My Death Flags Show No Sign of Ending 24

Now you are reading My Death Flags Show No Sign of Ending Chapter 24 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในเมื่อฮาโรลด์ตัดสินใจออกไปโดยที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วน ข่าวลือที่ว่าเขาเป็นพวกคลั่งการต่อสู้ที่กำลังแพร่สะพัดในดินแดนจึงเป็นเรื่องที่ไม่ผิดนัก ถึงแม้งานประลองนี้จะอันตรายน้อยกว่ามาก แต่ว่าจุดมุ่งหมายที่จะหาประสบการณ์การต่อสู้จริงนั้นไม่เปลี่ยนแปลง นั้นเพราะถ้าหากเขาไม่ทำเช่นนี้ การอยู่รอดต่อไปในอนาคตคงเป็นไปไม่ได้

 

[ ไงก็ตาม ร่างกายของเธอโอเคแน่หรอ ? ข้าได้ยินมาว่าเธอต่อสู้กับเจ้ายักฮอร์นเฮดมาในการออกสำรวจล่าสุด ? ]

[ เรื่องนั้นอีกแล้ว ]

 

อาจเพราะทาสุคุเอาแต่ถามคำถามเดิมๆซ้ำๆทุกครั้งที่พวกเขาพบกันหลังจากที่ฮาโรลด์กลับมาจากการสำรวจ น้ำเสียงของฮาโรลด์แสดงออกถึงความเบื่อหนายอย่างชัดเจน

แต่สำหรับทาสุคุ หรือทางสุเมรากิ ครั้งเหตุการณ์ในอดีตตอนนั้นพวกเขาคิดว่าฮาโรลด์กลับมาจากการสำรวจเพียงเพราะแค่มาเยี่ยม แต่ทว่า เขากลับได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะว่าสถานการณ์เคยออกมาเช่นนี้ ถึงแม้พวกทาสุคุจะทราบดีว่าตัวของฮาโรลด์นั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่ว่าพวกเขาก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้

ยิ่งกว่านั้น ในตอนนั้นฮาโรลด์กลับกล่าวออกมาว่ามันเป็นเพียงแค่รอยขีดข่วนเล็กๆ ทั้งๆที่แผลแบบนั้นมันสาหัสชัดๆ ยิ่งทำให้พวกทาสุคุกังวลยิ่งขึ้นไปอีก

โดยเฉพาะเอริกะ ถึงแม้ว่าภายนอกของเธอจะไม่แสดงความกังวลใดๆในตัวของฮาโรลด์ออกมามากนักนอกเสียจากพูดออกมาว่า “ในเมื่อท่านฮาโรลด์ตัดสินใจออกมาแล้วก็. . .”  แต่ว่าเธอกลับเริ่มฝึกฝนเวทมนตร์รักษาอย่างจริงจังตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เหมือนกับว่าเธอไม่สามารถนิ่งดูดายในเรื่องนี้ได้

ตั้งแต่เอริกะเริ่มต้นฝึกฝนเวทมนตร์รักษาอย่างจริงจัง หลังจากนั้นตัวของฮาโรลด์เองก็ไม่เคยได้รับบาดเจ็บใดๆอีกเลย และเธอเองก็ไม่เคยได้ใช้เวทมนตร์รักษาอาการบาดเจ็บใดๆแก่ฮาโรลด์ด้วยเช่นกัน แต่กระนั้น ความทุ่มเทของเอริกะที่มีต่อฮาโรลด์ที่แสดงออกมาให้เห็นจากการฝึกฝนเวทมนตร์รักษาอย่างขยันขันแข็งทุกๆวันเป็นเรื่องจริง ถึงแม้ว่าฮาโรลด์จะไม่เคยตระหนักถึงเรื่องนี้เลยก็เถอะ

 

[ นี่นายคิดว่าข้าคนนี้จะแพ้ให้กับไอ้แมลงวันที่มีดีแต่ตัวใหญ่นั้นอะนะ ? คิดให้ดีก่อนที่จะพูดดีกว่านะ ]

[ กล่าวมาออกด้วยอายุเพียงเท่านี้มันก็น่าตกใจเหมือนกันนะ ฮาโรลด์คุง ]

[  แม้แต่ลูกชายของนายเองก็ทำได้ ]

 

อิสุกิ ที่ตอนนี้พึ่งจะอายุ 16 หมาดๆ เขาก็สามารถเอาชนะฮอร์นเฮดได้อย่างง่ายๆเช่นกัน เขาเป็นเพียงคนเดียวที่มีความสามารถทัดเทียมกับฮาโรลด์ในช่วงอายุใกล้ๆกัน

เช่นเดียวกันกับอิสุกิที่มองว่าฮาโรลด์ทัดเทียมกับตน ดังนั้นพวกเขามักจะแข่งขันอะไรกันเทือกนี้อยู่บ่อยๆ

ถึงแม้ว่าอิสุกิพึ่งจะเคยได้รับการยืนยันว่าเป็นพี่ชายของเอริกะ แม้ว่าในเกมส์จะมีการกล่าวถึงอยู่บ้างแต่มันก็ไม่มีแม้แต่ชื่อปรากฎ แต่คงต้องยอมรับความจริงที่ว่าอิสุกินั้นแข็งแกร่งมาก และเป็นไปได้ว่า ยังมีคนที่น่าเกรงขามอีกมากมายในโลกนี้ที่ตัวของฮาโรลด์เองนั้นไม่รู้จัก

มันถือว่าเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร ความรู้จากในเกมส์ที่เขารับรู้มาอาจไม่สามารถสร้างข้อได้เปรียบมากนักเหมือนกับก่อนหน้านี้

เมื่อเขาคำนึงถึงเรื่องนี้ ฮาโรลด์คิดว่าเขาทำถูกแล้วที่ตัดสินใจเพิ่มความสัมพันธ์กับทางสุเมรากิ แม้ว่ามันจะทำให้เขาเสี่ยงเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้ว่าปัญหาหลักจริงๆที่แก้ไม่ตกคือ ความสัมพันธ์ของเขากับเอริกะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่พัฒนาอะไรเพิ่มเติมเลยจาก 3 ปีก่อน เขาก็แสดงออกอย่างชัดเจนที่จะรักษาระยะห่าง และดำเนินการสนทนาเมื่อจำเป็นเท่านั้น ซึ่งไม่มีเหตุการณ์ใดๆที่คู่หมั้นปกติควรจะทำเลยซักนิด

 

( หวังว่าผมจะไม่เผลอไปปักธงอะไรแปลกๆหรอกนะ ? )

 

หลายๆสิ่งดำเนินมาอย่างราบลื่นจนเขาอยากจะหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจ แม้ว่าเขาจะยังประมาทไม่ได้เกี่ยวกับสถานการณ์หมอกพิษที่ยังแพร่ขยายอยู่ในดินแดนสุเมรากิ แต่เรื่องเหล่านี้จำเป็นจะต้องถูกแก้ไขโดยเหล่าตัวเอกของเกมส์ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ แต่ถึงกระนั้น เพราะยาต้านพิษที่เขาแนะนำและการปลูกพืชแบบ LP ทำให้สถานการณ์โดยรวมของสุเมรากิดีขึ้นมาก

ดั่งคำพูดที่ว่า ความประมาทคือศัตรูตัวฉกาจที่สำคัญที่สุด เมื่อมาคิดๆถึงเรื่องในอนาคต จะมีปัญหากองโตที่รอจะถาโถมเข้ามาในอีก 5 ปีหลังจากนี้ “ผมจะต้องทำลายธงตายเหล่านั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” เมื่อคิดเช่นนั้น ความมุ่งมั้นก่อตัวขึ้นในใจของเขา 

 

 

ที่ด้านบนของสนามรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ทำจากหินความกว้างราวๆ 20 เมตร มีคน 2 คนกำลังดวลดาบกันอยู่ หนึ่งในนั้นคือเด็กชายที่อยู่ในช่วงวัยเปลี่ยนผ่านขึ้นมาเป็นวัยหนุ่ม ด้วยส่วนสูงราวๆ 180 ซม. มีผมสีดำ แต่ถ้าหากดูดีๆจะเหมือนมีสีน้ำตาลอ่อนแซมๆ ด้วยใบหน้าที่ดูใจดีซึ่งเข้ากับคำว่าวัยรุ่นที่อารมณ์ดีได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ว่าตอนนี้กลับมีสีหน้าเคร่งขรึม

เพราะคู่ต่อสู้ที่เขาดวลด้วยนั้นคือเด็กผู้ชายที่มีความสูงราวๆ 160 ชม. ซึ่งดูเตี้ยกว่าเด็กวัยรุ่นคนนั้น ด้วยดวงตาสีแดงเข้มที่ดูราวกับเป็นจุดเด่น เส้นผมสีดำที่ปลิวไสวขณะเคลื่อนไหวไปรอบๆ มันดำเข้มยิ่งกว่าสีผมของหนุ่มวัยรุ่นคนนั้นเสียอีก พวกเขาทั้งสองเข้าปะทะอย่างดุเดือดด้วยดวงตาที่เย็นเฉียบ

 

และเมื่อดาบของทั้งสองแยกจากกัน และเริ่มต้นบทสนทนา

 

ทั้ง 2 ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนสนิทกัน และมักจะใช้วิธีดวลดาบเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายเมื่อพวกเขากลับมาพบกันอีกครั้ง

 

[แฮก แฮก. . .ถ้าเป็นแบบนี้ ดูเหมือนว่านายน่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วสำหรับการเข้าร่วมการแข่งขัน ]

 

อิสุกิ ที่ตอนนี้ถอยออกมาจากระยะดาบของอีกฝ่าย เขาลดดาบของเขาลงขณะจัดการกับลมหายใจของตน

 

[ ข้าไม่ได้อยากได้ความเป็นห่วงจากแกซักหน่อย ]

[ เฉพาะเรื่องน้ำหนักของไอ้ดาบปลอม แต่ก็ดีที่นายไม่มีปัญหาอะไรกับการรับมือกับไอ้ดาบปลอมเนี้ย ]

[ อย่ามาพูดให้ขำ ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดไอ้ดาบปลอมเนี้ยจะหนักจนทำให้ข้าวเหวี่ยงมันไม่ไหว ]

[ ถ้าเกี่ยวกับเรื่องนั้น ชั้นกังวลเพียงแค่นายจะอดใจไหวรึปล่าวแค่นั้นแหละ ]

 

“เพราะในรุ่นเดียวกันกับฮาโรลด์แทบไม่มีใครที่จะตามความเร็วดาบของเขาได้ทัน” นั้นคือสิ่งที่อิสุกิกังวล ถ้าจะให้พูดคือ มันจะไปหาคู่ต่อสู้แบบนั้นที่ไหนจะพอสู้กับฮาโรลด์ได้ ก็นะ ดูเหมือนมันจะเป็นความกังวลที่ไม่จำเป็นเท่าไหร่

 

[ เอาเถอะ ถ้างั้นวันนี้พอแค่นี้ เพราะพวกเรามีแผนที่จะออกเดินทางเช้าวันพรุ่งนี้ ]

( รถม้าอีกแล้วสินะ เห้อ มันช่วยไม่ได้เพราะว่าเดลฟิตอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่ผมอยากจะนั่งเรือเหาะมากกว่า )

 

อะไรอย่างเรือเหาะมีปรากฎอยู่ภายในเกมส์เหมือนกัน มันถูกสร้างมากจากไม้เหมือนดั่งเรือทั่วๆไป แต่ว่ามันกลับบินไปในอากาศซึ่งแตกต่างจากเรือที่กะลาสีแล่นเรือกันในน้ำ ตัวของเรือเหาะจะมีปีกที่ยื่นออกมาจากทั้ง 2 ฝั่งของตัวเรือ และมีใบพัดขนาดใหญ่ติดอยู่ที่เสากระโดงเรือและท้ายเรือ

มันเป็นยานพาหนะที่แสดงออกถึงจินตนาการในโลกแฟนตาซีแห่งนี้ และในเวลาเดียวกัน ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงคิดว่าไอ้ของแบบนั้นมันจะบินขึ้นได้จริงๆ

จริงๆก็ เป็นเพราะพลังจากหินเวทมนตร์ที่ถูกเรียกว่า [[คริสตัล]] ซึ่งมันหาได้จากมอนเตอร์เมื่อพวกมันถูกกำจัด มันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถอธิบายด้วยวิทยาศาตร์หรือฟิสิกส์ ไงก็ตาม คริสตัลยังสามารถไปใช้ร่วมกับอื่นๆได้เช่นกัน เช่นการเสริมพลังในสร้างอาวุธหรือชุดเกราะ

 

[ อ่า ใช่ นายอยากจะเปลี่ยนชื่อที่ใช้ในตอนสมัครเข้าร่วมการประลองรึปล่าว ? ถึงแม้ผู้เข้าแข่งขันเกือบทั้งหมดจะเป็นสามัญชนธรรมดา แต่ชั้นคิดว่า ท่านพ่อท่านแม่ของนายคงไม่ปลื้มแน่ถ้าหากรู้ว่านายมาปรากฎตัวในสถานที่เช่นนี้ ]

[  ถึงพวกท่านรู้พวกท่านคงพูดประมาณว่า “ลูกทำได้ดีมากในการจัดการพวกชั้นต่ำพวกนั้น” ]

 

ถึงมันจะไม่เป็นปฎิกิริยาดั่งที่คาดเอาไว้ 

ในกรณีนี้ ถ้าหากเขาเลือกที่จะใช้ชื่อปลอมในการแข่งขัน ถ้าหากชื่อผู้ชนะการแข่งขันถึงหูพ่อแม่ของเขา มันก็ไม่เป็นปัญหาอะไร

 

[ เอาเถอะ จะใช้นามแฝงก็ได้ ]

[ ถ้างั้น ชั้นจะคิดให้ระหว่างที่เราเดินทาง ]

 

หลังจากนั้น ฮาโรลด์ก็ได้ขึ้นไปบนเวทีการประลองภายใต้ชื่อ [ คุณลอร์ด ] มันจึงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยในเซ้นต์การตั้งชื่อของอิสุกิ ซึ่งฮาโรลด์ไม่รู้เลยว่าจะมีอนาคตเช่นนี้กำลังรอคอยเขาอยู่ แต่สิ่งที่ทุกข์ทรมานจิตใจของเขายังไม่หมดเพียงเท่านี้

 

ในเย็นวันที่พวกเขามาถึงที่เดลฟิต 2 – 3 วันหลังจากออกเดินทาง ซึ่งพรุ่งนี้จะเป็นวันเริ่มต้นการประลอง หลังจากที่พวกเขาเช็คอินกับทางโรงแรม เมื่อฮาโรลด์เดินทางไปยังร้านอาหารที่อิสุกิเป็นคนจัดการจองเตรียมไว้ ไม่รู้ว่าทำไมเอริกะถึงอยู่ที่นั้น 

ร่างกายของเขาถึงกับแข็งทื่อโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

[ โทษที เอริกะ สำหรับที่พี่มาสาย ]

 

โดยไม่สนใจว่าฮาโรลด์จะคิดอะไรอยู่ อิสุกิเดินไปนั่งที่โต๊ะที่เอริกะกำลังนั่งอยู่ ฮาโรลด์ได้แต่จับจ้องไปหาทั้ง 2 เพื่อจะขอคำอธิบาย แต่ทว่าเอริกะกลับเร็วกว่านั้น และถามกับอิสุกิ

 

[ ทะ- ท่านพี่คะ ดิฉันได้ยินว่าจะมีแค่พวกเรา 2 คน ที่จะทานอาหารด้วยกันไม่ใช่หรอคะ ? ]

[ หืม ไม่ใช่ว่าตอนนั้นพี่ชวนน้องว่า “ไปกินข้าวด้วยกันนานๆครั้งเป็นไง” ไม่ใช่หรอ ? หรือว่าน้องเข้าใจผิดไปเอง ]

[ . . . เป็นเช่นเองหรือคะ ]

 

เมื่อตกหลุมพลางของอิสุกิ เอริกะได้แต่บ่นอยู่ภายในใจที่ทำให้เธอเข้าใจผิด

 

[ หรือว่าการที่พี่อยู่ที่นี่มันจะเป็น ก ข ค งั้นชั้นกลับก็ได้นะ ? ]

[ อยู่นี่แหละ ] [ ได้โปรดอยู่ด้วยกันค่ะ ]

 

ฮาโรลด์และเอริกะแทบจะกล่าวออกมาพร้อมกัน

เพราะถ้าหากอิสุกิจากไป ฮาโรลด์ก็จำเป็นต้องทนอาหารร่วมกับเอริกะ 2 ต่อ 2 ถ้าจะให้พูด มันเหมือนกับเขากำลังตกนรก

มันไม่ใช่ว่าเอริกะจะไม่อยากที่จะทานอาหาร 2 ต่อ 2 กับฮาโรลด์หรอกนะ แต่เพราะเธอไม่อยากที่จะให้ความรู้สึกของเธอเป็นอุปสรรค์สำหรับฮาโรลด์ เพราะเธอรู้ว่าตัวของฮาโรลด์เองนั้นที่พยายามรักษาระยะห่างจากเธอ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการที่เธอมานั่งอยู่ที่จุดนี้เป็นเพราะกับดักของพี่ชาย แต่การที่เธอจะลุกจากไปหลังจากที่เธอได้นั่งลงที่โต๊ะแล้ว มันคงไม่ใช้มารยาทที่ดีนัก อาจเพราะอิสุกิรู้ถึงนิสัยส่วนตัวของน้องสาวของตนดี สีหน้าของเขาที่แสดงออกมาราวกับบ่งบอกว่า” ชั้นทำสำเร็จ “

 

[ . . . .ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่เดลฟิตได้ ? ]

[ นั้นเพราะ มันมีโอกาสที่นายจะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ในการประลอง ชั้นเลยคิดว่าน่าจะหาใครซักคนที่ที่สามารถใช้เวทมนตร์รักษาได้ แต่ทว่าในคฤหาสน์กลับไม่มีใครว่างเลย ดังนั้นชั้นเลยขอร้องให้เอริกะมาด้วย ]

 

มันยังดูน่าสงสัยว่านี่จะเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญจริงๆหรอ แต่พอมาดูๆแล้วเหมือนว่าตัวเอริกะเองก็น่าจะถูกหลอกมาด้วยเหมือนกัน มันจึงช่วยไม่ได้ที่เหตุการณ์เหล่านี้ถูกจัดฉากขึ้นโดยเจตนาของอิสุกิ

 

[ ข้าไม่มีทางบาดเจ็บได้หรอก ]

[ เอาน่าๆ ดั่งสุภาษิตที่ว่า “ เหลือดีกว่าขาด มีไว้ก็ไม่เสียหาย “ นั้นคือเหตุผลที่ว่าทำไมชั้นถึงพาเอริกะมากลับพวกเราด้วย ]

[ ไม่ใช่ว่าดิฉันควรจะไม่ติดต่อกับท่านฮาโรลด์นอกเสียจากเรื่องที่จำเป็นจริงหรอคะ ? ]

[ เอาน่าๆ ชั้นคิดว่าพบหน้ากันบ้างเป็นเรื่องจำเป็นนะ ไม่ต้องเขินกันหรอกนะ ? ]

 

มันไม่ใช่เพราะอิสุกิพูดอะไรที่มันฟังดูแปลกๆมาหรอก ดังนั้นพวกเขาจึงบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในท้ายที่สุด ด้วยสถานการณ์ที่ออกมาเป็นเช่นนี้ราวกับพวกเขาทั้ง 2 ถูกอิสุกิลักพาตัวมา ดังนั้นพวกเขาทั้ง 3 จึงนั่งล้อมวงกันที่โต๊ะ มันไม่มีบทสนทนาใดๆออกมาระหว่างตัวของฮาโรลด์และเอริกะ ถ้าหากไม่มีอิสุกิคอยเป็นคนกลางในการดำเนินบทสนทนา เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะปล่อยให้มันเงียบจนจบการรับประทานอาหารแน่ๆ ดังนั้นเหตุการณ์ที่ดูเหมือนบทลงโทษสำหรับฮาโรลด์ในครั้งนี้จะยาวต่อไปอีกราว 1 ชม. 

และเมื่อพวกเขาทานอาหารกันจนเสร็จ ความอ่อนล้าทางจิตใจของฮาโรลด์ได้มาถึงจุดสูงสุด ด้วยฝีเท้าที่ดูเหมือนอารมณ์บูด ฮาโรลด์เดินทางกลับห้องพักของเขาด้วยตนเอง และเอริกะที่เห็นเช่นนั้นก็ถอยหลังออกพลางรู้สึกขอโทษภายในใจ

ถึงแม้ว่าเธออยากจะดุอิสุกิ อาจเพราะเขารู้สึกได้ อิสุกิจึงกลับพร้อมกับฮาโรลด์และไม่เจอพี่ชายตัวแสบอีก ถึงเธอเองก็จะรู้สึกดีใจที่แผนของพี่ชายเธอจะสามารถทำให้เธอได้อยู่ร่วมกับฮาโรลด์หลังจากที่ทั้ง 2 ไม่ได้พบหน้ากันมาเป็นเวลานาน แต่ว่าแผนจริงๆคือ เอริกะไม่ต้องการให้ฮาโรลด์รับรู้การคงอยู่ของเธอที่เดลฟิตตลอดจนจบการแข่งกันการต่อสู้นอกเสียจากฮาโรลด์จะได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่กำลังคิดว่าจะดุอิสุกิหนักๆในการพบหน้ากันครั้งถัดไปเมื่อทั้ง 2 อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง เอริกะก็กลับมายังห้องพักของเธอ แม้ว่าเธอเองก็พักอาศัยอยู่ในโรงแรมเดียวกับฮาโรลด์และอิสุกิ แต่เพราะไม่อยากพบหน้ากันโดยไม่จำเป็นดังนั้น เธอจึงพักคนละชั้นกับทั้ง 2 คน

เมื่อเธอเปิดประตูห้องของเธอ จูโนะก็กล่าวทักทายเอริกะด้วยน้ำเสียงที่ยืดยาวดั่งเช่นเคย

 

[ ยินดีต้อนรับกลับค่าาา~ ท่านเอริกะ~ ดูเหมือนท่านจะดูเหนื่อยๆนะค้าา~ ] 

[ เธอไม่ได้ดูอยู่ด้วยหรอ ? ]

[  ถึงแม้ว่าดิชั้นจะเป็นผู้ดูแลของคุณหนู~ แต่ว่าทั้งท่านอิสุกิและท่านฮาโรลด์ต่างแข็งแกร่งกว่าดิชั้น~ ดิชั้นเลยไม่รู้ว่ามันจะมีความหมายอะไรมั้ยในการทำหน้าที่ดูแลคุณหนูในครั้งนี้~ ] 

 

แม้ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอกว่าจะไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับการทำหน้าที่ผู้ดูแล แต่ว่า เอริกะเองก็เข้าใจในสิ่งที่จูโนะพยายามจะสื่อ เพราะทั้ง 2 มักจะดวลกันอยู่บ่อยๆ จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะได้ชมการดวลของทั้ง 2 แต่ว่าพักหลังๆมานี้ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นในการดวลของทั้ง 2 เพราะพวกเขาเร็วขึ้นกันอย่างมากจนตาของเธอไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวเหล่านั้นได้ทันอีกต่อไป

โดยเฉพาะฮาโรลด์ ที่ตอนนี้เขาเร็วมากๆจนใครก็ตามที่ได้เห็นคงนึกว่าฮาโรลด์นั้นเทเลพอตได้ ซึ่งตัวของอิสุกิเองก็ผิดปกติเช่นกันที่ยังอุส่ารับมือได้หน้าตาเฉย

 

[ มาคิดๆดูแล้ว ~ คุณหนูได้พูกคุยเกี่ยวกับเรื่องของท่านคลอเล็ตไหมค้าา~? ]

 

คลอเล็ต เอ็มเมอร์เรล

 

เด็กสาวผู้ที่ควรจะถูกสังหารไปพร้อมกับแม่ของเธอด้วยเหตุผลบางประการเธอกลับมาอยู่ที่เดลฟิต ถ้าหากคิดดูดีๆเกี่ยวกับช่วงเวลานี้ บางทีเธออาจจะแค่มาที่เมืองนี้เมื่อมาชมการแข่งขันต่อสู้

 

 

[ ไม่ค่ะ ดิฉันปกปิดมันไว้ค่ะ ]

[ ก็น้าา~ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่คุณหนูจะบอกเรื่องนี้กับท่านฮาโรลด์ ~ ]

[ ใช่ค่ะ ตั้งแต่แรกพวกเราไม่ควรที่จะทราบอยู่แล้วว่าคลอเล็ตยังมีชีวิตอยู่ ]

 

ถ้าหากฮาโรลด์รู้ตัวว่าทางสุเมรากิทราบความจริงเกี่ยวกับคลอเล็ตและแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่แล้วล่ะก็ มันจะทำให้ตัวของฮาโรลด์เกิดความสงสัยในตัวของสุเมรากิโดยไม่จำเป็น

ครอบครัวเอ็มเมอร์เรลถูกปกป้องโดยฮาโรลด์แม้ว่าเรื่องนี้จะทำให้ชื่อเสียงของเขาตกต่ำ เอริกะในตอนนี้ก็ไม่คิดที่จะอยากเหยียบย้ำความตั้งใจของฮาโรลด์ เธอไม่มีความตั้งใจใดๆที่จะคาดคั้นความจริงจากฮาโรลด์นอกเสียจากเขาจะยอมเปิดเผยมันออกมาด้วยตัวเองซักวันหนึ่ง

แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ นั้นคือเหตุผลว่าทำไมที่เอริกะจึงพูดว่า “ถ้าหากพวกเราได้มาพบกันอีกครั้ง เธอหวังว่าพวกเราจะมาเป็นเพื่อนกัน”

เอริกะรู้สึกได้หลังจากที่เธอเห็นคลอเล็ตด้วยตาของเธอเอง เธอคนนั้นคงไม่สามารถเป็นคนๆนั้นได้ คนที่จะคอยซับพอตฮาโรลด์ คลอเล็ตเองก็คงทราบความจริงข้อนี้ดีที่ว่าท่านฮาโรลด์นั้นเข้มแข็งและใจดีขนาดไหน นั้นเพราะตัวเธอเองที่ได้รับการช่วยไว้จากเขา และยังคงได้รับการปกป้องจากเขา

ถ้าหากพวกเธอทั้งคู่พบกันอีกครั้ง ในตอนนั้นมันจะต้องเป็นเวลาที่ฮาโรลด์ยอมพูดเกี่ยวกับความลับนี้ เอริกะคิดว่าเมื่อถึงเวลานั้น เธอเองก็อยากจะเป็นเพื่อนกับคลอเล็ต พวกเธอทั้งคู่จะต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแน่ๆ

 

[ วันนี้ดิฉันคิดว่าจะเข้านอนแล้วค่ะ ดังนั้น จูโนะกลับไปพักที่ห้องของเธอได้เลยค่ะ ]

[ เข้าใจแล้วค่า~ ฝันดีนะค้า~ ท่านเอริกะ ]

[ ฝันดีค่ะ ]

 

หลังจากที่จูโนะออกจากห้องไป เอริกะเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนของเธอ และทันทีที่เธอดับไฟภายในห้องของเธอ เธอก็ทิ้งตัวลงที่เตียง มันแตกต่างจากฟูกทั่วไปที่เธอใช้นอนอยู่เป็นประจำ มันเป็นความรู้สึกของเตียงสปริงที่ตัวเธอนั้นไม่คุ้ยเคย

หากเทียบเตียงนี้กับของที่คฤหาสน์สโตร์ก เตียงนี้มันนอนไม่สบายตัวเท่าไหร่นัก

เนื่องจากเตียงที่ทำให้เธอหลับไม่ค่อยสนิท ความคิดก่อนหน้านี้ก็แล่นเข้ามาอยู่ในหัวของเธอ ถ้าหากพวกเธอกลายมาเป็นเพื่อนกันหลังจากที่เธอและคลอเล็ตพบกันอีกครั้ง ในตอนนั้น บางที .. คลอเล็ตอาจจะหลุมรักฮาโรลด์

ถึงแม้ว่าเธอและฮาโรลด์จะเป็นคู่หมั้นกัน แต่มันก็เป็นเพียงชั่วคราว เธอรู้ดีว่าตัวของฮาโรลด์เองมีแผนที่จะยกเลิกการหมั้นนี้ และถ้าหากมันเกิดขึ้น ในตอนนั้นคลอเล็ตอาจจะกลายมาเป็นคู่แข่งทางความรักของเธอก็เป็นได้

ปกติแล้วมันควรจะรู้สึกหึงหวง แต่ช่างน่าแปลก หัวใจของเอริกะกลับสงบ มันไม่ใช่เพราะเธอคิดว่าเธอได้เปรียบอะไรในศึกแห่งความรักนี้

“ถึงคลอเล็ตจะกลายมาเป็นคู่แข่ง มันก็ไม่เป็นไร” นั้นคือสิ่งที่เธอคิด ในช่วง2 – 3 ปีก่อนหน้านี้ เอริกะรู้ตัวดีว่าตัวเธอนั้นโหยหาตัวของฮาโรลด์มากแค่ไหน ถ้าหากเป็นไปได้ ตัวของเธอเองก็อยากให้รักแรกของเธอได้รับการถูกเติมเต็ม

แต่สำหรับเอริกะ ความรู้สึกรักนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่ปรารถนาเหนือสิ่งอื่นใดคือความสุขของฮาโรลด์ นั้นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเธออยากให้ตัวของฮาโรลด์เป็นคนเลือกด้วยตัวของเขาเอง ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะไม่ใช่เธอก็ตาม ถึงแม้ว่าเธอจะถูกปฎิเสธในท้ายที่สุด แน่นอนว่าเธอจะต้องเสียใจและร้องไห้ออกมา นั้นเพราะความรักที่เธอมีต่อฮาโรลด์นั้นคือของจริง

แต่ว่า ถ้าหากฮาโรลด์แต่งงานกับคลอเล็ตหรือใครคนอื่น เธอก็ต้องการที่จะอวยพรทั้งคู่อย่างสุดหัวใจด้วยรอยยิ้มที่สดใสของเธอ นั้นคือความรู้สึกจริงๆของเอริกะ

นั้นเพราะการเป็นคู่ชีวิตของฮาโรลด์ มันไม่ใช่ทางเดียวที่จะสามารถซับพอตเขาได้ซักหน่อย

 

(ดิฉันเฝ้ารอการกลับมาพบกันอีกครั้งอยู่นะคะ)

 

ขณะที่อาบแสงจันทร์ที่ทอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนให้แก่เพื่อนในอนาคตของเธอ แสงจันทร์ที่เจิดจ้า มันทำให้เธอนึกถึงผมสีบลอนด์สดใสของคลอเล็ต ในขณะที่คิดอยู่เช่นนั้น เอริกะก็หลับตาของเธอลงและเข้าสู่ห้วงนิทรา

——————————

TL : เอริกะะะะะะะะะะะะะะะะ หนูคือนางเอกกกกกกกเพียงคนเดียววววววว T T

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด