My Death Flags Show No Sign of Ending 47 สิ่งที่รออยู่หลังความพยายาม

Now you are reading My Death Flags Show No Sign of Ending Chapter 47 สิ่งที่รออยู่หลังความพยายาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

(มุมมองของเอริกะ)

 

 

หลายๆคนที่กลับมาจากภารกิจต่างได้รับบาดเจ็บ บางคนอาจต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน แต่ถือว่าโชคดีมากที่ไม่มีใครถึงแก่ชีวิต

และทุกๆคนที่รอดกลับมาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ฮาโรลด์คือเหตุผลที่พวกเขายังมีรอดชีวิตอยู่ได้

ตามที่ยูโนะเล่า เพื่อที่เธอและคนอื่นๆจะสามารถหลบหนีออกมาได้ ฮาโรลด์นั้นได้เข้าท้าสู้กับผู้บัญชาการของจักรวรรดิด้วยตัวคนเดียวทั้งๆที่เขาเองก็ได้รับบาดแผลเต็มตัวอยู่ก่อนแล้ว เมื่อฉันได้ยินดังนั้น ฉันแทบจะอดไม่ไหวที่จะไปเยี่ยมฮาโรลด์โดยเร็วที่สุด

ฉันอยากจะแน่ใจว่าเขาปลอดภัยด้วยตาของตัวเอง และอยากจะแสดงความขอบคุณแก่เขา

แต่ว่าฮาโรลด์คงไม่ต้องการคำขอบคุณเหล่านั้น เขาคงมองเรื่องพรรค์นี้ว่าน่ารำคาญ

ถึงกระนั้น อย่างน้อยฉันก็อยากจะพบเขาเพื่อแสดงความขอบคุณที่เขาได้ช่วยยูโนะและคนอื่นๆในตระกูลสุเมรากิเอาไว้

อย่างไรก็ตาม ฉันกลับถูกห้ามไม่ให้ทำเรื่องเหล่านั้นในทันที

นั้นเพราะมีเพียงผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นที่ทราบว่าฮาโรลด์นั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างปฎิบัติภารกิจ มันคงผิดธรรมชาติหากจู่ๆเธอไปขอตรวจสอบความปลอดภัยของฮาโรลด์ ดังนั้นอย่างน้อยฉันต้องรอให้กองอัศวินเดินทางกลับเมืองหลวงเสียก่อนถึงจะทำเช่นนั้นได้

หากฉันฝืนเดินทางไปเยี่ยมเขาที่คณะสำรวจตอนนี้ด้วยตนเอง มันคงเป็นการหว่านเมล็ดแห่งความสงสัยโดยไม่จำเป็น

ดังนั้นฉันจึงมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวงเพื่อดักรอฮาโรลด์และคณะสำรวจจนกว่าพวกเขาจะเดินทางกลับมาถึง

ซึ่งตั้งแต่ฉันตัดสินใจเดินทางมาที่เมืองหลวงมันก็ผ่านมาได้ 1 เดือนแล้ว และคณะสำรวจของกองอัศวินเองก็กลับมาถึงที่เมืองหลวงได้ 2 อาทิตย์แล้วเช่นกัน

 

[ …. วันนี้ฉันจะได้รับอนุญาตให้เข้าพบกันเขารึปล่าวนะ ? ]

 

ฉันรู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดมันแสดงออกทางสีหน้าของฉันได้อย่างชัดเจน

ยูโนะเองที่ยืนอยู่ข้างๆฉัน รอยยิ้มที่อ่อนโยนที่เธอมักจะแสดงเป็นปกติยังคงจางหายไปตั้งแต่กลับมาจากภารกิจ ถึงแม้เธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนักและกลับมาทำหน้าที่คนรับใช้ส่วนตัวของฉันได้ตามปกติ แต่เธอกลับไม่เหมือนเดิม- ไม่สิ พวกเราทั้ง 2 ต่างมีสภาพจิตใจที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

ในวันที่ข้อมูลการกลับมาของคณะสำรวจของกอัศวินได้รับการเปิดเผยสู่สาธารณะ ฉันพยายามติดต่อขอเข้าพบกับฮาโรลด์ที่สำนักงานใหญ่ของกองอัศวินโดยทันที แต่พวกเขากลับปฎิเสธ ฉันจึงพยายามมาที่นี่ในทุกๆวันแต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี อย่างน้อยฉันก็รู้ฮาโรลด์ยังมีชีวิตอยู่ ฉันได้แต่สงสัยทำไมเรื่องแค่นี้มันถึงยุ่งยากนัก ?

ถึงแม้ฉันจะรู้สึกโล่งใจที่เขายังมีชีวิต แต่ฉันกลับไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบกับเขาเสียทีแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร พวกเขาปฎิเสธฉันโดยที่ไม่อธิบายเหตุผลใดๆเลย

ในระหว่างที่ปฎิบัติภารกิจสำรวจ ยูโนะกล่าวว่าฮาโรลด์กำลังสวมเครื่องแบบของนายทหารจากจักรวรรดิซาเรี่ยนอยู่ เธอคิดว่าหากอัศวินพบตัวของฮาโรลด์ขณะสวมเครื่องแบบนี้ล่ะก็มันคงกลายเป็นปัญหาใหญ่แก่เขา

นั้นเพราะหากฮาโรลด์ผู้เป็นอัศวินแห่งราชอาญาจักรกลับถูกพบในขณะสวมเครื่องแบบของนายทหารจากจักรวรรดิ มันเป็นเรื่องที่แน่นอนที่จะต้องถูกสงสัย

บางที นี่อาจจะใช้เวลานานสักหน่อยเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา

ขณะคิดถึงความทุกข์ทรมานใจที่ฮาโรลด์ต้องเผชิญ ฉันก็มุ่งหน้ามาที่สำนักงานใหญ่ของกองอัศวินอีกครั้งในวันนี้

 

[ … เธอมาอีกแล้วเหรอ ? ]

 

หลังจากเห็นฉันและยูโนะ เหล่าทหารที่รับหน้าที่เฝ้าหน้าประตูต่างทำสีหน้าเหน็ดเหนื่อยใจ

ทุกๆวันตลอด 2 สัปดาห์มานี้ ฉันได้แต่ขอร้องพวกเขาให้ฉันเข้าพบฮาโรลด์ ถึงแม้ว่าฉันจะคิดว่าที่ฉันทำจะไม่เป็นการรบกวนพวกเขามากขนาดนั้น แต่สำหรับพวกเขามันคงเป็นการเหนื่อยที่จะรับมือกับเรื่องพรรค์นี้ในทุกๆวัน

ฉันได้แต่ขอโทษในใจที่ต้องทำให้พวกเขาต้องเจอกับเรื่องแบบนี้อีกครั้ง แต่ฉันจำเป็นต้องทำ

 

[ สวัสดีค่ะ คุณโลว์รี่ ดิฉันขอเข้าพบท่านฮาโรลด์จะได้ไหมคะวันนี้ ? ]

[ เฮ้ออ .. เหมือนที่ฉันพูดไปหลายๆครั้งก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้รับการอนุญาตให้ใครก็ามสามารถเข้าพบได้ ]

 

วันนี้ก็ไม่ใช่วันที่ดีสินะ

ฉันได้แต่มองไปที่ประตูบานนั้น คงจะไม่สะดวกหากฉันยังฝืนอยู่ที่นี่ต่อไป จะโกรธคุณโลว์รี่ก็ไม่ได้ เพราะเขาก็แค่ทำงานที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น

แต่ว่าขณะที่ฉันกำลังถอยกลับอย่างสงบ ชายคนหนึ่งก็เรียกฉันจากทางด้านข้าง

 

[ โอ้ เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ ? ]

 

ชายผู้นั้นเรียกความสนใจจากทุกๆคนในที่นี่ เขาค่อยๆเดินมาหาฉันด้วยใบหน้าขี้เล่น

 

[ โอะ นั้นหัวหน้าโคดี้ไม่ใช่รึ ? คุณมาทำอะไรที่นี่ ? ]

[ ฮืมม ? ดูเหมือนว่าข้าจะเห็นคุณโลว์รี่กำลังรังแกเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ-.. ]

[ ผมไม่เคยทำอย่างนั้นซักหน่อยโว้ย ! ]

[ ล้อเล่น~ ล้อเล่น~  ]

 

จู่ๆชายที่ชื่อโคดี้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

หลังจากได้ยินบทสนทนาของพวกเขาทั้ง 2 ฉันได้แต่สงสัยว่าชายคนนี้เป็นหัวหน้าของฮาโรลด์จริงๆหรือ? ทุกๆอย่างเกี่ยวกับชายคนนี้ ทั้งสีหน้าและท่าทาง เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ ทุกๆอย่างล้วนดูหละหลวม

ถึงแม้ตอนนั้นยูโนะเธอจะปกปิดใบหน้าอยู่ แต่ว่าธอก็เคยพูดคุยกับโคดี้ และยังโชคดีที่เขาไม่สงสัยอะไร เพราะกระนั้น เพื่อความปลอดภัย ยูโนะจึงตัดสินใจว่าจะไม่พูดต่อหน้าโคดี้จะดีกว่า

ขณะที่ฉันกำลังคิดถึงเรื่องนี้ โคดี้ก็หยุดการสนทนากับโรว์รี่แล้วหันมาทางฉัน

และเขาพูดอะไรบางอย่างที่ฉันคาดไม่ถึง

 

[ โอเค งั้นพวกเราเข้าไปกันเถอะ ]

 

โคดี้พูดออกมาขณะที่ชี้นิ้วไปยังสำนักงานใหญ่ หรือในอีกความหมาย เขาจะบอกว่าสามารถเข้าไปได้

 

[ เฮ้ ! หัวหน้าโคดี้! ]

[ มันจะไม่เป็นไรจริงๆหรอคะ ? ]

[ แน่นอนสิ! ก็ เธอคือคู่หมั้นของฮาโรลด์ ถูกต้องมั้ย ? ]

[ เนื่องจากตำแหน่งของดิฉัน เราจึงมีความสัมพันธ์กันเช่นนั้นค่ะ ว่าแต่ทำไมคุณถึงทราบเรื่องนี้ได้คะ ? ]

[ ข้ารู้ก็เพราะข้าเป็นหัวหน้าของฮาโรลด์คุงน่ะ และเขามักจะโอ้อวดเรื่องที่เขาเป็นแฟนกับเธอให้คนอื่นฟังบ่อ-]

[ ขออภัยที่ต้องขัดจังหวะค่ะ แต่นั้นเป็นเรื่องโกหกสินะคะ ? ]

[ อ่า- … อืม ก็ใช่แหละ ]

 

ฉันได้ตัดมุขตลกของโคดี้ออกไป จริงๆฉันก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับเรื่องนี้หรอกนะ ฉันแค่คิดว่านั้นเป็นสิ่งที่ฮาโรลด์จะไม่มีทางพูดโดยเด็ดขาดเท่านั้นเอง

โคดี้ผู้ที่ถูกขัดจังหวะและได้ยอมรับคำโกหกอย่างตรงไปตรงมา …

 

[ ก็ เรื่องที่ข้าเป็นหัวหน้าน่ะเรื่องจริงนะ ดังนั้น มีเรื่องอะไรที่เธออยากจะรู้รึปล่าว? ถ้าหากข้าสามารถตอบเธอได้ ข้าก็จะตอบ ]

[ ดิฉันจะเขื่อคำพูดของคุณค่ะ ท่านโคดี้ ]

 

ฉันเองก็ทราบเรื่องที่โคดี้เป็นหัวหน้าของฮาโรลด์อยู่แล้วเช่นกัน ดังนั้นฉันจึงไม่กังวลอะไรหากเขาจะโกหกหรือไม่ก็ตาม และโลว์รี่ดูเหมือนว่าเขาจะตัดสินใจแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับพวกเราไปแล้วพร้อมกับบ่นออกมาราวๆว่า “หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็รับผิดชอบกันเองนะ เข้าใจ?”

หลังจากนั้น ยูโนะและฉันก็ถูกโคดี้พาเข้ามาที่ห้องรับรองสำหรับแขก เขากล่าวว่าให้พวกเรารอที่นี่ขณะที่เขาไปเตรียมน้ำชา แล้วเขาก็ออกจากห้องนี้ไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั่งลงที่เก้าอี้ไม่ได้นาน ประตูก็ถูกเคาะขึ้น โคดี้กลับมาแล้วงั้นรึ ?

แต่ก่อนที่ฉันจะได้คำตอบ เสียงของใครบางคนที่ฉันไม่คาดคิดก็ดังมาอีกฝั่งของประตู

 

[ ข้ากำลังเข้าไป ]

 

ในจังหวะที่เจ้าของเสียงนั้นเห็นฉัน ตัวเขาก็แข็งทื่อไปแว๊บนึง แม้ว่าเขาจะยังดูสงบ แต่การแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์เห็นได้ชัดว่าร้อนรนอย่างหน้าประหลาดใจ

 

[ ดิฉันได้ยินมาว่าคุณได้รับบาดเจ็บ แต่ดูเหมือนว่าคุณดูสบายดีนะคะ ท่านฮาโรลด์ ]

[ ฮี นั้นเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับเธอสินะ ? ]

 

คำเสียดสีบินมาโจมตีในทันที เหมือนอย่างเคยสินะ

แต่ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ดีขึ้นกว่าครั้งสุดท้ายที่พวกเราพบกันที่คฤหาสน์สุเมรากินะ ?

 

[ คุณปลอดภัยดี … ]

[ ใช่ ข้าสบายดี เอาล่ะเธอต้องการอะไร ? ]

 

ฮาโรลด์นั่งลงที่ตรงข้ามกับฉัน ยังดีที่เขาไม่ได้หันมาสบตา 

ฉันยืดตัวขึ้นและลดเสียงของตัวเองลงเพื่อไม่ให้คนอื่นที่อยู่ด้านนอกห้องได้ยิน

 

[ ดิฉันต้องการยืนยันว่าท่านฮาโรลด์ปลอดภัยดีค่ะ และแสดงความขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของคุณในครั้งนี้ค่ะ ]

 

ทันทีที่ฉันกล่าวออกไป ยูโนะที่อยู่ข้างๆฉัน เธอก็เผยรอยยิ้มออกมาและก้มหัวของเธอลงราวกับแสดงความขอบคุณ

ฮาโรลด์เองที่ดูเหมือนจะเดาทุกอย่างได้แล้วจึงถอนหายใจออกมา

 

[ ไร้ค่า … ]

[ ดิฉันต้องขออภัยด้วยค่ะ ดิฉันเข้าใจดีถึงความไม่สะดวกของท่านฮาโรลด์เป็นอย่างดี แต่ว่าดิฉันต้องการที่จะพบคุณและยืนยันความปลอดภัยของคุณด้วยตัวของฉันเองให้ได้ค่ะ ]

[ … ]

 

ฮาโรลด์นิ่งเงียบไม่พูดอะไร

ความกังวลและความรู้สึกขอบคุณเป็นเพียงความเห็นแก่ตัวในส่วนของฉันเพียงอย่างเดียว ฮาโรลด์ไม่มีพันธะใดๆที่จะต้องยอมรับมัน และฉันก็คิดว่าเขาจะยอมรับมันจริงๆ

แต่ไม่เป็นไร ยังไรฉันก็คิดว่ามันคุ้มค่าแล้วที่ได้มาที่เมืองหลวงและยืนยันความปลอดภัยของฮาโรลด์ด้วยตัวเอง

จริงๆแล้ว ฉันไม่อยากจะก่อปัญหาให้กับฮาโรลด์ แต่ฉันห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ เอาตามตรง ฉันอยากจะให้เขาเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้ฉันฟังด้วยตัวเอง โดยไม่สนว่าจะมีปัญหาใดๆตามมา แต่ก็ ถือว่าดีแล้วล่ะ แค่เขาได้มานั่งคุยกับฉันในตอนนี้ฉันก็แทบจะรู้สึกว่ากำลังฝันอยู่เลย

แต่อีกด้านหนึ่ง ฉันก็รู้สึกหดหู่ใจที่ฉันยังทำตัวเหมือนเด็กๆ และไม่โตพอที่จะสนับสนุนฮาโรลด์ได้ 

 

[ เรื่องที่จะพูดมีเท่านี้ ? ]

[ ม-ไม่ค่ะ เอ่อคือดิฉัน- … ไม่มีอะไรค่ะ ]

 

ฉันพยายามจะหยุดฮาโรลด์ ที่กำลังจะลุกออกจากห้องไป แต่ก็ทำได้เพียงห้ามตัวเองไว้ ฉันไม่มีคำพูดอะไรกับพูดกับเขาได้อีกแล้ว

มันเป็นแบบนี้ได้ไงกัน

ฉันได้แต่ยอมรับและก้มหน้าลง ถึงแม้สายตาของฉันยังคงจับจ้องไปยังฮาโรลด์ ฉันได้แต่ไล่ตามเขาอยู่เสมอ แต่แผ่นหลังของเขาดูเหมือนจะดูห่างไกลจากมือฉันอยู่ตลอดเวลา

 

[ งั้นก็แค่นี้ ข้าไม่มีเวลาว่างมากพอมาวุ่นวายกับเธอหรอกนะ งี่เง่า ]

[ ขอบคุณที่สละเวลาอันมีค่าของคุณค่ะ ]

[ ถ้าเข้าใจแล้วอย่าได้รบกวนข้าอีก ครั้งหน้าถ้าจะมาพบข้าล่ะก็อย่าใช้วิธีผ่านทางไอ้หมอนั้นก็แล้วกัน ]

[ ได้ค่ะ ครั้งหน้าดิฉัน-.. เอ๊ะ ? ]

 

ครั้งหน้าอะไร ? นั้นหมายถึงฉันสามารถมาพบเขาได้อีกหรอ ?

แล้วทำไม ? ไม่ใช่ว่าเขาพยายามตีตัวออกห่างจากฉันหรอกรึ ? 

 

“ครั้งหน้า ”คำพูดพียง 2 พยางค์ของเขา ทำให้ฉันรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก และฉันเริ่มรู้สึกสงสัยตัวเองว่านี่เรียกว่าความสุขรึปล่าวที่กำลังหลั่งไหลออกมา

ราวกับเขาไม่สนใจว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร เพราะสิ่งที่เขากำลังกระทำต่อไปทำให้ความสงสัยของฉันกระจ่าง

ขณะที่เขากำลังเดินผ่านไป มือของฮาโรลด์ก็วางบนที่ศีรษะของฉัน เขาไม่ได้ลูบแต่อย่างใด เขาแค่วางมือของเขาลงเบาๆ

มือของเขา- นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้สัมผัสมือของเขา มันอบอุ่นมาก

 

[ การสั่งสอนเตือนสติของเธอเมื่อในตอนนั้นช่วยเหลือข้าไว้มาก ดังนั้นครั้งนี้ข้าจะขอชมเชยซักครั้ง … เอริกะ ]

 

คำขอร้องของฉันตอนที่ฮาโรลด์มาที่คฤหาสน์ ขอร้องให้เขาพึ่งพาใครสักคน เปิดใจให้กับใครซักคน นั้นคือความปรารถนาของฉันที่มีต่อเขา ถึงแม้ฉันเองก็ต้องการที่จะเป็นคนๆนั้นเช่นกัน

ฉันได้แต่สงสัยว่าความรู้สึกของฉันในตอนนั้นสามารถช่วยสนับสนุนแผ่นหลังของเขาได้บ้างหรือไม่นะ ? แม้ว่ามันจะเพียงเล็กน้อยก็ยังดี

ฮาโรลด์ออกในห้องรับแขกไปโดยไม่สนใจฉันที่กำลังตะลึงอยู่ กว่าฉันจะรู้สึกตัวก็เมื่อได้ยินเสียงประตูที่ปิดลงดัง “ปัง”

 

 

[ … ขะ- เขาเรียกชื่อของฉัน ?! ]

 

ดังเสียงระฆังที่ดังขึ้น ฉันรู้สึกราวกับหัวใจกำลังจะระเบิดออก อุณหภูมิในร่างกายของฉันเพิ่มขึ้นจนฉันคิดว่าน่าจะมีไอน้ำออกมาจากศีรษะแล้วตอนนี้

ฮาโรลด์เขาสัมผัสฉันด้วยมือของเขา เขาสัมผัสฉันด้วยความตั้งใจของเขาเอง

และเขาเรียกฉันด้วยชื่อเป็นครั้งแรก ไม่ใช่ “เธอ” หรือ “ยัยนี่” แต่เป็น “เอริกะ”

ฉันได้แต่เอามือปิดปากของตน และก้มหน้าลงเพื่อพยายามซ่อนใบหน้าที่เขินอาย

ไม่มีทางที่ฉันจะยอมให้ยูโนะเห็นใบหน้าของฉันในตอนนี้ เธอเป็นเหมือนดั่งพี่สาวสำหรับฉัน และใบหน้าของฉันตอนนี้มันเป็นสีแดงที่ยิ่งกว่าพระอาทิตย์ตอนตกดิน พร้อมกับน้ำตาแห่งความสุขที่ไหลอาบ 2 แก้ม

 

◇ ◇ ◇

 

(มุมมองของฮาโรลด์)

 

 

[ ทำไมไม่พูดคุยกันให้นานกว่านี้หน่อยล่ะ พวกนายทั้งคู่ไม่เจอหน้ากันตั้งนานไม่ใช่หรอ ? รู้รึปล่าวผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายเสร็จ(การพูดคุย)เร็วหรอกนะ ? ]

 

คนที่กำลังพูดนั้นคือโคดี้ คนบงการที่หลอกผมเข้าไปในห้องที่เอริกะกำลังรออยู่ 

ไอ้หมอนี่ แกพูดออกมาหน้าตาเฉยไม่สำนึกผิดซักนิด ! 

พูดตามตรง ผมเองก็มีอายุรวมราวๆโคดี้ แต่เพราะร่างกายของผมยังคงเป็นเด็ก ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องตลกที่คนโดนอย่างผมจะขำออกหรอกนะ ! 

ผมพยายามที่จะเตะไปยังหว่างขาของเขา แต่ช่างน่าเสียดายที่เขาป้องกันไว้ได้

 

[ ไอ้งี่เง่า แกคิดว่าเรื่องนี้เป็นการช่วยข้าเรอะ ? หยุดทำอะไรที่ไม่จำเป็นซักที ]

[ เฮ้ พวกเราไม่ใด้พาพวกเธอเข้ามาที่นี่ด้วยวิธีปกตินะ รู้รึปล่าว ? นี่มันก็ 2 สัปดาห์แล้ว ทุกๆวัน เธอจะมาที่หน้าประตูและขอร้องที่จะเข้ามาพบกับนายนะ มันช่วยไม่ได้ที่จะปล่อยเธอไว้แบบนั้น ]

 

ตลอด 2 สัปดาห์ตั้งแต่คณะสำรวจกลับมาถึงที่เมืองหลวง มันคงจะพูดได้เต็มปากว่าทุกๆอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และอีกเรื่องน่าตกใจมากคือเอริกะที่มาพบกับผมเพื่อกล่าวคำขอบคุณ

หากทุกๆคนในโลกเป็นเหมือนเอริกะ โลกใบนี้คงเต็มไปผู้คนที่มีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

และคงเป็นโลกที่โอกาสการเสียชีวิตของชายที่ชื่อฮาโรลด์ สโตร์กจะพุ่งขึ้นทะลุหลอด

 

[ ข้าน่ะ ทนเห็นเอริกะจังผู้อ่อนโยนแบบนั้นไม่ได้เลย … ]

[ หุบปาก ข้อแรก ข้าถูกกักบริเวณอยู่ เพราะงั้น ข้าจึงไม่ควรที่จะได้พบเธอ อย่าพาข้าออกมาอีก ]

[ นั้นก็จริง แต่ว่าผลการตัดสินของนายจะออกมาแล้วในวันนี้แล้ว ]

[ … ทำไมข้าไม่เห็นจะรู้เรื่องพวกนั้นเลย ]

[ ก็ ข้าก็เพิ่งจะบอกไปเมื่อซักครู่ไง- ] 

 

ในจังหวะที่ผมกระโดดถีบยอดหน้าไอ้หมอนี่อีกครั้ง แต่ว่าไอ้หมอนี่ก็ป้องกันมันได้เหมือนดั่งเคย 

ผมได้แต่เดาะลิ้นด้วยความเจ็บใจ

 

[ หัดพูดเรื่องสำคัญให้เร็วกว่านี่สิฟระ งี่เง่า ]

[ เอาน่าๆ ไม่ต้องกังวลไป ข้าอธิบายทุกอย่างกับที่สภาอัศวินไปแล้ว ว่านายจัดการกองทัพของพวกจักรวรรดิด้วยตัวคนเดียว และยังเอาชนะระดับผู้บัญญาการของจักรวรรดิได้อีกด้วย เพราะเช่นนั้น จึงทำให้พวกเราลดการสูญเสียไปได้อย่างมาก ดังนั้นเพื่อเห็นแก่ความดีที่นายได้ทำ- ]

 

แทนที่จะถูกลงโทษ นายน่าจะได้รับรางวัลมากกว่านะ ? โคดี้เสริมออกมาอย่างร่าเริง

แต่ในความเป็นจริง คำพูดเหล่านี้ผมรู้สึกราวกับว่ามันเป็นการปักธง!

 

( ไอ้เวร อย่าพยายามปักธงอะไรใหม่ๆหลังจากที่ผมพยายามแทบตายเพื่อจะหักธงบ้าๆพวกนี้ซักอัน )

 

และในตอนที่ผมกำลังพูดกับตัวเองภายในหัว สถิติใหม่ที่ธงของผมถูกปักขึ้นก็ถูกทำลาย

นั้นคือเสียงที่เรียกมาจากด้านหลังของผม

 

[ เฮ้ ไอ้หนู! ]

 

… ไอ้หมอนี่ ใครวะ ? 

 

[ ข้ามาจากสภาอัศวิน และนายคือฮาโรลด์ สโตร์ก ถูกต้องใช่มั้ย ? ]

[ ใช่ ? ]

[… ข้าได้รับแจ้งมาว่านายถูกกักบริเวณอยู่ใม่ใช่หรอ ? ]

[ ข้ามาที่นี่เพียงแค่ชั่วคราว ข้ากำลังจะกลับไปที่กักบริเวณทันทีตอนนี้ ]

[ ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นแล้ว ]

 

ชายที่มาจากสภาอัศวินบอกกับผมให้ผมอยู่ที่นี่ต่อ

จากนั้นเขาก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกม้วนไว้ในกระบอกแล้วผูกด้วยเชือกออกมาจากกระเป๋าของเขา เขาเปิดมันออกจึงทำให้ผมเห็นข้อความด้านในโดยง่าย จากนั้นก็เริ่มที่จะอ่านเนื้อหาให้ผมฟัง

สิ่งที่เขียนไว้ในนั้นมีเพียงสถานการณ์ที่สิ้นหวัง

 

[[ ฮาโรลด์ สโตร์ก พบว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่จะเป็นสายลับจากอาณาจักรอื่น และเนื่องจากที่ทราบข้อมูลว่าจักรวรรดิจะเข้าโจมตีกองอัศวิน แต่กลับเพิกเฉยไม่แจ้งข้อมูลเหล่านี้ จึงทำให้มีอัศวินจำนวนมากต้องเสียชีวิตทั้งๆที่มีโอกาสจะช่วยเหลือพวกเขาได้ ดังนั้น บุคคลนี้จึงถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการตัดคอ ]]

[ นี่คือการตัดสินอย่างเป็นทางการของสภาอัศวิน กำหนดเวลาคือ 1 สัปดาห์หลังจากนี้ จนกว่าจะถึงตอนนั้น นายจะต้องถูกควบคุมตัวในห้องขังชั้นใต้ดินของ สภาอัศวิน ตามมา ]

 

หลังจากที่ผมเพิ่งจะหักธงและเอาตัวรอดจากประสบการณ์เฉียดตายครั้งใหญ่มาได้ มันก็มีธงตายที่ขนาดใหญ่เก่ากำลังรอผมอยู่

 

———————

ปล. จบบริบูรณ์ ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามกันมา ไม่คิดไม่ฝันว่าจะแปลจนจบได้(ฮือๆ) ตอนจบกลับ bad ending ซะงั้นฮาโรลด์โดนประหาร เอริกะเป็นหม้าย แต่ก็ยังดี ที่สุดท้ายเอริกะไปเข้าตี้กับไรเนอร์ เลยเป็นดั่งเนื้อเรื่องเกมส์ และช่วยโลกในสำเร็จ happy ending 
ปล1. ใช่ที่ไหนล่ะ จบเล่ม 2 แบบค้างๆ รอต่อเล่ม 3 กันนะ  : ) 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด