร์ทันที ตามมาด้วยฮิวโก้และฟรานซิส 

แต่นั้น คลอเล็ตและคนอื่นๆกลับเข้ามาขวางตำแหน่งที่ลีฟาและเอริกะเตรียมจะโจมตีเข้ามา นั้นทำให้พวกเธอต้องยั้งมือเอาไว้ แม้ว่าเอริกะจะมั่นใจในฝีมือของเธอ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโจมตีให้โดนฮาโรลด์ ลีฟาเองที่ยืนอยู่ข้างๆก็ไม่สามารถปลดปล่อยคาถาของตนได้เช่นกัน

หลังจากแน่ใจแล้วว่าพวกเธอบังการโจมตีจาก 2 สาว ฮาโรลด์ก็ย่อร่างกายของตนต่ำลงเล็กน้อย ด้วยการตั้งท่าของเขาแสดงให้เห็นได้ชัดว่าเขามีเจตนาที่จะพุ่งเข้าจู่โจมคลอเล็ต ฟรานซิสและฮิวโก้จึงพยายามก้าวขึ้นมาด้านหน้าเพื่อปกป้องคลอเล็ต

อย่างไรก็ตาม ฮาโรลด์นั้นเร็วกว่า ทันทีที่เท้าของเขาเตะไปที่พื้น ฮาโรลด์ก็เข้าปิดระยะพวกเขาทันที

 

[ เอ๊ะ ? ] – ฮิวโก้

 

คนที่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความประหลาดใจนั้นคือฮิวโก้ นั้นเพราะเขาพึ่งจะรู้ตัวว่าฮาโรลด์เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ตนแทนที่จะเป็นคลอเล็ต ซึ่งสำหรับฮาโรลด์เขาก็เร็วมากจนแทบจะมองไม่ทันอยู่แล้ว แถมในกลุ่มคนทั้งหมด ฮิวโก้เองก็คาดไม่ถึงว่าตนจะตกเป็นเป้าหมายแรก

และอีกครั้งที่ฮาโรลด์ใช้ด้ามดาบโจมตี แต่ทว่าในครั้งนี้กลับเป็นที่คาง ถึงแม้ว่าฮิวโก้จะสวมอยู่ในสุดเกราะหนักเต็มยศและมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง แต่มันก็ไร้ความหมายหากการโจมตีนั้นทรงผลให้สมองสั่นไหว ร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาทรุดลงทันทีและแน่นิ่งไป

ฟรานซิสที่เห็นเช่นนั้นจึงเตรียมตั้งรับ แต่ว่ามันก็ไม่ทันการ ฮาโรลด์หมุนตัวเตะไปที่ท้องของฟรานซิส พร้อมกับชาตพลังสายฟ้าไว้ที่ฝ่ามือของเขา นี่คือ <ฝ่ามือสายฟ้า> ด้วยการโจมตีนี้สตีของฟรานซิสดับวูบลงทันทีเช่นเดียวกับไลเนอร์

แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นไปตามที่ฮาโรลด์ตั้งใจเอาไว้ แต่เขารู้สึกว่าเจ้าพวกนี้ถูกจัดการง่ายเกินไป เร็วเกินไป เผลอไม่ทันไรก็หมดสภาพไปกว่าครึ่งปาร์ตี้แล้ว

 

[ … หึ ? มีน้ำยากันแค่นี้งั้นรึ ? ] – ฮาโรลด์

 

คำพูดของฮาโรลด์หลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจอีกครั้ง

มันก็ช่วยไม่ได้ที่ฮาโรลด์จะสงสัยว่าเจ้าพวกนี้จะมีปัญญาไปเอาชนะยูสทัสได้จริงๆหรอ ? แต่มันก็ไม่มีคำตอบใดๆมาคลายข้อสงสัยของเขาได้

ขณะที่คลอเล็ตกำลังวิ่งเข้าไปดูอาการของไลเนอร์ กว่าเธอจะรู้สึกตัว พรรคพวกของเขาก็ถูกจัดการไปแล้วอีก 2 ฮาโรลด์เลือบมองมาที่เธอ นั้นทำให้เธอสะดุ้งจนไหล่กระตุก แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังก้าวเข้าไปบังร่างของไลเนอร์เพื่อปกป้อง เนื่องด้วยอาวุธทอนฟาของคลอเล็ตถูกทำลายไปแล้ว ฮาโรลด์จึงตัดสินว่าคลอเล็ตไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะต่อสู้ต่อไปได้อีก

 

[ แล้ว ? เหลือแต่พวกเธอสินะ ? ] – ฮาโรลด์

 

ขณะที่พูดราวกับว่าหมดความสนใจในตัวของคลอเล็ต ฮาโรลด์ก็หันมาทางเอริกะและลีฟา ลีฟามีสีหน้าแข็งทื่อไปเล็กน้อย แต่สำหรับเอริกะยังคงมีสีหน้าที่แน่วแน่ไม่สั่นคลอนแต่อย่างใด

 

[ แล้วจะเอาไง ? อยากจะต่ออีกรึปล่าว ? ] – ฮาโรลด์

[ แน่นอนค่ะ ] – เอริกะ

 

เอริกะตอบกลับมาในทันที 

ในทางกลับกัน นั้นทำให้ลีฟาระเบิดเสียงร้องขึ้น

 

[ พอได้แล้วเอริกะ ! ฮาโรลด์ ! หยุดเรื่องไร้สาระนี้ซักที! ทำไมพวกเราต้องมาสู้กันด้วย ! ] – ลีฟา

[ หยุดโวยวาย ถ้าหากเธอไม่คิดที่จะสู้ ก็ไปไกลๆซะ ] – ฮาโรลด์

 

จริงๆ ฮาโรลด์ต้องการที่จะพูดว่า “ถ้าหากเธอไม่ต้องการที่จะสู้แล้ว ก็ถอยไปก็ได้นะ ” แน่นอนว่า มันยิ่งเหมือนกับราดน้ำมันเข้ากองเพลิง

 

[ อึก!– !! ถ้านายพูดถึงขนาดนั้น!! . ก็ได้ !! ชั้นไม่สนอะไรแล้วเหมือนกัน อย่ามาบ่นกันทีหลังล่ะ !! ] – ลีฟา

 

ลีฟายกคถาของตนขึ้นเหนือศีรษะและกระแทกมันลงที่พื้นทันที ทันใดนั้น ก็แสงสีทองบนพื้นที่รอบๆตัวของฮาโรลด์

 

[ นี่มัน— ! ] – ฮาโรลด์

 

แม้ว่าจะเห็นเพียงแว๊บเดียวฮาโรลด์ก็บอกได้ทันทีว่านี่คือเวทมนตร์อะไร แต่ทว่า ฮาโรลด์ก็ถูกมันจับตัวเข้าได้ก่อนแล้ว

 

[ < Dual bind > ] – ลีฟา

 

หากต้องการหยุดการเคลื่อนไหนคู่ต่อสู้ นี้ถือเป็นคาถาที่ทรงพลังที่สุดภายในเกมส์ มันไม่เพียงแค่ทำให้คู่ต่อสู้ขยับไม่ได้เป็นระยะเวลา 8 วินาทีเท่านั้น มันยังลดความเร็วของเป้าหมายลงหลังจากนั้นอีกชั่วระยะเวลาหนึ่งอีกด้วย

หากมองในมุมของความสามารถของเวทมนตร์บทนี้เพียงอย่างนี้ สมดุลในเกมส์คงถูกพังทลายโดยสมบูรณ์ นั้นเพราะ คงไม่มีศัตรูคนไหนสามารถต่อกรได้อีกหากโดนคู่ต่อสู้ร่ายเวทมนตร์บทนี้ซ้ำใส่รัวๆ

แน่นอนว่า อะไรที่สะดวกสบายแบบนั้นไม่มีอยู่ในเกมส์หรอก เวทมนตร์นี้มีข้อเสียอยู่ นั้นคือ มันสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวสำหรับการต่อสู้ 1 ครั้ง แถมยังกินมานาเกือบ 3ใน4 ขอผู้ใช้อีกด้วย 

และอีก 1 ในข้อเสียใหญ่ๆ นั้นก็คือ “เวทบทนี้ไม่สามารถใช้โดยไม่มีคำร่ายได้”

 

( เดี่ยวสิ ! เธอเริ่มร่ายเวทบทนี้ตอนไหน ?! ) – ฮาโรลด์

 

ขณะที่ร่างของฮาโรลด์ไม่สามารถขยับได้ ในหัวของเขาก็วิ่งกันวุ่นเพื่อหาคำตอบ อย่างไรก็ตาม บทสรุปเพียงข้อเดียวที่เขาได้นั้นก็คือ ลีฟาใช้มันโดยที่ไม่ต้องร่ายคาถา

หลังจากที่เธอปลดปล่อยเวทมนตร์ < Bolt Lance > ออกไป ฮาโรลด์ก็ไม่ได้ยินเสียงของเธอร่ายคาถาใดๆออกมาอีก ดังนั้น หากเธอจะร่ายคาถาจริงๆ เธอต้องเริ่มร่ายตั้งแต่ก่อนหน้านั้นเท่านั้น

 

( ไม่สิ ตอนนั้น เธอร่ายคาถาแน่ๆ .. เดี่ยวนะ หรือว่าตอนนั้นเธอไม่ — ?! ) – ฮาโรลด์

 

ราวกับเริ่มปะติดปะต่อปริศนาทั้งหมด ในที่สุดเขาก็สามารถหาคำตอบได้

ในตอนนั้น ตอนที่ฮาโรลด์กำลังวุ่นกับการรับมือไลเนอร์และคนอื่นๆ ลีฟากำลังร่ายบทสวดไม่ผิดแน่นอน เพราะตอนนั้นเกิดแสงสีทองจากเวทมนตร์ขึ้นที่รอบๆตัวเธอ ก่อนที่เธอจะปลดปล่อยเวท < Bolt Lance > 

แต่ว่าในตอนนั้น ฮาโรลด์ไม่ได้เอ๊ะใจที่ว่าทำไมคำร่ายของเวท < Bolt Lance > ถึงยาวกว่าปกติ ยิ่งไปกว่านั้น วงเวทที่เกิดขึ้นรอบตัวผู้ร่ายเวทจากเวทมนตร์ < Bolt Lance > และ < Dual Bind > ยังเป็นสีทองเหมือนกันอีกด้วย

 

( อย่าบอกนะว่า ?? … เธอสามารถใช้ < Bolt Lance > ได้โดยไม่ต้องร่าย โดยแกล้งทำเป็นร่าย < Bolt Lance > แต่จริงๆกำลังร่าย < Dual Bind > ?! ) – ฮาโรลด์

 

การร่ายเวทมนตร์ 2 คาถาพร้อมกันไม่สามารถทำได้ภายในเกมส์ และฮาโรลด์เองก็ไม่เคยเห็นใครใช้ทักษะร่ายเวทมนตร์พร้อมกันได้ในโลกแห่งนี้มาก่อน

มันเป็นคำตอบที่ฟังดูบ้ามากๆ เกินกว่าที่ฮาโรลด์จะจินตนาการไว้มากนัก สำหรับเขา มันบ้ายิ่งกว่าใช้ < Dual bind > ติดกัน 2 ครั้งเสียอีก

และมีเพียงคนเดียว ที่ฮาโรลด์พอจะนึกออกว่าสามารถคิดไอเดียอะไรที่มันบ้าๆแบบนี้ได้

 

( แกสอนอะไรให้ยัยนี่เนี้ย ไอ้เวรยูสทัส !!! ) – ฮาโรลด์

 

ลีฟาไม่ใช่ผู้ที่ไม่มีพลังเวทมนตร์แต่อย่างใด กล่าวอีกนัยคือ เธอแค่ขาดพรสวรรค์ที่จะใช้เวทมนตร์ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในโลกแห่งนี้ และเธอก็ไม่ได้ขาดความเข้าใจในเรื่องเวทมนตร์ แต่มันเกิดมาจากลักษณะทางพันธุกรรมที่ทำให้อวัยวะ “ออราเคิ้ล” ของเธอทำงานผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม ยูสทัสเป็นเพียงคนเดียวภายในโลกแห่งนี้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยอวัยวะ”ออราเคิ้ล” นอกจากนี้ ในสังคมที่เจริญรุ่งเรื่องด้วยการใช้เวทมนตร์เป็นหลัก ทำให้ความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ไม่มีใครเทียบเท่าเขาได้

นอกจากนี้ ด้วยสติปัญญาและความสามารถของที่ลีฟามี ทำให้เธอคู่ควรที่จะถูกเรีกยว่าอัจฉริยะตั้งแต่ต้นอยู่ก่อนแล้ว แถมตอนนี้ ปัญหาข้อบกพร่องเรื่องอวัยวะ “ออราเคิ้ล” ของเธอได้รับการแก้ไข ยิ่งทำให้ความสามารถด้านเวทมนตร์และวิทยาศาสตร์ของเธอเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

นั้นหมายความว่า ลีฟาในตอนนี้เป็นดั่งผู้ที่ถูกปลดออกจากพันธนาการ และสามารถปลดปล่อยเทคนิคเวทมนตร์อัจฉริยะต่างๆได้อย่างอิสระ

 

[ ไม่ต้องยั้งมือเลย เอริกะ ! ] – ลีฟา

[ เข้าใจแล้วค่ะ ] – เอริกะ

 

ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น ยังมีอีกคนหนึ่งที่อยู่ ณ ที่นี่ ที่สามารถปลดปล่อยเวทมนตร์ระดับสูงมากมายติดต่อกันโดยไม่ต้องกล่าวคำร่ายใดๆออกมาเช่นกัน

ในที่สุด ฮาโรลด์ ก็ได้สัมผัส “คมเขี้ยว” ของเอริกะ สุเมรากิ เป็นครั้งแรก

 

[ < Ranven Storm > ] – เอริกะ

 

วงเวท 2 วงปรากฎขึ้นที่ใต้เท้าของเอริกะ วงหนึ่งเป็นสีเขียวอีกวงเป็นสีดำที่ฮาโรลด์ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

อย่างไรก็ตาม เพียงแค่เห็นวงเวทเหล่านั้น ฮาโรลด์ก็พอจะเดารูปแบบการทำงานของมันได้

นี่คือการผสานเวทมนตร์ 2 คาถาที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน และทั้ง 2 คาถาถูกร่ายพร้อมกันโดยไม่มีคำร่ายใดๆ และจากปริมาณพลังเวทของทั้ง 2 คาถาที่ฮาโรลด์สัมผัสได้ เวทมนตร์เหล่านั้นเป็นเวทระดับสูง

แม้แต่ฮาโรลด์เองที่มั่นใจในความแข็งแกร่งของร่างกายตนเองยังรู้ได้ทันทีท่ว่าไม่มีทางที่จะเขาจะรับการโจมตีนี้แล้วไม่บาดเจ็บ

ยิ่งในตอนนี้ ร่างกายของเขายังไม่สามารถขยับได้

และในที่สุด ร่างของฮาโรลด์ก็ถูกกลืนกินหายไปในพายุอีกา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด